ความคิดเห็นที่ 1 EC-25K EC-25K เป็นสาร Emulsifier ตัวหนึ่ง มีลักษณะเป็นครีมสีขาว ออกเหลือง ใช้ในการทำเค้กที่มีไขมันเป็นส่วนผสมหลักทุกชนิด มีคุณสมบัติ ดังนี้ - ช่วยให้เกิดการรวมตัวที่ดีของของเหลวและไขมัน มีลักษณะส่วนผสมที่เนียน ไม่แยกชั้น - มีวิธีการผสมที่ง่ายและรวดเร็ว คือ แบบขั้นตอนเดียว ประหยัดเวลา - ช่วยให้เค้กมีปริมาตรเพิ่มมากขึ้น เค้กฟูเบา ละเอียด และที่สำคัญคือมีความนุ่ม - เค้กที่ได้รักษาความใหม่สดไว้ได้นานโดยเนื้อเค้กไม่แห้ง วิธีและปริมาณการใช้ ใช้ 12-15% ของน้ำหนักไขมันในสูตร ถ้าใส่มากไปเนื้อเค้กจะร่วนเวลาใช้ใส่พร้อมกับส่วนผสมอื่นทั้งหมด แล้วตีแบบขั้นตอนเดียว หรือ ใส่ลงไปตีพร้อมกับเนยในขั้นตอนการตีเนยให้ขึ้นฟู ดังนี้ 1. ใส่ส่วนผสมทุกอย่างรวมทั้ง EC-25K ลงในอ่างผสม ด้วยความเร็วต่ำ 1/2 - 1 นาที (ตีเนยให้อ่อนตัว ใส่ EC-25K แล้วเติมน้ำตาลในสูตรลงไปเล็กน้อย ตีให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมทีเหลือทุกอย่างลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำ) เกล็ดน้ำตาลจะไปตัดเนื้อ EC25K ให้กระจายตัวดีขึ้น 2. เปลี่ยนความเร็วปานกลาง ตีต่ออีก 2 นาที หยุดเครื่องแล้วปาดส่วนผสมให้เข้ากัน จึงผสมต่อด้วยความเร็วปานกลางอีก 2 นาที 3. เปลี่ยนความเร็วต่ำ 1-2 นาที 4. เทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่ทาเนย และโรยแป้งให้สูงประมาณ 3/4 พิมพ์ แล้วนำเข้าอบ การเก็บรักษา ควรเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท ตั้งไว้ในสถานที่เย็น อย่าให้สัมผัสแสงแดดโดยตรง ควรให้ห่างไกลจากสารที่มีกลิ่น เพราะ EC-25K เป็นสารที่ดูดกลิ่นอื่นได้ง่าย เอสพี (SP) เอสพี มีลักษณะเป็นครีมใส สีน้ำตาลอ่อน และมีกลิ่นหอม ประกอบด้วย น้ำตาล ส่วนผสมที่ใช้ในการถนอมอาหาร และ Emulsifier ถ้า SP เปลี่ยนเป็นสีขาว ให้ตักทิ้ง มีคุณสมบัติดังนี้ - ช่วยลดปริมาณไข่ที่ใช้ในสูตร - ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการตีส่วนผสม สามารถผสมแบบขั้นตอนเดียวได้ - ช่วยให้ได้เค้กที่มีขนาดใหญ่ขึ้น - ช่วยทำให้ส่วนผสมเค้กมีความอยู่ตัวหลังจากตีเสร็จแล้ว - ขนมนุ่มและสามารถมีอายุการเก็บนานขึ้น เอสพี ใช้กับเค้กหรือขนมที่ขึ้นด้วยฟองอากาศ ช่วยให้เกิดฟองได้ปริมาณมาก ประหยัดเวลาและแรงงานในการผสม เมื่อผสมแล้วไม่จำเป็นต้องอบทันที ส่วนผสมจะอยู่ตัวได้ 2-3 ชั่วโมง วิธีใช้ 3.5-5% ของน้ำหนักแป้งในสูตร หรือ 1.5-2% ของน้ำหนักแป้ง + น้ำตาล + ไข่ไก่ ในสูตร การใช้ให้ใส่ลงไปพร้อมกับไข่ น้ำตาลทรายและน้ำ ตีนานประมาณ 3-5 นาที แล้วจึงผสมแป้ง 1. ผสม เอสพี น้ำตาลทราย น้ำลงในอ่างผสมพร้อมกัน ใช้หัวตีรูปตะกร้อตีพอเข้ากัน 2. เติมไข่ไก่ลงไป ตีจนส่วนผสมฟูขาว 3. เติมแป้งที่ร่อนแล้วลงไป ตีต่อโดยใช้ความเร็วต่ำ จนส่วนผสมเข้ากันดี 4. เติมเนยสดละลายผสมให้เข้ากันเทใส่พิมพ์ โดยให้ใส่เนื้อเค้กลงในพิมพ์น้อยกว่าปกติ เนื่องจาก เอสพีช่วยให้เค้กมีปริมาตรมากกว่าปกติ เมื่อจะใช้ เอสพี ให้เริ่มตักที่ผิวหน้าจุดใดจุดหนึ่งเพียงจุดเดียว อย่าตักหล่นจุดอย่าคน เพราะจะทำให้เปลี่ยนเป็นสีขาวเร็วขึ้น การเก็บรักษา สามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิห้องปกติ หรือตู้เย็นในภาชนะปิดสนิท โอวาเล็ต(Ovalett) เป็นครีมสีเหลืองส้ม ของแท้ทำจาก Australia ขายเป็นถังขนาด 5 Kg (ร้านขจรศักดิ์เป็นตัวแทนจำหน่าย) ราคาประมาณ 2xx บาท/กิโลกรัม เมื่อเปิดแล้วให้เก็บในตู้เย็นได้นาน 6 เดือน เวลาตักให้ตักด้านบน เป็นที่ๆไป อย่าคน จะเสียเร็ว =========== อิจฉาคนได้ตราชั่งนะเนี่ยยยย.....^^" แก้คำพิมพ์ตกค่ะ..... แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 51 12:38:33 จากคุณ : มะซาง - [ 13 ส.ค. 51 12:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วโอวาเล็ตเอาไว้ทำอะไรล่ะคะ จากคุณ : jadecut - [ 13 ส.ค. 51 12:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Ovalett  คล้าย SP แต่คนละ manufacturer ค่ะ ตอบได้แค่นี้ เพราะไม่ค่อยได้ใช้ ovalett คนข้างล่างต้องตอบได้แน่เลย จากคุณ : มะซาง - [ 13 ส.ค. 51 12:41:48 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ec 25 k เหมาะกับเค้กเนย เอสพี และ โอวาเล็ต เหมาะกับ สปองเค้ก โอวาเล็ตและ เอสพีใช้แทนกันได้ เข้าใจว่าโอวาเล็ตคุณภาพดีกว่า   ... รบกวนผู้รู้มาตอบค่ะ ขอบคุณ คุณมะซาง สำหรับความรู้ค่ะ จากคุณ : ไวท์ช็อคชีส - [ 13 ส.ค. 51 14:07:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โอวาเล็ต(Ovalett) เป็นครีมสีเหลืองส้ม ของแท้ทำจาก Australia ขายเป็นถังขนาด 5 Kg (ร้านขจรศักดิ์เป็นตัวแทนจำหน่าย) ราคาประมาณ 2xx บาท/กิโลกรัม เมื่อเปิดแล้วให้เก็บในตู้เย็นได้นาน 6 เดือน เวลาตักให้ตักด้านบน เป็นที่ๆไป อย่าคน จะเสียเร็ว หากว่าโอวาเล็ตของคุณแยกตัวเป็นน้ำ หรือ ตีไม่ขึ้น นั่นแปลว่าโอวาเล็ตของคุณหมดอายุการใช้งานแล้ว เค้กที่ใช้ ovalett จะให้เนื้อเค้กที่ฟูชุ่มชื้นมากกว่า SP แต่ต้องใช้ปริมาณมากกว่า สามารถรออบได้ 30 นาที ในเค้กสูตรที่ใช้ Ovalett ถ้าต้องการจะใช้ SP แทน ต้องลดปริมาณไข่(ไม่ทราบว่าเท่าไหร่) และ เค้กที่ใช้ SP เนื้อเค้กจะแห้งและหยาบกระด้างกว่า (อันนี้ถามคนใช้ Ovalett) ซึ่งสามารถใช้ได้ดีในการทำปุยฝ้าย เพราะใช้นึ่งไม่ต้องอบ ส่วนคนใช้ SP เค้าบอกว่า เค้กที่ใช้ Ovalett เนื้อสัมผัสจะไม่ดี เหมือนเป็นก้อนแหยะๆ SP เมื่อตีแล้วจะช่วยให้ฟองไข่ไม่แตกง่ายและอยู่ตัวได้ดีกว่า โอวาเล็ต ที่ต้องใช้ปริมาณมากกว่า(ต้นทุนแพงกว่า) นอกจากนี้ SP ยังสามารถช่วยลดไข่ เวลาทานแล้วจะไม่รู้สึกเป็นก้อน เหมือนการใช้โอวาเล็ต ถ้าจะใส่ SP ในสูตรที่ไม่มี SP เพื่อให้ตีง่ายขึ้น การจะเพิ่มหรือลดไข่ต้องทดลองดู SP มีคุณสมบัติช่วยในการขึ้นฟูดี ดังนั้นถ้าใส่เข้าไปจะช่วยถ้าไม่ลดจะทำให้ขนมออกมาเนื้อหยาบเนื่องจากมีการขึ้นฟูมากเกินไป กรณีที่ใส่ SP แล้วเอาไข่ออกให้ทำการเพิ่มน้ำเข้าไป 25% ของไข่ที่เอาออก เพื่อคงความชุ่มชื้นให้ขนม PS หมดไส้หมดพุงแค่นี้ค่ะ ต้องการรู้มากกว่านี้ รอคนต่อไปนะคะ #4.... คุณ ไวท์ช็อคชีส ด้วยความยินดีค่า...(แอบเชยได้อีก) จากคุณ : มะซาง - [ 13 ส.ค. 51 15:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โห่ มากันเป็นชุดเด็กใหม่แอบมาเก็บข้อมูลคะ ขอบคุณสำคัญกระทู้ดีๆนะคะ จากคุณ : fetching - [ 14 ส.ค. 51 00:58:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ลองอ่านใน blog ของเจ๊หลีนะคะ   กินๆเที่ยวๆ   รู้สึกจะเคยลงไว้นะคะ นี่เรื่อง เอสพี http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aroi-snook&month=10-2007&date=18&group=16&gblog=2 นี่เรื่อง โอวาเล็ต http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aroi-snook&month=10-2007&date=21&group=16&gblog=3 จากคุณ : ไวท์ช็อคชีส - [ 15 ส.ค. 51 16:42:30 ]