Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ขอตำหนิพฤติกรรมของพนักงานร้านชาบู MaMa Do

    เรื่องมีอยู่ว่า

    วันนี้ ตอนเย็นๆ ผมกับพี่สาวได้กลับไปทานชาบูชาบูที่ร้านMaMa Do
    ถนนนราธิวาสฯ ซอย 8 โดยสั่งชุดทะเล 1 ชุด กับบะหมี่หยก 1 จาน ส่วนน้ำซุป เป็นซุปใส

    พอทานใกล้จะหมด ปิดไฟเรียบร้อย พี่สาวก็พบสิ่งมหัศจรรย์ในหม้อครับ...

    มองแรกๆยังไม่แน่ใจ เพราะสีมันกลืนกับเศษอาหารและสีน้ำขุ่นๆมาก
    ต้องใช้ตะแกรงช้อนขึ้นมามองใกล้ๆ ถึงจะทราบว่า

    มันคือ...แมลงวัน ตัวค่อนข้างใหญ่เลยครับ

    ผมกับพี่ก็งงสิครับว่ามันมาได้ยังไง เพิ่งตกลงไปหรือว่ามานานแล้ว ??
    พอช่วยกันคิดดีๆ ก็มั่นใจมากๆว่ามันไม่ได้เพิ่งมานอนเล่นในหม้อแน่ๆ
    เพราะพวกเรานั่งอยู่ที่โต๊ะตลอด ถ้ามีแมลงวันตัวเต็มวัยบินมากะลิ้มกะเหลี่ยใกล้ๆหม้อ เราต้องเห็นแน่นอน

    หรือว่ามากับอาหาร ...
    ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเราคีบเนื้อทีละชิ้น ส่วนผักก็หยิบออกมาทีละอย่าง แถมยังฉีก/หักเป็นชิ้นย่อยๆอีก ไม่ได้เทลงหม้อพรวดเดียวทั้งจาน

    พอมั่นใจว่ามันน่าจะอยู่ในหม้อแต่แรก ผมก็เรียกพนักงานคนหนึ่งมาสอบถาม และได้รับคำตอบว่า

    "ไม่น่าจะอยู่ในหม้อแต่แรกนะครับ น่าจะเพิ่งหล่นลงไป หรือไม่ก็มากับอาหาร ถ้าอยู่ในหม้อ คนตักคงตักออกไปแล้ว" ... ตึ่งงงง!!!

    ผมกับพี่เลยยืนยันว่าอยู่ที่โต๊ะตลอด ไม่เห็นแมลงวันเลย เป็นไปไม่ได้ที่แมลงวันตัวใหญ่ขนาดนี้จะบินพุ่งตรงลงหม้ออย่างรวดเร็ว
    หรือบินมาอยู่ใกล้ๆหม้อ โดยที่เรา 2 คนไม่เห็นเลย ...ถ้าจะบอกว่ามากับอาหาร ยิ่งไม่ใช่ใหญ่ เพราะตอนหยิบผัก หรือคีบเนื้อก็ไม่เห็นเหมือนกัน
    และที่สำคัญ...ต่อให้มันมากับอาหารจริงๆ ก็ถือว่าเป็นความบกพร่องของทางร้านอยู่ดีหนิครับ

    เค้าก็ยังยืนยันคำตอบเดิมว่าไม่น่าใช่
    ผมก็เลยบอกไปว่า เวลาเทน้ำซุป เค้าต้องเทจากหม้อใหญ่ลงมาหม้อเล็กรวดเดียวอยู่แล้ว
    ไม่มีทางตักทีละทัพพีหรือสำรวจว่ามีเศษเล็กเศษน้อย(เมื่อเทียบกับหม้อที่น่าจะใช้หม้อใหญ่ๆ)อยู่รึเปล่าแน่ๆ

    พนักงานคนนั้นเลยถอยฉากออกไป และมีพนักงานอีกคนเข้ามาถามว่า จะรับเป็นส่วนลด หรืออาหารชุดใหม่ดีคะ?...

    เอ่อ...

    ระหว่างถามก็ก้มหน้ามามอง พร้อมกับพูดว่าเหลืออีกกี่ชิ้นคะ เหมือนต้องการกะว่าจะเอาอาหารมาชดเชยกี่ชิ้นดี

    ตอนนี้ผมเริ่มกรุ่นๆแล้วครับ
    ไม่ได้สนใจปริมาณอาหารหรือส่วนลดเลย
    แต่สงสัยว่าทำไม...ถึงไม่มีคำว่า"ขอโทษ" หรือคำอธิบายที่ชัดเจนหลุดออกจากปากพนักงานเลย

    แต่ยังนิ่งครับ ยังพยายามคิดในแง่ดีว่า เค้าอาจจะหารือกันอยู่ว่าจะรับดีมั้ย...รอหน่อยละกันน่า

    สุดท้ายพี่ผมก็บอกไปว่า ไม่เอาอาหารแล้ว แต่ไม่ได้พูดถึงส่วนลดว่าจะเอาหรือไม่
    อีกซักพัก พนักงานก็นำบิลที่มีส่วนลด 10 % มาให้และยืนนิ่งๆ พนักงานคนอื่นๆที่อยู่รอบโต๊ะก็ทำตัวปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    ส่วนผู้จัดการหรือเจ้าของร้านก็ไม่มีวี่แววว่าจะออกมา

    พอกันที...
    ผมถามพนักงานตรงๆเลยว่า มีแมลงวันทั้งตัวอยู่ในหม้อแบบนี้ จะไม่กล่าวคำขอโทษซักคำเลยเหรอ?

    พนักงานคนแรกก็พูดแบบเดิม ให้ผมต้องย้ำคำอธิบายเดิมอีกรอบ ระหว่างนั้นก็มีพนักงานคนนึงพูดลอยๆว่าให้เรียกผู้จัดการดีกว่า เพราะเราเป็นพนักงาน ทำอะไรไม่ได้มากอยู่แล้ว ... ผมก็เลยหันไปขอพบผู้จัดการเลยครับ

    จนกระทั่งพี่ผมหยิบบัตรเครดิตให้ พนักงานหญิงที่นำบิลมาให้และไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร ก็ออกปากขอโทษแทน

    คำขอโทษ ถ้าเอ่ยออกมาถูกโอกาส ถูกเวลา มันก็ดีไป
    แต่ถ้าใช้ผิดจังหวะ ผิดเวลา เอ่ยช้าไปครึ่งค่อนชั่วโมงแบบนี้ มันก็ไม่ช่วยอะไรแล้วล่ะครับ

    ผ่านไปอีกเนิ่นนาน ผู้จัดการก็ยังไม่ออกมา ถามพนักงานก็ได้คำตอบว่า พี่เค้าไม่มา ต่อมาก็กลายเป็น พี่เค้าไม่ยอมออกมาพบ

    ก็พอดีมีพนักงานหญิงคนนึงเดินเข้ามา รูปร่างสูง ผอม ผิวคล้ำ สวมชุดไปรเวท บอกว่า มีอะไร คุยกับเค้าได้
    (ภายหลังทราบว่าเป็นแคชเชียร์...งงมั้ยล่ะครับ?)

    ผมก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ในใจคิดว่า ถ้าเค้าน้อมรับฟังเหตุการณ์ กล่าวคำขอโทษ อย่างน้อยๆแบบแบ่งรับแบ่งสู้ก็ได้ว่า
    "ปกติไม่เคยเกิดปัญหาอย่างนี้จริงๆนะคะ แต่ยังไงทางเราก็ต้องขอโทษแทนพนักงานคนอื่นๆด้วย ต่อไปนี้เราจะระวังให้มากขึ้นค่ะ"

    ถ้าเป็นอย่างนั้นก็โอเค จบ..

    แต่รู้มั้ยครับ เค้าตอบว่าไง...
    .
    .
    .
    "ก็น้องผู้หญิงขอโทษไปแล้วนี่คะ คุณจะให้ทำยังไงอีก"

    ตอนแรกก็คิดว่าเค้าคงเป็นคงตรงไปตรงมา หรือไม่เข้าใจประเด็นที่ต้องการสื่อ ผมกับพี่เลยค่อยๆอธิบายว่าเค้าขอโทษ เพราะทางเราท้วงติงไป
    และคนที่ขอโทษก็ไม่ใช่คนทำอาหารหรือคนที่เสิร์ฟแต่แรกด้วย

    ประเด็นคือทำไมถึงไม่มีใครคิดจะออกมาจัดการให้เคลียร์ๆ และทำไมต้องรอให้ทักท้วงก่อนถึงจะขอโทษได้


    คำตอบชวนอึ้งซัดเข้ามาอีกระลอก
    "ทางเราก็ขอโทษไปแล้ว คุณจะเอายังไงล่ะคะ"

    จะเอายังไงล่ะคะ? ....

    พระเจ้า! ตกลงนอกจากเค้าจะไม่เข้าใจเราแล้ว ยังคิดว่าเรามาขอเค้ากินอีกเหรอ?

    ผมกับพี่มองหน้ากัน ไม่อยากเชื่อว่าคำพูดแบบนี้จะออกมาจากปากของผู้ให้บริการถึง 2 รอบติดๆ

    ผมหมดความอดทนแล้วครับ ถามประชดไปเลยว่า ถามแบบนี้ จะให้ผมตอบว่าผมจะเอาไปลงประกาศในเว็บต่างๆเหรอ


    เค้าสวนกลับมาเร็วมากครับ อึ้งกันรอบ3
    "ถ้าคุณจะทำแบบนั้นก็เป็นสิทธิ์ของคุณ ดิฉันคงห้ามไม่ได้หรอกค่ะ"

    ผมถามเค้าตรงๆเลยว่า คุณคิดได้แค่นี้ แก้ปัญหาได้แค่นี้เหรอครับ?

    พี่สาวผม เห็นว่าคงพูดกันไม่รู้เรื่องแล้ว เลยบอกให้เลิกพูดกับเค้า แล้วออกจากร้านกันดีกว่า แคชเชียร์คนนั้นก็เลยเดินกลับไปที่เดิม

    ตอนกำลังจะลุก พนักงานคนนึงก็เดินเข้ามาขอโทษแทนแคชเชียร์ แล้วบอกว่าเค้าเป็นคนกระด้าง พูดจาแข็งๆแบบนี้แหละ อย่าถือสาเลย


    และที่พวกเค้าไม่ขอโทษแต่แรก ก็เพราะยังไม่แน่ใจว่าเป็นความผิดของร้านเค้ารึเปล่า
    ต้องรอให้เจ้าของมาพูดเอง ไม่อย่างนั้นจะเป็นการข้ามหน้าข้ามตา


    ผมฟังแล้วอึ้งรอบ 4 ครับ

    ข้ามหน้าข้ามตา??? แล้วไหนล่ะเจ้าของ??? เห็นแต่แคชเชียร์กับบริกร...

    ตอนนั้นผมขี้เกียจเถียงแล้วครับ เลยลุกเดินออกมา รู้สึกว่าแนะนำหรือต่อว่าพนักงานไปก็เท่านั้น

    ก่อนออก อดไม่ได้ รู้ว่าไม่ควรทำนักหรอกครับ แต่อดไม่ไหวจริงๆ
    ผมเลยเดินไปพูดกับแคชเชียร์คนนั้นว่า "ช่วยปรับปรุงมารยาทด้วยนะครับ"

    คุณป้าคนนึง (ซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของ)ยืนอยู่ตรงนั้น และคงจะได้ยินที่ผมพูด เลยเข้ามาถาม ผมกับพี่สาวก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

    ระหว่างที่เล่า ผมหันไปมองแคชเชียร์ เธอก็มองผมเหมือนกันครับ มองเขม็ง ไม่หลบตา ส่งสายตาปิ๊งๆกันซักพัก เธอก็เขินอาย หันหน้าไปทางอื่น

    พอดีพี่ผมเล่าจบ คุณป้าก็รับปากว่าจะตักเตือนพนักงานคนนี้ให้ เรื่องในร้านนั้นก็จบลงเท่านี้แหละครับ

    (แต่โดยส่วนตัว ผมยังมีข้อสงสัยหลายอย่างนะครับ
    อย่างเช่นว่า ทำไมต้องรอให้เจ้าของมาขอโทษเอง?
    ขอโทษก่อนเรียกว่าข้ามหน้าข้ามตาอย่างนั้นหรือ?

    ตอนเกิดเรื่องเจ้าของกับผู้จัดการหายไปไหน?(หวังว่าผจก.กับแคชเชียร์คงเป็นคนละคนกันนะครับ หึหึ...)

    พนักงานรู้กันดีว่าแคชเชียร์คนนี้เป็นยังไง แล้วเจ้าของร้าน ไม่ทราบพฤติกรรมของแคชเชียร์เลยหรือ?)


    เจอเรื่องนี้แล้ว นึกถึงฟอร์เวิร์ดเมล์เรื่องร้านสุกี้แห่งหนึ่ง
    ลูกค้าบอกพนักงานว่าเห็นหนูวิ่งผ่านไป
    พนักงานตอบว่า อ๋อ คงเป็นหนูของที่อื่นน่ะค่ะ

    ลูกค้าอึ้ง ได้แต่นึกว่า"หนูในร้าน ต้องมีปลอกคอเหรอ?"
    เฮ้อ...


    จุดประสงค์ที่นำเรื่องนี้มาเล่า ก็เพราะเชื่อว่าหลายๆคนคงมีประสบการณ์แบบนี้มาแล้ว จึงอยากทราบว่าร้านอื่นๆมีปฏิกริยาตอบสนองอย่างไร และแต่ละคนมีวิธีจัดการกับปัญหาแบบนี้อย่างไรบ้าง

    ที่สำคัญ ผมเคยเห็นเจ้าของร้านเข้ามาตอบกระทู้ในห้องก้นครัวหลายครั้ง จึงอยากฝากเรื่องให้รับไว้พิจารณาและช่วยคุณป้าตักเตือนพนักงานคนนั้นอีกแรงด้วยครับ ... ถ้ามีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก็หลังไมค์มาได้เลยนะครับ

    ป.ล. สิ่งที่เล่ามา ขอยืนยันว่าเป็นความจริงทุกประการครับ ไม่มีเพิ่มหรือหมกเม็ดใดๆ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ ก็ขึ้นกับวิจารณญาณของแต่ละบุคคลเอง
    ถ้าไม่เชื่อ หรือมีความคิดเห็นที่แตกต่าง ก็ขอให้ใช้ภาษาที่สุภาพ และอธิบายกันด้วยเหตุผลนะครับ

    จากคุณ : ทะเลหน้าหนาว...กับดาวพันดวง - [ 29 ส.ค. 51 23:32:53 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom