ความคิดเห็นที่ 1 ระหว่างรอรถไฟที่สถานีเราก็ได้เจ้า Flatbread Sandwich นี้มากินกันพออยู่ท้อง จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:07:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พร้อมกับกาแฟ ที่อเมริกานี่ Dunkin Donut ขายกาแฟมากกว่าขาย Donut นะเออ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 The Barnes Collection นี้เป็นคอลเลคชั่นส่วนตัวของ Albert C. Barnes ซึ่งเคยเป็นหมอมาก่อน แต่ตอนหลังแกคิดค้นยาออกมาได้ตัวนึง ขายดิบขายดีทำเอาตั้งตัวได้ แกก็เล่นมุขรวยแล้วเลิก สะสมศิลปะดีกว่าว่างั้น ศิลปินคนโปรดของแกคือ Renoir กับ Matisse  ถึงตอนหลังจะงอนกันไปแกก็ยังมีรูปเจ๋งๆของ Matisse เพียบ คุณ Barnes นี่แกมีความแรงและแนวเป็นของตัวเองอย่างหาตัวจับยากเจ้าค่ะ วิธีการจัดวางรูปของแกร่วมกับงานศิลปะชิ้นอื่นๆนั้นเป็นอารมณ์ตามใจฉันเข้าว่า แต่ตามใจฉันอย่างมีหลักการนะคะ แกไม่ได้เรียงรูปบนผนังตามปี ตามศิลปิน ตามยุคอย่างที่ีทั่วๆไปเขาทำกัน แต่แกเรียงตามที่จะเห็นว่างานชิ้นต่างๆจะร้อยเรียงเรื่องราวสอดคล้องและส่งเสริมซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดอารมณ์ร่วมไปด้วย แต่บางทีเราดูแล้วก็เกาหัวแกรกๆ สงสัยจะเข้าไม่ถึง จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:09:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ป้าไกด์เล่าให้เราฟังว่า เคยมีนายหน้าศิลปะคนหนึ่งมาเคาะประตูบ้านเฮียแกเพื่อขายงานของศิลปินคนหนื่ง ซื่งตรงนี้ Mono ก็จำไม่ได้แล้วว่าเค้าบอกว่าเมียหรือลูกของศิลปินกำลังป่วยใกล้ตาย คุณ Barnes แกก็รับซื้อไว่้แต่ก่อนนายหน้าจะจากไปแกก็บอกว่า “วันหลังอย่ามาให้เห็นอีก คุณกำลังทำให้ผมสับสนระหว่างศิลปะกับงานสังคมสงเคราะห์” อะจึ๋ย ของเขาแรงดีจริงๆ รายละเอียดติดตามได้ที่กระทู้ลูกคู่ของเพื่อนชอของอิฉัน ณ ห้องบลูเช่นเคยเจ้าค่ะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7458910/E7458910.html#1 ขานั้นเธอคอศิลปะขนานแท้ อิฉันอาศัยว่าตอนเด็กๆแม่ซื้อหนังสืออาร์ตมาให้ดูเยอะเลยยังพอเข้าใจบ้าง แต่จะให้ดื่มด่ำเช่นเพื่อนเลิฟของอิฉันนั้นก็ยังห่างชั้นกันโขอยู่ เราใช้เวลาเดินชมงานที่เฮีย Barnes แกสะสมไว้ผ่าเข้าไปครึ่งวัน ท้องร้องจ๊อกๆ แต่แถวพิพิธภัณฑ์ไม่มีอะไรให้กินเลยค่าเพราะมันเป็นย่านอยู่อาศัย ไม่รู้เพราะเหตุนี้หรือเปล่าจึงไม่มีผู้มาเข้าชมเท่าที่ควรทั้งๆที่ Collection ของแกเจ๋งและถึกเอาเรื่องอยู่ มูลนิธิ Barnes ทุกวันนี้จึงถังแตกและเตรียมตัวย้่ายเข้าไปอยู่ในเมือง Philly บน Benjamin Franklin Parkway อีกไม่นานเกินรอ เราๆท่านๆก็ไม่ต้องถ่อออกนอกเมืองอีกแล้วนะคะ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เราสองคนก็เลยลากกระเพาะแฟบๆนั่งรถไฟกลับเข้าเมืองมาลงที่ Market Street โผล่ออกมาจากสถานีก็เจอกับสิ่งนี้ เยาวราช! แฮ่ม เรามาโผล่ที่ไชน่าทาวน์เจ้าค่ะ หนาวๆแบบนี้ ไปหาก๋วยเตี๋ยวร้อนๆกินคงจะดีไม่หยอก เผลอๆได้ตบท้ายด้วยชานมไข่มุก แง่มๆ แง่มๆ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:11:24 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เดินไปเดินมาเราก็มาปะทะกับร้านนี้เข้า ร้าน Penang เจ้าค่ะ เป็นอาหารมาเลเซีย อิฉันหันไปถามคู่หูคู่ฮาแล้วได้ความว่าไม่เคยกินอาหารชาตินี้มาก่อน ตัวอิฉันเองเคยกินร้านนี้ทั้งที่ไชน่าทาวน์ นิวยอร์ก และ Bethesda, Maryland และติดใจไก่นึ่งกระเทียม สุมหัวกันแล้วก็ตัดสินใจลุยโลด จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อ๊ากกกกกก ไก่นึ่งกระเทียมหนูหายไปไหน ทำไมในเมนูไม่มีไก่กระเทียม จะเอาไก่กระเทียม จะเอาไก่กระเทียม จาอาาวววววว ก่ายยยย กราาาา เทียมมมมม จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เฮ่อ เอาน้ำชาไปสงบสติอารมณ์ก่อน หลังจากทำใจได้แล้ว Mono ก็ได้ข้อสรุปว่าเจ้าร้าน Penang  ที่ Philly นี้อาจจะเป็นคนละเจ้าของกับที่นิวยอร์กเจ้าค่ะ เข้าไปดูในเวปไซด์ของที่นิวยอร์กก็ไม่มีพูดถึงสาขา Philly มีแต่ที่ Maryland กับ North Carolina แต่โลโก้ร้านฟอนท์เดียวกันนี่นา เอาไก่กระเทียมเค้าคืนมา จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:13:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถึงจะไม่มีไก่กระเทียม แต่เอกลักษณ์ประจำร้านปีนังก็ยังอยู่เจ้าค่ะ Roti Canai โรตีร้อนๆแป้งบางเหนียวนุ่ม เห็นพับๆซ้อนๆมาอย่างนี้ ถ้ากางออกมาได้นี่แผ่นเบ้อเริ่มเลยนะเจ้าคะ มองไปเห็นอาเฮียแกควงแป้งอยู่หลังร้าน แป้งแผ่นบางๆ ลอยคว้างเป็นวงกลมขนาดยักษ์ชนิดร้านพิซซ่าดังๆมาเห็นแล้วต้องอาย โรตีนี้เสิร์ฟมากับแกงกะหรี่รสชาติเจ้มจ้นถูกใจ มีไก่กับมันฝรั่งมาให้อย่างละชิ้นพอให้ไม่ถูกนินทาว่างกให้แต่น้ำแกง ไก่นุ่มเปื่อยร่อนออกจากกระดูก อร้อย อร่อย เจ้า Roti Canai นี้ต้องสั่งกันทุกโต๊ะจริงๆค่ะ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:14:44 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จานต่อไปเป็นอาหารสิ้นคิดอีกอย่างหนึ่งของทางร้าน Char Kueh Teow หรือ ชาก๋วยเตี๋ยว เป็นก๋วยเตี๋ยวผัดของมาเลย์ เป็นลูกครึ่งระหว่างผัดซีอิ๊วกับผัดไทยอย่างไรไม่ทราบ เจ้าเส้นที่เห็นนี่ก็กึ่งๆระหว่างเส้นเล็กกับเส้นใหญ่เจ้าค่ะ ผัดมารสหวานๆ เผ็ดๆนิดนึง ปกติแล้วเค้าจะต้องผัดใส่ของทะเลพวก กุ้ง หอย ปลาหมึกมา แต่เราสองคนสื่อสารกับพนักงานเสิร์ฟพลาดไปนิดได้กุ้งมาอย่างเดียว แต่กินร้อนๆ อร่อยดีนะคะ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:15:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อีกจานหนึ่งเป็นบะหมี่ทะเลหม้อดินค่ะ ของทะเลเพียบ เส้นนุ่มอร่อยถูกใจ ราดน้ำเหนียวๆ ข้นๆมา คล้ายๆราดหน้าค่ะแต่รสไม่จัดจ้าน เป็นการปิดท้ายรายการที่อิ่มสบายท้องดีทีเดียว อิ่มอืดได้ที่ เราสองคนก็ไม่สนใจจะตามล่าหาชาไข่ม้งไข่มุกกันอีกแล้ว เดินย้ายพุงน้อยๆ กันกลับโรงแรม ระหว่างทางก็แวะชมโน่นชมนี่กันพอหอมปากหอมคอ เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์และเราไม่มีโปรแกรมอะไรตายตัวจึงพักผ่อนกันสบายๆ รอมื้อใหญ่ที่เป็นพระเอกของทริปนี้เจ้าค่ะ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อใกล้ได้เวลาเราก็เริ่มออกเดิิน เป็นการยืดเส้นสายขยายกระเพาะไปด้วยในตัว จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แต่น แต๊น ถึงแล้วค่ะ มื่้อพระเอกของเราในทริปนี้ Buddakan ร้าน Buddakan นี้่เค้าอธิบายตัวเองว่าเป็น “Asian Ingredient with French Technique”  มีสาขาอยู่ในนิวยอร์ก และแอตแลนติค ซิตี้ด้วย แต่สาขาที่ Philly นี้เป็นสาขาต้นตำรับค่ะ Mono เคยไปหม่ำมาแล้วที่นิวยอร์กและมาเพ้อให้คุณเพื่อนฟัง ดังนั้นทริปนี้เราจึงตั้งใจว่าห้ามพลาด จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ร้าน Buddakan นี้เข้าไปถึงก็มีพระประธานตั้งอยู่ตรงกลาง ผู้ใหญ่บางท่านอาจจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ ปกติ Mono ก็ไม่ชอบนะคะเวลาไปบ้านฝรั่งแล้วเห็นเค้ามีเศียรพระพุทธรูปตั้งอยู่ที่พื้นบ้าง หนักหน่อยก็ตามห้องน้ำหรือสระว่ายน้ำ แต่ที่นี่ Mono ว่าเขายังวางอย่างเป็นจุดศูนย์กลางและให้ความเคารพพอสมควร เลยไม่ตะขิดตะขวงใจเท่าไหร่ โต๊ะยาวๆนี้ก็เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของร้านนี้ค่ะ เค้าเรียกว่า Communal Table ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องมาเป็นกลุ่มใหญ่ก็นั่งได้ค่ะ เค้าจะจัดให้คุณนั่งเว้นระยะนิดนึงกับกลุ่มอื่น เรียงๆกันไป ให้อารมณ์สังสรรค์กันดี อีกอย่างร้าน Buddakan นี้ถึงจะเป็นร้าน Trendy แต่เค้าเสิร์ฟอาหารแบบ Family Style นะคะ คือเหมือนเมืองไทย ทุกอย่างลงตรงกลางแล้วตักแบ่งกันเอา ไม่ได้เป็นเซ็ตตัวใครตัวมันอย่างอาหารฝรั่ง อย่างนี้สนุกดีค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 13:03:15 จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เราสั่งเครื่องดื่มกันก่อน เพื่อนอิฉันก็ตามเคยคะ ไวน์ขาว วันนี้เธอสั่ง Shooting Star Chardonnay จากแคลิฟอร์เนีย ได้ความมาว่า Dry กำลังดี จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 16 Mono ชอบลองค็อกเทลแปลกๆจึงสั่ง Geisha มาลอง ส่วนผสมมีวอดก้า น้ำPassion Fruit และ Pommergranate หรือน้ำทับทิม ฮิตจริงๆช่วงนี้เจ้าทับทิมเนี่ย รสชาติเปรี้ยวสดชื่น หอม Passion Fruit จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:19:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อาวุธพร้อมแล้ว จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:20:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จานแรกของเราเป็น Ginger Cured Salmon เสิร์ฟมากับ Wasabi Bavarian Cream และ Nori Cracker ว่าที่เจ้า Cured Salmon กันก่อน ที่เมืองไทยส่วนใหญ่เจ้าพวก Salmon พวกนี้มักจะถูกเรียกรวมๆว่า แซลมอนรมควัน ซึ่งจริงๆไม่ถูกซะทีเดียวนะเจ้าคะ Cured Salmon นี้เป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่งของชาวแสกนดิเนเวียนด้วยการเอาส่วนผสมซึ่งส่วนใหญ่แล้วประกอบด้วยเกลือ น้ำตาล และเครื่องเทศ อะไรก็ว่ากันไปมาพอกน้องสมร ใช้เวลาประมาณวันสองวัน เจ้าเกลือก็จะดูดซับเอาน้ำไปทำให้น้องสมรแห้งขี้นและเก็บได้นาน บางครั้งก็นำไปรมควันอีกทีหนี่ง แต่ส่วนใหญ่ทีเราเห็นๆกันตามโรงแรมก็ไม่ได้ผ่านการรมควันนะคะ ถ้ารมควันมาแล้วคุณก็จะบอกได้เหมือนกันเพราะเนื่้อมันจะดูด้านๆ กว่า คือมันถูกทำให้สุกนั่นเอง จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 Cured Salmon ของที่นี่ใช้ขิงเข้าไปในส่วนผสมที่ใช้พอกปลาด้วย เนื้อปลาเหนียวหยุ่นนิดๆ มีกลิ่นขิงจางๆ เราปาดเจ้าสาหร่ายทอดกรอบที่ให้มาเคียงด้วย Wasabi Bavarian ครีมรสชาติหวานหอม ตัดความเลี่ยนด้วยวาซาบิ บางคำกัดเข้าไปจะเจอไข่ปลาแซลมอนเป็นของแถม เพิ่มรสชาติเค็มมัน โอ๊ย ใครหนอช่างคิดจานนี้ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 20 Appetizer จานต่อไปของเราเป็น Lobster Crepe with Curry-Cognac Sauce เจ้าค่ะ มากันแบบอลังการงานสร้าง ถ้าเป็นที่เมืองไทยอิฉันคงคว้าเอาหัวกุ้งไปแทะเล่นแล้ว แต่ที่นี่เค้าไม่ปลื้มเครื่องในน้องกุ้งกัน หัวกุ่่้งแดงๆจึงมาแบบกลวงๆ เข้าเรื่องไอ้ส่วนที่มันกินได้ดีกว่า จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แป้งเครปที่นี่บางนุ่มเนียนลิ้นได้มาตรฐานสถาบันเครปชั้นดี ไส้ลอบเสตอร์์นั้นมาเป็นชิ้นเบ้งๆ เนื้อแน่นหนึบ ตัวไส้ยังมีเห็ดหลากชนิดผัดมานุ่มๆชุ่มฉ่ำด้วย ซอสที่รองมาข้างใต้ก็อร่อยได้ใจมากค่ะ หอมเปลือกกุ้งที่เคี่ยวมา มีรสขมนิดๆของเหล้าคอนญัค เผ็ดน้อยๆด้วยเครื่องเทศ อู๊ยยยย อร่อย อ่ะ เอาเนื่้อลอบเสตอร์ไปชัดๆ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เข้าสู่จานหลักกันบ้าง ในระหว่างนี้บริกรมาเปลี่ยนจานใหม่ให้เราด้วยนะคะ จานแรกเป็น Pan Roasted Duck Breast with Roasted Garlic and Five Spice Jus อิฉันมันพวกบ้าเป็ด เห็นอกเป็ดแล้วก็หลับหูหลับตาสั่งทันที่ ลืมไปว่าไอ้ Five Spice มันคือผงพะโล้ ดังนั้นเราจึงได้กินเป็นพะโล้กันไปตามระเบียบ ไอ้อร่อยมันก็อร่อยอยู่หรอกค่ะ เนื้ออกเป็ดนุ่ม ย่างมาสุกกำลังดี ซึ่งให้ไปกินเป็ดพะโล้นายหนับมันก็จะไม่ได้ย่างมา Medium Rare อย่างนี้ใช่มั้่ย แต่มาคิดว่าราคาจานนี้กินเป็ดนายหนับได้หลายตัวอยู่ก็อยากเขกกระโหลกตัวเองซักโป๊กเหมือนกันค่ะ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:24:45 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พระเอกของจานนี้จึงเป็น Spoon Bread เนื้อเบาๆ ฟูนุ่มเหมือน Souffle มีต้นหอมสับสอดแทรกมาพอได้รส ร้อนจนปากแทบพอง เจ้า Spoon Bread นี้เป็นอาหารท้องถิ่นของทางใต้ถ้าไปกินบางที่เขาจะถือกะทะหนักๆมาเสิร์ฟแล้วตักมาวางข้างๆจาน สมกับชื่อ Spoon Bread สลัดที่ให้มาข้างๆนั้นน้ำสลัดรสชาติเปรี้ยวแหลมกันเลี่ยนได้เป็นอย่างดีค่ะ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:26:21 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จานหลักอีกจานหนึ่งเราสั่งอาหารพิเศษประจำวันค่ะ คุณพนักงานบอกว่าวันนี้เป็นปลา Nairagi ไอ้เจ้าปลาไนราหงินี้มาจากฮาวายเจ้าค่ะ รสชาติเป็นลูกผสมระหว่างแซลมอนกับทูน่าประมาณนั้น เค้าย่างมาดีมากเลยทีเดียว ข้างนอกสุก เกรียมนิดๆ หอมถ่านหน่อยๆ ตรงกลางยังดิบ เนื้อปลาแน่นเคี้ยวสู้ฟันกำลังดี เสิร์ฟมาบน Cipollini Onion เป็นหัวหอมหัวเล็กๆผัดมาจนนุ่ม เคียงข้างด้วยกุ้งนิ่มทอด จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตัวซอสนี้ตอนแรกก็ยังเป็นปริศนา เนื่องจากมันมีรสเปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ และเผ็ดน้อยๆ เอกลักษณ์ของน้ำจิ้มไก่ตราแม่ประนอม! ทำเป็นเล่นไป ร้านอาหารหลายร้านที่นี่ชอบเสิร์ฟแม่ประนอมของเราคู่กับ Calamari นะเออ มันก็น่าสงสัยอยู่ แต่อิฉันมีความศรัทธาในร้าน Buddakan เจ้าค่ะ แถมซอสนี้ยังมีกลิ่นสมุนไพรอีกอย่างที่อิฉันคุ้ยเคยแต่ไม่สามารถชี้นิ้วได้ จึงลากตัวบริกรของเรามาถามได้ความว่า นอกจากพริกแล้ว ซอสนี้ก็มีส่วนประกอบของตะไคร้และเหล้าบ๊วยด้วย จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:27:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ปริศนาไขกระจ่างแล้วก็ได้เวลาของหวาน จริงๆมาถึงนี่ก็อิ่มอืดใช้ได้แล้วนะเจ้าคะ แต่อิฉันมีเพื่อนสาวคนหนึ่งซึ่งเคยเรียนหนังสือที่นี่ เธอยืนยันว่า อย่างไรเสียก็ต้องลองของหวานขึ้นชื่อของที่นี่ให้ได้ สาวไทยฆ่าได้หยามไม่ได้อยู่แล้ว เจ้านี่จึงได้ลอยมาอยู่ตรงหน้า Chocolate Bento Box เนื่องจากเจ้า Bento Box นี้มีขนมที่มีส่วนประกอบของ Chocolate  ถึงหกอย่างด้วยกัน คือ Warm chocolate cake, Dark chocolate panna cotta with cocoa-ginger biscotti, White chocolate-espresso pot de creme, Chocolate-caramel napoleon, Chocolate almonds and Bittersweet chocolate sorbet อิฉันก็ขอบรรยายเฉพาะอันเด็ดๆแล้วกันนะคะ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อันแรกเป็น Warm Chocolate Cake เสิร์ฟมาอุ่นๆ ราดซอสร้อนๆ และมีงาขาวโรยหน้า อร่อยค่ะ แต่ไม่ได้ถึงขนาดหากินที่อื่นไม่ได้ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต่อปาย เป็น Panna Cotta อันนี้ Mono ว่าเนื่้อมันหนักไปนิดนึงนะคะ Panna Cotta ในฝันของ Mono ต้องเบาๆ ลื่นลงคอ แต่อันนี้มันออกแน่นๆ ที่เก๋คือเจ้า Biscotti กลิ่นขิงนี่มากกว่า เป็นการตัดรสที่ดีทีเดียว จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 29 Chocolate Napoleon นี่ก็อร่อยค่ะ แผ่นช็อคโกแล็ตคั่นกลางด้วย Ganache และ Caramel รสชาติ Rich เข้มข้นมาก จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แต่สุดยอดนางเอกในถาดนี้ของเราคือนี่เลยค่ะ White Chocolate-espresso Pot de Creme เนื้อครีมแน่น แต่นุ่มและเนียน หอมกาแฟฟุ้ง มีรสหวานมันของ White Chocolate อิฉันใช้ช้อนตักลงไปเป็นคำโตๆ แต่ค่อยๆเล็มกินอย่างละเลียดเพราะไม่อยากให้หมดเร็ว สวรรค์ลอยมาอยู่ตรงหน้าจริงๆ แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 13:07:40 จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:31:29 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แต่งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกราชิมิเคอะ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:32:21 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เอาล่ะค่ะ หวังว่าเพื่อนๆคงจะอิ่มอร่อยกับทริปนี้ของ Mono และคู่หูนะคะ เราสองคนตะลุยที่ไหนรับรองพุงกางแน่นอนค่ะ ตอนนี้ Mono ก็ต้องขอเดินฝ่าหิมะกลับไปย่อยอาหารแล้วค่า ไว้เจอกันใหม่ตอนอากาศอุ่นกว่านี้นะค้า งั่กๆๆๆ กึกๆๆๆๆ จากคุณ : Mono Loco - [ 26 ม.ค. 52 12:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อาหารจัดสวยน่าทานมากค่ะ ภาพก้อสวยค่ะ จากคุณ : คนสวยใจดำ - [ 26 ม.ค. 52 12:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ชอบรูปสุดท้ายครับ ได้อารมณ์ดี จากคุณ : ทนายขี้ไก่ - [ 26 ม.ค. 52 15:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มีความสุขมากๆนะครับคุณ : Mono Loco ......... ขอบคุณครับ จากคุณ : tumauto - [ 26 ม.ค. 52 17:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 36 บะหมี่ทะเลหม้อดินน่าหม่ำก๊าบพี่น้อง ขนมก็น่าหม่ำที่สุดดดดดดดดด จากคุณ : ผึ้งตัวกลม - [ 26 ม.ค. 52 17:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขนมน่ากิน ^___^ จากคุณ : บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน - [ 26 ม.ค. 52 20:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาชมจ้า อาหารสวย ขนมก็น่าทานจะน้อง จากคุณ : อินทรีทองคำ - [ 27 ม.ค. 52 01:11:24 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไปเที่ยวกับคุณ Mono Loco นี่สุดยอดค่ะ ยังกะมี Food Expert ประจำตัว รู้ไปโหม๊ดดดดด เพราะเราเอาแต่กิน ไม่ได้รู้หรอก อะไรเป็นอะไร กระเพรากับโหระพา บางทียังแยกไม่ออกเรย จากคุณ : ha-meow - [ 27 ม.ค. 52 10:49:13 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นแล้วอยากฝ่าหิมะไปมั่งจัง แต่อยู่ฮาวายมาพักใหญ่ ไม่ยักกะเคยเจอปลา nairagi เลยค่ะ ส่วนมากไม่ ahi ahi ก็ mahi mahi สงสัยของดีๆถูกส่งไป mainland หมดแล้วนี่เอง จากคุณ : girldemars - [ 27 ม.ค. 52 11:59:17 ]

ความคิดเห็นที่ 41 หนาวขนาดนี้ ต้องกินของหวาน 2 ชุดค่ะ สะสมไขมันสู้กับความหนาว   จากคุณ : ป้าหนอน - [ 28 ม.ค. 52 22:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ความรู้อัดแน่นเต็มกระทู้อ่านเพลินมากเลยครับ Lobster Crepe with Curry-Cognac Sauce น่าทานจัง อาหารอะไรใส่เหล้านี่กินตอนหนาว ๆ คงสุขน่าดูเลย จากคุณ : amenochikara - [ 28 ม.ค. 52 23:07:38 ]