 |
ดีนะ ที่ไม่คิดค่าเปิดพัดลม
แหม่ ว่าจะไม่เล่า ก็เอาสักหน่อยนะ ไหนๆก็แวะเข้ามาที่นี่ทั้งที เริ่มต้นจากเมื่อวัน อาทิตย์ที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมานี่ล่ะ ซึ่งเป็นวันที่แฟมผมซ้อมใหญ่รับปริญญา แต่นั่นไม่เกี่ยวหรอก 555 ความจริงก็คือ ญาติผม บวชวันนั้นพอดี เลยต้องเลือกว่า ไปงานซ้อมใหญ่ของแฟน หรือว่าเลือกจะไปกับที่บ้าน ไปงานบวชญาติ
สรุปผมเลือกงานบวชญาติ แฟนผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกครับ เพราะว่าเข้าใจ และยังไง วันจริงผมก็คงต้องไปอยู่ดี. สรุปผมกับครอบครัว มุ่งหน้า ชลบุรี เพราะว่าญาติอยู่ที่นั่นล่ะครับ พ่อ แม่ ผม พี่ น้องประถม รวมกัน 5 คน ก็ตั้งเป้าแล้วว่าเสร็จงานบวชก็แวะบางแสนนิดนึง พักผ่อนกัน เพราะว่าไม่ได้ออกมาเที่ยวทั้งครอบครัวนานมาก มากจนจำไม่ได้แล้วล่ะครับ ว่ากี่ปีมาแล้ว....
พองานบวชเสร็จ มื้อกลางวันก็เลยได้ทานโต๊ะจีน เจ๋งมากๆ มากกว่าที่ผมเคยกินมา จนทำให้รู้สึกแปลกใจมากว่าทำไมทำดีจัง อาหารก็มี ขนมจีบปู ลูกโต หอยจ๊อปู ลูกโต กระเพาะปลาที่เต็มไปด้วยกระเพาะปลาจริงๆ ขาหมูหมั่นโถว ที่ทำให้ผมพึ่งทราบครั้งแรกในชีวิตว่าทำไมถึงเรียกขาหมูหมั่นโถว เพราะว่าผมกินโต๊ะจีนมาหลายที่ ไม่เคยเห็นหมั่นโถวที่ว่าเลย ก็เลยไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไรนะ แต่คราวนี้มี อีกทั้งน้ำ และน้ำแข็งในกระติกเติมตลอดไม่เคยเจออีก เพราะว่าเคยเจอแต่ต้องเรียกเติมเอง และก็ยังมีแกงจืดลูกชิ้นปลาสาหร่าย (ที่ผมเริ่มนิ่ง เลยไม่ได้ชิมเลยว่าเป็นอย่างไร) และก็ข้าวผัดปู (ยิ่งนิ่งใหญ่แต่ก็ได้กินบ้าง) ปิดท้ายด้วย แปะก๊วยต้มมะพร้าว ที่พึ่งได้สัมผัสความอร่อยของแปะก๊วยกับมะพร้าวก็คราวนี้เอง เพราะว่าปกติแม่ผมจะต้มแต่แปะก๊วย เลยทำให้มีกลิ่นของแปะก๊วยแรงไปหน่อย แต่คราวนี้ได้มะพร้าวน้ำหอมมากลบกลิ่น ทำให้มื้อนี้เจ๋งมากๆ
ว่าแล้วก็ร่ำลาและเดินทางไปบางแสน ไปอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถติดเล็กๆก็ไปถึงก็พักที่เก้าอี้ชายหาดนั่นเลยครับ ผมวางแผนพร้อมลายแทงเรียบร้อย ว่ามื้อเย็นจะพาที่บ้านไปกินร้าน ตานอมที่เคยมีคนรีวิวเอาไว้
ระหว่างที่นั่งหาดแม่ก็สั่งของกินมาบ้าง แต่ไม่ได้จริงจังเพราะว่าพึ่งกินมื้อเที่ยงกันมา ก็ด้วยความมั่นใจว่าสดแน่ๆ สุดท้ายได้ปลาหมึกย่างไม่สดมาซะงั้น ส่วนหอยนางรมก็สดดี แต่ขาย 6 ตัว 45 บาท ก็นะ ราคาชายหาด เข้าใจ เจอแม่ผมต่อ 30 บาทก็โอเคเฉย
พักผ่อนด้วยการนอนนี่แหล่ะ ที่เก้าอี้ชายหาดนั่นเอง ร้อนนิดหน่อย เพราะว่าแดดมันส่องตามรูใหญ่ๆระหว่างรอยต่อของร่มมาด้วย แต่ก็ยังได้พักผ่อนกัน เพราะว่าเมื่อเช้าต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 มาให้ถึงแต่เช้าทันงานบวช
ผมไม่ได้เล่นน้ำหรอก น้องผมเองก็นึกว่าจะไม่ได้เล่นก็เลยไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามา แต่ก็ไม่มีใครเล่นหรอก ผมเองตั้งใจจะไปเดินหาด อาจจะแกว่งๆน้ำนิดหน่อย พอเดินไปริมหาด ยังไม่ทันจะลงไปหาดส่วนที่พื้นเปียกน้ำเลย ก็รู้สึกได้กลิ่นเน่าทั้งหาดเลย งง ครับ
คือตอนที่นั่งที่เก้าอี้ชายหาดยังไม่ได้กลิ่นพอเดินเข้าไปใกล้น้ำทะเล กลิ่นก็โชยเลย เน่าอะไรไม่รู้ แต่แปลกๆ แล้วแดดก็ร้อนด้วยเลยเปลี่ยนไปเดินตามทางจักรยาน ด้านในแทน
สุดท้ายก็บ่ายแก่ๆ เลยเคลื่อนพลกันไปที่ร้านที่ว่า แต่ด้วยแผนที่ก็ไม่ชัดเจนเท่าไร และก็ไม่ใช่คนพื้นที่ด้วย พี่ผมที่เป็นคนขับ ที่นั่งข้างหน้ากับพ่อเลยปรึกษากันไปในระหว่างขับรถว่าจะไปที่ไหนกัน ส่วนคนอื่นในบ้านนั่งกระบะหลังครับ เลยไม่ได้ติดต่อกับคนข้างหน้ารถ(รถกระบะไม่มี cap)
สุดท้ายผมก็พอจะรู้ว่าไม่น่าจะไปร้านตานอมตามแผนที่แน่ๆ พอดีว่าในรถ มี GPS ครับ ก็เลยกดเอาร้านอาหารจากเจ้า GPS เจ้ากรรมสุดท้ายมันก็พาไปที่ร้าน กุ้งสด ปูเป็น ทางไปอ่างศิลานั่นล่ะครับ
เข้าไปในร้านคนก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไร ร้านออกแนวกว้างตามเรียบหาดเลน (ตรงนั้นมีแต่เลน ไม่มีหาดทรายแล้ว) ก็ด้วยความที่ไม่มีใครเคยมาร้านนี้(GPS เจ้ากรรมพามา) ก็เลยถามว่า อะไรอร่อยที่สุด ก็ได้ความว่า ต้มยำกุ้ง น้ำข้น รองลงมาคือ ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว และอันดับสามคือปลา(จำไม่ได้) ทอดน้ำปลา แล้วก็ข้าวสองโถ น้ำเปล่า น้ำแข็ง
ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาวมาก่อน พอกินบอกได้ว่า แหยะ มันไม่กรอบเด้ง มันเละๆ หรือว่าหมึกสดมันต้องเละๆ แต่แม่ผมบอกว่าหมึกสดไม่น่าจะเละนะ อันนี้ก็ไม่ได้คิดอะไร แต่รสชาติถือว่าไม่ได้เรื่องครับ นึ่งมะนาวจริงๆ เปรี้ยวแผดโดด หารสอื่นแทบไม่ได้เลย
ต่อมาข้าวก็มาพร้อมต้มยำกุ้งหม้อไฟ ทุกคนลงความเห็น ไม่อร่อย..... รสชาติไม่ได้ที่เลย แปลกๆมากๆอย่างบอกไม่ถูก เปรี้ยวนำ ไม่หอมเลย ดีแค่ว่านมสดช่วยเอาไว้ได้
ต่อมา ปลา(ที่จำไม่ได้) ทอดน้ำปลาก็มา แต่ที่ทำให้ทุกคนงง ก็คือมาครึ่งตัว คือมาครึ่งตัวตามยาว ก็พึ่งเจอปลาทอดที่นี่ที่แรก ที่ขายครึ่งตัวด้วย พร้อมน้ำจิ้มแบบสามรส 1 ถ้วย กับแบบหวานๆอีก 1 ถ้วย
ระหว่างที่กิน อากาศก็ค่อนข้างร้อน แม้ว่าเป็นตอนเย็น พระอาทิตย์เริ่มตกดินก็ตาม แต่ตรงนั้นลมไม่พัดผ่านเลย เหลือบไปเห็นพัดลมก็เลยถามพนักงานว่าเปิดได้หรือเปล่า ก็บอกว่าเปิดได้ค่ะแล้วก็เปิดให้เลย
พอใกล้จะกินเสร็จ แม่ก็เลยถามถึงกระดาษทิชชู่ เพราะว่ามีมาแค่ชิ้นเดียว คือชิ้นที่หุ้มช้อนกับส้อมมาเท่านั้น บนโต๊ะไม่มีให้ พนักงานก็เอามาให้ เป็นห่อ ที่ขนาดใหญ่กว่าห่อละ 3 บาทข้างถนนอ่ะครับ
สรุปเรียบร้อย พร้อมความเซ็งๆกันเล็กๆ มีกับข้าว 3 อย่าง น้ำ 4 ขวดเล็ก น้ำแข็ง 1 กระติก ข้าวเปล่า 2 โถ และที่น่าแปลกใจก็คือ กระดาษทิชชู่ มีรายการที่ต้องชำระเงินด้วย 15 บาท.... ทำเอางงทั้งบ้าน กระดาษทิชชู่ก็ขาย O_o ได้แต่ส่ายหน้าแล้วก็มองหน้าแม่ บอกว่าเราจะจำไว้ พ่อผมก็ขำ บอกว่าไม่เป็นไรเราก็กินเอาประสบการณ์ รู้ไว้ว่าร้านนี้เป็นอย่างไรจะได้ไม่พลาดอีก
รวมทั้งหมด ผมว่าน่าจะ 500-600 บาท ปรากฏมื้อนั้น 985 บาท ยิ่งตื่นตะลึงกันไปใหญ่ กับข้าวสามอย่าง ข้าวสองโถ น้ำ น้ำแข็ง เกือบพัน
อูยเข็ดเลย
ป.ล.ผมไม่ได้มาว่าร้ายร้านนี้นะครับ แต่เล่าประสบการณ์ที่ผมเจอมาจริงๆ แม้ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันก็ตาม แต่ผมก็คงไม่ได้มาสร้างเรื่องเพื่อใส่ร้ายทำไม บ้านผมอยู่ปทุมนี่ล่ะครับ ไม่ได้ไปเปิดร้านหรืออะไรแข่งแถวนั้น แต่ก็เพื่อเตือนคนที่อาจจะหลงผิดคิดไปกินครับ
ร้านนี้เห็นเปิดมานานมาก รู้สึก 2503 นะครับ ถ้าผมจำไม่ผิด อาหารแต่ละอย่างที่สั่งก็ได้รับรางวัลมาแล้วทั้งนั้นก็เลยสั่งมากินกันนี่ล่ะครับ และไม่ได้อลังการสมราคาขายแต่อย่างใดเลย บรรยากาศก็เป็นหาดเลน ที่ไม่มีลมพัดเลย(เค้าเลยต้องติดพัดลม) แล้วก็ไม่ได้เห็นน้ำทะเลเลย มองเห็นแต่เวิ้งเลนทอดไปไกลๆนู่น
ป.ล.2 ยังคิดต่อเล็กๆ ว่าดีนะ ที่ไม่ได้คิดค่าไฟที่เราบอกให้เค้าเปิดพัดลมเนี่ย ไม่งั้นคงเซ็งหนักเลย
ป.ล.3ผมนี่แอบเซ็งหนักกว่าคนอื่น เพราะว่าแนะนำร้านที่จะไปแล้วก็ดันไม่เชื่อ ดันเชื่อ GPS นี่นะ .... กรรม
จากคุณ :
ออกกำลัง
- [
12 ก.พ. 52 18:30:47
]
|
|
|
|
|