Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ขี่ม้า(เหล็ก) ชมดอกไม้ ที่ ฮอกไกโด พร้อมบันทึกจากป๋า (ตอนที่ 11)

    สวัสดีครับ  เพื่อน ๆ  ที่รักทุกท่าน

    ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D6781080/D6781080.html
    ตอนที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D6783461/D6783461.html
    ตอนที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D6786715/D6786715.html
    ตอนที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D6795442/D6795442.html
    ตอนที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D6798928/D6798928.html
    ตอนที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D6802362/D6802362.html
    ตอนที่ 7 http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D6816718/D6816718.html
    ตอนที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D6819612/D6819612.html
    ตอนที่ 9 http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D6822737/D6822737.html
    ตอนที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D6826156/D6826156.html


    ลืมแปะเรื่องของป๋า  ไป  มาเริ่มตอนนี้เลยแล้วกันนะครับ  


    กลับเข้ามาที่ห้องเกือบหกโมงเช้า ทันกับเพื่อนร่วมห้องที่ตื่นขึ้นมาพอดี จากนั้นต่างคนต่างออกไปเดิน อากาศเช้านี้สดใส ท้องฟ้าสว่างมีเมฆปะปนเล็กน้อย อุณหภูมิอยู่ประมาณ 15 องศา ด้านหลังของโรงแรมเป็นคลองกว้างประมาณ 100 เมตร ทางการจัดทำเขื่อนคอนกรีตถาวรไว้ทั้งสองข้าง หลังเขื่อนทำเป็นทางเดินปูด้วยกระเบื้องทางเดินสีแดง สำหรับประชาชนได้มาชื่นชมทัศนียภาพและออกกำลัง อันนี้มีผลพลอยได้กับหมาด้วย เพราะเช้านี้เห็นอยู่สามคู่ ที่ว่าคู่นี้คือเจ้าของกับหมาที่น่ารัก ในมือของเจ้าของมีถุงพลาสติกคอยเก็บขี้หมา เพื่อไม่ไห้ตกเรี่ยราดไปรบกวนสิทธิของประชาชนอื่น เป็นการใช้ประโยชน์ร่วมกันที่มีแต่ความสุข ทางการอีกนั่นแหละที่จัดไม้ดอกใส่กระถางวางเรียงรายตามขอบทาง บางส่วนของทางเดินทำเป็นบันไดกว้างเมตรกว่าๆ ยาวไปหลายสิบเมตร ไม่ได้ทำขอบเป็นแนวตรงแต่ทำขอบของแต่ละขั้นให้โค้งไปมาดูแล้วสบายใจไม่เครียด เบื้องหลังทางเดินนี้เป็นถนนขนาดสองเลนสวนกันทั้งสองฝากฝั่ง แต่เช้านี้ไม่ค่อยเห็นรถเท่าไหร่ เข้าใจว่ายังเช้าอยู่ คลองนี้แบ่งเมือง Abashiri ออกเป็นสองส่วน เท่าที่ดูด้วยสายตาเจริญพอๆ กัน ตามธรรมดาแล้วเมืองที่เจริญมักจะอยู่ติดกับทางรถไฟ แต่ไม่มีโอกาสที่จะสำรวจด้านบริเวณใกล้สถานีรถไฟ ความเห็นนี้จึงอาจไม่ตรงกับความเป็นจริงเท่าไรนัก เอาเถอะได้มาเดินรับอากาศบริสุทธิ์แบบนี้ก็เพียงพอ ถมไปแล้ว ได้ยินเสียงร้องของนก แต่มองไปเห็นนกหลายชนิดจึงบอกไม่ได้ว่าตัวไหน มีทั้งนกนางนวล หงส์สีขาว (เห็นอยู่ตัวเดียว น่าจะมีสองตัวเพราะธรรมชาติของหงส์จะอยู่เป็นคู่ หรือจะเป็นนกชนิดอื่นก็ไม่รู้ นิ) และนกกา (อีกา แต่ตัวใหญ่มากๆ ขอบอก) มีทั้งบินว่อนโฉบไปมา ส่วนที่เดินอยู่ชายน้ำ เข้าใจว่าเป็นช่วงน้ำลงจึงทำให้มีพื้นที่ชายน้ำตลอดแนวสองฝั่งคลอง ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าน้ำในคลองเป็นน้ำเค็มหรือว่าน้ำกร่อย แต่คงไม่ใช่น้ำจืดแน่ๆ เพราะห่างออกไปอีกไม่กี่กิโลก็เป็นทะเลแล้ว แถมยังมีนกนางนวลบินไปมาอีกด้วย เดินข้ามสะพานโค้งไปฝั่งตรงข้าม บริเวณเชิงสะพานฝั่งนี้เต็มไปด้วยบ้านเรือนและร้านค้า ด้านที่อยู่ติดถนนเป็นอาคารที่มีความสูงสี่ชั้นเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังไม่เปิดเลยดูไม่ออกว่าค้าขายอะไรกันบ้าง พ้นบริเวณนี้มีซอยแยกจากถนนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยมีทั้งชั้นเดียวและสองชั้น ทุกบ้านปลูกไม้ดอกประดับไว้ตามริมรั้วและสนามในบ้าน และดูสวยงามสบายใจนัก เดินอยู่พักใหญ่ก็เริ่มเห็นนักเรียนเดินคุยกันมาตามถนนเป็นกลุ่ม สามคนบ้าง ห้าคนบ้าง ช่างมีความสุขเสียจริง

    กลับมาถึงโรงแรมก็เจ็ดโมงเช้าแล้ว เลยคิดกันว่าเราต้องรีบออกเดินทางเพราะเกรงว่าอาจเจอปัญหารถติดในเมือง Abashiri ซึ่งอาจทำให้เราไปขึ้นรถไฟไม่ทัน อย่างนั้นก็เอาข้าวของขึ้นรถและ check-out เลยดีกว่า ระหว่างนี้ก็รอคุณโจโจ้ กลับมาจากการเดินเล่นภาคเช้า พอดีดูทีวีเห็นมีเรื่องรถบรรทุกเล็กชนเด็กนักเรียน เค้าทำภาพกราฟิกให้ดู รถบรรทุกเล็กวิ่งมาทางด้านหลังของกลุ่มเด็กนักเรียนน่าจะชั้นประถมต้น อยู่ดีดีก็หักรถเข้าหาเด็ก ไม่รู้ว่าเจ็บกี่คน เพราะฟังไม่ออก มาครบกันแล้ว ตัดสินใจออกเดินทางโดยยังไม่กินข้าวเช้า ไปหาเอาระหว่างทางเพื่อประหยัดเวลา และเป็นการเผื่อหลงทางไว้ด้วย ก่อนอื่นเราแวะเติมน้ำมันก่อน และเพื่อความไม่ประมาทเราได้ขอให้ผู้จัดการโรงแรมช่วยเขียนภาษาญี่ปุ่นว่าน้ำมันเบนซินแบบธรรมดาหรือ Regular นั้นเขียนอย่างไร พอถึงปั๊มน้ำมันก็ง่ายมากเพราะแลเห็นตัวหนังสือแบบเดียวกันบนตู้จ่ายน้ำมัน แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้วเพราะปั๊มนี้เป็นระบบจ่ายเงินเองเติมน้ำมันเอง Self Service ถ้าอ่านภาษาญี่ปุ่นออกก็ทำได้ พอดีผู้ดูแลปั้มมองเห็นว่าถ้าไม่ช่วยรถคันนี้คงไม่มีโอกาสได้เติมน้ำมันแน่ๆ เค้าจึงเดินมาสอนวิธีการเติมน้ำมันให้ เราใช้ภาษาใบ้ เริ่มด้วยเค้าแบมือขอสตางค์ อะไรกันยังไม่ทันเติมน้ำมันเลยจะเอาสตางค์แล้ว ก็บ้านเราเติมแล้วจึงจ่ายตังค์นี่นา เอาเถอะทำตามเค้าก็แล้วกัน คุณคิ้มเหรัญญิก ของคณะจึงส่งเงินให้ไปหนึ่งหมื่นเยน (ธนบัตร) เค้าก็นำไปเข้าเครื่องซึ่งมีช่องให้สอดธนบัตร แล้วตัวเลขบนจอบรรทัดบนก็ขึ้นมาว่า 10,000 เยน ส่วนบรรทัดล่างขึ้นมาว่า 0.00 น่าจะเป็นจำนวนลิตรนะ เค้าก็บอกให้เรายกหัวจ่ายขึ้นมาจากตู้จ่ายน้ำมันแล้วลากมาใส่ปากถังของรถ แล้วบีบกระเดื่องเพื่อให้น้ำมันไหลเข้าถัง พอน้ำมันเริ่มไหล ตัวเลขบนจอบรรทัดล่างที่เครื่องก็เริ่มวิ่ง เติมไปเรื่อยๆจนคุณคิ้มตะโกนว่า เต็มแล้วนะคะ ก็หยุดจ่ายน้ำมันที่ประมาณ 25 ลิตร ไปดูที่เครื่องบรรทัดบนขึ้นเป็นค่าน้ำมัน บรรทัดล่างเป็นจำนวนลิตร จำไม่ได้ว่าต้องกดปุ่มใดอีกหรือไม่ เครื่องก็ทอนสตางค์ออกมาที่ถาดใต้เครื่อง คุณคิ้มนับแล้วก็ตรงพอดี น้ำมันธรรมดาราคาลิตรละ 175 เยน เกือบหกสิบบาทแน่ะ

    แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 51 11:23:53

     
     

    จากคุณ : jojo02 - [ 25 ก.ค. 51 11:17:54 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom