PANTIP.COM : D7010337 สอบถามเรื่อง "ไวน์" ราคาประมาณ 6-7000 บาท ซื้อเป็นของขวัญให้ผู้ใหญ่ซื้อยี่ห้ออะไรดีครับ [Coffee Tea & Drinks]

ความคิดเห็นที่ 29

เรียนท่านเจ้าของกระทู้ ที่นับถือ

ได้เข้ามาอ่านตั้งแต่ความเห็นแรก จนถึงบัดนี้ ได้ความรู้ดี ชอบ

แต่ตัวเองมีคำถาม และมี comment ถึงท่านเจ้าของกระทู้ ดังนี้

1. เจ้าของกระทู้เล่าว่า พี่ท่านหนึ่งเคยดื่มเหล้าระดับ Blue Label แต่ตอนนี้เลิกดื่มแล้ว .... เปลี่ยนมาดื่มไวน์แทน จึงอยากหาไวน์ที่มีราคาสูสีกับ Blue Label...... ! ! !

2. ราคาไวน์ในประเทศไทยแยกออกได้เป็น 2 ประเภท คือ 1 . ราคาแบบไวน์เสียภาษี ติดแสตมป์ และ 2 .ราคาแบบไวน์หนีภาษี (ไวน์ลักลอบนำเข้า) ถามว่า คุณต้องการให้ผู้อ่านบอกราคาไวน์ประเภทไหน หรือทั้งสองประเภท

3. ต่อไปนี้เป็นคำวิจารณ์ตามข้อที่ 1 .

ใคร่ขอเรียนข้อเท็จจริงแก่เจ้าของกระทู้ ในกรณีคนเคยดื่มวิสกี้ (ระดับสูงเสียด้วย) และคงเคยดื่มมานานแล้ว แต่หันกลับมุมเปลี่ยนมาดื่มไวน์
ด้วยความเคารพต่อกระทู้ของท่านเจ้าของ คำวิจารณ์ของข้าพเจ้าต่อไปนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของเจ้าของกระทู้ และเพื่อพี่ท่านหนึ่งที่กำลังจะได้รับไวน์เป็นของขวัญจากคุณ โปรดกรุณาอย่าคิดเป็นอื่น

3.1 คนเคยชอบวิสกี้ แล้วหันมาดื่มไวน์ คงไม่เหมือนกับคนเคยชอบแกงเขียวหวาน แล้วเปลี่ยนมากินแกงส้มนะ ไม่เหมือนกันแน่นอน

3.2 จากประสบการณ์ของข้าพเจ้าเอง และของเพื่อนๆ หลากหลาย ที่เคยดื่มวิสกี้ ดื่มเบียร์ ฯลฯ มาก่อน แล้วเปลี่ยนมาดื่มไวน์ นั้น ส่วนใหญ่ตอนเริ่มต้น ลิ้นจะไม่ค่อยรับรสชาดอันสุนทรีย์ของไวน์สักเท่าใด ส่วนใหญ่ก็สักแต่จะดื่มไป โดยเข้าใจว่าไวน์ก็คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทหนึ่งเท่านั้น แถมเมาช้า อีกด้วย พาลบอกว่ากลิ่นก็งั้นๆ ว่าแล้วยกแก้วซดไวน์พรวดเดียวแบบที่เคยทำกับเหล้า หรือเบียร์ไม่มีผิด (นี่ยังไม่ได้พูดถึงผู้ดื่มไวน์แดงแกล้มยำเนื้อรสจัด นะ เพราะเขาบอกว่าไวน์แดงคู่กับเนื้อนี่นา ! ! ! ส่วนประเภทดื่มไวน์ขาวกับปลากะพงนึ่งมะนาวหรือพล่ากุ้งก็มีนะ ก็เขาบอกว่าไวน์ขาวคู่กับ กุ้ง-ปลา สีขาวๆด้วยกันนี่นา ! ! ! )

ก็ไวน์มีดีกรีเพียงแค่ 13.5 ประมาณนั้น ขณะที่วิสกี้ มีตั้งแต่ 35 ดีกรี 38 - 40 จนถึง 45 ดีกรี หรือมากกว่านั้น

4. เมื่อตอนที่ข้าพเจ้าเริ่มหัดดื่มไวน์ ข้าพเจ้าจะศึกษาเรื่องไวน์ควบคู่กันไปด้วย โดยศึกษาจากคนผู้รู้ คนผู้ดื่มไวน์เป็นประจำ คนผู้รักไวน์ รวมทั้งการหาหนังสือเกี่ยวกับไวน์มาอ่านเป็นสิบเล่ม ค่อยๆศึกษาไป เพราะด้วยความตระหนักว่า ไวน์ก็เหมือนสุภาพสตรี หากชายใดเปลี่ยนสตรีใหม่ ก็จำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับสตรีผู้นั้นให้มากที่สุด ก็คือว่า ผู้หญิงทุกคนเป็นหญิงเหมือนกันกัน แต่ไม่เหมือนกัน นั่นเอง

5. ขณะนี้ ข้าพเจ้าพอจะมีความรู้ว่า ถึงไวน์จะมีแอลกอฮอล์เหมือนกัน แต่ไวน์ไม่ใช่เหล้าทุกชนิด และไวน์ไม่ใช่เบียร์ทุกประเภท คนละอย่างกันเลย ไวน์ ก็เป็นได้อย่างเดียวเท่านั้น คือเป็นไวน์

และไวน์ เป็นเมรัยที่มีชาติตระกูลสูงที่สุดในเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ด้วยกัน อธิบายสั้นๆ ได้ดังนี้

** ท่านเคยเห็นมีเบียร์ยี่ห้อไหนในโลกนี้ราคาเกินกว่าขวดละ 500 บาทไหม (ซื้อตามสโตร์ทั่วไปนะ)

** ท่านเคยเห็นเหล้า - วิสกี้ตระกูลไหนในโลกนี้ที่มีราคาขวดละเกินกว่า50,000 บาทไหม ( ไม่ว่าจะเก่าเก็บแค่ใด แต่วิสกี้ หากเก่ามาก รสชาดจางไปเลยนะ)

ไม่มี และไม่มีแน่นอน

แต่สำหรับไวน์ จะมีราคาตั้งแต่ขวดละ 30 บาท ( ในต่างประเทศ) จนถึงขวดละหลาย หลายแสนบาท จนเฉียดล้านบาทก็มีมาแล้ว

คราวนี้ หันมาดูพิธีการดื่ม ของสุราเมรัยเหล่านี้

** น้ำตาลเมา แบบบ้านเรา ที่ต่างชาติเรียกว่า toddy แบบในศรีลังกา นั้น บ้านเราต้องใช้ภาชนะที่เป็น " กะลา " เท่านั้น จึงจะถูกกัน และได้รสชาดอร่อย ของแกล้มชั้นดีก็ต้อง หมี่กรอบ เป็นต้น

** กะแช่ ก็ต้องใช้กะลา หรือดีหน่อยก็แก้วขาวธรรมดาใบหนา ๆ

** " อุ " ของภาคอีสาน แถวเรณูนคร ก็ต้องใช้หลอดดูดจากไหดินเผา จึงจะได้รสชาด หากนำมาใส่กล่องกระดาษฟอยล์ดูด ก็จะไม่มีรสชาดของ " อุ "

** เหล้าขาว หรือสุราสรรพสามิตที่คนใช้แรงงานชอบดื่ม ก็ต้องรินใส่จอกแก้วใบเล็ก (มีรอยเปื้อนคราบที่ปากแก้วเล็กน้อย) ยกดื่มรวดเดียวให้หายวาบลงคอ แล้วคีบมะยม หรือมะขามเปียกที่วางแถมให้ เข้าปาก 1 หรือ 2 ชิ้น ก็กลับไปมีความสุขกับลูก - เมียที่บ้านได้แล้ว

** เหล้าแสงโสม ฯลฯ ชั้นดีขึ้นมาหน่อย ก็ใส่แก้วใสสะอาดผสมโซดา หรือน้ำ เช่นเดี่ยวกับวิสกี้ฝรั่งสกอตช์

หากเป็นระดับ Blue Label ก็น่าจะรินใส่แก้วเจียรไน crystal เป็นการให้เกียรติกันบ้าง

กับแกล้มของเหล้า หรือวิสกี้ ก็ว่ากันไปตามแต่รสนิยม ไม่ค่อยจะมีอะไรต้องห้ามเท่าใด พื้นๆ ก็คือเมล็ดถั่วทั้งหลาย ไม่เหมือนไวน์ เพราะสำคัญยิ่งต้องคัดเลือกอาหารให้เข้ากันได้กับไวน์ มิฉะนั้นรสชาดอาหารจะเป็นตัวทำลายกลิ่น กายะหรือเนื้อนวลและรสโอชะ ของไวน์แก้วนั้น ขวดนั้นให้หมดไปแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์

***** แต่สำหรับไวน์ นั้น เขามีแก้วต่างหากสำหรับใช้ดื่มโดยแยกประเภทของไวน์แต่ละชนิด เช่นกลุ่มไวน์ Bordeaux หรือ Bergundy หรือ Port หรือ Cherry หรือ Champangeก็ต้องมีแก้วใช้ดื่มโดยเฉพาะไม่ปะปนกัน รูปร่างก็แตกต่างกัน ถามว่าหากเอาแก้ว Champange ไปรินใส่ไวน์ตระกูล Bordeaux มาดื่มจะได้ไหม

คำตอบก็คือได้ ทำไมจะไม่ได้ ก็คุณอยากจะดื่มอย่างนั้นซะอย่าง ใครจะกล้าไปขวางคุณ

เหมือนอย่างขนมจีนน้ำยา ซึ่งเส้นขนมจีนมีลักษณะยาวแบบเส้นก๋วยเตี๋ยว ขณะที่ก๋วยเตี๋ยวเขาใช้ " ตะเกียบ " เป็นอุปกรณ์การกิน ดังนั้น คุณ ก็สามารถใช้ตะเกียบมาคีบขนมจีนกินได้เหมือนกัน ลองทำดูซี ใครจะกล้ามาทำอะไรคุณ

หรือก็เช่นเดียวกับคุณจะดื่มโค๊กใส่น้ำแข็งในขันล้างหน้า ก็สามารถทำได้ ก็ไม่เห็นจะไปหนัก ( ? ) อะไรของใครที่ตรงไหน ใช่ไหม

แต่อย่างไรก็ตาม มนุษย์ชาติแต่ละที่เขาต่างมีประเพณี ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เกิดจากได้ค้นพบความเหมาะสมเป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว ไวน์อย่างนั้น ก็ต้องกินกับแก้วอย่างนี้ แม้แต่การจับแก้วไวน์ ก็ต้องจับให้ถูกที่ เขาก็มีเหตุผลอีกนั้นแหละ

การ กิน-ดื่มไวน์ที่ไม่ถูกต้องวิธี หากคนที่เขารู้วิธีถูกต้อง เขามาเห็นคุณประพฤติอย่างนั้น ก็จะไม่มีใครเขากล้ามาว่าคุณหรอก แต่เขาจะมองด้วยหางตาแล้วคิดอะไรอยู่ในใจก็ไม่รู้ ( เคยเห็นชาวเขา - ผีตองเหลืองที่จังหวัดน่านนั่งภัตตาคารกิน Pizza หรือ Steak ไหมล่ะ น่าดูออก )

จะเห็นได้ว่า การดื่ม-กินของไวน์ ค่อนข้างจะมีพิธีรีตองมากกว่าเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ บางคนบอกว่า ถ้างั้นอย่าไปกินมันเลย ไอ้ไวน์บ้าๆ ถือว่าตัวเองเป็นของสูง หันมากินเบียร์ กินเหล้าตามเดิมดีกว่า ไม่เรื่องมาก ก็ถูกต้องของเขา เขาผู้นั้นพูดไม่ผิดเลย ทุกคนมีทางเลือกเป็นไปตามความเหมาะสมของตัวเองทั้งนั้น

ขออภัย ข้าพเจ้าลืมไปอย่างหนึ่ง สำหรับที่ได้อธิบายเรื่อง " ภาชนะ" สำหรับใส่สุราเมรัยประเภทต่างๆ ให้เหมาะสมกัน ข้าพเจ้าลืม " เบียร์ "

** เบียร์ (สำหรับบุคคลบางจำพวก) ไม่จำเป็นใช้ภาชนะแก้วประเภทใดเลยมาริน ก็สามารถดื่มได้ เคยเห็นแล้วใช่ไหม ตาม pub เมืองไทยบางแห่ง หรือในบางสถานที่ ผู้คนถือขวดเบียร์ยกกรอกปากดื่มกันเลย

ถามว่าทำได้ไหม ก็ตอบว่า " ได้ " ถ้าคุณจะดื่มอย่างนั้น แต่การดื่มเบียร์ให้ได้รสชาดอันดื่มด่ำแท้จริงของเบียร์แต่ละยี่ห้อ เขาต้องรินใส่แก้วที่ถูกต้อง รินให้มีฟองตามจังหวะ และที่สำคัญ ต้องไม่นำสิ่งอื่นมาผสมในแก้วเบียร์นั้น และไม่ใส่น้ำแข็งอย่างเด็ดขาด(น้ำแข็งเป็นตัวทำให้รสชาดและความหอมของเบียร์ที่ได้ผ่านการหมักมาเป็นอย่างดีละลายหายไป ( เรื่องนี้ คุณตุ่ม สันติ ภิรมย์ภักดี เจ้าของเบียร์สิงห์ ถึงกับเคยออกปากกับเพื่อนสนิทมาแล้วว่า " ฉันอยากร้องไห้ ที่เห็นคนเอาเบียร์ดีๆ ของฉันไปผสมน้ำแข็ง เบียร์ฉันไม่ใช่วิสกี้ หรือกาแฟเย็นนะ แต่คุณตุ่มไม่ได้บ่นดังๆ ให้ใครได้ยิน เพราะกลัวยอดขายสิงห์ตกไปอยู่แก่คู่แข่ง)

การดื่มเบียร์ให้ถูกต้อง-อร่อยได้รสชาด ต้องมีอุณหภูมิเย็นพอเหมาะ โดยไม่ใส่น้ำแข็ง โดยเย็นจากตู้แช่ประการเดียว เมื่อเปิดขวดแล้วต้องดื่มให้หมดก่อนความเย็นจะหดหาย( จึงมีเบียร์ขวดเล็กสำหรับผู้ดื่มคนเดียว) และหลีกเลี่ยงผู้อื่นใช้มืออุ่นๆ มาจับขวดเบียร์บ่อยๆ จะทำให้เบียร์ลดอุณหภูมิลงเร็ว ให้สังเกตุดูตามโรงแรมชั้น 1 บริกรจะนำขวดเบียร์ตั้งมาบนถาดมาเสิรฟ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้มืออุ่นๆจับถือขวดเบียร์มาเสิรฟ และใช้มือจับขวดเบียร์รินให้เราแค่ตอนแรก (รินมีฟอง และไม่ใส่นำแข็งด้วย) ต่อไปจะไม่มายุ่งกับเราอีก ไม่เหมือนร้านตามสวนอาหารข้างถนนทั่วไป ที่นอกจากเล่นใช้มือถือขวดเบียร์แล้ว ยังขยันมารินจริง ๆ ทั้งๆที่เรายังไม่ต้องการดื่ม ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิของเบียร์ที่รินออกมาแล้วโดยยังไม่ดื่ม ลดต่ำไปกว่าอุณหภูมิที่ยังอยู่ในขวด (แต่เขาบอกว่าเป็นการบริการแขกโดยเอาแต่ใจตัวบริกรเป็นที่ตั้ง และเอาใจเจ้าของร้านที่จะขายเบียร์ได้เยอะ ๆ)

ส่วนเรื่องการรินเบียร์ที่ถูกวิธี ว่า " ทำไมจึงต้องรินเบียร์ให้มีฟองบนปากแก้ว ? ? ? " นั้น หากท่านสนใจ จะขอยกไปให้คำตอบในคราวหน้า ด้วยความยินดี ( ในชีวิตก็ได้ไปเห็นคนดื่มเบียร์มามากมายหลายประเทศ เข้าใจว่ามีเฉพาะในประทศไทยแห่งเดียวนี่นะ ที่รินเบียร์ไม่มีฟอง และแถมใส่น้ำแข็ง)

6. คงจะจบเรื่องของ ไวน์ เพียงแค่นี้ก่อน

สรุปว่า ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่ไม่เหมือนสุราเมรัยชนิดอื่นโดยเด็ดขาด สำหรับข้าพเจ้าเองปฎิบัติตนในการดื่มไวน์ อย่าง" ให้เกียรติ " ต่อไวน์ที่ข้าพเจ้าดื่มแต่ละขวดด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าจะไม่แหกคอกฝ่าฝืนธรรมเนียมปฎิบัติในการดื่มไวน์ที่มีมาช้านาน ในบางครั้งที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสดื่มไวน์ตัวดีๆ ข้าพเจ้าแทบก้มลงกราบมันก่อนด้วยซ้ำ

สุดท้ายนี้ ขอให้คำแนะนำแก่ท่านเจ้าของกระทู้ที่กำลังจะซื้อไวน์ไปฝากพี่ว่า คุณไม่จำเป็นต้องซื้อไวน์ในราคาเทียบเคียงกับ Blue Label ไปมอบให้ ไม่จำเป็น และไม่ใช่มาตราส่วนที่ถูกต้องด้วย ขอแนะนำให้ซื้อไวน์ระดับดี ( สำหรับคอเมืองไทยเท่านั้นนะ ) สักขนาด Bin 407 ของ Penfolds ก็พอรับประทานได้แล้วสำหรับคนที่เริ่มต้นดื่มใหม่ (ทั้งนี้หากท่านเป็นคนที่คำนึงถึงหน้าตา นำ 407 มาวางบนโต๊ะก็ไม่อายใคร เหนือชั้นกว่า Bin 2 หรือ Bin 8 ด้วยนะ ) ราคาในห้างเมืองไทยเสียภาษีตกขวดละประมาณเกือบ 3000 บาท กระมัง อย่างไรก็ตาม ต้องกรุณาแนะนำให้เขา ( คุณพี่ ) ได้มีโอกาสให้ช่องโพรงปากได้สัมผัสรสชาดไวน์นาๆ ชนิด นานายี่ห้อ ที่แตกต่างกันมาดื่มให้มาก ๆ (ให้หาดื่มไวน์จากฝรั่งเศส อิตาลี เสปน หรืออเมริกัน หรือไวน์โหลจากชิลี ฯลฯ แม้กระทั่งไวน์จากจีนด้วย และให้พยายามหาดื่มไวน์ที่ทำจากองุ่นที่แตกต่างกัน) จนกระทั่งวันหนึ่ง ลิ้น และปุ่มรับรสสัมผัส 5000 ปุ่มที่มีในโพรงปาก ได้เปรียบเทียบ และได้คัดเลือก " ไวน์ " ตัวที่มีระดับ มีชั้น มีรสชาดได้ถูกต้องลงตัวแล้วเมื่อไรแล้ว นั่นแหละ จึงเลือกซื้อไวน์ในชั้นนั้น ระดับนั้น มาเสพเป็นเรื่องเป็นราวต่อไป

****** สำหรับคอไวน์ ในโลกนี้ไม่มีไวน์ตัวไหนที่ดีที่สุด นอกจากไวน์ตัวไหนที่เราชอบมากที่สุด ******

Wine is the souvernir from God

และต้องขออภัย ที่ต้องแก้ไขปรับปรุงข้อความหลายครั้ง เนื่องจากมีพิมพ์ตกหล่นหลายคำ เพื่อความสดวกแก่ท่านผู้เข้ามาอ่าน จึงต้องขออนุญาตแก้ไขปรับปรุงด้วย

ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้
แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 51 21:15:40
แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 51 14:40:35

จากคุณ : Wine is life (Detente) - [ 19 ก.ย. 51 13:49:01 ]