ความคิดเห็นที่ 1 ตอนเราเปิดก็ไม่ได้ทำ ที่ไปทำนั่นหมายถึงเขาให้เราเสียภาษีมั้ง เราเปิดมาปีครึ่ง ก้ไม่เห็นมีไร แต่ถ้ามีขายเบียร์ต้องทำใบอณุญาต รอท่านอื่นให้ความกระจ่างอีกทีนะ จากคุณ : aitai - [ 21 ม.ค. 52 23:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แรก ๆอาจจะยัง จนกว่าเจ้าหน้าที่จะมาเตือนหรือตรวจสอบค่ะ จากคุณ : ดีดี (pikba) - [ 21 ม.ค. 52 23:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ร้านตรงข้ามหน้าบ้านผมเปิดตามสั่ง ขายอยู่ราวสามสี่เดือนมั้ง วันนั้นมีคนจากสรรพากรมาสุ่มตรวจ แล้วเข้าไปคุยกับเจ้าของร้าน(เป็น นศ.ที่แม่ออกทุนเปิดร้านให้ ไม่ได้ทำอาหารเอง แต่จ้างแม่ครัวมาทำ) เห็นนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดไปพักหนึ่ง อีกไม่กี่อาทิตย์ก็ปิดร้านไป วันที่สรรพากรมา ผมจำหน้าได้ เพราะแกมาเก็บภาษีที่ร้านผมด้วย แบบที่เขาทำกันทั่วๆ ไป ถ้าไม่มาตรวจ ก็ไม่เห็นไปแจ้งกัน เว้นแต่จะโดนร้องเรียน หรือขายดีเตะตามาก จนไปเข้าตาพวกสายตรวจภาษีครับ แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 52 02:41:40 จากคุณ : จาน ชาม ช้อน ส้อม - [ 22 ม.ค. 52 02:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเอาตาม กม.เลย ที่โดนก็คือ ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีการค้า ใบอนุญาตให้ใช้เป้นสถานที่จำหน่ายอาหาร (บ้านผมเรียกว่าใบอนามัย เพราะออกให้โดยอนามัยเขต) ใบอนุญาตให้จำหน่ายสุรา(ถ้าคิดจะขาย ก็ควรมี) ถ้ามีลูกจ้าง ต้องเข้าระบบประกันสังคมด้วย รายจ่ายยุ่บยั่บเลยครับ ยังไงก็ลองไปพิจารณาดู ผมเองก็ยังคิดจะเปิดร้านใหม่เหมือนกัน(รอทุนอยู่ ฮ่าๆ) อยากมีร้านของตัวเองบ้าง แต่เศรษฐกิจแบบนี้ จะไปรอดไหมหว่า? จากคุณ : จาน ชาม ช้อน ส้อม - [ 22 ม.ค. 52 02:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเข้าระบบภาษี วันร้ายคืนร้าย จะมีคนจากสรรพกรมานั่งตรวจนับจานหรือแก้วที่ร้านคุณขายอยู่ แล้วเขาจะเอาข้อมูลเหล่านี้ไปคิดเป็นฐานภาษี บางทีแย่ยิ่งกว่านั้น เขาจะมานั่งข้างลิ้นชักเก็บเงินของคุณ แล้วก็นั่งดูเลยว่าคุณขายแล้วเก็บเงินได้เท่าไหร่ ซึ่งเมื่อเจอวันอย่างนี้ วันนั้นผมจะภาวนาไว้ว่าอย่าให้ร้านขายดีเลย เพราะถ้าดีมากไป ผมจะโดนภาษีหนักไปตลอดปี แม้ว่าจะขายไม่ดีในช่วงหลังๆ ก็ตาม ถ้ามีคนมาตรวจจริงๆ แนะนำว่าควรต้อนรับขับสู้และเลี้ยงดูปูเสื่อแขกแบบฟรีๆ ไม่มีเงื่อนไขครับ เหล้ายาปลาปิ้งมีอะไรก็ถวายไปเลย อย่าให้เขาหมั่นไส้ บางทีคุยกันดีๆ ก็สามารถต่อรองกันได้ ในระดับหนึ่งครับ จากคุณ : จาน ชาม ช้อน ส้อม - [ 22 ม.ค. 52 02:57:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้ามีร้านเป็นตัวเป็นตนไม่ใช่แผงขายแนะนำว่าควรจดค่ะ ถ้าคุณไม่สะดวกไปจดทะเบียนเองมีบริษัทบางแห่งเขาบริการจดทะเบียนให้คุณเพียงแค่ เตรียมเอกสารของคุณให้ครบถ้วน แต่ยังไงถ้ามีเวลาเราว่าทำเองจะได้ทราบขั้นตอนค่ะ ที่เจอแน่ๆก่อนสรรพกรเลยคือภาษีโรงเรือน ภาษีป้าย หลายเดือนก่อนไปเฉ่งเทศบาลเรื่องภาษีโรงเรือนไปเซ็งเหมือนกันคือพี่แกทำ หลักฐานหายสองรอบแล้วแถมโมเมว่าร้านเราไม่ได้ไปจ่ายภาษีเมื่อปีที่แล้ว เราก็แจ้งกลับไปว่าร้านเพิ่งเปิดได้ครึ่งปียังไม่ถึงกำหนดชำระ ต้องเอาหลักฐานไปเคลียเสียเวลามากมายอยากให้หน่วยงานรัฐปรับปรุงระบบ จริงๆทั้งที่เรายินดีทำตามกฎหมายทุกอย่างแท้ๆ เรื่องป้ายนี่ถ้าอยู่ในกรุงเทพคงไม่มีอะไรเท่าไหร่ แต่ถ่ายรูปแบบแสดงวันที่เก็บไว้ก็ดีนะคะก็เสียตามขนาดป้ายและภาษาบนป้าย อันนี้ก็มีเรื่องฮาๆของตจวของร้านญาติว่าเทศบาลเก็บแต่ละปีไม่เท่ากันเขาอ้างว่า ป้ายเขาใหญ่ขึ้นทุกทีต้องขนหลักฐานไปโวยอีก ส่วนเราโดนเรื่องธงญี่ปุ่นหน้าร้าน บอกว่ามันเป็นป้ายชั่วคราวนี่คะ ทางนู้นเขาบอกว่า ก็คุณวางไว้นานไม่เก็บทางเขาก็จะถือเป็นป้ายถาวร ก็แบบเอ่อคิดได้เนอะ จากคุณ : nangoing - [ 22 ม.ค. 52 06:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าก่อสร้างร้านแบบถาวรต้องมีใบขออนุญาตก่อสร้างด้วยนะคะ ขอก่อนปลูกจะโดนไถน้อยกว่าคะ ส่วนเปิดร้านเปิดไปก่อนได้เลยคะเดี๋ยวแต่ละที่ท่านจะมาเองคะว่าเราต้องเสียอะไรบ้านไม่ต้องกังวลคะเขาจะมาบริการถึงบ้านเลยคะ55555 เราก็แค่ว่าเราไม่ทราบแต่ต้องไปเสียตามที่เขามาเก็บนะคะทำให้ถูกต้อง แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 52 10:20:16 จากคุณ : เบรานิ่ง - [ 22 ม.ค. 52 10:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สรรพากรเดี๋ยวนี้ทำงานคล้าย ๆ เซลขายของคือมียอด ไล่บี้กันมาเป็นชั้น  ปีไหนเก็บภาษีไม่เข้าเป้าก็เร่งยอดให้ได้ ผลคือแม้แต่ร้านขายเต้าฮ่วยก็โดนนับชาม นับถุง  แม่ค้าบางคนถึงกับอยู่ ไม่ได้เพราะขายก็ไม่ได้เก็บภาษีลูกค้ามาจ่ายนี่นา จากคุณ : ตอกะจอ - [ 22 ม.ค. 52 12:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ้อ...มาแถมให้อีกหน่อย คิดจะขายอาหาร พยายามตีซี้กับทางเขตไว้หน่อยก็จะดีมาก บางทีช่วยให้เราสะดวกเวลาติดต่อมากขึ้น การเปิดร้านอาหารหลายๆ เรื่องก็ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตาม ก.ม.ทั้งหมดเป๊ะๆ บางทีร้านก็สกปรกไปบ้าง (ผมเคยเห็นหนูวิ่งในห้างสรรพสินค้า แผนกขายอาหาร หรือ Food Court แห่งหนึ่งในย่านใจกลาง กทม.),ควันเข้าบ้านคนอื่นบ้าง,ท่อตันบ้าง ฯลฯ กล้าท้าเลยว่า ร้านไหนไม่มีแมลงสาบ ผมยินดีนอนให้เหยียบ ถ้ารู้จักกับเขต เวลาโดนร้องเรียน จะแก้ไขและเคลียร์กันได้ง่ายขึ้น การบังคับใช้ ก.ม.อาจจะมีการหลวมบ้างหย่อนบ้าง ตามความเห็นใจและความรู้จักส่วนตัวกับผู้รับเรื่อง ซึ่งบางครั้ง ก็ต้องยอมเสียเบี้ยบ้ายรายทางกันบ้างเป็นพิธี อย่างที่เขตผม เวลาเขามีงานฉลองเทศกาล(อะไรก็ไม่รู้) เขาก็โทรมาขอ"ซื้อ"อาหารไปเลี้ยงเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็รู้เป็นนัยๆ ว่าขอฟรี งานนี้คุณต้องยอมเพื่อความสะดวกราบรื่นในการค้า ผมเคยโดนขออาหารกล่องไป 50 กว่ากล่อง ก็ไม่ได้คิดตังค์เขาสักบาท แต่ก็แลกกับการได้รับความสะดวก เวลาไปติดต่อขอใบอนุญาต หรือชำระภาษี ครับ จากคุณ : จาน ชาม ช้อน ส้อม - [ 22 ม.ค. 52 13:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ที่เราทำคือ 1. จดคณะบุคคล เป็นการขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเป็นแบบนิติบุคคล (พวกหมอชอบใช้) ที่ทำอย่านี้เพราะหุ้นส่วนทั้งสองมีรายได้อยู่แล้ว และไม่อยากจดห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท คณะบุคคลเสียภาษีปีละ 1 ครั้ง ยื่นเหมือนบุคคลธรรมดา ภงด. 90 รายได้จากการขายสิงค้า หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่าย 70% เราประเมินยอดขายและหักค่าใช้จ่าย คิดภาษีเหมือนเงินได้บุคคลธรรมดา (บนส่วนของกำไรนั่นเอง) 2. ทะเบียนการค้า เพื่อกันคนเอา โลโก้ไปใช้ 3. เนื่องจากร้านเป็นร้านเชาก็ทำสัญญาเช่าระหว่าง ผู้ให้เช่ากับคณะบุคคลที่จัดตั้ง แล้วก็สำเนายื่นแบบ สำเนาใบเสร็จและจัดตั้งคณะบุคคลเก็บที่ร้านค่ะ กรณีสรรพากรมาขอตรวจ ร้านที่จตุจักร สรรพากรมาประเมินถึงตัวแต่เรามีเอกรที่เราจัดตั้งคณะบุคคลและมีการยื่นแบบเสียภาษีถูกต้องแล้วเค้าก็ไม่ว่าอะไร กรณีที่ทำร้านคนเดียว (เจ้าของคนเดียว) ทำร้านอย่างเดียวไม่จดคณะบุคคลก็ได้ แต่ทำยื่นภาษีตามรอบปีภาษี คือยื่นภายใน 31 มีนาคมค่ะ จากคุณ : สาวปากช่อง - [ 22 ม.ค. 52 22:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แล้ว VAT ล่ะ ต้องเสียไหม มีเงื่อนไขไร ทำไมบางสินค้าและบริการเสียบางอันไม่เสียทั้งๆที่ร้านเดียวกัน จากคุณ : moho (moho) - [ 23 ม.ค. 52 00:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แล้วถ้าเปิดร้านอาหาร เราต้องมีใบอนุญาตอะไรเป็นพิเศษอีกหรือเปล่าคะ ต้องผ่านเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานราชการว่าร้านเราสะอาดถูกต้อง เหมือนที่เมืองนอกหรือเปล่าคะ จากคุณ : Kaki (Cookie&Canon) - [ 24 ม.ค. 52 23:43:51 ]