ความคิดเห็นที่ 1 สงสัยมานานแล้วเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าให้เดา.. แต่อาจจะ กินเจต้องสะอาด ไม่ต้องปรุงรสให้เกิดกิเลสรึป่าว?? ฮ่าฮ่าฮ่า  มั่วสุดๆเลย จากคุณ : mamajaru - [ 20 ก.ย. 51 17:16:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อยากรู้ด้วยคนคะ จากคุณ : ^_^ (ningnoi) - [ 20 ก.ย. 51 17:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อืมจากการคาดเดา ในอุตสาหกรรมทำผงชูรส อาจไม่ได้มีแค่มันสำปะหลัง100%ครับ อาจมีสารสกัดจาก กระดูกวัว พวกนี้ก็เป็นไปได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น มีชูรสจีน ซึ่งยืนยันมาเป็น เจ แต่จริงๆแล้ว ผมว่า อย่าไปคิดมากเลยครับ ไม่เจไม่ได้ตายนะครับ ถ้าพลาดก็ลืมๆไปซะ ได้บุญกว่าฟุ้งซ่านเยอะเลย จากคุณ : SchwedaKong - [ 20 ก.ย. 51 17:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เอ่อ เพื่อนดิฉันไม่ได้ฟุ้งซ่านหรอกคะ แค่อยากรู้ก็เท่านั้นเอง แค่สงสัยหนะคะ เวลาคนสงสัย ไม่ได้แปลว่าฟุ้งซ่านนี่นา... จากคุณ : gibgabgoogee - [ 20 ก.ย. 51 17:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สงสัยอยากรู้ก็เลยถาม กลับหาว่าฟุ้งซ่าน แต่ละคนก็มีเหตุผลที่จะอยากรู้อะไรจริงๆ แม้ี่บางคนอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระได้เหมือนกัน จากคุณ : โบว์ - [ 20 ก.ย. 51 20:08:36 A:124.120.125.11 X: TicketID:144599 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไข่ทุกวันนี้ก็เป็นไข่ลม ไม่มีโอกาสฟักเป็นตัว ...แต่ชอว์ นมสัตว์ที่เอามาดื่มกิน สัตว์ตัวนั้นก็ไม่ตาย ...แต่ชอว์ หอม กระเทียม คื่นช่าย ผักชี ฯลฯ พืชชัดๆ ...แต่ชอว์ หอยนางรมนี่มันสัตว์ชัดๆ ...แต่เจ สงสัยเพิ่มด้วยคนดิ ..อิอิ.. จากคุณ : ยืม login แฟนมาสงสัย (กาแฟขม) - [ 20 ก.ย. 51 20:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หอม กระเทียม คื่นช่าย ผักชี เค้าว่าผักพวกนี้รบกวนสมดุลของธาตุในร่างกายของคนที่อยู่ในช่วงกินแต่ผักไม่กินเนื้ออะครับ ดูสรรพคุณทางยาของพืชแต่ละชนิดสิครับ หอยนี้ เหมือนได้ยินคุ้น ๆ เกี่ยวกับตำนานเจ้าแม่กวนอิมหรือว่า ชาวจีนติดทะเล เค้า คิดเองเนี้ยละ ลืม ๆ ใครมีละเอียด ๆ ก็มาเสริมด้วยนะ จากคุณ : เด็กน้อย (utaka05) - [ 20 ก.ย. 51 21:25:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เจจริงๆจะไม่ให้ใส่หัวหอม กระเทียม ด้วยค่ะ เพราะเป็นตัวชูรสให้อร่อย เราว่าที่ไม่ให้ใส่ผงชูรสก็เพราะเหตุผลนี้ล่ะค่า ส่วนเรื่องหอยนางรม เจจริงๆเขาก็จะไม่ทานกันค่า มันแล้วแต่ว่าเขายึดยังไง ถ้ายึดหลักแนวคิดว่ากินเจคือไม่เบียดเบียนสัตว์ ก็จะไม่ทานกันค่ะ จากคุณ : JeyZ - [ 20 ก.ย. 51 21:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ชูรสปกติมีส่วนผสมของกระดูกสัตว์ครับ   หอม กระเทียม คื่นช่าย ผักชี กินแล้วจะทำให้เกิดความกำหนัดหรือพูดง่ายๆกินแล้วเซ็กส์ ทำให้ห้ามกิน หอยนางรมไม่เจครับแต่บางคนโมเมว่าเจ ที่มาก็เกิดจากไปเก็บสาหร่ายมาทำอาหารเจแต่พวกหอยติดมาด้วยก็เลยอ้างว่าเจ ไข่ สมัยก่อนเป็นพันปี ไม่มีไข่ลม เค้าเลยถือว่าไม่เจ นมไม่เจเพราะเป็นการเบียดเบียนสัตว์ถึงแม้ไม่ได้ทำให้มันตายก็ตาม จากคุณ : lek2you - [ 20 ก.ย. 51 21:42:33 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หอยนางรมเจ ก็เพราะ ตอนเจ้าแม่กวนอิม เดินทางทางทะเล ติดเกาะ หรือไม่มีอะไรจะกิน ท่านเลยต้องกินหอยนางรมประทังชีวิต หอยนางรมจึงกลายเป็น เจ.....อันนี้ได้ยินมาแววๆนะ ยังไม่แน่ใจ จากคุณ : Xiaoli_Aey - [ 20 ก.ย. 51 21:56:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แต่ที่ผมสงสัยอยู่อย่าง จะกินเจ แต่ยังอยากอยู่อีก ต้องทำให้เป็นไส้ เป็นกระเพาะหมู เป็นปลา......................... ผมว่ามันน่าจะตัดกิเลสส่วนนี้นะ จากคุณ : mod15 - [ 20 ก.ย. 51 21:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ^ คนกินเจ ยังไม่สำเร็จมรรคผลนะคะ ความอยากก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม แต่เราไม่เบียดเบียนเท่านั้นเอง แต่ส่วนตัวก็ไม่ชอบกินพวกของปลอม เพราะมันไม่อร่อยค่ะ ที่เคยกินแล้วอร่อยมีสองอย่างคือ แฮมเจกับทอดมันเจ ทั้งสองอย่างราคามหาโหด จากคุณ : กบข้างกะลา - [ 20 ก.ย. 51 23:02:47 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เอาแค่กินเจให้ได้ก่อนดีกว่าไหมครับ??.... ถึงจะทำเป็นรูปแบบไหน? ก็คงจะเป็นเพียงรูปภายนอกเท่านั้น.... เพราะคนกินก็รู้อยู่ว่ามันไม่ได้เป็นเนื้อจริงๆ การปรุงแต่ง กลิ่นและรส ก็ล้วนแต่ทำขึ้นเพื่อตอบสนองกิเลสบางส่วนเท่านั้น ซึ่งคนที่เขากินเจเคร่ง เขาก็ไม่กินอะไรแบบนี้เท่าไหร่นักหรอกครับ เพราะมันแพง.... แต่ผมคิดว่าได้กินเจสักหน่อย ก็ยังดีกว่าไม่กินเลย.... ถ้ากินได้ตลอดไปก็จะยิ่งดี (ต่อตัวเราและชีวิตอื่นๆด้วย) จากคุณ : Tornado Plasma - [ 20 ก.ย. 51 23:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 20 ก.ย. 51 23:30:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ก่อนะจะแก้ต่าง ยังไงขอ เสนอในส่วนข้อมูลที่หามาก่อนครับ ผมลงกระทู้นี้เอง และ ใครมีอะไรโต้แย้งถ้ามีเหตุผลพอก็จัดมา ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อาหารเจ อาหารเจ นั้นมีต้นกำเนิด ดังนั้นผมจึงขอลงไปถึงในส่วนของความเชื่อทางด้านศาสนาเสียหน่อย ชาวจีนนั้นนับถือศาสนาขงจื้อ เต๋า และพุทธ ซึ่งในความเชื่อของจีนนั้น เมื่อมองเผินๆโดยรวมแล้วทั้ง3ศาสนาถือว่ามีความคล้ายคลึงกันมาก โดยจะนับในแง่ หลักการใช้ชีวิต พิธีกรรม และความเชื่อเข้าด้วยกัน ในอดีตนักบวชในศาสนาเหล่านี้จับนับถือการกินมังสวิรัติโดยงดเนื้อสัตว์ทั้งมวลอยู่แล้ว รวมไปถึงการงดผักที่ทำให้ธาตุในร่างกายเกิดอาการเสียสมดุลย์ก็จะถูกงดห้ามด้วยเช่นกัน ดังนั้นการกินเจ จึงถูกสืบต่อกันมา ตามชาวจีนที่อพยพเข้ามาในไทย เจ เจ/ไจ แปลว่า ไม่มีของคาวซึ่งคือเนื้อสัตว์นั่นเอง -งดบริโภคหรือทำอันตรายสัตว์ทุกชนิด -งดไข่ นม เนย ที่ทำจากสัตว์ -งดอาหารรสจัด เช่น เค็มมาก หวานมาก เปรี้ยวมาก เผ็ดมาก -งดผักกลิ่นฉุน รวมถึงเครื่องเทศเผ็ดร้อน -รักษาศีลห้า ปฏิบัติธรรม รักษากาย วาจา ใจ ควบคุมอารมณ์ให้คงที่ ทำบุญทำทาน -บางคนเคร่งมาก ก็นุ่งขาวห่มขาว การกินเจนั้นถ้าเทียบตามหลักของมังสวิรัตินั้นถือว่าเป็นการกินแบบเคร่งค่อนข้างมาก เพราะนอกจากห้ามเนื้อสัตว์ทุกชนิดแล้ว ยังห้ามผลผลิตจากสัตว์อีกด้วย รวมไปถึงบางสายที่ห้ามแม้กระทั่งการนุ่งห่มอาภรณ์ที่ทำจากสัตว์เสียอีกด้วย และยังมีการถือศีลอีกด้วย ซึ่งถ้ามองไม่แง่รายละเอียดแล้ว มันก็ไม่ต่างอะไรกับการจำลองเป็นนักบวชในระยะเวลา10วันที่กินเจ ส่วนต่อมาคือการห้ามผัก5ชนิดที่มีกลิ่นฉุนรสเผ็ด(อู่ซิง/อู่ฮุน) -ผัก ที่ว่านี้ ถือว่าทำให้ร่างกายร้อนและบางชนิดถือเป็นยากระตุ้นทางเพศ ดังนั้นในการช่วงกินเจ มักมีการถือศีลรวมไปด้วย การงดผักนี้ก็ถือเป็นการงดกิจกรรมทางเพศไปเสียด้วย -เชื่อว่าผักเหล่านี้เมื่อกินสด จะทำให้เกิดโทสะ แม้ปรุงสุกก็เกิดกิเลส อันนำไปสู่การผิดศีล -เชื่อว่าเวลากินผักจำพวกนี้ เวลาสวดมนต์พระโพธิสัตว์ที่จะเข้ามาคุ้มครองได้กลิ่นก็จะหนีห่างออกไป เหลือแต่ผีเปรตมาห้อมล้อม เมื่ออ่านโดยสรุปแล้ว ผมก็พอวิเคราะห์คร่าวๆว่า การกินผักเหล่านี้ จะไปกระตุ้นให้เกิดอาการกำหนัด ซึ่งง่ายต่อการผิดศีล ใจว่อกแว่ก รวมไปถึงกลิ่นปากกลิ่นตัวที่ตามมา คิดง่ายๆเคี้ยวกระเทียมเคี้ยวต้นหอมแล้วไปสวดมนต์คนสวดใกล้ๆได้กลิ่นก็คงไม่งามนัก จึงบัญญัติเป็นข้อห้ามไปซะ ผักที่ว่ามีดังนี้ ฝ่ายพุทธ -กระเทียม -ต้นหอม -กุยช่าย -หัวหอม(ทั้งหอมแดงและหอมใหญ่) -หลักเกียว(กระเทียมจีน/กระเทียมป่า/หอมชู/หอมปรัง/หอมแป้นหยวก) ฝ่ายเต๋า -กระเทียม -ผักชี -กุยช่าย -หลักเกียว -ไชเท้าแดง(อั้งไชเท้า คล้ายเเรดิช ไม่ใช่แครอทนะครับ) *บางตำราระบุว่าห้าม ใบยาสูบ แทนหัวไชเท้าแดง เรื่องของการทำลายธาตุในร่างกาย -กระเทียม ทำลายการทำงานของหัวใจ กระทบธาตุไฟ -หัวหอม ทำลายการทำงานของไต กระทบธาตุน้ำ -หลักเกียว ทำลายการทำงานของม้าม กระทบธาตุดิน -กุยช่าย ทำลายการทำงานของตับ กระทบธาตุไม้ -ใบยาสูบ ทำลายการทำงานของปอด กระทบธาตุโลหะ **ส่วนในความเชื่อเรื่องการกินหอยนางรมนั้น ในบางความเชื่อเล่ากันว่า เจ้าแม่กวนอิมอดอาหารกลางทะเลเเล้วอธิฐานขอให้หาอะไรกินได้แล้วเป็นเจหมด เมื่อเจ้าแม่กวนอิมได้หอยนางรมมา(ซึ่งยากกว่าการหาสาหร่ายหรือปลากิน) แล้ว ทึกทักเอาว่าเป็นเจ  ผมว่าเหตุผลข้อนี้ฟังไม่ขึ้นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีตำราไหนบัญญัติ เเละผมเชื่อว่าเรื่องนี้คือเรื่องแต่งมากกว่า เหตุเพราะ อาหารจีนในหลายสำรับมักมีการใช้น้ำมันหอย ซึ่งสกัดจากหอยนางรม แล้วฝ่ายที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมนั้นแพร่หลายในหมู่จีนแต้จิ๋ว ซึ่งเป็นชาวจีนในภาคใต้ของประเทศจีน ซึ่งมีพื้นที่ติดทะเลมาก การใช้น้ำมันหอยจึงแพร่หลาย ดังนั้น จึงสร้างข้อเว้นข้อนี้ไว้เพื่อให้สะดวกต่อการกินมากกว่า จากคุณ : SchwedaKong - [ 20 ก.ย. 51 23:50:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จบไป หนึ่งประเด็นนะครับ คงคลายความสงสัย เรื่อง"การกินหอยนางรม"ได้บ้าง ควรวิเคราะห์ในแง่"ความน่าจะเป็น" มากกว่า "ความเชื่อ" แยกตรงนี้ให้ออก ประเด็นต่อมา เรื่องอาหารเลียนแบบ อาหารเลียนแบบมีที่มานานมากแล้ว โดยมีข้อสันณิฐานดังนี้ -มันเกิดจากกิเลสพระนี่หละ ซึ่งพอกินมังฯแล้วเกิดอยากกินเนื้อขึ้นมาเลยมีการทำเพื่อสนองตัวเอง เปรียบการเลี่ยงบาลี คือ ไม่ผิดในแง่ศีล แต่ผิดในแง่กิเลส -เกิดจากศาสนิกชน ที่ต้องการทำไปถวาย ในจีน ก็ถือว่ามีการทำอาหารเลียนแบบมากอยู่แล้ว จึงอาจเป็นไปได้ว่า อยากให้พระที่กินเจ กินเพื่อคลายความอยากอาหารจำพวกเนื้อลงไปเสียบ้าง -ในแง่กุศโลบาย จุดนี้มองได้สองแง่ --เเง่ลบ คือการสนองกิเลส ของคนกินเจ --แง่บวก คือการชักชวนให้หันมากินมังฯ โดนใช้ของแบบนี้มาเป็นตัวล่อว่า ต่อให้คุณไม่ใช้เนื้อสัตว์เลย คุณก็สามารถกินเนื้อสัตว์เทียมแทนได้ ผมไม่ขอยืนยันว่ามันคือจุดไหน แบบที่ผมบอกไปว่า อาหารเทียมนั้นมองได้สองแง่เลย ดังนั้นเป็นการยาก อยู่ที่คุณจะมองมันในมุมไหนมากกว่า ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------   ประเด็นที่ผมพูดว่า"ฟุ้งซ่้าน" ขอให้่อ่านดีๆนะครับ ค่อยๆอ่านในจุดนี้ด้วย ฟุ้งซ่าน ในความหมายผมคือ อะไรที่มันตึงเกินไป แล้วพึงละเว้นไม่ได้ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับไม่ยอมปลง ควรถือว่าฟุ้งซ่าน การทานเจ สิ่งสำคัญที่สุดคือจิตใจที่พึงละด้วยใจเราเอง การไม่ทานเนื้อ ถือเป็นการละอย่างหนึ่ง แต่ ถ้าเรากลับมานั่งโวยวายถึงคนที่ไม่ยอมทำตามเรา หรือ ในเมื่อเรากินสิ่งที่ไม่ใช่เจในช่วงเวลาิกินเจ แล้ว มานั่งโมโหตัวเอง โทษคนอื่น มันจะต่างอะไรกับการสร้างบาปให้ตัวเองเล่า ผมมี อาจารย์ที่แกตั้งใจกินเจตลอดชีวิต ว่าแกเคยพลาดไหม แล้วถ้าพลาดจะทำยังไง คำตอบคือ ก็ ปล่อยมันไป เราพลาดแต่ไม่ได้เจตนา ถ้าคุณมีเจตนาที่ดีจริงๆ ก็ขอให้ อย่าไปยืดมั่นถือมั่น จนเป็นอัตตา ทุกสิ่งคืออนัตตา พลาดคือพลาด ไม่ต้องเอามาใส่ใจ นั่นคือการละทิ้งอย่างแท้จริง วิธีที่ดีที่สุดคือ ทำกับข้าวเองไปเลย แต่ถ้าซื้อเขากิน ก็ต้องทำใจอยู่บ้าง ถ้าพลาดก็ขอให้จำไว้ว่า ปล่อยวางๆ   มีสติ พึงระวัง และปล่อยวาง     ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านดีๆนะครับ แล้วตรองดู ถ้ามีเหตุผลเถียงก็เถียงมาได้เลยครับ แต่ขอ มีสติ และ อย่าใช้อารมณ์ตอบนะ   อยากรู้ไม่ผิดครับ ผมไม่ได้ไปต่อว่า ว่าอยากรู้มันจะฟุ้งซ่าน คำว่าสงสัย กับ ฟุ้งซ่าน คนละความหมายกันครับ   แต่บอกเล่าว่า อะไรที่มันถือๆไว้ ก็วางๆมันลงบ้างเถอะครับ อย่าไปคิดมาก กินเจตามเทศกาล ผมก็อนุโมทนาด้วย จากคุณ : SchwedaKong - [ 21 ก.ย. 51 00:15:46 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เครียดเล็กๆแฮะ กระทู้นี้ ส่วนตัวเราคิดว่าผงชูรสมันทำให้อร่อยมั้งคะ เลยไม่ให้กินเพื่อตัดกิเลส ส่วนที่ว่าทำของปลอมเลียนแบบขึ้นมาก็ไม่ผิดอะไร อย่างน้อยก็คือไม่ได้เบียดเบียนชีวิตสัตว์เหมือนกันค่ะ จากคุณ : ดอกเหมยทนหิมะ - [ 21 ก.ย. 51 01:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เราว่าอาหารเลียนแบบนี่น่าทึ่งดีออก เป็นนวัตกรรมด้านหนึ่งของอาหารที่น่าจับตามองเลยล่ะ เคยกินแหนมเจทอด รสชาติเนียนมาก ( เจจริงๆนะ เพราะแหวกดูแล้ว ) แบบ เออ ทึ่ง.. เก่งกันจริงๆ จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 21 ก.ย. 51 08:56:33 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ชูรสเจก็มีนะ จะเป็นผงคล้ายแป้ง จากคุณ : แพร - [ 21 ก.ย. 51 10:23:27 A:124.120.26.226 X: TicketID:186066 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เท่าที่ผมทราบ (คุณแม่เล่าให้ฟัง) ไม่ยืนยันนะครับ คนที่จะกินหอยนางรมได้ จะต้องเป็นคนที่กินเจตลอดชีวิตเท่านั้น เหมือนเป็นแหล่งโปรตีนนะครับ แต่คนที่กินเจแค่ 10 วัน ในเทศกาล ไม่สามารถกินได้ครับ ส่วนผงชูรส น่าจะเพราะไปกระตุ้นต่อมรับรสขอคนเขารึเปล่า ช่วงถือศีลกินเจ  ถึงให้งดเว้น จากคุณ : ZOFFY - [ 21 ก.ย. 51 10:25:02 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แหล่งโปรตีนดีๆ มาจากเต้าหู้อยู่แล้ว ไม่น่าจะเพราะโปรตีนนะคะ เต้าหู้ร้อย มล ให้โปรตีน 10 g แล้วแคลอรีก็น้อยด้วย แต่ถ้าเป็นเพราะไอโอดีนหรือเหล็ก ก็เป็นไปได้ เพราะคนไม่กินเนื้อสัตว์เลย ธาตุเหล็กจะต่ำ เพราะจะได้จากแค่ผักสีเขียว ถั่วงา อีกอย่างที่อาจจะขาดคือ B 12 ที่มาจากเนื้อสัตว์เหมือนกัน เพราะงั้นคนกินเจนานๆถึงต้องกินอันนี้เป็นวิตามินเสริมบ้าง แต่ถ้ากินแค่สิบวัน ไม่ต้องห่วงว่าจะขาดอะไรค่ะ จากคุณ : yuy - [ 21 ก.ย. 51 21:55:50 A:124.121.24.128 X: TicketID:124751 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบพระคุณทุกความเห็นเลยนะคะ ^-^ จากคุณ : gibgabgoogee - [ 22 ก.ย. 51 11:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เสริมเรื่อง หอยนางรม นะ ตำนานบอกว่า เจ้าแม่กวนอิมไม่กินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต(เจนั้นเอง) ตอนนั้น ไปโปรดสัตว์ที่ แถบชายทะเล หาผักกินยากมาก ชาวบ้านก็หาให้ไม่ได้ เจ้าแม่กวนอิมเลย เอาไม้ปักไปในทะเล แล้ว อธิฐานว่า สิ่งในที่เป็นเจ ที่เจ้าแม่จะรับประทานได้ ให้จงติดไม้ขึ้นมา ก็เลยมี สาหร่าย กับหอยนางรมติดมา--จบ  สนุกไหม แต่ถ้ากินตามเทศกาล ส่วนใหญ่ก็จะไม่กินกัน เพราะมันไม่กี่วันเอง ปล.ถ้าเผลอกินไป ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เราไม่ได้ตั้งใจ พระ-เจ้า เค้ารู้ อิอิ จากคุณ : ออย (ออย-โอ๊ด) - [ 22 ก.ย. 51 15:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอออกความคิดเห็นนิดหน่อยตามที่ฟังคนอื่นมา สำหรับเรื่องกระเทียม หอม ต่างๆ อาจารย์สอนภาษาอังกฤษเราท่านนึงกินเจตลอดชีวิตค่ะ บอกว่า พวกกระเทียมเวลากินกับเนื้อมันเหมือนพิษต้านพิษน่ะค่ะ คุณสมบัติทางยาของมัน แต่พอเรากินพืชอย่างเดียวแล้ว ก็เท่ากับว่าเรากินพิษไปอย่างเดียว มีผลเสียมากกว่า ไม่รู้ว่าผลทางวิทยาศาสตร์จริงๆเป็นอย่างนี้หรือเปล่านะคะ เรื่องของเทียม ยังไงเราก็รู้สึกว่า ยังดีกว่าการฆ่าสัตว์กินน่ะค่ะ ออกตัวว่าไม่ได้ว่าคนกินเนื้อนะคะ เพราะเราก็ยังกินอยู่ แต่เราก็มองในอีกแง่มากกว่าว่ามันเบียดเบียนผู้อื่นน้อยกว่า เพื่อนเราคนนึงก็กินเจตลอดชีวิต เป็นความเชื่อทางไต้หวัน หนึ่งครั้งในแต่ละปี เธอจะได้กินไข่ต้มชา สามวันสามคืน ที่ผ่านการทำพิธีทางความเชื่อแล้วค่ะ เธอว่าเป็นความเชื่อของเธอ ผ่านทำพิธีแล้วกินได้ แต่เราดูๆแล้ว เรารู้สึกว่าเป็นกุศโลบายมากกว่า เพราะคนกินเจต้องการโปรตีนค่ะ แล้วที่ไข่ต้องต้มกับชา ก็เพื่อดับคาว เนื่องจากคนกินเจมาระยะนึงแล้วจะทนกินคาวของเนื้อไม่ได้ค่ะ จากคุณ : oriole - [ 23 ก.ย. 51 13:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตอบกระทู้ เจนั้นเค้าถือเรื่องของการละกิเลสด้วยครับ ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปรุงให้อร่อย ไม่จำเป็นต้องปรุงให้เหมือน ว่าง่ายๆ มีอะไรก็กินๆ เข้าไปให้มีชีวิตรอดก็พอ (โดยไม่ผิดศีล) ส่วนผักที่ให้เว้นๆ ก็คงเพราะเหตุผลตามคุณก้องว่าอ้ะครับ ส่วนเรื่องนมเนยนั้นไม่ทราบว่าทำไมถึงห้าม อาจจะเพราะถือว่าไปแย่งลูกวัวกิน เป็นการเบียดเบียนเหมือนกัน เรื่องไข่ไก่นั้น ท่านว่าไข่เป็นของหวงของแม่ไก่ (สังเกตได้ว่าแม่ไก่จะหวงไข่ และคอยไล่จิกสัตว์ที่มาแย่งไข่) จึงเป็นการเบียดเบียนฉะนี้ กินเจเพื่อละวาง ดังนั้นถ้าร้านไหนทำไม่อร่อย เราก็ควรกินร้านนั้น เพราะถือว่าละกิเลสได้มากกว่า... ซึ่งมีเยอะจริงๆ ร้านที่ว่าเนี่ย ผัดแป้งๆ มันๆ เข้าว่า คนกินเจ เถียงอะไรไม่ได้อยู่แล้วเดี๋ยวผิดศีล เดี๋ยวใจไม่สงบนั่น แต่ผมไม่เอาอ้ะครับ ผมรู้สึกว่าถ้าไม่ได้ทำกินเองนะ ผมอยากหนับหนุนร้านที่ทำอาหารเจด้วยความตั้งใจให้คนกินได้อิ่มอร่อยมากกว่า ส่วนเรื่องทำเหมือนเนื้อสัตว์ ตลกครับเรื่องนี้ แรกๆ ก็คงกล้อมแกล้มว่า อู๊ยย เหมือนจังเลย แต่ใครที่คิดว่ามันจะยั่วกิเลส ขอให้ลองกินแทนเนื้อสัตว์สักปีนึงดูครับ (ของเจมีขายตามห้างฯตลอดปีอยู่แล้ว) ใส่แทนเนื้อสัตว์ไปในทุกอย่างเลยนะ ผมรับรอง ไม่มีความเหมือน ไม่ใกล้เคียง ไม่ได้ทำให้ความอยากเนื้อลดลง ว่าง่ายๆ ไม่เกี่ยวกันเลยนั่นเอง ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของศิลปะมากกว่าครับ ทำสนุกๆ แบบอยากให้งานกินเจมีสีสันทำนองนั้น (หมายเหตุถ้ากินไปปีนึงแล้วยังบอกว่าเหมือนให้กินเจไปทั้งชีวิตเลยครับ โมทนาสาธุการด้วยจริงๆ) ส่วนตัวแล้วเป็นเทศกาลที่คนกินมังสวิรัติอย่างผมชอบมากครับ ได้กินอาหารมังสวิรัติอร่อยๆ ที่มีคนตั้งใจทำให้กิน ถึงจะแพงผมก็คิดว่ามันเป็นงานศิลปะให้เราได้เสพ แต่ก็ไม่ชอบพวกที่ทำอย่างส่งๆ ดังกล่าวแล้วนะครับ จากคุณ : jumjee - [ 24 ก.ย. 51 11:00:45 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านห้องนี้มา 7-8 ปี  มีกระทู้เถียงกันเรื่องหอยนางรมช่วงกินเจทุกปี  :D จากคุณ : ทังโคริริน - [ 25 ก.ย. 51 09:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มองเรื่องที่ทำเนื้อสัตว์เทียมว่าให้เป็นเรื่องของการจูงใจให้คนที่กินเจสามารถกินได้ครบ 9 วัน อย่างที่คุณ jumjee บอกว่าเป็นเรื่องของศิลปะ ที่พูดแบบนี้เพราะที่บ้านขายทุกปีค่ะ พยายามที่จะทำอาหารให้ได้รูปแบบและรสชาติที่หลากหลาย ทำเหมือนอาหารปกติที่ไม่ใช่อาหารเจ เพื่อให้คนกิน สามารถกินได้ตลอดรอดฝั่ง  ไม่เลิกกินไปกลางคัน เดี๋ยวนี้มีลูกชิ้นปลาเจ .. กุ้งเจ .. ปลาหมึกเจ  ที่ทำมาจากบุก มันช่วยให้เราทำอาหารได้หลากหลายเมนู ที่สำคัญ บุกช่วยให้อิ่มท้องด้วย ไม่หิวเร็ว แม้กระทั่งปลาเค็มเจ หรือเป็ดพะโล้เจที่ทำจากฟองเต้าหู้ ก็ทำให้คนที่ไม่ชอบกิน ไม่ชอบกลิ่นของเต้าหู้ได้โปรตีนจากของเทียมพวกนี้ ดีกว่ากินแต่หมี่กึง  หรือโปรตีนเกษตรที่มักจะอมน้ำมัน อยากจะบอกว่า อาหารเจทำไม่ง่าย ขั้นตอนยุ่งยากกว่าทำอาหารปกติหลายเท่า ... เหนื่อยมากด้วย แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะลูกค้าจะหาซื้อกินไม่ได้ ก็จำเป็นต้องทำขาย และต้องทำให้ดีด้วย คิดว่าสร้างกุศลรูปแบบหนึ่ง ยิ่งสามารถทำให้ลูกค้ากินได้จนครบตามกำหนด มันรู้สึกสุขใจค่ะ เห็นด้วยกับคุณกบข้างกะลา กิเลสของคนเรายังหนา  แม้แต่พระก็ยังตัดกิเลสได้ไม่หมดเลย ขอแค่ไม่เบียดเบียนก็พอแล้วค่ะ จากคุณ : เบนซิน - [ 25 ก.ย. 51 18:00:48 ]