ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณครับ
ไหนๆก็ไหนๆ พอดียังไม่ค่อยง่วงเท่าไหร่... ขออธิบายเรื่องร้านกาแฟเพิ่มเติมเลยแล้วกันนะครับ
- ร้านกาแฟแบบ Stand alone หรือ Corner ตามห้างดัง - ร้านแบบนี้ จะมีการลงทุนที่สูงมาก เจ้าของ จะต้องเป็นคนที่รักกาแฟจริงๆ คือมีความสุขกับกาแฟ เพราะตีลังกาคิดยังไง ก็ไม่มีทางที่จะคืนทุนได้เร็วภายใน 1 หรือ 2 ปี ดีไม่ดี อาจจะต้องปิดร้าน เพราะขาดทุนก็เป็นได้ เนื่องจากยังมีคนอีกมาก ที่คิดว่า กาแฟบ้าอะไร แก้วละตั้งหลายสิบ กินแล้วก็เหมือนๆกับกาแฟโบราณอาแปะชง แก้วละ 15 บาท แต่หากพิจารณาในสิ่งที่ได้ คือความสุขในการดื่มกาแฟ คุณสามารถจะใช้เวลานาน 2-3 ชั่วโมง ในร้านกาแฟแบบนี้ได้ นั่งคุยธุรกิจ นั่งคิดงาน ที่อ่านหนังสือ เล่นinternet ง่ายๆคือหมายถึง Third place หรือ ที่ที่สาม ต่อจากบ้าน และที่ทำงาน เพราะกาแฟ ดื่มแล้วจะทำให้เกิดความกระปรี้กระเปร่า ทำให้เกิดความสดชื่น บรรยากาศในร้านกาแฟจึงต้องดูดี สวยงาม นอกจากนั้น ยังต้องมีทำเลที่ตั้งที่ดี มีคนผ่านเยอะอีกด้วย
- ทำไมถึงต้องขายแพง - อย่างที่ผมบอกไปแล้ว สิ่งที่อยู่ในแก้ว มีมูลค่าประมาณ 18-20 บาท แต่ราคาขาย กลับแพงกว่าสิ่งที่อยู่ในแก้ว 2-3 เท่า เพราะว่า ต้นทุนแฝงมันสูงมากครับ เช่นค่าเช่าที่ ถ้าเกรด A- ก็ตกเดือนละประมาณ 30,000 บาท + - นิดหน่อย คิดแล้วก็วันละ 1,000 บาท ถ้าขายได้ 200 แก้ว ต้นทุนจะเกาะติดไปกับแก้ว แก้วละ 5 บาท แพงนะครับ ถ้าที่เกรด A+ เดือนนึง 120,000 ขายได้ 500 แก้ว จะมีต้นทุนเกาะไป แก้วละ 8 บาททันที ผมเคยเจอ เปิดราคามาเดือนละ 170,000 ครับ แต่เกรด A++ เลย ขายไม่ไหวหรอกครับ เหนื่อยตายพอดี เอาแบบพอดีๆ ดีกว่า
เงินลงทุนทำร้าน จะขายกาแฟก็ต้องมีเครื่องชงกาแฟเสียก่อน แต่ละเครื่องก็ไม่ใช่ถูกๆ บางที่ เอาเครื่องธรรมดามาขาย แต่เวลาคนไม่มีความรู้เข้าไป เครื่องนั้นจะเทพขึ้นมาทันที ด้วยวาจาของคนขาย ที่ต้องการขายสินค้านั่นเอง แต่ละเครื่องก็มีระบบแตกต่างกันไป เช่น heat exchange , multi boiler วัสดุก็แตกต่างกันออกไปอีก ทำให้ราคาขายแตกต่างกัน ถ้าเป็นร้าน Stand alone เกรด A ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องชง 2 หัว เครื่องระดับนี้ จะอยู่ที่ 170,000 - 280,000 บาท เครื่องบดกาแฟคุณภาพดี 30,000-40,000 บาท เครื่องปั่นกาแฟคุณภาพดี 30,000-40,000 บาท ตู้เย็นสั่งทำใส่ใต้ counter 50,000 บาท ตู้แช่ cake กระจกไม่มีไอน้ำเกาะ 50,000 บาท เครื่องทำน้ำแข็ง 120,000 บาท เครื่องคิดเงิน POS พร้อมโปรแกรม 50,000 บาท แค่ไม่กี่อย่างนี้ ก็เกินครึ่งล้านเข้าไปแล้ว ยังไม่มีค่าตกแต่ง ไม่มีอุปกรณ์อื่นๆใดเลย ไหนจะค่าโต๊ะ เก้าอี้ ถ้าดีๆหน่อย ร้านมีสวน โต๊ะแบบ out door ได้ ชุดนึงก็ร่วมๆ 2 หมื่น เครื่องเสียงระดับกลางๆ เปิดเพลง Mozart เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย อีก 30,000-40,000 บาท
ต้นทุนเหล่านี้ จะต้องแฝงอยู่ในแก้วกาแฟทั้งสิ้น ง่ายๆ คร่าวๆ ถ้าคิดเป็นตัวเลขกลมๆ ถ้าลงทุน 1,500,000 บาท ขายกาแฟ 100 แก้วต่อวัน(ถือว่าเยอะมากสำหรับร้าน Indy) 1 ปี ขายได้ 36,500 แก้ว ขายแก้วละ 50 บาท รายรับ 1,825,000 บาท ลบด้วย ต้นทุนในแก้ว 730,000 บาท ลบค่าน้ำค่าไฟค่าแอร์เดือนละ 10,000 บาท = 120,000 บาท ค่าพนักงานเฉลี่ยคนละ 7,000 บาท 4 คน (ประจำ 2 + pt 2) แถมโบนัสคนละ 10,000 ตอนปลายปี = 376,000 บาท ค่าเช่าที่ เดือนละ 15,000 บาท = 180,000 บาท รวม 1,406,000 บาท
เหลือเข้ากระเป๋า 419,000 ต่อปี = เดือนละ 34,916 บาท ยังไม่ได้หักภาษี ค่าเสื่อมอุปกรณ์ ค่าซ่อมโน่นซ่อมนี่ เมื่อถึงเวลา ค่าอาหารเจ้าของร้านอีก
สมมติเหลือเก็บเข้าเซฟเดือนละ 15,000 บาท จะใช้เวลา 8 ปี 4 เดือน เพื่อคืนทุน 1,500,000 บาท กรณีนี้คือยอดขายต้องได้วันละ 100 แก้ว ไม่มีตกหล่นนะครับ
แก้วละ 50 บาท ไม่แพงหรอกครับ ซื้อไปเห๊อ....
จากคุณ :
corretto
- [
11 พ.ย. 51 02:31:10
]
|
|
|