ความคิดเห็นที่ 1 LE GOURMET เป็นร้านที่ไปซื้อชาฝรั่งบ่อยๆค่ะ อุปกรณ์มีให้เลือกเยอะเลย นำสตางค์ไปเยอะๆด้วยนะคะ อันนี้ไปตามแผนกเครื่องครัวตามห้างได้ทุกที่ค่ะ กาแบบเป็นชุดที่พารากอนเยอะดีค่ะ จากคุณ : MAE FAI - [ 2 มี.ค. 51 11:54:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ชาของโรงแรมเพนินซูล่าน่าสนใจนะครับ มีชาชนิดที่ blend ให้เป็น signature ของเค้าเองด้วย กระป๋องนึงห้าหกร้อยบาท (ดูเหมือนจะ 100 กรัม) จะลองไปดูที่โรงแรมเลย หรือไปดูที่ Peninsula Boutique and Cafe ที่พารากอนก็ได้ครับ แล้วก็มีชา dilmah แบบพรีเมี่ยมหน่อยคือ เป็น ชา dilmah ชนิดที่ค่อนข้างหาดื่มตามร้านทั่วไปยากนิดนึง มีเสิร์ฟให้ดื่มที่ร้าน The Lantern ของโรงแรมมิลเลนเนียมฮิลตันที่ท่าเรือคลองสาน เข้าใจว่าขายเป็นกระป๋องกลับบ้านด้วย ลองดูตัวอย่างชานี้ได้ที่ http://www.teatimerocks.com/ นะครับ ถ้าเอาแบบราคาสูงเลยก็ชา Mariage Freres ซึ่งหาซื้อได้ที่โรงแรมโอเร็นเต็ล (และ Oriental Shop ตามห้าง) และโรงแรมสุโขทัย อันนี้กระป๋องนึง ประมาณพันแปดพันเก้าร้อยบาท (รู้สึกจะ 100 กรัม) ปล. 1. ซื้อชาอย่าลืมดูวันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุด้วยนะครับ 2. ซื้อชาในเมืองไทย อาจต้องทำใจเรื่องราคานิดนึงครับ เพราะมันแพงถึงแพงมาก จากคุณ : คิดถึงตอน burn แล้วเหนื่อย - [ 2 มี.ค. 51 13:40:12 A:125.25.237.12 X: TicketID:138519 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เพื่อนฝากตอบค่ะ ^_^ ชาไทยสีส้มๆ เป็นชาชนิดหนึ่งในชาอัสสัมค่า ^ ^ แต่บางร้านก็เอาใบชาหลายๆ ชนิดมาผสมกันนะคะ =w=!! ชอบเอิร์ลของ twining นะคะ ชาใบหอมมาก (แต่ถ้าเปิดควรรีบกินไม่งั้นหมดกลิ่นจะน่าเสียดายมากๆ TTATT) แบบถุงชาก็หอม รสเข้ม =w=b ชอบที่สุดเลย... เรื่องที่กรองชาจริงๆ เดี๋ยวนี้มีกาต้มแบบที่มีที่กรองชาด้านในด้วย เป็นแบบใส่ใบชาตรงกลางกา หรือไม่ก็เป็นที่กรองอยู่ตรงพวยกา หรือเป็นแบบลูกตุ้ม ใส่ใบชาแล้วค่อยใส่ลงไปในกา แต่ที่อยากแนะนำคือ กระเบื้องกรองชาแบบที่วางบนแก้วแล้วค่อยเทชาลงไป แต่ขอบอกว่า หาซื้อยากค่ะ เกรงว่าในจตุจักรจะไม่มี (= =!! อยากได้แต่หาไม่เจอ) ช้อนตักชา = =!! เราใช้ช้อนตักกาแฟทั่วไปนะ สมัยก่อนใช้เปลือกหอยเหรอ.. รู้แต่ช้อนเงินแฮะ แหล่งซื้อใบชาก็ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปค่ะ เราชอบซื้อในอิเซตัน (กิน twining เป็นอยู่อย่างเดียวนี่นา = =a) ถ้ายังเป็นมือใหม่เรื่องชา ลองซื้อชาแบบถุงชาชงดูก่อนดีกว่าค่ะ จะได้ถือโอกาสชิมชาหลายๆ ประเภท หลายๆ ยี่ห้อด้วย ว่าตัวเองชอบแบบไหน เหมาะกับแบบไหน ขอให้อร่อยกับชานะคะ ------------------------------------------------------------------- ส่วนอันนี้ขอแนะนำจากประสบการณ์ แต่ไม่ใช่เซียนชาค่ะ ^^ ชาของ Mariage Freres อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกก (เพิ่งรู้ว่ามีขายที่กทม!!) กลิ่นที่ได้รับความนิยมรู้สึกจะเป็น Marcopolo (เคยชิมแต่ลืมไปแล้ว) ส่วน Marcopolo สีแดง จะหอมสตรอว์เบอรี่มากๆ >///< ดูข้อมูลเพิ่มได้จากเวบค่ะ ^^ http://www.mariagefreres.com/ จากคุณ : Idefix - [ 2 มี.ค. 51 14:02:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ใช่เซียนชา แต่ก็ดื่มมานาน...ขอเพิ่มเติมให้กับกระทู้ข้างบนว่า - ชุดน้ำชาครบสูตรที่มี กา ถ้วย จานรอง เหยือกใส่นม น้ำตาลเป็นเซต เค้ามีขายที่ไหนคะ? ที่กรองชาที่ใช้วางกับแก้ว เอาแบบไม่แพงมาก จตุจักรจะมีมั้ยคะ? •ชุดน้ำชาครบสูตร ... ตามห้างสรรพสินค้าดีๆ มีให้เลือกพอสมควร หรือไม่ก็ตามร้าน specialty •ที่กรองชาที่ใช้วางกับแก้ว (เปลี่ยนเป็นถ้วยชานะ) เอาแบบไม่แพงมาก ... ถ้าไม่ได้ไปโชว์ใครแล้วละก็ ใช้กระชอนเล็กๆที่ใช้กรอง-ร่อนน้ำตาล ในการทำขนมได้ เลือกดูแบบที่มีก้านสองก้านครงตัวกระชอน สำหรับใช้วางบนภาชนะได้ - ช้อนตักชา ที่อ่านมาโบราณเค้าใช้เปลือกหอย(ทำไมต้องใช้เปลือกหอยคะ?) ถ้าใช้อย่างอื่นมันจะทำปฏิกริยากับชามั้ยคะ? ใช้ช้อนชาธรรมดาได้มั้ย?(เราคิดมากไปมั้ยคะเนี่ย -__-") •ช้อนตักชา ที่อ่านมาโบราณเค้าใช้เปลือกหอย ... ในสมัยโบราณ ก่อนที่จะใช้โลหะมาทำช้อน เขาใช้ ของจำพวกไม้ เปลือกหอย หริอวัสดุที่หาใช้ได้ง่ายทำช้อน เมื่อเริ่มใช้เงิน (silver) มันก็จะมีลายต่างๆกัน ที่ปลายของด้ามช้อน และมีอยู่ลายหนึ่งที่เรียกว่า shell design •ถ้าใช้อย่างอื่นมันจะทำปฏิกริยากับชามั้ยคะ? ใช้ช้อนชาธรรมดาได้มั้ย?... เท่าที่รู้ เขาได้มีการใช้ช้อนเงิน มาเป็นศตวรรษแล้วครับ - ใบชา ยี่ห้อต่างๆ (เท่าที่ดูเห็นขายเป็นซองเยอะแยะ แต่อยากได้แบบใบมากกว่า) แบบราคาไม่แพงมาก คุณภาพกลางๆ จนถึงดีตอนนี้กำลังดู twining กับ whittard  มียี่ห้ออื่นแนะนำอีกมั้ยคะ? พวก Cylon, Assum, Darjeeling, EarlGrey, Orange Pekoe, English Breakfast, Prince of Wales •ใบชา ยี่ห้อต่างๆ ... ก่อนอื่นต้องรู้และเข้าใจว่าชอบชาชนิดใดก่อน ชาบางชนิดใช้ดื่มไม่ใส่นมและน้ำตาล บางชนิดไม่ใส่นม บางชนิดใช้ดื่มกับ lemon •มียี่ห้ออื่นแนะนำอีกมั้ยคะ? ... บ้านเราไม่มีให้เลือกมาก ที่ชอบก็จะมีของ Fortnum & Mason คุณภาพดี กลิ่นหอม แต่ราคาในบ้านเราค่อนข้างจะสูงกว่า Twinings มาก - ใบชาถ้าเปิดแล้วจะเก็บได้นานแค่ไหนคะ? ใช้ซองกันชื้นใส่ด้วยจะได้มั้ยคะ? •ถ้าปิดกระป๋องให้สนิทก็จะอยู่ได้นานจนหมดกระป๋องละ แต่ก็ขึ้นอยู่กับดื่มบ่อยแค่ไหน และจะค้างอยู่ใน กระป๋องนานแค่ไหน และไม่เคยใช้ซองกันชื้น Orange Pekoe จริงๆแล้วเป็น grade ของใบชามากกว่าเป็น blend ของชาครับ จากคุณ : tnu - [ 2 มี.ค. 51 16:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ดีใจจัง มีคนมาตอบเยอะเลย แสดงว่าคนในห้องนี้ก็ดื่มชากันเยอะพอควร ได้ความรู้มากๆ ขอถามอีกหน่อยนะคะ.. เท่าที่ลอง search ดู ใบชาในเมืองไทยที่ขายราคาไม่แพง แพ็คถุงแบบ mass product สำหรับร้านชารถเข็นน่ะค่ะ(ดีขึ้นมาหน่อยก็มีกระป๋องใส่) เค้าบอกว่าเป็นชา ซีลอน (หรือชาดำ?) และบอกว่า ชาสีส้มๆจัดๆรสเข้มที่ใช้ทำชาเย็น พวกตรามือ ตราแพะ เป็นชาอัสสัม? ทุกวันนี้เราเข้าใจว่า.. ชาอัสสัม = ชาสีส้ม รสเข้ม ควรทานแบบใส่นม ชาซีลอน = ชาสีออกน้ำตาล ใส่นมแล้วมีสีน้ำตาลอ่อน รสเข้ม(แบบพวกชา บาเล่แบล็กที) มันจริงมั้ยคะ? เราเข้าใจผิดรึเปล่า? ถ้าเราจะชงแบบ afternoon tea หรือ high tea ชาแบบนี้ใช้ได้มั้ยคะ? รึมันเป็นชาที่เค้าเอามาผสมเอง ไม่ pure แท้ เราสังเกตว่าใบมันละเอียดแทบจะเป็นผง เอามาชง รสจะเข้มไปรึเปล่า? รึเหมาะแค่ทำชาเย็นเฉยๆ จากคุณ : bunnygirl - [ 2 มี.ค. 51 16:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกมั้ยนะครับ ผมเข้าใจว่า โดยทั่วไปแล้ว สำหรับชาชนิดเดียวกัน ชาที่เป็นใบ หรือ leaf tea เป็นชาที่มีคุณภาพดีกว่าชาที่เป็นผง หรือ dust tea (ซึ่งโดยทั่วไปก็จะแพ็กใส่ถุงขายเป็น teabags) คือในกระบวนการผลิตชา จะมีช่วงที่ดำเนินการไปแล้วเกิดทำให้ใบชาแตกหักกลายเป็นผง แล้วตรงที่เป็นผงนี่แหละก็คือชาเกรดต่ำที่ผู้ผลิตเอามาแพ็กขายเป็น teabags ซึ่งราคาถูกและให้รสเข้มข้น ถ้าที่ผมเข้าใจมานี้ไม่ผิด afternoon tea หรือ high tea เนี่ย เป็นช่วงของความหรูหรา นั่งละเลียดและแยกแยะรสชาติของขนมและชาอย่างพิถีพิถัน ฉะนั้น โดยทั่วไปก็น่าจะใช้ leaf tea นะครับ จากคุณ : คิดถึงตอน burn แล้วเหนื่อย - [ 2 มี.ค. 51 18:38:13 A:125.25.17.224 X: TicketID:138519 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ทุกวันนี้เราเข้าใจว่า.. ชาอัสสัม = ชาสีส้ม รสเข้ม ควรทานแบบใส่นม ชาซีลอน = ชาสีออกน้ำตาล ใส่นมแล้วมีสีน้ำตาลอ่อน รสเข้ม(แบบพวกชา บาเล่แบล็กที) มันจริงมั้ยคะ? เราเข้าใจผิดรึเปล่า? >> ถูกค่ะ ตามลำดับความเข้มอ่อน ชาอัสสัมเป็นชาที่เข้มที่สุดค่ะ ส่วนชาซีลอนเคยได้ยินว่าเป็นชาที่ใส่นมแล้วจะให้สีสวยที่สุด บางคนบอกเหมือนสีทอง รสชาติกลางๆค่ะ ตามความเห็นเรานะคะ ชาอัสสัมเนี่ยไม่น่าจะนำมาดื่มเป็น high tea อ่ะค่ะ อาจจะชงร้อนดื่มตอนเช้าๆแบบอินเดีย (เคยเห็นบางสูตรเค้าใส่ cinnamon ลงไปด้วยแหละค่ะ) หรือดื่มเย็นๆให้ความรู้สึกๆหวานๆชื่นใจดีกว่า ถ้าสนใจแบบ high tea แนะนำเป็นชาแบบ blend ดีกว่าค่ะ เพราะมีหลายกลิ่นหลายรส จับคู่กับขนมได้หลากหลายกว่า และที่สำคัญกลิ่นและรสจะได้ไม่หนักเกินไปด้วยค่ะ ที่นิยมก็จะเป็นชาดาร์จิลิ่ง earl grey/ lady grey  ชาวานิลลา ชาผลไม้ หรือชากุหลาบ เป็นต้นค่ะ ส่วนร้านขาชาที่เยาวราชมีแต่ชาจีนค่ะ ซึ่งชนิดของชา การชง และการดื่มก็จะเป็นอีกแบบค่ะ ถ้าสนใจซื้อใบชาฝรั่งก็ลองดูที่ le gourmet ตามคห.บนแนะนำนะคะ หรือไม่ก็ whittard of Chealsea น่ะคะ จากคุณ : Bravo to the Universe (Bravo to the Universe) - [ 2 มี.ค. 51 18:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ชอบ earl grey ของ Mark and Spencor หอม มาก ๆ แต่ จะเข้มไปนิดค่ะ สำหรับคนที่ไม่ค่อยทานชา  ส่วนตัวจะลอง ตามร้านชา  อย่าง High Tea , Agaligo.  และ ลองของ whittard of Chealsea ค่ะ ลองจนรู้ว่า ชอบและไม่ชอบชา แบบ ไหน และ ขนมที่ต้องคู่กันกับชา ต้องเข้ากันด้วยนะคะ   ขอให้มีความสุขกับการจิบชาค่ะ จากคุณ : payoonjung (Payoonjung) - [ 2 มี.ค. 51 22:42:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมชอบดื่มชาสูตรนี้อ่ะครับ... ชงชา Cylon ของ Twinings เอาให้เข้มนิดหน่อย...(ผมใช้ใบชา ชงในกานะครับ) พอได้ที่ใส่ใบมิ้นท์สักหนึ่งถึงสองก้าน ลงไปในกาเลย รอสักพัก รินใส่ถ้วยชา เติมน้ำตาล...หอม อร่อย เอาไว้ดื่มกับของว่างที่เป็นของคาว พวกขนมปังหน้าหมู แซนวิชทูน่า ขนมปังทาตับบด ครับ จากคุณ : pja - [ 2 มี.ค. 51 23:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอตอบเรื่อง Afternoon Tea กับ High Tea นะครับ เมื่อตอนที่ผมเรียนอยู่ที่อังกฤษนั้นจำได้ว่ากินทั้ง Afternoon Tea กับ High Tea ซึ่งเป็นเรื่องชาวบ้านทั่วๆไป ที่ธรรมดามากๆ ไม่ใช่เรื่องหรูหรา หรือฟุ่มเฟือยอะไรเลยครับ จะว่าไปแล้วมันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของชาวอังกฤษด้วยซ้ำไป Afternoon Tea ซึ่งว่ากันว่าเป็นเริ่มมาจากแม่บ้านชาวอังกฤษที่มีฐานะดี ที่ไม่ได้ทำงานกัน มักจะนัดพบเพื่อนๆที่บ้านแล้วก็จะ เสิร์ฟ ชา หรือกาแฟ กับอาหารว่าง ซึ่งจะอยู่ระหว่าง 3-5 โมงเย็น แต่ปรกติแล้วจะเป็น 4 โมงเย็น อาหารที่เสิร์ฟก็จะมักเป็น ของเบาๆ ง่ายๆ เช่นพวก sandwiches หรือพวก cakes, scones และ pastries ส่วนใหญ่จะใช้ชาประเภทที่ดื่มผสมกับน้ำตาลและนม โดยจะใช้ loose tea leaves ชาจะชงมาเป็นกา และจะเสิร์ฟที่โต๊ะรับรองเล็ก ซึ่งไม่ใช่การเสิร์ฟที่โต๊ะอาหาร ส่วน High Tea นั้น หมายถึงอาหาร ที่กินระหว่าง 5 หรือ 6 โมงเย็น คนที่จะกิน High Tea นั้น ส่วนใหญ่คือกลุ่มผู้ทำงาน และ คนที่ทำงานใช้แรงงาน คนกลุ่มนี้จะกินอาหารกลางวันตามปรกติที่ช่วงเที่ยง และช่วงเลิกงานคือประมาณ 5 โมงเย็น ถึง หนึ่งทุ่ม ไม่ได้หยุดกิน Afternoon Tea เหมือนผู้อื่นที่ว่างหรือมีเวลากิน ดังนั้น  High Tea จึงหมายถึงอาหารเย็น บางครั้งเรียกสั้นๆว่า Tea ส่วนคำว่า ‘high’ นั้น หมายถึงโต๊ะอาหาร อาหารที่เสิร์ฟกับ High Tea ก็จะเป็นพวก cold meats, ไข่, ปลา, ขนมปัง, cheese และ sandwiches เป็นต้น รวมทั้ง cakes และขนมหวานอื่น ส่วนเรื่องที่กลายมาเป็นของหรู หรือฟุ่มเฟือยในบ้านเรานั้น ก็คงจะมาจากกลุ่มคนที่มีสตางค์ที่มีเวลาว่างมาก และอยากจะทำให้ เรื่องธรรมดาเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดามากกว่า จากคุณ : tnu - [ 3 มี.ค. 51 18:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุก คห.มากๆนะคะ จากคุณ : bunnygirl - [ 5 มี.ค. 51 20:39:29 ]