ความคิดเห็นที่ 1 ฟอมารีน จริงๆ ค่ะ คาดว่า พ่อครัว ไม่ได้ เอาปลาเป็นๆ มาทำ แล้ว เขา ล้างปลาออกไม่หมด พงก กุ้ง หมึห อาหาร ทะเล เหล่านี้ ต้องระวังให้ดี จากคุณ : ทุเรียนสีชมพู - [ 8 เม.ย. 51 12:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอชื่อ ปลาหน่อยได้มั้ยครับ คำถามกว้างมาก เอาเป็นว่า ทานปลาอะไร? ปรุงแบบไหน? อย่าเพิ่ง ด่วนสรุป ครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 8 เม.ย. 51 12:25:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มีสามเคสค่ะ เคสแรก ทานสเต็กปลาหิมะที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อเป็นตัวอักษร 3 ตัว ตัวแรกกับตัวสุดท้ายคือตัว A ค่ะ เคสนี้เรียกพนักงานมา พอแจ้งพนักงานก็ถามว่าจะยกเลิกมั้ยหรือจะสั่งจานใหม่ ก็เลยยกเลิกไป เคสสอง ทานเนื้อปลาผัดขึ้นฉ่าย ที่ร้านกึ่งเบเกอรี่ ที่เกี่ยวข้องกับสายการบินหนึ่งค่ะ เคสนี้มีเรียกพนักงานให้มาชิมด้วย แต่พนักงานไม่ยอมชิม และยืนยันว่าเป็นปลาที่ซื้อมาตอนเช้าวันนั้นค่ะ ก็คืนอาหารไป เคสสาม ทานเนื้อปลาที่อยู่ในแกงส้ม เป็นอาหารปิ่นโตของร้านอาหารชื่อเป็นตัวอักษร 2 ตัว มี & อยู่ตรงกลางระหว่างอักษร 2 ตัวนั้นค่ะ เคสนี้เป็นอาหารปิ่นโต ก็เลยคืนไม่ได้ค่ะ จากคุณ : purple eyes - [ 8 เม.ย. 51 12:51:23 A:58.9.111.72 X: TicketID:155515 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กลิ่นฉุนคล้ายๆ พวกกลิ่นแอมโมเนีย เราว่า ปลาน่าจะไม่สดนะคะ มันอาจจะเกิดการเน่าค่ะ พวกโปรตีนเกิดการย่อย แล้วมันจะได้พวกแอมโมเนียค่ะ แต่ปลา อย่างพวกปลาฉลามเนี่ย เค้าจะมีกลิ่นเหม็นแอมโมเนียอยู่ที่เนื้ออยู่แล้วค่ะ ทำให้เวลากิน มันจะมีกลิ่น จากคุณ : ~~ช้างน้อยร้อยโล~~ - [ 8 เม.ย. 51 12:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปลาหิมะ เป็นปลาเมืองหนาว เนื้อปลาจะขาว มีไขมันสูง ปลาพวกนี้นำเข้ามาทั้งนั้น ตอนที่ปลาอยู่ในระหว่างเดินทาง การควบคุมอุณหภูมิ มีความจำเป็นมาก เพราะหากอุณหภูมิไม่ได้ที่ เนื้อของปลาก็จะเสื่อมสภาพ ซึ่งอาจทำให้เกิดการย่อยสลายของโปรตีนในเนื้อปลา    แต่ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะเกิดจากร้านอาหารที่ปรุงมากกว่า ลองคิดดูง่ายๆนะครับ  ปลาจำเป็นต้องเก็บฟรีสไว้  หากลูกค้าสั่ง ก็จะนำมาละลายก่อนปรุง ซึ่งคาดว่าคงใช้เวลาค่อนข้างนาน   พ่อครัวอาจจะคิดวิธีหาทางลัด ก็คือ นำออกมาจากฟรีสเพื่อ ให้ละลาย แต่ยังคงควบคุมอุณหภูมิอยู่  คล้ายๆตู้ชิล ซึ่งทำให้เนื้อปลา อ่อนตัวลง   แต่หากยังไม่มีออเดอร์ ปลาก็เริ่มมีปัญหา เชื้อบางชนิดอยู่ในอุณหภูมิ ของตู้ชิล ได้สบายๆ จึงทำการย่อยสลายโปรตีน ทำให้เกิดกลิ่น และรส ที่ไม่พึงปรารถนา ส่วนเคส 2 และ 3 นั้น เนื่องจากไม่ทราบชนิด ของเนื้อปลา และ ไม่รู้ว่าปลานั้นซื้อมาจากไหน หรืออาจจะเป็นชิ้นส่วนปลา ที่แม่ค้านำมาขายเป็นเนื้อปลา คงประมาณว่า ร้านขายข้าวแกง ต้องการลดต้นทุน เพิ่มความสะดวกในการประกอบอาหาร จึงเลือกใช้เนื้อปลาที่ขายทั่วไป  ซึ่งจะคล้ายๆกับเคสแรก ยิ่งบ้านเราเป็นเมืองร้อน โอกาสที่เชื้อจะเจริญเติบโต เป็นไปได้อย่างสูง วิธีหลีกเลี่ยง ควรเลี่ยงทานเนื้อปลา ที่เราไม่ทราบว่าเป็นชนิดใด ทั้งนี้เพื่อป้องกัน อันตรายจากเนื้อปลามีพิษด้วย ซื้อปลาที่มีชีวิตมาปรุงเอง ดีที่สุด แต่ถ้าไม่มีเวลาทำ ควรเลือกร้านที่เรามั่นใจว่าใช้ปลาเป็นๆมาปรุง สำหรับปลาที่แช่  ฟอร์มาลีน นั้น มีมานานแล้วครับ   ทั้งนี้ ชาวประมง และพ่อค้าคนกลาง จะใช้ฟอร์มาลีน ดองปลาที่มีราคาแพง  เช่นปลาเก๋าบางชนิด ปลาจาระเม็ด ปลาใบขนุน และอีกหลายๆชนิด  รวมถึงกุ้ง และหมึก ที่ได้จากการทำประมงอวนลาก ส่วนปลาที่ได้จากการทำ อวนล้อม อวนดำ จะเป็นปลา ที่ไม่ดองฟอร์มาลีน เพราะจับกลางคืน เช้าก็นำเข้าฝั่งเพื่อขาย จึงไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายซื้อน้ำยามาดองปลาพวกนี้ครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 8 เม.ย. 51 13:56:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เคยกินเหมือนกันครับที่ญี่ปุ่นเลย เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ค่อนข้างคุณภาพดีมากๆ ชือว่าปลา ei ในภาษาญี่ปุ่น RAY ในภาษาอังกฤษครับ ได้กลิ่นแอมโมเนียฉุนมากๆครับ จากคุณ : เคยกินในญี่ปุ่น - [ 8 เม.ย. 51 14:42:07 A:211.19.31.34 X: TicketID:173098 ]