ความคิดเห็นที่ 1 เที่ยวไปกินไป @ สะพานควาย 1 : พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน - ช่วงนี้ต้องไปดูแลคุณพ่อที่บ้านสะพานควายทุกวัน มื้อเที่ยงมื้อเย็นจึงออกไปเดินสำรวจหาของกินในย่านนี้ ปรากฏว่าย่านนี้มีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้ออร่อยถึง 6 ร้าน ถ้าเริ่มสำรวจตั้งแต่ย่านอนุสารีย์ชัยสมรภูมิ ก็คงได้ร้านย่านอนุสารีย์ชัยฯและวัดมะกอกและร้านรสเด็ดปากซอยราชครูเพิ่มขึ้นมาอีก กลายเป็นบทความเรื่อง "ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเกาเหลาเนื้อ @ ถนนพหลโยธิน" ต่อจาก "ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเกาเหลาเนื้อ @ ถนนพัฒนาการ" อีกเรื่อง แต่ความที่ย่านสะพานควายรวมถึงถนนประดิพัทธิ์ มีร้านอาหารที่น่าสนใจหลากหลายหลายร้าน  รวมถึงมีที่เที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง ถ้าจะไม่กล่าวถึงเลยก็จะเป็นที่น่าเสียดาย ในเมื่อรักพี่เมียเสียดายน้องเมีย บทความนี้จึงต้องเปลี่ยนเป็น "เที่ยวไปกินไป @ สะพานควาย" และเนื่องจากสำรวจทุกวันๆละ 2 รอบ จำนวนภาพจึงมากกว่าทุกเรื่องที่เคยทำมา คือมีภาพดิบมากกว่า 2,500 ภาพจากกล้องมือถือเพียงอย่างเดียว คัดภาพจนเหลือประมาณ 1,000 ภาพ ใส่กรอบรวมกรอบแล้วเหลือ 354 ภาพ จึงต้องขออภัยท่านที่ไม่ได้ใช้เน็ทความเร็วสูงด้วย บทความนี้จะแบ่งเป็นทั้งหมด 3 ภาคด้วยกันคือ 1 เที่ยวไปกินไป @ สะพานควาย : พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน 2 เที่ยวไปกินไป @ สะพานควาย : อุปรากรจีน (งิ้ว) และ 3 เที่ยวไปกินไป @ สะพานควาย : ถนนประดิพัทธิ์ - ย่านสะพานควายเป็นแหล่งรวมของร้านค้าเฉพาะทางหลายอย่าง เช่นร้านขายหนังสือมือสอง ร้านขายอุปกรณ์การพนัน แหล่งพระเครื่องและร้านจำหน่ายและให้เช่าชุดไทย ซึ่งจะทยอยกล่าวถึงต่อไป - การพาเที่ยวนั้นเวลาจะข้ามไปข้ามมาอย่าได้เอามาเป็นข้อจับผิด อีกทั้งร้านอาหารในย่านนี้อาหารชนิดเดียวกันมีขายกันหลายร้าน การที่ไม่ได้กล่าวถึงร้านอาหารชนิดเดียวกันอีกหลายร้าน เพราะไม่ได้แวะชิมเนื่องจากชิมไม่ไหว ร้านที่ไม่ได้กล่าวถึงไม่ได้หมายความว่าไม่อร่อย  แต่อาจเพียงเพราะไม่ดึงดูดสายตาหรือไม่มีข้อมูลที่ตั้ง จึงไม่ต้องการเห็นการเข้ามาโพสท์เพื่อดิสเครดิตร้านคู่แข่งโดยไม่มีข้อมูลยืนยัน โดยเฉพาะการใช้ถ้อยคำไม่สุภาพอันแสดงถึงวุฒิภาวะทางจิตใจที่ต่ำ ส่วนรสชาติของอาหารนั้นเป็นความชอบของแต่ละบุคคล ปุ่มรับรสที่ลิ้นรวมถึงการประมวลผลของส่วนรับรสในสมองของแต่ละคนไม่เหมือนกัน มาตรฐานแต่ละคนไม่เหมือนกัน คนหนึ่งบอกอร่อยคนหนึ่งบอกไม่ชอบ นานาจิตตัง บางคนตั้งมาตรฐานไว้สูง ในเมื่อยังไม่มีเครื่องมือใดวัดความอร่อยได้ ชิมแล้วไม่ชอบอย่ามาติเตียนกัน บรรดาร้านที่กล่าวถึงอาจไม่ได้เป็นร้านที่อร่อยที่สุด เพียงแต่เป็นข้อมูลทางเลือกสำหรับผู้ที่ผ่านมาย่านนี้เท่านั้น ***คำเตือน : ภาพและบทความทั้งหมดตลอดจนแผนที่ มีลิขสิทธิ์ในตัวทันทีที่นำออกเผยแพร่ ผู้ใดละเมิดโดยมิได้รับความยินยอมจากเจ้าของสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด*** จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:05:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ใกล้คอนโดผมสุดๆ ครับ จากคุณ : Christian Chang - [ 5 ม.ค. 52 22:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พื้นที่บริเวณสะพานควายนั้นเดิมมีชื่อเรียกว่าทุ่งศุภราช  เป็นทุ่งนาปลูกข้าวขนาดใหญ่ของกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของทุ่งพญาไท ระหว่างคลองสามเสนและคลองบางซื่อ โดยมีคลองศุภราชอยู่กึ่งกลาง (ปัจจุบันคลองศุภราชได้แปรสภาพเป็นซอยศุภราช  ซอยเสนาร่วมและอีกหลายซอย) เมื่อถึงฤดูแล้งว่างจากการทำนา บรรดานายฮ้อยจากภาคอิสานจะต้อนควายมาขายให้ชาวนาบริเวณนี้เลือกซื้อไว้ทำนา นอกจากนี้ยังมีพ่อค้าจากโรงเชือดซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนตกมาซื้อไปฆ่า เอาหนังส่งไปฟอกย่านถนนสุนทรโกษาหรือส่งโรงงานทำกาว บริเวณทุ่งว่างชานเมืองข้างคลองบางซื่อ ด้านทิศตะวันออกของถนนพหลโยธิน หน้าแล้งจึงเต็มไปด้วยฝูงควายของนายฮ้อย สมัยนั้นด้านทิศตะวันตกของถนนพหลโยธิน มีการตัดถนนประดิพัทธิ์มาเชื่อมกับถนนพหลโยธิน และเนื่องจากข้างถนนพหลโยธิน มีคูน้ำส่งน้ำจากคลองบางซื่อ ขวางสามแยกถนนประดิพัทธิ์กับถนนพหลโยธิน เพื่อให้ธุรกิจซื้อขายควายของนายฮ้อยกับชาวนา และพ่อค้าโรงฆ่าได้ข้ามไปมากันได้สะดวก จึงมีการทำสะพานให้ควายเดินข้าม โดยใช้ไม้พาดให้ควายข้ามคูส่งน้ำจากถนนพหลโยธินเข้าถนนปฏิพัทธ์ เรียกกันว่า "สะพานควาย" ต่อมามีบ้านเรือนหนาแน่นมากขึ้น เพื่อให้รถยนต์สามารถผ่านจากถนนประดิพัทธิ์มาออกถนนพหลโยธินได้โดยไม่ต้องอ้อม จึงมีการสร้างสะพานไม้แทนไม้พาดคลองส่งน้ำ และภายหลังเปลี่ยนเป็นสะพานคอนกรีต แต่ก็ยังคงเรียกสะพานนี้ว่า "สะพานควาย" จนถึงเดี๋ยวนี้ ไม่มีหลักฐานว่าสะพานนี้ปัจจุบันอยู่ที่ตรงไหน โดยส่วนตัวสันนิษฐานว่าน่าจะอยู่ตรง 4 แยกสะพานควายนี่แหละ เมื่อมีการถมคลองสะพานคงถูกรื้อทิ้งไป นานวันเข้าจึงไม่มีผู้ใดรู้แน่ชัดว่าสะพานนี้อยู่ที่ตรงไหน แต่เป็นความโชคดีที่ในการกลับไปเก็บภาพที่วัดไผ่ตันครั้งที่ 2 ได้พบกับคนดูแลวิหารหลวงพ่อโสธรองค์จำลอง ที่ก๊วนในวัยเด็กเคยชักชวนกันเดินข้ามสะพานนี้เพื่อไปยิงนกตกปลาจนถึงลาดพร้าว คนดูแลวิหารฯเล่าว่าสะพานนี้อยู่ตรง 4 แยกสะพานควาย ด้านต้นถนนสาลีรัฐวิภาคซึ่งเดิมมีคลองขวางอยู่ บริเวณนั้นจนถึงสำนักงานธนาคารออมสินเดิมเป็นโคกพักเลี้ยงควาย ที่รถบรรทุกนำมาส่งตรงเชิงสะพานก่อนขายต่อหรือนำไปฆ่า จึงมีการทำสะพานไม้ให้ควายที่ลงจากรถบรรทุกข้ามไปรวมกันอยู่ที่โคก ต่อมาความเจริญขยายมาถึงที่นี่ ทุ่งนาถูกขายสร้างบ้านเรือน  มีการตัดถนนและถมคลองสะพานจึงถูกรื้อทิ้ง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4 "เที่ยวไปกินไป @ สะพานควาย" จะเริ่มต้นจากฝั่งซ้ายของถนนพหลโยธินหน้าอาคารชินวัตร 2 ใกล้ปากซอยพหลโยธิน 11 มุ่งหน้าไป 4 แยกสะพานควาย ตรงข้ามซอยพหลโยธิน 11 คือสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:11:40 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จากปากซอยพหลโยธิน 11 ขึ้นไปประมาณ 20 เมตรคือร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อร้านดีเด็ด ร้านนี้มีเพียง 4 อย่างคือลูกชิ้น เนื้อสด ตับและเนื้อเปื่อย ร้านนี้ถ้าใครไม่ใช่ลูกค้าประจำ จะไม่ทราบว่าถ้าสั่งเกาเหลาทางร้านไม่มีข้าวเปล่าขาย ร้านนี้ถ้าใครไม่ชอบทานเผ็ดควรเน้นตอนสั่งว่าไม่ใส่พริก ไม่เช่นนั้นทุกชามจะใส่พริกมาให้เหมือนร้านรสเด็ดและร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:14:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เริ่มกันด้วยเกาเหลาทุกอย่าง 45 บาท เนื้อสดไม่เหนียวเนื้อเปื่อยๆได้ที่ ต่อด้วยเส้นหมี่น้ำทุกอย่าง 35 บาท ชามนี้เน้นไม่ใส่พริกทำให้ได้รสชาติของน้ำแกงที่แท้จริง น้ำแกงมีกลิ่นคล้ายกับของร้านรสเด็ดที่สยามแต่รสอ่อนกว่าและออกเค็มเล็กน้อย ร้านดีเด็ดเปิดขายตั้งแต่ 09.00-16.00 น.และหยุดวันอาทิตย์ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:15:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ออกเดินต่อมุ่งหน้าไป 4 แยกสะพานควาย เยื้องกับร้านดีเด็ดคือที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ธนาคารออมสิน จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ประมาณ 50 เมตรก่อนถึง 4 แยกสะพานควาย มีอาคาร 7 ชั้นซึ่งเดิมเคยเป็นโรงแรมแค็ปปิตอล เป็นหนึ่งในโรงแรมที่เคยใช้เป็นที่พักของทหารจีไอในช่วงสงครามเวียดนาม เช่นเดียวกับโรงแรมไมอามี โรงแรมวินเซอร์ โรงแรมเจ้าพระยา ฯลฯ ต่อมาใช้เป็นที่ตั้งของสถานทูตจีนก่อนย้ายไปที่ถนนรัชดาภิเษก ปัจจุบันเป็นอพาร์ทเมนท์ ซอยตันเยื้องกับตึกนี้ก่อนถึงถนนสุทธิสารวินิจฉัย เดิมคือที่ตั้งของโรงหนังนิวยอร์ค 1 ใน  4  โรงหนังย่านสะพานควาย อีก 3 แห่งคือโรงหนังประดิพัทธิ์ (เลิกกิจการเปลี่ยนเป็นร้านอาหารชื่อแพกระแต) โรงหนังพหลโยธินรามาและโรงหนังมงคลรามา จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถึง 4 แยกสะพานควาย มีสะพานลอยข้ามถนนเป็นรูปตัว U คว่ำ เลี้ยวซ้ายคือถนนประดิพัทธิ์ มุมขวาของต้นถนนประดิพัทธิ์คือศรีศุภราชอาเขต เคยเป็นที่ตั้งของห้างเมอรี่คิงส์สะพานควาย ก่อนหน้านั้นคือตลาดศรีศุภราช สะพานลอยบังคับเลี้ยวขวา ถ้าเลี้ยวขวาลงสะพานจะพบกับถนนสุทธิสารวินิจฉัย ถ้าเลี้ยวซ้ายคือถนนสาลีรัฐวิภาค จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:17:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถนนสาลีรัฐวิภาคเป็นถนนตัดใหม่ เนื่องจากเดิมแยกสะพานควายเป็นแค่ 3 แยก ต่อมามีการตัดถนนไปชนกับซอยสุทธิสารวินิจฉัย 1 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรถที่เข้าออกถนนสุทธิสารวินิจฉัยซึ่งคับแคบ โดยให้เลี้ยวขวาเข้าถนนนี้เพื่อเลี้ยวขวาไปเข้าถนนสุทธิสารวินิจฉัย ส่วนรถที่มาจากถนนสุทธิสารวินิจฉัย สามารถออก 4 แยกสะพานควายไปถนนประดิพัทธิ์หรือถนนพหลโยธินได้ที่ 4 แยกนี้ โดยรถเมล์รวมถึงรถอื่นๆที่จะออกถนนพหลโยธินขาเข้ามุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยฯ ต้องไปออกที่ต้นถนนสุทธิสารวินิจฉัย 4 แยกสะพานควายตามแนวถนนพหลโยธิน เดิมมีสะพานลอยข้ามทางแยกแบบโครงสร้างเหล็ก แต่ถูกรื้อทิ้งเพื่อหลีกทางให้กับรถไฟฟ้าบีทีเอส จำไม่ได้ว่าโครงสร้างเหล็กของสะพานเดิมนำไปสร้างใหม่ที่ 4 แยกไหน จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:17:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เลี้ยวซ้ายบนสะพานลอยข้ามถนนอีกครั้งเพื่อมาลงที่ฝั่งซ้ายของถนนพหลโยธิน บริเวณข้างศรีศุราชอาเขตด้านถนนพหลโยธินมีร้านจำหน่ายเสื้อผ้าหลายร้าน จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นรีวิวที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลดี ๆ และร้านอาหารเพียบเลยค่ะ เคยไปงาน 125 ปี ไปรษณีย์ไทย ที่ศูนย์ ฯ สิริกิติ์ ชอบเรื่องราวและความเป็นมาเกี่ยวกับไปรษณีย์ไทยและแสตมป์มากมาย แต่ยังไม่เคยไปพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนในเลยค่ะ ดีใจจังที่จะได้เห็นในรีวิวนี้ ก่อนที่จะตามรอยไปดูของจริง ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : เจ้าฟินตัวอ้วน (Finyah) - [ 5 ม.ค. 52 22:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 วันนี้ไปไปรษณีย์สามเสนใน มา 2 รอบ ส่งจดหมายอากาศลงทะเบียนไปต่างประเทศ จ่ายค่าโทรทางไกลค่างประเทศฯที่ CAT ชั้น 2 แล้วก็ทำเรื่องให้ตัดบัญชีธนาคารค่าโทรทางไกล แบบว่าต้องเอาเอกสารไปให้ธนาคารรับรองเองแล้วก็เอากลับมาคืนที่ CAT หมดแรงเลย แต่ว่ากลับมาตายรังกินอาหารกลางวันสามเสนวิลล่าข้างๆบ้าน แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 52 22:26:12 จากคุณ : สาวปากช่อง - [ 5 ม.ค. 52 22:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ชั้นใต้ดินมีบริการที่จอดรถ ส่วนชั้น 1 ที่ทะลุไปออกซอยประดิพัทธิ์ 25 มีร้านรับตัดเย็บเสื้อผ้าหลายร้าน จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เดินตรงไปจะพบกับร้านชูถิ่น 2 จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:26:36 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ร้านชูถิ่น 2 เป็นร้านขายขนมไทย ของขึ้นชื่อของร้านนี้คือซ่าหริ่ม ร้านชูถิ่น 2 เป็นร้านสาขาของร้านที่บางลำภูหลังกองสลากฯ แวะซื้อซ่าหริ่ม 1 ชุด 50 บาทและขนมชั้น 1 ถาด 25 บาท เส้นซ่าหริ่มเล็กละเอียด แต่น้ำกะทิไม่หอมกลิ่นควันเทียนเท่าร้านพรเจริญที่สะพานหัน ร้านนี้มีแป้งผสมเสร็จหลายชนิดจำหน่าย เช่นแป้งทำซ่าหริ่ม แป้งหอยทอด แป้งชุบกุ้งทอด ฯลฯ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถัดจากร้านชูถิ่น 2 ไป 1 ห้องเป็นร้านเบเกอรี่ร้านใหญ่ชื่อร้านมอร์นโลเฮียง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถัดไปอีก 2 ห้องคือร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านที่ 2 ร้านวัฒนา 3 ร้านนี้ขายมาเกือบ 20 ปี ไม่เกี่ยวข้องกับร้านวัฒนาที่เอกมัย แต่วัฒนาเป็นชื่อคุณพ่อที่เปิดร้านโชวห่วยอยู่ที่ปากเกร็ด พี่น้องแยกย้ายไปเปิดร้านจึงใช้ชื่อคุณพ่อเป็นชื่อร้านตามด้วยตัวเลข จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ก๋วยเตี่ยวเนื้อร้านนี้เป็นแบบน้ำใส เนื้อเปื่อยแล่เป็นแผ่น ไส้และเครื่องในอร่อย ร้านนี้ทานแต่เกาเหลาทุกอย่าง 40 บาท ข้าวเปล่า 5 บาท ร้านวัฒนา 3 เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-17.30 น. จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ร้านขายผ้าและกระดุมรวมถึงอุปกรณ์ตัดเย็บเสื้อผ้า ย่านนี้มี 2 แห่ง อีกแห่งคือซ้ายมือซอยอดีตโรงหนังนิวยอร์ค บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของร้านก๋วยจั๊บน้ำข้นฮ่องเต้ แต่ปัจจุบันย้ายไปอยู่ที่ซอยอารีย์ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:29:07 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ข้าวมันไก่และข้าวขาหมูซีพีหน้าศูนย์การค้าปิยะณรงค์ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 บริเวณทางเท้าหน้าศูนย์การค้าปิยะณรงค์มีแผงรับทำฟันเทียม ย่านที่มีบริการแบบนี้มากที่สุดคือบริเวณระหว่างท่าช้างและท่าพระจันทร์ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:30:27 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ติดกันคือแผงกล้วยปิ้งสู้ชีวิตของเจ๊แจ๊คหน้าร้าน 7-11 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานภาคเหนือ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตรงข้ามศูนย์การค้าปิยะณรงค์คือห้างบิ๊กซีสาขาสะพานควาย ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่เดิมของตลาดศรีสวัสดิ์ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ร้านขายน้ำยาเสริมสวยและแชมพูชื่อร้านเครื่องสำอางค์ดอทคอม จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:31:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เกียรติสินร้านจำหน่ายอุปกรณ์การทำเบเกอรี่เพียงแห่งเดียวของย่านสะพานควาย จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 22:32:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จากร้านเกียรติสินมาประมาณ 10 เมตรคือซอยตันที่สามารถเดินทะลุไปโรงหนังพหลโยธินรามาได้ ปากซอยซ้ายมือเป็นร้านขายข้าวแกง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถัดไปคือร้านเฮง เฮง จิ้มจุ่ม เดินผ่านหลายครั้งท่าทางน่าทานเหมือนกัน ราคาแค่ชุดละ 100 บาทจึงขอลองสักหน่อย นั่งรอติดเตาเตรียมเครื่องประมาณ 10 นาที จิ้มจุ่มเนื้อก็มาวางอยู่ตรงหน้า จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 29 น้ำจิ้มมี 2 แบบคือแบบแจ่วใส่หอมแดงซอย ต้นหอมซอย ผักชีซอย พริกสดหั่น พริกแห้ง งาและมะขามเปียก อีกแบบเป็นแบบพริกตำรสเผ็ดจัด เนื้อ 1 จานมีผ้าขี้ริ้วและตับวัวผสมกัน ผักรวม 1 ถาดมีผักบุ้ง คึ่นฉ่าย กะหล่ำปลี ผักกาดขาว โหระพา วุ้นเส้นและไข่ไก่ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:17:05 ]

ความคิดเห็นที่ 30 น้ำแกงใส่ตะไคร้  ใบมะกรูดและพริกขี้หนูแดง น้ำแกงรสไม่จัด ลงมือทานโดยตอกไข่ไก่ใส่ถ้วยตีให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่คลุกกับเนื้อ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 52 01:10:22 จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ใส่ผักตักเนื้อใส่กระชอนลงไปจุ่มแบบเขย่า 2-3 ครั้งแล้วเอาขึ้นใส่ถ้วย จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:18:11 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เนื้อที่ให้มามีทั้งเนื้อธรรมดาและเนื้อน่องลาย เนื้อหมักกำลังดี ตับนุ่ม ผ้าขี้ริ้วกรอบอร่อย หมดจานแรกต่อด้วยเนื้ออย่างเดียว 60 บาทและข้าวเหนียว 10 บาทอย่างละจาน จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:18:41 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มื้อนี้ 170 บาทอิ่มตื้อ นอกจากจิ้มจุ่มแล้วยังมีส้มตำไก่ย่างและซุปหน่อไม้บางวันมีลาบเป็ด ร้านเฮง เฮง จิ้มจุ่มเปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-21.00 น. จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:19:01 ]

ความคิดเห็นที่ 34 พรุ่งนี้จะมาติดตามชมใหม่นะคะ ง่วงนอนแล้ว จากคุณ : เจ้าฟินตัวอ้วน (Finyah) - [ 5 ม.ค. 52 23:20:04 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ประมาณ 20 เมตรจากร้านเกียรติสินเป็นตึกแถว 2 ห้องขายอาหารหลายอย่าง มีที่น่าสนใจก็คือข้าวต้มปลานายกกที่เริ่มขายช่วงบ่ายจนถึง 23.00 น. จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:20:06 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ข้าวต้มปลาร้านนี้ใช้ปลากะพงแดง รสชาติใช้ได้ ที่สำคัญคือไม่แพงแค่ 35 บาท ปลาสดหั่นหนา ถ้าเป็นรวมมิตรทะเล 50 บาทใส่กุ้งและหมึก นอกจากนี้ยังมีข้าวต้มกระดูกและกระเพาะหมู จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตรงปากซอยแรกเข้าโรงหนังพหลโยธินรามาและเป็นจุดยืนรอรถประจำทาง คือร้านศรีเหลืองโภชนา(เจ๊ใหญ่) ร้านนี้เปิดมา 20 กว่าปี แบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนหน้าร้านที่อยู่ติดถนนใหญ่ เป็นส่วนขายก๋วยเตี๋ยวหมูและข้าวมันไก่ ข้าวมันไก่ขายถึงประมาณ 17.00 น.ส่วนก๋วยเตี๋ยวหมูขายถึง 20.00 น. จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:20:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ข้าวมันไก่ร้านนี้รสชาติใช้ได้ ส่วนก๋วยเตี๋ยวเป็นแบบก๋วยเตี๋ยวเรือชามใหญ่ ก๋วยเตี๋ยวชามละ 30 บาท ถ้าเป็นเกาเหลาชามละ 40 บาท ลูกชิ้นหมูไม่ได้ทำเองแต่ใช้ของนายฮั่งเพ้ง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนที่ 2 ขายก๋วยเตี๋ยวเนื้ออยู่ในซอยข้างร้าน ซึ่งเป็นทางเข้าหนึ่งของโรงหนังพหลโยธินรามา ส่วนนี้ปิด 18.00 น. ไม่แน่ใจว่าลูกชิ้นเนื้อใช้ของใคร ทั้งก๋วยเตี่ยวหมูและเนื้อมีเพียงเนื้อสด ตับและเนื้อเปื่อย มีทั้งแบบธรรมดาและน้ำตก ข้าวเปล่าชามละ 5 บาท ทั้ง 2 ส่วนสามารถสั่งข้ามไปมาได้ ร้านนี้วันเสาร์และอาทิตย์ปิด 17.00 น. จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:22:35 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตรงปากซอยเข้าโรงหนังพหลโยธินรามาซอยที่ 2 ซึ่งเป็นทางเข้าหลักคือที่ตั้งของร้านสุวรรณภูมิ จำหน่ายอาหารและสินค้าเพื่อสุขภาพ จากโครงการสวนจิตรดาและดอยคำรวมถึงสินค้าโอทอป จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 41 โรงหนังพหลโยธินรามาหรือพหลเธียร์เตอร์ ค่าตั๋วคนละ 50 บาทฉายวันละ 5 เรื่อง เปลี่ยนหนังทุกวันอังคารและวันศุกร์ วันธรรมดาเริ่มฉาย 11.40 น.ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์เริ่มฉาย 10.20 น. ฉายหนังโดยใช้ระบบโปรเจคเตอร์ และเป็นหนังประเภทนักแสดงยากจนไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้า  แนวเดียวกับหนังที่โรงหนังปรินซ์ที่บางรัก จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:23:30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 บริเวณทางเท้าตั้งแต่หน้าศูนย์การค้าปิยะณรงค์จนถึงหน้าทางเข้าโรงหนังพหลโยธินรามา ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงกลางคืนจะมีแผงลอยจำหน่ายของกินหลายแผง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:23:58 ]

ความคิดเห็นที่ 43 10 เมตรจากทางเข้าโรงหนังพหลโยธินรามาคือร้านขายส่งหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อร้านเจ.ซี.สาส์น ร้านนี้ขายแต่หนังสือใหม่ ร้านรับซื้อและขายหนังสือมือสอง ตลอดจนให้คำปรึกษาในการเปิดร้านให้เช่าหนังสือการ์ตูนในย่านนี้ มีทั้งหมดประมาณ 6 ร้าน ร้านแรกอยู่เลยศูนย์การค้าปิยะณรงค์มาเล็กน้อยใกล้กับร้านเกียรติสิน ราคารับซื้อสำหรับหนังสือการ์ตูนคือ 30% ของราคาหน้าปก(ลด 70%) และ 25% (ลด 75%) สำหรับพ็อคเก็ตบุ้ค  ส่วนราคาขายคือลด 50% จากราคาหน้าปก งงหรือเปล่าครับ? หนังสือราคา 100 บาท ถ้าคุณเอาไปขายๆได้ 25-30 บาท แต่ถ้าไปซื้อต้องจ่าย 50 บาท ร้านได้กำไร 20-25% นอกจากนี้ยังได้กำไรจากการขายชั้นวางหนังสือ และโปรแกรมการให้เช่าหนังสืออีกด้วย จากร้านเจ.ซี.สาส์นเป็นต้นไปจนถึงหน้าวัดไผ่ตันจะมีอีก 4 ร้าน เลยจากนั้นไปคือร้านในตลาดนัดสวนจตุจักร จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 44 20 เมตรจากร้านเจ.ซี.สาส์นคือทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสะพานควาย จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:24:49 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ข้างทางขึ้นคือร้านขายอาหารปักษ์ใต้และกลาง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ช่วงสั้นๆประมาณ 20 เมตรต่อจากร้านขายอาหารปักษ์ใต้และกลาง คือร้านจำหน่ายอุปกรณ์เล่นการพนัน 3 ร้าน คุณสามารถหาซื้อสำรับไผ่ ชุดน้ำเต้าปูปลาและอุปกรณ์การทอดหรือเขย่าลูกเต๋า คุณสามารถหาซื้อชุดลูกเต๋าแบบปรอท แบบเหวี่ยง แบบตอง 3 แบบรีโมท แบบรู้สี แบบสะกิดลอยและอีกหลายแบบ อาศัยการฝึกฝนจนชำนาญ ก็สามารทำให้ลูกเต๋าออกหน้าที่เราต้องการเมื่อทอดหรือเขย่าเปิดฝาครอบ ระหว่างร้านทั้ง 3 มีร้านรับซื้อและขายหนังสือมือสอง 1 ร้าน จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:25:42 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ร้านเจ.ซี.สาส์นยังเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดนัดพระเครื่องที่มีเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตลาดนี้สิ้นสุดที่แยกถนนกำแพงเพชร เป็นอีกหนึ่งตลาดพระเครื่องแบบโอเพิ่นแอร์ นอกเหนือจากข้างวัดมหาธาตุและท่าพระจันทร์ และตลาดนัดพระที่วัดราชนัดดา การมาเที่ยวตลาดนัดสวนจตุจักรในวันเสาร์-อาทิตย์ ถ้ามีเวลาจึงควรเริ่มการเที่ยวจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสะพานควายเป็นต้นไป นอกจากเดินดูตลาดนัดพระเครื่องแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีก 2 แห่งระหว่างทาง ตลาดนัดพระเครื่องส่วนใหญ่เป็นแผงติดดิน ยกเว้นแผงนี้หน้าร้านขายอาหารปักษ์ใต้และกลาง ที่อาศัยวางข้างทางขึ้นของสถานีรถไฟฟ้าฯ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 48 และแผงนี้ที่เล่นวางบนเสาตอม่อของรถไฟฟ้าฯ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:26:36 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แผงพระเครื่องจะมีมากในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ วันธรรมดามีบ้างเหมือนกันแต่น้อยมาก จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:27:01 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อุปกรณ์สำคัญสำหรับนักเลงพระก็คือกล้องดูพระหรือกล้องส่องพระ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ราคาค่าเช่าพระขึ้นอยู่กับความพอใจ จริงเก๊ขึ้นอยู่กับความรู้ความชำนาญในการดูของผู้ซื้อ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ปลัดขิกก็มีจำหน่ายหลายขนาด จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:28:19 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ที่ทำการไปรษณีย์สามเสนใน สำนักงานไปรษณีย์นครหลวงเหนือและพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน เราจะแวะเที่ยวที่นี่ตอนขากลับ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ติดกันคือปั๊มน้ำมันเก่า มีร้านรับซื้อและขายหนังสือมือสองตั้งอยู่ภายในปั๊ม จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สารพัดเครื่องราง มีทั้งกะลามะพร้าว(ไม่แน่ใจว่าใช่กะลาตาเดียวหรือเปล่า) ปลัดขิก ตะกรุดลูกปืน ลูกประคำ คฑาและมีดหมอ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 56 นักเลงพระมีกล้องส่องพระ แต่แบบนี้เรียกว่าพระส่องกล้องหรือพระดูพระ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:30:50 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เจ้าของร้านเสริมสวยยืนทอดกล้วยแขกขายที่หน้าร้าน ร้านขายกล้วยแขกในย่านสะพานควายมีหลายร้าน สำหรับคนที่ชอบทานกล้วยแขก จะพาไปร้านกล้วยแขกนายเบิร์ดกันทีหลัง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:31:15 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ปากซอยพหลโยธิน 15 ทางเข้าวัดไผ่ตัน เราจะแวะไหว้พระและชมความงามของฝาผนังประดับมุกกันตอนขากลับ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 59 แผงตั้งพื้นจะมีเก้าอี้ทั้งไม้และพลาสติกให้นั่งดูพระ ส่วนแผงแบบตั้งโต๊ะส่วนใหญ่ม่ไมีเก้าอี้ให้นั่ง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 60 มุมมองจากสะพานลอยข้ามถนน บริเวณนี้มีร้านรับซื้อและขายหนังสือมือสองอีก 2 ร้าน จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 61 พระผงหลากหลายพิมพ์ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:33:06 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เข้าใกล้สะพานข้ามคลองบางซื่อจะเริ่มมีร้านขายของเก่าเข้ามาแทรก จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:33:34 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ซ้ายมือก่อนขึ้นสะพานเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร 2 ร้าน ร้านแรกคือร้านอาหารกวางตุ้งหยิ่วกี่ ร้านที่ 2 คือร้านสนั่นข้าวต้มปลาและอาหารทะเล ซึ่งมีร้านสนั่นเบเกอรี่เป็นส่วนหนึ่งของร้าน จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สะพานข้ามคลองบางซื่อ แม้แต่บนสะพานก็ยังมีการตั้งแผง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อข้ามสะพานมาจะมีแผงขายของเก่ามากกว่าแผงเช่าพระ ที่น่าสนใจคือแผงขายธนบัตรเก่าของพ่อค้ามาดเท่ ฉบับใบละ 1 บาทขายในราคา 75 บาท จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:34:53 ]

ความคิดเห็นที่ 66 คิดถึง กล้วยทอด ใกล้ป้ายรถเมล์ ตรงข้าม ร้านการ์ตูน เจซี สาสน์ (ถ้าจำไม่ผิด ) จังเลยคะ  เพราะตั้งแต่เรียนจบ ก็ไม่ค่อยได้ผ่านไปแถวนั้นเลย ตามคุณ laser ไปรำลึกความหลังด้วยคน นะคะ จากคุณ : kittypatty - [ 5 ม.ค. 52 23:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ลงสะพานมาซ้ายมือมีซอยเข้าที่จอดรถและด้านหลังของตลาด อตก. มีร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยงและอาหารสัตว์ก่อนถึงตลาด อตก. ร้านดังคือร้านมนูญกิจ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:35:22 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ลงจากสะพานถ้าตรงไปอีกประมาณ 50 เมตร เลี้ยวซ้ายคือถนนกำแพงเพชร ข้ามถนนไปคือตลาดนัดสวนจตุจักร เราจะไม่ข้ามไปเที่ยวตลาดนัดสวนจตุจักรในครั้งนี้  ไว้เที่ยวกันใน "เที่ยวไปกินไป @ ตลาดนัดสวนจตุจักร" จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:35:50 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เดินย้อนกลับทางเดิม ข้ามสะพานข้ามคลองบางซื่อมาที่ร้านหยิ่วกี่ก่อน เพราะร้านสนั่นข้าวต้มปลาจะเปิดขายรอบเย็นเวลา 17.00 น. ขวามือของร้านคือส่วนขายซาละเปาขนมจีบ เป็ดย่าง หมูกรอบและหมูแดง ส่วนด้านซ้ายเป็นส่วนขายบะหมี่เกี๊ยวและหมูสะเตีะ ร้านหยิ่วกี่ขายอาหารสไตล์กวางตุ้ง ร้านนี้เปิดมา 56 ปี เปิดขายทุกวันตั้งแต่ 06.30-19.00 น. จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:36:18 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องเป็ดย่าง เริ่มกันด้วยข้าวหมูกรอบกับเป็ดย่าง 35 บาท เป็ดย่างเป็นรองย่านบางรัก จานต่อมาคือบะหมี่ราดหน้าเนื้อ 50 บาท บะหมี่เอาไปคั่วให้เกรียมก่อน เนื้อหมักได้นุ่มผัดกับผักกวางตุ้ง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ใกล้บ้านเรามากเลย แต่ไม่รู้ร้านไหนอร่อย ขอบคุณสำหรับความตั้งใจค่ะ จากคุณ : Nant_GO - [ 5 ม.ค. 52 23:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ต่อด้วยเกี๊ยวกุ้งน้ำ 50 บาท เกี๊ยวกุ้งแบบกวางตุ้งต้องเป็นตัวแบนยาว กุ้งสับกับหมูสับไม่เป็นตัว สิ่งเดียวที่แปลกไปคือใส่ผักกาดหอม เกี๊ยวกุ้งแบบกวางตุ้งแท้ๆจะใส่กุยฉ่ายขาวหรือต้นหอมหั่น จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 73 3 อย่างกับน้ำ 1 ชุด หันไปเห็นซาละเปาเพิ่งนึ่งออกมาใหม่ๆ มีหลายไส้แต่ซื้อเฉพาะไส้หมูสับไข่เค็มลูกใหญ่ 2 ลูกๆละ 15 บาท เอาไว้เปรียบเทียบกับอีก 2 ร้านย่านถนนประดิพัทธิ์ เปลือกซาละเปานุ่มออกหวานเล็กน้อย ไส้เป็นหมูสับกับผักชี ใส่กุนเชียงและไข่แดงเค็มครึ่งลูก จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:37:42 ]

ความคิดเห็นที่ 74 17.00 น.ตรง ร้านสนั่นข้าวต้มปลาและอาหารทะเลเปิดแล้ว ร้านนี้เปิดขาย 2 รอบ รอบเช้า 11.00-14.00 น.และรอบเย็น 17.00-22.00 น. จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:38:09 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ทางเข้าร้านอยู่ทางด้านติดคลองบางซื่อ จะเลือกรับลมเลี้ยงยุงริมคลอง หรือจะนั่งห้องแอร์ในร้านก็ได้ ข้างในร้านสามารถเดินทะลุไปฝั่งร้านเบเกอรี่ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 76 รายการอาหาร จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เราจะเน้นกันที่ข้าวต้มปลาอย่างเดียว เริ่มด้วยข้าวต้มรวมมิตรทะเล 70 บาท ของสดแต่ข้าวแข็งไปนิดและหนักพริกไทยเกินไปหน่อย ต่อด้วยข้ามต้มหนังปลาไม่ใส่พริกไทย 60 บาท เป็นหนังปลากะพง ผิดหวังเล็กน้อยที่มีหนังติดเนื้อแค่ชิ้นเดียวและหนังปลาบางชิ้นมีกลิ่นคาว แต่ที่อร่อยของทั้ง 2 ชามก็คือบะเต็งที่หอมอร่อย ไว้กลับมาลองข้าวต้มปลาเต๋าเต้ยชามละ 250-300 บาทวันหลัง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 78 พอฟ้าเริ่มมืด มีการเปิดไฟด้านนอกได้บรรยากาศไปอีกแบบ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:40:26 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เดินกลับมาที่ซอยพหลโยธิน 15 เลี้ยวขวาเข้าซอย ถนนส่วนที่รถวิ่งได้ยาวประมาณ 100 เมตร 2 ข้างทางมีร้านขายอาหารหลายร้าน ขวามือของซอยคือคริสตจักรเมืองไทย สุดถนนคือวัดไผ่ตัน ขวามือของทางเข้าวัดไผ่ตันคือศูนย์บริการสาธารณสุข 51 วัดไผ่ตัน สำนักอนามัย กทม. จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ซ้ายมือของทางเข้าวัดไผ่ตันคือส่วนของเมรุและศาลาจัดงานศพ ตรงข้ามกับศูนย์บริการสาธารณสุขคือวิหารหลวงพ่อโสธรองค์จำลอง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ภายในวิหารตรงกลางประดิษฐานหลวงพ่อโสธรองค์จำลอง ด้านซ้ายคือรูปหล่อของพระครูสุนทรสิทธิวัตร ส่วนด้านขวาคือรูปหล่อของพระอาจารย์ปลง จนฺทโชติ อดีตรองเจ้าอาวาสที่มรณะภาพเมื่อปี พศ.2501 ในการไปเก็บภาพเพิ่มเติมครั้งที่ 2 ได้พูดคุยกับคนดูแลวิหาร ซึ่งนอกจากจะได้ทราบว่าสะพานควายตั้งอยู่ที่ตรงไหนแล้ว ยังได้สอบถามถึงเรื่องราวต่างๆของวัด วัดนี้เป็นวัดราษฎ์มีอายุกว่า 50 ปี เดิมสร้างด้วยไม้ เมื่อความเจริญขยายมายังแถบนี้ ชาวบ้านขายที่นาได้จึงนำเงินมาปฏิสังขรณ์จนมีสภาพเช่นในปัจจุบัน พระอาจารย์ปลงหรือหลวงปู่ปั่นเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในสมัยก่อน เหรียญกอไผ่เป็นเหรียญที่หายากเป็นที่ต้องการของนักสะสม ท่านสนิทกับเจ้าอาวาสวัดโสธรฯในสมัยนั้น จึงได้ขออนุญาตสร้างหลวงพ่อโสธรองค์จำลองเพื่อประดิษฐานไว้ที่วิหารแห่งนี้ เพื่อให้ชาวบ้านในแถบนี้ได้กราบไหว้บูชา เนื่องจากการเดินไปวัดโสธรฯในสมัยก่อนนั้นลำบากมาก จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:41:47 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ฝาผนังภายในวิหารเป็นลวดลายประดับมุขเล่าเรื่องพุทธประวัติ และการเสด็จโปรดเวไนยสัตว์ของพระพุทธเจ้าตามสถานที่ต่างๆ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:42:18 ]

ความคิดเห็นที่ 83 กระบอกเซียมซีหลายสี จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ติดกับวิหารหลวงพ่อโสธรองค์จำลองคือศาลาเอนกประสงค์ ตามด้วยโบสถ์ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:43:15 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เลี้ยวซ้ายข้างโบสถ์คือโรงเรียนวัดไผ่ตัน เช่นเดียวกับโรงเรียนทั่วไป ที่ช่วงเลิกเรียนจะมีพ่อค้าแม่ค้านำของกินและของเล่นมาขายให้กับเด็กนักเรียน จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 86 โรงเรียนวัดใผ่ตันอยู่ติดกับคลองบางซื่อ ด้านหลังโรงเรียนซึ่งเป็นส่วนของกุฏิพระมีทางเดินเลียบคลองบางซื่อ เป็นที่ตั้งของบ้านเรือนประชาชน อีกฝั่งของคลองบางซื่อคือด้านหลังของตลาด อตก. มองเห็นต้นมะรุมกำลังออกดอกสีขาวเป็นพวงสวยงาม มีเรือแจวข้ามฝากไปมาโดยคิดค่าบริการคนละ 2 บาท จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 87 คุณลุงกำลังสอยฝักมะรุมที่แก่แล้วเพื่อเอาไปใส่แกงส้มโดยมีคุณหลานเป็นผู้ช่วย จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ลงเรือข้ามไปตลาด อตก.กันหน่อย ฉายตัวอย่างให้ดูกันพอหอมปากหอมคอ ก่อนไปดูของจริงกันที่ "เที่ยวไปกินไป @ ตลาด อตก." เริ่มจากร้านขนมไทยเก้าพี่น้อง ร้านโครงการหลวง แดงแหนมเนือง สุดใจไกย่าง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:45:12 ]

ความคิดเห็นที่ 89 แผงสารพัดของกินทั้งคาวหวาน แวะซื้อปลาทูต้มเค็มให้คุณพ่อ 1 ตัว 40 บาทที่ร้านแกงยาใจ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:45:46 ]

ความคิดเห็นที่ 90 แผงขายผลไม้ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:46:13 ]

ความคิดเห็นที่ 91 แผงขายของทะเลแห้งและสด ปลาใบขนุนขนาดประมาณ 12 นิ้วกิโลฯละ 350 บาท ตัวหนึ่งประมาณ 4 ขีด หอยเป๋าฮื้อ(ตามที่แม่ค้าเรียก)กิโลฯละ 380 บาท ลวกกินกับน้ำจิ้ม เคยทานแต่เป็นแบบกระป๋องรสชาติคล้ายหอยเป๋าฮื้อ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 92 กั๊งตั๊กแตนตัวใหญ่กิโลฯละ 400-450 บาท ส่วนแบบแกะเปลือกสำหรับนำไปแช่น้ำปลาขีดละ 50 บาท ซื้อ 2 ตัวน้ำหนัก 2 ขีด 100 บาท ไม่ได้จะเอาไปดองน้ำปลาหรือทอดกระเทียมพริกไทย แต่จะเอาไปผัดกับคึ่นฉ่าย ต้นหอมและพริกชี้ฟ้าแดง จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 93 แผงขายผักและแผงขายเนื้อวัว จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เดิมตั้งใจจะอยู่รอถ่ายพระอาทิตย์ตก แต่มีเมฆบังจึงลงเรือข้ามมาวัดไผ่ตัน จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เดินตามพระมาออกที่ปากซอยพหลโยธิน 15 จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:48:36 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เลี้ยวขวาที่ปากซอยพหลโยธิน 15 ข้างที่ทำการไปรษณีย์สามเสนใน มีทางเข้าสำนักงานไปรษณีย์นครหลวงเหนือและพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เราจะเลี้ยวซ้ายที่หลังอาคารที่ทำการไปรษณีย์สามเสนใน เพื่อไปยังอาคารพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนในกันก่อน ที่ซ้ายขวาของทางเข้าอาคาร มีตู้ไปรษณีย์แบบเก่าที่สมัยก่อนเรียกว่าตู้ทิ้งหนังสือตั้งอยู่ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:49:46 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ชั้นล่างด้านขวามือ มีห้องปรับอากาศเปิดเป็นตลาดนัดคนรักตราไปรษณียากร เปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:50:14 ]

ความคิดเห็นที่ 99 มีขายทั้งตราไปรษณียากร ซองวันแรกจำหน่าย ของที่ระลึกและหนังสือเกี่ยวกับตราไปรษณียากร จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ด้านซ้ายของทางเข้าคือทางขึ้นพิพิธภัณฑ์ฯซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 2 หน้าบันไดทางขึ้นชั้น 2 มีตู้ไปรษณีย์ขนาดใหญสูงประมาณ 3 เมตรตั้งอยู่ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ขวามือของชั้น 2 คือที่ตั้งของสมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทย จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ซ้ายมือคือที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน เปิดให้เข้าชมวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 08.30-16.30 น. หยุดวันจันทร์ วันอังคารและวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีการจัดนิทรรศการทั้งแบบถาวรและแบบหมุนเวียน จึงสามารถมาชมได้บ่อยครั้ง ซ้ายมือของทางเข้ามีตู้ไปรษณีย์รุ่นแรกที่ได้รับมอบจากประเทศเยอรมันนี  ในโอกาสเปิดบริการไปรษณีย์ขึ้นเป็นครั้งแรกในสยามเมื่อปี พศ. 2426 จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:51:52 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบกับชุดบุรุษไปรณีย์รุ่นเก่า ภาพตราไปรณีย์ดวงแรกของสยามราคา 1 โสฬศ พิมพ์ขึ้นเมื่อปี พศ. 2426 จำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พศ. 2426 ออกแบบโดยนายวิลเลียม ลิดจ์เวย์ และกรอบตราไปรษณียากรราคา 9 บาทให้ยืนถ่ายภาพเป็นที่ระลึก จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ด้านหลังเป็นบอร์ดประวัติการถือกำเนิดของการไปรษณีย์ของประเทศไทย จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:52:42 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ตราไปรษณียากรแบบภาพต่อเนื่องชุดทะเลไทย จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ตู้เก็บตัวอย่างตราไปรษณียากรของไทยตั้งแต่ปี พศ. 2426 จนถึงปัจจุบัน มีดรรชนีช่วยเพิ่มความสะดวกในการค้นหา ตู้แบบนี้มีหลายตู้ มีทั้งตู้เก็บตราไปรษณียากร ซองวันแรกจำหน่ายรวมถึงตราไปรษณียากรของต่างประเทศที่น่าสนใจ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ขวามือของทางเข้าเป็นส่วนจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ห้องสมุดและที่ทำการของของพิพิธภัณฑ์ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 108 นอกจากตราไปรษณียากรและของที่ระลึกแล้ว ยังมีบริการประทับตราที่ระลึกอีกด้วย จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 109 เราจะเริ่มชมพิพิธภัณฑ์ฯจากทางด้านซ้ายมือ ชุดบรุษไปรษณีย์อีกแบบ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:55:24 ]

ความคิดเห็นที่ 110 นิทรรศการตราไปรษณียากรภาพฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดพิมพ์ เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสจัดงาน 125 ปีไปรษณีย์ไทย จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ไปรษณียบัตรชุดพิเศษที่มีลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพฯ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ส่วนจัดแสดงอุปกรณ์ที่ใช้ในสำนักงานไปรษณีย์ยุคต่างๆ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 113 เครื่องชั่งไปรษณียภัณฑ์ขนาดเล็กหลายชนิด จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เครื่องชั่งไปรษณียภัณฑ์แบบ 2 แขนชนิดตุ้มน้ำหนัก เครื่องประทับตราประจำวันและตู้ทิ้งหนังสือ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 115 เครื่องชั่งไปรษณียภัณฑ์ขนาดใหญ่ไม่เกิน 22 กิโลกรัม และเครื่องปรุฟันตราไปรษณียากรแบบโบราณ จากคุณ : laser - [ 5 ม.ค. 52 23:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เลี้ยวขวาที่มุมนี้จะพบกับ ชุดที่ระลึกการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 5 ที่กรุงเทพฯปี พศ. 2509 จากคุณ : laser - [ 6 ม.ค. 52 00:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 117 เลี้ยวขวาอีกครั้งเพื่อชมนิทรรศการส่วนที่เหลือ จากคุณ : laser - [ 6 ม.ค. 52 00:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ตราไปรษณียากรชุด 9 รัชกาล และตู้จัดแสดงรางวัลที่ได้จากการประกวดตราไปรษณียากรนานาชาติ จากคุณ : laser - [ 6 ม.ค. 52 00:01:25 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ตราไปรษณียากรที่ระลึกมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษาครบ 6 รอบ (ชุดที่ 2) จัดพิมพ์ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 10 กันยายน พศ.2542 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และเผยแพร่พระเกียรติคุณ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาศพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษาครบ 6 รอบ จากคุณ : laser - [ 6 ม.ค. 52 00:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ออกจากพิพิธภัณ์ฑ์ฯเดินไปที่อาคารสำนักงานไปรษณีย์นครหลวงเหนือ ที่หน้าอาคารมีการจัดแสดงตู้ไปรษณีย์รุ่นเก่า จากคุณ : laser - [ 6 ม.ค. 52 00:02:25 ]

ความคิดเห็นที่ 121 มีทั้งหมดด้วยกัน 4 แบบ จากคุณ : laser - [ 6 ม.ค. 52 00:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ซ้ายมือคือตู้ไปรษณีย์ตามที่ทำการไปรษณีย์ที่มีปริมาณงานมาก ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เริ่มใช้ตั้งแต่ปี พศ. 2469 ขวามือคือตู้ไปรษณีย์ตามที่ทำการไปรษณีย์เล็กๆในต่างจังหวัดที่มีปริมาณงานน้อย เริ่มใช้ตั้งแต่ปี พศ.2492 จากคุณ : laser - [ 6 ม.ค. 52 00:03:47 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ตู้ขวามือทางเข้าอาคารฯคือตู้ไปรษณีย์ที่สั่งมาจากต่างประเทศ สันนิษฐานว่ามีใช้ในปี พศ.2454 โดยรุ่นแรกสั่งจากประเทศอังกฤษ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 สั่งมาจากสิงคโปร์(สมัยนั้นยังไม่เป็นประเทศ) จากคุณ : laser - [ 6 ม.ค. 52 00:04:47 ]