PANTIP.COM : D5901338 ทำไมปลากระพงแดงถึงไม่ค่อยมีใครนำมาทำอาหารกันแพร่หลายเหมือนปลากระพงขาวครับ [อาหารการกิน]

ความคิดเห็นที่ 7

ว่าด้วยเรื่องปลาให้อ่านกันอีกที

ปลากะพงขาว มีสองประเภทครับ ชนิดแรกคือปลาตามธรรมชาติ อาศัยอยู่ตามปากแม่น้ำ เมื่อโตเต็มวัย มีขนาดใหญ่ถึง 10กว่ากิโล ลำตัวสีขาวออกเหลืองทองๆ มีรสชาดอร่อย เนื้อมัน พื้นท้องนำไปนึ่งหรือแกง อร่อยเด็ด

ส่วนปลาประเภท ที่2 ก็คือปลาเลี้ยง ตามกระชัง หรือบ่อดิน นิยมเลี้ยงกันมากแถบบางประกง และฉะเชิงเทรา ส่วนแถบจังหวัดภาคใต้ มีทุกท้องที่ บ้างก็เลี้ยงให้มีน้ำหนัก 0.5-0.7 กก ก็จับขาย ตามร้านอาหาร แบบเป็นๆ
เคยเห็นแถบสงขลา เลี้ยงในทะเลสาบเกาะยอ ตัวนึง3-4 กก

สำหรับปลากะพงแดง ก็แบ่งเป็น 2 ชนิด (กะพงแสม และ กะพงแดง)

กะพงแสม อาศัยอยู่แถบปากแม่น้ำ ลำคลอง เป็นปลาน้ำกร่อย ลำตัวสีแดงเข้ม เนื้อขาว และนิ่ม มีรสชาดดี หายาก กรมประมงสามารถเพาะพันธ์ได้แล้ว แต่ยังไม่แพร่หลายนัก เห็นที่ภูเก็ต เลี้ยงในกระชังชายทะเล พอหาทานได้ตามร้านอาหาร เช่นร้านกันเอง

ส่วนประเภท ที่2 คือปลากะพงแดง น้ำลึก แยกชนิดออกไป บ้างก็เรียก พงแดง แดงตาดำ แดงเขี้ยว อาศัยอยู่ทะเลลึก ตามกองหิน เป็นปลาหากินกลางคืน จับได้โดยอวนลาก อวนล้อมตามหินกอง เข้าลอบชาวประมง และตกด้วยเบ็ด เนื้อหยาบ มีกลิ่นเฉพาะ ขนาดลำตัวค่อนข้างใหญ่ ตั้งแต่ 1กก-7กก หาทานได้ตามร้านข้าวต้มปลา ซึ่งจะแขวนไว้ทั้งตัว และนำเนื้อมาปรุง
ส่วนใหญ่มักจะเข้าโรงงานแปรรูบ แล่เอาแต่เนื้อ ตัดแต่ง แล้วส่งต่างประเทศ
ส่วนหัวปลาที่มีขนาดใหญ่ ก็จะถูกส่งไปขายตามร้านหัวปลา หม้อไฟ เคยเห็นทีสงขลา ส่งเฉพาหัวปลาเข้ามาเลย์ ชาวมาเลย์นิยมนำไปปรุงแกงกระหรี่หัวปลา ซึ่งมีขายเกือบทุกร้านอาหาร

ส่วนราคานั้น ปลากะพงแสม ธรรมชาติ มีราคาสูงพอๆกับ ปลากะพงขาวธรรมชาติ
ปลาเลี้ยงราคาจะไม่สูงนัก
ส่วนปลากะพงแดง น้ำลึก ราคาถูกกว่า ปลาดังกล่าวข้างต้น

จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 10 ต.ค. 50 09:24:05 ]