PANTIP.COM : D6790761 อยากทราบวิธีทำ โยเกิรต์ไว้ทานเองครับ [อาหารการกิน]

ความคิดเห็นที่ 8

เราใช้นมพาสเจอร์ไรซ์ 1 ลิตร ค่ะ เลือกใช้สูตรไขมันเต็มที่ พร่องมันเนย หรือรสหวานก็ได้ตามชอบ เอาใส่ภาชนะซ้อนในหม้อน้ำร้อนต้มให้ร้อน(เพราะนมไหม้ง่าย) หรือต้มด้วยไมโครเวฟก็ได้ค่ะแต่ระวังมันล้น

รอให้อุ่นลงแบบตักหยดบนหลังมือแล้วยังทนได้ก็ตักโยเกิร์ตรสธรรมชาติใส่ไปครึ่งถ้วย(ถ้วยของโยเกิร์ตนะคะ ไม่ใช่ถ้วยตวง) คนให้เข้ากัน ตักแบ่งใส่ภาชนะ แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน ได้โยเกิร์ตแล้วค่ะ

Tips : ช้อน ภาชนะแบ่ง อุปกรณ์ที่ใช้ทั้งหมดควรสะอาด ถ้าไม่มั่นใจให้ลวกน้ำร้อนก่อน ถ้าอุปกรณ์ไม่สะอาดควรใส่โยเกิร์ตตั้งต้นเยอะหน่อยเพราะจะได้เป็นเชื้อหลักที่แข่งขันกับเชื้ออื่นได้ คือถ้านมปนเปื้อนเชื้ออื่นที่จะทำให้เสียแต่เราใส่โยเกิร์ตน้อย เชื้อของเรา(ในโยเกิร์ต)จะแพ้จำนวนและนมจะเสีย แต่ที่เราทำยังไม่เคยเสียนะแม้จะไม่ได้สะอาด 100%

ถ้าอยากให้เป็นโยเกิร์ตเร็วขึ้นให้เอาน้ำอุ่นค่อนข้างร้อนหล่อรอบภาชนะที่ใช้หมักโยเกิร์ตให้อุ่นตลอด

ถ้าเติมน้ำตาลหรือใช้นมรสหวาน จะเป็นโยเกิร์ตเร็วกว่าใช้นมสูตรที่ไม่มีน้ำตาล
ถ้าใส่โยเกิร์ตลงไปเยอะก็จะเป็นเร็วเหมือนกัน แต่ถ้าอุปกรณ์สะอาดก็ไม่จำเป็น ใส่เยอะก็เปลือง เราทำก่อนนอนค่ะ ตื่นมาก็พอดี ถ้าใส่เยอะเกินตื่นมาก็เปรี้ยวเกินไปแล้ว เวลาที่ใช้หมักขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและอื่นๆ ทั่วไปจะ 6-10 ชั่วโมง

ถ้าเห็นนมเซ็ทตัวเป็นโยเกิร์ตแล้วให้รีบเอาเข้าตู้เย็น ไม่งั้นก้อนโยเกิร์ตจะข้นแน่นขึ้นเหมือนเต้าหู้และแยกตัวออกจากน้ำสีเหลืองใสๆ ถึงตอนนี้โยเกิร์ตจะเปรี้ยวมากจนทานไม่ได้ ถ้ากะไม่ถูกทางที่ดีให้ใช้ช้อนสะอาดตักชิมเป็นระยะ(อย่าให้น้ำลายลง) พอเปรี้ยวได้ที่ตามชอบก็เอาเข้าตู้เย็นค่ะ

อย่าแช่โยเกิร์ตในช่องแข็งไม่งั้นจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตจะตายหมด อ้อ ให้เลือกโยเกิร์ตตั้งต้นยี่ห้อที่มีจุลินทรีย์ดีๆ (เช่น 4 โมส) การทำโยเกิร์ตของเราก็จะเป็นการเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์เหล่านี้ด้วย โยเกิร์ตที่ทำในครั้งนี้สามารถใช้เป็นหัวเชื้อโยเกิร์ตตั้งต้นในการทำครั้งต่อไป แต่ถ้าทำซ้ำอีกซัก 2-3 รอบ ก็น่าจะใช้โยเกิร์ตตั้งต้นใหม่เพราะจุลินทรีย์อาจลดประสิทธิภาพลง เปลี่ยนยี่ห้อโยเกิร์ตตั้งต้นก็ได้

เราจะแบ่งนมที่ผสมโยเกิร์ตแล้วใส่แก้วพอทานแต่ละครั้ง จะได้ไม่ต้องตักจากกระปุกใหญ่ สะดวกและป้องกันการเสีย

โยเกิร์ตทำเองไม่ได้ใส่วัตถุกันเสีย เพราะฉะนั้นอย่าทำเยอะเกิน ทิ้งไว้หลายวัน(ในตู้เย็น) ก็อาจเสียได้ ไม่ควรเกิน 7 วัน เป็นอย่างมาก

ว่ากันว่าใช้น้ำเต้าหู้ทำโยเกิร์ตได้ เราลองแล้วไม่เวิร์ค ออกมาเหมือนเต้าหู้เปรี้ยวๆเลย เปรี้ยวจัดในเวลาสั้นกว่าโยเกิร์ตจากนมมาก แต่ลองกินไปแก้วนึงท้องไม่เสีย

นมเปรี้ยวคือโยเกิร์ต+น้ำส้ม เพราะฉะนั้นสามารถดัดแปลงโยเกิร์ตที่ทำเป็นนมเปรี้ยวได้
ใช้น้ำส้มสแปลชมาคนๆกับโยเกิร์ตจะคล้ายพวกบีทาเก้นมาก แต่เราว่าหวานไปหน่อยเลยใส่น้ำแข็ง อร่อยกำลังดี
แต่ส่วนมากจะผสมน้ำผักพวกทิปโก้มากกว่า เราไม่ค่อยอยากทานหวาน โยเกิร์ตที่เราทำก็ใช้สูตรพร่องมันเนย(แต่ใช้แบบริชจะอร่อยกว่า หรือจะละลายนมผงลงไปในนมตอนนมร้อนอีกก็ยังได้ เนื้อแน่นข้นมัน)

เอาโยเกิร์ตผสมกับบลูเบอร์รี่กระป๋องอร่อยดี เราเคยทำบลูเบอร์รี่ชีสพายแบบที่ไม่ใช้เตาอบ ก็ใช้โยเกิร์ตนี่แหละแทนซาวครีม(เติมน้ำมะนาวหน่อยนึง) บลูเบอร์รี่กระป๋องที่เอามาราดหน้าชีสพายมันเหลือก็เอามาคนๆกับโยเกิร์ต อร่อยจัง ใช้สตรอว์เบอร์รี่กระป๋องก็ได้ มันจะคล้ายกับที่ขายทั่วไป
แต่กินแบบนี้อ้วน ใช้โยเกิร์ตแทนน้ำสลัดก็ดี ราดผักสด ผลไม้สด

คุณ LODI ชอบทานโยเกิร์ตอยู่แล้วคงมีเมนูมากมายอยู่แล้วเนอะ พอแค่นี้ละกัน

ขอให้อร่อยกับโยเกิร์ต (your) home made นะคะ ^_______^

จากคุณ : *~KingFisho~* - [ 13 ก.ค. 51 00:51:02 ]