ความคิดเห็นที่ 1 เข้าใจว่า ทั้ง Bank ทั้ง ร้านอาหาร ไม่น่ามีใครเสียอะไรนะคะ Bank กับ ร้านอาหาร โคกันเพื่อจัดโปรก็น่าจะเพื่อส่งเสริมการขาย สุดท้าย ผ่านบัตรเครดิต คนก็ใช้เงินเยอะขึ้น ผ่านร้านอาหารคนก็มาทานเยอะขึ้น ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายนะคะ เราว่า ทางธนาคารไม่น่าจะเสียเงินสดให้กับทางร้านอาหารนะ คห. ส่วนตัวค่ะ จากคุณ : แมวอ้วนสีฟ้า - [ 9 มิ.ย. 51 10:16:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กำไรทั้งคู่ คิดเหมือนกันคับ แม้ว่า visa จะเล่นค่าcharge ไปประมาณ 3% ก็ยังคุ้ม ดีไม่ดีน่าจะมีลดให้กับร้านที่จัดโปรนะ ส่วนตัวปัจจุบันนี้ ส่วนลดพวก 5-15% แทบไม่มีผลในการตัดสินใจแล้ว มันต้อง 20% ขึ้น บอกเผื่ิอผู้มีอำนาจในการจัดโปรแวะมาเจอ จริงๆนะ จากคุณ : DO is On The WAY - [ 9 มิ.ย. 51 11:12:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อยากรู้มานานแล้วเหมือนกันคับ... มานั่งรอคำตอบด้วยคน อิอิ :P จากคุณ : dragonite - [ 9 มิ.ย. 51 12:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ประมาณว่า ปกติแล้ว ทางร้านอาหารจะต้องมีการ mark up ราคาไว้แล้วเผื่อไว้ทั้งต้นทุน ค่าจ้าง ส่วนลด และค่า charge บัตรเครดิต ทางธนาคารเสนอให้ทางร้าน ยอมให้ส่วนลดกับลูกค้าบัตรของตน เพื่อที่จะเพิ่ม volume โดยเป็นส่วนลดที่ลดแล้ว ทางร้านแค่ 'ขาดทุนกำไร' เท่านั้นเอง แต่ทางร้านไม่ต้องทำการโฆษณาเองให้เกิดค่าใช้จ่ายตรงนี้ เพื่อแจ้งให้คนทั่วไปทราบว่าทางร้านมีส่วนลด ทางธนาคารจะแจ้งให้กับลูกค้าที่ถือบัตรทุกคนทราบเอง โดยส่วนมากส่งไปกับ statement หรือเป็นคู่มือส่วนลด หรืออาจจะลงโฆษณาเพิ่มในสื่ออื่น ๆ บ้างในบางโอกาส ซึ่งเป็นต้นทุนปกติที่ต้องมีอยู่แล้ว ทางร้านยอมขาดทุนกำไรต่อหัว แต่ถ้าจำนวนคนเข้ามากินเยอะกว่าเดิม จะกลายเป็นกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจริง ๆ ทางธนาคารเองก็ได้ยอดการรูดบัตรเพิ่มขึ้นอีก ตามทฤษฏีนี้จึงเป็น win-win situation ไป ดังนั้นร้านที่คนแน่นอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กลยุทธให้ส่วนลดกับบัตรเครดิต ร้านที่จะใช้ มักเป็นร้านใหม่ ร้านที่ต้องการเพิ่มจำนวนลูกค้า หรือมี connection ที่ดีกับบัตรเครดิต ผิดถูกยังไง ผู้รู้ท่านอื่นสามารถแย้งได้นะครับ ผมไม่ถึงกับรู้ละเอียด 100% นัก อาศัยว่าพอจะเคยใกล้ชิดวงการนี้มาก่อน จากคุณ : metalmen - [ 9 มิ.ย. 51 13:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ^ ก็ตามข้างบนล่ะครับ  ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายดีแล้ว ในโลกนี้ไม่มีใครยอมทำการค้าแบบขาดทุนหรอก จากคุณ : oh!great - [ 9 มิ.ย. 51 13:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ชอบตรงคำพูด ...ขาดทุนกำไร... เข้าใจเลยจ้า จากคุณ : knu+ - [ 9 มิ.ย. 51 14:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เข้าใจว่าร้านอาหารต้องลดราคาเอง ทาง visa หรือบัตรต่างๆก็ช่วยโปรโมตผ่านสื่อต่างๆของเขาไงครับ แต่ถ้าเป็นรายการพิเศษมากๆทางบัตรอาจจะยอมลด % ค่าธรรมเนียมก็ได้ จากคุณ : Tamจัง - [ 9 มิ.ย. 51 19:50:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วที่บอกโชว์บัตรแล้วลดได้แต่ต้องจ่ายเงินสดล่ะคะ ทางธนาคารได้อะไร เราเจอบ่อยมาก ที่goodview, ร้านร่มไม้ชายคา, ร้านนท์นที เราถามโปรบัตรเครดิต เค้าก็บอกมาว่ายี่ห้อนั้นลดสิบเปอร์เซ็น ยี่ห้อนี้ลดสิบห้าเปอร์เซ็น แต่ต้องจ่ายเงินสด ก็แค่โชว์บัตรให้เค้าดูอะค่ะ เลยสงสัยว่าแล้วธนาคารได้อะไร? จากคุณ : Look Fwd - [ 9 มิ.ย. 51 22:15:59 A:58.9.102.84 X: TicketID:153523 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ^ ได้ Credit ดีล่ะมั้งคะ ประมาณว่าใครใช้บัตรของทางธนาคารนะจะได้สิทธิพิเศษ เพิ่มความพิเศษ และบริการให้กับลูกค้า ให้ลูกค้าประทับใจและใช้บัตรของธนาคารต่อๆไปอะค่ะ แนวๆว่าธนาคารก็ได้หน้า ลูกค้าก็ได้ปลื้มที่ถือบัตร ร้านอาหารก็ได้ตังเพราะคนมากินเยอะขึ้น บางทีสำหรับบัตรต่างๆที่มี จุลสาร หรือประเภทนิตยสารรายเดือน เว็บไซต์ ก็จะมีโฆษณาให้กับร้านอาหารที่เข้าร่วมโปรโมชั่นด้วย เข้าใจว่าร้านอาหารไม่น่าต้องจ่ายค่า โคสะนาค่ะ จากคุณ : แมวอ้วนสีฟ้า - [ 10 มิ.ย. 51 07:22:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 งงเหมือน#8 เลย เพราะส่วนใหญ่จะเจอแต่ว่าต้องจ่ายผ่านบัตรถึงจะได้ส่วนลด เราคิดไปเองว่า้ร้านคงไม่อยากโดนชาทร์จากบัตร แต่้ถ้าไม่ลดให้ลูกค้าก็โทรไปวีนที่บัตร เลยให้โชว์บัตรแล้วลดให้ โดยบังคับเราจ่ายเป็นเงินสดแทน หรือเปล่านะ จากคุณ : ออ - [ 10 มิ.ย. 51 10:35:13 A:116.68.148.210 X: TicketID:131694 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มันเป็นอย่างนี้นี่เองหรือครับ ขอบคุณมากๆนะครับผม เยี่ยมไปเลยครับ จากคุณ : CaptainKit - [ 10 มิ.ย. 51 10:46:54 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ที่ ค.ห 1,2,4,7,9 ตอบนั้น ถะ ถะ ถูกต้องแล้วน๊ะคร้าบบบบบ เป็นคำถามที่ดี ทีเดียวครับ จขกท เป็น Deal ที่  Win Win Situation ครับ (คนที่ไปทานก็ได้ด้วย) ขออธิบายเพิ่มเสริมจาก คห. 1,2,4,7,9 นะครับ สมมุติ ผมเองเป็น ธนาคาร ABC ผมมีฐานลูกค้าอยู่ในมือแล้วประมาณ 10,000 ราย และมีร้านอาหาร XYZ เปิดอยู่ แถวสีลม รสชาดอร่อย ทำเลดี ราคาเยี่ยม แต่คนรู้จักมีแค่ ประมาณ 500 กว่าคน วนเวียนกันไปทาน ส่วนลดร้านอาหาร จะทำให้เกิด Win Win ด้วยเหตุ 3 ประการ นี้ครับ 1. เพียงผม แจ้งข่าวให้ทางลูกค้าบัตรของผม ทราบว่า มีร้านชื่อ XYZ เปิดอยู่ ณ ถนนสีลม ขายอาหารอะไร ราคาเท่าไหร่ มีอะไรดีๆ ที่จูงใจให้อยากไปลอง ไปยังลูกค้าทั้ง 10,000 รายของผม อะไรจะเกิดขึ้น ? ไม่ต้องหวังผล ถึง 50% หรอก เอาแค่ 5-10% ก็พอครับ ทางร้านก็จะมีฐานลูกค้าใหม่ เพิ่มขึ้นมาอีก 10% นี่ก็ 1,000 คนทีเดียวครับ ส่วนนี้ทางร้านได้ เต็มๆ ครับ โดยที่จะต้องแลกกับส่วนลด 10 - 15 % โดยตีเป็นค่าโฆษณา แล้วก็เป็นโฆษณาที่ดีด้วยครับ ถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง และ ถ้าสังเกตุให้ดี มันจะเป็นคล้ายๆ กับระบบ Google ครับ ที่จะเสียค่าโฆษณาเมื่อคลิ้ก หรือเมื่อซื้อ นี่ก็เช่นกันครับ เค้าจะลดก็ต่อเมื่อมีคนมาทาน นอกจากนี้ยังได้ในส่วนที่ ถึงลูกค้าจะไม่ได้ไปทานในช่วงเวลาที่มีส่วนลด แต่อย่างน้อยก็ได้เป็นการโฆษณาร้านไปในตัวเรียบร้อยแล้วครับ นอกจากร้านอาหารแล้วก็จะมีอีกหลายกิจการ ที่ใช้การโฆษณาลักษณะนี้ครับ เช่น รีสอร์ท,ตั๋วเครื่องบิน,สินค้าต่างๆ ฯลฯ 2. ถ้าธนาคาร ABC มีส่วนลดร้านอาหาร เพียง 10 ร้าน แต่ในขณะที่ ธนาคาร DEF  มี 15 ร้าน พิจารณาแล้วเงื่อนไขอื่นๆ ของบัตรไม่ต่างกันมากนัก เป็นเรา เราก็จะเลือกที่จะสมัครบัตรกับธนาคารที่มีส่วนลด หรือมี Option เสริมหลายอย่างใช่ไหมหล่ะครับ และโดยเฉพาะสมาชิกห้องก้นครัวด้วยแล้ว ต้องพิจารณากันที่ ห้องอาหารของโรงแรมชื่อดัง ไม่งั้นไม่ได้แอ้มสมาชิกห้องก้นครัวหรอกครับ อิอิ 3. ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ ก็จะได้รับประโยชน์ในส่วนของส่วนลดครับ ซึ่งก็มักจะพบเจอกันที่ 10 - 15 % ครับ โดยเฉลี่ย  5% จะไม่ค่อยมีครับ มักจะให้เป็นอย่างอื่นเป็นการสมน้ำหน้าคุณมากกว่า อิอิ สมนาคุณครับ มีมุขบ้าง เดี๊ยวเครียด เช่น แถมน้ำส้มคั้นฟรี 1 แก้ว / รับของที่ระลึก / อะไรทำนองนี้ เชื่อว่าคงเคยผ่านมากันมาบ้างแล้วนะครับ สำหรับส่วนลด 20% + นี่แทบจะไม่เห็นครับ ยกเว้นจะเป็น Deal ใหญ่ๆ กับทาง โรงแรม ซึ่งส่วนมากจะไม่ได้หวังผลกำไรจากการขายอาหารครับ และมักจะเป็น Deal ระดับ Inter ซะมากกว่าครับ เช่น บัตร Amex ทานอาหารที่ Jw 1 ท่าน ราคาปกติ ท่านที่ 2 ทานฟรี แบบนี้มาก ส่วนร้านอาหารที่ขายอาหารเป็นหลักนั้น ลดเยอะแบบนี้ไม่ได้ครับทำไมเป็นเช่นนั้น เพราะกำไรจากร้านอาหาร จะได้ประมาณ 40 - 50 % ครับ ถ้าจะลดเยอะ สู้ลดน้อยๆ แต่เอากำไรมาก  ดีกว่าลดมาก ทำงานมาก แต่ได้กำไรน้อย หรือเท่าเดิมครับ และยังมีขีดจำกัดของเวลาด้วยครับ  เอาเข้าใจง่ายๆ นะครับ เช่น ใน 1 เดือน จะมี วันหยุด เสาร์ - อาทิตย์ รวมแล้ว 4 ครั้ง ในร้านรองรับได้ 100 ท่าน ถ้าร้านนั้นมีลูกค้า 200 ท่าน กระจายกันมา 4 ครั้ง ก็ครั้งละ 50 ท่าน ยังมีที่นั่งเหลือให้รองรับลูกค้า ปกติอีก อีกตั้ง 50 แหน่ะ แต่ถ้าส่วนลดเยอะ แห่กันมา สัปดาห์แรกเลย โป้งเดียว 100 ท่าน ร้านก็เต็ม รับลูกค้าปกติไม่ได้แล้ว สัปดาห์แรกรับได้แต่ลูกค้าส่วนลด ซึ่งส่วนนี้ทางร้านก็จะเสียส่วนที่ควรจะได้ไป และที่ร้านกลัวก็คือ เต็มแต่สัปดาห์แรกของเดือน(เงินเดือนออก) สัปดาห์ ต่อๆ มาโหวงเหวง สิ่งที่ร้านอาหารเหล่านี้ นิยม คือ ให้มาไม่ต้องเยอะ แต่ขอให้มาเรื่อยๆ ดีกว่า ซึ่งกว่าจะ Manage ให้ออกมาแบบนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียวครับ นอกจากนี้ ในรายละเอียดหยิบย่อย ก็จะมีช่วงเวลาในรับประทานครับ ซึ่งจะต้องนำมาคำนวณ กับระยะเวลาในการจัดโปรโมชั่น ขออธิบาย คร่าวๆ นะครับ โดยปกติ ส่วนมากคนที่คนที่จะไปทานร้านเหล่านี้ มักจะเป็น Officer ซึ่งจะไปหลังเลิกงาน (คือช่วง 17.30 - 20.30 น.) มากกว่าที่จะไปทานช่วงกลางวัน (ช่วง Peak ของช่วงกลางวัน คือ 11.00 - 13.30) ทุกท่านพอนึกภาพออกใช่ไหมครับ ?  ว่าช่วงกลางวันจะร้างราผู้คนมาก นี่จึงเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ กลางวันจะราคาถูกกว่า ในเมื่อทุกคนจ้องจะไปกันแต่ช่วงเย็น ทางผู้ออกโปรโมชั่น ก็จะต้องวางขอบเขตของเวลา ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะด้วย โดยพิจารณาจากตัวเลขฐานข้อมูลลูกค้าและผู้คาดหวัง เช่น 3 เดือน หรือ ตามเงื่อนไข ต่างๆ จะว่าไว้ เพื่อที่จะได้ไม่เป็นปัญหาในการจัดการ หากถ้ามีฐานลูกค้า 10,000 ราย มีลูกค้าคาดหวังว่าจะใช้บริการโปรนี้ 10%  คือ 1,000 ราย แต่จัดมีระยะเวลา แค่ 15 วัน ใน 15 วัน คนของบัตรยี่ห้อนี้ ก็จะแห่ กันไปทาน ปรากฏว่า ร้านล้น ทะลัก คนเต็ม ก็จะมีคนไม่ประทับใจ บ่น เพราะไปร้านอาหาร คงไม่มีใครชอบรอนานใช่มั๊ยครับ มันก็เลยต้องมีการ Manage กันก่อน ในจุดนี้ครับ โอย !! กว่าจะเจรจา จนจบ Deal เพื่อให้ได้ส่วนลดแต่ละแห่งมา มันก็มีขั้นตอนและการวางแผน อีกพอสมควรทีเดียวครับ ผมอธิบายยากไปป่าวครับ  - -! สรุปสั้นๆ นะครับ (เพราะดึกแล้ว) ร้านอาหารอยากได้ฐานลูกค้าของบัตรต่างๆ บัตรต่างๆ ก็อยากได้หน้า คนจะได้มาใช้บริการบัตรเยอะๆ รวมถึงเพิ่ม Power ของยี่ห้อบัตรด้วย ลูกค้า ก็ได้ส่วนลด และได้สร้างยอดบัตร สบายไป แต่ลดเยอะ แบบที่คุณ DO is On The WAY อยากได้นั้นมีน้อย และแทบไม่มีในร้านอาหารที่ขายอาหารเป็นอาชีพหลัก เพราะจุดกำไร - คุ้มทุน มันมีอั้นของมันอยู่ รวมถึงการวางแผน ตามที่ได้แจ้งไปแล้วครับ หวังว่าที่ได้เล่าสู่กันฟังนี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนสมาชิกไม่มากก็น้อยนะครับ ส่วนใครพอเข้าใจแล้วอยากได้ส่วนลดลักษณะนี้ ผมก็พอมีอยู่บ้าง เกี่ยวกับห้องพัก แล้วก็ห้องอาหาร หรือ ล่องเรือ Dinner ลอง Pm ถามมาดูแล้วกันนะครับ ทั้งหมดนี้ ก็มีด้วยประการละ ฉะนี้ครับ Edit 1. เพิ่มเติมรายละเอียด Edit 2. ตัดแต่งคำ ให้อ่านง่าย แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 51 23:50:07 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 51 23:48:35 จากคุณ : ฐานข้อมูล - [ 12 มิ.ย. 51 23:27:39 ]