ความคิดเห็นที่ 1 ปาดค้าบบบบบบบบบบบบ จากคุณ : =เด็กเอ๋ยเด็กดี= - [ 6 ก.พ. 52 10:01:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอไม่เล่าถึงประวัติชอคโกแลตนะครับ เอาเป็นว่า ชอคโกแลตที่เรากินๆกันอยู่นี้ มีที่มาจากผลโกโก้ครับ ยืมรูปต้นโกโก้มาจาก www.chocolate-world.net จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 10:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณ=เด็กเอ๋ยเด็กดี=    หวัดดีครับหนูขวัญ...มากินชอคโกแลตด้วยกันครับ ... อ้าวลืมแปะรูปซะงั้นครับ เอิ๊กๆๆ ต้นโกโก้ปลูกได้ดีในแถบร้อนชื้น อย่างแถวๆเส้นศูนย์สูตรครับ เชื่อกันว่าต้นกำเนิดโดยชาวAztec ที่ปลูกและคิดค้นวิธีเอาผลโกโก้มาใช้ประโยชน์ มาเริ่มแพร่หลายจริงๆก็ราวๆ คศ1500 เมื่อมีการเปิดเผยถึงกรรมวิธี เพาะบ่ม คั่ว และชงเป็นเครื่องดื่ม ทำให้ยุโรปตื่นตัวกับเครื่องดื่มของพระเจ้า นี้ขึ้นมา ยุคนั้นเครื่องดื่มที่ชงจากโกโก้ ยังไม่ได้หน้าตาดีและชงสะดวกเหมือนที่พวกเรากินทุกวันนี้นะครับ ใครอยากหาข้อมูลเพิ่มเติม ข้อมูลเหล่านี้มีทั่วไปตามอินเตอร์เนทครับ แหะๆ ผมจะได้ไม่เล่าซ้ำน่ะครับ(จบดื้อๆเนอะ) จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 10:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผลโกโก้ที่ได้..เมื่อผ่าออกจะเห็นว่ามีเมล็ดข้างในเขาต้องเอาเมล็ดเหล่านี้ มาบ่ม มาคั่ว (อย่างที่เกริ่นไว้ตอนที่แล้วว่าคล้ายๆกับการคั่วเมล็ดกาแฟนะครับ) เพื่อให้ได้ความขม หรือกลิ่นที่ถูกใจนั่นเอง เมื่อได้เมล็ดโกโก้ที่ผ่านกรรมวิธีข้างต้นมาแล้ว ก็นำเข้าโรงงาน แต่ละโรงงานจะสั่งของมาจากหลายที่ หรือที่เดียวก็สุดตามแต่ ตรงนี้จะเป็นอีกหนึ่งจุดที่เกิดความแตกต่างของชอคโกแลตแต่ละยี่ห้อครับ บ้างก็ผสมโกโก้พันธุ์นั้นเข้ากับพันธุ์นี้ หรือว่าเอาจากถิ่นนั้นผสมเข้ากับถิ่นนี้ แต่พวกที่คัดเลือกเฉพาะพันธุ์ดีๆ หรือจากถิ่นดีๆที่ต้องประคบประหงมพิเศษ จะประทับตราว่า Grand Cru ครับ (แปลได้คล้ายๆกับคำว่า พรีเมียม นั่นเอง) ขอบคุณภาพจาก www.amstelproduct.nl และ google.com เจ้าเก่าครับ จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 10:14:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปาดดด้วยค่ะ จากคุณ : อาโฮเฮะ - [ 6 ก.พ. 52 10:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มาชมผลโกโก้ด้วยค่า จากคุณ : ที่บ้านมีแมวตั้ง 7 ตัว - [ 6 ก.พ. 52 10:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อผ่านกรรมวิธีเพาะบ่ม ทำความสะอาด ตากแห้ง บรรจุกระสอบส่งโรงงานเรียบร้อย ก็ผ่านเข้าเครื่องบดครับ โดยจะได้เปลือก(ทิ้ง) กับโกโก้นิ้บ(เอาไปทำชอคโกแลตต่อ) โกโก้นิ้บหรือเมล็ดในที่บดแล้ว หากนำไปบดละเอียดจนกลายเป็นของเหลวนั้นจะเรียกอีกชื่อว่า Chocolate Liquor ครับ Chocolate Liquor นี่ไม่ใช่เหล้านะครับ แต่หมายถึงชอคโกแลตเหลว ที่ประกอบไปด้วยเนื้อจากเมล็ดในโกโก้และเนยโกโก้ เรียกอีกอย่างได้ว่า Unsweetened Chocolate ตรงนี้ใครที่อยากได้ anti-oxidant สูงๆ...กินนี่ได้เลยครับ ขมหน่อย แต่ไม่มีน้ำตาลเจือปนครับ รับรองได้เต็มๆ จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 10:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มามุงช๊อคโกแลตของชอบค่า :-)) จากคุณ : Rudmilla - [ 6 ก.พ. 52 10:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ชอบกินโกโก้มากกว่าโกฮับอีก...เนอะ @^^"@ จากคุณ : เฮียแมว - [ 6 ก.พ. 52 10:37:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เฮีย ไม่ไปกระทู้เตยอะ มีให้เจาะไข่แดงด้วยนะเอ้า จากคุณ : อาโฮเฮะ - [ 6 ก.พ. 52 10:38:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาฟังด้วยคน.. จากคุณ : ร้อยเรียงเคียงคำ - [ 6 ก.พ. 52 10:38:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นผลโกโก้ครั้งแรกนึกว่าเป็นมะละกอค่ะ  555 เมื่อก่อนชอบชอคฯ  เดี๋ยวนี้นานมากกว่าจะทานสักครั้ง  ^^ จากคุณ : COCOSWEET - [ 6 ก.พ. 52 10:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณอาโฮเฮะ    สวัสดีตอนเช้าคร้าบบ คุณที่บ้านมีแมวตั้ง 7 ตัว    สวัสดีคร้าบบผม ชื่อน่ารักเชียวครับ...ผมก็มีผลิตภัณฑ์ชอคเจ็ดอย่างครับ อิอิอิ เลียนแบบซะเลย ******************************************************************* ชอคโกแลตแบ่งด้วยตาคร่าวๆ คงได้สามสี สีน้ำตาลเข้ม-สีน้ำตาลอ่อน-สีเหลืองขาว แต่เราไม่ได้แบ่งอย่างนั้นครับ เราแบ่งด้วยระดับโกโก้ลิเคอร์ ในส่วนผสมของชอคโกแลตแต่ละชนิดครับ Unsweetened Chocolate พวกนี้จะมีปริมาณชอคโกแลตลิเคอร์ 100% ก็คือข้างต้นนั่นเอง Sweetened Dark Chocolate อันนี้จะเป็นอันที่เราคุ้นเคยและหาซื้อกันง่ายตามท้องตลาดครับ แต่ก่อนเรียกกันเป็นชื่อ แต่ตอนหลังนิยมระบุจำนวนเปอร์เซนต์แทนเพื่อจะได้เข้าใจตรงกัน ปริมาณเปอร์เซนต์ที่บอกกำกับแต่ละชนิดของชอคโกแลต คือปริมาณโกโก้ลิเคอร์นั่นเอง สมมติว่า 55% ก็แสดงว่าชอคโกแลตชนิดนี้ 100 กรัม จะประกอบไปด้วยชอคโกแลตลิเคอร์ 55 กรัม น้ำตาลและสารอื่นๆอีกรวมแล้ว 45 กรัม ชอคโกแลตสีเข้มที่เป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักทำขนมนี้จะแบ่งเป็น   Extra Bitter Sweet Chocolate 70%+   Bitter Sweet Chocolate 50%+   Semi Sweet Chocolate 35%   Sweet Chocolate 15-35% Milk Chocolate ชอคโกแลตชนิดนี้จะมีสีน้ำตาลอ่อน และรสหวานมากกว่าสองชนิดบนจนเห็นได้ชัด ชอคโกแลตนมประกอบไปด้วย ชอคโกแลตลิเคอร์ 10% + นมผงอย่างต่ำ 12% จะเห็นได้ว่าสูตรทำขนมอบทั่วๆไป ไม่ค่อยมีใครใช้ชอคโกแลตนมเป็นชิ้นๆ เนื่องจากนมผงหรือผลิตภัณฑ์จากนมไวต่อความร้อน ประกอบกับปริมาณน้ำตาลที่มากในชอคโกแลตชนิดนี้ ทำให้ชอคโกแลตไหม้ก่อนที่ขนมส่วนอื่นๆจะสุก เว้นเสียแต่ว่าละลายให้เข้ากับส่วนผสมโดยทั่วไป แต่นั่นก็หมายถึงรสชาติชอคจะอ่อนตัวลงไปอีกด้วยครับ แล้วชอคโกแลตนมเหมาะกับอะไรหรือครับ? เหมาะกับการกินเล่น ทำเป็นบาร์ หรือว่าเอาไว้เคลือบนู่นนี่ อย่างที่เราซื้อกิน กันตามท้องตลาดนั่นเองครับผม White Chocolate ชอคโกแลตสีขาวที่หลายๆคนชอบเพราะมันไม่ขมนี่เอง..จริงๆบางตำราไม่นับว่าเป็นชอคโกแลตด้วยซ้ำนะครับ เพราะประกอบไปด้วยเนยโกโก้(อย่างน้อย 20%) ผลิตภัณฑ์นม(14%) และน้ำตาล(55%) อ๊ะๆ ๆอย่าสับสนกับ White Confectionery Coating หรือชอคโกแลตขาว(เทียม)นะครับ ตัวหลังนี่ แม้กระทั่งเนยโกโก้ก็ไม่มีครับ เพราะใช้ไขมันพืชคล้ายๆเนยขาว มาใส่แทน ทำให้ราคาถูกลงมาเยอะ แล้วแต่งกลิ่นให้คล้ายๆกันเท่านั้นเอง จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 10:49:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณRudmilla    ขอบคุณครับ หยิบจกตามสบายนะครับ คุณเฮียแมว    สวัสดีคร้าบเฮียแมว กินโกโก้นี่...น้ำลายจะสอเป็นพิเศษตอนคนอื่นยื่นให้แล้วบอกว่า "อ่ะ โกโก้" ครับเฮีย คุณอาโฮเฮะ     ตามไปเจาะโลดดดดดดครับ เอิ๊กๆ คุณร้อยเรียงเคียงคำ    ยินดีคร้าบ คุณCOCOSWEET    สวัสดีคร้าบบบบป๋ม อ้าว...รีบไปนิดครับ ขออภัยด้วย ******************************************************************* และที่ขาดไม่ได้อีกตัวเอกคือ Cocoa Powder ผงโกโก้ มาจากเจ้าชอคโกแลตลิเคอร์นี่ล่ะครับ ที่นำไปผ่านกระบวนการแยกเนยโกโก้ออก จะได้เป็นส่วนของแห้งคล้ายๆดิน เมื่อนำไปอบแห้งและบดให้ละเอียดจะได้ผงโกโก้ครับ แบ่งคร่าวๆ...จะเห็นว่ามี -ผงโกโก้แบบธรรมชาติ -ผงโกโก้แบบศัลยกรรม (อ๊ะ) ตามท้องตลาดครับ แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 11:42:53 จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 11:00:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มาเรียนหนังสือเรื่องโกโก้ด้วยคนครับน้องบอล อยากได้ coco butter เหมือนกัน ชอบของขมๆ หุหุ จากคุณ : Banx - [ 6 ก.พ. 52 11:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เดี๋ยวอีกชั่วโมงหนึ่งมาต่อให้นะครับ งานเข้าแฮะ เฮ้ออออออ จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 11:01:42 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาเก็บเกี่ยวความรู้ด้วยคนจ้า จากคุณ : Goizd - [ 6 ก.พ. 52 11:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ยังรออ่านนะค๊า ว่าแต่พิมพ์ชื่อเค้าแล้วไม่พิมพ์ไรต่อเลยเหรอคะ แหะๆ    ; P จากคุณ : COCOSWEET - [ 6 ก.พ. 52 11:10:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มารออ่านต่อด้วยคนครับน้องบอล จากคุณ : เต๋อ 00 - [ 6 ก.พ. 52 11:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เค้าบอกว่าตอนนี้ต้นโกโก้กำลังโดนไวรัสค่ะ และจะส่งผลให้ โกโก้จะขาดตลาดในไม่ช้าค่ะ ราคาจะสูงขึ้นอย่างแรงงงงง เศร้าใจเลย จากคุณ : ฟองดู - [ 6 ก.พ. 52 11:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มามุงด้วยคนค่ะ จากคุณ : tiffy_tif - [ 6 ก.พ. 52 11:48:04 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เมืองไทยก็มีการปลูกโกโก้ครับ ...แต่เรื่องมันเศร้า...ไม่เล่าดีกว่า ^^" ใครอยากเห็นต้นจริง ลูกจริง...ยังหาชมได้นะครับ @^^@ จากคุณ : เฮียแมว - [ 6 ก.พ. 52 11:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณBanx    สวัสดีคร้าบพี่แบงค์ แง่มๆ ๆ นี่ก็ต้องเปิดตำราตอนเรียนเหมือนกันครับ แหะๆ ร้างรามานานครับ คุณGoizd    เชิญคร้าบ คุณCOCOSWEET    เอิ๊กๆ ๆ แก้ตัวไม่ขึ้นครับ...กำลังกดรับโทรศัพท์ตกใจกับข่าวว่าต้องรีบเอาของไปส่ง เลยกดแปะไปเลยครับ ขอโทษด้วยการพามากินโกโก้กันต่อนะครับ แหะๆ ๆ คุณเต๋อ 00    สวัสดีคร้าบบบพี่เต๋อ คุณฟองดู    เง้อออออ โดนทุกภูมิภาคเลยหรือเปล่าครับนี่? น่าเสียดายจัง ขอบคุณมากครับผม งั้นผมก็ควรจะดีใจที่กินตุนมาตลอดแล้วช่ายไหมครับ? อิอิอิ ******************************************************************* ถึงตอนนี้ใครเก่งเคมีช่วยผมด้วยคร้าบบบบบบบบบบ ผงโกโก้ที่ได้จากการแบ่งตัวออกมาจากเนยโกโก้นั้น..เราเรียกว่าโกโก้ธรรมชาติครับ มีรสชาติเข้มข้น แม้ว่าสีจะซีดๆ จืดไม่เข้มข้นเท่าอีกแบบ มีความเป็นกรดอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นสูตรขนมอบที่ใช้โกโก้ชนิดนี้ประกอบ จะต้องเห็นเบกกิ้งโซดา (Baking Soda) เข้ามาร่วมด้วยครับเพื่อปรับสภาพความเป็นกรดให้อ่อนลง ขั้นตอนนี้เรียกเบกกิ้งโซดาว่าเป็นตัวอัลคาไลซ์ นั่นเอง ชื่ออื่นๆที่หมายถึงโกโก้ชนิดนี้ได้แก่ cocoa powder, non-dutched cocoa, natural cocoa เพราะมีนักวิทยาศาสตร์ชาวดัชต์ นามคุ้นๆว่า Coenraad van Houten ทำการปรับสภาพโกโก้ที่ว่าให้เป็นกรดน้อยลงด้วยการเติมสารอัลคาไลลงไป โกโก้ที่ผ่านศัลยกรรมนี้จึงมีชื่อเรียกว่า โกโก้แบบดัชต์ เพื่อเป็นการยกย่องผู้"อุตส่าห์" คิดกรรมวิธีทำให้โกโก้มีค่ากรดน้อยลงครับ โกโก้แบบผ่านขบวนการนี้ จะมีสีเข้มขึ้น ดูแล้วน่ากินกว่าโกโก้แบบแรกเสียอีกครับ ทว่าอย่าเพิ่งโดนหลอกครับสีที่เข้มขึ้น บางยี่ห้ออาจจะสีออกแดง บางยี่ห้อสีออกดำ แต่ไม่ได้หมายความว่ารสชาติจะเข้มข้นขึ้นนะครับ เพราะผ่านการขบวนการเคมีมาเลยทำให้รสชาติของความเป็นชอคโกแลตอ่อนตัวลง แถมยังมีรสชาติออกแนวๆวิทยาศาตร์ แบบเหมือนกินอะไรเคมีๆอีกด้วยครับ ชื่อเรียกโกโก้แบบนี้มักมีคำว่า Dutch cocoa, Dutch process cocoa, Alkalized cocoa ผงโกโก้ก็เหมือนระดับของชอคโกแลตที่ยังมีการแบ่งระดับปลีกย่อยลงไปอีกนอกจากแบ่งตามขบวนการข้างต้นแล้ว ด้วยเปอร์เซนต์ของความเข้มข้นของไขมันที่เหลืออยู่ในผงโกโก้ครับว่าไขมันต่ำ10-12% ไขมันสูง20-22% การเลือกใช้ผงโกโก้ในสูตรทำขนม มีหลักง่ายๆครับ ถ้าสูตรขนมอบนั้นมีผงฟูเป็นตัวทำฟูหลักๆ ไม่มีโซดาหรือเบกกิ้งโซดาให้ใช้โกโก้แบบดัชต์ เพื่อที่จะได้ขนมสีออกมาเข้ม แต่ถ้าจะมีส่วนของเบกกิ้งโซดาปนอยู่ในสูตร แสดงว่าเขาต้องการจะปรับค่ากรดของโกโก้แบบธรรมชาติ จึงให้เดาว่าสูตรนั้นต้องการใช้โกโก้แบบแรกครับ ทั้งนี้....อ่ะแฮ่มๆ การใช้แบบผสมก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเนื่องจาก ตัวนึงดีเด่นเรื่องรสชาติ อีกตัวหนึ่งดีเด่นด้านสีสัน จึงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของศิลปินนักเล่นแร่แปรธาตุขนมอบทั้งหลายแล้ว ว่าจะเลือกใช้ตัวไหนกันครับ ข้อควรระวังในการเล่นแร่แปรโกโก้นี้ คือ...ถ้าสูตรไหนต้องการให้ใช้โกโก้แบบแรก(แบบธรรมดา) คือมีผงโซดาในการช่วยฟูและปรับสภาพอยู่ แล้วเราไปใช้โกโก้แบบที่สองคือแบบผ่านกระบวนการมาแล้ว เท่ากับเราเติมอัลคาไลซ์ ลงไปปรับสภาพโกโก้อีก ขนมที่ได้จะรสชาติแนวเคมี เหมือนได้กินสบู่เลยล่ะครับ น่าสนใจดีไหมเอ่ย? อิอิอิ ตารางเทียบค่าการใช้ เบกกิ้งโซดา เพื่อปรับความเป็นกรดในสูตรขนม ยืมมาจากตำรา professional baking, โดย gisslen ครับ                                                         ปริมาณเบกกิ้งโซดาในสูตร/1กิโล --------------------------------------------------------------------------------- ผงโกโก้                                                                       80 กรัม ผงโกโก้(แบบดัชต์)                                                         0  กรัม ชอคโกแลตแบบขม                                                        50 กรัม ชอคโกแลตแบบหวาน                                                     25 กรัม แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 52 05:51:20 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 52 12:10:06 จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 12:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณtiffy_tif    เชิญคร้าบบ คุณเฮียแมว    เอ๋.....ถ้าไปหาชมแล้ว เขาจะมีเรื่องเล่าให้ด้วยไหมครับเฮียครับ? ชักอยากรู้ครับ ******************************************************************* ส่วนผงโกโก้สำหรับชงดื่ม ที่เรารู้จักกันในนามยี่ห้อ ไมโล โอวัลติน แวนฮูเตน กีลาเดลลี่ วาโรน่า ฯลฯ นั้น แท้จริงคือผงโกโก้ ผสมน้ำตาล ผสมนมผง(แล้วแต่ยี่ห้อ) หรือผงมอลต์ลงไปครับ ว่าแล้วนึกถึงสูตรสมัยเด็กๆ ที่เอาผงไมโลหรือโอวัลตินผสมนมข้น แล้วเอาไว้ราดไอศกรีม หรือทาขนมปังปิ้ง เฮ้อ..แค่คิดก็ยอมอ้วนรอได้เลยครับ จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 12:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เฮีย เหล้าหน่อยดิ อยากรู้ 55555 จากคุณ : เต๋อ 00 - [ 6 ก.พ. 52 12:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เนยโกโก้ที่ได้จากการแยกกับผงโกโก้นั้น นอกจากสำคัญต่อวงการกินอย่างห้องก้นครัวแล้ว ยังสำคัญต่อห้องโต๊ะเครื่องแป้งด้วย เพราะเป็นส่วนประกอบสำคัญในเครื่องสำอางค์หลายชนิดครับ เนยโกโก้นี้เมื่อนำมาเพิ่มในส่วนของการผลิตชอคโกแลตแบบหวาน ไม่ว่าจะสีเข้ม แบบมีนม หรือแบบสีขาว จะทำให้ชอคโกแลตพวกนี้มีลักษณะเหลวไหลลื่นกว่าชอคโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มเนยโกโก้ลงไป ทำให้รสสัมผัส ความนุ่ม การละลายในปาก และความอร่อยในชอคโกแลตเพิ่มมากขึ้นครับ ไม่แน่ใจว่าที่เมืองไทยเริ่มมีแยกขายหรือยังนะครับ เนยโกโก้ สีจะออกขาวๆ เป็นไขๆ เหมือนใครทำชอคโกแลตแล้วแยกตัวเป็นชั้นไขมันลอยอยู่ข้างบน พอนำเข้าตู้เย็นแล้วจะเป็นชั้นเนยสีขาวเกาะอยู่ นั่นล่ะครับผม เมื่อเราเห็นแล้วว่า...ชอคโกแลต แยกมาเป็น โกโก้ กับเนยโกโก้ เราจะก็สามารถปรับเปลี่ยนผงโกโก้แทนชอคโกแลต หรือชอคโกแลตแทนผงโกโก้ได้แล้วนะครับ โดยมีสูตรคร่าวๆดังนี้ การใช้โกโก้แทนชอคโกแลต    ปริมาณโกโก้ = น้ำหนักชอคโกแลตในสูตร x 0.625    ปริมาณเนย หรือไขมันคล้ายคลึง(เช่นเนยขาว หรือเนยโกโก้) = น้ำหนักของชอคโกแลตในสูตร x 0.187    (หรือจะพูดให้ซับซ้อน ก็คือ ค่าเฉลี่ยนผลต่างจากน้ำหนักผงโกโก้กับชอคโกแลตเติม นั่นเอง แต่ผมเขียนไปงงไป เลยเอาแบบจุดทศนิยมมาให้ใช้กันดีกว่าน่ะครับ)          เช่นสูตรต้องการชอคโกแลต 1 กิโลกรัม (เท่ากับ 1000กรัม)          ต้องใช้โกโก้              1000 x0.625 = 625 กรัม          ต้องใช้เนยเพิ่มในสูตร  1000 x0.187 = 187 กรัม การใช้ชอคโกแลตแทนโกโก้    ในทางกลับกัน ใครไม่มีผงโกโก้ ก็ลองวิธีนี้ดูครับ    ปริมาณชอคโกแลต = น้ำหนักผงโกโก้ x 1.6    ปริมาณเนยหรือไขมันในสูตรที่ต้องลดลง = น้ำหนักของชอคโกแลตที่ใช้ x 0.19 โดยประมาณ          เช่นสูตรต้องการใช้โกโก้ 1 กิโลกรัม (เท่ากับ 1000กรัม)          ต้องใช้ชอคโกแลต              1000 x1.6 = 1600 กรัม          ต้องใช้ลดเนยในสูตร           1600 x0.19=  304 กรัม แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 52 06:03:42 แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 52 05:45:08 จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 12:25:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณเต๋อ 00    ฮ่าๆ ผมโซดาพร้อมครับพี่เต๋อ เผื่อเฮียแมวคอแห้ง ******************************************************************* ชอคโกแลตแบบอื่นๆ เมื่อชอคโกแลตถูกเติม เนยโกโก้สูงถึงระดับหนึ่ง คือประมาณ 32-39% และผ่านขั้นตอนในการแปรรูปอีกนิดหน่อย จะทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีอนุภาคของน้ำตาลเล็กลง เป็นครีมเนียนนุ่ม รสชาติดีขึ้นมากๆ จนเขาต้องจัดให้พวกชอคโกแลตนี้อยู่อีกชื่อหนึ่งครับว่า เป็น Couverture Chocolate ข้อดีนอกจากจะเป็นเรื่องรสชาติแล้ว ยังมีความเป็นของเหลวมากกว่าชนิดอื่นๆจึงนิยมใช้ในการเคลือบทรัฟเฟิล หรือทำงานชอคโกแลตเพื่อโชว์เพราะสะดวกในการละลาย และจัดเรียงโมเลกุลครับ (temper) จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 12:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 28 หรือคอมโบระหว่างชอคโกแลตกับถั่วคั่วอย่างอัลมอนด์ หรือเฮเซลนั้นก็จะมีชื่อเรียกว่า Gianduja (อ่านว่า จอห์นดูยา)  ที่เห็นง่ายๆน่าจะเป็นนิวเทล่าครับ แม้จะไม่เข้าข่ายเสียทีเดียวแต่ผมก็เอามายกตัวอย่างจะได้นึกรสชาติของคู่นี้กันออกครับ จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 12:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผสมโซด้วยนะ @^^@ นิยายเรื่องเก่า ๆ ของประเทศนี้น่ะ กาลครั้งนึง...มีคนหัวคิดดีอยากให้คนในแถบบ้านตัวเองปลูกพืชที่ให้ราคาดี คนนั้นก็เลยคุยกับชาวญี่ปุ่นซึ่งอาสาจะรับซื้อผลผลิตของ...โกโก้ทั้งหมดเพื่อส่งออก ชาวบ้านก็เลยลองปลูกกันเยอะ...แล้วก็เจริญเติบโตงอกงามดีและติดผลมากด้วย ชายคนที่เป็นผู้นำในการคิดปลูกก็กำลังจะประสบความสำเร็จในโครงการนี้ และชาวบ้านก็หวังในเรื่องนี้มาก แต่...งานนี้ก็ไปขัดหูขัดตาผู้มีอิทธิพลแถบนั้นเข้าเต็ม ๆ เปรี้ยง ๆ ๆ ๆ ๆ !!!!! ...ผู้นำโดนฆ่าทิ้งเหมือนหมาข้างถนน...ญี่ปุ่นก็กลัวเลยยกเลิกทุกอย่าง ชาวบ้านฟันโกโก้ทิ้ง...เหลือบางบ้านที่ยังปลูกเอาไว้...แต่ก็ไม่รู้จะเอาไปกินยังไง @^^"@ - จบ - จากคุณ : ดีใจที่เกิดในเมืองไทยอันแสนสงบ (เฮียแมว) - [ 6 ก.พ. 52 12:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ชอคโกแลตชิพ... เป็นการค้นพบโดยบังเอิญ เนื่องจากมีเจ้าของโรงแรมที่ชอบทำขนมด้วยการบิ หักแท่งชอคโกแลตที่ใช้กินเล่นนั้นใส่ลงไปในคุกกี้ด้วย ต่อมาเป็นที่นิยม จึงได้มีการผลิตให้เป็นรูปร่างเหมือนหยดน้ำ ที่เรียกว่าคิส Kiss อย่างในปัจจุบัน ทว่ามักมีการเติมสารอื่นๆลงไปด้วยเพื่อให้คงรูปมากกว่าชอคโกแลตทั่วๆไป สารอื่นๆก็รวมไปถึงเนยขาวเอย กลิ่นวนิลาเอย หรือว่าจะเป็นอิมัลซิฟายเออร์อย่างเลซิติน ก็มีให้อ่านเจอบนซองกันอยู่บ่อยๆครับ จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 12:46:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มาลงชื่อแล้วค่ะ จากคุณ : เจซอง - [ 6 ก.พ. 52 12:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณเฮียแมว    ขอบคุณครับเฮีย (อ่านไปตาโตไป) งั้นเราก็มีสิทธิช่วยชาวบ้านพัฒนากันต่อได้สิครับ คือเอาที่เหลือๆอยู่ทำแบบเป็นโอทอป แต่ว่า...ผมยืมชื่อเฮียแมวเป็นคนออกโรงได้ไหมครับ รับรอง...ผมชงให้ดื่มทุกวันเลยครับ เวลาเปรี้ยงๆ จะได้ไม่เจ็บมากครับเฮีย ******************************************************************* แล้วก็มาถึงอีกตัวหนึ่งที่หลายคนใช้กันประจำครับ Coating Chocolate หรือ Chocolate Compound   ตัวนี้ไม่นับว่าเป็นชอคโกแลตแท้นะครับจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Confectionery Coating เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างไขมันพืช ผงโกโก้ กลิ่นวนิลา และรสชาติอย่างอื่นๆครับ แต่ข้อดีของมันคือราคาถูกหาซื้อง่าย และยังใช้ง่ายไม่ต้องผ่านวิธีละลายจัดโมเลกุล (temper)ให้ยุ่งยาก   อย่างชอคโกแลตฟองดู ก็เป็นตัวนี้ครับรสชาติที่ได้จึงเป็นเหมือนไขติดที่ลิ้น หลายคนในก้นครัวเวลาทำเอง ถ้าใช้ชอคโกแลตแท่งๆที่เรากินกันแล้วผสมน้ำมันพืช หรือเนยสด หรือครีมข้นลงไป จะได้ของที่มีรสชาติดีกว่าตามท้องตลาดครับ   แต่ข้อควรระวังในการเลือกซื้อคือ Couverture Chocolate ก็มีชื่อว่า Coating Chocolate เช่นกันครับ บางที่นิยมเรียกชื่อนี้ จึงให้ดูที่ราคาก่อนเลยครับ ถ้าต่างกันมา อาจจะเป็นข้อเปรียบเทียบว่าของที่เราจะซื้อคือชอคแบบพรีเมี่ยม Couverture หรือว่า ชอคโกแลตเทียม Coating/Compound นี้กันแน่  หรือสังเกตง่ายกว่านั้นคือขอดูที่ห่อครับ แล้วหาคำว่า cocoa butter ครับ ถ้าไม่เจอ แล้วไปเจอว่า vegetable oil/shortening/palm oil/hydrogenated oil ก็ให้พึงระลึกไว้ว่า เป็นชอคโกแลตเทียม ประเภทนี้ครับผม จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 13:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เอ่อ...บอล...คิดดีจังนะยะ!!! ชั้นไม่ใช่สายัณห์ สัญญานะยะ! ยังไม่อยากเป็น "เป้า" เหอ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จากคุณ : เฮียแมว - [ 6 ก.พ. 52 13:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โอ้ว สวรรค์ดีๆนี่เองพี่บอล รูปงามมาก แก้วชอบมากเลย ขนมปังราดนมข้นโรยโอวัลติน ฮี่ๆ อ้วนก็ยอม จากคุณ : เด็กชายหัวตะปู - [ 6 ก.พ. 52 13:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 แหะๆ เปลี่ยนจากขอโทษเป็นทำเค้กให้จะยิ่งดีค่ะ  ^^ จากคุณ : COCOSWEET - [ 6 ก.พ. 52 13:08:29 ]

ความคิดเห็นที่ 36 โห โหดกันขนาดเลยนะเฮีย จากคุณ : เต๋อ 00 - [ 6 ก.พ. 52 13:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คุณเจซอง    สวัสดีคร้าบบบพี่เจซอง ไม่ได้คุยนานเลย คิดถึงจังครับ ผมติดอะไรพี่บ้างครับเนี่ย เห็นชื่อแล้วสะดุ้งแว้บๆครับ ฮ่าๆ ******************************************************************* การเก็บชอคโกแลต เนื่องจากส่วนประกอบหลักๆคือเนยโกโก้ ซึ่งก็เป็นไขมัน จึงทำหน้าที่ดูดกลิ่นได้ดี บวกกับน้ำตาลหรือผลิตภัณฑ์นมที่ไวต่อความร้อนและแสง จึงไม่ควรโดนแสง และเก็บในที่มีกลิ่นฉุนหรือความชื้นสูงครับ ถ้าเป็นไปได้ควรจะเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำประมาณ 15-21 องศาเซลเซียส แต่ถ้าอย่างบ้านเรา อาจจะต้องเก็บในตู้เย็น โดยการห่อให้มิดชิด แล้วพอเอาออกมาจากตู้เย็น อย่าเพิ่งแกะห่อนะครับ ให้คลายเย็นเพื่อไอน้ำเกาะรอบนอกแล้วค่อยแกะออกครับ เพราะน้ำก็เป็นอีกหนึ่งศัตรูตัวฉกาจของชอคโกแลตครับ ทีนี้่ถ้าเก็บไม่ดีจะเกิดอะไรขึ้น...ถ้าร้อนมากๆ เนยโกโก้จะลายออกมาลอยอยู่ผิวหน้าชอคโกแลตครับ ทำให้เกิดเป็นคราบขาวๆตอนเย็นตัวลง ชอคโกแลตของคุณไม่ได้ขึ้นราหรือเสียนะครับ แค่เก็บไม่ถูกต้อง(ดูรูปที่ผมเก็บเป็นตัวอย่างครับ) กรณีนี้เรียกบลูมมิ่ง(Blooming)แต่ว่า ถ้าเราจะเอามาทำขนมกันด้วยการละลายชอคฯเหล่านี้ลงไปผสมแล้ว ก็ไม่ต้องห่วงครับ รสชาติจะใกล้ของเดิมครับ หายห่วง แต่ถ้าเมื่อใดจะเอามาทำการหล่อลงพิมพ์ หรือเคลือบไส้ต่างๆให้เกิดความมันวาวล่ะก้อ...ต้องเอาไปละลายแบบมีขั้นตอนเพื่อให้โมเลกุลเรียงตัวกันใหม่ดีๆอย่างเป็นระเบียบครับ แต่ก็ยังมีบลูมมิ่งอีกแบบคือน้ำตาลในชอคโกแลตละลายกับไอน้ำ แล้วเกิดเป็นรอย ก็ไม่ต้องตกใจครับ ยังใช้ได้เช่นกัน จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 13:12:46 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คุณเฮียแมว    งั้นเรามฝึกหลบกันก่อนดีกว่าครับ ว่าแต่เฮียรู้ช่ายไหมครับว่าใครสั่งยิง เดี๋ยวผมเข้าไปทาบทามใหม่ครับ คุณเด็กชายหัวตะปู    เย้ ขอบคุณครับน้องแก้ว มากินโอวัลตินนมข้นกัน ฉลองครับฉลอง คุณCOCOSWEET    เย้ อันนี้ค่อยพอทำได้หน่อยครับ งั้นติดไว้..ตอนเจอกันที่มิตติ้งนะครับ แต่ว่า...ไม่ใช่มิตติ้งที่กำลังจะจัดนะครับ แหะๆ ผมกลับไม่ทันคร้าบบ คุณเต๋อ 00    จริงด้วยครับพี่เต๋อ โหดมาก ไม่รู้ว่าเฮียเราแอบไปกำความลับมาเปิดเผยได้ยังไงครับ ******************************************************************* ซ้อมหลบกันหน่อยนะคร้าบบบ รูปยืมพี่กู...เกิ้ล มาอีกแล้วครับท่าน จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 13:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ว้าว  ดีจังค่ะอยากทานเค้กฝีมือเทพคนนี้ด้วย กลับมาเมื่อไหร่ ได้โปรดส่งข่าวนะคะ  ^^ จากคุณ : COCOSWEET - [ 6 ก.พ. 52 13:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ปัจจุบันมีชอคโกแลตแบบพร้อมกิน หลายยี่ห้อ หลากความเข้มข้น ทั้งยังมีแบบแปลกๆให้เลือกชิม อย่างเมื่อสิบปีก่อน เป็นที่ตื่นเต้นกันมากเมื่อมีเชฟลองให้ลูกค้ากินชอคโกแลตกับพริกครับ อาจจะฟังดูแปลก แต่มันก็เป็นความตื่นเต้นทางรสชาติที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน ใครที่กลัวจะเผ็ดก็ไม่ต้องห่วงครับ เพราะว่านมมีเอมไซน์ที่เป็นคู่จับทำปฏิกริยากับความเผ็ดร้อนในพริกได้เป็นอย่างดี จึงเหลือความฉุนของกลิ่นพริก และรสชาติขมอมหวานของชอคโกแลตให้ผู้ชิมได้ตื่นตาตื่นใจกัน สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้วครับ ต้องไปทำงานประจำแล้ว เจอกันใหม่คราวหน้าครับผม ขอบคุณสำหรับผู้อ่านทุกท่านที่สละเวลามาเก็บเกี่ยวเรื่องราวของชอคโกแลตนะครับ หวังว่าประเทศไทย ซักวันจะมีโกโก้เป็นของตัวเอง เหมือนกับที่เรามีกาแฟอร่อยๆผลิตได้ในไทยเอง ถึงวันนั้น ผมจะไม่ลืมเฮียแมวเลยครับ จริงๆนะครับจะบอกให้ อิอิอิ สวัสดีคร้าบบบบบบบผม จากคุณ : kittscake - [ 6 ก.พ. 52 13:29:01 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณมากค่ะ.. ได้ทบทวนความรู้ มากมาย จากคุณ : ร้อยเรียงเคียงคำ - [ 6 ก.พ. 52 13:44:06 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อู๊ยย ดีใจมีคนคิดถึง  จำไว้  เพศหญิงลืมยากกก.....  จะตามหลอนไปจนกว่าจะได้เห็น ฮี่ๆ จากคุณ : เจซอง - [ 6 ก.พ. 52 13:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้ค่ะ  รู้อะไรเพิ่มอีกมากเลย จากคุณ : หนอนกลม - [ 6 ก.พ. 52 13:58:29 ]

ความคิดเห็นที่ 44 แง๊ มาไม่ทัน (T^T) คิดถึงพี่บอลค่าาาา ~~~ จากคุณ : puppadoowab - [ 6 ก.พ. 52 14:45:10 ]

ความคิดเห็นที่ 45 รูปงาม จนอยากชิมด้วยเจ้าค่า จากคุณ : Ab Psy ReinDEAR++ - [ 6 ก.พ. 52 16:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อ้าวววววว มาไม่ทันซะงั้น - -" ของโปรดเลยอ่ะ เจ้าชอคโกเนี่ย แต่ของพี่เน้นขม มากกว่าหวาน อิอิอิอิ เพราะว่าหวานอยู่แล้ววววววววววววววววววววว จากคุณ : mamchan - [ 6 ก.พ. 52 16:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาไม่ทัน....น่าเสียดายจังค่ะ ขอบคุณสำหรับความรู้ที่นำมาฝากกัน  แล้วก็...ภาพสวยเช่นเคยค่ะ จากคุณ : Amber n the Gang - [ 6 ก.พ. 52 16:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณมากๆ ค่ะ พี่บอล... จริงๆ เรื่อง Natural Cocoa, Dutch, Non-Dutched นี่ เหมือนเคยอ่านหลายรอบแล้ว แต่จำไม่ได้ซะที .. ปกติจ๋าใช้ผงโกโก้ของ Van กระป๋องสีขาว จำไม่ได้ว่า เป็นแบบไหน (สงสัยเป็น Dutch แน่เลย) แต่สูตรที่ใช้ ส่วนมาก จะมี Baking Soda ด้วยแปลว่า ควรจะใช้กับ Natural Powder แปลว่า ใช้ผิด ^^'' ขอบคุณอีกครั้งนะคะ เหมือนได้ทบทวนความรู้อีกรอบ เป็นพวกความจำไม่ดี ต้องให้พี่บอลย้ำบ่อยนะ :D จากคุณ : Bean Sprout - [ 6 ก.พ. 52 16:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เข้า Class ช้า จะโดนอาจารย์ดุมั้ยนี่ อิอิ ขอบคุณนะค่ะ ได้ความรู้เยอะเลยค่า  ^^ จากคุณ : iTiMiTi - [ 6 ก.พ. 52 18:09:03 ]

ความคิดเห็นที่ 50 จุ๊บๆค่า เข้ามาเก็บอีกรอบ :) จากคุณ : =เด็กเอ๋ยเด็กดี= - [ 6 ก.พ. 52 20:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เข้ามาเก็บความรู้ค่ะ คลาสนี้ตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ ช็อคโกแลตนี่ของโปรดเลยค่า ^o^ จากคุณ : บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน - [ 6 ก.พ. 52 21:04:56 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เข้ามางงๆด้วยคนกับชื่อกระทู้ ....อุอิ อยากดูชอคโกแลตวาเลนไทน์ด้วยอ่ะค่ะ ทำแล้วอย่าลืมเอามาอวด จากคุณ : คุณนายเย็นชา - [ 6 ก.พ. 52 23:54:44 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มาไม่ทัน แต่ก็ มาอ่านจนจบแล้ว ขอบคุณพี่บอลนะ่คะ่ที่นำสิ่งดีๆๆเรื่องใกล้ๆๆตัวของทิพเนี้ยมาให้อ่าน บางทียังงงเลยค่ะ เวลาจะหยิบ เฮ้ย อันไหนเป็นอันไหนเนี้ยยย บางทีมันมาเป็นบล็อคๆๆ พวก โคตติ้ง อะไรแบบนี้ แต่ทิพคิดว่า ถ้าจะคัด เล่นตกแต่งช็อคโกเล็ต ใช้ แบบโคตติ้ง เนี้ยดีสุด ไม่ต้องมานั่ง วัดความร้อน ปล ทุกวันนี้ยังลดกับเพิ่ม อุณหภูมิ ช็อคโกเล็ตไม่คล่องเลยคร่า แบบว่า ไม่รุ่งอย่างรุ่นแรงงงงงงงงงงงงงงงงงงง งืองือ งือ รอ ตอนต่อไปของพี่บอลน่ะค่ะ จากคุณ : little_samurai - [ 7 ก.พ. 52 03:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณร้อยเรียงเคียงคำ    ยินดีครับ ไม่ได้ปัดฝุ่นตำรามานานเหมือนกันครับ อ่านไปก็เอ๋อไปครับแหะๆ คุณเจซอง    จริงด้วยสิครับพี่ เอิ๊กๆ ๆ คุณหนอนกลม    ขอบคุณเช่นกันครับ ลองหาอ่านเพิ่มเติมได้นะครับ บนเนทมีข้อมูลลึกกว่านี้อีกมากมายเลยครับ คุณpuppadoowab    หวัดดีคร้าบน้องปุ้ย เป็นไง คิดถึงเหมือนกัน เห็นแว้บไปแว้บมาไม่ได้ทักกันเลยเนอะ คุณAb Psy ReinDEAR    เชื่อว่า...ต้องมีอยู่ในตู้แน่ๆ งัดมากินด้วยกันเลยครับน้องเดียร์ จากคุณ : kittscake - [ 7 ก.พ. 52 07:55:26 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณmamchan    สวัสดีคร้าบบบบบบบพี่แหม่ม คนหวาน อย่างนี้ต้องเหยาะพริกเหยาะเกลือตัดหวานกันด้วยสิครับพี่...  คิดถึงครับป๋ม คุณAmber n the Gang    ทันครับ แต่ผมน่ะต้องออกไปทำงานน่ะครับ เป็นการแปะข้ามวันครับ แหะๆ คุณBean Sprout    เหมือนกันครับน้องจ๋า ไม่ค่อยได้จำเลย มารู้อีกทีก็ตอนเค้กออกมารสสบู่ๆอ่ะครับ เพราะชอบเค้กสีเข้มๆครับ แหะๆ คุณiTiMiTi    อย่าเรียกว่าเข้าชั้นเรียนเลยครับน้องลูกปลา ถือว่าเราเอาเล็กเชอร์มาแลกกันอ่านดีกว่า คุณ=เด็กเอ๋ยเด็กดี=    มากินด้วยกันให้หมดเลยนะคร้าบน้องขวัญ จากคุณ : kittscake - [ 7 ก.พ. 52 08:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 56 คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายฯ    อย่าตั้งใจเรียนเลย มาตั้งใจกินกันดีกว่าครับ อิอิอิ คุณคุณนายเย็นชา    นั่นสิครับน้องตุ๋ม ป่านนี้ยังงงๆว่าตั้งกระทู้ไรเนี่ย พิมพ์ผิดอีกต่างหาก คุณlittle_samurai    หวัดดีครับน้องทิพ โค้ตติ้งใช้ง่าย แต่รสชาติแพ้แบบที่เหลือหมดเลยน้า...เอาใจช่วยครับ อิอิอิ จากคุณ : kittscake - [ 7 ก.พ. 52 08:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 57 การปั้นดอกกุหลาบ....(ใช้ได้ทั้งน้ำตาล และชอคโกแลต หรือแม้กระทั่งดิน แป้งขนมปัง ครับ) เริ่มจากโครงข้างในครับ ปั้นเป็นหยดน้ำ หลังจากนั้น ปั้นก้อนกลมๆ แล้วกดให้แบน ประกอบทีละกลีบครับ จะเหมือนจริงยิ่งขึ้นถ้าค่อยๆไล่ น้อยไปหามาก   คือรอบแรก 1 กลีบ   รอบสอง 2 กลีบ   รอบสาม 3 กลีบ แต่บางตำราจะให้ใช้เฉพาะจำนวนคี่ครับ ผมว่าค่อยๆเพิ่ม ดูขลังกว่าครับ อิอิอิ แต่เปลืองแรงนิดหน่อย จากคุณ : kittscake - [ 7 ก.พ. 52 08:15:59 ]

ความคิดเห็นที่ 58 thank you for the nice pics and tonnes of knowledge krabb p'ball จากคุณ : Calamity - [ 7 ก.พ. 52 12:44:11 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เจอทู้ละ ตามมาอ่านครับ จากคุณ : BhakSook - [ 7 ก.พ. 52 15:08:28 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เห็นชื่อเข้าของกระทู้แล้วต้องรีบเข้ามาดู...ได้ความรู้จริงๆค่ะ....ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องโก้โก้......ที่บ้านคุณตาปลูกไว้หลายไร่ทีเดียว.....แต่เวลาตากให้แห้งก่อนส่งขายนี่โฮ้กลิ่นเหม็นโคตรๆค่ะ.....ไม่น่าเชื่อพอผ่านกรรมวิธีกลิ่นและรสชาติอร่อยซะ.. จากคุณ : น้ำกะฟ้า (น้ำกะฟ้า) - [ 7 ก.พ. 52 17:03:38 ]

ความคิดเห็นที่ 61 บ้านคุณตาอยู่ในไทยรึเปล่่าครับ แสดงว่าไทยก็มีการปลูกโกโก้บ้างแล้วเหมือนกัน แล้วตลาดดีมั๊ยครับ จากคุณ : <--APART - [ 8 ก.พ. 52 01:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณCalamity    ยินดีครับแอม แม้จะซ้ำๆหรือหาอ่านกันได้อยู่แล้วบนเนท แต่ก็ถือเป็นการแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันเนอะ รูปน่ะ เจ็ดสิบยังไงก็แพ้สามร้อยครับ ฮ่าๆ คุณBhakSook   เย้ เจอแล้วๆ กินป่าวครับภัค? คุณน้ำกะฟ้า    รู้สึกดีใจแทนคุณน้ำกะฟ้าจังครับ ว่าได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโกโก้ เรื่องกิลิ่นเคยได้ยินวิทยากรบางคนเล่าให้ฟัง มาได้คุณน้ำกะฟ้ายืนยันอีกที อิอิอิ ของดีต้องแลกมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเนอะครับ คุณAPART    มีบ้างแล้วครับจากความคิดเห็นที่เฮียแมวนำมาเล่า และของคุณน้ำกะฟ้า แต่เรื่องตลาดต้องลองถามคุณน้ำกะฟ้าดูนะครับ หรือใครมีเบาะแส ช่วยแจ้งให้พวกเรารู้ไว้เล่นๆด้วยจะขอบคุณมากคร้าบ จากคุณ : kittscake - [ 8 ก.พ. 52 03:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 63 --- ตาลายกับช็อกโกแลต -*- จากคุณ : เหมียวหล่อ (myth) - [ 8 ก.พ. 52 12:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณมากค่ะ ได้ความรู้มั่กๆ ชอบกินช็อคฯมาตั้งแต่เกิด ไม่เคยเสาะหาต้นตอเลย ดีใจจังได้เข้ามาแวะที่นี่ ค่า ตอนนี้คูเวนเจอร์ก็เหลือเต็มตู้เย็นเลย ม่ะรู้ทำรัยดีอ่ะค่ะ จากคุณ : Soyabean Cute Girl - [ 14 ก.พ. 52 10:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณค่า จากคุณ : ยู่ อยากลี้ - [ 6 มี.ค. 52 00:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 66 สุดยอดพี่บอล กระจ่างขึ้นเยอะเลย ไหงกระทู้แบบนี้ไม่ขึ้นแนะนำนะ มีแต่กระทู้ คอมเพลนท์ร้านอาหาร เบื่อจริงเชียว จากคุณ : SchwedaKong - [ 6 มี.ค. 52 14:35:19 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ว้าวๆๆ ดีจังขอบคุณค่ะ ปล.มุขคุณบอล ขำมากๆอะ อ่ะ โกโก้ จากคุณ : กาบ้า (GaBa) - [ 11 มี.ค. 52 07:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คุณเหมียวหล่อ    นะนายเหมียว คุณSoyabean Cute Girl    มีของอยู่ใกล้มือ...อยากทำอะไรลุยเลยครับผม มันทำได้มากมายไม่รู้สิ้นครับ คุณยู่ อยากลี้    ยินดีครับ และขอบคุณเช่นกันครับผม คุณSchwedaKong    ดีแล้วครับก้อง...จะได้เห็นว่าอิฐสองก้อนมองชัดกว่ากำแพงทั้งผืน ท่านเทพก้องสบายดีฤา? คุณGaBa    สวัสดีครับคุณกาบ้า ... จากคุณ : kittscake - [ 20 มี.ค. 52 05:21:12 ]