ความคิดเห็นที่ 1 น้ำซุปของคุณทำจากอะไรบ้างครับ แล้วอีกอย่าง ผมว่า คนไทยชอบกินก๋วยเตี๋ยวน้ำตก หรือต้มยำ มากกว่าน้ำใสนะ จากคุณ : ยัยตัวร้ายกับนายมะพร้าว - [ 29 ก.ค. 51 13:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อีกอย่างหนึ่ง เส้น เวลาลวกแล้ว ก็จะมีน้ำติดมาด้วย ซึ่งบอกเลยว่าไม่น้อยเลย จึงไม่แปลกที่จะทำให้น้ำซุบจืดลงนะครับ จากคุณ : ยัยตัวร้ายกับนายมะพร้าว - [ 29 ก.ค. 51 13:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก็กระดูกหมู กะเพาะหมู รากผักชี กระเทียม พริกไทย ซีอิ้วขาว น้ำตาลเกลือ มีคนบอกให้น่ะครับแต่ไม่ได้บอกส่วนผสมก็เลยทำเอง จากคุณ : ไฟไฟ - [ 29 ก.ค. 51 13:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปรุงน้ำซุปให้เข้มขึ้น โดยค่อยๆ ชิมกับเส้นและผักเครื่องประกอบทุกอย่างมั้ยคะ ใช้เกลือเม็ดและน้ำตาลปิ๊บเติมในหม้อน้ำซุปจะเข้มกว่าน้ำตาลทรายและเกลือผงค่ะ   อ้อ..สมัยนี้ คนรักษาสุขภาพกันเยอะ ไม่ใช้ผงชูรสก็ดึงคนเข้าร้านได้นะคะ จากคุณ : Sao'Padlung - [ 29 ก.ค. 51 14:02:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถามแบบเดียวกะคนข้างบนครับ น้ำซุปจะอร่อย หวาน หอม มีส่วนประกอบเยอะครับ บางคนก็มีเทคนิคเคล็ดลับ ซึ่งคงไม่เปิดเผยกันง่าย ๆ น้ำซุปเป็นหัวใจของก๋วยเตี๋ยว ฉะนั้น ต้องประเคนวัตถุดิบและเครื่องปรุงใส่เข้าไป อย่าคิดจะเซฟ อย่างก อย่าเหนียว กับน้ำซุปนะครับ โจทก์ของคุณมันก็มีคำตอบในตัวมันอยู่แล้วนะครับ เมื่อใส่น้ำซุปแล้วก๋วยเตี๋ยวจืด ไม่หวาน ไม่หอม ก็ต้องปรุงรสให้เข้มข้นขึ้นอีก กระเทียมเจียวก็ต้องใส่กากหมู น้ำมันหมู พริกไทยขาวป่น อย่าลืมเชียว โอย ดีเทลยังมีอีกแยะครับ สุดท้าย ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใส หาจุดขายยากครับ ที่เห็นขาย ๆ กันได้อยู่ ก็คือราคาถูกครับ ประมาณว่า 20 บาทก็อิ่มได้ ถ้าเป็นเยนตาโฟ ต้มยำ หรือน้ำตก อย่างที่ข้างบนว่า จะน่าสนใจกว่า //ไม่ได้โม้ ปล. ตอนนี้พิษเศรษฐกิจเล่นงานกันไปทุกหย่อมหญ้านะครับ ผมสำรวจมาหลายวงการแล้ว ประคองตัวให้พอรอดชีวิตไปก่อนเถอะครับ อย่าคาดหวังอะไรมาก ปล. 2 ยังไงลองหลังไมค์มาหาผมนะครับ เดี๋ยวถ้าผมว่างจะตอบให้ จากคุณ : เทวดา - [ 29 ก.ค. 51 14:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบตามความคาดหวังในฐานะลูกค้านะคะ ต้องการร้านที่สะอาด ให้ความรู้สึกว่าผู้ขายต้องการให้ลูกค้ามีความสุขกับอาหารที่เค้าปรุงน่ะค่ะ  รสชาติหรือส่วนผสมก็จะดูที่ความปราณีตเป็นหลัก เพราะเราคงไม่ได้ชอบอาหารเพียงรสชาติหรือชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น  สรุปว่า เน้นความตั้งใจค่ะ จากคุณ : gold digger - [ 29 ก.ค. 51 14:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 บ้านเราขายก๋วยเตี๋ยวนะคะ ตอนต้มน้ำซุปน้ำแรกตอนเช้า เอากระดูกหมูชิ้นใหญ่ๆ หลายๆ ชิ้น ใส่ลงไปในหม้อเลยค่ะ เอาน้ำตาลกรวดใส่ลงไปด้วยเล็กน้อย ตามด้วย หัวไช้เท้าประมาณ 5-6 ชิ้นค่ะ พอเดือด ให้ช้อนฟองทิ้งให้หมด โยนรากผักชีลงไปเยอะๆ ค่ะ พอเดือดอีกครั้ง ให้ตักทั้งหมดที่ใส่ไปตอนแรกนั้นออกมาใส่หม้อเก็บไว้ต้มต่อหลังบ้านค่ะ จากนั้น คอยตักฟองในหม้อใหญ่ทิ้งให้หมด ส่วนหม้อหลังบ้านก้อต้มไฟอ่อนๆ เอาไว้ เอาไว้เติมหม้อใหญ่เวลาที่น้ำงวดลงไปแล้วค่ะ .. เวลาลวกเส้น ให้สะบัดน้ำให้แห้งก่อนนะคะ หวังว่าคงช่วยได้บ้าง ไม่มากก้อน้อยค่ะ จากคุณ : Select Star - [ 29 ก.ค. 51 14:11:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ปรับปรุงรสชาติ  แล้วเปลี่ยนเป็นก๋วยเตี๋ยวบุฟเฟ่ห์ อินเทรนด์ดี  ราคาย่อมเยา  ลูกค้าตรึมแน่นอน จากคุณ : bolton fanclub - [ 29 ก.ค. 51 14:11:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ใช้น้ำซุบไก่หรือกระดูกหมูครับ ถ้าทำน้ำซุปอร่อย รสจะเปลี่ยนได้ยังไงครับ งง ปกติเราแยกน้ำลวกเส้น กับน้ำซุปออกจากกันอยู่แล้วนิ แล้วต้มกระดูกในน้ำเย็นหรือเปล่าครับ ถ้ายังไงเมลล์มาคุยกันได้ (เผื่อผมไม่ได้แวะมา แต่เมลล์งานจะเช็คทุกวันครับ) จากคุณ : เซี๊ยะ (ขอเป็นสะพานเชื่อมดาว) - [ 29 ก.ค. 51 14:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ในฐานะผู้บริโภค ชอบทานเตี๋ยวแห้งค่ะ เครื่องก็พวก หมูสับ เครื่องใน (ไส้ ชอบสุดๆ) ลูกชิ้นกุ้งแบบที่มันอร่อยๆนะ ไม่ใช่แบบที่กุ้งดำๆ มีน้ำซุปกระดูกหมูมา 1 ถ้วย ถ้าเป็นเตี๋ยวน้ำ ต้องอย่างดู๋ดี๋ ถ้วยละ 30 นี๊ดดเดียว ไปกัน 4 คน หมดไป 400 แต่ก็ไม่ได้นำพาเพราะมันอร่อยค่ะ ถ้าให้แนะนำ ถ้าคุณทำออกมาแล้วมันธรรมดาก็คงขายไม่ได้ ลองหาเครื่องที่มันแปลกๆจากคนอื่นดูสิคะ เคยกินบางร้านใส่เผือกทอด ก็อร่อยดีนะ บางร้านก็เน้นลูกชิ้นปลาแบบสุดยอด อยู่แถวไหนคะ ถ้าอยู่แถวฝั่งธน จะแนะนำให้ไปลองชิม ฮื่อก้วย ของร้านฉุ่ย อร่อยมากๆ คุณแฟนซื้อทานประจำ เส้นละ 40 กินเปล่าๆ แป๊ปเดียวหมด ขอให้โชคดีค่ะ .. สู้ สู้ จากคุณ : cpom - [ 29 ก.ค. 51 14:19:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อยู่ต่างจังหวัดครับ ผมรุ้สึกว่ารสของเส้นแล้วก็ผักมันจะปนมากับน้ำซุปด้วยน่ะครับทำให้ซุปมันจืดลงแล้วรสก็เปลี่ยนเป็นธรรมดา มาก ๆ แล้วผมก็ไม่ค่อยมีประสบการณ์การทำอาหารด้วยน่ะครับก็ลองผิดลองถูกมา แต่ลูกค้าเขาไม่ลองด้วยตอนนี้ก็เลยปิดร้านไว้ก่อน พอดีมีที่ทางติดถนนคนเยอะไม่ได้เช่าเลยไม่เดือดร้อนเท่าไหร่แม้จะไม่ชอบทำอาหาร แต่ร้านเราว่างแล้วรู้สึกว่ายิ่งว่างมันก็ยิ่งว่างขึ้น ๆ ทุกวัน เดี๋ยวจะลองดูตามคำแนะนำน่ะครับ คุณ Select Star ร้านขายดีหรือเปล่าครับผมเริ่มไม่มั่นใจในตัวเองแล้วสิ แล้วไม่เติมอะไรเพิ่มเหรอครับ แต่โดยส่วนตัวผมชอบน้ำใสน่ะครับเลยเลือกทำแบบนี้แล้วมันก็น่าจะง่ายด้วย ขอบคุณทุกท่านน่ะครับแล้วจะมาอ่านใหม่เรื่อย ๆ คอยปรับเรื่อย ๆ แต่ว่าถ้าจะปรุงให้เข้มนี่ต้องเพิ่มกระดูกหมูสิครับ ตอนนี้ผมใช้1กก. ต่อน้ำสิบลิตร เป็นอย่างไรบ้างหรือว่าอ่อนไป จากคุณ : ไฟไฟ - [ 29 ก.ค. 51 14:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ควรจะสะบัดเส้นให้แห้งๆหน่อยครับเวลาลวก และลองเพิ่มความเข้มข้นของน้ำซุปดูครับ กระดูกหมูที่ใช้ควรทุบให้แตกก่อนต้มครับ จะช่วยให้รสชาติซึมออกมาได้ง่ายขึ้น จากคุณ : Spinnecker - [ 29 ก.ค. 51 14:53:04 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมขายไปก็หน้าหงิกหน้างอไปก็มีครับ  แต่ผมไม่ชอบยิ้มน่ะครับใครจะกินก็กินไม่กินก็ไปกินที่อื่นได้ไม่ว่าแต่ผมปราถนาดีกับลูกค้าแบบจริงใจน่ะครับจะยิ้มก็มีเหตุผลจริง ๆ ที่จะยิ้มถึงยิ้ม อาหารผมก็รักษาความสะอาดทั้งต่อหน้าลับหลังน่ะครับ จากคุณ : ไฟไฟ - [ 29 ก.ค. 51 14:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าคนขายหน้าบึ้งหรืออารมณ์ไม่ดี ลูกค้าก็ไม่ค่อยอยากจะเข้าหรอกค่ะ กลัวพ่อค้าเสียมากกว่า ถ้ายังไงลองยิ้มแล้วก็ทักทายลูกค้าบ้างซิค่ะ น่าจะดีกว่าเพราะเป็นความประทับใจแรกก่อนเข้าร้านนะค่ะ จากคุณ : PiN.VE (PiN.VE) - [ 29 ก.ค. 51 15:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าคิดจะขายของแล้วไม่รู้จักยิ้ม ก็เลิกขายได้เลยครับ  ต่อให้รสชาติอร่อยสุดๆอย่างไร ผมก็ไม่ซื้อ คนอื่นๆก็ไม่ซื้อ การจะขายของ ยิ่งโดยเฉพาะ ทำอาหาร อยู่ที่ อารมณ์ของคนขายเป็นอย่างมาก ความสำคัญ ในร้าน อันดับ1 เลย ความสะอาด 2 คนในร้าน มนุษยสัมพันธ์ 3รสชาติ แนะนำให้อ่านหนังสือ คู่มือสะกดใจคนก่อน ส่วนเรื่อง น้ำซุบ หลายคนให้ความเห็นไปแล้วไม่ขอกล่าวอีก จากคุณ : ไปกับสายลม (ตำนานบู้ลิ้ม) - [ 29 ก.ค. 51 15:34:12 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ก๋วยเตี๋ยวจะอร่อย   อยู่ที่น้ำซุปมาเป็นอันดับแรกเลยค่ะ      สังเกตไหมคะเวลาสั่งก๋วยเตี๋ยวมา   เราต้องลองซดน้ำดูก่อน     บางร้านร้านซุปหวานหอม มากๆ  แทบจะไม่ต้องปรุงอะไรเลย     เด็กๆก็ทานได้อย่างอร่อย   หากน้ำซุปจืดชืดเราจะทานลงได้อย่างไร    มันเหมือนน้ำเปล่ายังไงยังงั้น     คุณจขกท   อาจจะใส่เครื่องปรุง    หรือกระดูกหมู    น้อยกว่าอัตราส่วนของน้ำก็ได้ค่ะ      คนทำต้องลองชิมน้ำซุปตัวเองดูค่ะ  ว่าหวานหรือยัง  หอมหรือยัง แต่เราขอแนะนำให้ใส่   ใชเท้าลงไปเยอะๆเลยค่ะ   ฝานเป็นแผ่นๆๆๆๆ    ถ้าต้มน้ำซุปหม้อใหญ่มาก     ใส่ลงไปหลายๆหัว  เรียกว่าสักกะมังเล็กๆเลยค่ะ,เติมรากผักชีกำใหญ้ๆ   ลงไปด้วย   ถ้าอยากให้หอมมากๆ   ใส่เห็ดหอมลงไปตุ๋นซิคะ       จากนั้นปรุงรสเพิ่มเติม    และตุ๋นไฟอ่อนๆหลายๆชั่วโมงค่ะ ขนาดแม่เรานะ  จะทำก๋วยเตี๋ยวให้ลูกทานพรุ่งนี้นะ     เขาจะตุ๋นน้ำซุปตั้งแต่ก่อนนอน     เปิดไฟให้เบาที่สุด (ต้องระวังเรื่องไฟนิดนึงค่ะ  )  พอเช้ามาได้น้ำซุปทำก๋วยเตี๋ยวอร่อยที่สุดเลยค่ะ จากคุณ : เฮ้าส์1 (เฮ้าส์1) - [ 29 ก.ค. 51 15:36:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หากระจกอันพอเหมาะๆ อันนึง วางไว้แถวๆที่คุณยืนอยู่ แล้วว่างๆก็หัดยิ้มกับกระจก เวลาลูกค้าเข้ามา ต้องพยายามยิ้มเข้าไว้ ห้ามบึ้ง ห้ามบูด ห้ามบ่นห้ามตะคอก ห้ามคิดว่า "ใครจะกินก็กิน ไม่กินก็ไปกินที่อื่นได้ไม่ว่า"   อีกเด็ดขาด เพราะเขาก็จะหนีไปกินที่อื่น ตามที่คุณว่านั่นแหล่ะ - -* บางทีก็ลองถามลูกค้าที่กินเสร็จแล้วดูก็ได้ ว่าก๋วยเตี๋ยวเป็นไงบ้าง แบบไอติมSwS ที่คอยส่งสาวๆน่ารักๆมาตามโต๊ะคอยถาม รสชาติไอติมเป็นไงบ้างคะ บ่อยๆ - -* ถ้าสมมติลูกค้าบ่นว่า(ไม่อร่อย หมาไม่แด๊กฯลฯ) อย่าไปโกรธลูกค้า ค่อยๆถามว่าไม่อร่อยตรงไหน เส้นลวกนานไป? น้ำซุบจืดไป? หมูน้อยไป? หมูจืดไปหรือไง ? เพราะความเห็นของลูกค้าโดยตรงย่อมดีกว่ามานั่งเดาเอาเองว่าเพราะอะไร แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 51 16:11:06 จากคุณ : วันนี้พิมพ์ยาวแฮะเรา - -* (ตุปัดตุเป๋) - [ 29 ก.ค. 51 16:09:24 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คิดว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่ตัวคนขายมากกว่า มือก็ใหม่ ร้านก็ใหม่ พอลูกค้าลองครั้งแรกไม่ติดใจ ก็ไม่เข้าซ้ำ พอไม่มาซ้ำ คนก็น้อยลง พอคนน้อยลงก็เริ่มท้อ ยิ้มไม่ออก นั่งมองแก๊สที่เผาหม้อ ปุดๆ เสียดาย เลยหรี่แก๊ส พอลูกค้ามาค่อยเร่งแก๊ส ก็ไม่ทันการ น้ำไม่เดือด น้ำไม่เดือด ทำอะไรก็ไม่อร่อย ไม่อร่อย คนก็ไม่อยากมากินแล้ว บอกกันไปปากต่อปาก ว่าไม่อร่อย พ่อค้าหน้าหงิก ของแบบนี้นะ มันต้องไปดูงานหลาย ๆ ร้าน ไปจดจำร้านอื่น ๆ เขาทำไง เอาเทคนิคมาใช้ ที่สำคัญต้องอดทน อย่าท้อ ทน และปรับปรุง จะสำเร็จได้ จากคุณ : คุณแหวะ - [ 29 ก.ค. 51 16:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ที่บ้านเวลาทำก๋วยเตี๋ยวกิยก้จะ ใส่ซีโครงหมู รากผักชี กระเทียม พริกไท หัวไช้เท้าฝานบางๆ แล้วก้ข่าทุบค่ะ นอกนั้นก้ใส่น้ำตาลกรวด เกืลอ ผงปรุงรสนิดหน่อย จากคุณ : น้องเหม่งยิ้มแป้น - [ 29 ก.ค. 51 16:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แล้วอีกอย่าง คนขายต้องยิ้มด้วยน่ะค่ะ เวลาคนมาซื้อจะได้ชื่นใจค่ะ จากคุณ : น้องเหม่งยิ้มแป้น - [ 29 ก.ค. 51 16:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เอาใจ ช่วยนะครับ แต่ขอข้อมูลเพิ่มเติมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าคุณจะมาปรึกษาคนที่นี่ คุณต้องเปิดใจ เปิดเผยข้อมูลให้หมดน่ะครับ เริ่มตั้งแต่ ทำเลที่ตั้ง คุณถ่ายรูปสถานที่หน้าร้านคุณมาเลย (ถือซะว่าโปรโมทร้านไปเลย )  บอกตำแหน่งที่ตั้งเท่าที่ได้ คนที่อยู่ย่านนั้น บรรยากาศเป็นไง ใกล้ โรงเรียน โรงงาน สถานที่ราชการ หรือว่า อะไรที่เป็นกลุ่มลูกค้าคุณที่อยู่แถวนั้น วัตถุดิบของน้ำซุปที่คุณใช้ เท่าที่อ่านมาก็น่าจะ ok  แล้ว เหลือเทคนิคนิดหน่อยก็อย่างที่หลายคนบอกไป เช่นต้องการน้ำซุปใส ก็ต้องต้มตั้งแต่กระดูกหมูในน้ำเย็น ใช้ไฟอ่อน ช้อนฟอง หรือเทคนิคอื่นๆที่ท่านๆข้างบนกล่าวมา เกรด ของวัตถุดิบชนิดอื่นๆ เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นแต่ละชนิดที่ดี ที่มีชื่อเสียง คุณภาพดี สามารถหาได้ตามแหล่งต่างๆ ลูกชิ้น เนื้อหมู หมูตุ่น เครื่องใน  ฯลฯ คุณทำเอง หรือซื้อเค้ามาปรุง ใช้ของดีไม่ดีอย่างไร หมูนุ่ม ลูกชิ้นแข็งไปไม๊ หรือมีแต่แป้ง ขนาดลูกชิ้น ส่วนตัวเคยทานลูกชิ้นหมูที่อรอ่ย จะเนื้อหยาบแบบมีผิวสมัผัส ภายในมีเม็ดพริกไทยให้เคี้ยวมีรสเผ็ดบ้าง คุณไปชิมก๋วยเตี๋ยวร้านไหน แล้วชอบเส้น ลองถามเค้าดูว่า เส้นเค้าซื้อที่ไหน   ที่สำคัญ เอาคุณภาพและราคาเหมาะสมกำกลังซื้อของกลุ่มเป้าหมายของคุณนะครับ ยกตัวอย่าง ตามถนนเส้นใหญ่ที่ออกนอกเมือง จำวพก ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ เคยสงสัยอยุ่ว่า ทำไมมันมีรถจอดกินเยอะจัง ทั้งแทกซี่ สิบล้อ คนทั่วไป พอลองไปกอนปรากฏว่า โคตรไม่อรอ่ย แต่สังเกตุ เพราะเค้าขายไม่แพง เส้นเยอะ ที่สำคัญแถมผักและมะระลวก เติมเองไม่อั้น ถูกใจคนรายได้น้อยเชียวครับ ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่นบริการ สีหน้ายิ้มแย้ม หรืออะไรเหล่านี้ ก็ให้ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา ว่าถ้าเป็นเราเดินไปใช้บริการแล้วมีการต้อนรับที่ดี ยิ้มแย้ม พูดเพราะ ไม่ต้องถึงกับยกมือไหว้ แค่นี้ก็ ok แล้ว ลองดูนะครับ มีอะไรเพิ่มเติม ปรึกษากันได้ ขอให้รีบกลับมาเปิดร้านขายของดีอรอ่ย และขายดีๆ เพิ่มขึ้นนะครับ จากคุณ : นัส (NutzGuru) - [ 29 ก.ค. 51 16:18:38 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณภาพ วัตถุดิบ รสชาด จุดขาย ไม่หวงของเวลาใส่เต็มที่เต็มใจ  บริการยิ้มแย้ม ความสะอาดสถานที่ ภาชนะ คำนึงถึงแหล่งชุมชนและที่จอดรถ อาจใช้กลยุทธให้ลูกค้าเลือกผักที่ลวกกับเส้นตามชอบ มีให้สัก 4-5 ชนิด อาทิ ผักหวาน ผักกาดหอม ตำลึง ถั่วงอก ถั่วฝักยาว แครอท เป็นต้นไปแดปเอานะคะ อาจมีออฟชั่นเพิ่มอาทิ ไข่ต้ม เส้นมักกะโรนี สปาเก็ตตี้ เส้นญี่ปุ่นต่างๆ หรือเส้นก๋วยเตี๋ยวญวณ มาประยุกต์ให้แตกต่างออกไป แล้วชูประเด็นก๋วยเตี๋ยวไทยอินเตอร์ หรืออะไรก็ว่าไปแล้วแต่คิดได้ อย่าลืมเน้นเพื่อสุขภาพ การต้มนำซุปแช่กระดูกให้ดีเป็นกระดุกสันหลังล้างให้สะอาดใส่หม้อเติมน้ำเย็นแช่ทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วต้มไฟแรงพอเริ่มเดือดเปลี่ยนไฟกลางค่ะ วัตถุดิบต้มรวมจำพวกผักให้รสหวาน หอมหัวใหญ่ กระเทียม พริกไทย รากผักชี หัวไช้เท้าแครอทต้นหอมห่อผ้าขาวบาง ปรุงด้วยเกลือ น้ำตาลกรวด ซีอิ๋วขาว น้ำมันหอย ส่วนเนื้อสัตว์ก็ประยุกต์เป็นหมูต้มกับซอสแล้วนำไปย่างไฟอ่อนเป็นก้อนกลมๆ แบบราเมงเพิ่ม หรือมีลูกชื้นหลากหลาย หรือเพิ่มเป็น ทะเล เป็นต้น คิดได้ประมาณนี้อ่ะลองดูนะคะ แล้วเน้นการตกแต่งบนชามให้อาหารวางสวยงาม สีสันน่าทานด้วย จากคุณ : nu_1_ka - [ 29 ก.ค. 51 16:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ได้ไอเดียเยอะเลย ขนาดผมไม่ได้ขายก๋วยเตี๋ยวยังอยากเก็บไว้เป็นความรู้เลยครับ คุณ จขกท ก็ลองพิจารณาดู เปรียบเทียบกับสิ่งที่คุณทำอยู่...หวังว่าคงทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้นนะครับ แล้วถ้ามีโอกาสจะไปอุดหนุนเด้อ ^^ จากคุณ : จิงนะ - [ 29 ก.ค. 51 17:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ทำอะไรทุกอย่างต้องทำด้วยใจรักและตั้งใจ แล้วมันจะออกมาดี แต่คุณบอกไม่ชอบทำอาหาร แล้วจะมาขายอาหาร แล้วก็หน้าไม่รับลูกค้าอีก ลองเปลี่ยนแปลงใหม่ดีไหมคะ ถ้ายังคิดจะทำต่อ เพื่ออะไรๆจะดีขึ้น อันดับแรกก็ต้องยิ้มเมื่อลูกค้าเข้าร้าน และกล่าวสวัสดี เมื่อก่อนเราเปิดร้านเราทำยังงั้นจริงๆนะ วันนี้ทานอะไรดีคะ พอเขาทานเสร็จ เราก็จะถามอาหารเป็นไงมั่งคะ ต้องปรับปรุงอะไรไม๊คะ ถ้าเขาติเราก็จะไปปรับปรุง ถ้าเขาชมก็ขอบคุณ บางทีคนเรามันก็ต้องมีฉอเลาะบ้าง เพราะคุณต้องการเงินเขานี่ คุณจะคิดว่าจะกินก็กินไม่กินก็ไม่เป็นไร คุณก็เจ๊งตั้งแต่ยังไม่ได้ขายแล้ว อ้อ จะบอกว่าเราก็นิสัยเป็นคนไม่ค่อยยิ้ม แต่พอมาขายของ เราก็เริ่มเปลี่ยนตัวเอง แต่เราขายอาหารตามสั่งไม่ได้ขายก้วยเตี๋ยว ส่วนเรื่องน้ำซุปเขาตอบกับมาเยอะแล้ว ก็ค่อยๆลองดู ที่สำคัญรักที่จะทำแล้วจะออกมาดี โชคดีค่ะ จากคุณ : kai (aitai) - [ 29 ก.ค. 51 20:22:22 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เราชอบก๋วยเตี๋ยวที่น้ำซุปร้อน ๆ สังเกตุดูร้านไหนถ้าน้ำซุบไม่ร้อนมักจะอยู่ไม่นาน จากคุณ : iluvtravel - [ 29 ก.ค. 51 20:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กลับมาอ่านอีกที คห. 24 ตรงใจผมที่สุดเลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยค "คุณจะคิดว่าจะกินก็กินไม่กินก็ไม่เป็นไร คุณก็เจ๊งตั้งแต่ยังไม่ได้ขายแล้ว" คุณจะทำอย่างนั้นได้ก็ต่อเมื่อคุณเป็นเจ้าเก่าโด่งดังมานมนาน มีป้ายการันตีเป็นแผง ทุกวันนี้ คนขายจะมากกว่าคนซื้ออยู่แล้วครับ คนขายแทบจะเข้าไปกราบเรียกลูกค้าเข้าร้านเลยนะนี่ ผมขอยังไม่ตอบหลังไมค์นะครับ คุณลองปรับทัศนคติสำหรับการค้าขายเสียก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายอาหาร ลองถามตัวเองว่า คุณมีความสุขกับการทำอาหารหรือไม่ และมีความสุขหรือไม่ที่คนชมว่าอาหารคุณอร่อย คุณมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ พิถีพิถัน ใส่ใจรายละเอียดทุกเม็ด หรือไม่ คุณพร้อมหรือไม่ ที่จะรับคำชม คำติ คำวิจารณ์ คำต่อว่า สายตาเหยียด ๆ หรือกิริยาแย่ ๆ ของลูกค้าหรือไม่ ถ้าคุณรับได้ และปรับปรุง เพราะคุณมุ่งหวังจะให้เขาได้มีความสุขกับอาหารของเรา แล้วเราจะได้สตางค์ในกระเป๋าเขา ถ้าคุณไม่มีคุณสมบัติแบบนี้ ลองหาอาชีพอื่นดูดีกว่าครับ คุณเป็นเจ้าของอาคาร คุณได้เปรียบเรื่องต้นทุนไม่ใช่น้อยแล้วครับ เคล็ดลับการทำอาหารให้อร่อย ที่มีคนถามว่า ใส่อะไรถึงจะอร่อย มีหลายคนตอบว่า ต้อง "ใส่ใจ" นี่ไม่ใช่คำตอบเล่น ๆ นะครับ นี่แหละหัวใจของการทำอาหารเลย ขอตอบว่าแค่การทำน้ำซุปอย่างเดียวเนี่ย คุณต้องพิถีพิถันทุกเม็ดนะครับ เลือกจะใช้กระดูกอะไร ผักอะไร ผักแต่ละอย่างหั่น/มัด/ปอก/ฯลฯ ยังไง ยกตัวอย่างผักซะหน่อยละกัน อย่างหัวไชเท้า มีแบบหัวไชเท้าดิน กับ ทราย นะครับ คุณรู้มั๊ย อย่างไหนหวานกว่ากัน ไหนจะเรื่องใช้ไฟอีก จะใช้ไฟแรงตอนไหน ต้มให้เดือด หรือเคี่ยว เครื่องปรุงรสมีเยอะแยะ สารพัดยี่ห้ออีกต่างหาก จะเลือกใช้ยี่ห้อไหนดีล่ะ แค่ซีอิ๊วขาว ก็มีสูตร 1 ถึงสูตร 5 เลือกอย่างไหนดีล่ะ เวลาผมทำน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว ผมดูแล อย่างกะเลี้ยงเด็กแบเบาะเลยครับ ทำอะไรผิดพลาดไป น้ำซุปไม่ดีผมไม่ขายนะครับ ทำมาแล้วด้วย ลูกค้ามาเร็ว น้ำซุปยังไม่ได้ที่ ไม่ขายครับ เพราะผมไม่ใส่ผงชูรส ถ้าน้ำซุปไม่ได้ที่ มันก็เหมือนซดน้ำเปล่าน่ะครับ เอ... พูดมากไปหรือเปล่าเนี่ย เอาเป็นว่า ลองคิดดูให้ดีก่อนครับ ถ้ารักจะทำทางนี้ เดินหน้าห้าเกียร์ ใส่ให้เต็มสูบ แล้วมาคุยกันอีกที //ไม่ได้โม้ จากคุณ : เทวดา - [ 29 ก.ค. 51 21:05:23 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คคห 18 ผมคงประมาณนั้นแหละครับ แต่ถ้ามีคนกินแล้วผมก็ยิ้มน่ะครับ แต่นี่เดินผ่านไปหมดหน้ามันก็หงิก ก็จะลองปรับปรุงตัวใหม่ แต่ช่วงนี้คงยังไม่เปิดร้าน เพราะปัญหารสชาติไม่สเตเบิ้ลก็ทำให้ลูกค้าหายได้ เพราะบางวันก็ชมแล้วสั่งกลับบ้าน แต่บางวันก็กินไม่ได้แม้ตัวผมเองก็ว่าไม่อร่อย สงสัยเป็นเพราะต้มไม่นานมั้งครับ แต่ไม่รู้จะต้มกี่นาทีดีเพราะต้มนานน้ำมันก็ขุ่น ผมจะต้มร้อน 30 นาที เดี่ยวจะลองทำตามที่กระทู้บอกมาน่ะครับจะลองประยุกต์ดู ขอบคุณทุกท่านถ้าใครมีทริกพิเศษก็บอกกล่าวกันได้น่ะครับ ถ้าเป็นยังไงเดี๋ยวจะมาบอกกล่าวอีกที จากคุณ : ไฟไฟ - [ 29 ก.ค. 51 21:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต้องหาจุดเด่นก่อนค่ะ คุณต้องมีลักษณะเฉพาะของก๋วยเตี๋ยวที่ขาย ลูกน้องเก่า เขาเลิกงาน กลับบ้านขายก๋วยเตี๋ยวไก่ รวยทันตา ผ่อนบ้าน รถได้ข้ามปี ลาออกไปายเต็มตัวแล้ว หลักการดี ขายชามละ 15 บาท คนกินรู้สึกว่าราคาถูก ก็กิน 2 ชาม แต่ถ้าลองเอามาเทรวมกัน 30 บาท มีแต่วิญญาณไก่ พวกที่ขายชามละ 30 บาท กำไรสู้ไม่ได้ เพราะคนกินคาดหวังว่า 30 บาทต้องคุ้ม เนื้อไก่ชิ้นโต เยอะๆ มีเครื่องใน ฯลฯ เช่นเดียวกับก่วยจั๊บ ถ้าขายชามละ 30 บาท คนกินคาดหวังว่าต้องมี กรเพาะหมู ลิ้นหมู ตับ หัวใจ หมูกรอบ ฯลฯ แพงทั้งนั้น เตรียมก็ยาก แต่ถ้าขายก๋วยจั๊บน้ำข้น ชามละ 15 บาท ส่วนใหญ่ให้แต่ หนังหมู เต้าหู้ หมูกรอบชิ้นเล็ก ไส้หมูมันๆเหนียว คนกินไม่ว่า เพราะเห็นว่า 15 บาทเท่านั้น แต่ถ้าเทรวมกัน 2 x 15 = 30 บาท กำไรมากกว่า เจ้าที่ขายชามละ 30 บาท แต่คุณจะขายชามละ 30 บาทก็ได้ ถ้ามั่นใจฝีมือ คนกินกล้าสู้ราคา ถ้าอร่อยจริง คนมีสตางค์เขาขี่รถมากินเองค่ะ ก๋วยจั๊บน้ำใส ที่ขาย 30 บาท ใส่เส้นน้อยนิด ต้องกิน 2 ชาม 60 ถ้าทำอร่อยลูกค้ายินดีจ่าย หาจุดยืน ว่าจะขายของถูก หรือของแพง ข้าวต้มปลาที่สำเพ็ง (คละเจ้ากับข้าวต้มราชวงศ์) ขายชามละ 60 บาท มาหลายปีแล้ว เริ่มขาย 6 โมง 2 ทุ่มเก็บร้าน แม้ลูกค้ายังมี เขารักษาเวลา ลูกค้าประจำส่วนใหญ่ ต้องมาช่วงนั้น ข้าวต้มเขา หุงข้าวสวย เอามาใส่น้ำซุบ ต้มอีกทีพอร้อนจัด เม็ดข้าวไม่บานมาก อร่อย ถ้าเอข้าวสารต้ม ข้าวต้ม เม็ดข้าวบานมาก ธรรดาไป และจับจุดว่า พริกไทยเยอะ กระเพาะหมูอร่อย หมักกระเทียมพริกไทยคั่วในกระทะเหล็กก่อน เซ่ยงจี๊แช่ในน้ำตลอด กรอบ สีไม่คล้ำ สะอาด ไม่เหม็น ปลาก็อย่างดี ใช้ปลา จ่อโล้ว เรียกเป็นแต่ภาษษจีนค่ะ แพงมาก ไม่มีคาว เนื้อปลาลื่น มีหนังปลาติดมาทุกชิ้น และบะเต็งอร่อย จุดยืนอีกอย่าง เขาไม่ใส่ต้นหอม คึ่นไช่ คุณลอทำแล้วเปรียบเทียบดู ข้าวต้มปลาส่วนใญ่ ที่ขายกัน นอกสำเพ็ง จะใส่คึ่นไช่ ต้นหอม รสชาติลูกทุ่งไปเลย ถ้เทียบกับใส่ผักชีอย่างเดียว ลองดูนะคะ ไปจับจุดเขาว่าทำไมทำอร่อย แต่ก่อนบ้านอยู่สำเพ็ง คนขายยังเป็นอาเฮีย ใส่กางขาสั้น หิ้วหัวปลา จ่อโล้ว ผ่านหน้าบ้านทุกวัน แม่เขา เป็นอาม่า มาจากเมืองจน นุ่งกางเกง “ปั๋งลิ้น” (กางเกงแพรสีดำ คนจีนสมัยก่อนชอบใส่ เย็น และลื่น ส่สบาย) เสื้อกระดุมจีน ท้วมๆ นั่งพัดเตาถ่าน อาม่าตายไปหลายสิบปีแล้ว กลับไปอุดหนุนเขา อาเฮียก็แก่ เป็อาแปะ คิ้วขาว ยาว เหมือนคนบนเวทีงิ้ว ที่มีคิ้วยาวๆ หาจุดเด่น และมีจุดยืน ขายได้แน่นอน มาเมื่อสัก 10 ปี ทราบว่าเขาเซ้งสูตร ให้คนอื่น คงจะแก่มากแล้ว ขายไม่ไหว ทานอีก 2-3 ครั้ง สูตรใกล้เคียง แต่ของดั้งเดิมอร่อยกว่า ไม่ได้เรียนทำอาหาร แต่บ้านอยู่แถวนั้นมาก่อนย้ายมาย่านคนไทย หอยทอด อ่อส่วน อร่อยมากๆ ร้านที่ขายอยู่ตรงข้ามร้านสีฟ้าราชวงศ์ ซึ่งต่อมาย้ายออกกันหมด ทำเลตรงนั้น กลายเป็นร้านขายส่ง ถุงพลาสติคไป ตรงหอยทอด กลายเป็นธนาคารกสิกรไทย โกยซีหมี่ กวางตุ้งแท้ ใช้หน่อไม้สด ไม่ใช้หน่อไม้ดอง หอมน้ำมันงามาก ขายที่ภัตตาคาร เยาวยื่น (เอี่ยวหั่วฮื้อ) และ ภัตตาคารก๊กจี่ ถนนเยาวราช ราดหน้ากวางตุ้ง จะไม่ใส่คะน้า แต่ใส่ผักกวางตุ้ง อร่อยสุดๆ โดยเฉพาะราดหน้าปลา จขกท ลองไปสำรวจดู ร้านที่ขายดี แล้วสังเกตุจุดเด่นเขา มาสร้างสรรค์ของเราเอง ชื่อร้านก็สำคัญ ให้ลูกค้ามีคำเรียก จะนัดทานข้าวก็บอกว่า เจอกันร้านชื่อนั้นๆ ไม่ใช่ต้องมัวอธิบายที่ตั้งร้าน ชื่อร้าน ไม่ควรเอาชื่อสถานที่มาตั้ง พอมีชื่อ คนอื่นก็ตั้งตาม เราเจ้าแรกเลยแย่ เขียนมาคุยหลังไมค์ก็ได้ค่ะ จะช่วยคิด และหาจุดยืน จากคุณ : wendyprog - [ 29 ก.ค. 51 23:07:46 ]

ความคิดเห็นที่ 29 นอกจากทริกในนี้แล้ว ไปลงเีรียนที่มติชนแล้วกันค่ะ คอร์สละ 2000 วันเดียว คุณมีปสก.แล้ว คุณไปเรียนต่อ คุณจะได้เปรียบในการเรียนมากกว่าคนอื่น ท้ายนี้ เข้าใจในอาการยิ้มไม่ออก ในกรณีที่ไม่มีคนมา แต่ถ้าคุณคิดจะขายของ ......... คุณต้องยิ้มได้ตลอดเวลา จริง ๆ ระหว่างเปิดร้าน คุณต้องทำวิจัยและสังเกตลูกค้าตลอด อย่างน้อยการที่คุณเข้าไปถาม หรือ แสดงอาการถึงการน้อมรับจะนำไปปรับปรุง เป็นเรา จะไปรอบสองนะคะ  บางทีรอบสองยังเหมือนเดิม เราก็ไม่เข้าแล้วล่ะค่ะ แต่อย่างบางเจ้า ... ก็จะทำอย่างนี้ ยงไงก็ขายได้ ทำเลดี ต่อให้ไม่มีอะไรจะกิน เราก็ไม่กินอ่ะ  เดินเข้า 7-11 ซื้อไส้กรอกก็ได้ จากคุณ : น้องหนูสะดิ้งน้อย - [ 29 ก.ค. 51 23:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เราก็ชอบกินเกี๋ยวเตี๋ยวน้ำใสค่ะ แถวบ้านมีร้านอร่อย(สำหรับเรา)อยู่ร้านนึง ชายสี่ฯ แต่ไม่เหมือนที่อื่นสักเท่าไหร่ เท่าที่เราชิมและเห็นจากซุปที่เค้าตักมาให้ ในน้ำซุปมี กระดูกหมู(เป็นซี่โครงประมาณนั้นล่ะค่ะ) หัวไชเท้า มะระ หัวหอม(แอบหลุดมาให้เราชิมนิดนึง) รสชาติเลยอร่อยมากค่ะ หวานน้ำต้มกระดูกและหวานจากผักต่างๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^ ^ จากคุณ : babycinny - [ 30 ก.ค. 51 01:45:59 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เคยไปทานร้านก๋วยเตี๋ยวดังๆหลายๆร้านที่ทุกวันนี้ยังขายดีอยู่ เจ้าของไม่ยิ้มเลยหน้าดุอีกต่างหาก เช่น ก๋วยเตี๋ยวหมูวัดพระศรีฯ ฯลฯ  การยิ้มอาจเป็นการเพิ่มยอดขายนิดนึง ขายดีแล้วไม่ต้องยิ้มก็ได้ (แต่ก็ไม่ใช่ทำหน้าไล่แขก) แต่ที่สำคัญจริงๆคือรสชาติของก๋วยเตี่ยวครับ (แต่ถ้าบริการห่วยจริงๆก็ไม่ไหว) มีอยู่เจ้านึงผมชอบไปทาน แม้จะรู้ว่าเขาใส่ผงชูรสมากก็ตามตอนกลางคืนต้องตื่นมาดื่มน้ำทุกครั้งที่กินเจ้านี้ ผมว่าทำให้น้ำซุปอร่อยคงไม่ยากเกินไปเพียงแต่กล้าลงทุนหรือเปล่าและมันจะคุ้มหรือเปล่า เพราะส่วนผสมก็คงไม่มากไปกว่าที่แนะนำกันข้างต้น ผมเป็นคนชอบทานก๋วยเตี๋ยวครับ คงจะมีประโยชน์บ้างที่ได้ถ่ายทอดให้เจ้าของกระทู้รับฟัง แต่ใช้รอยยิ้มกวาดลูกค้าเข้าร้านก่อนคงไม่เสียหายอะไรนะครับ หรือพอเห็นคนเดินผ่านแล้วมองหรือให้ความสนใจว่าจะกินดีไม่กินดี ก็เรียก(ต้อน)เข้าร้านเลยครับ ส่วนใหญ่พอเรียกก็เข้านะครับ(ถ้าไม่ยิ้มก็เรียกเอาก็ได้ครับ) ขอให้พยายามต่อไป ผมเอาใจช่วยและทุกๆท่านในที่นี้ก็พร้อมจะช่วยด้วยความเต็มใจ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : ลูกป้าเจี๊ยบ - [ 30 ก.ค. 51 01:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมขายลูกชิ้นหมู คร้าบ เดี๋ยวแถมน้ำซุปให้ อร่อยนะ ฮา จากคุณ : รอนนี่ โอเพ่น - [ 30 ก.ค. 51 13:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อัธยาศัยพ่อค้า มีส่วนมากนะครับ บางร้านเนี่ยรสชาติธรรมดา แต่ผมกินประจำ เพราะคนขาย คนทำ เป็นกันเอง ยิ้มแย้ม ชวนคุย จากคุณ : ปูเทียมไก่ชุบ - [ 30 ก.ค. 51 15:52:39 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มีคนแนะนำเยอะแล้ว แต่อยากจะแนะนำด้วยค่ะ เอาง่ายๆเลย หม้อก๋วยเตี๋ยวทั่วๆไป น่าจะใช้สูตรนี้ได้ กระดูกหมู 1 - 2 กก. ใส่โครงไก่ลงไปซัก 2 โครง กระเทียม 1กำมือ พริกไทย 2 ช้อน รากผักชี 5-10 บาท ตำรวมกัน หัวไช้ท้าว 3 หัว ปรุงรสด้วย เกลือ น้ำตาลกรวดครึ่งกิโล(ค่อยๆใส่ น้อยๆก่อน) ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม ใส่ซุบก้อนซักสี 4 ก้อน   ต้มจนเดือด  พอเดือดแล้วหรี่ไฟ และช้อนฟองทิ้ง น้ำก็จะใสน่ากินค่ะ ลองทำกินเองก่อน และชวนคนอื่นมาลองชิมด้วย ถ้าตัวเองและหลายๆคนคิดว่าอร่อยแล้วค่อยขายค่ะ . พริกป่น ถั่งลิสงบด .....ถ้าคั่งเองก็จะหอมมากค่ะ ทำให้ก๋วยเตี๋ยวอร่อยขึ้นไปอีกค่ะ แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 51 11:52:06 จากคุณ : แครอทอร่อย - [ 30 ก.ค. 51 20:36:38 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ยิ้มเข้าไว้นะคะ คนเราเวลามีรอยยิ้มบนหน้าแล้วเนี่ย ใครๆก็อยากเข้าใกล้ค่ะ ทำหน้าหม่นหมองเหมือนแบกโลกไว้ทั้งโลก มันจะแผ่ออร่าที่ทำให้คนไม่อยากเข้าใกล้นะคะ ของเราไม่เคยทำขาย แต่ที่บ้านทำทานเองบ่อยๆ ก็เหมือนข้างบนๆ หัวไชเท้า กระดูกหมู ซี่โครงหมู ซี่โครงไก่ รากผักชี กระเทียม พริกไทยเม็ด แอบขี้โกงใส่ซุปก้อนด้วย ต้มไว้ตั้งแต่ตีห้า เที่ยงกินพอดี เรื่องพอใส่เส้น ผักแล้วมันจืด อาจจะเหมือนความเห็นอื่นๆบอกนะคะ ว่าสะบัดน้ำออกไม่หมด เพราะเราเคยทำแล้วมันจืดๆเหมือนกัน ลองทำตามความเห็นที่หลายๆคนให้แล้วกันค่ะ อีกอย่างนึง ขายของจะขายเพราะว่าเราชอบกินแบบนี้อาจจะเสี่ยงต่อการเจ๊งสูงนะคะ ลองทำแบบที่ลูกค้าเป้าหมายแถวนั้นชอบดู อาจจะดีกว่าค่ะ เรื่องการจัดร้าน ลองหาผ้าปูโต๊ะสีสันสวยๆ โต๊ะเก้าอี้ดูดี ไม่ใช่แบบสังกะสีบุบๆ ทาสีบ้านสีสดๆก็อาจจะดีนะคะ (เพื่อนเราค้าขายทาสีร้านซะส้มแปร๊ดเลย มันบอกดึงดูด สะดุดตาดี) สู้ๆต่อไปนะคะ ลองไปหลายๆอย่าง คนเราก่อนจะรู้จักความสำเร็จก็ต้องล้มกันมาทั้งนั้นแหละค่ะ จากคุณ : Jubnosuke - [ 31 ก.ค. 51 06:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมเป็นคนแก่แต่มือใหม่ในนี้นะครับ พอมาอ่านแล้วประทับใจในความมีน้ำใจของคนในนี้มาก คุณไฟไฟ เจ้าของกระทู้คงได้คำตอบมากมาย เป็นประโยชน์มากๆ ผมมาอ่านยังได้ความรู้ด้วยเลย แถมเรื่องน้ำซุปนิดนะครับ เครื่องปรุงผัก ผงชูรสไม่รสก็แล้วแต่ แต่อย่าหวงของ เวลาต้มต้องถึง ถ้ากระดูกน้อย ต้มไม่ถึงชั่วโมง จบกันเลย ***กระดูกหมูทุบหรือโครงไก่สับ แช่ในน้ำเย็นก่อน ผมแช่ประมาณชั่วโมงนึงครับ แล้วต้มพอเดือดลดไฟ ให้เป็นพราย ห้ามเดือดพล่าน เดี๋ยวน้ำขุ่น จากคุณ : ขอเป็นสะพานเชื่อมดาว - [ 31 ก.ค. 51 10:01:21 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ร้านแถวบ้านเราเค้าจะต้มตับหมูทั้งลูกในน้ำซุปด้วยค่ะ ต้มจนตับแข็ง น้ำซุปจะหวานหอมมากๆเลย แล้วเขาก็ใส่ตับแข็งเอามาหั่นเป็นชิ้นๆ มันๆอร่อยดีค่ะ ส่วนผัก เราว่าลองใส่ให้น้อยลง หรือทำให้สุกก่อนดีไหมคะ จะได้ไม่ทำให้ซุปจืด ฮะจิบังราเม็ง เค้าจะผัดผักให้สุกตะหาก แล้วค่อยใส่ทีหลังค่ะ ขอให้ขายดีขึ้นนะคะ จากคุณ : Galilee - [ 31 ก.ค. 51 11:22:39 ]

ความคิดเห็นที่ 38 บ้านเราขายอยู่ต่างจังหวัดเหมือนกันค่ะ เมื่อก่อนขายดีมาก เพราะคุณแม่เป็นคนขาย หลังจากที่คุณแม่เสียแล้ว คุณพ่อขายแทน ทำไม่ค่อยอร่อยค่ะ อิอิ ่ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ เพราะว่า มีร้านเปิดใหม่หลายร้าน อีกปัจจัยนึงก้อคือ คุณพ่อ ทำไม่ค่อยไหวค่ะ.. แต่ก้อไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ ก้อทำก๊อกๆ แก๊กๆ ถ้าอยากทราบอะไรก้อหลังไมค์มาได้ค่ะ จากคุณ : Select Star - [ 31 ก.ค. 51 16:45:46 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ต้องใส่ใจในการปรุงก๋วยเตี๋ยวแต่ละครั้งด้วยคะไม่ใช่สักแต่ว่าทำให้ผ่าน ๆ ไปชามๆหนึ่ง  พ่อค้าต้องมีอัธยศัยดี มีมนุษย์สัมพันธ์กับลูกค้า โดยลีก ๆ แล้วคุณยังมีอคติในใจกับการเป็นพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว  ก๋วยเตี๋ยวสูตรเดียวกันแต่คนทำให้ความใส่ใจไม่เท่ากันรสชาติก็ต่างกัน  หรือแม้คนทำคนเดียวกันแต่ตอนปรุงอาหารอารมณ์ไม่ดีหรือกำลังทะเลาะกับแฟนอยู่อาหารก็ไม่อร่อยเผลอ ๆ คนกินท้องเสียก็มี  ถ้าคุณอยากจะกลับไปเปิดร้านใหม่ก็ต้องปรับปรุงตัวเองและดืงดูดร้านให้ลูกค้าสะดุดตา  ประสบการณ์จะสอนให้คุณรู้เองว่าการปรุงก๋วยเตี๋ยวให้อร่อยอะไรควรทำก่อนหลัง  สูตรของแต่ละคนจะเป็นแนวทางให้คุณนำไปปรับปรุงให้ถูกกับลิ้นของลูกค้า    ขอให้คุณโชคดีนะคะขอให้ขายดี ๆ เป็นกำลังใจให้ ดดย จากคุณ : หมูมอง (หมูมอง) - [ 31 ก.ค. 51 17:10:24 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณทุกความคิดเห็น ถ้าสำเร็จจะกลับมาสมนาคุณครับแต่คงต้องรออีก 2-3 เดือนล่ะมั้งครับอย่างน้อย แต่ว่าทำไปต้องให้น้ำซุปร้อนตลอดด้วยเปลืองแก๊ส หรือเปล่าครับ แล้วกระดูกหมูก็จะทำให้น้ำขุ่นด้วย หรือว่าต้องตักออกก่อนครับ จะทดลองดูก่อน คิดว่าน้ำรสชาติคล้ายมาม่า หมูสับ คนจะนิยมหรือเปล่าครับ จากคุณ : ไฟไฟ - [ 31 ก.ค. 51 18:59:01 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มาช่วยคุณไฟไฟครับ ใส่น้ำครึ่งหม้อ คือ ประมาณหกลิตร ตั้งไฟให้เดือดพล่าน ใส่เกลือไม่เกินหนึ่งช้อนโต๊ะ แล้วเบาไฟให้อ่อนที่สุด โยนคาตั๊ง กระดูกสันหลังหมูอย่างน้อยหนึ่งกิโลลงไป เคล็ดลับคือเอาโครงไก่เลาะหนังและมันให้หมด ตัดตูด ลงไปด้วยสักโครง โยนเม็ดพริกไทยขาวลงไปสักสามสิบเม็ด ปิดฝาหม้อปล่อยไว้ให้เดือดรุมๆ อย่างต่ำ หนึ่งชั่วโมงup ครบชม.แล้วค่อยตอนนี้ช้อนฟองช้อนเลือดตามผิวน้ำออก ห้ามคนเด็ดขาด เอาโครงไก่ออก ช้อนน้ำมันออกให้เกลี้ยง แล้วเปิดเร่งไฟแรง เอาผักกาดขาวทั้งหัวหนึ่งกิโลไม่ต้องสับ มัดเชือก โยนตู้ม ไชเท้าฝานสักครึ่งนิ้ว ครึ่งโลพอ เทลงไป หอมใหญ่ ขนาดส้ม ลอกเปลือกโยนไปสักสามหัว รากผักชีหนึ่งกำมือมีก้านตัดก่อนถึงใบผูกเชือกห้ามเอาใบใส่เด็ดขาด ตั้งฉ่ายอย่างดีสักช้อนชา ลงไปด้วย ปล่อยเดือดสักห้านาที พวกน้ำเลือดที่เหลือจากช้อนออกจะเกาะตัวตกลงก้นหม้อ เบาไฟให้รุมๆ ปิดฝาต้มต่อไปอีกครึ่งถึงหนึ่งชม. จากนั้น แยกกระดูกหมูออกไปล้างน้ำสะอาด   เอาซุปมากรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่ซุปกลับ ใส่กระดูกหมูล้างสะอาด กลับลงหม้อก๊วยเตี๋ยวเติมน้ำ อีกสามลิตร เร่งไฟให้เดือด เติมเกลือถ้าจำเป็น เทคติกสุดยอด ให้ไปซื้อ ผงชูรสเจ กระป๋องสีทอง ใส่ลงไปในน้ำซุป รสชาติของน้ำซุปก๊วยเตี๋ยวหมู(แอบใส่ไก่)ของคุณไฟไฟ จะบรรลุขั้นเทพ กระเทียมเจียวน้ำมันหมู ต่อชามครึ่งช้อนชาเท่านั้น ลองทดลองดูก่อนจ้า จากห้องศาสนาไงครับ คุณไฟไฟ ขออวยพรให้ขายดีครับ :) Chuck แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 51 08:25:07 แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 51 11:36:36 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 1 ส.ค. 51 11:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 42 -หมูสับแผ่นระดับเทพ- สันคอหมูใส่มันหมูแข็งบดจากตลาด สั่งไว้ อยากให้ขาวจั๊วะใช้สะโพกแทนสันคอ ใส่รากผักชีไม่เอาก้านและใบเพราะสีมันจะเขียว เกลือ พริกไทยที่ตำให้ละเอียด ใส่ต้นหอมซอยตรงสีขาวสับละเอียดไป ขยำให้เข้ากัน กระเทียมไม่ต้อง ซีอิ๊วขาวสูตรหนึ่งเล็กน้อย น้ำมันกระเทียมเจียวนิดหน่อย อย่าใช้น้ำมันงานะ เสร็จแล้วเอาเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา หมักไว้อย่างต่ำหนึ่งชม. ตอนจะขายเอาออกมาตบให้แบนเท่าฝ่ามือ หนาสองเซนต์ ทิ้งลงไปในหม้อซุปเดือดให้สวยแล้วตักขึ้นมาวางโปะ แบบน้ำ ที่เหลือก็ง่ายมาก คงไม่ต้องให้สุตรพริกน้ำส้มตำกระเทียมเกลือน้ำตาลอีกนะ อืมมม แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 51 08:27:24 แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 51 14:50:15 แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 51 14:37:41 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 1 ส.ค. 51 14:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อีกนิด ก๊วยเตี๋ยวหมูแบบน้ำไม่ควรใส่ผักอะไรลงไปจ้า ใส่ได้แต่ถั่วงอกนิดเดียวจริงๆ ขอถึงใส่ให้ก็มันเสียรสชาติซุปหมูหมด ยิ่งเจอผักกวางตุ้งเข้าไปแบบบะหมี่หมูแดงน่ะ วงแตกเลยครับ เพราะเหมาะกับบะหมี่เหลือง คุณควรขายเฉพาะเส้นขาว เช่นเส้นหมี่ขาว เส้นเล็ก เส้นใหญ่ หรือก๋วยจั๊บเท่านั้น และไม่ใส่ผัก และถั่วงอกของคุณต้องลวกน้ำแยกต่างหากด้วย   ไม่เชื่อลองทำกินดูสักครั้งแล้วจะรู้เองแหละ แหะๆ จากคุณ : JitZungkabuai - [ 1 ส.ค. 51 15:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 44 บะหมี่เหลือง มีแป้งมาก ต้องล้างน้ำเย็นให้หมดแป้ง แล้วน้ำในหม้อลวกเส้นของคุณจึงจะไม่มีกลิ่นแป้งติดอยู่ เวลาลวกเส้นอื่น จะเสียหายกันไปหมด แล้วจะไปสนองเส้นบะหมี่ไปทำไมนี่เป็นข้อที่หนึ่ง ข้อสอง กลิ่นบะหมี่เหลืองมันเป็นกลิ่นไข่ ใครจะบอกไม่ใช่ อย่าไปเชื่อ ก็บะหมี่ห่วยๆนะสิไม่มีกลิ่นไข่ จริงใหมครับ และการจะคงกลิ่นไข่ของเส้นบ๊ะหมี่เขาใช้ซีอิ๊วช่วย สรุปว่า ออกแนวไก่ ว่างั้นง่ายๆ เขาต้องกลบคาวไข่หรือเน้นมันขึ้น ด้วยวิธีการต่างๆ อย่าใช้บะหมี่เหลืองเด็ดขาดกับสูตรที่ผมให้ นะครับ คุณไฟไฟ :) จากคุณ : จิตดับไป (JitZungkabuai) - [ 1 ส.ค. 51 15:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอร่วมแจมให้ความเห็นด้วยคน เราว่าคนขายไม่หน้าบึ้งมากก้อโอเลยล่ะ เพียงแค่ไม่อารมณ์เสียใส่ลูกค้าก้อพอ บางคนที่ชอบมาคุยกับลูกค้ามากไปเรากลับไม่ชอบแฮะ เอาเป็นว่าสำหรับเรา อร่อยและอารมณ์คนขายสำคัญที่สุด คือต้องมาคู่กันว่างั้นเถอะ อร่อยแต่คนขายรมณ์เสีย หน้าหงิกพูดจาไม่ดี ก้อขอลา ไม่อร่อยแต่คนขายรมณ์ดีก้อคงไม่ไหว แถมทริกนิดนึง แอบเห็นร้านแถวบ้านมีหม้อน้ำซุปให้ลูกค้าตักน้ำซุปและกระดูกหมูมาทานเล่น ฟรีด้วย ลองทำแบบนี้ดีมั้ย เพราะที่ร้านนี้ทุกคนก้อมาตักกระดูกไปแทะเล่นกันทั้งน้าน รวมทั้งเราด้วย จากคุณ : จิโร่ซัง - [ 1 ส.ค. 51 16:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คุณจิโร่ซัง พูดถูกใจจริงครับ ผมก็ไปแทะกระดูกซีโครงหมูฟรีตลอด ... จะให้สูตรน้ำจิ้มพริกกะเหรี่ยง คุณไฟไฟ ถ้าใครขอกระดูกหมูฟรี ก็ให้จนกว่าจะหมดนะครับ 555!!! v v น้ำส้มสายชู อสร. สี่ช้อนโต๊ะตั้งไฟคนน้ำตาลทรายธรรมดาหนึ่งช้อนชา จนละลายหมดกลิ่นน้ำส้มสายชู ทิ้งให้เย็น เต้าเจี้ยวหยั่นหว่อหยุ่นอย่างดีที่สุด ครึ่งช้อนโต๊ะตักเอาแต่ถั่ว ลงครก ยีให้ละเอียดยิบ ตักพักไว้ พริกกะเหรี่ยงเกือบแห้งสักกำมือ หาไม่ยาก (ไม่เกือบแห้งก็ใส่ในถังข้าวสารก่อนสักสองวัน ก่อนทำ) ตำให้ละเอียดจนเม็ดแหลก เทเต้าเจี้ยว น้ำส้มส่ยชูที่พักไว้ลงครก ยีๆๆๆ ชิมและปรุงรสด้วยเกลือป่น น้ำสุก สำหรับขาโหด... ถ้าไม่เผ็ดพอแต่จะกินให้ได้ หยิบพริกขี้หนูสวนสีเขียวเท่านั้นตำให้ละเอียด เหยาะน้ำส้มสายชูนิดเดียวคนไว้ครึ่งนาที ลงไปผสม :) แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 51 16:47:23 แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 51 16:38:50 จากคุณ : JitZungkabuai - [ 1 ส.ค. 51 16:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อ่านแล้วปลื้มใจแทนจขกท. ทุกคนน่ารักมากๆเลยค่ะ จากคุณ : a pinky pig - [ 5 ส.ค. 51 07:44:18 ]