ในที่สุด ก็ช่วยหาคำตอบให้คุณ prinda + ชาวก้นครัวได้แล้วค่ะ เย้ๆๆๆ .....
และขอมอบเครดิตให้คุณ Grace_Za ขาประจำก้นครัวและกูรูด้านกาแฟด้วยค่ะ ผู้ที่หาคำตอบมาให้ จากเวบร้อยตะวัน http://www.roytawan.com ของคุณพี่เก๋ ที่รวบรวมความรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับกาแฟและข้อมูลดีๆ มีสาระมาให้....ใจดีมากๆ เยย ^_^
จากกระทู้เก่าของคุณ prinda ที่ว่า....
คุณ prinda เป็นคนหนึ่งที่ทานการแฟ แต่ไม่ติด
ที่บ้านมีอยู่คนที่ติดกาแฟ
ตอนนี้คุณ prinda ย้ายมาอยู่เมืองนอก
ก็ได้พบว่า
อะไรก็ตาม...ฝรั่งจะบ้า
ืnon-fat no-carb
เลยสงสัยว่า De Caffeine Coffee เนี่ย
มันทานแล้วยังจะเหลืออะไรอีก
กินแล้วมันกระชุ่มกระชวยเหมือนกาแฟธรรมดามั้ย
แล้วมันมีข้อดียังไง
แล้ว Anti oxidatant ยังมีอยู่ป่ะ
หรือเค้าทำให้ยากขึ้นจะได้ขายแพงๆ
รสชาดยังดีอยู่มั้ย
ยี่ห้อไหนเด็ด ( อยู่อเมริกานะคะ )
แนะนำหน่อยนะ
จะได้ไปซื้อมาทานบ้าง......
และคำตอบที่คุณพี่เก๋ ณ ร้อยตะวันตอบให้คือ (แอบตัดต่อนิดหน่อยนะคะ...)
ต้องเข้าใจก่อนว่า...การสกัดคาเฟอีนออกจากกาแฟนั้น ส่วนใหญ่จะทำโดยใช้น้ำยาเคมี มาดึงคาเฟอีนออกจากเมล็ดกาแฟ โดยทำตั้งแต่เริ่มต้นการโปรเซสกาแฟครับ
กับอีกวิธีนึงที่ปลอดภัยและแพงกว่าก็คือการใช้ Swiss water http://www.swisswater.com ซึ่งเป็นน้ำแร่จากธรรมชาติจากแหล่งหนึ่งในประเทศสวิสมาเป็นตัวดึงคาเฟอีนออก ซึ่งก็จะต้องทำตั้งแต่เริ่มต้นโปรเซสกาแฟเช่นกัน
จากการสกัดคาเฟอีนออก ใช้ว่าจะสกัดออกไปทั้งหมดนะครับ แต่ก็มากเกินกว่า 70-80% ของคาเฟอีนที่มีครับ ส่วนเมล็ดกาแฟที่สกัดคาเฟินออกแล้ว ก็จะได้เมล็ดกาแฟสีน้ำตาลดูแปลกๆ แล้วเราก็เอามาคั่วอีกทีนึง ถึงจะได้เป็นกาแฟสกัดคาเฟอีนครับ
ส่วนสารเคมีตกค้างนั้น แน่นอนว่ามีแน่ แต่ก็อยู่ในเกณท์ปลอดภัย แต่ก็ขึ้นอยู่กับคนกินว่าจะกินสารเคมีหรือกินคาเฟอีนจากธรรมชาติด้วย......
ในกาแฟดีคาเฟอีนที่ใช้ Swiss Water สกัด ส่วนใหญ่จะมีการปะฉลากบอกเอาไว้ ว่าใช้ Swiss Water ซึ่งก็จะแพงหน่อย แต่ปลอดภัย ถ้าเป็นกาแฟดีคาเฟอีนทั่วไป ก็จะไม่บอกเอาไว้ครับ ว่าใช้สารเคมีสกัด ส่วนสารเคมีนั้น ผมขอไม่บอกชื่อครับ เพราะบอกชื่อสารเคมีนี้ที่ชาวบ้านเรียกทั่วไปรับรองว่าทุกคนต้องรู้จัก.... แล้วก็ต้องผงะ.... ฮ่า... ว่าตูกินสารเคมีชนิดนี้ที่ตกค้างมากับกาแฟดีคาฟหรอฟ่ะ....
(แต่อีกกระทู้นึงคุณพี่เก๋ก็เฉลยสารเคมีตัวนั้นจนได้ค่ะ...)
และก็ไม่อยากให้เพื่อนๆ ดื่มกาแฟที่สกัดเอาคาเฟอีนออกกันหรอกนะครับ เพราะว่าคาเฟอีนตามธรรมชาตินั้นมันจะถูกขับออกจากร่างกายของคนปรกติ ได้อย่างปรกติอยู่แล้ว และการที่เป็นคาเฟอีนจากธรรมชาติ แน่นอนว่าผลเสียต่อร่างกายย่อมมีน้อยหรือไม่มีเลยก็ว่าได้ หากจะเทียบในเครื่องดื่มที่ผสมสารคาเฟอีนที่เป็นสารเคมีครับ (อย่างน้อยก็ต้องระบุในฉลากว่าห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด ฮ่า)
จริงๆ แล้วคาเฟอีนก็มีทั้งประโยชน์และโทษครับ หากจะพูดกันอย่างตรงไปตรงมา แต่คาเฟอีนก็ไม่ได้มีในกาแฟอย่างเดียวนะครับ อย่างน้อยก็มี ใบชา นี่แหละคาเฟอีนเยอะอันดับหนึ่ง รองลงมาก็เป็นกาแฟ โกโก้ตามลำดับครับ
สาเหตุหนึ่งที่ผมไม่สนับสนุนให้เพื่อนๆ ดื่มกาแฟสกัดคาเฟอีนออกก็เพราะว่า
1. เพื่อนๆ จะมั่นใจได้อย่างไรว่า ในกระบวนการสกัดสารคาเฟอีนออกจะไม่มีสารเคมีตกค้าง
2. เพื่อนๆ รู้มั๊ยว่า ส่วนใหญ่ในการสกัดสารคาเฟอีนออก ผู้ผลิตมักจะใช้ สารโซเวนท์ ในการสกัด เพราะหาได้ง่าย ตนทุนต่ำ
3. เพื่อนๆ รู้มั๊ยว่าที่กระป๋องบรรจุสารโซเวนท์ มีรูปกระโหลกไขว้ติดอยู่
ส่วนการดื่มกาแฟสกัดสารคาเฟอีนออกนั้น ผมไม่อาจห้ามให้ไม่ให้ใครดื่มได้นะครับ เพียงแต่ถ้าเราจะดื่มนั้น เราต้องดูที่ฉลาก ดูที่ขั้นตอนการผลิต ดูที่การรับรองต่างๆ อาทิเช่น อย. หรืออื่นๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ว่า การผลิตนั้นมีสารเคมีตกค้างไม่เกินมาตรฐาน
หรือการสกัดคาเฟอีนโดยใช้ขบวนการ CO2 หรือใช้น้ำแร่ ในการสกัด จะปลอดภัย 100 % แต่ค่าใช้จ่ายจะสูง แน่นอนว่ากาแฟสกัดคาเฟอีนที่สกัดอย่างปลอดภัย ต้นทุนจะสูง ส่งผลให้ราคาแพงกว่ากาแฟปรกติถึงเกือบ 1 เท่าครับ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมไม่สนับสนุนให้ดื่มกาแฟสกัดคาเฟอีนหรอกครับ เพราะสารบางตัวที่เป็นผลดีต่อร่างการถูกสกัดออกไปด้วยพร้อมกับคาเฟอีนครับ....
จบ.
^__^ ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับ คุณ Grace_Za และคุณพี่เก๋ ณ ร้อยตะวัน มา ณ ทีนี้ด้วยนะคะ
แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 50 01:10:46
แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 50 00:59:08