ความคิดเห็นที่ 1 เอาน้ำตาลทั้งสองมารวมไปด้วยกัน ทางซ้ายน้ำตาลจากศูนย์พัฒนาวิชาชีพไชยพัฒนา ส่วนทางขวามือเป็นน้ำตาลมะพร้าวแท้แบบไม่กัดสี ซื้อจากตลาดน้ำดำเนินสะดวกคะ จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 19:00:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วเต๋อจะเอาไปทำอะไรนี่  ยังข้องใจอยู่ค่ะ  สงสัยฝากสาวในฮาเร็มมมมมมแน่นอนที่สุด จากคุณ : แม่สลิ่ม - [ 12 ก.ค. 51 19:03:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปาดค่ะมี๊............. เดี๋ยวมาส่งการบ้าน จากคุณ : อ้อนติน - [ 12 ก.ค. 51 19:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ว่าแล้วก็เอาน้ำตาลทั้งสองแบบใส่ไปในหม้อแขกใบเก่ง ... จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 19:05:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รอชมอย่างตั้งใจเลยค่ะพี่บิ๊ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยค่ะ ^ ^ จากคุณ : แม่หนูนันท์ - [ 12 ก.ค. 51 19:09:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 น้าบี๊ ไม่ต้องให้น้ำตาลพี่เต๋อหรอก หมั่นไส้เป็นที่สุด ปล.พี่จุ๋มครับ  ในฮาเร้มพี่เต๋ออ่ะ มีแต่ปู้ชอย><"55 จากคุณ : หลานยายจุล - [ 12 ก.ค. 51 19:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กรี๊ดดดดดดดดดด แม่หลิ่ม แวะมาดูหัวเชื้อของ เต๋อศักดิ์ เย้ยยยยยย พูดจาหวาดเสียวอ่ะ หม่ายน้อ หัวเชื้อน้ำตาลมะพร้าวจิ ... วันก่อนเคี่ยวไปรอบนุงแล้วคะ ให้สาวนุชฮาสะเดิดไป นุชฝากให้เต๋อศักดิ์ 1 ถุง เลยจัดการเคี่ยวไปพร้อมๆ กันเลย นังเต๋อจะได้เก็บไว้เป็นนำเชื้ออ่ะ ++++++++++++++++++++++++ ใส่น้ำสะอาดไปประมาณ 1 ถ้วยครึ่ง .... จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 19:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 วุ๊ยภาพเบลอๆ อีกแระ ... ใส่น้ำไปประมาณ 1 1/2 ถ้วยนะคะ จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 19:12:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สัวสดีคะ คุณแม่หนูนันท์ ... มีน้ำตาลปีบเยอะๆ ลองเก็บถนอมน้ำตาลด้วยวิธีนี้สิคะ สะดวกด้วย เอามาทำอะไรได้ร้อยแปดจริงๆ เป็นหัวเชื้อใส่อาหารได้ทุกชนิดเลยคะ ++++++++++++++++++++ ใช้ไม้พายอันเก่ง ถ้าใช้โลหะจะร้อนมาก จับไม่ได้ เพราะหน้าเตาร้อน หม้อก็ร้อนไงคะ จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 19:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จด จด จด จากคุณ : หนุ่ย (tiffy_tif) - [ 12 ก.ค. 51 19:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เตรียมชามใส้น้ำเพื่อเอาไม้พายแช่ด้วย ไม่งั้นมดอาจมาดอมดมในความหอมหวานได้ จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 19:17:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม้พายน้าบี๊ ดูแล้วฟาดปากคนท่าทางจะเต็มไม้เต้มมือดี อิอิ จากคุณ : หลานยายจุล - [ 12 ก.ค. 51 19:18:43 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดียามเย็นคะ คุณหนุ่ย เย็นนี้ทำเมนูอะไรทานคะ .... ถือโอกาสโละตู้เย็นด้วยเลย   +++++++++++++++++++++++ ในตอนแรกต้องเร่งไฟให้แรงไว้ก่อน เพื่อให้น้ำตาลละลายโดยเร็ว จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 19:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าได้น้ำตาลชั้นดีแบบนี้มาทำขนมถ้วยล่ะก็.... พ่อเจ้าแม่เจ้า เจ้าประคุณเอ๋ย...ตาโตกินได้ 20 ถ้วยรวดเลยค่ะ ชอบขนมถ้วยฐานสีน้ำตาลมากๆ ใครเอาสีเขียวมาไม่กิน ขอสีน้ำตาลไหม้เท่านั้นค่ะ ฮิฮิ พูดแล้วอยากกิน ในกรุงเทพมีที่ไหนอร่อยๆ บ้างมั๊ยคะพี่บี๊ จากคุณ : ลูกสน - [ 12 ก.ค. 51 19:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 งั้นขอเอาฟาดปากพ่อคนหน้าตาดีก่อนเลย เตรีมตัวยกธงขาสรึยังอ่ะ ... ไอ้ตัวแสบ ++++++++++++++++++++ พอน้ำตาลละลายและเริ่มเดือดขึ้น เราเริ่มคนไปเรื่อยๆ ให้น้ำตาลเดือดพวยพุ่ง แปลกจัง เวลาทำน้ำตาลเคี่ยว บริเวณนั้นจะร้อนมากๆๆ โดยเฉพาะหน้าเตานะคะ จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 19:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยาลืมทายากันฝ้านะคะ  ทำกับข้าวหน้าเตาร้อน ๆ บ่อย  ฝ้าขึ้นได้จากไอร้อนจากเตาค่ะ จากคุณ : แม่สลิ่ม - [ 12 ก.ค. 51 19:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 น้องลูกสนคะ ... เราเหมือนกันเลย พี่บี๊ก็ชอบทานขนมถ้วยสังขยาใช้ต้ำตาลแดงแบบนี้ ขนมที่ว่ามีขายในกรุงเทพฯ เคยเห็นในวัดมะกอก ตรงก๋วยเตี๋ยวเรือ แถวอนุเสาวรีย์ชัยคะ อีกที่นึงคือโรงอาหารร้านค้าสวัสดิการกองทัพบก ถนนสามเสน มีขายสองแบบเลยคะ +++++++++++++++++++ ลงมือเคี่ยวน้ำตาลนี้เมื่อใด หลังบ้านต้องตะโกนว่าหอมจังเลย เคี่ยวน้ำตาลอีกแล้ว คนๆๆๆ ให้เดือดพล่านแบบพวยพุ่ง ต้องระวังอย่าให้ล้นออกมานะคะ เผลอไม่ได้เลย พอพุ่งแบบนี้ เราก็ลดไฟให้อ่อนลง ให้น้ำตาลลดตัวลงไป จากนั้นก็ทำวิธีนี้ไปเรื่อยๆ จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 19:30:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โอ้มายกอด .... ขอบคุณน้องจุ๋มนะคะ ไม่บอกไม่ทราบน๊ะคะเนี่ย .... ++++++++++++++ ขณะเคี่ยวน้ำตาลนี้อยู่ นึกไปถึงขนมเหนียวใส่มะพร้าวขูด ใช้น้ำตาลนี้ราดได้เลยนะคะ แม่ค้าส่วนมากจะขี้เหนียวน้ำตาลเชื่อมที่ราด เรามีติดไว้แล้ว เอามาราดเพิ่มได้เลย เร่งไฟแรงให้น้ำตาลพวยพุ่ง แล้วก็ลดไฟลงให้น้ำตาลลดตัวลง ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 19:34:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อก่อนไม่เคยทราบว่าการที่ต้องคนเร็วๆ ไปเรื่อยๆ จะทำให้น้ำตาลข้นเหนียวตัวเร็ว คิดว่าปล่อยให้เดือดไปเรื่อยๆ โดยใช้ระยะเวลาให้เดือดเอง จะทำให้น้ำตาลเข้นหนียว การคนให้เดือดพวยพุ่ง แล้วลดไฟขึ้น-ลงไปเรื่อยๆ นอกจากจะทำให้เหนียวเร็วแล้ว ยังประหยัดแก๊สอีกด้วยนะคะ จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 19:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หนูแวะมาจดกรรมวิธีจากพี่บี๊ อนุญาตนำไปใช้นะคะ ขอตอบน้องตาโตในฐานะคนคอเีดียวกันค่ะ ที่ตลาด อตก. มีค่ะ ตรงด้านหน้าตลาดก่อนถึงที่ขายผลไม้จากนอกตรงข้ามร้อนปลาช่อนแม่ลาทอดอ่ะค่ะ เค้าจะขายขนมตาลด้วยและมีขนมถ้วยอันนี้ขายด้วยค่ะ จากคุณ : กั้งกระดาน - [ 12 ก.ค. 51 19:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นลายจานใน คห 11 แล้ว .... ว้าวววว .... ลายมันโบราณได้ใจจังค่ะ เหมือนเมื่อก่อนที่บ้านก็มี อิ อิ ตรีว่าอย่างน้อยต้องอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี ถูกป่าวคะ ^^ ยังงง ๆ กะหัวเชื้อน้ำตาลอยู่อ่ะค่ะ ว่าจะเอาไปทำอะไรต่อ ^^" จากคุณ : Triny - [ 12 ก.ค. 51 19:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ก่อนดับไฟลองตักขึ้นดู อย่าลืมเผื่อตอนน้ำตาลเย็นตัวลงด้วยนะคะ เคยเคี่ยวแล้วลืมเผื่อเวลาน้ำตาลเย็น ปรากฏเหนียวหนึบหนับเกินไป ตักใช้ยาก ยิ่งเวลาเอาออกจากตู้เย็นใหม่ๆ ความเย็นทำให้เหนียวหนึบ   มันเหมือนน้ำตาลใช้โรยหน้าขนมนางเล็ด หรือขนมเหนียวเลยอ่ะคะ จัดเก็บใส่ขวดโหลแก้ว แบ่งใส่ขวดเล็กไว้หน่อย เพื่อให้ตักใช้ง่ายๆ จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 19:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เอาไปใส่ในสารพัดยำแทนน้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปีบที่ยังไม่ได้เคี่ยว  ไม่ต้องเสียเวลาให้ละลายด้วย  และน้ำยำไม่เจิ่งนองเกินไปค่ะ จากคุณ : แม่สลิ่ม - [ 12 ก.ค. 51 19:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 น้ำตาลในขนมเหนียวส่วนมากใส่แบะแซช่วยค่ะพี่บิ๊  น้อยจ้าวที่จะใช้น้ำตาลปีบเพียว ๆ  เมื่อก่อนแอบดูคนแถวบ้านเค้าทำขนมขายค่ะ  แต่ชอบกินขนมเหนียวมากนะคะ  บางจ้าวไม่อร่อยเลย  ขี้เหนียวน้ำราด  ข้าวตอกทอดก็ไม่โรย  กินแล้วไม่ได้อารมณ์เลยค่ะ **  แก้ไขพิมพ์ผิด แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 51 19:55:23 จากคุณ : แม่สลิ่ม - [ 12 ก.ค. 51 19:54:58 ]

ความคิดเห็นที่ 25  คุณกั้งกระดาน  น้องเจี๊ยบ น้ำตาลหัวเชื้อนี้ ที่บ้านพี่เอาใส่ในก๋วยเตี๋ยวทุกชนิด   คนโบราณใช้น้ำตาลปีบใส่ในก๋วยเตี๋ยว แม้แต่ก๋วยเตี๋ยวเรือเค้าก็ใช้น้ำตาลปีบนะคะ ใส่ในก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ใส่ไปพร้อมๆ กับใส่น้ำมะขามไงคะ ผัดหมี่โคราชก็ใส่ได้  คุณ Triny  น้องตรีคะ พี่บี๊กำลังจะทำเมนูโดยใช้น้ำตาลหัวเชื้อนี้อ่ะคะ +++++++++++++++++++++ วันนี้ กับเมนูแซบๆ โดยใช้น้ำตาลหัวเชื้ออันนี้  ..... จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 19:58:41 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผัดหมีโคราชจานนี้ก็ใช้น้ำตาลปีบเคี่ยวนะคะ .... จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 20:04:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 นั่นแน่  เอาของแซ่บมาล่อ  อยากกินเลย  แต่ยังไม่ท้องนะ  ฮิฮิ จากคุณ : แม่สลิ่ม - [ 12 ก.ค. 51 20:04:12 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีค่ะคุณบ่งบ๊ง ขออนุญาตมาดูวิธีทำนะคะ พอช่วงนี้กำลังคร่ำเคร่งหาวิธีทำน้ำตาลเคี่ยวอยู่เหมือนกันค่ะ เคยพยายามทำแล้วปรากฎว่ามันแข็งเหมือนเดิมหรือไม่ก็ตกทราย รบกวนถามว่าน้ำตาลตามรูปคห.ที่1 ใช้เป็นน้ำตาลมะพร้าวทั้งสองแบบเหรอคะ แล้วน้ำหนักแต่ละประเภทใช่อย่างละ 1 กิโลหรือเปล่าคะ อีกคำถามค่ะว่า แล้วสังเกตอย่างไรเมื่อเคี่ยวได้ที่แล้วคะ ขอบคุณมากค่ะ ^-^ จากคุณ : ++กะทิหวานน้ำตาลหอม++ - [ 12 ก.ค. 51 20:04:25 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ้อ  ..... เข้าใจแล้วค่า ^^ น้ำตาลมะพร้าวมันหอมกว่าใช้น้ำตาลทรายเยอะเลยนะคะ เห็นแล้วอยากเอามาราดข้าวแต๋นจริง ๆ ค่ะ ^^ จากคุณ : Triny - [ 12 ก.ค. 51 20:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สับมะละกอใส่จานไว้ ไม่ต้องเอาไปโขลกในครก เอาเครื่องราดได้เลย จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 20:07:09 ]

ความคิดเห็นที่ 31 Woooww จากคุณ : Mille-Feuilles - [ 12 ก.ค. 51 20:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 32  ก๊ากกกกก เอ๊าๆๆๆ น้องจุ๋มยังไม่ท้องอีกเรอะ นึกว่ากำลังอุ้มแตงอ่ะน๊ะ เอิ๊กๆๆๆๆ งั้นพี่บี๊ท้องลูกอิจฉาแซงหน้าไปก่อน ... อยากให้หลานสาวเอแคร์ลได้เพื่อนเร็วๆ จังคะ   คุณ กะทิหวานน้ำตาลหอม .. น้ำตาลจะใช้เท่าใดก็ได้คะ ที่เค้าขายถุงละ 1 กก. ไหนๆ จะทำแล้ว ทำทีเดียวเลย เพราะเป็นโรคขี้เกียจทำบ่อยๆ เก็บไว้ใช้ได้นานนะคะ +++++++++++++++++++++ เตรียมน้ำราด โดยใช้อัตราส่วน 1 :  1  :  1  น้ำตาลปีบ + น้ำมะนา + น้ำปลา จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 20:22:05 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ทำหัวเชื้อเสร็จแล้วจ้าๆๆๆๆๆๆ หั่นไข่เค็มเป็นเหลี่ยมๆ ลูกเต๋าใส่ไปด้วย จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 20:23:47 ]

ความคิดเห็นที่ 34 วันหลังพี่บิ๊ลองซอยกะหล่ำปลีฝอย ๆ แทนมะละกอสิคะ  แม่ชอบทำให้กินบ่อย ๆ ตอนเด็ก ๆ ค่ะ  เลยจำมาทำ  อร่อยดีค่ะ จากคุณ : แม่สลิ่ม - [ 12 ก.ค. 51 20:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ..... อีกสักรูปชัดๆ จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 20:25:02 ]

ความคิดเห็นที่ 36  โอ้ววววววว ได้อีกหนึ่งแมนู ต้องลองแน่ๆ ขอบคุณนะคะ น้องจุ๋ม .. จุ๊บจุ๊บ ++++++++++++++++ แล้วเราก็เอาทั้งสองมาทานคู่กัน  ... ส้มตำไข่เค็ม ทานกับ ผัดหมี่โคราช ณ ราชสีมา จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 20:28:28 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ..... จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 20:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อวานนุชฮาสะเดิด เอาสังขยาสูตรที่แม่หลิ่มทำแวะมาให้ที่บ้านด้วยนะคะ พร้อมขนมปังโรงของชอบของเจ๊บี๊ เป็นคนชอบทานขนมปังทุกชนิดทุกแบบ   เด๋วต้องลองทำดูบ้างแล้ว พี่นุชหมีก็ลองทำเมื่อวาน ยังไม่มารายงานผลคะ จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 20:34:15 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณคุณบ่งบ๊งมากค่ะ ^-^ จากคุณ : ++กะทิหวานน้ำตาลหอม++ - [ 12 ก.ค. 51 20:41:53 ]

ความคิดเห็นที่ 40 " ขอบคุณครับคุณ : บ่งบ๊ง ได้รับความรู้แถม อาหาร น่าทานจัง " จากคุณ : tumauto - [ 12 ก.ค. 51 20:55:43 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มาดูค่ะ...ทางใต้เรามีน้ำตาลเหลว (น้ำตาลโตนด) เด๋วเอามาเคี่ยวใส่ตู้ไว้มั่งนิ จากคุณ : Sao'Padlung - [ 12 ก.ค. 51 21:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 42 น่ากินมากค่ะพี่บี๊ ได้น้ำตาลปึกมาจากตลาดอัมพวาเหมือนกัน เก็บไว้ในตู้เย็นอยู่เลย เอามาทำมั่งดีกั่ว ว่าแต่ นู๋จะเอาเวลาที่ไหนมาทำคะเนี่ยยยย จากคุณ : นะโมโตเร็วเร็ว - [ 12 ก.ค. 51 21:32:52 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เอิ๊กกกกกส์ ลืมเปลี่ยนล็อคอิน 555++ พี่บี๊จะงงมั๊ยเนี่ย จากคุณ : นะโมโตเร็วเร็ว - [ 12 ก.ค. 51 21:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เมื่อกี้บอกแม่แล้ว ไว้จะแบ่งน้ำตาลมาให้แม่ซักครึ่งขวด แม่บอกดีๆแม่ชอบกินหวาน อิอิ เนอะๆๆๆ สังขยาอร่อยจริงๆ จากคุณ : inthemoon - [ 12 ก.ค. 51 21:42:28 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ว๊าววววววววววววววว....น้าบี๊ขอบคุณค่า กาลังจะโทรไปถามพอดีว่าทำยังไง ต้องรีบเอามาทำก่อน เพราะสามถุงที่ซื้อมา ลูกปลากินเล่น(เปล่าๆ)หมดไปหนึ่งแร้ว (- -") จากคุณ : iTiMiTi - [ 12 ก.ค. 51 21:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 46  กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แม๊ๆๆๆ ไม่งงหรอกนะเคอะ  .... จารย์นก ... นี่เอง  ..... ลองทำเก็บไว้นะคะ ใช้เวลาไม่นาน ใช้ได้กับทุกอย่างจริงๆ ทำให้รสชาติของอาหารดี กลิ่นหอม อาหารหน้าตาใสๆ บ้านเราไม่ค่อยใช้น้ำตาลทรายใส่ก๋วยเตี๋ยว ใช้แบบบี้คะ จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 12 ก.ค. 51 21:46:09 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณพี่บิ๊มากค่ะ..ที่รีวิวให้ดู อิอิ แล้วก็ขอโตดด้วย..เรียกชื่อผิด แป่ววววววววววววววววว จากคุณ : มนุษย์ไฟฟ้า@สีชมพู - [ 12 ก.ค. 51 22:10:55 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ...น่าทำเก็บไว้ใช้จริงๆเลยค่ะพี่บิ๊ ^^ จากคุณ : แมวอ้วน (A Little Catz) - [ 12 ก.ค. 51 23:44:01 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เอาใส่เค้กเลยแมวอ้วน...อิอิอิ @^^@ จากคุณ : เฮียแมว - [ 13 ก.ค. 51 00:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณครับแม่บี๊ ที่จัดการเคี่ยว ... เชื้อไว้ให้ผม ไว้เร็วๆนี้จะขับรถไปเอาครับ จากคุณ : เต๋อ 00 - [ 13 ก.ค. 51 02:45:44 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ความรู้ใหม่เลยค่ะ จากคุณ : Nutsawan - [ 13 ก.ค. 51 04:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อยากได้สักสองสามขวดโตๆ จัง บ้านนอกขาดแคลนค่ะ หาน้ำตาลที่มีกลิ่นหอมมะพร้าวไม่ได้เลยค่ะ จากคุณ : Kofschip - [ 13 ก.ค. 51 04:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มาจดเคล็ดไม่ลับของพี่บิ๊ ขอบคุณนะฮะ จากคุณ : ต๊กโกว - [ 13 ก.ค. 51 09:21:46 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เพิ่งเคยเห็นหัวเชื้อน้ำตาลมะพร้าวครับ เอาไปทำอาหารได้หลายอย่างเลย คาดว่าหอม อร่อย จากคุณ : DJ BrYaN - [ 13 ก.ค. 51 15:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 55 แต๊งกิ้วม๊ากมากเลยครับ ได้ความรู้ใหม่ และได้ไอเดียด้วย //แต๊ง อะ ล็อท จากคุณ : เทวดา - [ 13 ก.ค. 51 17:12:07 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ให้สังเกตุว่า ถ้าเราใช้น้ำตาลแบบไม่เคี่ยว หน้าตาของอาหารที่ออกมาจะขุ่นๆ แต่ถ้าใช้น้ำตาลเคี่ยว อาหารที่ออกมามีหน้าตาจะใสๆ กลิ่นก็ต่างกันด้วยนะคะ อยากให้ลองทำเก็บไว้ รับรองว่าตักใช้คล่อง สะดวกกว่าใช้น้ำตาลแบบแข็งๆ ที่บ้านใช้น้ำตาลหัวเชื้อนี้ใส่ทุกอย่าง แม้แต่น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวน   อาหารพวกยำๆ ทั้งหลาย ก๋วยเตี๋ยวทุกชนิด ใช้น้ำตาลนี้ทั้งนั้นเลยคะ จากคุณ : บ่งบ๊ง - [ 13 ก.ค. 51 18:55:31 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อืมมมมมม ทำแบบนี้สะดวกดีนะคะ จากคุณ : น่ารัก เซ๊กซี่ ขี้เล่น แสนซน - [ 13 ก.ค. 51 23:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 58 มาจดค่ะ มีน้ำตาลเพชรค้างปีนื่มๆดำๆอยู่ยังพอไหวมั้ยน้า จากคุณ : Mot_anoy - [ 14 ก.ค. 51 03:17:48 ]