ความคิดเห็นที่ 1 ถนนบ้านหม้อเป็นถนนที่ตัดผ่านย่านสำคัญ 2 แห่ง คือย่านตลาดบ้านหม้อและย่านปากคลองตลาด โดยย่านตลาดบ้านหม้อจะเริ่มจากสี่กั๊กพระยาศรีถึงแยกบ้านหม้อที่ตัดกับถนนพระพิทักษ์และถนนพาหุรัด ส่วนย่านปากคลองตลาดจะเริ่มนับตั้งแต่สี่แยกบ้านหม้อถึงปากคลองตลาดริมแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเริ่มต้นของการเที่ยวไปกินไปครั้งนี้จะเริ่มที่ท่ารถเมล์สาย 2 และ 60 ริมคลองคูเมืองเดิมที่มักเรียกกันเคยชินว่าคลองหลอดซึ่งเป็นการเรียกที่ผิด(ไว้อธิบายตอนท้าย) ท่ารถเมล์นี้จะอยู่ทางฝั่งถนนราชินีข้างสวนสราญรมณ์ก่อนถึงสะพานมอญเล็กน้อย จากท่ารถเมล์ก่อนถึงสะพานมอญมีสะพานลักษณะแปลกตา สะพานนี้มีชื่อว่าสะพานหก ในอดีตสะพานข้ามคลองในกรุงเทพฯมีสะพานที่มีลักษณะพิเศษ 2 สะพาน สะพานแรกคือสะพานหัน ที่สามารถหันไปตามแนวคลองรอบกรุงหรือคลองโอ่งอ่าง เพื่อให้เรือสามารถแล่นผ่านไปได้ อีกสะพานหนึ่งก็คือสะพานหก เป็นสะพานที่สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นสะพานแบบฮอลันดา สามารถชักขึ้นลงให้เรือผ่านได้ ต่อมาได้กลายสภาพเป็นสะพานรถข้าม จนเมื่อปี พศ.2525 รัฐบาลมีดำริที่จะอนุรักษ์โบราณสถานเพื่อระลึกถึงประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ จึงร่วมใจกันบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นไว้ตามแบบเดิม สำหรับเป็นอนุสรณ์เนื่องในมหามงคลสมัยสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เดินไปตามถนนราชินีข้ามสะพานมอญไปที่แยกสะพานมอญ ย่านตลาดบ้านหม้อนั้นล้อมรอบด้วยถนน 4 สายคือถนนอัษฎางค์ ถนนพาหุรัด ถนนตรีเพชรและถนนเจริญกรุง เมื่อข้ามสะพานมอญถนนซ้ายขวาคือถนนอัษฎางค์ ถนนด้านหน้าและด้านหลังคือถนนเจริญกรุง - ประวัติสะพานมอญ พระยาศรีสหเทพ (ทองเพ็ง) ต้นสกุล ศรีเพ็ญ ซึ่งเป็นเชื้อสายพระยารามจัตุรงค์ หัวหน้าชาวมอญ และพระยาศรีสหเทพผู้นี้ยังเป็นขุนคลังแก้วในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เป็นผู้นำรวบรวมแรงงานชาวมอญ ซึ่งก็เป็นบรรดาญาติ ๆ และข้าทาสบริวารทั้งหลาย ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น สร้างสะพานไม้สักข้ามคลองหลอดขึ้น จึงได้เรียกกันต่อมาว่าสะพานมอญ ที่มา : monstudies.com/show_content.php?topic_id=64&main_menu_id=2 - สะพานมอญไม้สักนี้เป็นสะพานให้ผู้คนสัญจรไปมาอยู่เกือบ 100 ปี จนถึงสมัยรัชกาลที่ 6 จึงได้รับสั่งให้รื้อโครงสะพานเดิมออกแล้วสร้างขึ้นใหม่ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก จัดเป็นสะพานรถแล่นสะพานหนึ่ง โดยที่ราวสะพานเดิมเป็นราวไม้สักหนาธรรมดา ก็เปลี่ยนเป็นราวสะพานลูกกรงเหล็กดัดลวดลายอาร์ตนูโว ตามที่กำลังเป็นที่นิยมในยุโรปสมัยนั้น ที่มา : library.ssru.ac.th/archives/ruttana/downloads/17.pdf หมายเหตุ : ห้องก้นครัวมีคนนามสกุลศรีเพ็ญอยู่ 1 ท่าน ทราบไหมครับว่าเป็นใคร ใช่แล้วครับ คุณวิวัฒน์ ศรีเพ็ญ หรือคุณชายกาง OverEat ครับ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 19:35:31 แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 02:30:57 จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เลี้ยวขวาเข้าถนนอัษฎางค์ อาคารตรงหัวมุมแยกสะพานมอญในอดีตเป็นร้านติ่มซำ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นร้านขายอะไหล่อีเลคโทรนิคส์ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:31:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ฝั่งซ้ายของถนนอัษฎางค์ไปทางแยกพระพิทักษ์เป็นอาคารเก่า 2 ชั้น ส่วนใหญ่เป็นร้านจำหน่ายอะไหล่และอุปกรณ์ทางภาพ บนทางเท้ายาวไปจนถึงหน้าวังบ้านหม้อ เป็นแผงรับซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าเช่นพัดลม ทีวี เครื่องเล่นวีดีโอ ดีวีดีเป็นต้น บริเวณรั้วสีขาวคือวังบ้านหม้อ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แผงริมทางด้านนี้ส่วนใหญ่รับซ่อมพัดลม ซึ่งชิ้นส่วนที่เสียโดยมากคือมอเตอร์พัดลม ถ้าสะดวกในการแบกพัดลมมาที่นี่ ค่าเปลี่ยนคอยล์ทองแดงของมอเตอร์พัดลมจากที่เคยนำมาซ่อมเริ่มที่ 70 บาท ในยุคฝืดเคืองเช่นนี้ แทนที่จะโยนพัดลมที่ไม่เดินทิ้ง เอามาที่นี่เสียเงินไม่ถึงร้อยก็ใช้ใหม่ได้ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:32:37 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อเดินมาถึงบริเวณหน้าวังบ้านหม้อ อาจตกใจเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวจากฝั่งถนนราชินีซึ่งเป็นที่ตั้งของเจ้าพ่อหอกลอง ไม่มีใครจุดประทัดแก้บนหรอกครับ แต่เสียงปืนนั้นดังมาจากสนามยิงปืนของกรมรักษาดินแดน ที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นหน่วยบัญชาการกำลังสำรองรักษาดินแดน สมัยที่มาเรียน รด.ที่นี่ เลิกเรียนแล้วชอบมายิง. 22 ครั้งละกล่อง ที่สนามยิงปืนแห่งนี้เป็นประจำ - ศาลเจ้าพ่อหอกลอง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2509 ตั้งอยู่ภายในกรมการรักษาดินแดง เพื่อไว้เคารพสักการะและระลึกถึงเจ้าพ่อหอกลอง   ซึ่งเป็นผู้แจ้งข่าวและบอกเวลาด้วยการตึกกลอง   ในสมัยรัชกาลที่ 1 หอกลองตั้งอยู่หน้าวัดพระเชตุพน ฯ   แต่ถูกรื้อออกไปในสมัยรัชกาลที่ 5 ในปัจจุบันได้มีการรื้อฟื้นความเป็นมาของกลองแจ้งเหตุ 3 ใบ คือ ย่ำพระสุรีย์ สำหรับบอกเวลา   อัคคีพินาศ แจ้งเหตุเพลิงไหม้   และพิฆาตไพรี แจ้งเหตุสงคราม ที่มา : geocities.com/backpackerszone/informations/bangkok/bkk3.htm จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:33:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ทางเข้าวังบ้านหม้อซึ่งไม่เปิดให้ชมบนถนนอัษฎางค์ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:34:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ประมาณ 10 เมตรจากทางเข้าวังบ้านหม้อก่อนถึงแยกพระพิทักษ์ มีซอยเล็กๆทะลุไปถนนบ้านหม้อ เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนี้ ทางขวามือของปากซอยเป็นรถเข็นขายไอศครีมที่เห็นขายอยู่ตรงนี้มามากกว่า 20 ปี หลังขึ้นราคาเป็น 15 บาท ในขณะที่ไอศรีมรถเข็นทั่วไปยังขายถ้วยละ 10 บาทก็ไม่ได้แวะ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ซอยแคบไม่มีชื่อความยาวไม่ถึงร้อยเมตรนี้ สินค้าหลักคือถ่านไฟฉายและหัวแจ๊คเอวี ซ้ายมือของซอยมีสาขาของร้านอมร ขายอะไหล่จำพวกวงแหวนยางมอเตอร์ขนาดเล็กเช่นเครื่องเล่นวีดีโอ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แผงขายสายและหัวแจ๊คเอวี สายโทรทัศน์และสายจานดาวเทียม จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ปากซอยด้านถนนบ้านหม้อคือร้านรสทิพย์ยอดผัก จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:35:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อาหารที่ขายคือข้าวหมูแดง ราดหน้า ผัดซีอิ๊วและข้าวผัด จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:36:28 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ร้านนี้เปิดมากว่า 50 ปี ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 3 จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ข้าวหมูแดง 30 บาทน้ำราดออกหวานและเผ็ดพริกไทยนิดๆ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ราดหน้าหมู 30 บาท หมูหมักนุ่ม จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 16 และที่ต้องสั่งทุกครั้งคือเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วหมู 35 บาท จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ออกจากร้านรสทิพย์ยอดผักเลี้ยวขวาไปทางสี่แยกบ้านหม้อ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตรงไปคือถนนบ้านหม้อย่านปากคลองตลาด จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:39:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เลี้ยวขวาคือถนนพระพิทักษ์ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:40:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ร้านส่วนใหญ่ขายอุปกรณ์สื่อสาร ลำโพงและเครื่องขยายเสียง เคยมาซื้อโทรโข่งจากร้านในถนนนี้ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เลี้ยวซ้ายที่แยกบ้านหม้อเข้าถนนพาหุรัด ตรงหัวมุมคืออาคารเก่าสถาปัตกรรมยุโรปสูง 3 ชั้น ด้านหลังคือตลาดบ้านหม้อ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 15:18:59 จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:41:06 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ฝั่งขวาของถนนพาหุรัดช่วงนี้คือร้านขายเพชรพลอย ฝั่งซ้ายเป็นแหล่งขายลำโพงและเครื่องขยายเสียง มีซอยทะลุไปซอยทิพย์วารี 2 ซอย และมีทางเข้าด้านหลังของบ้านหม้อพลาซ่า จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ซอยที่ทะลุซอยทิพย์วารีซอยหนึ่งอยู่ข้างธนาคารกรุงเทพ ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพมีซอยเล็กๆที่ถ้าไม่สังเกตุคงเดินเลย จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:42:03 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้าซอยไปประมาณ 30 เมตรก่อนเลี้ยวซ้าย ขวามือห้องแถวไม้ห้องสุดท้ายคือร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ร้านนี้หมดเร็วประมาณบ่ายสองโมงก็หมดแล้ว วันอาทิตย์หยุด ถ้าขายหมดจะแขวนป้ายสีแดงว่าหมดให้เห็นแต่ไกล ลูกชิ้นปลาอร่อย ธรรมดาชามละ 40 บาท พิเศษ 50 บาท มีคนขี่รถจักรยานยนต์มาซื้อครั้งละหลายห่อ สามารถสั่งทอดมันกลางซอยมาทานได้ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:42:48 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ติดกันเป็นร้านทำทอง ช่างคนซ้ายมือกำลังใช้แท่งไม้ติดแผ่นชาแล็ก จากนั้นใช้ตะเกียงลนให้ละลาย แล้วเอาตัวเรือนแหวนหรือเครื่องประดับที่จะฝังพลอยติดบนชาแล็กเพื่อฝังพลอย โดยยึดแท่งไม้กับแป้นลูกปืน ส่วนช่างคนขวากำลังใช้ตะไบทองแต่งตัวเรือน จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:43:15 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หน้าร้านมีโต๊ะไม้ยาวที่ไม่เห็นมานาน โต๊ะตัวนี้คือโต๊ะดึงทอง วิธีดึงคือเททองให้เป็นแท่งแต่งปลายเรียว จากนั้นสอดปลายเรียวเข้าแผ่นเหล็กที่เจาะเป็นรู ยึดปลายที่พ้นรูด้วยคีมจับที่ติดกับสายผ้าใบ แล้วหมุนกว้านดึงรีดทองให้เป็นเส้นลวดให้ได้ขนาดที่ต้องการ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ออกจากซอยเดินจนมาถึงแยกพาหุรัด จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:44:23 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ปาดดดดดดดดดดดดดดด คับ จากคุณ : ความอบอุ่นเิกิดขึ้นที่หัวใจ - [ 18 พ.ค. 52 02:44:30 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนตรีเพชร ประมาณ 20 เมตรจากแยกพาหุรัด คืออาคาร 7 ชั้นซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท ไนติงเกล-โอลิมปิค จำกัด ที่มีอายุ 79 ปี เปิดมาตั้งแต่ปี พศ.2473 ถ้านับกันแล้วเก่ากว่าห้างเซ็นทรัลซึ่งเพิ่งครบ 65 ปี เป็นห้างแห่งแรกที่โฆษณาทางทีวี โดยใช้คำขวัญว่า"คลังแห่งเครื่องกีฬา ราชาเครื่องดนตรี ราชินีเครื่องสำอาง” จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตึกใหม่นี้เปิดเมื่อปี พศ.2509 มีบันไดเวียนขึ้นสู่แผนกเครื่องดนตรีที่ชั้น 2 ในยุคที่วังบูรพารุ่งเรือง ห้างแห่งนี้เนืองแน่นไปด้วยลูกค้า ที่มาซื้อเครื่องสำอางค์ Merle Norman ไม้เทนนิส Wilson เครื่องดนตรี เครื่องเขียนและเสื้อผ้าวัยรุ่นเป็นต้น ปัจจุบันยังคงเปิดขายอยู่แต่ลูกค้าน้อยมาก ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ต้องการสินค้าเฉพาะอย่าง เช่นเสื้อชั้นในเก็บทรงที่ดูเทอะทะไม่ทันสมัยแต่ใส่สบาย โดยเฉพาะเมื่อใช้กับชุดไทยพุงไม่ล้น สมัยที่ยังไม่มีลิปมันขาย หลายคนคงจำขี้ผึ้งสีแดงใส่ตลับสีครีม สำหรับทาแก้ริมฝีปากแตกในหน้าหนาวของห้างแห่งนี้ได้ ข้อมูลส่วนหนึ่งจากวิกิพีเดีย ส่วนหนึ่งจากความทรงจำในวัยเด็ก จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตรงข้ามกับบริษัท ไนติงเกล-โอลิมปิค จำกัด คือศูนย์การค้า ดิ โอลด์สยาม พลาซ่า จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:45:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ประมาณ 20 เมตรจากบริษัท ไนติงเกล-โอลิมปิก จำกัด คือซอยทิพย์วารี จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขวามือของปากซอยทิพย์วารีคือกองบัญชาการตำรวจนครบาล 6 (บชน. 6) เดิมเป็นที่ตั้งของกองบังคับการตำรวจจราจร ถัดไปคือธนาคารไทยพาณิชย์และป้ายรถประจำทาง จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ก่อนถึงปากตรอกภานุมาศคือสาขาของร้านฉายาจิตรกร จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาหาของหม่ำค่ะ  อิอิ จากคุณ : le_chef - [ 18 พ.ค. 52 02:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ย้อนกลับมาที่ซอยทิพย์วารี จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ปากซอยด้านซ้ายมือมีรถขายไอศครีมไผ่ทอง จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:48:11 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขวามือมีร้านขายน้ำอ้อยที่มักแวะซื้อขนุนเป็นประจำเนื่องจากขายถูก ชิ้นใหญ่หนากรอบหวานและไม่โกงตาชั่ง เดิมครึ่งกิโลฯ 20 บาท ปัจจุบัน 4 ขีด 20 บาท จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ติดกันเป็นร้านขายหมูปิ้งชื่อร้านหมูจ๋า หมูแน่นไม้ใหญ่ไม้ละ 10 บาท จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:49:24 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถัดไปเป็นร้านขาหมูจราจร ตรงข้ามร้านนี้เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาและเย็นตาโฟ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 01:44:32 จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ซอยทิพย์วารีเดิมมีแต่ร้านจำหน่ายอะไหล่และอุปกรณ์อุปกรณ์อีเล็คโทรนิคส์ แต่ปัจจุบันเป็นพื้นที่สีแดงแหล่งจำหน่ายซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งแผ่น mp3 โปรแกรมและภาพยนตร์ เดินผ่านอาจจะได้ยินเสียงเชื้อเชิญเช่น "โป้มั้ยพี่? มาใหม่ๆ คลิปแอบถ่ายก็มีนะพี่" เวลามีข่าวคลิปใครหลุด ก็จะมีคนแห่มาหาซื้อจนปั๊มกันแทบไม่ทัน ***การเดินถ่ายภาพในบริเวณนี้ไม่แนะนำให้ทำ เพราะอาจเกิดความเข้าใจผิดจนเป็นอันตรายกับตนเอง*** จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สายและแจ็คเอวีหลากหลายเกรด ทั้งแบบสำเร็จและซื้อไปต่อเอง จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:53:22 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ประมาณ 50 เมตรจากปากซอยทิพย์วารี ซ้ายมือมีซอยทะลุไปออกถนนพาหุรัด จำหน่ายเครื่องขยายเสียงที่เวลาเดินผ่านที่ไร เสียงเบสอัดแน่นจนใจเต้นโครมคราม ขวามือตรงข้ามซอยและติดกับที่จอดรถของ บชน.6 คือวัดทิพยารีวิหาร(กัมโลวยี่)หรือวัดแชเล่งเอี๊ย(วัดมังกรเขียว) (มีศาลเจ้ามังกรเขียวอีกแห่งที่แยก ณ ระนอง คลองเตย) เดิมระหว่างวัดทิพยวารีวิหารและ บชน.6 มีซอยเล็กเชื่อมกับตรอกภานุมาศ ซอยนี้เดิมมีร้านอาหารหลายร้านเช่นร้านข้าวหมูแดง แต่เมื่อวัดทิพยวารีวิหารทำการสร้างวัดใหม่ซอยนี้จึงหายไป วัดใหม่สร้างเป็นอาคาร 4 ชั้น มีกำหนดเสร็จประมาณปลายปี พศ.2553 จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:53:51 ]

ความคิดเห็นที่ 44 - วัดทิพยวารีวิหารสร้างในสมัยกรุงธนบุรีในปี พ.ศ.2319 ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงพระราชทานที่ดินฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณพาหุรัด ให้องค์เชียงชุนและชาวญวนที่หนีกบฏเมืองเว้เป็นที่อาศัย ชาวญวนเหล่านั้นได้สร้างวัดญวนขึ้นที่บ้านหมอ 2 วัด คือวัดกามโล่ตื่อ (กัมโลวยี่หรือวัดทิพยวารีวิหาร) และวัดโหย่คันตื่อ(วัดมงคลสมาคม)หลังวังบูรพา ซึ่งต่อมามีการตัดถนนพาหุรัด รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้า ฯ ให้ทำผาติกรรมอย่างวัดไทย คือพระราชทานที่ดินและให้สร้างวัดขึ้นใหม่ แลกกับวัดเดิมโดยย้ายไปตั้งที่ริมถนน แปลงนามในอำเภอสัมพันธวงศ์ ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ องเชียงสือนัดดาเจ้าเมืองเว้ ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและได้ลักลอบหนีกลับเมือง กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงแคลงพระทัยชาวญวน จึงได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้กลุ่มชาวญวนซึ่งมีอยู่มากในบริเวณนั้น ย้ายออกไปอาศัยอยู่ที่บางโพเพื่อให้ห่างจากพระนคร วัดทิพยวารีวิหาร(กัมโล่วยี่)ในขณะนั้น จึงมีสภาพคล้ายรกร้างไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาเลยอีกนานหลายปี จนถึงประมาณปี พ.ศ.2439 พระอาจารย์ไหซัน พระภิกษุจีนชาวมณฑลหูหนาน ได้จาริกมาจำพรรษาที่วัดทิพยวารีวิหารแห่งนี้ ท่านได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัดขึ้นมาใหม่ และได้ชักนำคนไทยและคนจีนในย่านนั้น อันมีนายเช็งเต็ก แซ่เจี่ย และนางซิ่วออม แซ่ตัน สองสามีภรรยาคหบดีผู้กว้างขวางในกลุ่มชาวจีนในย่านตลาดมิ่งเมืองเป็นแกนนำ ต่อมาทายาทของครอบครัวท่านทั้งสองนี้ ได้รับพระราชทานนามสกุลจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ว่า "เศวตมาลย์" พระอาจารย์และประชาชนในครั้งนั้นได้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดใหม่ทั้งวัด จนวัดอยู่ในสภาพสมบูรณ์สวยงาม พ.ศ.2452 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่5) จึงได้ทรงพระราชทานสมณศักดิ์ให้อาจารย์ไหซัน เป็นหลวงจีนธรรมรสจีนศาสน์ ปลัดซ้ายจีนนิกายดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส และได้ทรงพระราชทานนามวัดกัมโล่วยี่ให้ใหม่ว่า "วัดทิพยวารีวิหาร" เหตุที่ให้ชื่อวัดเป็นเช่นนี้เพราะที่วัดนี้มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์หรือบ่อน้ำทิพย์อยู่นั่นเอง ตั้งแต่นั้นมาคนทั้งหลายจึงเรียกวัดกัมโล่วยี่หรือวัดน้ำทิพย์นี้เป็น "วัดทิพยวารีวิหาร" อันเป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายจนถึงปัจจุบัน ที่มา : buddhayan.com , heritage.thaigov.net/religion/prayeun/index1.htm เนื่องจากอยู่ในช่วงของการก่อสร้างวัดใหม่ จึงได้มีการย้ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดมาไว้ที่ชั้นล่างของวัด แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 02:55:05 จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ซ้ายมือภายในวัดโต๊ะแรกเป็นรูปปั้นเหล่าเทพเจ้าหลายองค์ เช่นเทพปรองดองหรือเทพแห่งความรักที่อยู่ตรงกลาง เทพขุนพลเอี่ยยิ่มซึ่งมีดวงตายื่นออกมาตั้งอยู่ทางด้านขวา เทพ 3 ตาและสุนัขสวรรค์เป็นต้น โต๊ะถัดมาคือพระพุทธและพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เลี้ยวขวาคือแท่นสักการะเทพมังกรเขียว(แชเล่งเอี๊ย) จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:56:38 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ประวัติเทพมังกรเขียว เทพมังกรเขียวหรือแชเล่งเอี๊ยคือเทพารักษ์ผู้รักษาบ่อน้ำทิพย์ประจำวัดทิพยวารีวิหาร แต่โบราณกาลชาวจีนเชื่อกันว่า เทพมังกรเป็นเทพารักษ์ประจำแหล่งน้ำทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำ แม่น้ำ ลำคลอง ทะเลสาบ หรือมหาสมุทร ทั้งยังเชื่อกันว่าเทพมังกรจักบันดาลความอุดมสมบูรณ์ มีฟ้าฝนตกต้องตามฤดูกาล ประเพณีชาวพื้นเมืองในแถบลุ่มแม่น้ำแยงชีลงมา จนถึงแต้จิ๋วและฮกเกี้ยน แต่โบราณนับถืองูและบูชางู มีประเพณีในแถบแต้จิ๋วกล่าวถึงพิธีรับเจ้างูในเดือนยี่ และเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก จะมีฝูงงูลอยตามน้ำป่ามาติดอยู่ริมตลิ่ง ชาวบ้านก็จะเชิญงูกลับมาบูชาที่ศาลประจำหมู่บ้าน และเลี้ยงงูด้วยไข่ไก่ดิบ งูเหล่านี้ไม่ทำร้ายคน หลังเสร็จพิธี ฝูงงูก็จะกลับไปทางช่องด้านหลังของศาลเจ้า ณ ริมแม่น้ำหั่งกังหน้าเมืองแต้จิ๋วในประเทศจีน มีศาลเจ้ามังกรเขียวเป็นที่บูชางูและมีงูเขียวใหญ่หัวงูมีลายคล้ายอักษรจีน"อ้วง"(แปลว่าเจ้า) อาศัยเลื้อยไปมาอยู่ในศาล แต่ต่อมาในสมัยราชวงศ์หมิงมีการบูชารูปอังจี้อ้วง ขุนพลสมัยสามก๊กที่ได้รับการอวยยศเป็นอ๋อง (มีข้าหลวงชาวแต้จิ๋วนับถือท่านอังจี้อ้วงขณะไปเป็นขุนนางที่ยูนนานจึงอัญเชิญรูปเคารพกลับมาประดิษฐานที่นี่)เป็นประธานศาลเจ้าแห่งนี้ ศาลเจ้าที่วัดแห่งนี้เป็นศาลเจ้าเทพมังกรเขียว ที่คนจีนแต้จิ๋วนับถือกันมากที่สุดแห่งหนึ่ง เทพมังกรเขียวหรือแชเล่งเอี๊ยวัดทิพยวารีวิหาร เป็นที่เคารพสักการะในหมู่ชาวจีนโดยทั่วไปมาช้านาน เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน มักอวยพรให้ผู้ศรัทธาได้ผลสมความปรารถนา ด้านคุ้มครองดวงชะตา เสริมพลังบารมีและโชคลาภ ตลอดจนเรื่องทุกข์ร้อนต่างๆ ตามแต่กำลังวาสนาบารมีเดิมของแต่ละบุคคล จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ด้านหน้าของเทพมังกรเขียวคือบ่อน้ำทิพย์อายุ 233 ปี มีรูปปั้นมังกรเขียวพ่นน้ำลงมาในบ่อน้ำทิพย์ มีถุงและกรวยให้รองน้ำที่ไหลลงมาจากปากมังกรนำกลับใช้ที่บ้านโดยปฏิบัติดังนี้ 1. นำน้ำมนต์จากบ่อน้ำทิพย์ไปผสมกับน้ำ เพื่ออาบชำระร่างกายตั้งแต่บนจรดล่าง 2. นำน้ำมนต์จากบ่อน้ำทิพย์ไปพรมสิ่งที่ไม่เป็นมงคล โดยสามารถพรมได้ทุกที่และทุกโอกาส วิธีอาบน้ำมนต์จากบ่อน้ำทิพย์วัดทิพยวารีวิหาร นำน้ำมนต์จากบ่อน้ำทิพย์ไปผสมกับน้ำอาบที่สะอาด อธิษฐานรำลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พระโพธิสัตว์กวนอิม เอียะซือ(เทพหมอยา)และแชเล่งเอี๊ย(เทพเจ้ามังกรเขียว) ได้โปรดเมตตาคุ้มครองขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ขจัดซึ่งความหวาดกลัว สิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ไม่เป็นมงคลและอื่นๆให้หมดไปจากข้าพเจ้า ขอความเป็นสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง หน้าที่การงานที่ดี ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข โปรดจงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าและครอบครัวด้วยเทอญ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ทางด้านขวาของชั้นล่างของวัดเป็นที่ตั้งของพระประธาน โดยมีรูปปั้นของหลวงจีนคณาณัติจีนพรต(เย็นบุญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดทิพยวารีวิหารตั้งอยู่ที่หน้าทางเข้าด้านขวา จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:58:05 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ติดกับวัดทิพยวารีวิหารคืออีกสาขาของร้านอมร นอกจากอะไหล่และอุปกรณ์อีเล็คโทรนิคส์แล้ว จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ยังมีสินค้าที่ไม่เกี่ยวข้องเช่นรถเข็น เก้าอี้พับ บางครั้งมีขวดน้ำสำหรับใช้ตอนวิ่งออกกำลังกายหรือขี่จักรยานขายอีกด้วย จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:59:04 ]

ความคิดเห็นที่ 52 จะบอกว่าผมไม่กล้าซื้อขของกินแถวนั้น ปกติไปซื้อของแถวนั้นจะหาอะไรกินในดิโอลมากกว่า เพราะในซอยทั้งน้ำยากัดแผ่นปริ้น ควันตะกั่วบัดกรี ฯลฯ โลหะหนัก และสารเคมีทั้งนั้นเลย ผมคิดมากไปรึป่าวเนี่ย จากคุณ : RapidasH - [ 18 พ.ค. 52 02:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ประมาณ 20 เมตรจากร้านอมรมีซอยตันแคบๆ ปากซอยเป็นที่ตั้งของร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดไม่มีชื่อ แต่ชอบเรียกร้านนี้ว่าร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดธงฟ้า เพราะเป็นร้านอาหารร้านเดียวในย่านนี้ที่ปักธงฟ้าในช่วงที่มีสินค้าธงฟ้าครั้งแรก ในสมัยนั้นขายแค่ชามละ 15 บาท ปัจจุบัน 25 บาท แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 15:29:47 จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 02:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ที่นั่งเป็นโต๊ะยาวหันหน้าเข้าหากำแพง จะเห็นว่ามีการกั้นเป็นล็อคติดประตูม้วน เนื่องจากช่วงหนึ่งมีการกั้นล็อคขายซีดี โดยร้านย้ายไปอยู่ข้างใน จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ก๋วยเตี๋ยวเป็ดร้านนี้ดีทั้งแห้งและน้ำ นอกจากเนื้อเป็ดแล้วยังมีเลือดและเครื่องในเป็ดให้ด้วย จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:01:44 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เลยร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดธงฟ้าไปเล็กน้อย ซ้ายมือมีซอยทะลุไปออกถนนพาหุรัด เข้าซอยไปเล็กน้อยขวามือมีทางเข้าตลาดบ้านหม้อ ตัวตลาดบ้านหม้อเหลือร้านค้าเพียงไม่กี่ร้าน พื้นที่ส่วนใหญ่กลายเป็นที่จอดรถ ค่าจอดรถชั่วโมงละ 50 บาท จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขวามือทางเข้าตลาดบ้านหม้อทางด้านซอยนี้เป็นเรือนแถวไม้ มีร้านข้าวขาหมูเก่าแก่อยู่หนึ่งร้าน จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:03:06 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีตอนใกล้จะเช้าครับอาสาม อย่าลืมพักผ่อนด้วยนะครับ . จากคุณ : เหมยคลองตู (Fat Boy) - [ 18 พ.ค. 52 03:03:43 ]

ความคิดเห็นที่ 59 รายการอาหารบนฝาผนัง ร้านนี้ขายมานาน นานแค่ไหนดูได้จากฝาบ้านที่ยังเป็นไม้และสภาพของกาน้ำชา แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 13:23:14 จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ความอบอุ่นเิกิดขึ้นที่หัวใจ,  le_chef ...อรุณสวัสดิ์ครับ RapidasH...ไม่ได้ไปทุกวันคงไม่เป็นไรมั้งครับ เหมยคลองตู ...ขอบคุณครับ กระทู้นี้ยาวมากครับ โพสท์เช้าๆค่อยมีสมาธิหน่อยครับ ...................................................................................................... ข้าวขาหมูใส่ไข่พะโล้ 30 บาท ยังไม่เคยชิมร้านต้นซอยทิพย์วารีจึงบอกไม่ได้ว่าร้านไหนอร่อยกว่ากัน แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 12:15:24 จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:06:21 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เดินย้อนกลับมาซอยทิพย์วารีแล้วเลี้ยวซ้าย ประมาณ 20 เมตรก็มาถึงปากซอยทิพย์วารีด้านถนนบ้านหม้อ ปากซอยด้านขวาหลังแผงขายซีดีมีแผงรับซ่อมมอเตอร์ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ออกจากซอยทิพย์วารีเลี้ยวขวา ตึกแถวฝั่งนี้ส่วนใหญ่เป็นร้านขายเพชรพลอย จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 63 แต่บนทางเท้าก็ยังมีแผงรับซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายแผง จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เยื้องกับซอยทิพย์วารีคือร้านดีมีโภชนาที่เราจะย้อนกลับมาแวะทีหลัง จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ก่อนถึงสี่กั๊กพระยาศรีเลี้ยวขวาเข้าตรอกภานุมาศ เข้าซอยไปประมาณ 30 เมตร ซ้ายมือจะพบกับร้านแกงหอยขม ที่ใช้ชื่อร้านแบบนี้ก็เพราะว่าเมนูเด็ดของร้านนี้คือแกงหอยขม ร้านนี้เมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้วตั้งอยู่ที่ตึกแถวตลาดมิ่งเมืองด้านถนนตรีเพชรเยื้องกับตรอกภานุมาศ หลังจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เอาที่คืน เพื่อเอาที่ไปสร้างดิ โอลด์สยาม พลาซ่า จึงย้ายมาอยู่ในตรอกภานุมาศได้ 10 กว่าปีแล้ว จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ร้านนี้มีที่นั่งทั้งในร้านและโต๊ะในเต้นท์ริมถนนตรงข้ามกับร้าน จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อากาศร้อนจึงเลือกนั่งด้านนอก มีรายการอาหารติดอยู่ที่กำแพง จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 68 รายการอาหารตัวจริงที่มีแผ่นเดียวหน้าเดียว ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-23.00 น. จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เพิ่งอิ่มจากร้านไชน่าแม็กซ์ที่ดิ โอลด์สยาม พลาซ่า จึงสั่งแค่อาหารเด็ดของร้านนี้ คือแกงหอยขมราดหัวกะทิ 60 บาทและข้าวเปล่า 1 จาน 10 บาท จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ดีที่สั่งแค่อย่างเดียว เพราะหอยขมชามนี้มีไม่ต่ำกว่า 100 ตัว สิ่งที่เกลียดที่สุดในการทานแกงหอยขมก็คือลูกหอยขมที่มีเปลือก บางร้านมากจนเสียอารมณ์ แต่ร้านนี้เจอลูกหอยขมแค่ 2 ตัวและไม่ได้อยู่ในตัวแม่ แสดงว่าร้านนี้มีการคัดออกก่อน รสชาติของแกงไม่เผ็ด เนื้อหอยขมเคี้ยวกรุบๆกับกระชายเพลินดี มื้อนี้รวมเป๊บซี่กับน้ำแข็งเพราะอากาศร้อน 2 ชุด 90 บาท วันนี้อิ่มแล้ว วันหลังจะมาลองรายการอื่น จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ระหว่างรอเก็บเงินมีคนถือถุงหมูสะเต๊ะจากท่าดินแดงมาเสนอขายถุงละ 60 บาท จากท่าดินแดงมาถึงบ้านหม้อหมูสะเต๊ะคงไม่ร้อนแล้ว นับวันจะมีอาชีพแปลกๆ จากกล้วยทอดเอี๊ยม 5 สี 5 สำนักขายบนถนนที่นางเลิ้ง มาบัดเดี๋ยวนี้มีหมูสะเต๊ะเสื้อกั๊กเดินเร่ขาย อีกหน่อยอาจจะมีหอยแครงหอยแมลงภู่ลวกใส่ถุงเดินขายตามถนนบ้างใครจะไปรู้ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ติดกับร้านแกงหอยขมคือบ้านผลิตขนมไทยของแม่เฉลา ซึ่งเปิดร้านขายอยู่หน้าร้านขายกระเป๋าที่สะพานหัน จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:13:40 ]

ความคิดเห็นที่ 73 อาชีพหนึ่งในตรอกภานุมาศและซอยเจริญกรุง 2 ซึ่งตัดกับตรอกภานุมาศ คืออาชีพรับซื้อเศษทอง เงิน นาค แต่คนขายค่อนข้างเสียเปรียบเนื่องจากทางร้านใช้ตาชั่งแบบหยาบ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เดินผ่านจุดตัดกับซอยเจริญกรุง 2 หลังวัดทิพย์วารีวิหาร เดิมเป็นสี่แยก แต่เมื่อวัดทิพย์วารีวิหารเอาที่คืนจึงกลายเป็นสามแยก เดินผ่านด้านข้างของ บชน.6 และธนาคารไทยพาณิชย์มาออกที่ปากตรอกภานุมาศด้านถนนตรีเพชร ซ้ายมือของปากตรอกภานุมาศด้านถนนตรีเพชรคือร้านจวงผัดไทย จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:14:41 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ร้านนี้มีคำขวัญว่า"จวงผัดไทย ขวัญใจจิ๊กโก๋" ขายถึงประมาณบ่าย 3 โมงและหยุดวันอาทิตย์ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 03:15:52 จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:15:30 ]

ความคิดเห็นที่ 76 . จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ผัดไทยออกเผ็ดเพราะใส่พริกป่นตอนผัด การผัดเป็นแบบเดียวกับผัดไทยโอเคที่วัดราชบูรณฯหรือวัดเลียบ และแม่อัมที่คลองเตยคือไม่ผัดไข่พร้อมเส้น แต่จะตอกไข่ยีในกระทะแล้วโป๊ะด้วยผัดไทยจนไข่สุกจึงตักใส่จาน จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:16:57 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ตอนที่ไปทานคือต้นปี 2551 ใส่ไข่จานละ 30 บาท แต่หลังจากวันที่ 1 พฤษภาคม 2551 ขึ้นราคาเป็น 35 บาท จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:17:25 ]

ความคิดเห็นที่ 79 จากปากตรอกภานุมาศเลี้ยวซ้ายมาจนถึงแยกเฉลิมกรุง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญกรุง จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:17:58 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ประมาณ 50 เมตรถึงซอยเจริญกรุง 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตรอกภานุมาศ ซอยนี้อยู่ตรงข้ามกับซอยเจริญกรุง 1 (ซอยวิสูตร) ซอยนี้เคยมีร้านเสริมสวยหรือร้านตัดเสื้อผ้าสตรีก็จำไม่ได้ แต่ร้านนี้เมื่อกว่า 40 ปีก่อนดังมาก ร้านนี้คือร้าน ส.ณ ป้อมเพชร สมัยนั้นเป็นที่รู้จักกันดี ถึงขนาดมาแถวนี้บอกสามล้อแท็กซี่ว่าไปซอย ส.ณ ป้อมเพชร รู้จักกันแทบทุกคัน ซ้ายมือของปากซอยเจริญกรุง 2 คือร้านฉายาเฉลิมกรุงที่เก่าแก่พอๆกับร้านฉายาจิตรกร และมีลูกค้ากลุ่มเดียวกันคือข้าราชการ นักการเมืองและทหารทุกเหล่าทัพ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ภายในซอยภานุมาศหรือซอยเจริญกรุง 2 ทั้งซ้ายและขวาส่วนใหญ่เป็นร้านรับซื้อทอง เงิน นาคเก่าและร้านรับชุบทอง เดินเข้าซอยประมาณ 50 เมตรจะตัดกับตรอกภานุมาศ เดิมสามารถเดินตรงไปออกซอยทิพย์วารีได้ แต่ปิดไปเพราะวัดทิพยวารีวิหารเอาที่คืน ถ้าเลี้ยวขวาไปร้านแกงหอยขมและออกถนนบ้านหม้อ ถ้าเลี้ยวซ้ายไปร้านจวงผัดไทที่ถนนตรีเพชร จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 82 บริเวณปากซอยเจริญกรุง 2 มีป้ายรถประจำทาง เดินตรงไปทางสี่กั๊กพระยาศรีจนถึงหน้าธนาคารกรุงไทย ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ตรงซอยเล็กๆข้างร้านเพชรทองทิพย์สยาม ช่วงเช้าถึงประมาณ 5 โมงเย็นเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว หลังจากร้านแรกเก็บร้านจะมีคนออกมาตั้งตู้ โต๊ะและเก้าอี้สำหรับร้านตอนกลางคืน ใครที่เคยเดินผ่านอาจสงสัยว่าขายอะไร และตั้งแต่หกโมงเย็นเป็นต้นไป จะมีคนเดินมาลงชื่อสั่งอาหารในสมุดคิวที่วางอยู่บนโต๊ะทางด้านขวาของหน้าร้าน เคยมีคนในซอยทิพย์วารีบอกว่าร้านนี้สุกี้และคั่วไก่อร่อย เริ่มขายทุ่มครึ่งและรอนานมาก ครั้งแรกไปถึงประมาณ 18.30 น.ยังไม่ถึงเวลาขาย แต่มีคนมาลงคิวบอกว่าเสร็จงานศพกลับมาทานพอดี จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 84 วันพุธที่ 14 มกราคม 2552 หลังจากเก็บภาพที่ท่าเตียนสำหรับ"เที่ยวไปกินไป @ ท่าเตียน"เสร็จ จึงเดินจากท่าเตียนไปที่ร้านนี้ซึ่งมีชื่อว่าร้านคั่วไก่แม่ปราณี จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ไปถึงร้านนี้เมื่อเวลา 19.07 น.มีลูกค้ามาลงคิวรอกันหลายคนแล้ว แต่ก็ยังโชคดีที่วันนี้ยังมีโต๊ะว่างในซอย ก่อนหนึ่งทุ่มร้านปราณีจะมีสุกี้ ก๋วยเตี๋ยวหมูแดง และก๋วยเตี๋ยวปีกและน่องปีกไก่ต้มซีอิ๊วขายซึ่งไม่ต้องรอนาน มีเจ๊เล็ก(เสื้อยีนส์)กับเจ๊เสื้อเหลืองที่จดซื่อมาแต่หวัดจนตัวเองอ่านไม่ออกช่วยกันทำขาย สั่งสุกี้น้ำและเส้นใหญ่คั่วไก่กับเจ๊เล็ก เจ๊เล็กบอกว่าสุกี้รอไม่นานได้ก่อน แต่คั่วไก่ต้องรอแม่ปราณีที่จะออกมาตอนทุ่มครึ่ง ใกล้ทุ่มครึ่งมีน้องพรรณ(ชุดดำ)ลูกสาวคนสวยของแม่ปราณีออกมาที่หน้าร้าน จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อยากกินราดหน้ากับผัดไทยที่สุดเลยค่ะ จากคุณ : prinzessin - [ 18 พ.ค. 52 03:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 87 19.36 น.แม่ปราณีกระบี่มือหนึ่งอายุร่วม 70 ปี เดินกระย่องกระแย่งเพราะขาไม่ค่อยดีออกมาจากบ้านในซอย จากนั้นลงมือผัดก๋วยเตี่ยวคั่วไก่ในหม้อแบบเดียวกับคั่วไก่วรจักรในยุคแรก แม่ปราณีจะผัดคั่วไก่พร้อมกันทีละ 2 หม้อ เมื่อหม้อหนึ่งสุกได้ที่จะเทใส่หม้อที่ 3 เพื่อให้คั่วไก่แห้งเกรียม ในขณะที่ผัดคั่วไก่ให้ลูกค้า แม่ปราณีจะคอยสอนการผัดคั่วไก่ให้กับน้องพรรณ เป็นอันแน่ใจได้ว่าร้านนี้มีผู้สืบทอดความอร่อยแน่นอน จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:21:49 ]

ความคิดเห็นที่ 88 prinzessin ...ทานเผื่อให้แล้วครับ ................................................ 19.39 น.ได้สุกี้น้ำไก่ใส่หมึกดองก่อน น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ผสมกระเทียมและพริกขี้หนูสับที่ไม่เผ็ดมากและออกหวานเล็กน้อย น้ำแกงสุกี้หวานอร่อยชามนี้ 30 บาท ส่วนก๋วยเตี๋ยวหมูแดงและก๋วยเตี๋ยวปีกและน่องปีกไก่ชามละ 25 บาท จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:23:35 ]

ความคิดเห็นที่ 89 19.53 น.กับเส้นใหญ่คั่วไก่ 30 บาท เนื้อไก่หมักจนนุ่มออกหวานเล็กน้อย เส้นก๋วยเตี๋ยวแห้งหอมกลิ่นเตาถ่าน ใส่ตังฉ่ายเคี้ยวกรุบๆอร่อยสมคำร่ำลือ ร้านนี้มีแต่แบบคั่วไม่มีแบบอบ เดิมเคยให้คั่วไก่วรจักรยุครุ่นพ่อเป็นอันดับหนึ่งในใจ แต่ตอนนี้เทคะแนนให้แม่ปราณี ที่เป็นเช่นนี้เพราะอะไรเดี๋ยวรู้กัน จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 90 20.07 น.ลูกค้ารายใหม่มาจดคิวห่อกลับบ้านหลายห่อ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เคยคุ้นย่านนี้มาก นานๆแวะมาทันกระทู้คุณ laser มาดมๆ ก่อนไปกลืนน้ำลายนอนฝันหวาน : ) วิธีผัดไทยเหมือนร้านประจำร้านเก่าที่เคยกินที่ดินแดงเขาผัดขายเลย ใส่พริก ยีไข่ในกระทะ แยกเส้น ชอบมากผัดไทยแบบนี้ เดี๋ยวนี้หาผัดไทยผัดอร่อยๆ แบบก่อน-ยากจัง จากคุณ : เสมอกลาง - [ 18 พ.ค. 52 03:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 92 คั่วไก่แม่ปราณีมีเส้นบะหมี่ด้วย สั่งห่อกลับบ้านไปฝากแฟน 1 ห่อ กลับถึงบ้านไม่แฉะเหมือนห่อกลับที่ร้านอื่น เส้นยังคงแห้งไม่ฉ่ำน้ำมันเหมือนย่านสวนมะลิ จึงเป็นเหตุผลที่ยกให้ร้านนี้เป็นอันดับหนึ่งในใจ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ซื้อปีกและน่องปีกไก่ต้มซีอิ๊วหอมเครื่องพะโล้ชิ้นละ 6 บาทมาด้วยอย่างละ 3 ชิ้น ปีกและน่องปีกไก่ไก่ต้มจนเนื้อนุ่ม น้ำซีอิ๊วออกเค็มเล็กน้อย ร้านคั่วไก่แม่ปราณีเปิดขายวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เปิดให้ลงคิวสั่งแต่ตั้งร้านเสร็จก่อนหนึ่งทุ่มและปิดร้านประมาณสองยาม แนะนำว่าถ้าตั้งใจมาทานคั่วไก่เพียงอย่างเดียวอย่ามาตอนหิวจัด วันไหนคิวยาวมากๆอาจรอนานกว่าชั่วโมง แต่ถ้าไม่รีบร้อนสั่งสุกี้หรือปีกไก่ต้มซีอิ๊วมาทานรองท้องรอก่อนก็ได้ครับ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เสมอกลาง ...ไว้รอชมผัดไทโอเควัดเลียบใน"เที่ยวไปกินไป @ Little India"ครับ .............................................................................................. จากซอยร้านคั่วไก่แม่ปราณีประมาณ 30 เมตรคือสี่กั๊กพระยาศรี - สี่กั๊กพระยาศรี คำว่ากั๊กเป็นภาษาจีนแปลว่าแยก ชื่อสี่แยกนี้เรียกตามชื่อพระยาศรีสหเทพ (ทองเพ็ง) ศรีเพ็ญ ผู้นำชาวมอญซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณสี่แยกนี้ และเป็นผู้ที่รวบรวมแรงงานชาวมอญก่อสร้างสะพานมอญข้ามคลองคูเมืองเดิม ปัจจุบันทางราชการได้เปลี่ยนชื่อเป็นสี่แยกพระยาศรี แต่คนยังนิยมเรียกว่าสี่กั๊กพระยาศรีเช่นเดิม ที่มา : monstudies.com/show_content.php?topic_id=64&main_menu_id=2 คำว่าสี่กั๊กยังมีใช้กับอีกสี่แยกหนึ่งที่อยู่ถัดไปตรงถนนเฟื่องนครต่อกับถนนตะนาวหลังกระทรวงมหาดไทย สี่กั๊กนั้นคือสี่กั๊กเสาชิงช้าที่เปลี่ยนเป็นสี่แยกเสาชิงช้าเช่นกัน จากสี่กั๊กพระยาศรีตรงไปคือสะพานมอญ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 03:28:26 จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เลี้ยวขวาคือถนนเฟื่องนครมุมหนึ่งคือที่ตั้งของหนังสือพิมพ์สากลรายวันหรือซี้ไก่หยิกป่อ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เลี้ยวซ้ายคือถนนบ้านหม้อซึ่งเป็นถนนเดินรถทางเดียว จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 97 บ้านหม้อเป็นชื่อย่านชุมชนเก่าแก่ ซึ่งเดิมเคยเป็นหมู่บ้านปั้นหม้อและภาชนะหุงต้มมาก่อน แบบเดียวกับชุมชนบ้านบาตรและชุมชนบ้านดอกไม้ในย่านวรจักร-ถนนหลวง ที่ดินบริเวณบ้านหม้อในปัจจุบัน เป็นที่ดินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่โปรดพระราชทานแก่ชาวญวนอพยพ ที่หนีสงครามเมืองเว้เข้ามา ตั้งแต่ครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เพื่อให้ตั้งเป็นชุมชนและประกอบสัมมาชีพ ต่อมากลายเป็นหมู่บ้านทำหม้อดินและอุปกรณ์ปรุงอาหาร ถนนบ้านหม้อสร้างในปี พศ.2406 ในช่วงปลายสมัยรัชกาลที่ 5 เดิมเป็นส่วนหนึ่งของถนนตะนาว ต่อมาภายหลังบ้านหม้อได้เปลี่ยนจากแหล่งผลิตหม้อดิน เป็นแหล่งจำหน่ายเครื่องประดับเพชรพลอย และศูนย์กลางจำหน่ายเครื่องเสียงและอุปกรณ์อีเล็คโทรนิคส์ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:30:21 ]

ความคิดเห็นที่ 98 จากแยกบ้านหม้อเราจะเดินทางด้านขวาของถนนบ้านหม้อ หัวมุมฝั่งนี้คือธนาคารนครหลวงไทย ร้านแรกที่น่าสนใจและอยู่คู่กับบ้านหม้อมานานกว่า 70 ปี เป็นร้านที่ช่างทำทองทุกคนต้องรู้จัก ร้านนี้คือร้านเต็กไถ่ เริ่มแรกรับเจียรนัยพลอย ต่อมาขายอุปกรณ์การทำทองทุกชนิด เช่นตะไบทอง อุปกรณ์หลอมทอง หินฝนทอง กล้องดูเพชรพลอยตั้งแต่ระดับมือถือจนถึงระดับกล้องจุลทรรศน์ ตาชั่งทองแบบสองแขนจนถึงแบบอีเล็คโทรนิคส์ เครื่องและน้ำยาชุบทอง อุปกรณ์เจียรนัยพลอย อุปกรณ์ฝังพลอย กล่องใส่เพชรพลอย ฯลฯ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:30:55 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ติดกับร้านเต็กไถ่เป็นซอยตัน ด้านหนึ่งเดิมเป็นโรงรับจำนำบ้านหม้อ ด้านขวามือของปากซอยคือร้านก๋วยเตี๋ยวหมูริมถนนที่แพงที่สุดในประเทศไทย ร้านนี้มีชื่อว่าร้านก๋วยเตี๋ยวนายโข่ง ร้านนี้มีอายุกว่า 60 ปี ปัจจุบันนายโข่งไม่อยู่แล้ว ไปเล่นไพ่อยู่ในภพอื่น มีลูกสาวตัวใหญ่เสียงดังสืบทอดต่อ เป็นที่รู้กันทั่วบ้านหม้อว่านายโข่งชอบเล่นไพ่ เช่นเดียวกับคนขายหมูสะเต๊ะหาบขายเจ้าอร่อยซึ่งมักสั่งเสมอเวลาไปร้านดีมีโภชนา ไม่แน่ว่าทั้ง 2 คนอาจตั้งวงเล่นไพ่กันอยู่ที่ภพอื่นอย่างมีความสุขก็ได้ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 100 สมัยที่นายโข่งยังอยู่ เริ่มแรกที่คุณพ่อพาไปทานที่ร้านนี้ ก๋วยเตี๋ยวชามละ 40 บาทในขณะที่ก๋วยเตี๋ยวทั่วไปชามละแค่ 15 บาท ก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่เส้นน้อยนิดเดียวแต่เครื่องเพียบสมราคา สมัยนั้นถ้าสั่งชามที่ 2 นายโข่งจะทำชามเล็กลงในราคา 30 บาท เคยถามนายโข่งว่าทำไมชามที่สองถูกกว่า นายโข่งตอบอย่างอารมณ์ดีว่า"ชามที่สองกินไม่หมดหรอก" ก็จริงของนายโข่งเพราะสมัยนั้นหมูย่างแผ่นใหญ่กว่านี้ ใหญ่เกือบเท่าฝ่ามือเด็กและมี 2 ชิ้น เกี๊ยวกรอบ 1 กำมือ ปัจจุบันธรรมดาชามละ 70 บาท พิเศษ 90 บาท มาร้านนี้ชอบสั่งแต่แบบแห้งที่เวลายกมามองไม่เห็นเส้น เครื่องในทั้งตับหมู เซี่ยงจี๊ ไส้อ่อน กระเพาะหมูและเนื้อหมูแต่ละชิ้นเบ้งๆ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:32:06 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ทานร้านนี้ทีไรชอบสั่งแต่เส้นเล็กแห้ง ไม่ต้องปรุงเพราะแบบแห้งทางร้านปรุงมาเรียบร้อย ใส่ทั้งน้ำตาล ถั่วป่น พริกป่น ยกเว้นพริกน้ำส้ม จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ตักหมูย่างให้ดูกันชัดๆ ตอนไปทานครั้งที่ 2 เพื่อทำกระทู้นี้ มีลูกค้าเก่าศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัยมานั่งทานด้วย ลูกค้าคนนี้มาทานตั้งแต่สมัยเรียน เคยเอาปากกาครอสมาจำนำที่โรงรับจำนำตรงปากซอยด้วย วันนั้นลูกสาวนายโข่งมานั่งคุยด้วย ถามถึงนายโข่งปรากฏว่านายโข่งเสียไปแล้ว ลูกสาวนายโข่งถึงจะพูดจาโผงผางแต่ก็คุยสนุก เมื่อลูกค้าแซวว่าตอนงานศพเผาโต๊ะเล่นไพ่ส่งไปให้พ่อหรือเปล่า ลูกสาวนายโข่งตอบว่าเผาไปให้ด้วย แกเล่าว่าครั้งหนึ่งมีรายการทีวีจากไหนก็ไม่รู้ มาถึงจัดแจงตั้งกล้องจะถ่ายร้านแก ปรากฏว่าเจอปังตอกับเสียงดังปานฟ้าผ่าเก็บของหนีแทบไม่ทัน "แค่นี้ก็ดังอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องดังกว่านี้" ร้านนี้ขายถึงประมาณบ่าย 3 โมง ร้านปิดวันอาทิตย์ นั่งดูหนังชุดอยู่ที่บ้าน จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:33:06 ]

ความคิดเห็นที่ 103 หลังลูกสาวนายโข่งเก็บร้าน ตอนเย็นจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ออกจากร้านนายโข่งเลี้ยวขวาไปตามฝั่งขวาของถนนบ้านหม้อ ตึกแถวหลายบล็อคบนถนนบ้านหม้อซึ่งอยู่ในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ชั้นนอก ยังคงมีการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ตามโครงการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูกรุงรัตนโกสินทร์และบริเวณต่อเนื่อง เพื่อซ่อมแซมอาคารโบราณที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ฝั่งขวาของถนนบ้านหม้อมีแผงรับซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าน้อยมาก ส่วนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งซ้าย จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:34:26 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ตรงข้ามซอยทิพย์วารีมีร้านข้าวต้มชื่อว่าดีมีโภชนาซึ่งมีอายุกว่า 70 ปี จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 3 เดิมร้านนี้เปิด 24 ชั่วโมง แต่ปัจจุบันเปิด 10.00-21.30 น.เนื่องจากลูกค้าน้อยลง กับข้าวมีทั้งที่ทำไว้แล้วและตามสั่ง จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 108 รายการอาหารบางรายการไม่ทำขายแล้ว อย่างเช่นดาวเทียมซึ่งก็คือหมูสับแผ่เป็นแผ่นกลม วางไข่แดงเค็มไว้ตรงกลางแล้วนำไปนึ่ง สั่งกระเพาะหมูต้มพริกไทย 1 จาน 50 บาท ข้าวสวย 1 ถ้วย 8 บาท กระเพาะหมูต้มจนนิ่มไม่มีกลิ่นและน้ำซุปอร่อย จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:36:10 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ปลาใบขนุนทอด 1 ตัว 60 บาท เนื้อปลาสดหอม จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ตบท้ายด้วยไอศครีมจากเมืองไทยไอศครีม ที่ทานประจำตั้งแต่ยังไม่มียี่ห้อที่ถนนยมราชสุขุมช่วงคลองถมกว่า 30 ปี ปัจจุบันเป็นสินค้าโอทอปของจังหวัดนนทบุรี สั่งไอศครีมกะทิถ้วยใหญ่ 1 ถ้วย 20 บาท จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ซอยทิพย์วารีตรงข้ามร้านดีมีโภชนายังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้ที่มาซื้อแผ่นซีดี จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เลี้ยวขวาไปทางแยกบ้านหม้อ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ติดกับร้านดีมีโภชนาเป็นร้านขายกล่องใส่จิวเวลรี่ นอกนั้นเป็นร้านขายเครื่องประดับเพชรพลอย จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ส่วนใหญ่เป็นร้านเก่าแก่ของย่านบ้านหม้ออย่างเช่นร้านโอ้วตังเฮง จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:39:18 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ซ้ายมือก่อนถึงแยกบ้านหม้อ คือทางเข้าตลาดบ้านหม้อทางด้านถนนบ้านหม้อ พื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นที่จอดรถ ค่าจอดรถชั่วโมงละ 50 บาท มองเห็นหม้อดินขนาดใหญ่สัญญลักษณ์ของบ้านหม้อ ตั้งอยู่บนจั่วของทางเข้าตลาดบ้านหม้อ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:39:47 ]

ความคิดเห็นที่ 116 สวัสดีค่ะอา ไปด้วยคน  กินด้วยคนค่า แถวนี้เคยไปซื้อกีตาร์ค่ะอา ซื้อมาตั้งนานแล้ว หนูยังจับคอร์ดได้ไม่ถึงไหนเลย อาสบายดีนะคะ จากคุณ : Rudmilla - [ 18 พ.ค. 52 03:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 117 เดินผ่านร้านรสทิพย์ยอดผักไปถึงแยกบ้านหม้อ จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:40:18 ]

ความคิดเห็นที่ 118 Rudmilla ...สบายดีครับ นอนเช้าจัง .................................................. ข้ามถนนตรงไปเข้าถนนบ้านหม้อในส่วนของย่านปากคลองตลาด จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ข้ามถนนมาฝั่งซ้าย ประมาณ 30 เมตรจากแยกบ้านหม้อมีซอยเล็กๆ ปากซอยเป็นห้องแถวทะลุกัน 2 ห้อง เป็นร้านชื่อแม่เช็ง ห้องแรกขายข้าวแกง จากคุณ : laser - [ 18 พ.ค. 52 03:42:24 ]