PANTIP.COM : D7896527 ไส้กรอกแบบมีพลาสติค/ไม่มีพลาสติค [การทำอาหาร]

ความคิดเห็นที่ 3

การผลิตไส้กรอกจะแบ่งชนิดของวัสดุทีใช้หุ้ม (casing หรือ filler) ออกเป็น 2 ชนิดคือ วัสดุธรรมชาติกับวัสดุเทียมคือพลาสติก

วัสดุธรรมชาติที่ใช้หุ้มไส้กรอกคือเครื่องในของสัตว์ที่ใช้ลำเลียงและย่อยอาหาร (intestine) อันได้แก่ หลอดอาหารไล่ไปจนถึงลำไส้ส่วนต่างๆ ลำไส้ของสัตว์ต่างๆ ที่นำมาใช้ได้แก่ วัว หมู และ แกะ

ข้อดีที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติคือ ความยืดหยุ่นสูง สามารถทำไส้กรอกได้หลายขนาดและรูปแบบ มีรูพรุนอยู่ตามธรรมชาติของเซลล์เหมาะสำหรับไส้กรอกที่ต้องรมควัน จะทำให้กลิ่นและควันซึมเข้าไปในเนื้อไส้กรอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความกรอบเมื่อกัดรับประทาน

แต่กระบวนการเตรียมไส้ธรรมชาติก่อนนำมาใช้งานนั้นยุ่งยากซับซ้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นส่วนของลำไส้สัตว์จึงต้องทำความสะอาดกันอย่างถ้วนถี่เพื่อล้างส่วนไขมันและเมือกที่หุ้มอยู่ภายในออกให้เกลี้ยงเกลา 100% เพื่อไม่ให้กลิ่นหรือแบคทีเรียหลงเหลืออยู่เลย นอกจากนั้นการใช้วัสดุธรรมชาติที่ได้จากสัตว์ย่อมมีจำนวนจำกัด เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้พลาสติกที่สามารถผลิตขึ้นเองได้ตามแต่จะต้องการ

การผลิตไส้กรอกในเปลือกหุ้มพลาสติกจึงนิยมทำกันในอุตสาหกรรมการผลิตไส้กรอกที่ผลิตจำนวนมากๆ และนี่คือสาเหตุที่ทำให้ราคาไส้กรอกในพลาสติกถูกกว่า เนื่องจากต้นทุนการผลิตแตกต่างกันมากมาย

ไส้กรอกที่ไม่ได้หุ้มพลาสติกและดูเหมือนเป็นเนื้อเดียวกับเนื้อไส้กรอกนั้น แท้ที่จริงแล้วก็ยังมีเยื่อวัสดุหุ้มอยู่นั่นเอง ไส้กรอกที่ไม่มีวัสดุหุ้มเลยได้แก่ ไส้กรอกที่บรรจุในกระป๋อง

สำหรับประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องไส้กรอก เช่น เยอรมันนีซึ่งผลิตไส้กรอกมากกว่า 2000 ชนิด จะไม่มีการผลิตไส้กรอกในเปลือกหุ้มพลาสติกเลย ถ้าไม่ใช้วัสดุธรรมชาติจากสัตว์ ก็จะใช้วัสดุทดแทนที่ผลิตขึ้นจากเยื่อธรรมชาติอย่างอื่นแทน เช่น จากเยื่อกระดาษ pergament เป็นต้น
แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 52 18:38:01

จากคุณ : Scharfsinn (Scharfsinn) - [ 24 พ.ค. 52 14:35:51 ]