ท่งหลี หรือที่ผมเรียกติดปากตั้งแต่เด็กๆว่า "ร้านป้า" ร้านนี้ขึ้นป้าย เปิบพิสดาร เป็นร้านเก่าแก่ที่พวกรุ่นใหญ่ ยิ่งพวกข้าราชการ กรมเจ้าท่า, กรมศุลกากร, หรือ คนที่ทำงานกันละแวกแถวนั้น รู้จักกันเป็นอย่างดี อยู่ใน ซอยสุขุมวิท 20 เข้าไปไม่ลึก หากเข้าทางด้าน ถนนสุขุมวิท มองทางด้านขวามือ ผ่านโรงแรม Windsor แล้วผ่านร้าน Koi Restaurant ไปจนเห็นเป็นร้านเล็กๆ เมนูเด็ด คือ ไก่ทอดไหหลำ กรอบนอกนุ่มใน แถมน้ำจิ้มยังรสเด็ดเป็นเอกลัษณ์ของร้านเขา ตับทอดกระเทียมพริกไทย ผมก็อยากจะแนะนำ หมี่กรอบทรงเครื่อง หมูผัดกระปิ ก็ขึ้นชื่อลือเลื่อง แถมราคาอาหารก็ไม่แพง วันนี้ผมพึ่งไปทาน แล้วลองสั่ง ผัดคะน้าปลาเค็ม มาทานกับข้าวสวย แค่จานนี้ก็รู้สึกว่า รสชาติดีมากเห็นชัดถึงความแตกต่างจากร้านทั่วไป ร้านนี้หากเป็นช่วงตรงเวลาอาหาร คนคงจะแน่นมาก เพราะเห็นมีแต่โต๊ะติดป้ายจองไว้ เปิดทุกวัน 9.00 - 20.00 น.
ร้านเล็ก รสเริ่ด ท่งหลี 54 ปี การันตีความเก๋า
จากตำราวิชาโซ้ยที่เขียนโดยประสบการณ์ เจ๊แซบสรุป (เอง) ว่าความชำนาญในการทำอาหาร ถือเป็นความสามารถพิเศษที่ถ่ายทอดผ่านทางดีเอ็นเอ ดูได้จากร้านเด็ดร้านดังที่อยู่ยั่งยืนยง ผ่านร้อนผ่านฝนผ่านคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นลูกเป็นหลานที่สืบสานภารกิจแอนด์ เทคนิคหน้าเตา ถึงได้คงความเก๋าไว้ไม่เคยเปลี่ยน
หนึ่งในร้านที่จัดว่าขึ้นแท่นเป็นระดับแตกลายงาอยู่คู่คนกรุงเทพฯมากว่าครึ่งศตวรรษ คือร้านท่งหลี สุขุมวิท 20 ร้านเล็กๆที่ซุกซ่อนตัวอยู่ใจกลางเมือง ถือเป็นบริโภคศิลป์ที่อยู่ท่ามกลางความรุ่งเรืองของวัตถุ
“ร้านพี่เปิดมาตั้งแต่ปี 2495 สมัยนั้น คุณพ่อเป็นคนทำ ตอนแรกอยู่ที่สุขุมวิทซอย 49 อยู่ได้สิบกว่าปีก็ย้ายมาที่สุขุมวิทยี่สิบสอง อยู่ได้ 13-14 ปี ก็ย้ายมาอยู่ที่สุขุมวิทซอย 20 ก็อยู่มาตลอด อยู่มาได้ 25 ปีแล้ว รวมทั้งหมดตั้งแต่เปิดมาก็ 54 ปีพอดี! พี่พรรณี ทายาทรุ่นที่สองของร้านท่งหลี ชี้แจงที่มาที่ไปให้เข้าใจโดยทั่วกัน
อาหารจานเด่นที่เป็นสัญลักษณ์ของร้านนี้ ไปกี่ทีต้องสั่งไปกี่ครั้งต้องโซ้ย คือ หมูผัดกะปิ ผัดแต่ละทีกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั้งร้าน พี่พรรณีเลือกใช้กะปิดีที่หอม สด ใหม่ ไม่ค้างคืนเหม็นหืนเสียอารมณ์ เป็นกะปิ ร้านประจำส่งมาจากระยอง กะปิดีมีชัยไป กว่าครึ่ง ถึงเวลาเอามาผัดกับหมูหมักเนื้อนุ่มชิ้นพอดีคำ อร่อยล้ำเกินบรรยาย ยิ่งใส่ ตะไคร้ซอย พริกขี้หนูสด อู้ยยยย...เริ่ด!! สำหรับขาโซ้ยที่นิยมรสแสบแปลบจิต สั่งเพิ่มพริกได้ตามอัธยาศัย แต่ถ้ามีเพื่อนต่างชาติหรือวงศาคณาญาติที่เน้นรสจืดสั่งลดพริก พี่พรรณีจะเนรมิตให้ได้ดั่งใจ!!
ใครที่ไม่ปลื้มกลิ่นกะปิ เจ๊การันตีว่าไม่ มีปัญหา ขอท้าให้ลอง เพราะของเค้าดีจริงๆ ไม่มีกลิ่นให้ระคายใจ ยิ่งถ้าได้ข้าวร้อนๆมาคลุก ตอนผัดมาใหม่ อร่อยอย่าบอกใคร (ถ้าไม่อยากโดนแย่ง หุ...หุ)
พลพรรคคน รักไก่ โดยเฉพาะไก่ เนื้อนุ่มหนังกรอบต้องชอบ ไก่ทอดไหหลำ สูตรต้นตำรับฉบับท่งหลี ที่ทอดได้กรอบอย่างมหัศจรรย์ กรอบเสมอกันทั้งตัว พี่พรรณีการันตีไม่มีการชุบแป้งและแห้งสนิทไม่อมน้ำมัน คุณพี่เลือกสรรไก่วัยกระทงขนาดกำลังเหมาะ ไม่ใหญ่จนเกินไปและไม่เล็กจนเกินพอดี คัดอย่างพิถีพิถันบางครั้งคัดจากเป็นตันๆ แต่ได้แค่ สิบตัว ใครกลัวไม่ได้โซ้ยต้องรีบมาแต่หัววัน ของที่นี่หมดแล้วหมดกัน ต้องรอวันต่อไป ไก่หนึ่งตัวเสิร์ฟในหนึ่งจาน ไม่ต้องหารไม่ต้องแบ่ง ทอดในน้ำมันใหม่ ไฟแรง หนังจะกรอบโดนใจ เนื้อในนุ่มชุ่มฉ่ำ กินกับน้ำจิ้มรสชาติไม่ซ้ำใคร ในสไตล์ท่งหลี
นักโซ้ยที่ชอบซด เจ๊ แนะนำเมนูน้ำที่ห้ามพลาด แกงจืดเกี้ยมบ๊วยหมูสับ รับประกันความเปรี้ยวเซี้ยวซ่าส์ท้าทาย ไม่เหมือนใคร เพราะเป็นสูตรลับเฉพาะที่คิดค้นด้นสดกันข้างเตา เราเห็นว่าอาหารบางอย่างทานมากๆ แล้วจะเลี่ยน ลูกค้าจะต้องสั่งอะไรมาทานแก้เลี่ยน แต่บางคนที่ไม่อยากทานเผ็ด เค้าจะสั่งต้มจืด เราก็คิดว่าลองทำอะไรมาให้เค้าซดเพิ่มดี เลยนึกถึงเกี้ยมบ๊วยเพราะมันจะเปรี้ยวๆ เราก็ ลองทำแล้วใส่หมูสับ ใส่เห็ด ทำไปทำมาจนลงตัว ลูกค้าก็ชอบเคล็ดลับความกลมกล่อมของ แกงจืดเกี้ยมบ๊วยหมูสับ อยู่ที่ความใส่ใจในการทำน้ำซุป พี่พรรณีใช้ทั้งกระดูกไก่และกระดูกหมูต้มรวมกัน ตั้งทิ้งไว้ทั้งวันให้ความหวานออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เวลามีลูกค้าสั่งแต่ละทีค่อยทำทีละชาม เป็นความละมุนละไมในการโซ้ย
ความใสของน้ำซุปแสนจะสะดุดใจเจ๊ขอเทคะแนนให้ เต็มร้อย โดยเฉพาะคนที่มีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ ขอบอกว่าพลาดไม่ได้ ลองพาไปแล้วจะติดใจในน้ำซุปสไตล์ท่งหลี
สำหรับขาโซ้ยที่นิยมรสจัด เจ๊แนะนำให้ลอง อาหารตระกูลพล่าที่ขึ้นชื่อลือชา ติดใจขาประจำมาหลายยุคหลายสมัย มี ตั้งแต่พล่าไก่ พล่ากุ้ง พล่าเนื้อ จนล่าสุดเป็น พล่าทูน่าเอาใจลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพ ด้วยรสชาติที่จัดจ้านถึงใจ จึงโดนใจใครหลายคน โดยเฉพาะชาวตะไคร้เลิฟเวอร์ ที่หลงใหลในกลิ่นหอมของตะไคร้จะถูกใจมั่กๆ เพราะที่พรรณีสั่งให้ซอยถี่ๆใส่แบบไม่มียั้ง
คนที่เป็นเซียนร้านอาหารร่วมสมัยที่ไม่ได้ตั้งใจโชว์ความเท่ แต่เก๋อย่างเป็นธรรมชาติไม่ควรพลาด เพราะนอกจากรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ แล้วเก้าอี้ของร้านนี้ยังไม่เหมือนใคร อยากรู้ว่าแตกต่างอย่างไรต้องไปดูด้วยตัวเองที่ สุขุมวิทซอย 20 ตรงเข้าไปประมาณ 400 เมตร ร้านอยู่เกือบสุดซอย ร้านเป็นห้องแถวเล็กๆ มีกระถางต้นไม้วางอยู่เยอะๆ จนเกือบจะมองไม่เห็นในร้าน ใครที่ไม่อยากขับรถ ใช้บริการรถไฟลอยฟ้า ลงที่สถานีอโศกแล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 2 ซอย หรือถ้าลงสถานีพร้อมพงษ์ แล้วก็ต่อรถมาที่สุขุมวิท 20 เริ่มบริการตั้งแต่
9 โมงเช้า-2 ทุ่ม แต่ครัวปิดตั้งแต่ทุ่มสี่สิบห้า ร้านเปิดทุกวัน
หยุดวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือน ช่วงสงกรานต์หยุดยาว แต่ปีใหม่ ตรุษจีนขายตามปกติ เจ๊แซบขอแนะนำขาโซ้ยที่จะมาเป็นหมู่คณะควรโทร.จองที่ไว้ล่วงหน้า เพราะทางร้านมีโต๊ะอยู่จำนวนจำกัดจะได้ไม่ต้องรอนาน เดี๋ยวจะพานอารมณ์เสีย เบอร์โทรศัพท์ 0-2258-1983, 0-2259-4649
เจ๊แซบขอฝากเมนูพิเศษทิ้งท้ายก่อนจะสลายตัว สำหรับครอบครัวที่จะไปโซ้ยในวันเสาร์และอาทิตย์ พี่พรรณีมี ซี่โครงหมูอบซอส ไว้คอยบริการ ใครที่ชอบโซ้ยแบบสมบุกสมบัน ชอบกัด ชอบแทะเล็ม เค็มๆมันส์ๆ สั่งมาได้ไม่มีผิดหวัง รับรองจานเดียวเอาอยู่ โซ้ยได้ทั้งผู้อาวุโสและลูกเด็กเล็กแดง เพราะเนื้อนุ่มยุ่ยเคี้ยวง่ายไม่ระคายเหงือก พี่พรรณีเลือกใช้ซี่โครงหมูขนาดกำลังดี มีเนื้อกำลังพอน่าทาน นำมาอบกับน้ำซอสบาร์บีคิว อบอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง เมนูพิเศษนี้มีเฉพาะวันเสาร์ และอาทิตย์เท่านั้น วันธรรมดางดอดโซ้ย!!
"เจ๊แซบ หัวเขียว"
แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 50 15:23:01
หมี่กรอบท่งหลี ร้านอาหารในใจผมและใครหลายๆคน
