ความคิดเห็นที่ 1 หากไม่มีแป้งบัวแดงซึ่งเป็นแป้งเค้ก ก็พอใช้แป้งเอนกประสงค์ all purpose แทนได้ครับ เริ่มตั้งแต่การต้มเนยกับน้ำ เนยที่ใช้ควรหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อที่น้ำเดือดแล้ว เนยจะได้ละลายได้หมด ไม่ใช่ว่าน้ำเดือดแล้ว แต่เนยยังเป็นก้อนเป้ง ๆ อยู่ ทำให้สูญเสียน้ำไปมาก ขนมจะแห้งกระด้าง หรือไม่ก็ต้องเพิ่มไข่ทีหลัง จากนั้นน้ำใส่เครื่องตีด้วยหัวตีใบไม้  paddle ถ้าไม่มีก็ใช้พายไม้คนไปเรื่อย ๆ จนแป้งอุ่น จึงใส่ไข่ทีละฟอง คนให้เข้ากันดี จึงเติมฟองต่อไป เนื่องจากขนมชนิดนี้ปริมาณไข่ค่อนข้างมาก ควรใส่กลิ่นวานิลาเพื่อดับกลิ่นคาวไข่ด้วย เมื่อใส่ไข่ครบตามสูตรแล้ว ก่อนที่ไข่จะหมด หากส่วนผสมข้นพอที่จะบีบแล้วเป็นลายคมชัดค่อนข้างจาง ก็ไม่จำเป็นต้องใส่หมดก็ได้ แต่แนะนำให้ทำตามสูตรไปก่อน เมื่อชำนาญขึ้นจะทราบได้เองว่าเมื่อไหร่ควรจะพอสำหรับการใส่ไข่ได้ ขนมชนิดนี้ขึ้นฟูด้วยไอน้ำ สังเกตุจากขณะเราต้มเนย น้ำ ตามด้วยแป้ง ส่วนผสมน้ำจะมีมากอยู่  ดังนั้นการอบต้องอบไฟแรง คือ 200 ซ. เพื่อให้น้ำใส่วนผสมเดือดและดันแป้งให้พองขึ้น หากอบขนมยังไม่สุกดีนำออกมาขนมจะแฟบ ไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องทิ้ง หรือไม่ก็ใช้วิธีจิ้มกับคัสตารด์กินต่างหาก วิธีทดสอบว่าขนมสุกหรือยัง ให้นำขนมออกมา 1 ตัว เคาะขนมเบา ๆ มีเสียงกลวงข้างใน และวางไว้อุณหภูมิห้อง นับ 1 - 10 ถ้าขนมไม่ยุบก็นำออกมาทั้งถาดได้ หากยุบก็แสดงว่ายังไม่สุกดี ขนมที่บีบควรให้มีขนาดเท่ากัน ใกล้เคียงกัน ไม่เช่นนั้นขนมจะสุกไม่พร้อมกัน ลองทำใหม่นะครับ ขอให้โชคดีและประสบความสำเร็จ จากคุณ : เมล่อน บัน - [ 7 มิ.ย. 51 14:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลองอ่านดูหลายรอบแล้ว ไม่ได้บอกไว้นี่ครับว่าปัญหาของการอบคืออะไร อย่างนี้ต้องตอบหมดยากอยู่นะครับ (แต่โชคดีพี่เมล่อนบันตอบให้แล้ว) สำหรับขนมประเภทนี้ก็ลุยมาหมดแล้วอ้ะครับ ตั้งแต่ทำลูกละ 3 บาท จนตอนนี้ลูกละ 15 แล้ว (ลูกใหญ่ครับ แหะๆ) ส่วนมากก็อยู่ที่การอบอ้ะครับ ผมใช้ไฟ 210 องศาเซลเซียสนะครับ จริงแล้วเทคนิคในสูตรบอกว่าให้ตั้งไฟไว้ที่ 230 ก่อน แล้วพอเอาเข้าอบค่อยลด แต่ผมว่าก็ไม่ได้จำเป็น เทคนิคการพรมน้ำนี่ผมก็เพิ่งทราบหลังๆ เหมือนกัน (เทคนิคนี้ผมใช้นมสดแทน) แต่ขี้เกียจทำนะครับ แล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันมากมายอะไร การต้มน้ำกับไขมัน (ส่วนมากผมใช้น้ำมันพืชนะครับ) ก็ต้มให้เดือดฟอดๆ จะมีเสียงเดือดดัง น้ำจะเพิ่มปริมาตรขึ้น ให้ปิดไฟแล้วน้ำแป้งใส่ลงไปทันที แล้วกวนเร็วๆ จะทำให้แป้งสุกทั่วกันครับ ถ้ากวนช้าอาจได้แป้งเป็นหย่อมๆ ก้อนๆ ได้ ส่วนการผสมไข่ไก่ ถ้าไข่แช่เย็นอยู่แล้ว เราไม่จำเป็นต้องรอให้ส่วนผสมเย็นมากก็ได้ครับ แค่กวนแรงๆ สักพักก็ใส่ไข่ไก่ได้เลย (แต่ไข่ต้องเย็นนะครับ) จากคุณ : jumjee - [ 7 มิ.ย. 51 15:49:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แอบสันนิฐานด้วยคน คิดว่าอาจจะอุ่นเตาอบน้อยไป ความร้อนมันยังไม่ถึงน่ะค่ะ แล้วก็อบสั้นไป ข้างในมันเลยยังไม่สุก ส่วนเรื่องแป้ง ตอนเรียนเชฟใช้แป้งทำขนมปังในการทำเปลือกค่ะ จากคุณ : Orayanee - [ 7 มิ.ย. 51 17:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณคุณเมล่อน บัน มากค่ะเดี๋ยววันนี้ลองใหม่อีกรอบ เดี๋ยวจะใช้แป้งอเนกประสงค์ดู  อิอิ คุณjumjee ได้ทริก เพิ่มอีก คือไฟแรงกว่าเดิม และก็ไม่ต้องรอให้แป้งเย็นก็ใส่ไข่ได้   คุณOrayanee คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ จริงๆ ปัญหาคือ ทำไม่เป็นค่ะ  (555)  ไม่รู้จักดัดแปลงแป้ง  ไม่รู้คุณสมบัติของแป้งอ่ะค่ะ   ว่าอะไรใช้แทนกันได้   และมันไม่ฟูไม่พอง อย่างแป้งที่ไทย  พอจะรู้นิดหน่อยเช่นว่า  แป้งข้าวเหนียว มันจะเหนียว (ก็แน่หล่ะ ชื่อก็บอก 555) ใช้ทำบัวลอย ทำขนมเทียน ฯลฯ  แป้งข้าวจ้าว ก็จะร่วนๆ    ใช้ทำอะไรก็ไม่รู้ (เหอๆๆ) ความเป็นมือใหม่ ไม่เคยทำเลยจริงๆ (ยกเว้นแต่เป็นกล่องสำเร็จ แค่ใส่น้ำแล้วคน  แล้วอบ ก็เสร็จ)   อีกนิดนะค่ะ  คือจริงๆไม่ได้ต้มเนยกะน้ำค่ะ แต่ใส่ไมโครเวฟ เอาเร็วดี ขอบคุณมากๆ คร๊าาาาา  เดียวจะเข้ามารายงานผลอีกทีค่ะ จากคุณ : IL_JM - [ 7 มิ.ย. 51 21:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Is done kha , and look pretty good . Yes, the problem is ความร้อนมันยังไม่ถึงน่ะค่ะ sorry this comp don't have thai font can't type in Thai THX so much kha!! จากคุณ : IL_JM - [ 9 มิ.ย. 51 05:28:24 ]