PANTIP.COM : D6580140 เรื่องราวของกาแฟ เอสเพรสโซ่ ตอนที่ 7 [Coffee Tea & Drinks]

ความคิดเห็นที่ 1

ช่วงเวลานั้น ผมกลายเป็นคนมีความสุขกับการเสพคาเฟอีน อย่างเมามัน เที่ยวหาซื้อกาแฟคั่วจากแทบทุก แบรนด์ที่มีในเมืองไทย มาชง มาชิม อย่างสนุกสนาน แต่ทำยังไง ๆ รสชาติก็ไม่อร่อย ไม่เข้มข้นเท่ากับซื้อดื่มอยู่ที่ร้านฯ ตอนนั้น ได้แต่คิดและสงสัยเอาเองว่า แรงดันบาร์ ของเราคงน้อยไปเป็นแน่ กะไว้ว่า ถ้าเก็บเงินได้ เดี๋ยวจะไปหาซื้อแบบที่มีแรงดันซัก 30 บาร์ กาแฟของเราคงจะหอมฉุย เกินบรรยะ บรรยัง

ผมเห่อ เครื่องชงกาแฟแรงดันสูง พลังเสือ ได้ไม่กี่เดือน เล่นไป เล่นมา อยู่ดี ๆ น้ำกาแฟเริ่มไม่ออก แรงดันปั๊มเริ่มตก เสียงเริ่มแปลก ๆ เลยต้องยกเข้าโรงพยาบาลซะนี่ กลายเป็นว่าต้องกลับมาพึ่งร้านกาแฟ เจ้าประจำ เหมือนเคย

ในที่สุดเมื่อเริ่มศึกษามากขึ้น ๆ ทำให้ความจริงปรากฏว่า ร้านที่ใช้เครื่องใหญ่ ๆ หลายหัวกรุ๊ปนั้นส่วนใหญ่ ใช้แรงดันน้ำ แค่ 8-9 บาร์ เท่านั้น ไม่ได้ใช้แรงดันมากมายมหาศาลอย่างที่เข้าใจในตอนนั้นเลย ในความจริงนั้นเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ ที่ผมเห็น ๆ มาทั้งหมด จะใช้ตัวกำเนิดแรงดั้น อยู่ 3 แบบ เท่านั้น โดยส่วนใหญ่ จะใช้ปั๊มน้ำ เป็นตัวก่อกำเนิดแรงดัน่ ซึ่งแบ่งปั๊มออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ปั๊มแบบโรตารี่ และ ปั๊มแบบกระแทก หรือ แบบสั่น แล้วแต่จะเรียก
เครื่องชงกาแฟที่ใช้ตามบ้านส่วนใหญ่จะใช้ปั๊มตัวหลังนี้ครับ ซึ่งข้อดีของปั๊มชนิดนี้คือ ราคาถูกและมีขนาดเล็ก ส่วนตัวผมเคยใช้อุปกรณ์วัดแรงดันน้ำ ที่ได้จากผู้ผลิตเครื่องชงกาแฟ นำมาทดสอบดู ทำให้เห็นว่า ส่วนใหญ่แล้ว ปั๊มกระแทก หรือ ปั๊มแบบสั่นนั้น จะทำให้เกิดแรงดันอยู่ประมาณ 11-12 บาร์ เท่านั้น ซึ่งแรงดันขนาด 15-17 bar นั้นน่าจะเป็นแรงดัน Maximum ของปั๊มแต่ละดัว

ส่วนปั๊มแบบโรตารี่ นั้นเป็นที่นิยม และ ใช้กันแพร่หลายที่สุด สำหรับ เครื่องชงแบบคอมเมอร์เชี่ยล เพราะเป็นปั๊มที่ให้ค่่าแรงดันคงที่ และ สามารถปรับเปลี่ยนค่าแรงดันได้ง่าย มีข้อดีหลายข้อ ส่วนข้อเสียคือราคาแพงกว่าปั๊มตัวแรก และ ขนาดใหญ่กว่านั่นเอง
และ อุปกรณ์กำเนิดแรงดันตัวสุดท้าย ไม่ใช่ปั๊มครับ แต่เป็น สปริง โดยส่วนใหญ่จะใช้กับเครื่องชงกาแฟแบบคันโยก แบบดั้งเดิม ซึ่งจะให้ค่าแรงดันบาร์เริ่มต้นอยู่ที่ 11 หรือ 13 บาร์ ขึ้นอยู่กับชนิดของสปริงที่ผู้ผลิตเลือกใช้ และแรงดันบาร์ก็จะค่อย ๆ ลดลงตามค่า K ของสปริงที่ค่อย ๆ คลายตัวจนไม่เหลือแรงดันในที่สุด

กลายไป กลายมา แค่เรื่องแรงดันบาร์ ยังยุ่งยากขนาดนี้ แล้วส่วนอื่นจะขนาดใหน ที่สำคัญ มีผลอย่างไร กับรสชาติ เครื่องชงถือกำเนิดเมื่อไร ใครเป็นคนคิดค้น ... โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ ขอตัวไปนอนก่อน.

ปล. ขออภัยสำหรับผู้ติดตามอ่านนะครับ เพราะผมไม่ได้เขียนไว้เป็นสต๊อค โดยตอนแรกตั้งใจเขียนให้สั้น ๆ ครับ แต่กลายเป็นว่าเนื้อหาค่อนข้างเยอะครับ อาจจะช้าไม่ทันใจบ้างนะครับ

ภาพนี้เป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดแรงดันของเครื่องชงครับ

จากคุณ : [zan] - [ 6 พ.ค. 51 01:50:12 ]