ความคิดเห็นที่ 1 โดยส่วนตัวเวลาทำสังขยาจิ้มขนมปังจะใช้ยี่ห้อ อร่อยดี ค่ะ (ตามคำแนะนำของพี่จุ๋ม) ^^ จากคุณ : sokheang14 - [ 14 มี.ค. 52 12:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความรู้สึกส่วนตัว ชอบ อร่อยดี มากกว่าชาวเกาะครับ เนื่องจากมีความมัน ความหอม อาจจะออกหวานนิดๆ ด้านเทคโนโลยี่การผลิต แม้จะมาทีหลังชาวเกาะ แต่พํฒนาไปไกลกว่าโข   การใช้ที่ถูกวิธี ก็เป็นส่วนช่วยให้เห็นภาพมากขึ้น เช่นถ้าต้องการใช้ครึ่งกล่อง ก็ควรเขย่ากล่องแล้วจึงเท   บางคนไม่รู้พอแกะกล่องได้ก็เทลงหม้อ ส่วนที่ออกไปก่อนก็คือหัวกะทิที่เข้มข้น  ที่เหลือก็จะเป็นหางน้ำกะทิ อร่อยดี คือ วลีติดปากครับ แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 12:56:30 จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 14 มี.ค. 52 12:55:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยว่าอร่อยดีดีกว่า ไม่เหม็นหืนด้วย จากคุณ : aitai - [ 14 มี.ค. 52 13:15:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทดลองแล้วทั้งสองยี่ห้อ  ก็ว่าชอบอร่อยดี มากกว่าเหมือนกันค่ะ จากคุณ : ลูกชิ้นปลากราย - [ 14 มี.ค. 52 13:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าไม่สะดวกที่จะคั้นกะทิเอง ... ก็ให้ที่ร้านคั้นให้สิครับ บอกไปเลยว่าเอากะทิโลนึง คั้นให้ด้วย ... ราคาสามสิบกว่าบาท แต่ถ้าไม่สะดวกไปตลาดสด แวะไปซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ได้ และใช้กะทิพาสเจอร์ไรซ์ ท้ายสุดจึงพึ่งกะทิกล่อง ... เขย่าก่อนใช้ และยี่ห้อไหนก็เหมือนกันนั่นแหละครับ อย่าลืมดูวันหมดอายุก็แล้วกัน การที่ยี่ห้อไหนจะดูเหมือนมีกลิ่นหรือรสดีกว่า (อุปาทาน?) ผมไม่คิดว่าเป็นสาระสำคัญ เพราะว่าเราต้องนำมาปรุงอีกครั้ง และกลิ่นรสของเครื่องปรุงนั้นจะกลบกลิ่นกะทิอยู่ดี ไม่รู้สินะ ... ผมไม่มี brand royalty น่ะ จากคุณ : คุรุทาส - [ 14 มี.ค. 52 13:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เดี๋ยวนี้บางยี่ห้อ  ทำออกมาเหมือนกับผสมนมผงงั้นแหละ   เราชอบยี่ห้อ อร่อยดี  เราว่าของเขาน่าจะโอเคที่สุดแล้วอะ จากคุณ : ลูกนกหลงทาง - [ 14 มี.ค. 52 14:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ซื้อกะทิจากตลาด ให้แม่ค้าคั้นให้สำเร็จ มองดูแล้ว กระป๋องรองกะทิที่คั้นแล้ว ไม่รู้วัน ๆ ล้างบ้างหรือเปล่า จากคุณ : บัวนลิน - [ 14 มี.ค. 52 14:14:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าผมคิดจะกิน เต้าเจี้ยวหลน สักถ้วยนึง แล้วต้องไปตลาดเพื่อซื้อกะทิสักโลนึง มันก็กะไรอยู่ ที่เหลือจะเอาไปไหน? เก็บไว้ก็เสีย เดินเข้า 7-11 ซื้อกะทิกล่องนึง น่าจะสะดวกกว่า ราคาก็พอเหมาะแก่การใช้งาน กะทิดีทำอะไรก็อร่อย กลิ่นจะหอม มีความมัน  ไม่ว่าจะแกงกะทิ หลนปลาเค็ม แกงคั่วใส่กะทิ เอาแบบสุดๆเลยก็แกงคั่วหน่อไม้ดองใส่กะทิ  ต่อให้ใส่เครื่องปรุง หนักขนาดไหน ก็แยกออกครับ ว่ามีกะทิเป็นส่วนผสม มีความหอม เชื่อว่า ทุกคนแยกออกแน่นอน ยกเว้นคนที่มีลิ้นรับรส ผิดปกติ       เรื่องความจงรักภักดีต่อตัวสินค้า มีกันแทบทุกคน ซึ่งสินค้านั้นต้องมีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของคนส่วนมาก ก็ลองดูความเห็นแต่ละคอมเมนท์ดูสิครับ  คงไม่ต้องถึงตั้งกระทู้โหวตหรอกมั้งครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 14 มี.ค. 52 14:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอ่อ   อันนี้เป็นความรู้จากลูกน้องที่เคยทำงานโรงงานผลิตกะทิกล่อง (ถ้าลูกน้องมันไม่ได้โกหกผมนะ) บอกว่า   เวลากะทิกล่องหมดอายุ จะไม่เอาไปทิ้ง   แต่จะเอาไปเติมสารเคมี  แล้วนำกลับมาบรรจุใส่กล่องขายตามเดิม   ****อย่าเพิ่งเชื่อนะครับ  รอผู้รู้มายืนยันก็ดีนะครับ  ผมก็ฟังลูกน้องมา จากคุณ : ต๊อตโต้ - [ 14 มี.ค. 52 15:06:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จริงๆแล้วกระทิคั้นสำเร็จตามตลาดมันก็ไม่ค่อยสะอาดเท่านักหรอก แม้จะเป็นแค่แบบมะพร้าวขูดก็ตาม เพราะเครื่องขูดมะพร้าวที่เขาใช้นั้นไม่ได้รับการรักษาความสะอาดเท่าที่ควร(คงไม่ใช่ทุกทีหรอก) เคยมีเหตุการณ์ว่าตอนกลางคืนหนูเข้าไปในเครื่องแล้วออกไม่ได้ พอแม่ค้ามาถึงก็เอามะพร้าวใส่ไปเลยไม่ดูให้ดีก่อน เดินเครื่องไปซักพักก็สงสัยว่าทำไมมะพร้าวขูดมันออกมาเป็นสีแดง แล้วเครื่องก็ไม่เดินต่อเหมือนมีอะไรเข้าไปติดซักอย่าง พอเปิดเข้าไปดูก็เจอเลยครับหัวหนูมันบดไม่แหลกติดอยู่ในเครื่อง... นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานมากแล้วละครับ แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังไม่กล้าใช้อยู่ดี เดียวนี้ซื้อสำเร็จแบบมียี่ห้อใช้เอา หรือไม่ก็ขูดมาคั้นเองครับ แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 15:19:44 จากคุณ : Matalechiga - [ 14 มี.ค. 52 15:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าใช้กะทิคั้นเองสดๆ ก็จะอร่อยกว่ากันมากเลยค่ะ อันนี้เรื่องจริง แต่ว่าเดี๋ยวนี้ความสะดวก รวดเร็วก็ต้องมี  เลยต้องซื้อติดบ้านไว้เหมือนกันค่ะ เราชอบ ชาวเกาะมากกว่านะ  แรกๆ เราก็ว่า อร่อยดี อร่อยกว่าค่ะ แต่หลังๆ รู้สึกว่า เค้าผสมน้ำเยอะ คือหางกะทิเยอะมากกว่า ชาวเกาะเยอะเลย    ทำกับข้าวให้ลูก หลานที่บ้านก็จะบอกว่า วันนี้อร่อยกว่านั้น  พอสังเกตดูก็คือ ตอนทื่เราใช้ ชาวเกาะ น่ะค่ะ จากคุณ : ใบยี่หร่า - [ 14 มี.ค. 52 16:43:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อร่อยดี ด้วยคนค่ะ ชาวเกาะมีกลิ่น ส่วนตัวถ้าทำของคาวใช้กะทิกระป๋องหรือกล่อง ถ้าทำขนมหวานใช้กะทิผง ถ้ามีโอกาสได้เลือกและเลือกได้ ใช้กะทิสดคั้นเองดีที่สุด แต่ไม่มีแบบสดให้เลือก เลยต้องใช้แบบสำเร็จแทน ฮือๆๆๆ จากคุณ : Elysium - [ 14 มี.ค. 52 17:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เราชอบกะทิสดแบบคั้นเอง แต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ชอบ อร่อยดีค่ะ จากคุณ : อย่ามายุ่งกับฉัน - [ 14 มี.ค. 52 18:02:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ระหว่าง ชาวเกาะ กับ อร่อยดี  ผมเลือก อร่อยดีคับ ด้วยกลิ่นหอมใกล้เคียงกระทิสดมากกว่า ส่วนกะทิสด เคยซื้อในตลาดให้เค้าคั้นให้  ออกมาน้ำเยอะมาก ทำไม่ถูกเลยคับ จากคุณ : คนไม่มีดี - [ 14 มี.ค. 52 18:22:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 กระทิกล่องยังไงก็สู้กระทิคั้นสดไม่ได้ครับ ความหอม หวาน มัน มันแพ้กันมาก แต่ถ้าเอามาทำพวกแกงเผ็ดก็ไม่เท่าไหร่เพราะกลิ่นเครื่องแกงมันช่วยได้เยอะเลย หอมน้ำพริกแกงแทน   แต่ถ้าเอาไปขนม ไม่ไหวจริงๆครับ บางทีมีกลิ่นที่ไม่ควรจะมีในขนม กินแล้วเสียอารมณ์เปล่า จากคุณ : คนเมาเอิ๊กๆ - [ 14 มี.ค. 52 18:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ ก็คงต้องใช้กะทิกล่อง เพราะไม่สดวกที่จะไปตลาดค่ะ จากคุณ : karakal - [ 14 มี.ค. 52 19:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มายกมือให้อร่อยดีค่า ชาวเกาะมีกลิ่นเหม็นหืนอ่ะค่ะ จากคุณ : prettyhuang - [ 14 มี.ค. 52 19:44:15 A:124.121.75.106 X: TicketID:199728 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อร่อยดี เพราะมีหัว อิอิ เข้มข้น กว่าเยอะค่ะ ถ้าไปตลาด ก็บอกแม่ค้าว่า เอาแบบไม่ใส่น้ำนะๆ จากคุณ : ploybabe - [ 14 มี.ค. 52 19:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ชอบอร่อยดีค่ะ  ส่งออกไปขายที่อเมริกาด้วยค่ะ รู้จักยี่ห้อนี้ที่อเมริกา กลับมาอยู่เมืองไทย ก็ยังจงรักพักดีใช้ยี่ห้อนี้มาตลอด จากคุณ : Love to be me - [ 14 มี.ค. 52 23:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แนะนำให้ลองเองครับ ทั้งสองยี่ห้อนั่นแหละ จะได้ตัดสินใจเองได้ถูก เรื่องรสชาติผมว่าเป็นความชอบความนิยมส่วนตัวนะ ใคร ๆ ว่าอร่อย เราอาจไม่ถูกปากเลยก็ได้ หรือไม่ก็กลับกัน จากคุณ : เด็กหนุ่มหน้าตาดี - [ 15 มี.ค. 52 02:16:49 A:128.178.253.220 X: TicketID:120371 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขออนุญาตแจกแจงใหม่อีกที กะทิคั้นสด ๆ จะอร่อยที่สุดครับ ... ขนาดว่านำมาปรุงแกงเผ็ดยังมีรสหวานปนโดยไม่ต้องตัดน้ำตาลเพิ่มเลย อย่างไรก็ดี ... มะพร้าวที่นำมาขูดต้องแก่จัดด้วย หากใช้มะพร้าวทึนทึกก็ป่วยการ เช่นนี้คงต้องแลกกันระหว่างความลำบากในการเดินทางไปซื้อเปรียบเทียบกับความอร่อยที่ได้รับ ในกรณีที่ไม่สะดวกใจเรื่องให้แม่ค้าขูด+คั้น ... ก็คงต้องขูดเองคั้นเอง รองลงมาคือการใช้กะทิพาสเจอร์ไรซ์ ... ถ้าเราต้องไปซุปเปอร์มาร์เก็ตอยู่แล้วเพื่อซื้อกะทิกล่อง ผมยังมองไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมไม่ซื้อกะทิพาสเจอร์ไรซ์ กะทิพาสเจอร์ไรซ์มีความอร่อยใกล้เคียงกับกะทิสด เนื่องจากโมเลกุลของน้ำมันยังไม่ถูกตีจนแหลกกระจายเหมือนกะทิกล่อง ลำดับ ๓ คือการใช้กะทิกล่อง ... ส่วนที่ว่าใครจะมีความจงรักภักดีต่อยี่ห้อไหนก็คงเป็นเอกสิทธิ์ เพียงแต่ผมยังใช้ "ราคา" เป็นตัวกำหนด เนื่องจากมองว่าเหมือนกัน และไม่อยากให้ผู้ผลิตมองผมเป็นสาวกที่จะทำอะไรก็ได้ และคงต้องขออภัยผู้ใช้กะทิผง เนื่องจากกะทิผงเป็นกะทิที่มีคุณภาพต่ำสุด ... เทคโนโลยีที่นำมาใช้ผลิตกะทิผงในทุกวันนี้เราไม่ได้ใช้เทคโนโลยีสูงสุดเนื่องจากข้อจำกัดด้านต้นทุน สำหรับท่านที่มีต่อมรับรสดี สามารถจำแนกแยกแยะปัจจัยคุณภาพได้ทุกประการ ก็คงต้องเลือกเอาตามความสะดวกและภาวะเศรษฐกิจของท่าน สุดท้ายถ้าอยากกินหลนสักถ้วย ... ซื้อกินเถิดครับ อย่าไปเสียเวลาทำ+ล้างหม้อล้างไหเลย ทุกอย่างมันต้องแลกกัน ถ้ามองว่าคุ้มก็โอแล้ว จากคุณ : คุรุทาส - [ 15 มี.ค. 52 05:00:34 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขออีกนิดเรื่องกะทิกล่องหมดอายุ คือมีความเป็นไปได้ที่อาจนำกะทิที่มีปัญหา อาทิ สีคล้ำไปบ้าง มาปนในการผลิตรุ่นใหม่ แต่ถ้ามีกลิ่นหืนแล้ว ต้องทิ้งสถานเดียว ... ทำอะไรกับมันอีกไม่ได้ดอกครับ ส่วนเรื่องการใช้วัตถุเจือปนอาหาร อาทิ สารกันหืนในกะทิกล่อง รวมทั้งกะทิผงด้วย เรียนว่ามีความเป็นไปได้ที่ผู้ผลิตอาจเลือกใช้ สุดท้ายเรื่องการขูดมะพร้าวในโรงงานเปรียบเทียบกับตลาดสด ขอเรียนว่าเหมือนกัน ... วันหนึ่ง ๆ อาจล้างเพียงไม่กี่ครั้งครับ จากคุณ : คุรุทาส - [ 15 มี.ค. 52 05:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ประเด็นก็คือ จขกท ไม่สะดวกที่จะไปซื้อกะทิคั้นสด จากตลาด จำเป็นต้องเลือก กะทิกล่อง 2 ยี่ห้อ  และถ้าเค้าเลือกใช้กะทิสดแล้ว ก็คงไม่นำมาถาม กะทิสด ยังไงก็ดีกว่ากะทิกล่องแน่นอน ไม่มีใครเถียงครับ ยกตัวอย่างให้เห็นว่า การที่จะทำหลนทานสักถ้วย จำเป็นหรือที่ต้องไปตลาดเพื่อหาซื้อกะทิโลนึง  ซื้อครึ่งโลขายมั๊ย  ครึ่งโลก็มากเกินไป ที่เหลือจะเอาไปไว้ไหน ทิ้งก็เสียดาย  กลับมองเป็นว่าซื้อเค้ากินเถอะ ไม่ต้องเหนื่อย ประทานโทษครับ ผมยังมองร้านที่ทำหลนอร่อยๆ  ไม่เจอครับ ยิ่งถ้าไปซื้อแล้วไม่อร่อย เสียทั้งเงิน ทั้งเวลา ทั้งความรู้สึก  ไม่ได้ลำบากยากเย็นเลยในการปรุง หลนทาน สักถ้วย  มีกะทิกล่องเดียวก็ทำทานได้ทั้งบ้าน ผมล่ะขำจริงๆ เอาโรงงานผลิต มาเทียบเคียงกับตลาดสด ในเรื่องของอนามัย และความสะอาด โรงงานเค้ามีมาตรฐานการผลิตครับ ทั้ง จีเอ็มพี  ทั้งเฮสเอซีพีพี ทั้งไอเอสโอ มีคิวซี คอยตรวจสอบ  มีเซอร์ เป็นเครื่องการันตี  แล้วตลาดสดล่ะครับ มีแม่ค้าเป็นคนขาย มีแรงงานต่างชาติเป็นคนปอกเปลือก เพื่อขูด  อย่านำไปเปรียบเทียบกันเลยครับ ห่างกันมากครับ ผมเองคิดว่า ผู้ผลิตคงไม่มองใครเป็นสาวกหรอกครับ เพราะคำว่าสาวกนั้น มันเป็นถ้อยคำที่รุนแรง เชิงเหยีดหยัน ถ้าใช้คำว่ากล่มลูกค้า หรือผู้มีอุปการคุณ จะส่งผลที่ดีกว่าคำว่า สาวก ใช้ถ้อยรุนแรงไปรึป่าวครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 15 มี.ค. 52 09:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบอ่านกระทู้ประเภทนี้ครับ มีครบรสชาติ หวานมันเหมือนคั้นกันสด ๆ แล้วเอาปากรองกันเลยทีเดียว55555 จากคุณ : ชอบกระทิซองอ่ะเซียวบ๊ะจ่าง (เซียวบ๊ะจ่าง) - [ 15 มี.ค. 52 12:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ชอบอ่านกระทู้ประเภทนี้หรือครับ? ประเทศประชาธิปไตยนี่นา ... ความเห็นและมุมมองแตกต่างกันได้อยู่แล้ว ลองย้อนกลับไปอ่านคำถาม จขกท. ใหม่นะครับ แรกเริ่มเธอบอกแต่ว่าเธอไม่สะดวกในการคั้นกะทิ ... เท่านั้น จากนั้นจึงได้เพิ่มเติมว่าไม่สะดวกที่จะไปตลาดสดด้วย แต่จะแปลกอะไรถ้าจะมีใครสักคนเตือนเธอว่า ... ไปเถอะ - คุ้มนะ นอกจากนี้เธอยังถามเรื่องกะทิพาสเจอร์ไรซ์ด้วย สำหรับเรื่องคุณภาพของคน ... ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นแม่ค้าในตลาดสด หรือเป็นคนงานในโรงงาน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนไทยหรือแรงงานต่างชาติทั้งนั้นแหละครับ ถ้าไม่ไว้ใจแม่ค้า แล้วจะไว้ใจคนงานได้อย่างไร? หรือคนงานทำงานได้ดีมีคุณภาพเพียงเพราะว่า "ถูกควบคุม?" อย่าลืมว่าโรงงานมี Trick อยู่พอสมควรในการผลิต ยกตัวอย่างการ reprocess นั่นก็ใช่ หรือจะเรื่อง food additive ถ้าเช่นนั้นก็ไม่แปลกใจดอกครับที่ต้องลงมือปรุงอาหารรับประทานเอง แม้แต่ในปริมาณเล็กน้อย อ้อ ... ถ้าผมจำไม่ผิด "อร่อยดี" น่ะมีราคาถูกกว่า "ชาวเกาะ" นะครับ ส่วนการที่มีราคาต่ำกว่านั้นจะแปลว่าอะไรผมคงไม่หาญกล้าไปออกความเห็น สุุดท้าย ... ถ้าใช้คำว่า "จงรักภักดี" ก็คงหนีไม่พ้นคำว่า "สาวก" ดอกครับ จากคุณ : คุรุทาส - [ 16 มี.ค. 52 04:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ดีเลยครับ #24 จะได้เห็นการตอบแบบ เหตุผล หรือ ทุบดิน เหลือบขี้นไปดูด้านบน  จขกท เค้าถาม ระหว่าง ชาวเกาะ กับ อร่อยดี เท่านั้นว่ารสชาติ อันไหน เป็นอย่างไร?  ส่วนใครจะตอบเช่นไร ก็เป็นสิทธิ แต่ควรขึ้นอยู่ด้วยความถูกต้อง และ เหตุผล ผมคงไม่ต้องเปรียบเทียบระหว่าง มาตรฐาน ของโรงงานผลิต กับ แม่ค้า ในตลาดสด เพราะท่านก็คงทราบดีอยู่แล้วว่า  ห่างกันไกลเหลือเกิน ท่านเข้าใจถูกต้องแล้วครับ "ว่าต้องควบคุม"  ผลผลิตถึงจะมีประสิทธิผล   ไม่ว่าจะควบคุม คน ควบคุมเครื่องจักร ควบคุมระบบ  ถ้าไม่มีการควบคุม ก็จะเหมือนกับ ท่าน คห ข้างบน ที่พบสิ่งแปลกปลอม ในเครื่องขูด  ขั้นตอนการผลิตของโรงงาน ควบคุมแม้กระทั่ง น้ำที่นำมาผลิต  ในตลาดเล่าครับ มาจากไหน  ไม่อยากจะพูดต่อถึงเรื่องอื่นๆอีกสารพัด   ผมไม่กล้าบอกว่า  "ความจำท่านไม่ดี"   คิดไปเองว่า ท่านอาจสับสน จึงทำให้ท่านคิดว่า  ราคากะทิอร่อยดี ถูกกว่า กะทิชาวเกาะ    ท่านคิดผิดไปแล้วครับ ราคากล่องอร่อยดี ขนาด250มล "แพงกว่า" กะทิชาวเกาะกล่องขนาด 250 มลเช่นกัน  เดินเข้าในตลาดแล้วถามแม่ค้าเลยครับ และเป็นการดีอย่างยิ่ง  ที่ไม่ได้บอกว่า ราคาที่ต่ำกว่าเพราะเหตุใด? ก็แค่ราคา ที่บอกมา ก็ตรงกันข้ามแล้วครับ ท่านคงยังจำเรื่องปลาทูน่า เนื้อขาว เนื้อแดง ใส่ในน้ำมัน น้ำเกลือได้ป่าวครับ ผมนำใบสั่งการผลิต สั่งซื้อมาให้ดู   ท่านคงเปลื่ยนความคิดแล้วว่า ไม่ใช่โลกที่3 ตามที่ท่านได้เอ่ยถึง การที่จะท้วงติง สักเรื่อง ก็ควรเปิดใจกว้างๆครับ   ผมยกตัวอย่างเรื่อง "บรมครู" ผู้อื่นอาจจะยังไม่ทราบ  ถ้าอยากทราบก็ http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D7617727/D7617727.html คห41 เลยครับ ที่ต้องนำมาให้เห็นเพราะ  หากเราแค่ท้วงติงว่า ใช้คำผิดไปนะครับ  ก็แค่นั้นเอง ไม่ใช่ว่าต้องลงท้ายกระแหนะกระแหน ถึงกับใช้คำว่า   อย่านำมาลากถู อยากถามว่า ตรงไหน? ที่นำมาลากถูครับ  เค้าสรรญเสริญ ต่างหาก เช่นเดียวกับท่านที่ใช้คำว่า "lสาวก" นั่นแหละครับ กะทิชาวเกาะ ผลิตและจำหน่ายโดย อำพลฟูดส์ กะทิอร่อยดี  ผลิตโดย ไทยอกริ  จำหน่ายโดย สหพัฒน์ สินค้าต่างๆของสหพัฒน์ ไม่ว่า สบู่ ยาสีฟัน ตลอดจนถึงอาหาร ที่บ้านท่านมีหรือไม่?  ถ้ามีก็แสดงว่า    ท่านเป็น "สาวก" สหพัฒน์ เช่นกัน และในบ้านท่านคงไม่ใช้ กะทิ อร่อยดี ก็เพราะ ท่านเป็น "สาวก" ตัวจริง ของแม่ค้าในตลาดสด  ใช่มั๊ยครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 16 มี.ค. 52 12:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เราก็ไม่ไปตลาดนะ ขี้เกียจ เมื่อยอมแลกความสะดวกสบายกับรสชาติอร่อยลิ้นไปบ้างแล้ว ก็เลยต้องเสียเวลาเลือกเฟ้นสินค้าที่สร้างความพึงพอใจบนพื้นฐานของความสะดวกสบายให้ได้มากที่สุด คำถามแบบนี้จึงเกิดขึ้น แต่การให้คำว่า brand loyalty ของคุณคุรุทาสทำให้เกิดความรู้สึกไม่ชอบใจเมื่อได้อ่าน เพราะมันไม่ใช่ความจงรักภักดีหรือสาวก ก่อนหน้านี้เราใช้ชาวเกาะมาตลอด แต่พออร่อยดีวางตลาดและให้รสชาติที่ดีกว่า เราเปลี่ยนมาใช้อร่อยดี และใช้เรื่อยมาเพราะยังไม่มียี่ห้อไหนให้รสชาติที่น่าพึงพอใจเท่า .. เราจงรักภักดีต่อยี่ห้อ "อร่อยดี" และทรยศยี่ห้อ "ชาวเกาะ" หรือไม่? ถ้าคำว่า brand loyalty เรานึกถึงการปักใจใช้สินค้าของบางยี่ห้อที่มีราคาสูงกว่าสินค้าคุณภาพระดับเดียวกันในท้องตลาด แม้ว่าจะให้ความพึงพอใจในระดับเดียวกัน แต่การที่ใครจะนิยมใช้กะทิยี่ห้อไหน เราไม่คิดว่ามันเป็น brand loyalty แต่คิดว่ามันเป็น "ลิ้นนิยม" มากกว่า "รสนิยม" เคารพความคิดเห็นของคุณและอยากแสดงความคิดเห็นของตัวเองบ้างเท่านั้นค่ะ ส่วนคำตอบสำหรับเจ้าของกระทู้ เราก็ชอบยี่ห้ออร่อยดีมากกว่าค่ะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปใช้กะทิธัญพืชแทนแม้รสและกลิ่นจะต่างจากกะทิจริงๆ อยู่บ้าง แต่นึกถึงเรื่องสุขภาพก็ทำให้กินได้สบายใจกว่า และบางมื้อก็ลงทุนทำนมถั่วเหลืองเองเพื่อใช้แทนน้ำกะทิ รสชาติต่างกันไม่มาก แต่ดีต่อสุขภาพกว่ากันมากค่ะ ลองเสนอเผื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งนะคะ แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 52 13:28:23 จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) - [ 16 มี.ค. 52 13:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เริ่มอ่าน เริ่มร้อนแรง นี่ถ้าต้มต่อไปซักนิด จนกะทิแตกมัน อาจมีติดไฟได้ ฮ่าๆ นี่ถ้าแค่สาวกคงไม่เท่าไหร่หรอกครับ กลัวเจ้าของกิจการมาปะทะคารมกันเอง เอาแค่ขาว ข้น หวาน มัน ก็พอนะครับ กำลังทำอาหารอร่อยเชียวครับ จากคุณ : SE_Hatyai - [ 16 มี.ค. 52 15:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มาคอนเฟริ์มอีกคนว่ากระทิพาสเจอร์ไรท์ รสชาติใกล้เคียงกะทิสดมากที่สุด จากคุณ : tb - [ 16 มี.ค. 52 16:21:00 ]

ความคิดเห็นที่ 30 # 28 ครับ ชอบแบบ แตกมันหรือครับ ผมก็ชอบครับจะผัด จะแกง กะทิต้องแตกมัน อาหารถึงอร่อยครับ รับรองได้ครับว่า  "ไม่ใช่ เจ้าของกิจการแน่นอนครับ" เพราะเจ้าของธุรกิจ หรือ กิจการใดๆก็แล้วแต่ ไม่เคยมองกลุ่มลูกค้าเป็น  "สาวก" ดอกครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 16 มี.ค. 52 23:22:48 ]

ความคิดเห็นที่ 31 รู้สึกว่าคุณสีฯ นั่นแหละจะตามกระแหนะกระแหนผม ... เห็นมาหลายกระทู้แล้ว หากคร้านจะตามไปตอบ ถ้าคุณสีฯ พอจะหาลิงก์ของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ ลองพิมพ์คำว่า "บรมครู" ดูนะครับ แล้วจะทราบเองว่าผลเป็นเช่นไร ใช่คำที่สงวนไว้สำหรับเรียกพระพุทธเจ้าหรือไม่? ถ้าคุณสีฯเป็นคนพุทธ ... น่าจะสำนึกแล้วนะครับว่าควรจะนำไปใช้ "ลากถู" ต่ออย่างที่คุณสีฯ กระทำในกระทู้ที่ยกมานั่นหรือไม่ ตัวผมเองไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ หากแต่คุ้นเคยกับ "ป้าอ้วน" บ้าง จึงได้สะกิดเธอ ไม่เหมือนคุณสีฯ ที่มีอักขรวิบัติบ่อยครั้ง แต่ว่าเราไม่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ผมก็ถือว่าธุระไม่ใช่ สำหรับเรื่องทูน่า หรือจะเรื่องขาเข้า, ขาออก ผมก็ตอบไปตามที่รู้ที่เห็นมา ... รวมถึงเรื่องราคากะทิกล่องด้วย เพราะในซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่ผมใช้บริการอยู่ "อร่อยดี" ราคาถูกกว่า "ชาวเกาะ" ... ประมาณ ๒๕ สตางค์ หรือ ๕๐ สตางค์นี่แหละ สำหรับประเด็นยี่ห้อที่ถกกันที่จริงผมก็เห็นขัน ... เนื่องจากเหตุใดจึงมาใส่ใจในประเด็นเล็กน้อยที่มีนัยสำคัญไม่สูง หากความแตกต่างที่เห็นได้ชัดกลับมองผ่าน เพราะกะทิสดอร่อยกว่ากะทิกล่องมาก หรือแม้แต่กะทิพาสเจอร์ไรซ์ก็ยังอร่อยกว่า ... อย่างนี้เรียก ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น หรือหาไม่ เอาเถิด ... สำหรับประเด็นที่ว่าหากซื้อกะทิสดมาในปริมาณมากแล้วใช้ไม่หมดจะทำเช่นไร ตัวคุณสีฯ เองก็ทราบว่าสามารถเก็บได้วันสองวัน ... ไม่ใช่เก็บไม่ได้เอาเสียเลย ... ส่วนวิธีเก็บลองช่วยตัวเองดูนะครับ หรือมีอีกวิธี ๑ ซึ่งเป็นวิธีเดียวกันกับที่ท่านเศรษฐีถามว่าที่ลูกสะใภ้ว่าหากมีปลาเพียงตัวเดียว จะทำอย่างไรจึงจะกินได้ทั้งปี นั่นคือเผื่อเพื่อนบ้าน หรือว่ามื้อทั้งมื้อบ้านคุณสีฯ จะมีเพียงหลนถ้วยเดียว ... ลองพิจารณาผักต้มกะทิบ้างเป็นไรเพื่อแนมกับหลน ... เป็นไปได้ว่าคุณสีฯ ชอบผักสด หรือต้มข่าไก่, ต้มยำอื่น, ต้มกะทิใบมะขามอ่อน จะใช้เนื้อเค็มหรือปลาเค็มก็ว่ากันไป หรือจะต้มกับหน่อไม้ดอง+ชะอมก็ได้ ... ตาลอ่อนก็อร่อยนะครับ น่าจะจบเสียทีเรื่องกะทิ อนึ่งคำว่า "จงรักภักดี" ที่จริงคำ ๆ นี้ก็เป็นคำสูง เรามักใช้กับสถาบัน แต่เมื่อมีคนนำมาใช้อย่างไม่เห็นค่า อาทิ จงรักภักดีกับยี่ห้อสินค้า ซึ่งก็เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการกระทำ "ลากถู" อย่าลืมว่าผมเป็นคนใช้คำว่า brand royalty ทว่ามีท่าน ๑ แปลดังนั้น คำว่าสาวกจึงเป็นเรื่องที่ตามมา ส่วนตัวผมเองเป็นสาวกของสินค้าใดหรือแม่ค้าใด ตอบว่าไม่เป็นครับ ... เพราะผมไม่มี brand royalty สุดท้าย ... ขอขอบคุณคุณสีฯ นะครับ ที่เห็นว่าเพื่อนร่วมชาติจะปฏิบัติงานได้ดีต่อเมื่อมีปฎัก ... เท่านั้น จากคุณ : คุรุทาส - [ 17 มี.ค. 52 04:08:32 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอคุณมากครับที่สละเวลาตอบ และได้ทำความเข้าใจ ผมเลือกเอาแต่เนื้อๆครับ น้ำไม่เอา หากเอาน้ำมามากไป ไฉนเลยกะทิจะมัน คล้ายๆกับ แกงโหรงเหรง ทานไม่ใคร่อร่อยครับ ด้วยความสัตย์จริงเลยครับว่า ผมไม่เคยคิดกระแหนะกระแหน ท่านเลย เพราะคิดอยู่เสมอว่า ถ้าอยู่ในขอบเขตของการตอบแบบหลักการ และเหตุผล จึงได้ยกตัวอย่างกระทู้ ทูน่าให้ท่านทราบ  ที่ท่านตอบในกระทู้นั้นว่า          "หรือจะเป็นประเทศโลกที่สามเค้าสั่งกัน" คำนั้นคำเดียวที่ทำให้ผมเปลื่ยนความรู้สึกว่า   ท่านเปลื่ยนไปจากเดิมในความรู้สึกของผม  คำว่าเปลื่ยนก็คือ เมื่อหาคำตอบไม่ได้ ก็ตอบแบบ"ทุบดิน"   เรื่องกะทินี่ก็คล้ายกัน  ประเด็นอยู่ที่ กะทิ2ยี่ห้อ อย่างไหนรสชาติดีกว่ากัน ถ้าคนถามเค้าเลือกใช้กะทิสด ก็คงไม่มีคำถามในเรื่องกะทิกล่อง และเรื่องนี้ก็ได้ตามมา ผมขอก๊อปคอมเม้นท์ #21 ของท่านมานะครับ "ลำดับ ๓ คือการใช้กะทิกล่อง ... ส่วนที่ว่าใครจะมีความจงรักภักดีต่อยี่ห้อไหนก็คงเป็นเอกสิทธิ์ เพียงแต่ผมยังใช้ "ราคา" เป็นตัวกำหนด เนื่องจากมองว่าเหมือนกัน และไม่อยากให้ผู้ผลิตมองผมเป็นสาวกที่จะทำอะไรก็ได้" จากข้อความที่ยกมา แยกออกเป็น2ประเด็น ประเด็นแรก เรื่อง ราคา ซึ่งผมได้ตอบชัดๆแล้ว ว่า อร่อยดี แพงกว่า ชาวเกาะ ในขนาดบรรจุเท่ากัน ประด็นที่สอง  เรื่องคำว่า "สาวก"  ท่านได้ใช้คำที่ถูกที่ต้องแล้วหรือ? สำหรับ กระทู้ป้าอ้วน หากต้องการที่จะสะกิด ก็ควรใช้คำให้ไพเราะกว่านี้ ไม่ใช่ลงท้ายใช้คำว่า "ไม่ควรนำมาลากถู"   ตรงไหนที่นำมาลากถู  มีแต่เค้าสรรญเสิญ เยินยอ ว่าคนที่สอนให้เค้าทำอาหารเก่งขึ้น จึงได้ยกย่องให้เป็นบรมครู    และท่านคิดบ้างไหม? ว่าป้าอ้วนมีความรู้สึกเช่นไร?   ตามที่ผมเห็นและยกมาให้ท่านดูว่า  คำว่า  "บรมครู" ที่ใช้เรียกบุคคลต่างๆเหล่านั้นล่ะครับ  สมควรที่จะเรียกได้หรือไม่  ถ้าเรียกไม่ได้ เราควรเรียกอย่างไร?  ผมไม่เก่งเรื่องภาษาไทย เพราะไม่ได้เรียนมากมาย  ที่เรียนมา ครูบาอาจราย์ ก็สอนผมมาแบบนี้ ให้เรียก บรมครูเพลง  บรมครูอาหาร และอีกหลายๆบรมครู ตาม ตัวอย่าง ขอบคุณสำหรับ คำแนะนำ ในการเก็บกะทิ และเมนูต่างๆ ด้วยความยินดีครับ  ถ้าได้กลับบ้าน จะไม่ลืมเมนูนี้ ต้มกะทิใบมะขามอ่อนน่าสนใจครับ ท้ายสุดในเรื่อง  brand royalty  ซึ่งผมได้ใช้คำว่า จงรักภักดีต่อตัวสินค้า ท่านกลับใช้คำว่า สาวก ตามมา   คำเช่นนี้มันเหมือนกับการเหยียดหนันครับ ต้องขอรบกวนท่านช่วยให้ความหมายของคำว่า brand royalty  หน่อยเถอะครับ เพื่อที่ผมจะได้ใช้คำได้ถูกต้อง ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 17 มี.ค. 52 11:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อีกสักนิดน่ะครับ สำหรับเรื่อง "บรมครู" ซี่งผมได้ยินมาตั้งแต่เด็กว่า บรมครู เพลง  เอื้อ สุนทรสนาน และ ชาลีอินทรวิจิตร บรมครู ลำตัด หวังเต๊ะ บรมครู กวี สุนทรภู่ บรมครูอาหาร หม่อมจ้าวหญิงจงจิตถนอม ดิศกุล และก็ถูกสอนมาว่า  ในหลวง อันเป็นที่รักยิ่งของชาวไทย  ก็เป็นบรมครู ปราช์การศึกษา ที่อ้างมาทั้งหมดนี้ ผิดหรือปล่าวครับ ถ้าผิด  เราควรเรียกอย่างไร? สุดท้าย ก็ ไม่วายที่จะถาม คำว่า  " brand royalty"  ที่ท่านเอ่ยมา  แล้วผมใช้คำว่า "จงรักภักดีต่อสินค้า" มันผิดตรงไหน? อย่าลืมครับว่า  เรากำลังคุยกันเรื่อง สินค้า สองยี่ห้อ  ไม่ได้คุยกันถึงเรื่องอื่นที่นอกเหนือไปจากนี้ การยกตัวอย่างเช่น  "ความจงรักภักดี"  โดยตัดคำว่า  "ต่อตัวสินค้าไป"  แล้วนำมาตีความแบบสั้นๆว่า  คำๆนี้ ควรใช้ กับสถาบันชั้นสูง แล้วท่านตัดคำว่า ต่อตัวสินค้าออกไปทำไมล่ะครับ   คำที่ใช้ต่อท้าย จงรักภักดี ไม่เพียงแต่มีเท่านี้ ผมยังเคยฟังการบรรยาย หัวข้อเรื่อง " ความจงรักภักดี ต่อองค์กร หรือ บริษัท"  มันผิดรึป่าวครับ แบบนี้ ขอแบบ เนื้อๆนะครับ ขอบพระคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 17 มี.ค. 52 13:32:55 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขออนุญาต จขกท. ใช้เนื้อที่ตรงนี้อีกครั้งนะครับ ... น่าจะเป็นครั้งสุดท้าย ... กระมัง เรื่องที่ ๑ ที่ผมคะเนไปว่าฤๅจะเป็นประเทศในโลกที่ ๓ ... เป็นเพราะในสมัยที่ผมยังเดินไปเดินมาอยู่แถบโรงงานผลิตทูน่ากระป๋อง ไม่มี order เช่นนี้เลย แต่กาลนั้นก็ประมาณเกือบ ๓๐ ปีแล้ว เป็นไปได้ว่าเรื่องที่คุณทราบ ... ผมไม่ทราบ ... ไม่ได้กำปั้นทุบดินแต่ประการใด เรื่องที่ ๒.๑ ราคาถูกหรือแพง ... ขออภัยเถิด ผมไม่เคยดูราคากล่องขนาด ๒๕๐ cc. เพราะถ้าผมจำเป็นต้องใช้ ผมจะใช้กล่องใหญ่ และกล่องใหญ่นั้น "อร่อยดี" ราคาถูกกว่า "ชาวเกาะ" ... ลองไปเดินด้อม ๆ มอง ๆ ที่ห้างดอกบัวดูนะครับ แปลไทยเป็นไทยว่า ผมก็เคยใช้ "อร่อยดี" แต่ที่ใช้เพราะราคาถูก เรื่องที่ ๒.๒ ถ้าคุณสีฟ้าของน้ำทะเลย้อนกลับไปอ่านความเห็นของผมด้านบนนั่นดูอีกครั้ง จะเห็นว่าผมไม่ได้ว่าใคร ผมใช้คำว่า "ไม่อยากให้ผู้ผลิตมองผมเป็นสาวก" นั่นคือผู้ผลิตจะมองใครอย่างไรก็ช่างผู้ผลิตเถิด แต่อย่ามองผมเป็นสาวกก็แล้วกัน เรื่องที่ ๓ Brand Loyalty คำ ๆ นี้แปลว่าความภักดีต่อสินค้าครับ มิใช่จงรักภักดีต่อสินค้า ความหมายจะผิดกันมาก และถ้าใช้คำว่า "จงรักภักดี" กันจริง ๆ คำว่าสาวก, บริวาร, ข้าทาส ฯลฯ ก็จะตามมา เนื่องจากเป็นคำคู่กัน มิได้เหยียดหยันแต่ประการใด ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ ว่า ถ้าเราใช้คำว่าพ่อก็ต้องคู่กับแม่ มิใช่นำไปคู่กับมารดา เพราะมารดาต้องคู่กับบิดา อยากสรุปว่าคุณสีฟ้าของน้ำทะเลไม่เข้าใจความหนักเบาของภาษา และอาจจะด่วนสรุปเอาเองมากไปนิด ... ขออภัยล่วงหน้าหากผมเข้าใจผิด คำว่า "ลากถู" ก็เช่นกัน ความหมายมีแต่เพียงว่าอย่านำไปใช้โดยไม่สมควร ผมคิดว่าชาวก้นครัวเป็นจำนวนมากที่ใช้จานชามแบบพิเศษเวลาเลี้ยงพระหรือเลี้ยงแขก หากในยามปกติก็จะใช้จานชามอย่างธรรมดา การนำจานชามอย่างพิเศษมาใช้ในเวลาธรรมดานั่นแหละมีสำนวนว่าอย่าใช้ลากถู ... สำนวนเริ่มต้นมาจากเชี่ยนหมากครับ ทั้ง ๆ ที่ก็นำไปใช้กินข้าว เหมือนกับที่คุณสีฟ้าของน้ำทะเลระบุว่านำไปใช้สรรเสริญนั่นแหละ นั่นคือจะใช้กินข้าว หรือจะใช้ยกย่องสรรเสริญใคร ก็อย่าใช้จานหรือคำที่เกินไปนัก คะเนว่าคุณสีฟ้าของน้ำทะเลคงจะลองใช้ลิงก์พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานแล้ว และคงจะรู้แจ้งเห็นจริงแล้วว่าคำว่า "บรมครู" นั้นเป็นคำพิเศษจริง ๆ ใช้เรียกหาพระพุทธเจ้าจริง ๆ ... ผมไม่ได้เท็จพูด ฉะนั้นเมื่อ "บรมครู" หมายถึงพระพุทธเจ้าแล้ว จะนำคำ ๆ นี้ไปใช้เรียกผู้ใดได้เล่า ... กรณีที่นำไปใช้ถึงแม้ว่าอาจจะเรียกว่าผิดไม่ได้เต็มปากเต็มคำนัก ก็ย่อมถือได้ว่าไม่สมควร ผู้เฒ่าผู้แก่หลายต่อหลายคนคงเลิกคิ้วไปตาม ๆ กัน ขอยกตัวอย่างอีกครั้ง ... ไทยเรามีคำราชาศัพท์ที่แบ่งออกได้หลายลำดับชั้น ... มีนิ้วก้อยหัวแม่มือว่าอย่างนั้นเถิด ถ้าเรานำศัพท์ที่ใช้กับหม่อมเจ้าไปเพ็ดทูลพระองค์เจ้า ... การจะเป็นเช่นไร? และถ้าเรานำศัพท์ที่สมควรใช้กับพระองค์เจ้าไปทูลหม่อมเจ้า ... ผมคิดว่าหม่อมเจ้าองค์นั้นก็คงจะตะครั่นตะครอตัวพอสมควร ศาสดาของคุณเอง ... หากคุณไม่ยกย่อง ... ผมก็ไม่รู้จะไปว่ากระไรได้ กรณี "ป้าอ้วน" ผมเรียนแล้วว่าเราคุ้นเคยกัน ผมเคยติติงเธอมาแล้วหลายครั้ง บนบกบ้าง ใต้ดินบ้าง แต่ครั้งนี้คงต้องเป็นบนบก เพราะจะเป็นตัวอย่างที่ไม่สมควรต่ออนุชน สุดท้าย ... กับข้าวบางประเภทเคี่ยวกะทิให้แตกมันแล้วไม่อร่อยดอกครับ ยกตัวอย่างหลนที่คุณสีฟ้าของน้ำทะเลตั้งใจจะปรุงนั่นก็ใช่ ... แต่คลับคล้ายคลับคลาว่าคุณโอนาจะยืนยันว่าต้องแตกมัน ... ลองถามคุณชายกางดูอีกทีก็แล้วกัน หรือจะเป็นต้มยำ, ต้มข่า, แกงคั่ว ... กับข้าวเหล่านี้เราไม่เคี่ยวดอกครับ ป.ล. ผมก็มีคำผิดบ้างเหมือนกัน Brand loyalty ครับ มิใช่ royalty ... ขออภัย ขออภัย ป.ล. ๒ ยังมีอีกคำที่เราขอสงวนไว้ใช้กับพระบรมวงศานุวงศ์ นั่นคือคำว่า "จรด" อาทิ จรดพระนังคัล, จรดพระกรรบิดกรรไตร (มีด,กรรไกร) แต่เราก็ยังพบนวนิยาย "ฟ้าจรดทราย" อยู่ ซึ่งก็พูดไม่ออกเหมือนกัน สถาบันของเราเอง ... หากไม่คิดจะฟูมฟักรักษา แล้วภายภาคหน้าจะว่าไร จากคุณ : คุรุทาส - [ 17 มี.ค. 52 15:13:36 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เช่นกันครับ เพราะดูๆไปแล้วว่า มันมากไปด้วยน้ำครับ เนื้อแท้ไม่มาก การที่ท่านคะเนไว้ เมื่อ30ปีก่อน แล้วตอบมาเช่นนั้นว่า "น่าจะเป็นประเทศโลกที่สามสั่งออเดอร์" ท่านลองคิดดูเอาเถิดครับ ท่านตอบมาเช่นนั้น มันหมายความว่าอย่างไร? ในความรู้สึกของผู้อ่าน ความหมายก็คือ ออเดอร์นี้เนี่ย ประเทศโลกที่สาม เค้าสั่งกัน ง่ายๆก็คือ  ผมบอกว่ามี   แต่ท่านบอกว่าไม่มี ถ้ามีก็คงเป็นโลกที่สาม นี่แหละครับ  ผมจึงได้คิดว่า ท่านตอบแบบทุบดิน   การที่ท่านจะนำเอาประสบการณ์จากเมื่อ30ปี มาตอบในตอนนี้ ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องครับ เพราะไม่อัพเดท  เค้าถามปัจจุบัน เอาอดีตมาตอบ ผมว่ามันไม่ใช่ครับ  และประเทศโลกที่สาม ก็มิเคยเห็น ถ้าไม่ใช่ ทุบดิน หรือ กระแหนะกระแหน  เค้าจะเรียกการแบบนี้ตอบยังไง? ถัดมา   ก็เรื่องราคา ไม่ต้องแปลไทยเป็นไทยหรอกครับ   ตามที่บอก  อร่อยดีแพงกว่า  ในขนาดบรรจุ 250 มล   ผ่านไปนะครับ ย้อนกลับมาเรื่อง   สาวก ท่านใช้คำว่า brand royalty   ผมใช้คำว่า  จงรักภักดี ต่อตัวสินค้า  (ถ้าที่ถูกต้องคือ ภักดีต่อสินค้า) ตามที่ท่านบอกมา ผมน้อมรับครับ และยินดีกลับไปแก้ไข เมื่อท่านท้วงติง แต่ท่านกลับตัดคำที่ลงท้าย(ต่อตัวสินค้า)ออก แล้วท่านมาสรุปว่า สาวก มันไม่ถูกต้องเท่าใดนัก ในความคิดของผม ท่านยังไม่ได้ตอบผมครับว่า  ตัวอย่างที่นำมานี้ บรมครู เพลง  เอื้อ สุนทรสนาน และ ชาลีอินทรวิจิตร บรมครู ลำตัด หวังเต๊ะ บรมครู กวี สุนทรภู่ บรมครูอาหาร หม่อมจ้าวหญิงจงจิตถนอม ดิศกุล และก็ถูกสอนมาว่า  ในหลวง อันเป็นที่รักยิ่งของชาวไทย  ก็เป็นบรมครู ปราช์การศึกษา  ถ้าไม่เรียกบรมครู แล้วเราจะเรียกว่ายังไง? สุดท้าย ท่านก็ผิดอีกเช่นเคย ในเรื่องการปรุงอาหาร หลน เมื่อทานไม่หมดค้างคืนไว้ ก็จะนำไปอุ่นต่อ ทำให้แตกมัน ยิ่งอร่อยครับ แกงคั่ว บางชนิด ก็นิยมให้แตกมัน เพราะต้องใช้หัวกะทิไปผัดกับเครื่องแกงผัดจนได้ที่ก็จะแตกมัน ซึ่งดูแล้วน่าทาน มันเมื่อลอยอยู่หน้าอาหารผสมกับสีแดงของพริกแกง ทำให้ดูน่าทานขึ้น ต้มยำน้ำข้น เค้าไม่ได้ใช้กะทิทำให้แตกมัน แต่กลับใช้น้ำมันของน้ำพริกเผา ลอยอยู่ด้านบน ซึ่งดูแล้วทำให้น่าทานยิ่งขึ้น ผมไม่อยากออกทะเลครับ เอาให้อยู่ในประเด็น และไม่ควรเอาเรื่องอื่นมาปนเป เช่นสำนวนต่างๆ  จาน ชาม เชี่ยนหมาก อะไรซึ่งไม่ได้อยู่ในเนื้อหา ผมอาจไม่เก่งในภาษาเหมือนท่าน จึงทำให้เข้าใจได้ยากขึ้น คล้ายๆกับที่ท่านบอกไว้แหละครับว่า  "แปลไทยเป็นไทย" และหากผมผิดตรงไหน ก็แย้งได้ครับ และยินดีน้อมรับคำผิดที่ ได้เอ่ยไว้ เช่นกันครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 17 มี.ค. 52 16:19:16 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณสีฟ้าของน้ำทะเลอ่านภาษาไทยไม่แตกจริง ๆ เมื่อผมใช้คำว่า "กระมัง" แปลว่าผมคาดคะเน มิได้แปลว่าผมแน่ใจเช่นนั้น ส่วนเรื่องราคา ... ไว้ผมจะไปดูอีกครั้งเมื่อถึงเวลาจับจ่ายประจำเดือน ... แต่คิดแล้วดูเหมือนไม่มีเหตุผลอย่างไรชอบกล คำว่า จงรักภักดี แปลว่า ภักดีอย่างยิ่ง ... ฉะนั้น "คน" ที่จะรู้สึก "ภักดีอย่างยิ่ง" ได้ สมควรจะเป็น "คน" ในฐานะใด ลองตรองดูเถิด มิพักต้องสนใจในคำหรือวลีถัดมา สำหรับคำถามที่ผมไม่ตอบ เนื่องจากผมคิดว่าคุณควรจะรู้ได้เอง ... สงสัยจะมีคนช่วยจับคว่ำเสียกระมัง ในเมื่อ "บรมครู" เป็นถ้อยคำที่สงวนไว้เรียกหาพระพุทธเจ้าแล้ว บุคคลอื่น ๆ ก็เรียกหาได้ว่า "ครู" เท่านั้นเอง หรือจะไพล่ไปเรียกว่า เอกอัครมหาศิลปิน อย่างไรก็ว่ากันไป เหมือนกับที่คุณเรียกผู้ชายคน ๑ ว่า "พ่อ" แล้ว ... คุณจะไปเรียกผู้ชายอีกหลายคนที่เดินผ่านหน้าบ้านว่า "พ่อ" อีกได้อย่างไร ในเมื่อตำแหน่งแห่งหนของ "พ่อ" นั้นมีอยู่เพียงคนเดียว ประเด็นสุดท้ายเรื่องอาหาร ขอผ่านเถิด ลางเนื้อชอบลางยา นานาจิตตัง เอาเป็นว่าบ้านผมไม่กินอย่างที่คุณว่ามาก็แล้วกัน ... จะผิดจะถูกอย่างไรช่างผมเถิด สำหรับเรื่องออกทะเลหรือมีน้ำมากกว่าเนื้อในความเห็นของคุณนั้นกลับเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เนื่องจากในสมัยที่ผมเรียนหนังสือนั้น เราถือกันว่าผู้สอนควรจะยกตัวอย่างมาก ๆ เพื่อให้เด็กได้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง และสามารถคิดต่อได้เอง มิใช่รู้เฉพาะเรื่องที่ครูสอนเท่านั้น แต่เมื่อคุณมองว่าผมออกนอกประเด็น ผมก็จนใจ จากคุณ : คุรุทาส - [ 18 มี.ค. 52 04:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องรึป่าวครับว่า ท่านตอบมาจากอดีตเมื่อ 30 ปี แถมยังใช้คำว่า กระมัง อีก เอาเป็นว่า ฟังดูมันแปลกพิลึกครับ แปลกตรงที่เอาเรื่องเก่าสมัย30ปีมาตอบโดยที่ไม่แน่ใจ จึงแถมด้วยคำว่ากระมัง ผมจะภักดี ต่อสินค้าที่ผมพึงพอใจ ใช้แล้วดีกว่าสินค้าที่เคยใช้มา ราคาอาจไม่ใช่ตัวกำหนด  การซื้อที่สะดวก  อย่างนี้ จะเรียกว่า "lสาวก" รึป่าว การที่ท่านไม่ได้ตอบในสิ่งที่ถามและเกี่ยวกับประเด็นที่คุยกัน ผมก็จะไม่ถามต่อ  ถึงอย่างไร ท่านคงให้คำตอบไม่ได้  เพราะตัวท่านเองก็ออกอาการ พริ้ว ดูอย่างเรื่อง30ปีเป็น ตัวอย่าง ผมพูดด้วยความจริงใจเลยครับว่า  มันชักจะออกทะเลไปเรื่อยๆ   การยกตัวอย่างขึ้นมา มันไม่ได้อยู่ในเนื้อหา ออกนอกเรื่องทุกที  และที่สำคัญการที่ต้องมานั่ง อ่านแบบ  แปลไทยเป็นไทย  เช่นนี้แล้ว ผมคงคุยกับท่านไม่รู้เรื่อง ผมเกรงว่าท่านจะหาว่าผมเป็น  "คนขวางโลก" การที่จะพร่ำสอนคน โดยที่ไม่รู้น่าค่าตา มันไม่เหมือนกับการที่ ครูอยู่หน้า กระดานดำในห้องแล้วสอนนักเรียนในชั้นเรียน   และหากท่านเป็นครู  ท่านสอนนักเรียนด้วยถ้อยคำเช่นนี้  นักเรียนจะรับรู้หรือไม่ ว่าท่านพูด ท่านสอน อย่างไร? ผมจะยอมรับ ถ้าหากเป็นการเตือนกัน โดยมีเหตุผล ใช้คำให้นุ่มนวลกว่านี้ ผมยินดีน้อมรับครับ มิใช่ว่า พอเห็นว่า พูดหรือเขียนผิด แล้วปล่อยเลย ไม่ทักท้วงก่อนที่จะซ้ำเติมผู้พูด หรือ ผู้เขียน ด้วยถ้อยคำ ไม่เป็นมิตร ครับ ด้วยความเคารพในความอาวุโสของท่านครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 18 มี.ค. 52 12:46:44 ]

ความคิดเห็นที่ 38 จะเถียงกันเอาโล่เหรอคะ  ดุเดือดกันจริงๆๆๆๆ จากคุณ : rakuraku - [ 18 มี.ค. 52 15:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 39 พยายาม search หากระทู้เก่าเหมือนกัน ... แต่หาไม่พบ ... ขอพูดถึงด้วยความจำก็แล้วกัน ประสบการณ์เมื่อประมาณ ๓๐ ปีที่แล้วก่อนที่ผมจะลาร้างจากมาได้แก่ บจก.ไทยแคนเนอรี่ (ปัจจุบันเลิกกิจการไปแล้ว), บจก.ไทยยูเนียนอุตสาหกรรม (ปัจจุบันเป็นบริษัทมหาชน), บจก.ยูนิคอร์ดฯ และ บจก.พัทยาฟู้ดฯ ไม่รวมบริษัทอื่น ๆ ที่ติดต่อกันอีก ในสมัยนั้นไม่มี order อย่างที่สนทนากันเลย แต่เมื่อคุณบอกว่ามี ... ผมก็ตั้งข้อสังเกตว่าเป็น order ของประเทศในโลกที่ ๓ กระมัง ... เนื่องจากเป็นปลา second grade และตลาด premium ไม่เคยสั่งมาก่อน การที่คุณจะเป็นสาวกของใครหรือของอะไร ... ขึ้นกับว่าคุณภักดีอย่างยิ่งหรือไม่ สุดท้าย ... หวานเป็นลม ขมเป็นยา หวังว่าคงจะเข้าใจ แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 52 16:05:22 จากคุณ : คุรุทาส - [ 18 มี.ค. 52 16:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ด้วยความเคารพจริงๆอีกครั้งครับ  ท่านอาจจะสับสน ความคิดเลือนลาง ไปแล้วครับ(ไม่ใช้คำว่า กระมัง) เพราะ30 ปีที่ท่านบอก โรงงานยังไม่เกิดครับ บริษัท ไทยยูเนี่ยนก่อตั้งปี 2531 เมื่อหักลบกับปีนี้ ก็ได้ตัวเลขที่ 21 ปีครับ  น่าจะใกล้เคียงกับ พัทยาฟูดส์ เพราะมารุ่นหลังแล้ว ส่วนรุ่นแรกๆ ก็มีเพียง บริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสหกรรม และ ยุนิคอร์ด เท่านั้น หลังจาก คุณดิริห์ เสียชีวิต ราวปี 2537   บ ไทยรวมสิน ก็ผงาดขึ้นเป็นแชมป์ ทูน่ากระป๋อง ผมจึงสรุปได้ว่า  ท่านสับสน หรือ ลางเลือน เป็นแน่ และการที่ นำคำตอบ มาจากสมัย 20กว่าปี มาตอบในกระทู้ปัจจุบัน โดยที่ไม่ทราบว่า มีจริงหรือไม่ มันก็เท่ากับ ข้อมูลล้าหลัง ไม่ทันสมัย ใช่รึป่าวคับ ทั้งนี้ ไม่รวมคำว่า กระมัง และโลกที่สาม ตามที่อ้างมา ถ้าท่านไม่ทราบคำตอบ ก็มิควรตอบมาแบบ ดูแคลน คนฟัง   คำว่า " คงเป็นประเทศโลกที่3 เค้าออเดอร์กัน" ถามหน่อยเถอะครับ   มันมีตรงไหน?   ไอ้ประเทศโลกที่3น่ะ และถ้าจะกรุณาตอบแบบ เจาะจงไปว่า คำตอบนี้คือข้อมูล เมื่อ30ปีที่แล้ว ก็คงจะไม่มีใครเถียงหรือแย้งท่านได้  จริงมั๊ยครับ มันไม่ใช่เกรดพรีเมี่ยม หรือ เกรด 2 หรอกครับ ปลาตัวเดียวกัน ทำได้ทั้ง น้ำมัน และ น้ำเกลือ หากจะต่างก็แค่ตัว แพกเกจจิ้ง เท่านั้นครับ ผมไม่เข้าใจ ในการที่ต้องแปลไทยเป็นไทย ผมเข้าใจเพียงแต่ว่า ท่านมีความจำที่เลือนลาง อาจจำอะไรสับสน เช่นเรื่อง บริษัทที่ท่านได้เอ่ยมา แก้คำผิด แก่คำผิดซ้ำ ครั้งที่สอง แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 52 00:09:17 แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 52 23:58:44 จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 18 มี.ค. 52 17:07:47 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมหาเจอครับ คิดว่าท่านคงต้องพึ่งแว่นตา แล้วมั้งครับ http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2009/01/D7388457/D7388457.html จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 18 มี.ค. 52 17:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 42 โอ้พระเจ้าช่วย แค่เรื่องกะทิเนี่ยน่ะ จายเย็นกังนิ๊สสสส....นูงน้า จากคุณ : สุขสันต์ทุกวันคร้าบ (สุขสันต์ทุกวันคร้าบ) - [ 18 มี.ค. 52 18:42:18 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คงต้องเรียนท่านเป็นครั้งสุดท้ายครับ ผมย้อนกลับ ไปดู http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2009/01/D7388457/D7388457.html ในคห 9 (ก๊อบมาให้นะครับ)            ความคิดเห็นที่ 9   ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของ คคห.ที่ ๘ นะครับ นั่นคือทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับคำสั่งซื้อของลูกค้า อย่างไรก็ตามปลาเนื้อขาวนั้นจะใส่อะไรก็ตามใจ แม้แต่จะใส่น้ำมัน เพียงแต่ผมไม่เคยเห็น order ใครเอาปลาเนื้อดำไปใส่น้ำเกลือ หรือจะเป็น order ประเทศในโลกที่ ๓ ก็ไม่รู้เหมือนกัน จากคุณ : คุรุทาส  - [ 6 ม.ค. 52 10:18:23 ]           ทำให้ผม ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า มิได้มีคำที่ท่านใช้   "กระมัง" อยู่ในประโยคนั้นเลย หรือว่า ท่านจำแบบ เลอะเลือน สรุป อย่างไรก็แล้วแต่ ผมก็ยังคง คำนึงและเคารพในความ อาวุโสของท่าน กรอปกับ การใช้ภาษาไทยของท่าน ท่านใช้ภาษาได้แตกฉาน ผมดีใจ ที่ได้โต้ตอบ กับท่าน ซึ่งเปรียบเสมือน ผู้น้อย กับ ผู้ใหญ่ และยังน้อมรับคำที่ผมใช้อย่างไม่ถูกไม่ควร เคารพท่านครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 19 มี.ค. 52 00:21:10 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สำหรับ บจก.ไทยรวมสินฯ และ บจก.ไทยยูเนียนฯ ในระยะแรกคือบริษัทเดียวกันครับ เพียงแต่เป็นชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษเท่านั้นเอง แต่ต่อมาได้มีการจดทะเบียนแยกออกไปเนื่องจากมีการติดต่อต่างประเทศเพิ่มขึ้น และบริษัททั้ง ๒ แห่งนี้ก็ห่างกันชั่วฝั่งถนนเท่านั้นเอง อะไร ๆ ก็ยังหยิบยืมกันอยู่แม้แต่บุคลากร ส่วนเรื่องปลา ... อย่างที่เรียนแล้วว่าปลาเนื้อดำไม่เคยมีการบรรจุในน้ำเกลือมาก่อน จะบรรจุแต่ในน้ำมันเท่านั้น แต่เอาเถอะ เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำถึงขนาดว่าอะไรก็ต้องกินกันแล้ว ก็คงไม่แปลกใจนัก เรียกได้ว่าความจริงเปลี่ยนเมื่อเวลาเปลี่ยน และคงต้องขอขอบคุณทั้ง ๒ ท่านที่ช่วยค้นกระทู้มาให้ อย่างไรก็ตามแม้นว่า content จะไม่เหมือนกันเสียทีเดียว หาก tone นั้นใช่ทีเดียว นั่นคือผมมิได้ฟันธง ... แต่เป็นการคาดคะเน หรือเรียกได้ว่าเป็นการตั้งข้อสังเกต อ้อ ... ผมเข้าใจแล้ว ... คุณไม่รู้จักสำนวน "โลกที่ ๓" นั่นเอง ... ถึงได้หัวฟัดหัวเหวี่ยงถึงเพียงนี้ ที่จริงถ้าไม่รู้จักก็น่าจะถามนะ ... ไม่ใช่โลกนี้,โลกหน้า หรือโลกอนาคตดอก ประเทศในกลุ่มโลกที่ ๓ หมายถึงประเทศกำลังพัฒนา ... หมายเหตุว่ากำลังซื้อไม่สูง ในขณะที่ประเทศในกลุ่มโลกที่ ๑ คือประเทศที่พัฒนาแล้ว ส่วนประเทศในกลุ่มโลกที่ ๒ หมายถึงประเทศคอมมิวนิสต์ สำนวนนี้เริ่มมีใช้ราว ๆ ปี ค.ศ. ๑๙๕๐ นี่คงเป็นเพราะช่องว่างระหว่างวัยกระมัง ... การสนทนาจึงประดักประเดิดนัก จากคุณ : คุรุทาส - [ 19 มี.ค. 52 03:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 45 30 ปี ที่ท่านอ้างถึง ไทยยูเนี่ยน อุตสหกรรม  หลังจากที่ผมบอกว่า บริษัทยังไม่เกิด  ท่านคงจำสับสน หรือ เลือนลาง เป็นแน่ พอมาตอนนี้ ท่านกลับบอกว่า เป็น บริษัทเดียวกัน  ต่างกันคือชื่อที่ใช้ ไทย-อังกฤษ   รู้สึกว่า ท่านจะผิด อีกแล้วครับ ไทยรวมสิน พํฒนา ก่อตั้งมาสมัยไหน? ผมไม่ทราบ   แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่บริษัทเดียวกันแน่นอน ไทยรวมสิน พัฒนาอุตสหกรรม TUM ไทยยูเนี่ยน พัฒนาอุตสกรรม   TUF  ร่วมลงทุนกับญี่ปุ่น แล้วเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในปี31   ที่จะค้านนี้ก็คือ ทั้งTUM และ TUF มีชื่อไทยและอังกฤษ เป็นของตัวเอง คนละบริษัทกันแน่นอน    ต่างฝ่ายต่างบริหาร   หากท่านยกตัวอย่างมาแบบคลุมเครือ แล้วตอบ ก็จะทำให้คนอ่าน สับสนได้เช่นเรื่องโรงงานนี้ และหากท่านจะใช้คำว่า บริษัทในเครือ ไทยรวมสิน  ก็คงไม่มีใครแย้ง แต่ท่านเจาะจง ว่า ไทยยูเนี่ยน แล้วมาบอกว่า เป็นบริษัทเดียวกัน ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละครับ 30 ปีที่ผ่านมา  บริษัทนี้ยังไม่เกิด  ท่านจำผิดหรือสับสน ครับ 30ปี ที่ท่านว่ามา  จะมีก็เพียงแต่  ไทยรวมสิน เท่านั้น เช่นเดียวกันกับเรื่องปลาทูน่า ขอเรียนให้ท่านทราบเลยว่า  ท่านเข้าใจผิดครับ แม้กระทั่งการเรียกชื่อเนื้อปลาว่า  "ปลาเนื้อดำ- ปลาเนื้อขาว" รวมถึง การใช้ปลาเนื้อดำ -ปลาเนื้อขาว บรรจุด้วยของเหลว ชนิดใด หลังจากที่นำลิ้งค์ พร้อมตัวอย่าง มาให้ท่านดู เพื่อให้เห็นจริง จะได้เชื่อว่า "ในโลกนี้ ยังมีอีกหลายเรื่อง ที่ท่านไม่รู้ ไม่เห็น" จริงครับ ผมไม่เข้าใจ คำว่า ประเทศโลกที่3 ว่าจริงๆแล้วหมายความว่าไร? แต่จากคำตอบของท่าน   ลักษณะคล้ายกับว่า พอจับได้ไล่ทัน  ท่านก็ ตอบแบบประชด ประชัน นั่นเอง ท่านครับ ด้วยความเคารพจริงๆ เรื่องปลาในน้ำเกลือ- น้ำมัน นั้นมีจริงๆครับ ไม่เจาะจงลงไปว่า ปลานี้ต้องใส่น้ำเกลือ ปลานี้ต้องใส่น้ำมัน ผมศึกษาเรื่องนี้มานานพอควรครับ สมัย ออฟฟิต ไทยรวมสิน อยู่สวนมะลิ ศึกษาตั้งแต่ กระป๋องที่ใช้บรรจุ ว่ามีกี่ขนาด  ขนาดไหนบ้าง  ขนาดนี้เรียกอะไร  สรุปก็คือ พอเห็นกระป๋องก็ตอบได้เลยว่า ไซส์ไหน เรื่องปลาก็เช่นกัน  ตอนนั้น ไทยยูเนี่ยนยังไม่เกิด  ส่วนสงขลาแคนนิ่ง(SC) ก็ผลิตเพียง แต่ ปู กุ้ง หอย เท่านั้น ครั้น ซาเฮีย เล็งเห็นว่า สงขลาแคนนิ่ง มีศักยภาพ ในการผลิตทูน่า จึงได้เริ่มผลิตอย่างจริงจัง  วัตถุดิบที่ใช้ในท้องถิ่นมีไม่พอ  จำเป็นต้องหาแหล่งเพิ่ม นับว่าเป็นโชคของผม ที่ได้มีโอกาส ศึกษาเรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เรื่องต่างๆที่สมองพอรับไหว  และก็นำมาใช้ในชีวิตประจำวันทุกวันนี้ ผมเองยอมรับในความ อาวุโส ของท่าน และด้วยการที่ถูกสอนมาให้ อ่อนน้อมถ่อมตน ต่อผู้หลักผู้ใหญ่  ผมจึงขอหยุดการโต้ตอบ และขอโทษท่านหากมีการล่วงเกิน  ทั้งนี้ ทั้งนั้น ผมยินดีที่ได้แลกเปลื่ยนความคิด ความรู้ ภาษาที่ท่านใช้ สำนวนต่างๆ ถึงแม้ว่า ในปัจจุบันจะไม่ค่อยได้ใช้กันสักเท่าไหร่นัก   ด้วยความเคารพท่านครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 19 มี.ค. 52 10:22:55 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ยัง ยังเถียงกัน มันไม่เลิก สนุกดีนะ จากคุณ : rakuraku - [ 19 มี.ค. 52 10:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่รู้ไม่ผิดดอกครับ ... แต่เมื่อไม่รู้แล้วยังไม่ยอมรับรู้ก็อีกเรื่อง ๑ คำว่า TUF ที่คุณอ้างถึงนั้น เป็นตัวย่อของ บริษัท ไทยยูเนี่ยนโฟรเซ่นโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ... ลองตรวจสอบตลาดหลักทรัพย์ดูนะครับ น่าจะเรียกได้ว่าเป็นน้องเล็กของเครือนี้กระมัง ส่วน TUM คือ Thai Union Manufacturing Co., Ltd. ทับศัพท์ว่า บจก.ไทยยูเนียนแมนูแฟคเจอริ่ง สำหรับคำว่า ไทยยูเนียนแมนูแฟคเจอริ่ง จะพอแปลเป็นไทยว่า ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม ได้หรือไม่ก็แล้วแต่จะคิด ไทยรวมสินฯและไทยยูเนียนฯ ตั้งอยู่ ถ.เศรษฐกิจ ๑ ชั่วแต่คนละฝั่งถนนเท่านั้นเอง ถ้าคุณรู้จัก "ซาเฮีย" ... ลองถามท่านดูนะครับ รวมถึงศัพท์ง่าย ๆ อาทิ ปลาโอดำ-เนื้อสีขาว, ปลาโอลาย-เนื้อสีดำ หรือถ้าตามหา "คุณมัทนา" ได้ ก็ลองถามดู ... บจก.สงขลาแคนนิ่ง ที่คุณพูดถึงนั่นแหละ และที่ง่ายที่สุดสำหรับคุณ ... น่าจะถาม "เจ๊อี่" กระมัง ... น่าจะยังไม่เกษียณ หรือจะถาม "คุณช้าง" ดี? สุดท้าย ... ผมยอมรับว่ามีหลายต่อหลายสิ่งที่ผมไม่รู้ แม้แต่ว่าสิ่งที่ผมรู้ ... ก็อาจจะรู้ไม่จริง หรือคิดเอาเองว่ารู้แล้วก็ได้ ยินดีที่ได้สนทนากันครับ แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 52 11:17:12 จากคุณ : คุรุทาส - [ 20 มี.ค. 52 11:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไปแบบน้ำขุ่นๆ เลยนะครับท่าน อ้างถึงคำพูดของท่านก่อนว่า "สมัย30ปีก่อน เดินอยู่หน้าบริษัทไทยยูเนี่ยน อุตสหกรรม ซึ่งตอนนี้เปลื่ยนเป็น มหาชน" ผมแย้งไปว่า ไทยยูเนี่ยนยังไม่เกิดเลย เพิ่งจะเกิดเมื่อปี 31 แล้วจะครบ30ปีตามที่ท่านบอกได้อย่างไร? จะมีก็แต่เพียง ไทยรวมสินพํฒนา อุตสหกรรม เท่านั้น ท่านก็มั่ว เหมารวมว่า เป็นอันเดียวกัน เพียงแต่ชื่ออังกฤษเท่านั้น ที่แตกต่าง ผมจึงเอาชื่อ ทั้งสอง บริษัท มาให้ดู TUM  ก็คือ ไทยรวมสินพํฒนา TUF   ก็คือ ไทยยูเนี่ยน ตามที่ท่านเอ่ยถึง เพราะท่านได้เอ่ยไว้แบบชัดเจนดังนี้  (ผมก๊อบมาให้ดูครับ) "ความคิดเห็นที่ 39   พยายาม search หากระทู้เก่าเหมือนกัน ... แต่หาไม่พบ ... ขอพูดถึงด้วยความจำก็แล้วกัน "ประสบการณ์เมื่อประมาณ ๓๐ ปีที่แล้วก่อนที่ผมจะลาร้างจากมาได้แก่ บจก.ไทยแคนเนอรี่ (ปัจจุบันเลิกกิจการไปแล้ว), บจก.ไทยยูเนียนอุตสาหกรรม (ปัจจุบันเป็นบริษัทมหาชน)" เห็นรึยังครับว่า มันแย้งกันในคำพูดของท่านเอง ความหมายของท่านก็คือ  30ปีที่แล้ว ท่านลาร้างจาก บจก ไทยยูเนี่ยนอุตสหกรรม(ปัจุบันเปลื่ยนเป็นมหาชน) นั่นแสดงว่าท่านได้เอ่ยถึง TUF เพราะมีระบุในวงเล็บว่า เป็นมหาชน จะเป็นบริษัทเดียวกันได้อย่างไร  เพราะ ไทยรวมสินหรือ Thai Union Manufacturing Co., LTD  ไม่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์  จะมีก็แต่ ไทยยูเนี่ยน หรือTUF  นั่นแหละครับ ที่ท่านเอ่ยถึง  แต่ละบุคคลที่ท่านเอ่ยถึงนั้น   ผมรู้จักดีครับ และก็คิดต่ออีกว่า  บุคคลที่ท่านเอ่ยถึงนั้น เค้าคงต้องทราบดีอยู่แล้วว่า ปลาเนื้อขาว คือ ปลาโอ ปลาเนื้อแดง คือปลา สคริปแจ๊ค บิ๊กอาย เยลโล่ฟิน โบนิโต้ ปลาเนื้อชมพู ก็คือ อะบาร์คอร์ และปลาทุกเนื้อ ไม่ว่าขาว ไม่ว่าแดง สามารถ บรรจุทั้งในน้ำเกลือ และน้ำมันพืช ครับ ไม่มีการเจาะจง ตามที่ท่านเข้าใจ คำว่าปลาเนื้อดำนั้น มีครับ  แต่เราจะใช้เรียก ส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อดำ ข้างๆลำตัวแถบยาวๆตั้งแต่ครีบด้านข้าง จนถึงปลายโคนหาง และส่วนที่เลือดปลาปะปนกับเศษเนื้อ ช่วงที่พนักงานขูดหนังปลา  แต่เนื้อส่วนนี้ทั้งหมด ไม่ใช้บรรจุเพื่อการบริโภคครับ แต่จะบบรจุ กล้ามเนื้อดำ เลือดปนเนื้อและผิวหนัง ของปลา เป็นอาหารสัตว์ครับ เค้าเรียกกันว่า  ปลาแมว คงไม่ต้องเดือดร้อนไปถามถึงบุคคลต่างๆที่ท่านได้เอ่ยมาหรอกครับ แค่ถามคนงานขูดปลา ก็ได้เรื่องแล้วครับ เรื่องง่ายๆเช่นนี้ ไม่เห็นต้องอายอะไร    และบุคคลที่เอ่ยมานั้น บางท่านผมก็เคารพท่านซึ่งรวมถึง ตั่วเฮีย หรือคุณ ไกรสร  สำหรับ คุณหญิง เคยไป ตปทด้วยกัน สมัยนั้น ช้างยังเรียนไม่จบเลยครับ อ้อ ผมลืมไปอีกนิดนึง (ขอก๊อปข้อความของท่านมานะครับ)     "หรือถ้าตามหา "คุณมัทนา" ได้ ก็ลองถามดู ... บจก.สงขลาแคนนิ่ง ที่คุณพูดถึงนั่นแหละ" คุณหญิง ไม่แน่ใจว่ากลับมา SC อีกครั้งหรือปล่าว เพราะล่าสุดได้ข่าวว่าไปอยู่ โรงงานโฟรเซ่น ที่ซาเฮียไปซื้อใหม่ เป็นโรงงานแปรรูปกุ้งแช่แข็ง และที่จะบอกท่านก็คือ สงขลาแคนนิ่งน่ะ เค้าเป็น  บมจ  ตั้งนานแล้วครับ มิใช่ บจก ตามที่เอ่ยมาครับ และหากการที่ท่านไม่รู้ หรือรู้ไม่จริง ก็ไม่ควรตอบแบบคลุมเครือเลยนะครับ  เป็นต้นว่า "ตามแต่จะคิด"   "กระมัง" "ก็ไม่รู้เหมือนกัน" แถมยังต้อง แปลไทยเป็นไทยด้วยยิ่งแล้ว  ไปกันใหญ่ครับ ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 20 มี.ค. 52 13:57:08 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ดูเหมือนกระทู้นี้จะกลายเป็นกระทู้ของเรา ๒ คนแล้วนะ ... ไปหาที่คุยกันใหม่ไหม? ... เกรงใจเจ้าของกระทู้ และขอตั้งข้อสังเกตว่าเหตุที่คุณทำ "พระพิโรธโกรธกริ้วกระทืบบาท ... พสุธากัมปนาทหวาดไหว" อย่างนี้ เป็นเพราะคุณเข้าใจผิดเรื่อง "โลกที่ ๓" และ เรื่อง "บรมครู" เท่านั้นเอง ในเมื่อมีการพิสูจน์แล้วว่า "บรมครู" เป็นคำเรียกหาพระพุทธเจ้าจริง ๆ และสำนวนโลกที่ ๓ ก็มีตัวมีตนจริง ผมมิได้ประชดประชัน หรือกำปั้นทุบดินแต่ประการใด แต่ผมก็ยังทำ "น้ำขุ่น" อยู่ดี ... ใช่ไหม? ผมยอมรับผิดเรื่องไทยยูเนียนฯยังไม่เป็นบริษัทมหาชน เพราะอย่างที่เคยเรียนไปแล้ว ... ลาร้างจากมานานพอสมควร และไม่ทราบอีกเหมือนกันว่าสงขลาแคนนิ่งเป็นบริษัทมหาชนแล้ว ... การน่าจะกลับกันนะ (รำพึง) ส่วน TUF เคยโผล่หน้าไปดูไม่กี่ครั้ง คงอวดอ้างอะไรไม่ได้ ในสมัยที่ผมไปสิงสถิตอยู่แถบนั้น บ.ไทยรวมสินฯ ตั้งอยู่ฝั่งร้านอาหารป่าคลองครุ และยังเป็นโรงงานเล็ก ๆ ส่วนไทยแคนเนอรี่อยู่ในซอยข้าง ๆ เมื่อข้ามถนนไปอีกฝั่ง ๑ ก็จะเป็นโรงงานอีกเหมือนกัน ... คนแถบนั้นทุกคนทราบดีว่าทั้ง ๒ โรงงานนี้มีเจ้าของเดียวกัน จากข้อมูลของคุณบอกว่าไทยยูเนียนฯ ก่อตั้งเมื่อปี ๒๕๓๑ แต่ขณะที่ผมอยู่นั้นจะราว ๆ ปี ๒๕๒๓-๔ ไม่ต้องทักว่ายังไม่ถึง ๓๐ ปีนะครับ ผมบอกแต่ต้นแล้วว่า "ประมาณ" ขออนุญาตถามว่าโรงงานนั้นชื่ออะไรครับ? ไทยรวมสินฯ หรือไทยยูเนียนฯ คิดว่าคุณคงตอบว่าไทยรวมสินฯ แต่โรงงานนั้นปัจจุบันเป็นที่ตั้งของไทยยูเนียนฯ คงซื้อต่อมาจากไทยรวมสินฯสินะ? สรุปว่าความจริงที่เป็นจริง ๆ กับความจริงทางบัญชีนั้นต่างกัน ส่วนเรื่องปลาเนื้อสีขาวกับปลาเนื้อสีคล้ำ (ไม่เรียกดำก็ได้) ไม่เกี่ยวกับปลาแมว ขอร้องให้ถามคุณมัทนาฯ อีกครั้ง เพราะอย่างน้อยคุณวุฒิของเธอก็น่าเชื่อถือ และถ้าโชคดีบังเอิญได้เจอคุณจำลอง ศ., คุณสมบัติ พ., คุณดาลัด ป., หรือ คุณสมศักดิ์ ต. ก็ลองไถ่ถามดู ... ท่านเหล่านี้คุณวุฒิเดียวกันทั้งสิ้น สุดท้าย ... การปล่อยให้คู่สนทนาคิดเอง แล้วตัดสินใจเอง จากข้อมูลที่เราให้รวมกับที่ศึกษาค้นคว้ามาเอง ถือเป็นแนวทางใหม่สำหรับการจัดการศึกษาในปัจจุบันครับ เราไม่เคี้ยวแล้วคายมาป้อนดอก จากคุณ : คุรุทาส - [ 20 มี.ค. 52 16:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เอาล่ะครับ ผมคิดว่า หากเราสนทนากันต่อไป ท่านก็จะยกเอารายชื่อใครต่อใครมาอีก  จากท่านเศรษฐี ลูกสะใภ้ จวบจนถึง บุคคล 4-5 ท่านข้างบน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย  แล้วท่านเอาชื่อบุคคลเหล่านั้นมาเพื่อไร? หากจะถามเรื่องเนื้อปลาสีแดง เนื้อปลาสีขาว ถามคนงานขูดเลือด ขูดหนัง ท่านก็ทราบแล้วครับ   ส่วนผมทราบและอธิบายไว้แล้วด้านบน   ผมไม่ใช่ครูครับ บางทีอาจจะอธิบายไม่เก่งนัก  และหากผมต้องฟังหรือรับรู้ ข้อมูลต่างๆจาก ผู้รู้ หรือ ครู ท่านใดท่านหนึ่ง  แต่ข้อมูลนั้น มันไม่ทันสมัย ล้าหลัง คลุมเครือ หรือ ข้อมูลผิดๆ  ผมก็คงรับไม่ได้ หรือ เลือกที่จะโต้แย้ง ถ้าข้อมมูลนั้นเป็นข้อมูลที่ผิดๆครับ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 20 มี.ค. 52 17:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 51 สรุปว่าการที่ "จะพลิกพลิ้วชิวหาเป็นอาวุธ .... ประหารบุตรเจ้าลังกาให้อาสัญ" เนื่องจากขัดใจเรื่อง "โลกที่ ๓" และ "บรมครู" ก็เอวังด้วยประการฉะนี้ คุณยืนยันข้อมูลของคุณ และผมก็ยืนยันข้อมูลของผม ซึ่งจริงอยู่ว่าข้อมูลของผมอาจไม่เป็นปัจจุบัน แต่ก็สามารถบอกได้ว่าแต่เดิมนั้นเขานิยมกันเช่นไร นับเป็นการดีที่คุณเชื่อหลักกาลามสูตร ... ทั้ง ๆ ที่ ๕ ท่านที่ผมพูดถึงล้วนแล้วแต่เป็นนักวิชาการอาหาร ร่ำเรียนมาทางด้านนี้ทั้งสิ้น น่าจะอยู่ในข่ายที่พอจะเชื่อได้ แต่คุณกลับจะให้ไปถามคนงานขูดปลา ... ผมก็จนใจ อย่างไรก็ตามการโต้แย้งของคุณในครั้งนี้ นับเป็นการสาธิตอย่างดีว่าคำพูดคำจาประกอบคำว่า "เคารพ" และ "อ่อนน้อมถ่อมตน" ตามที่คุณได้รับการอบรมมาว่าเป็นเช่นไร ผมคงได้แต่โมทนา ... กระมัง จากคุณ : คุรุทาส - [ 21 มี.ค. 52 09:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ท่านเข้าใจผิดไปแล้วครับ เรื่องโลกที่ 3 จากการตอบของท่าน หากใครได้อ่าน ก็คงตีความหมายได้ว่า ท่านตอบครั้งแรก ด้วยการเสริมว่า ต้องอย่างโน้น อย่างนี้   ครั้นพอผมแย้งกลับว่าไม่ใช่    ท่านกลับตอบว่า โลกที่3ออเดอร์   ครั้นพอผมเอาลิงค์ มาให้ดูว่ามันมีจริงๆนะ ท่านก็กลับบอกว่า 30ปีที่ผ่านมามันมีแบบนี้  แถมยังระบุชื่อโรงงานแบบผิดๆ ถูกๆ  ทั้งระบุ และไม่ระบุ มหาชน   ซึ่งผมก็ได้ค้านท่านไป เกรงว่าท่านสับสน ในการนำข้อมูล30ปีที่แล้วมาตอบในเรื่องปัจจุบัน  และพยายามอ้างชื่อบุคคลต่างๆ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย   และผมก็ได้ตอบท่านไปว่า  ผมรู้และรู้ดีกว่าท่านแน่นอน ในเรื่องปลาดำ ปลาขาว ซึ่งได้อธิบายไว้แบบชัดๆ ทั้งกระทู้นี้ และกระทู้อ้างอิง   ท่านกลับให้ผมไปถามคนโน้น คนนี้ ที่อ้างชื่อมา  ผมเรียนท่านตามตรงว่า ผมรู้ครับว่าเค้าเรียกยังไง ถ้าผมไม่รู้ก็คงไม่กล้าแย้งท่านแน่นอน  เมื่อผมรู้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องถามใคร แต่เพียงแนะนำว่า ถ้าอยากรู้ว่าเค้าเรียกอะไร แค่ถามคนงานขูดปลาดูก็นรู้ครับ   ผมบอกไปแล้วว่า ผมกับคุณหญิงนั้น ไปต่างประเทศพร้อมกันบ่อยครั้ง ชอบนิสัยของคุณหญิงที่ค่อนข้างแฟร์ สปอรต์  ใจกว้างเหมือนผู้ชาย  ท่านคงไม่ต้องแนะนำให้ไปถามช้างหรอกครับ เพราะผมกับคุณหญิง รู้จักกันตั้งแต่ ช้างยังเรียนไม่จบเลย   เรื่อง บรมครู ก็เช่นกันครับ ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องอะไรของผม และหากท่านคิดว่าจะตักเตือน ก็ควรที่จะใช้คำให้อ่อนกว่านี้ ไม่ใช่ถ้อยคำเชิงตำหนิ ควรละมุนละม่อมกว่านี้ และได้บอกท่านไปอีกว่า เคยเห็นทั้ง นสพ ทั้งลิ้งค์ ที่เค้าเขียนไว้ และเคยได้ยินสมัยเด็กๆ      บรมครู เพลง  เอื้อ สุนทรสนาน และ ชาลีอินทรวิจิตร บรมครู ลำตัด หวังเต๊ะ บรมครู กวี สุนทรภู่ บรมครูอาหาร หม่อมจ้าวหญิงจงจิตถนอม ดิศกุล และก็ถูกสอนมาว่า  ในหลวง อันเป็นที่รักยิ่งของชาวไทย  ก็เป็นบรมครู ปราช์การศึกษา  ก็เห็นได้ทั่วไป และก็ไม่เห็นมีคนแย้ง ผมตอบไปตามตรงว่า เคารพ และนับถือในความอาวุโสของท่านครับ  แต่ไม่ได้หมายความว่า  คนที่อาวุโสแล้วให้ข้อมมูลที่ผิดๆ ผมต้องจดจำนี่ครับ ผมจำเป็นต้องแย้งในเหตุผล หลักการ จากที่เรียนรู้ รับรู้ของผม มิใช่ใครจะบอกอย่างไรก็ต้องเชื่อ  และยิ่งถ้าการตอบในบอรด์ ที่มีคนอ่านมาก และรับข้อมมูลผิดๆ ผมก็มีสิทธิ์ที่จะแย้งข้อมมูลนั้นครับ ต้องขอคุณท่านครับ และขอโทษ จขกท ด้วยครับที่ใช้พื้นที่ในครั้งนี้ หากท่านยินดีที่จะสนทนาต่อ ผมขอสนทนาผ่านเมลนะครับ BLUESEA_PTT@msn.com ด้วยความเคารพ จากคุณ : สีฟ้าของน้ำทะเล - [ 21 มี.ค. 52 10:12:30 ]