ความคิดเห็นที่ 1 เบคกิ้งพาวเดอร์ คือผงฟูค่ะ ทำครองแครงไม่ต้องใช้ทั้งสองตัว ใช้น้ำปูนใสค่ะ จากคุณ : Lawanwadee - [ 11 ม.ค. 51 00:52:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วเบคกิ้งโซดาล่ะคะคืออะไร จากคุณ : สีเบจ - [ 11 ม.ค. 51 01:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนใหญ่เห็นเบคกิ้งโซดาในสูตรที่มีโกโก้เป็นส่วนผสมอ่ะค่ะ จากคุณ : sokheang14 - [ 11 ม.ค. 51 09:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Baking Powder ก็คือ Baking Soda ผสมส่วนประกอบอื่นๆ (ส่วนใหญ่จะเป็น cream of tartar ซึ่งทำตัวเป็น acidic agent ให้ Baking soda มันทำงาน และบางยี่ห้ออาจจะมีแป้งผสมด้วย เพื่อลดการเร่งปฏิกิริยา) ทั้งคู่เป็นตัวทำให้ขนมฟู แต่ baking soda จะออกฤทธิ์ต่อเมื่อมันเจอ acidic agent เช่นพวก โยเกิร์ต นม หรือ buttermilk และเมื่อผสมแล้วก็ต้องอบทันที เพราะถ้าทิ้งไว้ก๊าซที่ได้มันจะระเหยออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ขนมไม่ฟู ถ้ามี Baking soda แล้วตำราบอกให้ใช้ baking powder ก็เอา baking soda ผสมกับ cream of tartar ใช้แทนได้ ถ้าตำราบอกให้ใช้ baking soda แต่ดันมี baking powder ก็ใช้ baking powder แทนก็ได้ แต่ต้องเพิ่มปริมาณขึ้นไปอีกเท่าตัว จากคุณ : Jammer - [ 11 ม.ค. 51 11:18:59 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เบคกิ้งพาวเดอร์ คือ ผงฟูค่ะ เบคกิ้งโซดา คือ โซดาไบคาบอเนต เท่าที่ทราบนะคะ ใช้ทำเค้้กที่มีโกโก้เป็นส่วนผสมเพื่อทำให้โกโก้แตกตัว, ล้างผักหรือผลไม้ ,อาบน้ำสุนัขน่ะค่ะ จากคุณ : kumiko_i - [ 11 ม.ค. 51 11:33:05 A:203.147.40.55 X: TicketID:146281 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เบคกิ้งโซดา  ขัดเครื่องเงิน ได้ ขัดหัวก๊อก ได้  สุดยอด เลย พี่น้อง จากคุณ : vinze - [ 12 ม.ค. 51 08:16:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผงฟู (Baking Powder) มันก็คือโซดา (Baking Soda / sodium bicarbonate / bicarbonate of soda ) นั่นแหละค่ะ เพียงแต่มันมีส่วนผสมอื่นๆด้วยเพื่อให้เกิดปฏิกิริยาต่างกัน (แต่หลักการทำงานเดียวกันคือ ทำปฏิกิริยาให้เกิดฟองฟู่ ฟองๆนี่ก็คือตัวที่ทำให้ขนมฟู) โซดาจะเริ่มทำปฏิกิริยาทันทีเมื่อโดนกรด (จากน้ำตาล โยเกิร์ต น้ำผลไม้ ฯลฯ) ในขณะที่ผงฟูจะทำปฏิกิริยาเมื่อโดนของเหลวเพราะในตัวผงฟูมีส่วนผสมที่เป็นกรดผสมมาด้วยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเวลาใช้พวกนี้ในการทำขนม พอผสมแล้วต้องรีบเข้าอบทันที ต้องมีการอุ่นเตาล่วงหน้า เพราะถ้ารอ มันทำปฏิกิริยากันเสร็จไปเสียก่อนขนมก็ไม่ฟูค่ะ อันนี้พูดถึงผงฟูแบบ single-acting นะคะ ถ้าเป็นแบบ double-acting นี่จะสองเด้งค่ะ  แบบ double-acting นี่เค้าจะผสมกรดแบบที่ทำปฏิกิริยาเฉพาะตอนอุณหภูมิขึ้นสูงๆ (=ในเตาอบ) เพิ่มเข้าไปด้วย ทำให้มันทำงานสองจังหวะ ครั้งแรกตอนเจอของเหลว ครั้งสองตอนเข้าเตา :) ส่วนสูตรที่ใส่ทั้งสองอย่างนั้นก็คือใส่เข้าไปช่วยกัน เพราะบางทีเนื้อขนมหนัก เช่นมีใส่ชิพ ใส่ถั่วอะไรอย่างนี้ สังเกตสูตรที่ใส่โซดาเพิ่มจะให้มีใส่ส่วนผสมกรดๆ เพิ่ม อันนี้ก็เพื่อให้ไปทำปฏิกิริยาพอดีๆกันนั่นเอง เพราะผงฟูมาพร้อมกรด แต่โซดามาตัวเปล่า :) .................... จำที่มาไม่ได้ ขออภัยค่ะ จากคุณ : M.positive - [ 15 ม.ค. 51 13:04:19 ]