ความคิดเห็นที่ 1 ส่วนประกอบตามภาพนะจ๊ะ 1. แป้งข้าวเหนียว  1  กิโลกรัม 2. แป้งข้าวจ้าว 2 ขีด (ประมาณเอานะคะ) 3. น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม (เผื่อสำหรับทำน้ำเชื่อม) 4. ใบเตยหอม 5. มะพร้าวทึนทึกขูดเส้นแบบใส่หน้าขนม 6. เกลือป่น (ในรูปไม่มีคะ ไว้สำหับคลุกมะพร้าวให้มีรสเค็มๆ มันๆ) 7. เนื้อตาลยีๆ แบบในภาพนะคะ อันนี้เราซื้อจากตลาดศาลาน้ำร้อน เขาขายกิโลละ 20 บาท ในสูตรเราแบ่งมา 1/2 โลคะ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 52 19:07:50 จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 31 ม.ค. 52 19:04:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เริ่มแรกเลยก็ทำน้ำเชื่อมจ๊ะ เอาน้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม ใส่ในหม้อใส่น้ำกะ ๆ ให้มันดูว่าน่าจะโอเค (แหะ ๆ เราบอกแล้วว่า สูตรนี้มันมาแนวมั่วจริงๆ เอาเป็นว่าต้มน้ำเชื่อมนะคะ) มัดใบเตยใส่ลงไปเพื่อให้มีกลิ่นหอมเวลาน้ำใบเตยเดือดคะ จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 31 ม.ค. 52 19:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทีนี้เราก็เปิดเตาน้ำเชื่อมอ่อนๆๆๆๆ ไว้ ปล่อยให้น้ำตาลทรายละลาย อาจจะต้องคนบ้างนะจ๊ะ ไม่ง้านเดี๋ยวไหม้ก้น อันนี้แม่เรายืนกำกับอยู่ เราก็หันมานวดแป้งกันคะ เอาแป้งข้าวเหนียว กับแป้งข้าวจ้าวตามสัดส่วนด้านบน ใส่ในกะละมัง แล้วเอาเนื้อตาลยี ๆ ใส่ลงไปคะ ยังไม่ต้องใส่น้ำนะคะ เพราะบางทีซื้อเนื้อตาลมาแล้วมันมีน้ำอยู่แล้ว เดี๋ยวจะแฉะไป ถ้าไม่พอดีเติมน้ำทีหลังได้คะ จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 31 ม.ค. 52 19:09:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นวด ๆ ขย้ำๆ กะๆ ดูว่ามันจะเนียนๆๆ เข้ากันหรือยัง ถ้าแห้งไปใส่น้ำเติมได้จ๊ะ เราใส่น้ำสะอาดเพิ่มไปประมาณ 1 ถต. จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 31 ม.ค. 52 19:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นวดจนแป้งออกเป็นลักษณะนี้คะ ลองปั้นๆ ดูว่ามันต้องไม่แห้งเกินไป ไม่งั้นมันปั้นไม่สะดวกมือนะ มันจะแตก ๆ ปั้นยาก จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 31 ม.ค. 52 19:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทีนี้ก็ปั้นเลยคะ ปั้นตัวอ้วน ตัวแบน ตัวใหญ่ ตัวหนาแล้วแต่ชอบเลย แต่เราเห็นในรูปที่ตลาดร้อยปีที่ทำขาย เขาปั้นลักษณะนี้ เราเลยเนียนๆ เลียนเขาซะเลย ^^" จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 31 ม.ค. 52 19:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พอปั้นเสร็จหม้อน้ำเชื่อมก็ได้ที่พอดี เราก็แบ่งน้ำเชื่อมใส่ไว้ในกะละมังสำหรับแช่ขนมคะ แล้วอีกส่วนที่เหลือก็อยู่ไว้ในหม้อเหมือนเดิมไว้สำหรับต้มตัวขนมคะ จริงๆ ขั้นตอนนี้ย่าเราบอกว่าเขาปั้นแป้งแล้วนำไปนึ่ง เสร็จแล้วค่อยดึงออกมาทีละตัวแช่น้ำเชื่อม แต่เราเคยทำแบบย่าเราบอก แต่มันออกมาหน้าตาประหลายมากมาย เราเลยขอทำแบบนี้ดีกว่า จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 31 ม.ค. 52 19:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น้ำเชื่อมสำหรับแช่ขนมถ้ามีผ้าขาวบางกรองสักนิดคงจะหน้าตาดีกว่าของเรา แต่เราขี้เกียจซะงั้น เลยดูไม่ใสเลย แต่หยวนๆ แล้วกันเน๊อะ ทีนี้ในหม้อที่มีน้ำเชื่อมเหลือไว้จากที่แบ่ง ผสมน้ำไปสัก 2 ถต. กะให้มันเจือจางไม่ต้องเข้มข้นเหมือนน้ำเชื่อมที่เราจะแช่ (อันนี้เราคิดของเราเองนะคะ แบบว่าบอกแล้วว่ามั่วจริงๆ) แล้วก็เอาตัวขนมที่เราปั้นลงไปต้ม เหมือนต้มเม็ดบัวลอยเลย ใส่ลงไปตอนแรกจะจม พอลอยก็จะสุก ก็ช้อนขึ้นจากหม้อ แล้วเอาใส่ในกะละมังที่เราเตรียมน้ำเชื่อมไว้แช่คะ จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 31 ม.ค. 52 19:16:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อันนี้เป็นตัวขนมที่แช่ทิ้งไว้ในกะละมังน้ำเชื่อมสักพักแล้ว แช่นานก็จะหวานมาก แช่น้อยๆ ก็จะหวานน้อยคะ แบบกะดูว่าให้มันอิ่มน้ำเชื่อมพอหรือยังประมาณนั้น จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 31 ม.ค. 52 19:17:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เสร็จแล้วคะ จัดใส่จานคลุกมะพร้าว พร้อมเสิร์ฟแล้วจ๊ะ ไม่ยากอย่างที่คิดเน๊อะ แต่อย่าลืมว่าเป็นสูตรมั่วเฉพาะของเราและที่บ้านนะจ๊ะ ต้นตำรับอาจจะผิดเพี้ยนกว่านี้นิดหน่อย แต่เราไม่รู้วิธีทำจริงๆ นะคะ เลยทำแบบนี้ดีกว่า รสชาดก็จะเป็นแบบมีกลิ่น+รส ของลูกตาล หวานหอมน้ำเชื่อม มันเค็มมะพร้าวคลุก เคี้ยวมัน กินเพลินเกินห้ามใจสุด ๆ เลยจ้า จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 31 ม.ค. 52 19:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ว๊าหมดซะและ กำลังเพลินเลย จากคุณ : jumka1980 - [ 31 ม.ค. 52 19:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ลาด้วยขนมไข่ปลาคำนี้นะจ๊ะ ปั้นใหญ่ได้ใจมาก ที่บ้านเราบอกกินตัวสองตัวมีจุก แต่เห็นกินกันคนละ 1 จานเล็ก ๆ ทั้งนั้นเลย พูดไป ชิๆ ถ้าใครรู้สูตรวิธีทำที่แน่ชัด โพสต์บอกเราในทู้นี้ด้วยน่ะจ๊ะ จะได้หัดทำตามวิธีต้นตำรับกับเขาบ้าง นี้มั่วตลอดเลยย แต่รสชาดดีเกินห้ามใจ (ชมตัวเองซะงั้น) จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 31 ม.ค. 52 19:24:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ปั้นแบบนี้หน้าตาไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่ แต่ดูท่าจะอร่อย จากคุณ : บายนา (บายนา) - [ 31 ม.ค. 52 19:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่เคยเห็นเลยค่ะ.... รู้อย่างเดียวว่าเนื้อลูกตาลเอามาทำ"ขนมตาล" ขนมไข่ปลาน่าทานมากๆเลย...ท่าทางจะหวานหอมกลิ่นลูกตาล ขอบคุณในความตั้งใจทำขนมมารีวิวให้ชมค่ะ... จากคุณ : Excuse..Me! - [ 31 ม.ค. 52 19:28:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต ขอบอกว่าน่ากินมาก คนทำก็ฝีมือสุดๆ จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) - [ 31 ม.ค. 52 19:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 16 น่าสนใจจังค่ะ ไม่เคยได้ยินชื่อ แต่ท่าทางน่าอร่อยค่ะ จากคุณ : Assorted - [ 31 ม.ค. 52 19:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นแล้วอยากกลับไปเที่ยวสุพรรณอีกจัง ขอบอกว่าขนมไข่ปลาอร้อยมาก หวานนิดๆ นุ่มลิ้น จากคุณ : สีส้มรุ่นหนึ่ง - [ 31 ม.ค. 52 20:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่เคยกินแต่ดูรูปท่าจะอร่อย อยากลองชิมจัง จากคุณ : R_may - [ 31 ม.ค. 52 20:06:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่เคยได้ยินชื่อ  ไม่เคยกิน   คุณจขกท. ทำได้น่าทานมากเลยค่ะ  เห็นแล้วอยากลองชิมจริง ๆ จากคุณ : Amber n the Gang - [ 31 ม.ค. 52 20:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ท่าทางอร่อยนะคะ จากคุณ : วาฬอันดามัน - [ 31 ม.ค. 52 20:28:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เก่งจังเลยครับ จขกท ท่าทางจะหอมมาก ๆ แล้วไม่เคยได้ยินชื่อเลยครับ ตอนอ่านหัวข้อก็เดาว่าเป็นแบบใหนนะ ขอบคุณที่แบ่งปันครับ จากคุณ : ไจแอนท์ (escortnotrequired) - [ 31 ม.ค. 52 20:36:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อิอิ เพิ่งจะเคยได้ยิน ได้เห็นจากกระทู้นี้ล่ะครับ ขอบคุณ จากคุณ : sakchai splash - [ 31 ม.ค. 52 21:01:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สาวสุพรรณมายืนยันอีกคนว่าอร่อยมากกกกกกกกกกกกก เมื่อก่อนที่ท้ายไร่จะมีต้นตาล แม่จะเก็บมาทำให้กินบ่อย ๆ ลูกตาลพอยีเอาเนื้อไปทำขนมหมดแล้ว เอาเม็ดมาล้างให้ขาวแล้วตากแดดให้แห้ง แล้วเอาไปทำเป็นต๊กตาเล่น เมื่อตอนเด็ก ๆ จากคุณ : meaw Hk - [ 31 ม.ค. 52 21:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อยากลองชิมของจริง  ๆ จังเลยค่ะ เจ๊หลีว่าคงหอมเนื้อตาลน่าชมเชียว จากคุณ : กิน ๆ เที่ยว ๆ - [ 31 ม.ค. 52 21:17:13 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เคยซื้อที่ตลาดสามชุก อ่ะค่ะ อร่อยดี เราชอบ แบบว่าไม่เคยเห็นเลยซื้อกิน เอากลับมากรุงเทพ เอามาเวฟต่อก็กินได้ จากคุณ : Mille-Feuilles - [ 31 ม.ค. 52 21:34:03 ]

ความคิดเห็นที่ 26 http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2007/11/D6034124/D6034124.html อันนี้คือลิงค์กระทู้เก่าเมื่อปีก่อนโน้นนนน เรามาโพสต์ลองถามไว้คะ แต่ไม่ค่อยมีคนรู้จักกันเท่าไหร่ สุดท้ายเราก็เลยลองมั่วๆ ทำแบบที่ทำมานี่หล่ะคะ ทำสัก 3-4 ครั้งได้แล้ว เอาไปให้ใครกินก็บอกว่าไม่เคยกินเลย อร่อยดี (แต่ถ้าเคยกินของต้นตำรับแล้วอาจจะไม่พูดแบบนี้ก็ได้ ฮาๆๆๆๆๆๆ) ยังยืนยันว่าเราปั้นใหญ่เกินไปจริงๆ เลยดูไม่น่ากินเหมือนของที่เขาขายที่สุพรรณ แต่ใหญ่ๆ ก็อร่อยน่ะะ เคี้ยวหนุบหนับดี ขอบคุณนะคะสำหรับคำชม ปลื้มมม ^____^ จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 31 ม.ค. 52 21:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ชอบมากๆค่ะ  รู้จักขนมชนิดนี้ตอนไปเที่ยวตลาดสามชุกค่ะ อร่อย หนึบๆ ติดใจมากๆๆ จากคุณ : dew_monamoji - [ 31 ม.ค. 52 22:08:21 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ชื่อแปลก แถมมีสีธรรมชาติน่าทาน อยากลองจังเลย..... จากคุณ : dar (dar_lik) - [ 31 ม.ค. 52 23:17:58 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมาก ๆ สำหรับวิธีทำขนม ที่ผมยังไม่เคยรู้จัก ใครอยากจะทำตามจะติดอยู่ตรง ลูกตาลยี นี่แหล่ะครับ น่าจะหายากสำหรับบางพื้นที่ ใครรู้ว่ามีขายที่ใดบ้างก็ช่วยบอกทีนะครับ จากคุณ : เต่าน้อย/taonoi_@hotmail.com (เต่าน้อย) - [ 31 ม.ค. 52 23:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ^ ใช่คะ ลูกตาลยี หาซื้อยากมากกกกกกกกกกกกก เวลาเราไปตลาดเทเวศน์ถามเขาก็ไม่มี ไปตลาดจังหวัดนนท์ ถามพวกแม่ค้าเขาก็บอกไม่เคยเห็น ที่ที่เราซื้อได้ประจำมีอยู่ที่เดียวคะ คือตลาดศาลาน้ำร้อน อยู่แถวๆ ทางรถไฟบางขุนนนท์ เมื่อเช้าไปเดินดูมีประมาณ 2-3 เจ้าคะ จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 1 ก.พ. 52 00:14:16 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณมากค่ะสำหรับสูตรดีๆ เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกค่ะ ชอบมากเลยค่ะ ขนมพื้นบ้านนี่แหละสุดยอดค่ะ จากคุณ : หนูแพม - [ 1 ก.พ. 52 01:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขนมแบบนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนน่าทานมากจ้า ขอบคุณที่นำมาให้ชม ขอจดสูตรนะ จากคุณ : อินทรีทองคำ - [ 1 ก.พ. 52 04:46:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เป็นอีกเมนูขนมไทยที่อร่อยมากค่ะ ป.ล.อยากทำทานเองนานแล้วแต่หาเนื้อผลตาลไมได้ จากคุณ : โอน่าจอมซ่าส์ - [ 1 ก.พ. 52 05:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 34 น่ากินจังค่ะ จากคุณ : เหมียว beautycats - [ 1 ก.พ. 52 06:42:01 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ต่อไปน่าลองจัดมินิทัวร์ ก้นครัว "ตามล่าหาลูกตาลยี" นะครับ ประมาณว่า นัดพลพรรครักการทำขนม อยากทำขนมไข่ปลาอันนี้ แล้วก็พาไปหาซื้อตาลยี พาไปหัดทำขนมกัน .......ฮะ ๆๆ สุดท้ายก็อร่อย และขนมไทยยังไม่สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้อีกด้วย สนับสนุนเลยครับ ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น ขออนุญาตแตกประเด็นแต่อยู่ในกระทู้นี้นะครับ ขอถามถึงขนมตาลด้วยครับ ทำจากลูกตาลยีเหมือนกัน ตอนเด็ก ๆ ผมกลับบ้านไปเยี่ยมยาย ยายก็เคยทำให้กินใช้ลูกตาลมายีเอง ส่วนผสมเนื้อตาลเข้มข้นสะใจ อร่อยมากที่สุดในโลก แต่เคยได้กินอยู่แค่ครั้งเดียว อืม ก็ครั้งเดียวจริง ๆ ครับ ปีหนึ่งจะกลับไปเยี่ยมยายเพียง 1 วันเท่านั้น หลังจากนั้นไม่เคยได้กินอีกเลย พอหลัง ๆ เคยเจอแม่ค้าฝีมือดีจากต่างจังหวัดทำมาขายในกรุงเทพ มีกินแล้วอร่อยบ้างเหมือนกัน แต่ระยะหลังกินไปจะเหมือนขนมถ้วยฟูซะมาก อาจจะเข้าใจผิดใส่ผงฟูไปแทนวิธีการทำดั้งเิดิมไปซะหมด จึงหากินของอร่อยไม่ได้ง่ายนัก ที่เคยเจอแบบโอเคหน่อยคือที่ หน้ารพ.ราชวิธีตีนสะพานลอยด้านจะข้ามไปดอกหญ้า นั่นมีการวางผลตาลประดับไว้ให้รู้ว่า ทำจากตาลของแท้จริง ๆ นะจะบอกให้ ก็ใช้ได้ครับ ใครผ่านไปลองไปกินกันดู อีกที่ดังระดับประเทศคือ ขนมตาลป้าไข่ ไม่แน่ใจว่าต้นกำเนิดอยู่ที่ตลาดดอนหวายหรือเปล่า แต่มีการส่งสินค้ามาขายในกรุงเทพมากมาย เดินไปไหน ๆ จะเจอและได้กินกันบ่อย ๆ ของป้าไข่จะค่อนข้างนุ่มนิ่มมาก ต้องยกนิ้วให้ในความนิ่มเอาไปเต็ม 10 แต่ความหอมของลูกตาลตามธรรมชาติจะมีน้อยมาก ๆ ผมให้คะแนนแค่ 6 คะแนนจากสิบเท่านั้น อาจจะเป็นเพราะลูกตาลหายากมั้ง หรืออาจจะต้องการทำให้ปริมาณมันมาก ๆ หรือเปล่าไม่แน่ใจ ผมจึงสรุปว่ายังไม่ใช่ขนมตาลที่อร่อยที่สุดในประเทศครับ ที่ยายผมทำอร่อยกว่าแน่นอน และถ้าป้าไข่อยากทำให้อร่อยที่สุดต้องเพิ่มเนื้อลูกตาลยีให้มากกว่านี้อีกเยอะ ๆ ครับ อาจจะทำเป็นสูตรพิเศษราคาแพงขึ้นอีกหน่อย ก็น่าจะได้ ทำขายจำนวนน้อยต่อวัน ใครรู้จักร้านป้าแก ช่วยนำข่าวไปบอกด้วยครับ จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง ถ้าในมินิทัวร์สอนทำขนมตาลด้วยก็เข้ากันดีเลยครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และตอบครับ ใครสนใจขนมตาลลองไปอ่านกระทู้ที่ผมค้นหาเจอครับ แบบนี้เลยครับที่ยายผมทำให้ทาน จะหวานหอมอร่อยมาก ๆ http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D7477383/D7477383.html#52 นี่แหล่ะขนมตาลของแท้แบบดั้งเดิม แบบบ้านนอก ๆ สุดยอดมาก ๆ ดูจากสีสันได้ครับ ของป้าไข่สีเหลืองจะอ่อนเท่านั้น หรือถ้าจะเข้มในบางเจ้าจะใส่สีผสมอาหาร แต่โบราณไม่ได้ใส่สีเลยครับ จากคุณ : เต่าน้อย/taonoi_@hotmail.com (เต่าน้อย) - [ 1 ก.พ. 52 08:55:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 น่ากินจัง วันนี้ดีใจที่ได้รู้จักขนมไทยเพิ่มอีกอย่างค่ะ จากคุณ : Regenbogen ^_^ - [ 1 ก.พ. 52 19:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ที่ศาลาน้ำร้อน มีลูกตาลยีขายแทบจาทุกวันอะ..เพราะเราไปทีไรก็เจอนะ จะอยุ๋ตรงแถวเดียวกับพวกร้านขายกล้วย เผือก มัน ฝั่งติดถนนที่มาจากพรานนก มุ่งหน้าขึ้นอรุณอมรินทร์ ถุงนึงเยอะอะค่ะ ราคาไม่แพง เราเห็นทีไรก็อยากซื้อ แต่ทำขนมตาลไม่เป็นเลยไม่รู้จาเอาไปทำไร ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ ทำให้มีเมนูขนมใหม่ๆไว้ลองทำอีก1เมนู ค่า^^ จากคุณ : ตาลสด - [ 2 ก.พ. 52 09:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 38 น่ากินจังเลยค่ะ เคยได้มีโอกาสกินหนนึงที่สามชุก หลังจากได้ลองครั้งนั้นก็ติดใจมากเลยจนตอนนี้ เลยอดไม่ได้ที่จะเข้ามาดูสูตรเซฟไว้เผื่อให้ผู้ใหญ่ที่บานทำให้หม่ำ หุ หุ ขอบคุณมากนะคะ แต่ที่เราเคยกินอ่ะ จะมีอีกสีด้วยค่ะ เป็นสีขาว ๆ เค้าบอกว่าเป็นเผือกค่ะ อร่อยไม่แพ้กันเลย คิดว่า แบบเผือกคงประยุกต์ของร้านเค้าเองแหง ๆ เลยค่ะ จากคุณ : รัตติกัลยา - [ 2 ก.พ. 52 11:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 39 น่าทานจังค่ะ จากคุณ : PiN.VE - [ 2 ก.พ. 52 12:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 40 น่าหม่ำอะ ไม่เคยเห็นเลยอะพี่น้อง จากคุณ : ผึ้งตัวกลม - [ 2 ก.พ. 52 16:38:00 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อ่า เคยลองทานอะ ตอนนั้นไปเดอะมอลบางกะปิ แล้วมีเทศกาลอาหารมั้ง อร่อยมากๆ เราก็เห็นเค้าทำแป้งแล้วเอาไปต้มในน้ำเชี่อมแบบ จขกท ทำเลย แล้วก็เอามาแช่ในน้ำเชื่อมอีกรอบ อร่อยมาก ตอนนี้ไม่รุ้จะไปหาซื้อกินที่ไหน จากคุณ : หมาน้อยจมูกแดง - [ 3 ก.พ. 52 22:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ดีใจจังที่ขนมนี้กำลังเป็นที่รู้จัก นี่เป็นขนมสุดโปรดของเราเลยนะ ตอนเด็ก ๆ นี่จะทานบ่อยมาก ๆ เป็นขนมโปรดเลยอ่ะ พอโตมาไม่ค่อยได้ทานเพราะเรียนและก็ทำงานอยู่กทม. เห็นแล้วก็อยากทานอ่ะ ทำได้น่าทานมาก ๆ เลยค่ะ ขนมไข่ปลาที่เราเคยทานนี่ เขาจะปั้นเป็นวงกลม ยาวนิด ๆ แล้วตรงกลางเป็นรูนะคะ คล้าย ๆ โดนัทน่ะค่ะ แต่ขนาดจะเล็กกว่า จะไม่ได้ปั้นแบบนี้ คิดว่าการปั้นแบบนี้น่าจะเป็นแบบสมัยใหม่นะคะ เพราะจะปั้นได้เร็วกว่าแบบเดิม แค่ปั้นเป็นเส้น ๆ แล้วก็นำมาบรรจบกัน แต่แบบเดิมต้องปั้นให้กลม ยาวและมีรูตรงกลาง เห็นขนมไข่ปลาแล้วก็นึกถึงขนมอีกอย่างหนึ่งที่เราโปรดไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ขนมขี้หนูหรือขนมขุยหนู (เราเรียกว่าขนมขุยหนูอ่ะ) ไม่แน่ใจว่าเป็นเอกลักษณ์ของสุพรรรณฯ หรือเปล่านะคะ เพราะตอนเด็ก ๆ ที่เราทานเนี่ย เรารู้สึกว่าขนมขุยหนูคล้ายขนมตาลเลย แต่เป็นขุย ๆ เราว่าอร่อยกว่าขนมตาลอ่ะ เคยถามแม่ แม่เราก็บอกว่ามีส่วนผสมของตาลด้วย แต่พอโตมาเราเคยเห็นขนมขี้หนูตามเว็บต่าง ๆ ที่หลาย ๆ คนมาสาธิต กลับไม่มีส่วนผสมของตาลเลย สีของขนมก็มีหลายสี เราก็ยังนึกอยู่ว่า เอ...หรือว่าเราจำผิดนะ แต่อีกใจหนึ่งก็มั่นใจว่ามีส่วนผสมของตาลอ่ะเพราะรสชาติและความหอม แถมขนมขุยหนูที่เคยทานในวัยเด็กก็มีสีเดียวคือสีเหลือง อืม...ใครพอจะทราบบ้างไหมคะ (ต้องขอโทษจขกท.ด้วยนะคะที่มาออกนอกเรื่อง) จากคุณ : คนสุพรรณฯ จ้า - [ 5 ก.พ. 52 03:15:01 A:74.14.88.100 X: TicketID:189530 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ^ ตอบคุณคนสุพรรณฯ จ้า เราถามย่าเราเมื่อกี้นี้ ย่าเราบอกว่าขนมขุยหนูที่คุณพูดถึงที่ย่าจำได้ ย่าเราก็เคยกินแบบที่คุณบอกมาเหมือนกันคะ เป็นเหมือนใส่ลูกตาล แต่ย่าเราทำไม่เป็นจ้า แถมยังบอกว่าพอมาอยู่ กทม. เห็นแต่ขี้หนูแบบเป็นสีๆ แต่จุดประกายให้เราเตรียมไปมั่วสูตรอีกแล้ว ไว้โอกาสหน้าถ้าเรามีลูกตาลยี เราจะลองมั่วสูตรขนมขุยหนูสูตรสุพรรณอีกรอบนะจ๊ะ ย่าเรายิ้มแก้มปริเลย เราอ่านกระทู้นี้ให้ฟัง ^_______^ จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 7 ก.พ. 52 16:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณมาก ๆ ค่ะคุณฉันจะรักตัวฉันเอง และฝากขอบคุณคุณย่าด้วยนะคะ แม่เราก็ไม่ทราบสูตรขนมขุยหนูเหมือนกันค่ะ น่าเสียดาย คิดถึงรสชาติขนมขุยหนูแบบสุพรรณ ฯ จัง เราว่าอร่อยกว่าขนมขี้หนูแบบหลากสีอ่ะค่ะ ปล. แล้วเราจะรอชมขนมขุยหนูนะคะ จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 8 ก.พ. 52 07:10:00 A:74.14.88.100 X: TicketID:189530 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ู^ -"- ตอนแรกแอบงงว่าเรามาตอบทู้เองหรือไงหว่า? ใช้ชื่อเดียวกันเลย อิอิ เอาเป็นว่าถ้าเรามั่วสูตรขนมขุยหนูสำเร็จ เราจะเอามาโชว์แน่นอนคร๊าาาา เลือดสุพรรณรุนแรง(แม้จะเจือจางไปบ้างแล้วก็ตามจ้าา) จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 9 ก.พ. 52 11:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ต้องขอโทษคุณฉันจะรักตัวฉันเองมาก ๆ เลยค่ะ เราไม่ได้ตั้งใจจะนำชื่อของคุณฉันจะรักตัวฉันเองมาใช้เลยค่ะ สงสัยเราจะเบลอ ตอนแรกก๊อปชื่อมาเพื่อจะวางตรงช่องความคิดเห็นค่ะ แล้วเผลอไปวางตรงช่องให้ใส่ชื่อไปด้วย แล้วตอนส่งข้อความก็ลืมเข้ามาอ่านเช็คความถูกต้อง เราเพิ่งจะเห็นก็ตอนคุณฉันจะรัก ฯ ทักนี่แหละค่ะ ขอโทษอีกครั้งค่ะ จากคุณ : คนสุพรรณ ฯ จ้า - [ 10 ก.พ. 52 02:02:37 A:74.14.88.100 X: TicketID:189530 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ^ โอ๊ยย ไม่เป็นไรจ้า ไม่ต้องคิดมากน่ะตัวเอง ยังยืนยันว่าจะพยายามมั่วขุยหนูใ้ห้ได้คะ จากคุณ : ฉันจะรักตัวฉันเอง - [ 11 ก.พ. 52 00:23:01 ]