ความคิดเห็นที่ 1 สิ่งสำคัญอีกอย่างเดียวที่เราต้องการก็คือ กะละมังก้นผุ! ทำไมต้องเป็นกะละมังก้นผุ ถ้าเศรษฐีพันล้านหรือคุณนายไฮโซจะขอใช้กะละมังอื่นได้ไหม ? กะละมังทองคำสวิส 99.99 กะละมังคริสตั้ล ไชวาร้อฟสกี้ กะละมังไททานิค เอ๊ย ไทเทเนี่ยม ไม่ได้ครับ มันต้อง กะละมังก้นผุ เท่านั้น!! ทำไม ? และทำไม ? ตอนท้ายมีเฉลยครับ จากคุณ : เพ็ด ตะบกโพรง (PedDg) - [ 12 ก.พ. 51 13:08:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การคั่วก็แค่ก่อเตา เทมะม่วงหิมพานต์ลงกะละมังก้นผุ สุมไฟให้ลุกโชน แล้วก็คั่วเข้าไปจนเหงื่อหยดเท่านั้น การคั่วมะม่วงหิมพานต์เป็นงานที่เรียกว่าเอิกเกริก ไม่สามารถปิดบ้านแอบคั่วกินกันแค่คนสองคนได้ เพราะต้องก่อไฟควันโขมง แล้วกลิ่นหอมของเม็ดมะม่วงฯโดนไฟนั้น กลิ่นมันขจรขจาย โพนทะนาผู้คั่ว หากไม่เรียกกันกิน ดังนั้น แค่ไฟลุกไม่เกินนาน สมาชิกแต่ละบ้านต่างก็มาชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมาย ทั้งเด็กเล็ก เด็กใหญ่ เห็นหุ่นแล้วน่าหวาดเสียวว่ากะละมังเดียวจะมิพอกิน!! จากคุณ : เพ็ด ตะบกโพรง (PedDg) - [ 12 ก.พ. 51 13:09:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทีมคั่วต้องแบ่งเป็น 3 หน้าที่คือ 1.มือคั่ว ต้องคอยคั่วอยู่ตลอด หยุดไม่ได้เลยตลอดกระบวนการ 2.มือวางเพลิง ต้องคอยเติมฟืนสุมไฟให้ลุกโชน 3.มือคีบ คอยคีบเม็ดมะม่วงฯที่กระฉอกออกมา โยนใส่กะละมัง เม็ดมะม่วงที่ดีควรเก็บมาแล้วออกตากแดดจนเมล็ดแห้ง ถ้าเด็ดมาสดๆ ยางจะออกมามาก ปะทุไฟดังปุ้งปั้ง จากนั้นก็คั่วไป สุมไฟไปเรื่อย จนเม็ดดำ ยางตก เสียงเม็ดปะทุ ปังๆ จากคุณ : เพ็ด ตะบกโพรง (PedDg) - [ 12 ก.พ. 51 13:09:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 "แล้วจะรู้ได้ไงว่าเมื่อไหร่สุก ?" คั่วทีไรมีคนถามอย่างนี้ทุกที!! ความคู่กันของเม็ดมะม่วงหิมพานต์กับกะละมังก้นผุ มีเฉลยอยู่ตรงนี้นี่เองครับ เราต้องคั่วเม็ดมะม่วงฯบนไฟแรงจนน้ำมันในเม็ดออกมา จนกระทั่งไหลหยดลงจากกะละมังก้นผุเป็นเชื้อเพลิง ให้ไฟลามเลียลุกโชนขึ้นมาท่วมทั้งกะละมัง นี้เองเป็นจุดตัดสินว่าการคั่วถึงขีดสุด จากคุณ : เพ็ด ตะบกโพรง (PedDg) - [ 12 ก.พ. 51 13:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นต้นคิดในการใช้กะละมังก้นผุ มันเป็นองค์ความรู้ที่ตกผลึกอย่างยิ่งยวด ผมว่า...มันคือมรดกทางวัฒนธรรมของปราชญ์ชาวบ้าน(นอก) เมื่อไฟลุกท่วมกะละมังก็คั่วต่ออีกอึดใจ ยกกะละมังคว่ำ โครม!! จากคุณ : เพ็ด ตะบกโพรง (PedDg) - [ 12 ก.พ. 51 13:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เม็ดมะม่วงติดไฟลุกกระจัดกระจายเกลื่อนไปทั้งลาน ฮาฮา จากคุณ : เพ็ด ตะบกโพรง (PedDg) - [ 12 ก.พ. 51 13:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ใครจะเอาเท้าเหยียบ เอาทรายกลบ ทำไงก็ได้เถอะให้ไฟดับ เม็ดมะม่วงที่คั่วสุกแล้ว เปลือกดำปี๋เป็นถ่าน จากคุณ : เพ็ด ตะบกโพรง (PedDg) - [ 12 ก.พ. 51 13:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จากวงสนทนากันฮาเฮ เมื่อตอนคั่ว ตอนนี้เปรียบเหมือนดังเราโกรธกันมาเป็นหมื่นปี ต่างคนต่างแยกย้ายไปนั่งยองๆ หาไม้หาหิน ทุบเม็ดมะม่วงฯกันเป้กๆ ไม่มีการพูดการจากันเลย!! มีแต่เสียงทุบเม็ดมะม่วงกินกันหนุบหนับสลับเสียงตด ปู้ดดดด ทุกคนมือดำปากดำกินกันจุ๊บจั๊บ เม็ดมะม่วงฯกะละมังนี้ คั่วออกมาเป็นสามกษัตริย์ คือ ดิบ สุก และ ไหม้ ฮาฮา การทุบเม็ดมะม่วงฯ ถือเป็นศาสตร์ชั้นสูง ผู้ที่มีทักษะอย่างเยี่ยมเท่านั้นจึงจะสามารถทุบออกมาได้เป็นสองเสี่ยง แล้วมองเห็นเม็ดมะม่วงนอนแอ้งแม้งอยู่ในเปลือกอย่างนี้ ส่วนใหญ่จะทุบแป้กเดียวแหลกกระจาย เพราะต้องรีบแย่งกันกิน ฮาฮา จากคุณ : เพ็ด ตะบกโพรง (PedDg) - [ 12 ก.พ. 51 13:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จากนั้นก็แงะเม็ดออกมาจากเปลือกดำปี๋ ออกมาได้เม็ดสวยงามสมบูรณ์ มีเปลือกบางๆเคลือบไว้อีกชั้นหนึ่ง จากคุณ : เพ็ด ตะบกโพรง (PedDg) - [ 12 ก.พ. 51 13:14:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อบี้เปลือกบางออกก็เผยให้เห็นเมล็ดอันแท้จริงสีดังทองสุกอร่าม จากคุณ : เพ็ด ตะบกโพรง (PedDg) - [ 12 ก.พ. 51 13:14:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ส่งเข้าปากเคี้ยวกินกรุบกรับ หวาน หอม มัน ดังรสทิพย์ ความรู้สึกเปรียบประหนึ่งได้ขี่หลังมโนราห์ บินไปชมมักกะลีผลในป่าหิมพานต์อย่างงั้นเชียว ทุกคนเอร็ดอร่อย ทั้งๆที่ปากดำ มือดำปี๋ สังเกตว่านายแบบเล็บดำปื้อ เพราะการแกะเม็ดมะม่วงฯ ฮาฮา จากประสบการณ์ในการกินเม็ดมะม่วงหิมพานต์มานานนับทศวรรษ ผมบอกได้อย่างไม่ลังเลเลยว่า ถึงแม้จะใช้เม็ดกาหยูอย่างเยี่ยมจากระนอง อบด้วยเนยชั้นยอดจากเกาะใต้ นิวซีแลนด์ โรยเกลือบริสุทธิ์จากท้องสมุทรอาร์คติก ก็ไม่สามารถเทียบชั้นเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในกะละมังก้นผุได้เลย ประหนึ่งว่าธรรมชาติพิพากษามาแล้วว่า มะม่วงหิมพานต์จะต้องคู่กับกะละมังก้นผุจนชั่วกัลปาวสาน...ฉะนี้แลฯ จากคุณ : เพ็ด ตะบกโพรง (PedDg) - [ 12 ก.พ. 51 13:15:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 นึกถึงสมัยเด็ก ๆ เลยอ่ะ ตอนอยู่บ้านยาย พวกหลานๆ  ก็รวมตัวกันเผาเม็ดมะม่วงกิน แย่งกันกิน แกะกินกันตรงนั้นเลย เหอะ ๆ จากคุณ : น้องซูซี่ - [ 12 ก.พ. 51 13:43:13 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หมก เม็ด เล็ด ล่อ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 12 ก.พ. 51 13:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขำค่ะ........ น้ำตาลเล็ด...... เห็นภาพไฟลุกท่วม กะละมังกระจาย... กาหยู หก........ หมก เม็ด..... .............. น่าจะเอาไปออกสะเก็ดข่าว จากคุณ : คำหยาดฟ้า - [ 12 ก.พ. 51 14:20:18 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พึ่งเคยเห็นถั่วเม็ดมะม่วงหิมพานต์แบบอยู่ในเปลือกเป็นครั้งแรกเลยครับ จากคุณ : L-Nets - [ 12 ก.พ. 51 14:37:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านเพลินมาก ชอบจริงๆ อยากินแบบคั่วสดๆด้วย จากคุณ : SchwedaKong - [ 12 ก.พ. 51 14:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โอ้ย คิดถึงตอนอยู่อุบล ชะมัด ไปเล้ยงวัวที พกไม้ขีดไฟไปกล่องนึง วัวอยู่ดีดีไม่เดินแล้วก็ ก่อไฟไต้ต้นมะม่วง หิมะพานเผากันตรงนั้น กินกันตรงนั้น กินเสร็จก็ไปโดด น้ำริมสระน้ำ โคดคิดถึงๆๆๆๆ จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 12 ก.พ. 51 14:42:34 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีค่ะพี่เพดดีกรี .... 1 ปี มี 1 กระทู้ให้เห็น ... หลังจากเตะเด็กแล้วไม่พบพี่อีกเลยนะคะ ... พบกันเตะเด็กปีหน้านะคะพี่ ... จากคุณ : มะแอ๋ง - [ 12 ก.พ. 51 14:43:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โห อ่านแล้วอยากกินอ่ะ จากคุณ : chanis - [ 12 ก.พ. 51 14:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เพิ่งเคยเห็นที่มา.... ของ การคั่วมะม่วงหิมมะพาน... ตามตำนาน จะลองมาทำเองที่บ้าน.. เกรงว่า ทั้งตึกจะไหม้วอดวาย.. อีตอนต้องคว่ำกระมังนี่น่ะสิ... ไม่ต้องที่ซุกหัวนอนกัน จากคุณ : JidNince - [ 12 ก.พ. 51 14:55:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ฮามากมาย จะเก็บกะลามังผุ ไว้ให้นะค่ะ จากคุณ : ภูเก็ต-ป่าตอง - [ 12 ก.พ. 51 15:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คิดถึงบ้านมาทันทีทันใด ... หร่อยจังฮู้ จากคุณ : นางมารหน้าคม (khawjaow) - [ 12 ก.พ. 51 15:45:02 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตอนเด็กๆเคยคั่วบ่อยๆค่ะ   แต่ตอนนี้ เม็ดมะม่วงแถวบ้านหายากแล้วค่ะ จากคุณ : เจ้าป้ามหาภัย - [ 12 ก.พ. 51 15:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พากษ์สนุกมาก ภาพก็ยอดเยี่ยม ค่า จากคุณ : samranjai - [ 12 ก.พ. 51 16:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อืม....ประโยชน์ของกะลามังผุ   ...ขำกระจายครับ... จากคุณ : โอ้เอ้ ฮ่าฮ่า - [ 12 ก.พ. 51 16:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สมัยเมื่อผมยังเด็ก (สมัยไหนน่ะ จำไม่ได้เร้ว อิอิ ) เม็ดมะม่วงฯ คั่วแบบนี้ ยังหาซื้อได้ครับ เขาแบ่งใส่ถุงพลาสติคขายถุงละ 5 บาท เดี๋ยวนี้หาไม่ได้เลย เพราะการคั่วและแกะเมล็ดออก ต้องใช้เวลาไม่น้อยครับ เท่าที่เห็นมีแต่เมล็ดมะม่วงที่กระเทาะเปลือกออกตอนดิบๆ แล้วมาอบหรือไม่ก็ทอดในน้ำมันแล้วโรยเกลือ ซึ่งจะไม่หอมเหมือนกับการคั่วทั้งเปลือกแล้วกระเทาะออกทีหลังเลยครับ เรียกว่าถ้าไม่คั่วเองก็หากินยากเต็มทีแล้วหละ สงสารคนเมือง คงหากะละมังก้นผุมาคั่วกันไม่ไ้ด้ หรือจะเอาจริงเวลาคั่วก็ควันโขมง เผลอๆเพื่อนบ้านแจ้งรถดับเพลิงมายิ่งยุ่งกันไปใหญ่ เป็นข่าวคราวใหญ่โต (ก็เพราะว่าไม่ชวนเพื่อนบ้านกิน ฮาฮา ) จากคุณ : PedDg - [ 12 ก.พ. 51 16:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เป็นเยี่ยงนี้นี่เอง.....เคยแต่ซื้อแบบสำเร็จรูป แกะซองทานได้เลย หรือไม่ก็ซื้อแบบกระเทาะเปลือกแล้วมาคั่วหรืออบทานเอง จากคุณ : cybern - [ 12 ก.พ. 51 16:11:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เผลอกลืนน้ำลายไปแล้วสิเรา!!!!! จากคุณ : เซียมซี (ใบเซียมซีที่2) - [ 12 ก.พ. 51 16:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ่านแล้วได้อารมณ์ร่วมมากเลยอ๊ะ อยากไปกินแบบนี้บ้างจัง สุดยอด จากคุณ : ยัยม้าลาย - [ 12 ก.พ. 51 16:25:52 ]

ความคิดเห็นที่ 31 555นึกถึงสมัยเด็กๆเอามาเผ่าแบบนี้ แล้วเพื่อนกินแบบยังไม่สุก เอาปากกัด เช้ามาปากเจ่อ เพราะยางมะม่วง จากคุณ : boychon - [ 12 ก.พ. 51 16:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นแล้วหิว จากคุณ : กันยาพาฝัน - [ 12 ก.พ. 51 16:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 33 น้ำลายไหล อยากกิน เมื่อก่อนแถวบ้านไม่ค่อยได้คั่วกับกะละมังก้นรั่วหรอกค่ะ เพราะว่ามันเป็นงานใหญ่ ส่วนมากได้มาแล้วก็โยนเข้าเตาเผาซะมากกว่า ได้กินแบบด่วนๆ ดี จากคุณ : สิเนหก - [ 12 ก.พ. 51 17:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อยากกิงๆๆ จากคุณ : Ab Psy ReinDEAR++ - [ 12 ก.พ. 51 17:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เพิ่งรู้ค่ะ ว่ากว่าจะได้ออกมาเป็นเม็ดๆ เนี่ย มันยากเย็นเช่นนี้ ว่าแต่  จขกท. เคยกินน้ำแคชชู่วี่รึยังค่ะ ? จากคุณ : My name is Dumilk!!! - [ 12 ก.พ. 51 17:30:55 ]

ความคิดเห็นที่ 36 น่าสนุก + น่าลองทำจริงๆด้วยค่ะ แต่ถ้าทำบ้านรัต สงสัยเค้าจะแตกตื่นเรียกดับเพลิงแน่ๆเลยค่ะ จากคุณ : -:ราชินีแห่งรัตติกาล:- - [ 12 ก.พ. 51 18:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เพดดี้ เมื่อไหร่เข้ากรุง อยากกินทุเรียนทอด ตอนเด็กๆ เคยไปเก็บมะม่วงหิมพานต์จากต้นในป่า ใกล้ๆบ้านยาย ที่สมุย จำได้ว่า เนื้อตรงที่หล่อนเรียกว่าก้านผล มันเปรี้ยวมากๆ แต่ไม่เคยได้เห็นเค้าคั่วแบบนี้อ่ะ จากคุณ : เพลิดเพลิน - [ 12 ก.พ. 51 19:00:22 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มันเป็นองค์ความรู้ที่ตกผลึกอย่างยิ่งยวด....... โอ๊ว...มันยอดมากเลยซาร่า (ใช้ศัพท์แสง  สวิงสวายมาก ๆ ค่ะ  อิอิ) จากคุณ : โสดในซอย - [ 12 ก.พ. 51 20:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 39 น่าหนุกๆๆอ่ะ อิอิ จากคุณ : เกิดจากความรัก - [ 12 ก.พ. 51 21:45:29 ]

ความคิดเห็นที่ 40 555 เห็นตอนค่ำกะละมังแล้วขำ เม็ดมะม่วงกระจายไปคนละทิศละทาง แบบนี้ซินะถึงคั่วในที่แคบๆ ไม่ได้... อิอิอิ... จากคุณ : แม่เฮงเฮง (My revenge) - [ 12 ก.พ. 51 23:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 41 กินไปฮาไป จากคุณ : เจ้าเพิร์ส - [ 13 ก.พ. 51 01:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สำนวนเขียนสุดยอดครับ นับถือๆ..ขนาดผมเขียนหนังสือส่ง..ผมยังเขียนไม่ได้แบบนี้เลย.. จากคุณ : ก้องบ้า - [ 13 ก.พ. 51 11:18:56 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตามมาฮ่า จากคุณ : baibur - [ 13 ก.พ. 51 13:02:19 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เคยกินแบบคั่วบ้าน ๆ ที่พัทลุง แบ่งใส่ถุงขายยังพอมีหลงเหลือค่ะ แล้วก็กินแบบคั่วอย่างนี้ กระเทาะเปลือกแล้วเอาไปเคี่ยวน้ำตาลเหนียวๆ แปะมาบนใบยางหรือใบอะไรไม่ทราบ อร่อยมาก ๆ หอมกลิ่นควันไฟหน่อย ๆ ขอบคุณนะคะที่นำมาฝาก สำนวนเหลือร้ายจริง ๆ จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก - [ 13 ก.พ. 51 13:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นแล้วคิดถึสมัยเด็ก ........โหวต......... นะครับ จากคุณ : แบล็คไท - [ 13 ก.พ. 51 15:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คิดถึงสมัยเด็กๆ กินกันแบบนี้เลย เมื่อก่อนแถวบ้านมีเยอะค่ะ  เวลาติดผลกลิ่นมันจะหอม ผิวมันจะนุ่มๆ กัดคำแรก อ๊ากกก!!! เปรี้ยว บางลูกอมเปรี้ยวอมหวาน ทุกวันนี้มูลค่ามะม่วงหิมพานต์สูงขึ้น ขายแพงเชียว จากคุณ : ลัด - ดา (coji) - [ 13 ก.พ. 51 15:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 47 รีวิวน่ารักดีจังค่ะ ชอบๆ เพิ่งเคยเห็นวิธีการคั่วเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ท่าทางน่าสนุกจังค่ะ จากคุณ : คุณนายเย็นชา - [ 13 ก.พ. 51 20:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เพราะตั้งใจมาทำรีวิว ผมเลยพลาดไปหลายเม็ด มัวแต่ถ่ายรูป กินไม่ทัน ใครไม่รู้อิโหน่อิเหน่ รีบคว้าเม็ดกัดพรวดเข้าให้ ไม่ป่กพองก็ก็ปากดำครับ ฮาฮา ตอนที่ไฟลุกท่วมกะละมังแล้วนี่คือไฮไลท์ครับ ถ้ามือฉมังก็จะคว่ำกะละมังโครม ครอบเม็ดไว้ได้หมด ไฟก็ดับ เม็ดรวมเป็นกอง แต่อย่างว่าคั่วตั้งนานแล้ว พรรคพวกกลืนน้ำลายกันไปหลายเอื๊อก พอไฟลุกท่วม พวกยืนรอบกองไฟก็รีบมามุงโดยมิได้นัดหมาย คนคั่วก็สาดกะละมัง ผ่าง เม็ดมะม่วงติดไฟ กลิ้งหลุนๆ กระเด็นไปคนละทิศคนละทาง คนทั้งวงแตกฮือ ฮาฮา จากนั้นก็รีบดับไฟ ต่างคนคว้าไม้คว้าหิน จับจองทำเล นั่งตอกเม็ดมะม่วง ป๊อก แป๊ก ป๊อก แป๊ก มันอร่อยและสนุกก็ตรงนี้แหละครับ น้ำแคทชูวี่ ผมเคยได้ลองกินเป็นบุญปากคราวไปภูเก็ต ขวดนึงตั้งสองร้อยกว่าบาท เจ้าของสูตรแนะว่าผสมน้ำโซดากินอร่อยนัก รสชาติหอมหวล ผมก็ยังติดใจอยู่ แต่ปากหนักไม่ได้ถามว่าเขาคั้นน้ำมันออกมาอย่างไร อีกอย่างถ้าจะคั่วเม็ดมะม่วงฯให้อร่อยต้องไปขโมยเก็บสวนเขามาถึงจะสนุก แต่ก็เสี่ยงโดนหนังสติ๊กไล่ยิงกบาลไม่น้อย ตอนเด็กยังไร้่เดียงสา ไม่อายบาป ผมกับเพื่อนยกแก๊งค์ไปขโมยเอามาคั่วกิน ได้พิสูจน์ทฤษฎีที่ว่าของขโมยเขากินมันอร่อยกว่าซื้อกินจริง ฮ่าๆๆ เม็ดมะม่วงกะละมังนี้ก็ไปขอซื้อเขามา ขึ้นไปเก็บกันบนเขา ปกติขายเม็ดดิบกิโลฯละ 30 บาท เราหอบมาไม่รู้กี่กิโลฯ คั่วได้ถึงสามกะละมัง แต่เจ้าของสวนก็คนบ้านเดียวกันคุ้นกัน เลยยกให้มาทั้งกระบุงไม่ต้องจ่ายตังค์ ผลสรุปออกมาว่า.... ของฟรีน่ะแหละ อร่อยที่ซู้ดดดด ฮาฮา จากคุณ : PedDg - [ 14 ก.พ. 51 10:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เรามีโอกาสได้กินแบบคั่ว ที่ต้องมาแกะเปลือกบาง ๆ เองเหมือนกัน ฝากเพื่อนซื้อมา ถุงละ 120 แน่ะ (รู้สึกจะครึ่งโล) หอมกว่าแบบแกะมาแล้วเยอะเลยค่ะ กินไป แกะเปลือกไป สนุกดี ปล. จขกท. ฮามาก  เห็นภาพตอนไทยมุงที่รอให้คว่ำกะละมัง วิ่งแตกกระเจิงอ่ะ ^^ จากคุณ : jeeddy - [ 14 ก.พ. 51 14:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 50 โหว กว่าจะได้กินนนนนนน  มิน่ามัยแพง จากคุณ : เng (ningnoi) - [ 14 ก.พ. 51 18:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เง้อออ เม็ดมะม่วงร่วงกระจายยยยยยย จากคุณ : qool1986 - [ 16 ก.พ. 51 14:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อ่านแล้วน่ารักจังค่ะ สนุกดีค่ะ ว่าง ๆ มารีวิวแบบนี้อีกนะค่ะ จากคุณ : เอาเข้าจริงแล้ว - [ 16 ก.พ. 51 19:39:01 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คั้นน้ำจากเนื้อมะม่วง แพงมากๆๆ    วิธีทำ  ก็ใช้ที่บีบคั้นน้ำส้ม  .... เอาใส่ลงไปแล้วกด ก็ได้น้ำออกมาชอบกินทั้งเนื้อ-เม็ด และใบอ่อนเลย และชอบแกะเอายางมาใช้ทำกาวด้วย จากคุณ : ชัยบาล - [ 19 ก.พ. 51 21:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ใบอ่อนจิ้มน้ำพริกกินอย่างอร่อยเลยครับ จากคุณ : PedDg - [ 22 ก.พ. 51 13:05:48 ]