ความคิดเห็นที่ 1 ดัชชี่รสธรรมชาติก็ใช้ทำโยเกิร์ตได้ค่ะ ตอนทำทีสิสก็ใช้ดัชชี่นี่แหละค่ะ ถ้าหาซื้อนมดิบได้ พาสเจอร์ไรซ์นมเองก็ได้นะ ไม่ยากค่ะ ต้มนมแบบหม้อตุ๋น หลังจากน้ำนมเดือดก็จับเวลาไป 30 นาที พอครบเวลาแล้วรีบเอาหม้อนมไปแช่ในน้ำเย็น (ให้อุณหภูมิของนมลดลงอย่างรวดเร็วค่ะ) พอนมอุ่นๆ แบบเอามือจับหม้อได้ไม่ร้อน (จับนานๆ นะ) ก็เอาหัวเชื้อโยเกิร์ตใส่ (ตอนทำทีสิสเราใส่หัวเชื้อ 10%) กวนให้เข้ากัน แล้วแบ่งใส่ภาชนะ ปิดฝา อย่าให้เหลือพื้นที่ของอากาศในภาชนะเยอะมากนะคะ เพราะเชื้อโยเกิร์ตไม่ชอบออกซิเจนมาก แล้วเอาไปบ่มเชื้อที่อุณหภูมิประมาณ 45 องศาเซลเซียส นาน 4 ชั่วโมง ลองดูเคิร์ดของนมค่ะว่าแข็งพอมั้ย ถ้ายังไม่แข็งอาจบ่มต่อ แล้วเอาเข้าตู้เย็นไว้ทานได้ค่ะ ถ้าจะใส่แยมผลไม้ก็ใส่แยมในภาชนะก่อนใส่นม+หัวเชื้อค่ะ ก่อนกินก็คนๆ ก่อนแล้วค่อยทานค่ะ จากคุณ : Phagus - [ 10 พ.ค. 52 02:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ึ7-11  ใช้ แอคทีเวีย รสธรรมชาติ ก็ได้ค่ะ ทำออกมารสชาติดี เนื้อข้นด้วย ( เอ๊ะ หรือเราฟลุ๊ค ?! แหะ ๆ) จากคุณ : หน่อมแน้มนิดหนมหนุกหนาน - [ 10 พ.ค. 52 02:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทำทานประจำก็ใช้ ดัชชี่นี่แหละครับ แต่ทำแล้วไม่เป็นตัว เพราะไม่สามารถควบคุมอุณหภูิมิได้ ออกมาเป็นโยเกิรต์ค่อนข้างเหลว แต่ก็ผสมน้ำผึ้งทานได้ ระบบลำไส้ดีขึ้นมากเลยครับ จากคุณ : นายตึก - [ 10 พ.ค. 52 08:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หัวเชื้อใช้มาทุกยี่ห้อแล้ว ใช้ได้หมดค่ะ เราใช้ทั้งนมดิบและนมกล่องทำโยเกิร์ต นมกล่องเนื้อโยเกิร์ตจะเนียนกว่า แต่นมดิบลักษณะมันเหมือนแยกเนื้อ แยกน้ำ ไม่แน่ว่าเจ้าของฟาร์มเติมน้ำลงในนมหรือเปล่า อันนี้เข้าใจเองนะคะ จากคุณ : เด็กแหนม - [ 10 พ.ค. 52 10:05:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ เค้าไม่ได้เติมน้ำลงในนมหรอกค่ะ แต่ว่านมกล่องเค้าจะเอาไปฮีโมจีไนซ์มาก่อน ทำให้ไขมันในนมแตกตัวเป็นอนุภาคเล็กๆ แล้วไม่แยกออกจากน้ำได้ง่ายๆ ค่ะ ส่วนนมดิบ ไม่ผ่านการฮีโมจีไนซ์ อนุภาคของไขมันในน้ำนมจะใหญ่กว่า และแยกตัวออกจากน้ำได้ง่ายเมื่อโดนความร้อนค่ะ (นม คือ น้ำ + ไขมัน ) จากคุณ : Phagus - [ 10 พ.ค. 52 17:18:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โฮโมจีไนซ์??? จากคุณ : เฮียมี่ - [ 11 พ.ค. 52 13:51:47 ]

ความคิดเห็นที่ 7 http://en.wikipedia.org/wiki/Homogenize จากคุณ : atheist - [ 13 พ.ค. 52 00:40:46 ]