ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าระหว่างปีภาษี คือ ปี 51 คุณมีรายได้ 2 ส่วน คือเป็นพนักงาน มีเงินเดือน ก็ต้อง แยกยื่น ภงด 91 คะ ส่วน ร้านอาหาร  ภาษีที่เกี่ยวข้อง ภาษี เหล้า ยาสูบ  เสียปีต่อปี ร้านอาหารจดทะเบียนฯ หรือไม่ ถ้าจด ก็มีภาษี การค้า เช่น มูลค่าเพิ่ม แบบเหมาจ่าย พอสิ้นปี ก็จะเป็นเรื่องภาษีนิติบุคคล ของที่ร้าน แล้วใครเป็น เจ้าของก็นำรายได้ จากร้าน ไปเสียภาษีบุคคลธรรมดา เอาให้ชัวร์ เรื่อง นี้ โทรหา call center สรรพากร เป็นการปรึกษา กรณีคะ ไม่ต้องบอกว่า ร้านเราชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ถามเชิงปรึกษา จากคุณ : butterfly pea - [ 27 ม.ค. 52 01:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องภาษีมีต้องมีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างเยอะนะคะ ถ้าเอาแบบคร่าวๆก็มีประมาณว่า.. 1. ภาษีสรรพสามิต  (หากมีการจำหน่ายสินค้าประเภทสุรา ยาเส้น ยาสูบ) 2. ภาษีโรงเรือน ปีละ 1 ครั้ง ต้องยื่นแบบภายในเดือนกุมภาของทุกปี เสียประมาณ 1.5 ของราคาประเมินต่อเดือน (ภาษีโรงเรือน คือ ภาษีที่จัดเก็บจากโรงเรือนที่มีสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ อยู่ด้วยและก่อให้เกิดรายได้ เช่น ทำการค้า หรือให้เช่า ) 3. ภาษีป้าย หากมีป้ายที่แสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายการค้าใดๆ  เสียภาษีปีละ 1 ครั้ง ภายในเดือนมีนา อัตราภาษีขึ้นอยู่กับขนาดของป้าย และภาษีที่ใช้ ภาษาไทย 3 บาท มีภาษาอื่นปน 20 บาท ภาษาอื่นล้วนหรือภาษาไทยอยู่ใต้หรือต่ำกว่า 40 บาท อัตรานี้คือ ต่อตารางเซ็นติเมตร) 4. ภาษีมูลค่าเพิ่ม หากมีรายได้ต่อปีเกิน 1.8 ล้านบาท(ไม่หักต้นทุน)ต้องจดเข้าระบบ และเสียภาษีเดือนละ 1 ครั้ง ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป 5. ภาษีรายได้ หากไม่ได้ร้านอาหารนี้แยกต่างหากออกมาต้องนำมารวมรายได้ส่วนตัวของเรา ทีนี้ต้องดูว่ามีคู่ครองและจดทะเบียนสมรสหรือไม่ -หากมีต้องนำรายได้ส่วนที่เป็นของร้านอาหารไปรวมกับของสามีค่ะด้วยแบบ 90 และต้องลองคำนวณดูว่าควรจะนำเงินเดือนของเรา มารวมคำนวณดีมั้ย คุ้มกว่ามั้ย -หากไม่มีเราก็ยื่นแบบ 90 โดยต้องยื่นเงินเดือน 40(1) มารวมคำนวณด้วย รายได้ของร้านอาหาร คือ 40 (8) สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ตามจริงหรือในอัตราเหมาร้อยละ 70 รายได้ของเงินเดือนคือ 40(1) สามารถหักค่าใช้จ่ายได้อัตราร้อยละ 40 แต่ไม่เกิน 60,000 นำมารวมกันแล้วหักค่าลดหย่อนอื่นๆ ตามกฏหมายกำหนด(รายละเอียดเยอะมาก) แล้วนำมาคำนวณตามอัตราก้าวหน้าค่ะ.. อย่างที่คุณ butterfly pea  บอกไว้เอาให้ชัวร์ เรื่อง นี้ โทรหา call center สรรพากร เป็นการปรึกษา กรณีคะ ไม่ต้องบอกว่า ร้านเราชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ถามเชิงปรึกษา แต่ต้องทำใจนิดนึงนะคะ โทรไปอาจรอนาน...ไม่มีคนรับ... ได้คำตอบที่อาจชวนงงได้อีก..ถ้าเจอเจ้าหน้าที่ที่น่ารักก็โชคดีได้คำตอบที่ดีและสบายใจ.. จากคุณ : แสตมป์ไทย - [ 27 ม.ค. 52 03:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ้อ..ลืมบอกรายได้ร้านอาหารต้องยื่นแบบปีละ 2 ครั้งนะคะ ครึ่งปีแรก ยื่นแบบภงด. 94 ภายในเดือนกันยา รวมทั้งปี  ยื่นแบบภงด. 90 ภายในเดือนมีนา (โดยนำภาษีภงด. 94 มาหักได้ค่ะ) จากคุณ : แสตมป์ไทย - [ 27 ม.ค. 52 03:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรารู้แต่ภาษีสรรพากร เพราะเราอยู่สรรพากร 555 กรณีของคุณเจ้าของกระทู้ ถ้าคุณมีรายได้ทั้งปีไม่ถึง 1.8 ล้านบาท(ยังไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ) เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีละ 2 ครั้ง เหมือนที่คุณแสตมป์ไทยบอกค่ะ แต่ถ้าเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี คุณต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มค่ะ แต่ถ้ามีเงินได้ชนิดอื่น เช่น เงินเดือน ต้องนำมารวมคำนวณ รายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก ตอบในนี้คงจะพิมพ์ไม่ไหว โทรไปปรึกษาปัญหาได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่ง หรือสำนักงานสรรพากร ที่สถานประกอบการของคุณตั้งอยู่  หรือไม่ก็โทรไปที่ call centre กรมสรรพากร 02-2728000 ค่ะ แต่ต้องทำใจหน่อยนะคะ ช่วงนี้มีคนโทรไปปรึกษาเยอะมาก จากคุณ : แจกันดอกไม้ - [ 27 ม.ค. 52 09:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 12:16:03 แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 52 11:25:27 จากคุณ : beroot - [ 27 ม.ค. 52 11:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อิอิ ชอบความเห็นข้างบนจัง จขกท บอกว่าเพิ่งเปิดร้านไม่ถึงปี ก้อยื่น ภงด.90 สำหรับสิ้นปี 2551 อย่างเดียวก่อนค่ะ แต่ปีถัดไปต้องยื่น ภงด.94 และ ภงด.90 น่ะค่ะ ถ้ารายได้ต่อเดือนไม่ถึง 150,000 บาท ไม่ต้องเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่มค่ะ พอแนะนำได้คร่าวๆ เพียงเท่านี้แหละค่ะ แต่ตามที่ความเห็นข้างบนแนะนำมาก็ดีน่ะ ให้โทรหา call center จะดีกว่า อ้อถ้าจำไม่ผิด เค้าจะถามหมายเลขบัตรประชาชนด้วยน่ะค่ะ จากคุณ : หมวย (potmetha) - [ 27 ม.ค. 52 11:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกคำตอบเลยนะคะ ให้ใจทุก ๆ ท่านเลยค่ะ ชอบ คห.5 จัง .. อยากจะรอดูสถานการณ์ให้แน่สักปีสองปีค่ะ เพราะตอนนี้รายรับไม่ค่อยนิ่ง แต่ทั้งปีไม่ถึง 1.8 ล้านแน่ ๆ ค่ะ เอิ้ก ... ต่อเดือนก็ไม่ถึง 1.5 แสนด้วยเหมือนกัน รอดไป เฮ้อ .. ลักษณะร้านเราก็ธรรมดามาก ๆ เลยค่ะ อยู่ในตึกจะมีรถเข็นอยู่หน้าร้าน แล้วก้อมีป้ายอยู่เหนือรถเข็นน่ะคะ ป้ายอื่น ๆ เช่น ที่หน้าตึกไม่มีค่ะ เวลาเก็บร้านแล้วจะไม่มีใครรู้เลยว่า นี่เป็นร้านขายอาหาร ^^" จากคุณ : Orrakata - [ 28 ม.ค. 52 01:15:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 12:18:45 แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 12:17:42 จากคุณ : beroot - [ 28 ม.ค. 52 08:30:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ^ ถึงแม้รายได้จะไม่ถึง 1.8 ล้าน/ปี  ไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ตาม แต่คุณก็ต้องยื่นภาษีรายได้ประจำปี อยู่ดีค่ะ (ก่อนเปิดร้าน คุณได้ไปจดทะเบียนพาณิชย์ (จดร้านค้า) ที่สำนักงานเขต และขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ที่กรมสรรพากร หรือยังคะ) หากในปี 51 คุณมีรายได้เกิน 60,000 บาท/ปี คุณมีหน้าที่ต้องยื่นแบบ ภงด.90 นั่นหมายความว่า ในแต่ละวันคุณต้องมีรายได้ (ไม่หักต้นทุน) วันละอย่างต่ำ 200 บาท หากคุณไม่ยื่น แล้วอ้างว่าคุณมีรายได้ไม่ถึง สรรพากรก็จะไปสอบถามร้านละแวกเดียวกัน ที่ขายของคล้ายกัน ก็จะรู้แล้ว และจะนำยอดนั้นมาประเมินให้คุณเสียภาษีอยู่ดี หมายเหตุ วิธีการคำนวณมี 2 วิธี              วิธีแรกยาวมาก หักค่าใช้จ่ายและมีค่าลดหย่อนเยอะ              วิธีที่สอง นำรายได้ (ไม่หักค่าใช้จ่าย) x 0.5%              ** วิธีไหนเสียภาษีเยอะกว่า ให้ใช้วิธีนั้น (ส่วนใหญ่เสียเพราะวิธีนี้) ปล. ปีนี้สรรพากรเคี่ยวมากค่ะ จากคุณ : เค้กกาแฟกับคาปูชิโน่ - [ 28 ม.ค. 52 11:15:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โอ .. ขอบคุณคุณ เค้กกาแฟกับคาปูชิโน่ มาก ๆ ค่ะ เราไปขึ้นทะเบียนพาณิชย์ไว้แล้วค่ะ แบบนี้ต้องยื่น ภงด.90 อยู่ดีใช่ป่าวคะ ลักษณะมันจะเหมือน ๆ กับ ภงด.91 หรือเปล่าไม่รู้ เพราะตอนทำงานก็ยื่นแต่แบบนี้ , แอบสงสัยอีกนิดนึงก็คือ รายได้ที่ว่าเนี่ย เราสามารถประเมินตัวเลขเอาเองได้ป่าวคะ สรรพากรจะเชื่อเราหรือเปล่า เพราะว่าเครื่องบันทึกเงินสดเราก็ไม่มี ค่าใช้จ่ายทั่วไปก็มีบิลมั่งไม่มีมั่งและก้อไม่ได้เก็บไว้ด้วยสิ , ปวดเฮดกะมันจริง ๆ ค่ะ รู้สึกดีมาก ๆ เลยกับห้องก้นครัวแห่งนี้ มีแต่สาระความรู้ทั้งนั้นเลยค่ะ โดยเฉพาะเมนูอาหารอร่อย ๆ เทคนิคบางอย่างที่เพื่อน ๆ ให้ไว้ในนี้เราก็ลองเอาไปปรับใช้ที่ร้านดู เวิร์คสุด ๆ เลยค่ะ จากคุณ : Orrakata - [ 29 ม.ค. 52 01:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ภงด.90  ก็เหมือนกับ ภงด.91 ค่ะ แต่ต้องยื่นให้ตรงกับรายได้ของคุณ เช่น ถ้าคุณมีรายได้คือเงินเดือนอย่างเดียว ยื่น ภงด.91 แต่กรณีของคุณคือขายอาหาร ต้องยื่น ภงด.90 ค่ะ ส่วนเรื่องรายได้  คุณสามารถประเมินเองได้เลย  ถ้าคุณสามารถกรอกแบบภงด.90 เป็น หากคุณกรอกไม่เป็นแล้วให้เจ้าหน้าที่กรอกให้ เค้าจะประเมินให้โดยสอบถามคุณเกี่ยวกับคชจ. ต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า แต่ละเดือน ฯลฯ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถประเมินรายได้ของร้านคุณได้แล้วค่ะ โดยให้ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเป็นต้นทุน = 80% ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : เค้กกาแฟกับคาปูชิโน่ - [ 29 ม.ค. 52 13:28:43 ]