Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    +++++ไปฝีกงานมาค่ะเลยเอามาเล่าให้ฟัง+++++

    พอดีได้ไปฝีกงานในครัวของโรงพยาบาลมาน่ะค่ะ คิดว่าคงมีคนสนใจเลยเอามาแบ่งปันกัน จริงๆเราเอากล้องไปด้วยค่ะแต่.......................พอจะถ่ายแบตมันหมด -.- เอาเป็นว่าเล่าปากเปล่ารูปประกอบจะหาในเน็ตให้เท่าที่จะหาได้ก็แล้วกันนะคะ
    จริงๆเราไม่อยากฝึกงานในครัวใหญ่ๆแบบนี้ เทอมที่แล้วมีเพื่อนมาฝึกที่นี่คนนึง เขาบอกว่าที่นี่น่ะดี แต่คนอื่นๆที่ได้ไปฝึกครัวในลักษณะนี้ไม่มีใครชอบสักคน เพื่อนคนนึงให้คำจำกัดความครัวแบบนี้ว่า "เป็นครัวสำหรับคนแก่ที่รอวันเกษียณ" เพราะส่วนใหญ่คนที่ทำงานที่นี่จะค่อนข้างมีอายุ จู้จี้ จุกจิก ขี้บ่น
    พอได้รู้ว่าครูจะให้ฝึกในครัวแบบนี้ก็จิตตกไปหลายวันเลยค่ะ ด้วยคำที่เพื่อนพูดนั่นแหละ และแล้ววันแรกก็มาถึง...............................

    เดินเข้าครัวมาก็เจอเชฟยิ้มแต้รออยู่บอกว่าวันจันทร์งานไม่เยอะเท่าไหร่หรอกเธอไปช่วยอันเน็ตในครัวเย็นก่อนก็แล้วกัน เขาก็ให้เราทำแซนวิชแล้วก็คุยกันไปเรื่อยๆ เธอบอกว่าเพิ่งมาทำที่นี่ได้สองเดือนก่อนหน้านั้นเธอทำงานร้านอาหารมาก่อน เมื่อหน้าร้อนปีที่แล้วร้านอาหารที่เธอทำปิดหน้าร้อน1เดือน เธอเลยได้มาทำงานหน้าร้อนที่นี่แล้วเกิดชอบขึ้นมาแล้วมีตำแหน่งว่างเธอเลยย้ายมาอยู่ที่นี่ซะเลย หลังจากนั้นเราก็ช่วยกัน ทำแซนวิชเค้ก (เคยเสนอวิธีทำไปเมื่อนานมากแล้วค่ะ ถ้าตอนนี้สงสัยว่าหน้าตาเป็นยังไงเชิญที่บล๊อคได้ค่ะ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mary-poppins&month=05-2005&date=21&group=2&gblog=1 ) หลังจากนั้นเราก็ต้องออกมาช่วยที่ครัวร้อนก็เริ่มจากทำพาย ที่นี่จะทำอาหารสำหรับผู้ป่วย และรวมไปถึงอาหารที่จะขายที่โรงอาหารของโรงพยาบาลด้วย อาหารของผู้ป่วยจะมีแค่มื้อละอย่าง(สู้ที่เมืองไทยก็ไม่ได้เนอะ) แต่ก็มี สลัดและของหวานให้ด้วยค่ะ ส่วนของโรงอาหาร จะมีทั้งหมด 5 อย่างต่อวัน เป็น ซุป 1 อย่าง อาหารทั่วไป 2 อย่าง อาหารมังสวิรัต 1 อย่าง และพาย พอ9โมงเช้าเราก็ไปทานอาหารเช้ากัน โซฟี่บอกเราว่า เราทานอาหารเช้ากันประมาณ 20 นาที อาหารกลางวัน 40 นาที แล้วตอนบ่ายเรามีเวลาน้ำชาอีกประมาณ 5 นาที แต่พอเอาเข้าจริงเป็นอย่างนี้ค่ะ
    วันที่แดดไม่ออก : อาหารเช้า 30 นาที อาหารกลางวัน 60 นาที น้ำชาตอนบ่อย 15 นาที
    วันที่แดดออก : อาหารเช้า 45 นาที อาหารกลางวัน 90 นาที น้ำชาตอนบ่าย 30 นาที ด้วยว่าประเทศนี้มีแดดปีละไม่กี่เดือน พอแดดออกที ทานข้าวเสร็จเขาก็จะออกไปนั่งตากแดดกัน ไม่ก็เอาข้าวไปทานข้างนอกด้วยซ้ำ แล้วก็นั่งกันไปยาวเลยค่ะ (เขามีห้องอาหารให้พนักงาน มีโต๊ะอาหาร โซฟา ไมโครเวฟ ตู้เครื่องดื่มร้อนที่เราชอบมากเพราะมันฟรี 55555) เวลาที่เขากำหนดให้เราทำงานคือ 8โมงเช้า ถึง4โมงเย็นค่ะ  น้อยกว่าคนที่ทำงาน1ชั่วโมง

    ที่นี่ตู้เย็นต้องเรียกว่าห้องเย็นค่ะเพราะมันแบ่งเป็นห้องๆไปเลย อย่างตรงครัวเย็นนี่ก็จะมีห้องไว้สำหรับแช่ของที่เขายังใช้ไม่หมดกับอีกห้องไว้แช่พวกเนย มาการีน น้ำสลัดต่างๆ ตรงครัวร้อนก็มี3ห้อง ห้องแรกเอาไว้แช่ของที่เปิดแล้วแต่ยังใช้ไม่หมด ห้องที่สองเป็นห้องที่มีพัดลมตัวใหญ่และเย็นมากๆติดตั้งไว้ ชื่อห้องนี้ที่พวกเราเรียกันแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Cold Blowing ห้องนี้คือห้องที่เรานำอาหารที่เราเพิ่งปรุงเสร็จแต่ยังไม่เสิร์ฟในวันนี้ หรือต้องรอให้มันเย็นก่อนถึงเอาไปทำต่อได้ (เช่นเวลาทำสตูต่างๆที่ต้องน้ำเนื้อสัตว์ไปบราวน์ก่อน เราจะผัดเนื้อล่วงหน้าหนึ่งวันค่ะ) เราจะเอามาไว้ที่ห้องนี้ให้มันเย็น แล้วใช้เวลาไม่นานค่ะประมาณ5-10 นาทีเท่านั้น อันนี้เป็นไปตามกฏของNational Food Administration (Livsmedelsverket)ที่นี่ว่าถ้าเราต้องการจะเก็บอาหารไว้เราต้องทำให้มันไม่อยู่ใน(Risk Zone 5-60องศาเซลเซียส)ภายในสองชั่วโมง หลายๆคนอาจสงสัยว่าอ้าวแล้วเอาไปไว้ในตู้เย็นเลยไม่ได้เหรอ คำตอบก็คือมันจะเปลืองไฟเพิ่มขึ้นและอาจทำให้อาหารที่อยู่ใกล้เคียงมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ ห้องที่สามที่มีคือห้องแช่เนื้อสัตว์

    พื้นที่ถัดไปจะเป็นของอาหารพิเศษค่ะ คือสำหรับผู้ป่วยเด็ก ผู้ป่วยที่แพ้อาหารต่างๆไปจนถึงกระทั่งผู้ป่วยที่มีปัญหาทางการกินอาหารเช่นแอนนอแร็กเซีย หรือบูลิเมียเป็นต้น ที่นี่จะมีตู้เย็นที่เป็นตู้จริงๆค่ะมีอยู่สองตู้ ใครยืนที่นี่ก็จะทำตั้งแต่อาหารสำหรับ คนแพ้กลูเต็น แลคโตส หัวหอม กระเทียม ไปจนถึงอาหารเหลวเลยค่ะอย่างพวกที่เป็นแอนนอแร็กเซียเขาก็จะมีอาหารธรรมดานี่แหละค่ะแต่จะต้องปั่นจนละเอียดเนียนไปเลย อย่างไก่หรือแฮมอย่างนี้เราก็ต้องปั่นจนมันละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้เขาทานได้

    เราก็มีห้องผักด้วยค่ะ ห้องนี้ก็อย่างที่บอกว่าเป็นห้องผัก มีคนอยู่ที่นี่คนเดียวแหละค่ะทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับผักของอาหารแต่ละชนิด แต่เขาก็มีเครื่องหั่นนะคะ นอกจากตู้เย็นพวกนี้เราก็มีห้องแช่แข็ง (เดินไปเอาของห้องนี้ทีไรนึกถึงDexter กับพี่ชายทุกที)  ห้องพักเพื่อให้อาหารแช่แข็งละลายก่อน ตู้นี้จะเย็นประมาณ4องศา ด้วยเหตุผลทางด้านความสะอาดเราไม่สามารถเอาของแช่แข็งออกจากห้องนั้นแล้วมาวางในอุณหภูมิห้องค่ะ มีห้องที่ใช้แช่ผลิตภัณฑ์จากนม ไข่ก็จะถูกแช่ในห้องนี้เช่นกัน จากนั้นก็เป็นห้องเก็บเครื่องดื่ม ห้องเก็บของแห้ง และจะมีห้องเก็บเครื่องดื่มโปรตีนและเครื่องดื่มสำหรับคนที่มีปัญหาทางด้านการกินอาหารคือขวดหนึ่งจะเพียงพอสำหรับความต้องการของร่างกายในหนึ่งมื้อ คนที่จะมาเอาได้ ต้องมีใบสั่งจากแพทย์เท่านั้นส่วนนึงจะเป็นคนชราค่ะ อีกส่วนนึงคือ สาวๆวัยรุ่นเวลามาเอาเราจะต้องเช็คด้วยค่ะว่าใครมาเอาถ้าเจ้าตัวไม่ได้มาเอาเองคนที่มาเอาต้องมีบัตรประจำตัวของผู้ป่วยและของตนเองด้วย

    จากคุณ : mary_poppins - [ 3 พ.ค. 51 00:43:10 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom