ความคิดเห็นที่ 1 ปาดดดด คับ รอกินหัวปลาต้มเผือก รำลึกวัยเด็ก ^ ^ จากคุณ : Ba!! (เพราะหัวใจมีดวงเดียว!!) - [ 12 ก.ค. 50 21:53:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากคุณ : @ - ENYA - @ - [ 12 ก.ค. 50 22:02:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ่าว... พ่อครัวหายซะงั้น ^ ^ งั้นเดี๋ยวผมกลับไปซ้ำฮื่อแซกระทู้ก่อนหน้าอีกรอบก่อนนะคับ ไม่ได้กินมานานมาก เห็นแล้วก้อนึกถึง อยากกินมากเลย ไปเรียกพ่อมาดูด้วย ให้พ่อพาไปกิน 555 จากคุณ : Ba!! (เพราะหัวใจมีดวงเดียว!!) - [ 12 ก.ค. 50 22:10:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตามมาด้วยครับ :D จากคุณ : AugusT[CrusheR]VeronicA - [ 12 ก.ค. 50 22:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตามนายอ้นมาด้วยคนครับ จากคุณ : Lee Sharp - [ 12 ก.ค. 50 22:19:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องขออภัยด้วยครับ  พอดีภาพหายเลยต้องกลับไปย่อใหม่  ใช้เวลาพอควร       โปรดรอสักครู่ จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 12 ก.ค. 50 22:25:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถึงกับต้องปาดเหงื่อกันเลย  อยู่ดี ๆ ภาพหายหมด  เลยต้องไปกู้มาจากกล้อง  เสียเวลาเพื่อน ๆ ที่ต้องรอ  ขออภัยอีกครั้ง เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า   ก่อนอื่นต้องไม่ลืมซื้อเผือกหอมมาจากตลาด  ใช้ซัก 1  หัวก็เพียงพอแล้ว เตรียมเผือกหอมหั่นเป็นชิ้น ๆ  ระวังเวลาปลอกเปลือกอย่าจับเผือกด้วยมือเปล่าจะคันแบบว่า  คันนาน ๆ ๆ จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 12 ก.ค. 50 22:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เอาเผือกไปทอดในน้ำมันพีชให้หอม  สีเหลืองสวย ระวังอย่าให้ไหม้เดี๋ยวจะไม่อร่อย จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 12 ก.ค. 50 22:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ต้นหอมนำมาหั่นเป็นท่อน ๆ เจียวในน้ำมันทอดเผือกให้เหลืองหอม ประมาณว่าเกือบไหม้  จะหอมมาก ต้องระวังไฟไว้ให้ดี ๆ อย่าแรงเกินไป แนะนำให้แยกหัวกับใบออกจากกัน เวลาทอดให้ทอดส่วนหัวก่อนสักระยะ แล้วค่อยตามด้วยใบ  จะได้สีสวยพอดีกัน หรือจะแยกกันทอดก็ได้  แล้วแต่จะพลิกแพลงเอาเอง จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 12 ก.ค. 50 22:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มาแล้ว อิอิ จากคุณ : Lee Sharp - [ 12 ก.ค. 50 22:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 การเจียวต้นหอมนี่ถือเป็นเคล็ดลับสำคัญเลยทีเดียว ต้องระวังอย่าให้ไหม้จนกรอบแห้งเกินไป อันนี้ต้องใช้ความชำนาญ ลองทำบ่อย ๆ จะรู้ได้เอง จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 12 ก.ค. 50 22:38:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อธิบายยาก   ต้องให้ดูภาพประกอบตามไปด้วย จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 12 ก.ค. 50 22:39:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 กลับไปอ่านกะทู้เดิม  ต้องขออภัยคุณ BA ด้วยที่ต้องให้รอ ที่บอกใน  คห.41 คห.33  นั้นใช่เลยครับ  เป็นสูตรเดียวกัน ต้องชาวจีนรุ่นอากง  อาม่า  จะรู้จักกันดีครับ ลองทำเองกินเอง  รับรองไม่เกิน 300  บาท รับประทานได้ทั้งครอบครัวใหญ่ คห.39  เป็นปลาน้ำจืดครับ  เรื่องพยาธิต้องแล้วแต่ผู้บริโภคครับ แต่รุ่นก๋งผมก็เห็นทำกินกันประจำ  ตอนนี้ยังอายุ 90 ปี แข็งแรงดี           เจียวต้นหอมให้เหลืองเข้มจนเกือบดำ จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 12 ก.ค. 50 22:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พอเผือกพร้อม  ต้นหอมเจียวพร้อมก็ลงมือต้มได้เลยครับ วิธีการง่ายมาก   สูงสุดคืนสู่สามัญ ล้างปลาให้สะอาด  พักไว้ จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 12 ก.ค. 50 22:50:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ใช้น้ำซุปกระดูก   ถ้าไม่มีก็ใช้ซุปก้อน 2 ก้อน ต้มน้ำเดือดแล้ว  ใส่เผือกทอดไม่ต้องต้มนาน เพราะว่า  เผือกสุกแล้วในกะทะ พอน้ำเดือดอีกที  ก็ใส่ปลาซ่งฮื้อทีละชิ้น (บางคนก็ให้เอาปลาไปทอดก่อน แต่บางคนก็ให้ใช้แบบสด ๆ อันนี้แล้วแต่ชอบ) ค่อย ๆใส่  อย่าคน  ปล่อยให้น้ำเดือดอีกครั้ง แล้วปิดไฟ  ปรุงรสด้วยน้ำปลาอย่างดี กับชูรสถ้าชอบ เวลารับประทานต้องใส่หม้อไฟเท่านั้น ก่อนรับประทาน   โรยหน้าด้วยต้นหอมน้ำมันเจียว ปรุงรสตามชอบ  ใช้น้ำปลาปรุงจะอร่อยกว่าซีอิ้ว ถ้าไม่ชอบความมันให้ช้อนน้ำมันที่ลอยหน้าออกตามสะดวกก่อนใส่ต้นหอมเจียว จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 12 ก.ค. 50 22:53:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นอันเสร็จขั้นตอนหัวปลาต้มเผือก เชิญลงมือรับประทานได้เลยครับ แนะนำให้เทน้ำปลาไว้จิ้มปลาด้วย ถ้าไม่อร่อย  มาเอาตังค์คืนได้เลย (จากคนแล่ปลา)  2 2 2 อันนี้จากประสบการณ์จริง ไม่เคยเห็นใครบอกว่าไม่อร่อย ถ้าไม่กินก็จะบอกว่า  กินไม่เป็นไปเลย แต่ถ้ากินเป็น  ก็อร่อยทุกราย (เอ..หรือว่าเป็นเพราะรับประทานฟรีก็ไม่ทราบได้) จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 12 ก.ค. 50 22:56:01 ]

ความคิดเห็นที่ 17 งานนี้ติดขัดทางเทคนิคนิดหน่อยคงไม่ว่ากันนะครับ รับรองว่าเป็นรายการอาหารที่หาทานได้ยาก เห็นมีแต่ในภัตตาคารจีน  ราคาค่อนข้างแพง ลองทำรับประทานเอง  รับรองไม่ผิดหวังครับผม วันนี้พ่อครัวเถื่อนขอพักผ่อนก่อน  แล้วโอกาสหน้าค่อยพบกันใหม่ครับ สวัสดี จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 12 ก.ค. 50 23:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอขอบคุณทุกท่าน จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 12 ก.ค. 50 23:06:03 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ จากคุณ : Lee Sharp - [ 12 ก.ค. 50 23:20:25 ]

ความคิดเห็นที่ 20 น่าทานคะ ว่าแต่ปลาซ่งฮื้อเนี่ยคือปลาอะไรอะคะหาซื้อได้ที่ไหนอะคะ ปลาน้ำจืดรึเปล่า ที่บ้านไม่ค่อยชอบทานปลาน้ำจืดอะคะ อยากลองทำบ้างคะ จากคุณ : piggalanla - [ 12 ก.ค. 50 23:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตามมากินมื้อดึกค่ะ จากคุณ : momijimi - [ 12 ก.ค. 50 23:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 22 โอโทโร่ ชิดซ๊ายเลยฮับ  ^ ^" อิอิ จากคุณ : friskyz~* - [ 12 ก.ค. 50 23:39:19 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณครับ :D จากคุณ : AugusT[CrusheR]VeronicA - [ 12 ก.ค. 50 23:40:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 กลับไปดูกระทู้ก่อนหน้านี้ตาม link ด้านบนได้เลยคับ ^ ^ ซื้อมาตัวนึงนี่คุ้มเลย กินได้ทั้งบ้าน น่ากินมากๆทั้ง 2 เมนูเลยคับ ผมชื่อ Ball คับ ไม่ได้ "บ้า" น้า 555 จากคุณ : Ba!! (เพราะหัวใจมีดวงเดียว!!) - [ 12 ก.ค. 50 23:41:01 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เล่าสนุกดี น่ากินด้วยครับ จากคุณ : Jazzmo - [ 13 ก.ค. 50 03:19:01 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมต้องเป็นแฟนคลับพ่อครัวเถื่อนอีกคนแล้วล่ะครับ ^___^ จากคุณ : เฮียแมว - [ 13 ก.ค. 50 05:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แหล่มเลยครับ เก็บสูตรเข้าคลังไว้เลย มีโอกาสเมื่อใดจะลองทำดู //ง่ำง่ำง่ำ จากคุณ : เทวดา - [ 13 ก.ค. 50 09:35:30 ]

ความคิดเห็นที่ 28 น้ำยายไหลแล่ว อิอิ จากคุณ : หลานยายจุล - [ 13 ก.ค. 50 10:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ถือเป็นธรรมเนียมไทย  ไปลา  มาไหว้  ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ  เป็นสิ่งที่ควรยึดถือปฏิบัติ   พ่อครัวเถื่อน  เลยขออนุญาติตามมาตอบทุกความเห็นถือว่าทุกความเห็น   เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของสังคม ONLINE นี้   1. คุณ : Lee Sharp 2. คุณ : ปลงไม่ตกซะที 3. คุณ : กันน์ (Cheers4Life) 4. คุณ : ไว้นึกถึง 5. คุณ : siansian (siansian)    -   ยินดีต้อนรับทุกท่านเลยครับ  ดีใจที่ชอบครับ 6. คุณ : TearEndless   -    ผมว่าเป็นสีสันนะครับ  ความจริงอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นก็ได้ 7. คุณ : ม้าเจ๋ง   -    ฝีมือแล่ปลาแบบนี้  ปัจจุบันหาชมยากครับ  มีโอกาสก็ควรแวะไปดูด้วยตาตนเอง  เผื่อได้วิชาติดตัวมาด้วยครับ 8. คุณ : มารแว่ลตัวกลม (ผีแว่น)   -   เบียร์วุ้นแก้วแช่  เหมาะมากกันเมนูนี้  เชิญรับประทานให้อร่อยเต็มที่ เลยครับ 9. คุณ : กันน์ (Cheers4Life)             -  เปรียบเทียบได้ดีมากเลยครับ  ถูกใจ เชิญติดตามต่อไปเรื่อย ๆ 10.คุณ AugusT[CrusheR]VeronicA   -  สงสัยจะไปเห็นวันเดียวกันเลยครับ  ทดลองทำดูแล้วผลเป็นอย่างไรก็ส่งข่าวมาด้วยนะครับ         11.คุณ doubleberry    - ยินดีครับ  หวังว่าคงสมใจอยากแล้วนะครับ   12.คุณ Badtzila    - ลืมบอกไปว่า หนังปลาก็นำมารับประทานได้ด้วยครับ  เดี๋ยวจะแถมวิธีการจัดการกับหนังปลาให้ชมต่อครับ 13คุณ Lookyeenoi    - ปลาแขวนไว้  ก็ต้องรับประทานสดอยู่แล้วครับ 14.คุณ momijimi   -  รับประกันความอร่อยครับผม  ขอบคุณสำหรับความรูสึกดี ๆ ที่มอบให้ครับ 15.คุณ พริกดอง พริกน้ำส้ม   -  ผมก็ทราบมาว่าที่ภัตตาคารขายแพงมาก  เลยอยากแบ่งปันให้ความรู้เป็นวิทยาทาน  งานนี้ต้องขอบคุณ "แป๊ปุ้ย"  ครับผม 16.คุณ หน่อยคุง    -  ยินดีครับ 17.คุณ a pinky pig    -  ใช่แล้ว  เป็นร้านเดียวกัน  รีบไปซื้อมาทำให้อาม่ารับประทานเลยครับอย่าช้า 18.คุณ : @ - ENYA - @   -  ถือเป็นคำชมเชยที่มีค่ามากสำหรับผม   ที่ได้รับจากท่านอาจารย์ของชาวก้นครัว  ครับผม 19.คุณ : appletree_ja 20.คุณ : นิดา (nokepee)   -  หวังว่าคงจะไม่ผิดหวังนะครับ 21.คุณ : Ba!! (เพราะหัวใจมีดวงเดียว!!)   -  ลูกหลานชาวจีนมักจะได้รับประสบการณ์  เคยทดลองชิมมาแล้วส่วนใหญ่   คราวนี้ลองลงมือเองเลยครับ  รุ่นอาม่า  อากง จะชอบมาก จะได้เล่าเรื่องเก่า ๆ ให้ฟังเป็นความรู้ด้วย  ตกลงชื่อ  BALL ก็ บอลครับผม 6 6 6 22.คุณ: เทวดา   -  สงสัยคุณเทวดาจะมีสูตรอยู่ในครอบครองมากมาย  ดีครับจะได้ไม่สูญหายไปไหน 23.คุณ AugusT[CrusheR]VeronicA 24.Lee Sharp 25.momijimi 26.friskyz~* 27.AugusT[CrusheR]VeronicA 28.หลานยายจุล 29.คุณ : Jazzmo   -  ยินดีต้อนรับทุกท่านครับผม  ชิมได้ตามอัธยาศัย 30.คุณ : เฮียแมว   -  ขอบคุณเฮียแมว  ที่ชอบกะทู้ครับผม  ผมก็รอชมเมนูของเฮียอยู่เช่นกันครับ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 50 11:19:08 จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 13 ก.ค. 50 11:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สำหรับ ฮื่อแซ   ผมลืมหนังปลาไป   มีวิธีการทำ 2 วิธี 1. นำไปขยำกับน้ำส้มสายชูดับกลิ่นคาว  หนังปลาจะขยายใหญ่ขึ้น   เสร็จแล้วล้างด้วยน้ำเย็น   นำไปแผ่ออก ตาก-ลม พอน้ำหายหยด     ก็เก็บเข้าตู้เย็นไว้รับประทานได้เลย  หนังจะยังกรอบเคี้ยวได้อร่อย 2. นำไปลวกในน้ำร้อน  เวลาลวกต้องรีบนำขี้นไม่อย่างนั้นหนังจะเปื่อย    แล้วนำไปแผ่ออกบนตะกร้าสานไม้ไผ่   ตาก-ลม เช่นกันครับ (ถ้าไม่มีลมก็ใช้พัดลมเป่าเอาครับ ไม่แตกต่าง ระวังอย่าให้แห้ง จะเสียของ)    ถึงเวลารับประทาน ก็นำมาหั่นเป็นชิ้นยาว ๆ รับรองเคี้ยวได้อร่อยดี  ถ้าทิ้งไปจะเสียดายมาก    ขอให้มีความสุขกับชีวิตทุกท่านเลยครับ จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 13 ก.ค. 50 11:13:38 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบกินเผือก ชอบกินปลา แต่ไม่ชอบต้นหอมอ่ะค่ะ Y___Y จำสูตรไว้ไปทำกินกับที่บ้านดีกว่า ^^ จากคุณ : เซี่ยวลี้ปวยตือ - [ 13 ก.ค. 50 11:44:01 ]

ความคิดเห็นที่ 32 หัวปลาต้มเผือกเคยกินที่ ภัตตาคา ศรีนิยม  ชลบุรี อร่อยมากก .. จากคุณ : =แหลนแต้= - [ 13 ก.ค. 50 12:59:43 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เคยทานครั้งหนึ่งร้านแถวบ้านอร่อยมากๆเลยค่ะ ไม่นึกว่า เผือกจะเอามาทำเป็นอาหารคาวได้ด้วย จากคุณ : TearEndless - [ 13 ก.ค. 50 13:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เมนูซ่งฮื้อนี่ทำให้นึกถึง อาม่ากะอากงเลย ตอนนี้แกไม่อยู่แล้วพวกเราก็ไม่ได้กินอะไรแบบนี้กันอีก ล่าสุดไปกินฮื่อแซ ที่ยิ้มๆกะสามีเมือ่สองปีก่อน นานๆได้กินสักทีก็ดีนะคะ คุณพ่อครัวเถื่อนทำข้าวอบเผือกเป็นมั้ยค่ะ (เมื่อก่อนอาม่าทำทุกปีตอนหน้าหนาว เค้าเรียกว่าวันอะไรก็ไม่ทราบ แต่แม่เราทำไม่เป็นเลยอดซะ) จากคุณ : princess gig - [ 13 ก.ค. 50 13:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 35 จากคุณ : เซี่ยวลี้ปวยตือ     -   ได้เลยครับผม  เมื่อไหร่อยากรับประทานก็ต้องทดลองดูเองครับ คุณ : =แหลนแต้=     -   สงสัยจะไม่มีทางอร่อยเท่าลงมือทำเองครับ  ถูกกว่าหลายเท่าตัว TearEndless     -   จริง ๆ แล้ว  เผือกทำอาหารได้หลากหลายมาก  แถมอร่อยพึ่งได้ครับผม princess gig    -   มองเห็นภาพเลยครับ  ความรู้สึกนี้ต้องลูกหลานชาวจีนจะเข้าใจได้ดี  หากหมดรุ่นนี้แล้ว  ก็จะไม่เห็นอาม่า  อากง อยู่ในสังคมอันยุ่งเหยิงอีกแล้ว  ที่เหลือก็คงไม่มากเท่าเดิม            สำหรับข้าวอบเผือกก็เคยทดลองทำรับประทานเองอยู่หลายครั้ง   แต่ถ้าจะบอกเป็นสูตร   ขอให้ท่านที่เป็นมืออาชีพมาแนะนำจะดีกว่านะครับ จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 13 ก.ค. 50 20:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 36 กำลังจะบอกเลยว่าเผือกทำอาหารคาวได้อีกหลายชนิดซึ่งหนึงในนั้นที่ผมรู้จักก้อ ข้าวอบ/ผัดเผือก นี่แหละคับ รู้สึกจะเรียกว่า "โควปึ่ง" นะคับ อันนี้ยังพอจะได้กินเรื่อยๆ แต่แบบนานๆที่อ่ะคับ ^ ^ จากคุณ : Ba!! (เพราะหัวใจมีดวงเดียว!!) - [ 13 ก.ค. 50 20:52:35 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อันนี้แจ่มครับ ว่าแต่เห็นมีแต่เนื้อ หัวปลาของโปรดผมไปใหนอ่ะ แหะๆ จากคุณ : Are Yoi - [ 14 ก.ค. 50 00:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 38 น่ากินมากมายครับ หัวปลาต้มเผือกนี่ของชอบผมเลย เห็นแล้วน้ำลายไหล จากคุณ : amenochikara - [ 14 ก.ค. 50 16:36:05 ]

ความคิดเห็นที่ 39 Ba!! (เพราะหัวใจมีดวงเดียว!!) --   เขาเรียกกันว่า "โอ่วปึ่ง" ครับผม        โอ่ว แปลว่า  เผือก         ปึ่ง  แปลว่า  ข้าวสวย       รวมกันแปลว่า  ข้าวเผือก  ครับผม Are Yoi --  ที่เห็นคือส่วนเนื้อช่วงท้องปลาครับ  ส่วนหัวปลาก็อยู่ด้านล่าง       เลยมองไม่เห็นนะครับ amenochikara --  รับประกันความอร่อยมากมายนะครับ   มีโอกาสทดลองดูได้เลย แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 50 20:34:32 จากคุณ : พ่อครัวเถื่อน - [ 14 ก.ค. 50 20:30:14 ]