ความคิดเห็นที่ 1 เชฟฟาบริสครับ ท่านเป็นความหวังเดียวของโรงแรมแห่งแรกของไทยอย่างโอเรียนเต็ลแล้วล่ะครับ ท่านคนเดียวจะกอบกู้ชื่อเสียงด้านขนมของโรงแรมคืนมาได้ กลับเชียงใหม่เถอะครับ ไปช่วยสร้างชื่อให้รร.ที่นู่นดีกว่า ที่จะมาดึงขนมที่มันอร่อยมากๆอยู่แล้วให้ดิ่งเหว สำหรับผมนะ ย้ำว่าสำหรับลิ้นผมคนเดียว ของหวานยุคFabrise เป็นความตกต่ำของของหวานโอเรียนเต็ล ของหวานที่Lord Jim's ไปทานจะทราบได้เลย ที่อร่อยๆกลมกล่อมๆนั่นคือสูตรเชฟปีเตอร์ เช่น คัสตาร์ต เครมบูเร พานาคอตต้า แต่พวกช็อคโกแลตขมเลี่ยนๆ ประหนึ่งกระเดือกยาฆ่าแมลง ชีสเค้กเลี่ยนเนยทรมานคอหอย ทาร์ตมาะนาวรสชาติเหมือนนมเน่า ฝีมือเฮียฟาบริสทั้งนั้นแหละ จากคุณ : Basเซ็งเชฟขนมโอเรียนเต็ลคนใหม่ (kruBas) - [ 3 มิ.ย. 52 22:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุณขา...ข้างในแบล้คฟอเรส คือเชอรี่แช่เหล้าค่ะ เป็นขนมที่ต้องเน้นความหอมของเชอรี่ และตัวลิเคียวที่แช่เหล้าไม่ใช่ช็อคโกแลต   จริงๆ แล้วตัวเนื้อชิฟฟอนมันต้องชุ่มโชกไปด้วยน้ำเชื่อมเหล้าด้วย ซึ่งเราว่าของฟาบรีซยังทำไม่เข้มพอด้วยซ้ำ ศึกษาเค้กก่อนที่จะด่านะคะ  http://en.wikipedia.org/wiki/Black_Forest_gateau  ลองอ่านดูค่ะ แต่ว่าบ้านเราไม่ค่อยนิยมใช้เหล้าเท่าไหร่เพราะว่ามันแพง แต่ระดับโอเรียนเต็ล จะให้เชฟเค้าทำเป็นเค้กช็อคโกแลตสอดไส้เชอรี่อย่างเดียวคงไม่ดีนักมังคะ? สำหรับเค้กแบล้คฟอร์เรสต์ของโอเรียนเต็ล จำได้ว่าเคยลองเมื่อนานมากแล้ว (เกือบสิบปีละ) ที่ช็อปในเอ็มโพเรียม ตอนนั้นโอเคนะ เป็นแบล้คฟอร์เรสแบบมาตรฐาน แต่... ก็ยังชุ่มเหล้าน้อยไปอยู่ดี ตอนนั้นโดยส่วนตัวคิดว่ายังสู้ของอมารี รินคำที่เชียงใหม่ไม่ได้ เพราะของที่นั่น กินทีแทบเมาเลยทีเดียว (แต่ตอนนี้ของอมารีไม่อร่อยแล้ว เสียดายมากค่ะ)   ที่มาตอบนี่ ไม่ได้บอกว่าแบล้คฟอร์เรสต์ของฟาบรีซเทพ แตะต้องไม่ได้นะคะ เพราะว่าไม่ชอบแบล้ค ฟอร์เรสต์ของที่ดาราเทวี เชียงใหม่เหมือนกัน (ไม่แน่ใจว่าหน้าตาเหมือนกันหรือเปล่า เราไม่ชอบของที่นั่นเพราะ ชุ่มเหล้าน้อยไป และด้านนอกไม่ใช่ครีมสด...แต่ตัวเชอรี่อร่อย) แต่ที่ต้องออกมาตอบตรงนี้ เพราะอยากให้ศึกษาก่อนว่าเค้กแต่ละตัวรสชาติมันควรจะเป็นอย่างไรก่อนที่จะวิจารณ์โดยเฉพาะในเว็บบอร์ดสาธารณะแบบนี้  เพราะอย่างแบล้คฟอร์เรสต์ ช็อคโกแลตไม่ได้มีส่วนสำคัญเหมือนกับตัวเชอรี่ และตัวเหล้าซึ่งควรจะต้องชุ่มโชก และมันก็ถูกแล้วที่คุณควรจะได้รับรสชาติเหล้ามากกว่าช็อคโกแลต   ก็...เป็นเค้กที่ถ้าคนไม่ชอบ ก็จะเกลียดไปเลยอ่ะค่ะ  เคยเอาไปฝากบางคน (ของอมารีนะคะ) เค้าโทรมาบอกว่า เค้กที่ส่งมาเสียหรือเปล่า กลิ่นมันแปลกๆ (กลิ่นเหล้าแหละค่ะ)   แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 23:21:25 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 23:12:45 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 22:58:39 จากคุณ : นิดา (nokepee) - [ 3 มิ.ย. 52 22:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เชฟชื่อ Fabrice ครับ อ่านว่าฟาบรีซ ไม่ใช่ Fabrise ที่อ่านว่า ฟาบรีส ส่วนเรื่องรสชาติขนม ขอไม่คอมเม้นละกัน เพราะเป็นรสนิยมส่วนบุคคล แต่สงสัยนิดหนึ่งว่า แบล็ค ฟอเรสต์ชาติไหนหรือครับ ที่เค้าเน้นรสชาติช็อกโกแลตของเค้กให้เด่นกว่าผลไม้แช่เหล้า ที่เป็นเอกลักษณ์ของเค้กชนิดนี้น่ะ โดยส่วนตัวชอบขนมของเชฟท่านนี้ครับ อย่างน้อย แกก็ไม่พิสดารทำแครมบรูเล่ (Creme brulee อ่านว่า แครม บรูเล่นะครับ) หน้าผลไม้ (ถามอีกเช่นกัน ว่าแครมบูเล่ชาติไหน แต่งหน้าด้วยผลไม้เนี่ย) แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 23:22:18 จากคุณ : patnuwa - [ 3 มิ.ย. 52 23:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่านะครับ การทานเค้ก ทานขนมหวาน หรือทานอาหารใดๆ เป็นรสนิยมส่วนบุคคลก็จริง แต่ถ้าขนมอร่อย อย่างของเชฟปีเตอร์ เชฟท่านก่อนที่เป็นช่วงที่ทำให้โรงแรมโอเรียนเต็ล ได้รับการยกย่องเป็นโรงแรมอันดับ1ของโลก ติดต่อกันหลาๆยปี แบบนั้น พาใครไปทาน ไม่จำเป็นต้องรุ้ว่าชนมเรียกว่าอะไร มีส่วนประกอบอะไร ควรจะรสชาติอย่างไร รู้อย่างเดียวคือ หยิบเข้าปากแล้ว พาไปทานสิบคน ร้องว๊าว ทำหน้าเคลิบเคลิ้มบอกว่าอร่อยซะสิบคน มันเป็นเอกฉันท์ว่าทานแล้วได้ความสุข แต่ของฟาบริส ถ้าไม่นับเดอะท็อป คนทานซะสิบคน อาจจะมีบางส่วนบอกอร่อย บางส่วนสาปแช่ง แค่สาปส่งครึ่งๆ เชฟก็ไม่ควรจะอยู่ได้แล้วครับ ฟาบริซเป็นคนทำขนมรสชาติสุดขั้ว จะเอาให้ตายกันไปข้างนึง ช็อคโกแลตก็ขมสุดขั้ว โอเปราเค้กก็กะให้เมาขับรถไม่ได้กันตรงนั้นเลย ทำให้คนชอบก็ชอบไปเลย คนเกลียดก็สาปแช่งสาปส่ง ซึ่งถ้าคนทำขนมเจ๋งจริงๆ ก็จะรู้จักsurwayผู้บริโภค ไม่ใช่ยึดอีโก้ตัวเองเป็นใหญ่ ว่าชั้นจะทำแบบเนี้ย มันเป้นสูตรคลาสสิก แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 00:03:31 จากคุณ : kruBas - [ 3 มิ.ย. 52 23:28:22 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อย่างที่บอกแหละค่ะ ตำหนิตัวเชฟ ตำหนิไปเลย จะได้ส่งกลับมาที่นี่... แต่ ถ้าจะตำหนิขนม ก็อยากให้รู้ก่อนว่า รสชาติของตัวขนมเป็นยังไง ไม่ใช่บอกว่า ไม่ชอบ เหล้าเยอะ ไม่มีรสช็อคโกแลต ทั้งๆ ที่ขนมตัวนั้นเป็นขนมที่ต้องเน้นความหอมของเหล้า ไม่เน้นรสชาติช็อคโกแลตค่ะ และ... ไม่มีเชฟคนไหนทำขนมได้ถูกใจคนได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกค่ะ เพียงแต่ว่าจะถูกใจคนที่มีปากกาอยู่ในมือกี่คนเท่านั้นเอง เพราะคุณเองก็คงไม่ได้ไป survey (เขียนงี้นะคะ) ความเห็นคนทุกคนที่เดินออกร้านโอเรียนทอล ช็อปไปว่าชอบหรือไม่ชอบต่างกันมากน้อยเท่าไหร่ สุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของรร. แหละค่ะ ว่าเค้าต้องการเปลี่ยนไปในทิศทางไหน เราไม่คิดว่ารร. ระดับโอเรียนเต็ลเค้าจะไม่ได้ศึกษาอะไรก่อนเลยที่จะตัดสินใจอะไรลงไป เหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้เกิดขึ้นกับห้องฟูเจี้ยนที่ ดาราเทวี เมื่อเชฟแอนดี้ โดนย้ายมาจากโอเรียนเต็ล กทม.  แกมาเปลี่ยนสูตรติ่มซำซะ ลองของใหม่ ทำออกมาแม้กระทั่งปอเปี๊ยะซีฟู้ดกับมะม่วง ปอเปี๊ยะเป็ดย่างกับผักดอง ขนมจีบปลาแซลม่อน ฯลฯ  ก็มีทั้งกระแสคนชอบและไม่ชอบ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้โรงแรมล่มจม คนก็ยังไปใช้บริการเหมือนเดิม สุดท้าย แกก็เลือกเอาแต่ตัวที่คนชอบ และปรับของเดิมใช้  แต่ก็ใช้เวลาหลายเดือนเหมือนกัน   ฉะนั้น อยากให้คุณให้เวลาฟาบรีซสักนิด อย่าพึ่งด่วนตัดสินและเลิกกินเค้กที่นี่ไป เพราะนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ทางเครือแมนดาริน โอเรียนทอลกำลังทำอยู่ คือ การหาของใหม่มาผสมผสานกับของเก่า โดยต้องมีการลองผิดลองถูกก่อน เชื่อว่าสักพักอะไรๆ น่าจะเข้าที่ค่ะ  เชฟแกเพิ่งไปอยู่นั่นได้แค่สองสามเดือนเองไม่ใช่เหรอคะ? คุณในฐานะลูกค้าประจำ ก็มีสิทธิ์ที่จะเรียกเชฟออกมาคุยได้ ว่าไม่ชอบเค้กเค้าเพราะอะไร หรือไม่ก็เขียนในใบคอมเมนท์ (ที่เชียงใหม่ บางทีถ้าไม่ชอบอะไรก็ฝากไว้กับเด็กที่ร้าน ถ้าเจอแกเอง ก็บอกเอง) อะไรๆ จะได้กลับเป็นในแบบที่มันควรเป็น จากคุณ : นิดา (nokepee) - [ 3 มิ.ย. 52 23:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จริงๆแล้วผมไม่ได้ไปsurwayเองอะครับ แต่ตอนที่ผมไปทาน พนักงานถามผมว่าเป้นยังไงบ้าง ผมก็ตอบตามตรง พร้อมกับเค้กของแกที่เหลืออยู่ในจาน คือมันรสชาติน่ากลัวจริงๆ พนักงานก็บอกผมว่า มีแต่ลูกค้าบ่นตั้งแต่เชฟคนใหม่มา ผมก็กลัวบรรยากศเสีย ก็เลยบอกว่า แต่เชฟคนใหม่ทำขนมอลังการดีนะครับ พนักงานบอกผมว่า แต่มันก็ต้องอร่อยด้วยแหละคุณบาส ถ้าสวยแต่มีแต่ลูกค้าบ่น แบบนี้พวกหนูก็ไม่ไหวเหมือนกัน หรือแม้แต่ร้านบนL'Espaceผู้จัดการก็พูดประมาณเดียวกันว่า ทางร้านไม่รู้อะไรเลย เชฟมาถึงก้สั่งยกเลิกเค้กของเก่า "ทั้งหมด" แล้วส่งขนมชิ้นเล็กๆของแกมาพร้อมป้ายราคา พร้อมกับทิ้งท้ายว่า ก็ต้องดูกันไประยะนึงว่า ลูกค้าจะพอรับไหวมั๊ย ผมจึงสรุปในฐานะที่วนเวียนอยู่แถวๆนี้ว่า รสชาติขนมที่ฟาบริสทำ น่าจะเป็นรสที่มีคนไม่ชอบถึงขั้นแอนตี้ ไม่น้อย ถ้าถึงขนาดพนักงานขายเองบ่น ซึ่งที่พนักงานขายบ่นก็เกิดจากลูกค้าที่มาทานจำนวนไม่น้อย ทานแล้วมันไม่ได้เรื่อง แล้วมาบ่นให้ฟังนั่นเองครับ ผมก็หวังว่า ฟาบริสจะยอมรับฟังความคิดเห็นจากคนที่มาทาน และไม่ไปยกเลิกของเดิมเค้าอย่างที่ทำอยู่ ขนมอะไรที่อร่อย คนหมู่มากชอบ ขายหมดเกลี้ยงทุกวัน ยกเลิกทำไม?? ยกเลิกของที่คนชอบ แล้วทำขนมรสชาติน่ากลัวมาขายเช่นนี้ คงไม่ดีทั้งต่อผู้บริโภคและทางร้านเอง อยากให้ฟาบริซต่อเติม มากกว่าจะปฏิวัติ อะไรดีอยู่แล้วก็ให้ขายต่อไป ตัวเองมีมุขอะไรใหม่ๆ ที่ลองเทสออกไปแล้ว คนชอบกันมาก ค่อยเสริมตรงจุดนั้นครับ เช่นเดอะท็อปของฟาบริส ผมก็ไปซื้อทุกวันครับ ในส่วนของผมในฐานะลูกค้าประจำ ผมคอมเมนต์แน่ๆ เด๋วหาโอกาสเหมาะๆก่อน โดยส่วนตัวคิดว่า เหตุที่โอเรียนเต็ลเอาฟาบริสมา เพราะเชฟเดวิดบินกลับฝรั่งเศส แล้วทางโรงแรมหาใครไม่ได้แล้ว เลยเอาง่ายๆนี่แหละ เรียกมาจากโอเรียนเต็ลเชียงใหม่ ก็ต้องคอยดูกันต่อไปครับ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 00:39:24 จากคุณ : kruBas - [ 4 มิ.ย. 52 00:16:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก็คงต้องรอดูกันไปล่ะค่ะ เพราะโดยส่วนตัวคิดว่า โอเรียนเต็ลเอง โด่งดังเรื่องขนมหวานมานานก็ไม่ใช่เพราะว่าเชฟคนหรือสองคน เชฟแต่ละคนที่เปลี่ยนหน้ากันไป ก็คงต้องเจอกับการวิจารณ์จากลูกค้าเก่าๆ ที่ชอบฝีมือของคนเก่ามากกว่า แม้จะสูตรเดียวกัน เชฟก็คงหาทางประยุกต์ให้เข้ามือตัวเองมากที่สุด ใส่เอกลักษณ์ของตัวเองลงไป เพียงแต่ฟาบรีซแกอาจจะเป็นเชฟหัวก้าวหน้าเกินไป เลยทำให้ดูผิดวิสัย รร. ที่มีความเป็นอนุรักษ์นิยมแบบโอเรียนเต็ลไปอยู่มาก เค้าก็คงให้เวลาแกเริงร่าไม่นานหรอกค่ะ ผลประกอบการมันจะบอกเองว่าต้องเปลี่ยนมากเปลี่ยนน้อยแค่ไหน ทางนี้ก็ได้แต่รอให้แกกลับมาเร็วๆ ค่ะ เพราะอย่างที่บอก สูตรเดียวกัน เชฟคนละคน รสก็ต่างไป คนกินทางนี้ก็รู้สึกละ ว่าเค้กรสเปลี่ยนไป อย่างครั้งล่าสุดที่ไปโอเรียนทอลช็อป เชียงใหม่ ก็ไม่ถูกใจมาการอง เค้กบางตัวก็หวานไปกว่าเดิม อ้อ ดาราเทวีที่เชียงใหม่ ไม่ได้ติดตรา "โอเรียนเต็ล" นะคะ แต่ติด แมนดาริน โอเรียนทอล ค่ะ จากคุณ : นิดา (nokepee) - [ 4 มิ.ย. 52 00:30:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ที่กรุงเทพฯก็ติดตราแมนดาริน โอเรียนทอล แหละครับ แต่คนไทยเราเรียกกันว่า โอเรียนเต็ล ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา เวลาพิมพ์เป็นภาษาไทยก็อยากจะพิมพ์ เป็นภาษาไทยมากกว่าคำอ่าน ภาษาอังกฤษน่ะครับ แต่คิดว่า คุณฟาบริซแต่คงไม่ไปไหน เพราะภรรยาแกก็คนไทย จากคุณ : kruBas - [ 4 มิ.ย. 52 00:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ว๊าวว ไฮโซ... จากคุณ : อิอิ - [ 4 มิ.ย. 52 04:16:21 A:192.168.200.216 X:58.9.45.248 TicketID:216057 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขนมตัวที่ว่าเนี่ย  เคยทำอยู่สมัยเป็นเรียนอยูที่โอเรียนเต็ล   จะว่าไปสูตรก็มี  เปิดดูๆแล้ว  ตามที่ คห.2 ว่าหน่ะคะ  ข้างในเป็นเชอรี่ เนื้อเค้กก็อาบเหล้า  มูสก็ผสมเหล้า  ชอคด้านนอกหน่ะ  ก็เป็นแบบแพงนะคะ ไม่ใช่ถูกๆ  แต่มันคงไม่ค่อยอร่อย เพราะเหล้าเยอะเกินหล่ะมั้งคะ จากคุณ : ~Just Relax~ - [ 4 มิ.ย. 52 07:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แต่ตอนที่ผมไปทาน พนักงานถามผมว่าเป้นยังไงบ้าง ผมก็ตอบตามตรง พร้อมกับเค้กของแกที่เหลืออยู่ในจาน คือมันรสชาติน่ากลัวจริงๆ พนักงานก็บอกผมว่า มีแต่ลูกค้าบ่นตั้งแต่เชฟคนใหม่มา ผมก็กลัวบรรยากศเสีย ก็เลยบอกว่า แต่เชฟคนใหม่ทำขนมอลังการดีนะครับ พนักงานบอกผมว่า แต่มันก็ต้องอร่อยด้วยแหละคุณบาส ถ้าสวยแต่มีแต่ลูกค้าบ่น แบบนี้พวกหนูก็ไม่ไหวเหมือนกัน ^ ^ อะไรก็ไม่ว่า แต่ถ้าในฐานะผู้บริหารโรงแรมหลายดาว มาอ่านเจอคคห.นี้ของพนง.แล้วละก็.. คงตบอกผาง.. ตายๆๆๆๆ พูดเยี่ยงนี้กับลูกค้าไปได้เช่นไร ( -_- ) จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 4 มิ.ย. 52 11:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โถ โถ โถ ไม่ใช่แฟนขนมหวานเลยไม่อาจวิจารณ์ด้วยได้ แต่งานบริหารF&B แมวเชื่อในคห.5กับ7 จ้า ส่วนเรื่องการที่พนักงานขาดความเชื่อมั่นในสินค้าและทีมงานของตนนั้นป็นเรื่องอันตรายสำหรับธุรกิจบริการ แต่การที่พนักงานแสดงความคิดเห็นนั้นต่อลูกค้าคนอื่นๆหรือเอาความคิดเห็นที่ไม่ดี(ซึ่งตนเองก็สนับสนุน)มาเผยแพร่ให้ลูกค้าคนอื่นรับทราบนั้น ยิ่งเป็นอันตรายกว่า ในบางร้านบางที่นั้นหากจับได้เป็นเรื่องใหญ่เชียว ลูกค้าอาจจะชอบที่พนักงานก็เอออห่อหมกกับตน หรือ สนิทกับตน แต่การยอมรับในความผิดพลาดแล้วขอโทษแล้วแก้ไขกับการนินทาสินค้าหรือทีมงานของตนนั้ต่างกันมากมาย หากสิ่งที่คุณ kruBas แจ้งมานั้นเป็นจริง ปัญหาของโรงแรมอาจจะไม่ได้อยู่ที่เชฟขนมทำดีหรือไม่เพียงอย่างเดียว อาจจะหมายถึงวิธีการคัดคนเข้าสู่ระบบและการฝึกหัดคนที่แย่ลงด้วย จนเกิดเหตุแบบที่แมวกล่าวไปแล้ว ซึ่งทำให้ระบบทั้งระบบล่มสลายง่ายกว่าการที่ขนมไม่ถูกใจลูกค้าด้วยซ้ำ จากคุณ : แมวคาบมีด - [ 4 มิ.ย. 52 12:00:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เอ่อ  ยังไงก็จะบอกว่าชอบขนมฟาบรีซ มากๆๆๆๆ ไม่รู้สิ เมื่อก่อนไม่ค่อยกินขนมที่นี่เท่าไหร่ คิดว่ารสชาติอ่อนไป แต่ตอนนี้นะเหรอ ถูกใจมากๆๆๆ  ขนมแกนี่รสชาติถูกใจสุดๆๆๆๆ ไม่มีขี้เหนียวของเลย  อย่าง Black Forest นี่วันนั้นกินไป 2 ชิ้นเซเลย จากคุณ : comestar - [ 4 มิ.ย. 52 12:17:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอออกความเห็นว่า รสชาติ ขึ้นกับบุคคลผู้ชิมแต่ละคนเท่านั้น และการที่เรารู้สึกว่า คนบางคนอีโก้ ตัวเรานั้นเอง อาจอีโก้อยู่ด้วยก็เป็นได้ ปล่อยวางเถอะค่ะ  อย่ายึดติดนักเลย จากคุณ : คุณหนูเอาแต่ใจ - [ 4 มิ.ย. 52 12:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อูยตายแล้ววววว เพิ่งเห็น คห. ของคุณว่านน้ำ พออ่านๆ คห. ของคุณว่านน้ำแล้วก็รุ้สึกว่า "เอ้อ จิงด้วยยยย" แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 12:25:21 จากคุณ : คุณหนูเอาแต่ใจ - [ 4 มิ.ย. 52 12:24:15 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เข้ามาคาระวะท่านว่านน้ำครับบ ช่วยไปสืบที่มาที่ไปของการเปลี่ยนรสชาติขนมของโอเรียนเต็ลให้หน่อยจิ : ) จากคุณ : kruBas - [ 4 มิ.ย. 52 13:27:38 ]

ความคิดเห็นที่ 17 14# ผมว่ามันไม่ช่เรื่องของอีโก้คนทานน่ะครับ มันคือความคิดเห็น ซึ่งผมเห็นด้วยกับคุณว่า แล้วแต่รสนิยมของผู้ทานแต่ละท่าน ซึ่ง การที่มีคนจำนวนหนึ่ง ทานขนมคุณฟาบริซแล้วรู้สึกว่า รสชาติมันไม่ได้เรื่องเลย แล้วให้ความคิดเห็น ตามความรู้สึกว่ารสชาติ มันไม่ได้เรื่อง มันเป็นสิทธิของผู้บริโภคครับ แต่เรื่องอีโก้คือ การที่เคยมีเค้กที่ขายดีมากๆ คนชอบ พนักงานโปรด เชฟที่รองลงมาก็คอนเฟิร์มว่าสูตรนี้อร่อยสุดแล้ว คนทานสิบคนก็ชอบสิบคน ลองไปดูกระทู้ลอร์ดจิมเก่าๆ พูดถึงขนมลอร์ดจิม(เกือบทั้งหมดสูตรเชฟปีเตอร์)100คน ไม่มีซักคนบอกว่า ไม่อร่อย ขนมเหล่านั้นได้รับการ ยอมรับสุงมานาน แต่เชฟคนใหม่มาดละของเก่าๆที่เจ่งอยู่แล้ว ขายดีอยู่แล้ว แล้วเอาขนมรสชาติน่ากลัวของตัวเองมาขายแทน ผลคือเสียงชมกลายเป็นเสียงด่า (ไม่นับที่เชียงใหม่นะฮะ)   แล้วคนที่ไปทานก็เข้ามาแสดงความคิดเห็น จะบอกว่าไม่อร่อย แล้วต้องละอีโก้ให้มันรู้สึกอร่อยไปเพื่ออะไรเอ่ย ไม่อร่อย ก็คือไม่อร่อยน่ะครับ ไม่อร่อยก็ต้องแสดงความคิดเห็นให้เชฟรู้ว่า ที่ยูทำมามันไม่ได้เรื่องเลย คนจำนวนไม่น้อยทานไม่ได้ ปรับปรุงซะ แค่นั้นเองครับ จากคุณ : BASเซ็งเชฟขนมคนใหม่ (kruBas) - [ 4 มิ.ย. 52 13:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เพิ่มอีกหน่อย เชฟท่านนี้เป็นคนที่รับฟังเสียงจากลูกค้านะครับ ข้อนี้ยืนยัน เพราะตอนแกอยู่ที่เชียงใหม่ เวลาออกขนมใหม่ๆ มา ยังแวะเข้ามาถามพนักงานขายตลอด ว่าลูกค้าว่ายังไงบ้าง และปรับปรุงตลอด เชื่อว่าที่กรุงเทพฯ ก็คงจะเป็นเช่นนี้เหมือนกัน แต่ของแบบนี้มันต้องใช้เวลาครับ ไม่ใช่ว่าพอลูกค้าบ่นปุ๊บ ต้องรีบเปลี่ยนทันที แต่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนั้น เชฟคงต้องปรับปรุงให้อยู่บนความพอดีด้วย ระหว่างรสชาติที่ถูกปากลูกค้า กับรสชาติและลักษณะที่ควรจะเป็นของขนมชนิดนั้น ๆ ด้วย เชื่อเถอะครับ ไม่มีเชฟคนไหนหรอก ที่ทำขนมให้รสชาติถูกปากลูกค้าหมด ใครทานก็ว่าอร่อย แต่ห่างไกลจากรสชาติที่ควรจะเป็น ของขนมชนิดนั้น ระหว่างที่รอความเปลี่ยนแปลงนี้ หากไม่มีส่วนได้เสียกับทางโรงแรม แนะนำให้ย้ายไปทานที่อื่นก่อนดีกว่าครับ จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสีย ทิ้งไว้ซักพัก หากคิดจะกลับมาลอง ก็ยังไม่สาย จากคุณ : patnuwa - [ 4 มิ.ย. 52 14:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ชอบกินแต่มัฟฟินกับตับบดอ่ะแต่cakeกินร้านอื่นแหะๆ จากคุณ : patty babeby - [ 4 มิ.ย. 52 14:13:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณมีสิทธิ ฉันใด คนอื่นมีสิทธิ ฉันนั้นค่ะ การที่คุณจะมาป่าวประกาศแบบนี้ มันเข้าข่าย ทำให้เสียชื่อเสียง มากกว่าติเตียนเพื่อปรับปรุงนะคะ เราว่า ถ้าคุณรู้สึกไม่พอใจจริงๆ คุณควรคอมแพลนกับทางเชฟโดยตรงจะดีกว่า เชื่อว่าถ้าคุณต้องการคุยกับเชฟ ( โดยเฉพาะที่เป็นเชฟของโรงแรม ไม่ใช่เชฟที่เปิดร้านส่วนตัว ) เค้าย่อมยินดีที่จะรับฟังปัญหาเสมอ เพราะเค้าคือคนที่ต้องทำงานให้โรงแรมนั้นๆ และเพื่อรักษาลูกค้าไว้ ความพอใจของลูกค้าย่อมมาก่อน เพราะถ้าลูกค้าหายไปจากโรงแรม ชื่อของเชฟคนนั้นก็อาจหายไปด้วยในเวลาต่อมา เปิดใจให้กว้าง มองโลกในหลายๆแง่ดีกว่าค่ะคุณบาส คุยกับเชฟตรงๆ ต่อหน้า ดีกว่ามาพูดให้คนอื่นฟังว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ค่ะ นอกจากจะไม่ใช่แค่เชฟ หรือโรงแรมที่คุณรัก จะเสียชื่อ แต่ตัวคุณเอง.. อาจมีคนมองในมุมต่างๆนาๆ ไปแล้วก็เป็นได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 15:37:54 จากคุณ : คุณหนูเอาแต่ใจ - [ 4 มิ.ย. 52 15:34:45 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกับคุณหนูเอาแต่ใจค่ะ   อีกอย่างหนึ่ง สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะดังเรื่องเค้กแค่ไหน เนื้อแท้ของโรงแรม แมนดาริน โอเรียนทอล กรุงเทพ ก็คือ โรงแรม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือด้านห้องพัก และ บริการ ที่ต้องรักษาชื่อเสียงที่แทบจะกลายเป็นตำนานไปแล้วนั้นไว้ (เพื่อนพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า เป็นสิบปีมาแล้ว เค้าเข้าพักที่โอเรียนเต็ล เดินผ่านคนสวน เค้าลุกขึ้นทักทายเลยว่า 'good morning Mr.xxxx' ประทับใจสุดๆ เลยค่ะ ว่าแม้แต่คนสวนยังจำชื่อแขกได้)     แม้ว่าด้านขนมจะทำกำไรหรือชื่อเสียงให้เท่าไหร่ก็ตาม แต่ถ้าโรงแรมไม่สามารถรักษามาตรฐานในฐานะที่เป็นโรงแรมไว้ได้ ก็ไม่ได้ช่วยอะไรค่ะ   และ...ในฐานะที่เป็นโรงแรม คุณสามารถคอมเมนต์ได้เต็มที่...ที่โรงแรมนะคะ   เค้ายินดีรับฟังคุณอย่างแน่นอน ยิ่งเป็นลูกค้าประจำผู้มีพระคุณด้วย  จริงๆ แล้ว คุณสามารถติงได้ตั้งแต่วันแรกที่คุณได้คุยกับฟาบรีซเลยด้วยซ้ำค่ะ   อีกอย่างหนึ่ง ขนมที่เชฟทำ ไม่ได้ทำให้ลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนไทยแต่เพียงอย่างเดียวค่ะ  กลุ่มแขกฝรั่งที่มาเข้าพักก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะได้กินเค้กนี้ด้วย อย่างน้อย ก็พวกขนมปัง หรือเพสตรี้ ตอนเช้า  นี่อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งสำหรับการเปลี่ยนสูตรก็ได้   มันไม่ใช่สักแต่จะบอกว่า ไม่สนใจว่าเค้กมันจะหน้าตาเป็นยังไง รสชาติจริงๆ ของออริจินอลมันจะเป็นไง แต่คิดว่ากินแล้วมันอร่อย สิบคนที่พามากินอร่อยหมด แต่วัฒนธรรมเรื่องเค้กสำหรับฝรั่งมันล้ำลึกกว่านั้น การกินแค่ชิ้นเดียวมันหมายถึงหน้าตาของร้านนั้น มันคงไม่ดีนัก ที่แขกสักคนจากฝรั่งเศสจะเดินมาเจอแครมบรูเล่ โดนโปะด้วยผลไม้เต็มหน้า หรือแขกเยอรมันกินเค้กแบล้คฟอร์เรสต์ที่ไม่มีรสเหล้าอยู่ หรือแขกอเมริกันเจอชีสเค้กที่รสชาติอ่อนเบา   เค้าจะมองว่าร้านขนมของที่นี่ทำขนมไม่เป็นหรือเปล่า?  แต่ละคนก็มีความยึดติดของตัวเองค่ะ และพวกฝรั่งเป็นหนักกว่าเรานะ หุๆๆๆ แต่โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่า การเปลี่ยนแปลงของแมนดาริน โอเรียนทอล กรุงเทพ คงไม่หยุดที่แค่การเปลี่ยนเชฟขนมแน่ๆ คงต้องคอยดูกันต่อไปค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 16:22:15 จากคุณ : นิดา (nokepee) - [ 4 มิ.ย. 52 16:15:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมก็ยังไม่เข้าใจคุณสาวกเชฟฟาบริซน่ะครับ ในเมื่อการไปทานขนม ผู้ทาน ทานแล้วไม่อร่อย แล้วมีกระทู้ที่พูดถึงขนมนั้น ผมเข้ามาบอกไม่อร่อย??? มันทำให้เสียชื่อเสียงยังไง ตกลง การทานอาหาร ทานอะไร ทานแล้วห้ามให้ความคิดเห็นในเชิงลบ อย่างนั้นหรือ?? ในส่วนของความคิดเห็นคุณสาวกฟาบริซ ผมคงไม่ไปก้าวล่วง แต่ผมต้องเรียนว่า ในเวบบอร์ดแสดงความคิดเห็น ผมซื่อตรงต่อความรู้สึกในการรับประทาน อร่อยก็คืออร่อย ไม่ได้เรื่อง ก็ตามนั้น ไม่ใช่ว่า ผมและเพื่อนๆที่ไปทาน ทานเสร็จไม่อร่อย ห้าม บอกไม่อร่อย เพราะกลัวสาวกจะมาโวยผม คือจริงๆแล้ว ผมจะเรียนว่า ผมมีจุดมุ่งหมายพิเตียนเพื่อสะท้อนไปถึงทางโรงแรมได้ทำการเปลี่ยนเชฟครับ ในส่วนของการให้ความคิดเห็นทางตรง ตอนเจอเชฟ ผมได้บอกเค้าไปแล้ว ตอนพบที่Author lounge เช่นเดียวกับเวลาที่ผู้จัดการร้านถามว่าขนมรสชาติเป็นอย่างไร แต่ในส่วนของการแสดงความคิดเห็นในเวบบอร์ด ผมจะมีสิทธิ์ในฐานะที่ผู้บริโภคที่จะแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าด้านดี หรือด้านลบครับ คุณสาวกฟาบริซ คุณก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นขัดแย้งกับผมในทุกๆกระทู้เช่นกันครับ ผมเองก็ยินดีที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเช่นนี้ ส่วนการที่คุณจะมองผมในแง่ร้าย เพียงเพราะผมทานขนมแล้วมันไม่อร่อย อันนั้นก็สุดแท้แต่ล่ะครับ จากคุณ : Basเซ็งเชฟขนมคนใหม่ (kruBas) - [ 4 มิ.ย. 52 17:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ก่อนจะเข้าใจผิดกันมากกว่านี้ จริงๆแล้ว ผมก็ตั้งใจติติง แสดงความคิดเห็น ทั้งทางตรงและทางอ้อมกับท่านอื่นๆที่ไปทานมา เช่นในกระทู้นี้ ก็เพื่อให้คุณฟาบริซปรับปรุงขนมส่วนใหญ่ของแก ที่ไม่ถูกปากคนทานส่วนมากเอาซะเลย จากเสียงที่ได้ยินมาทั้งคนที่ไปทานด้วยหลายๆครั้งและพนักงานของทางร้าน บ่นๆๆให้ฟังมาครับ ในส่วนของการติ ผมก็ติน่ะครับ แต่โดยส่วนตัว ผมก็ไม่ได้มองว่าฟาบริซไม่ได้เรื่องไปซะทุกอย่าง เช่น เดอะท็อปของเค้า ก็อร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคยทานมาเช่นกัน โดยส่วนตัว ก็แอบลุ้นว่า เมื่อไหร่ฟาบริซจะทำมากาฮองออกมาขาย ที่shopซะทีครับ จากคุณ : Basเซ็งเชฟขนมคนใหม่ (kruBas) - [ 4 มิ.ย. 52 17:43:00 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ได้แวะไปร้านนี้เองพักนึงแล้วไม่รู้ว่าแอปเปิ้ล ทาร์ต ยังมีอยู่หรือเปล่าเนี่ย หรือโดนไปด้วยแล้ว แต่คีช และ sausage roll ยังรสเหมือนเดิมนินา จากคุณ : My honey is the best - [ 4 มิ.ย. 52 18:35:58 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คงต้องทำความเข้าใจใหม่ซะแล้วละค่ะ เพราะดิฉันไม่ใช่สาวกเชฟคนนี้.. ส่วนเรื่องการออกความคิดเห็น ดิฉันไม่เคยห้ามไม่ให้คุณบาสออกความคิดเห็น แล้วที่บอกว่าอยากจะให้ทางโรงแรมเปลี่ยนเชฟ ก็คงจะไม่ได้อยุ่ทีแค่เพียงปัจจัยบางปัจจัยหรอกค่ะ ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง พูดขึ้นมา ว่าชอบฝีมือของเชฟคนนี้เหลือเกิน หรือฝีมือของเชฟคนนี้ไม่เข้าขั้น ปัจจัยต่างๆที่จะบ่งชี้ว่าเชฟคนใด เหมาะสมควรค่าแก่การดำรงนั้นต่อไปหรือไม่ ทางโรงแรมคงมีเกณฑ์พิจารณาที่ดีพออยู่กระมังคะ โรงแรมก็ใช้ว่าจะไม่ใหญ่โต มาตรฐานก็ใช่จะไม่มี เรื่องเท่านี้ คงจะพอบริหารได้ละค่ะ เพราะโรงแรมไม่ได้มีเพียงแค่เชฟคนเดียว หรือแผนกๆเดียว เพราะงั้นต้องมีมาตรการ หรือแนวทางและนโยบายในการจัดการเรื่องนี้อยู่แล้ว เชื่อว่าคุณบาส คงจะไม่จำเป็นต้องกังวลให้มากมายหรอกค่ะ คุณบาสน่าจะลองกลับไปอ่านใหม่นะคะ ให้เข้าใจ  เพราะดิฉันก้ได้เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนทุกอย่างแล้วด้านบน ไม่อยากฉายหนังซ้ำค่ะ จากคุณ : คุณหนูเอาแต่ใจ - [ 4 มิ.ย. 52 20:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ยังไม่ได้คอมเมนท์ ขอสักหน่อยละกันนะคะ จากกระทู้ที่แล้วคุณบาสยังบอกว่าเค้กเดอะทอปก็แค่เฉย ๆ เลยนี่นา  มากระทู้นี้อร่อยแล้วหรือคะ   ไม่ถูกใจกับเชฟฟาบรีซ ที่จริงคุณบาสเองก็เป็นผู้มีอุปการะคุณของโรงแรมนะคะ  เท่าที่ดูเนี่ยดูเข้าขั้นเป็น ระดับ" วีไอพี " เลยนะคะ เพราะว่าอาทิตย์นึงไปใช้บริการของโรงแรมและตามชอปต่าง ๆ ของแมนดารินโอเรียลทอลกรุงเทพขนาดนี้ ทานขนาดเรียกได้ว่าห้าวันต่อสัปดาห์ (ดิฉันจำได้จากกระทู้ ที่แล้ว) ที่จริงคุณไปที่โรงแรมคุณก็สามารถเรียกเจอกับเชฟฟาบรีซได้เลยนะคะ  เพราะยังไงก็เป็นลูกค้า" วีไอพี " ไม่ต้องมานั่งว่าเค้าทางเนตหรือว่าไปคุยกับเด็ก ๆ ในชอป หรอกค่ะ  ขนาดดิฉันเองเป็นลูกค้าธรรมดา นาน ๆ ไปที เวลาขนมไม่อร่อย ก็ยังขอพบเชฟเลยค่ะ  แกยังขี่จักรยานออกมาพบเลย ทั้งที่ชอปกับห้องทำขนมห่างไกลกันเป็นหลายร้อยเมตร  (สมัยที่เชฟยังอยู่ที่ แมนดารินโอเรียลทอลดาราเทวีเชียงใหม่)  หัวล้านแกมันแผลบเชียวค่ะ  ส่วนเรื่องภรรยาเป็นคนไทยก็ไม่ได้หมายความว่าเชฟฟาบรีซจะไม่ย้ายไปจากเมืองไทยนี่คะ เอ .....  หรือว่าการที่เชฟฟาบรีซ เค้าไปอยู่ที่แมนดารินโอเรียลทอลกรุงเทพแล้วทำให้เค้าเปลี่ยนไปหนอ  ทำให้ไม่สามารถออกมาพบกับลูกค้าได้ สำหรับขนมจะให้ถูกใจทุกคนคงเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ  อย่างที่ดิฉันเองบางอย่างไม่ถูกปากดิฉันก็คอมเมนท์ไปว่าไม่อร่อย  ดิฉันเองก็ซื่อสัตย์กับการทานค่ะ  แต่ว่าอะไรที่ควรเป็นก็ควรเป็น เข้มข้นก็ต้องเข้มข้น เอ....  แล้วตกลงนี่ได้พบกับเชฟฟาบร๊ซหรือยังคะเนี่ย   เห็นเขียนแบบนี้ " ในส่วนของผมในฐานะลูกค้าประจำ ผมคอมเมนต์แน่ๆ เด๋ยหาโอกาสเหมาะๆก่อน  " " ตอนเจอเชฟ ผมได้บอกเค้าไปแล้ว ตอนพบที่Author lounge เช่นเดียวกับเวลาที่ผู้จัดการร้านถามว่าขนมรสชาติเป็นอย่างไร " ส่วนเรื่องการที่พนักงานของร้านมาบ่นให้ฟัง สงสัยงานนี้อาจจะต้องมีคนเด้งออกไปอีกหลายคนแน่ ๆ ค่ะ  เพราะว่าการเอาเรื่องภายในมาพูดแบบนี้เป็นการกระทำที่ผิดอย่างไม่น่าอภัย  เป็นเรื่องใหญ่นะคะ การรับฟังลูกค้ารับฟังได้หรือไม่ก็ให้ลูกค้าเขียนคอมเมนท์เลย แต่ถ้าคุยกับ "ระดับผู้จัดการ " ได้ขนาดนี้ก็ให้เค้าไปเชิญเชฟออกมาเถอะค่ะ จะได้คุย ๆ กันซะ แต่ถ้าคุยแล้วไม่เปลี่ยนและยอมในการที่จะ  "เสียลูกค้าผู้มีพระคุณอย่างคุณบาสและเพื่อน ๆ หรือว่า คนอื่น ๆ ที่ทานขนมแล้วไม่ถูกปาก "  แบบนี้ก็ต้องทำใจแล้วนะคะ ที่จะไม่ได้ใช้บริการในส่วนของขนมหวานของโรงแรมอันเป็นที่รักแห่งนี้อีกแล้ว  หรือไม่ก็คงได้ทานแต่เดอะทอป ทุกวันกระมังคะ ยังไงซะคุณบาสก็คงไปทานขนมไทยที่  ศาลาริมน้ำ แทนละกันค่ะ อ่านแล้วชื่นชมนะคะกระทู้นั้น รู้สึกปลุกสำนึกในการทานอาหารไทยมากอย่างยิ่งค่ะ อ้อ ...  ไหน ๆ ก็รักอาหารไทยแล้วก็มาเขียนภาษาให้ถูกหน่อยนะคะ แม้จะไม่ใช่ภาษาไทย คำว่า Survey เขียนแบบนี้นะคะ  ไม่ใช่ Surway  แบบนี้เสียชื่อ B.A.S Academy  หมดค่ะ จากคุณ : Pastel pied - [ 4 มิ.ย. 52 21:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมเข้ามาดูตั้งแต่เมื่อเ้ช้า และรู้สึกว่าประเด็นจะเปลี่ยนไปมาเยอะเหลือเกิน จึงขออนุญาตสรุปมาดังนี้นะครับ ตอนเปิดกระทู้เห็นมีอยู่แค่ประเด็นเดียวคือ 1. เชฟคนนี้ทำแบล็คฟลอเรสไม่อร่อยถูกปาก จขกท. และคุณบาส เพราะว่าไม่มีรสช็อคโกแล็ต และรสเหล้าแรงมาก องุ่นรสชาติประหลาด และมีความเห็นว่าควรส่งคุณเชฟกลับไปสาขาเชียงใหม่ - มีคนมาตอบแย้งว่า ที่แบล็คฟลอเรสต์ที่จริงแล้ว ต้องเน้นรสชาติเหล้าที่แช่เชอร์รี่ในเค้ก ชนิดที่ ว่าชุ่มโชกไปด้วยเหล้า ดังนั้น รสของช็อคโกแล็ตจึงไม่ใช่รสชาติหลักของเค้กชนิดนี้ ดังนั้นจึงไม่แปลก ที่ จขกท. และคุณบาสจะไม่ชอบ อีกคนมาแย้งว่า ควรจะต้องศึกษาเค้กเสียก่อนว่าเป็นเค้กประเภทไหน ก่อนที่จะวิจารณ์ คุณบาสมาตอบว่า เค้กที่ดี หรือการอาหารใดๆ ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าสิ่งนั้นมีส่วนประกอบว่าอะไร ถือเอาตาม ใจคนกินว่าชอบหรือไม่ชอบเท่านั้นก็พอ และบอกว่าเค้กเดอะท็อป ของคุณเชฟเป็นอย่างเดียวที่คุณบาส ชอบ อย่างอื่น ถึงกับสาปส่ง เพราะคุณบาสไม่ชอบ ดังนั้นคุณเชฟจึงสอบไม่ผ่าน ส่วนอีกคนมาเสริมว่า เชฟคนนี้ไม่ได้ทำเค้กตัวนี้ดีที่สุดในบรรดาเค้กทั้งหลาย แต่ก็ยืนยันว่าเค้กแบล็คฟลอเรส รสชาติควรจะต้องเป็นแบบที่จขกท. ได้ชิมมา 2. ประเด็นเปลี่ยนเป็นการหาความดั้งเดิมของโรงแรมโอเรียนเต็ล ว่าตกลงเป็นชื่อไหนกันแน่ 3. ประเด็นเริ่มเปลี่ยนเป็น การบริหารโรงแรม ว่าควรจัดสรรพนักงาน และคุณภาพของสินค้าอย่างไร และทิศ ทางไหน ใครเป็นคนกำหนดทิศทางของโรงแรม และพนักงานที่ขาดความเชื่อมั่นในองค์กร จะทำให้องค์กรขาด ประสิทธิภาพในการบริหาร 4. กลับมาเถึยงกันเรื่องอีโก้ของคนชิม และคนตอบกระทู้ ว่าตกลง ใคร Self-Centered กันแน่? 5. มีคนสงสัยว่าทำไมคุณบาสที่เป็นลูกค้าขาประจำ ไม่ต่อว่าผลงานของเชฟต่อหน้าไปเลย แต่กลับมาว่ากัน ลับหลังในเว็บบอร์ดสาธารณะแทน ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าจะเป็นการกระทำที่เข้าข่ายทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ขอให้เปิด ใจให้กว้าง และให้โอกาสเชฟในการสร้างสรรค์ผลงาน 6. คุณบาสโต้แย้งความคิดเห็นก่อนหน้า โดยกล่าวอ้างว่าเป็น "สาวก" เชฟ และโต้แย้งว่าการกระทำของตนเอง ไม่ได้เข้าข่ายเสียชื่อเสียง สิ่งทีทำไปเพียงแค่ติผลงานตามประสาลูกค้าเท่านั้นเอง และไม่ได้คิดว่าเชฟคนนั้นไม่ได้ เรื่องไปเสียทุกอย่าง เพราะชอบเค้กเดอะท็อป และมากาฮง (อ่านว่ามากาฮง ไม่ใช่มากาฮอง) - ความคิดเห็นที่เห็นแย้งกับคุณบาส มาโต้แย้งว่าคุณบาสว่าเหมารวมคนอื่นเป็นสาวกเชฟคนนั้น ทั้งที่จริงตัวเองไม่ได้ เป็นอย่างที่คุณบาสว่า และย้ำว่า การแสดงความคิดเห็นของคนคนเดียวไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะคิดเหมือนกันไป เสียหมด ผมรู้สึกว่าประเด็นมันเปลี่ยนไปมา แต่เรื่องที่เป็นต้นเหตุนั้น จขกท. กับคุณบาสกลับไม่ใส่ใจที่หาคำตอบมาสู้กับข้อโต้แย้ง ได้เป็นหลักเป็นฐานเสียที แต่กลับเปลี่ยนประเด็นไปมาจนใหญ่โตกลายเป็นสงครามระหว่างแฟนคลับไปเสียแล้วอย่างนั้น อย่างไรก็ดี ตามมาตอบประเด็นแรกให้เคลียร์เสียหน่อยก็ดีนะครับ Enjoy Your Day ครับ :D แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 21:57:28 จากคุณ : Equator - [ 4 มิ.ย. 52 21:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ในฐานะที่เปิดประเด็นเป็นคนแรก อยากจะเข้ามาบอกให้เคลียร์ๆ นะคะ ตอนแรกที่มาตอบนั้น ไม่ได้พาดพิงอะไรถึงครูบาสเลยนะ เพราะว่าเขียนถึงเจ้าของกระทู้เฉยๆ ว่า การที่เค้าเอาเค้ก แบล็คฟอร์เรสต์ มาด่าซะเละนั้น เป็นการแสดงออกถึงความอ่อนเชิงในเรื่องขนมของเขาอย่างแรง ถึงอยากจะให้รู้ไว้ว่าจริงๆ แล้วมันควรจะรสชาติเป็นอย่างไร และขอให้วิจารณ์ขนมด้วยความรู้ก่อนที่จะด่าแบบสาดเทสาดเสีย จนทำให้คนที่ไม่รู้อ่านแล้วเกิดความเข้าใจผิดว่าเชฟคนนี้มันห่วยเหลือเกิน  (เพราะคนที่เค้ารู้ว่าเค้กตัวนี้จริงๆ เป็นอย่างไร ก็คงนั่งหัวเราะเจ้าของกระทู้ตอนที่อ่านว่า โถ กินไปยังไม่รู้เลยว่าจริงๆ เจ้าเค้กนี่ต้องเน้นเหล้า เน้นเชอรี่ ไม่ใช่ช็อคโกแลต แต่ยังอุตส่าห์วิจารณ์เสียหนักหนา แถมให้สอบตกอีกต่างหาก)   แต่ไปๆ มาๆ คุณครูบาสกลับมาตอบแทนเสียอย่างนั้น ประเด็นก็เลยกลิ้งไปกลิ้งมา ทั้งๆ ที่ความตั้งใจแรกของดิฉัน ก็ต้องการแค่ให้เจ้าของกระทู้เข้าใจว่าสิ่งที่เค้าเขียนนั้นไม่ได้เป็นการแฟร์ต่อตัวเชฟเลย ไม่ใช่ว่ามีปากกาอยู่ในมือแล้วจะด่าใครได้โดยที่ไม่มีความรู้ในสิ่งที่ตัวเองเขียนอย่างถ่องแท้  ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านั้น และ จะขอเข้ามายืนยันว่า คุณ คุณหนูเอาแต่ใจ นั้น ไม่ได้เป็น "สาวก" เชฟฟาบรีซแต่อย่างใด รู้จักกันกับดิฉันก็ยังไม่รู้จักเลยค่ะ  มาเคยเห็นชื่อกันก็กะกระทู้นี้นี่แหละ   สงสารที่ต้องมาโดนเหมารวมซะอย่างนั้น   จริงๆ แล้วสิ่งที่คุณหนูเอาแต่ใจพูด ก็เป็นความจริงที่แย้งไม่ได้ การที่คุณนำเอาเรื่องต่างๆ มาเขียนแบบนี้ จริงอยู่ที่เป็นการแสดงความเห็นในที่สาธารณะ แต่มันมีเส้นคั่นระหว่างความเห็นกับการหมิ่นประมาทคนอื่นค่ะ   และที่เขียนมาซะยืดยาวหลายความเห็นนั้น ก็แค่อยากขอให้เวลากับเชฟแกหน่อย เพราะเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่านโยบายโรงแรมเป็นยังไง  ก่อนที่คุณจะเอาเค้ามาด่ากันจนแบบที่เรียกว่า เค้ามองกันไปทั่วแล้วว่าไอ่เชฟคนนี้มันไม่ดี ไร้ฝีมือ ไม่รักษากลุ่มลูกค้าเก่า ถึงแม้คุณจะบอกว่าเป็นความเห็นของคุณคนเดียวก็ตาม แต่การใช้คำพูดของคุณออกไปในทางชักชวนและชี้นำให้คนอื่นเชื่อตาม พร้อมๆ กับทำการย้ำเป็นระยะๆ ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ   ยิ่งการที่ภาพของคุณออกมาในลักษณะที่ว่าเป็น specialist ในการไปใช้บริการของโรงแรมนี้ด้วย ยิ่งสร้างความเชื่อถือให้คนที่ไม่ทราบเรื่องราวหรือไม่เคยไปใช้บริการในร้านของโรงแรมนี้มาก่อน   ดิฉันถึงได้พูดมาตลอดว่า บางทีมันก็เป็นการไม่แฟร์กับตัวเชฟที่คุณจะมาเขียนต่อว่าเหมือนกับเค้าไปฆ่าใครตายมาแบบนี้   หรือถึงขั้นจะทำให้โรงแรมเสียชื่อเสียเสียงล้มหายไปเลยขนาดนั้นเลยหรือ?   เคยเอากระทู้ให้พี่คนหนึ่งดู เค้าบอกว่าเค้าเองก็ไม่ชอบเค้กของฟาบรีซ แต่เค้าก็ไม่เห็นว่าจะต้องไปพูดว่าอะไรแรงขนาดนั้น  มันก็แค่เค้กน่ะคุณขา   สรุปแล้ว  วิจารณ์เค้ก หรือการจัดการ ก็วิจารณ์ไป แต่ขอให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง การเขียนรีวิวไม่ใช่การด่าหรือตำหนิอย่างแรง  และอย่าลืมว่ายิ่งคุณเป็นคนที่น่านับหน้าถือตาในสังคม หรือมีคนที่เป็นแฟนคลับหรือผู้ตามของคุณอยู่เยอะ คุณยิ่งต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณพูดมากขึ้นด้วยนะคะ   แค่นี้แหละค่ะ ไม่ตอบละ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 22:36:27 จากคุณ : เซ็ง KruBas (nokepee) - [ 4 มิ.ย. 52 22:15:44 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คุณ Pastel pied ครับ ก่อนอื่นผมต้องเรียนว่า ที่ผมเสวนาด้านบน มีหลายท่านแนะนำให้ผมคอมเมนต์กับทางเชฟโดยตรง ไม่อยากให้ผมมาบ่นในเน็ต ผมเรียนตอบไปว่า ในส่วนของการคอมเมนต์ผมทำแน่ ทุกครั้งที่มีโอกาส และมีโอกาสได้คอมเมนต์กับเชฟฟาบริซโดยตรงแล้ว เมื่อครั้งที่ไปทานบุฟเฟต์ช็อคโกแลตที่author lounge ครั้งนั้นผมได้ถ่ายรูปเชฟมาด้วย ลองกลับไปดูในรีวิว ซึ่งก็ได้เข้าไปพูดคุยกับเชฟ บอกเชฟว่า ช็อคโกแลตเข้มเลี่ยนมากเกินไป ขนมหนักช็อคเกินไป แล้วก็นำข้อความของคุณนิดา (nokepee) ไปบอกเชฟว่าคนเชียงใหม่คิดถึง ในตอนที่ผมเจอฟาบริซ ครั้งนั้นเป็นการทานบุฟเฟต์ช็อค ครั้งแรกของผม ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่คิดเหมือนกันครับ ว่าแกจะเปลี่ยนขนมทั้งหมดของโรงแรมให้กลายเป็นแบบบุฟเฟต์ช็อควันนั้น หลังจากนั้น เวลาที่ทางร้านที่ไปทานถามว่าขนมใหม่รสชาติเป้นอย่างไร ผมก็ได้ให้ความคิดเห็นไปตามความรู้สึก ทุกครั้งไปครับ แต่หลังจากที่พบกับฟาบริซในครั้งแรก ก็ยังไม่มีโอกาสพบกับแกอีก เพราะแกไปทำขนมหลายๆที่ ไปพารากอนบ้าง เอ็มโพเรียมบ้าง อยู่โรงแรมบ้าง จึงเรียนผู้ร่วมเสวนาว่า ถ้ามีโอกาคอมเมนต์โดยตรงอีก จะทำแน่ๆครับ ประเด็นที่สอง ในเรื่องการแสดงความคิดเห็นในเวบบอร์ด อย่างที่ผมเรียนไป ในส่วนของการแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ทางเชฟปรับปรุง ในฐานะของคนไปทาน ก็ได้ให้คอมเมนต์อยู่แล้ว ตามโอกาสที่มี แต่ในส่วนของการแสดงความคิดเห็นทางอินเตอร์เน็ต ผมว่ามันคนละประเด็น การคุยกันในห้องก้นครัว คือการรีวิว คุยกันเรื่องขนม ว่าร้านนี้อร่อย ร้านนี้ไม่อร่อย ตามความรู้สึกของแต่ละคนที่ไปทาน ประเด็นของคนตั้งกระทู้ คือ เค้กฟาบริซไม่อร่อย ผมเสริมว่า จริงๆ มันไม่อร่อย และมีหลายเสียงบอกไม่อร่อย (ดูเหมือนส่วนใหญ่ท่านที่เข้ามาเสวนากับผม ในหัวข้อนี้ จะมาจากเชียงใหม่ ซึ่งชื่นชอบเค้กของเชฟท่านนี้ ผมจึงขออนุญาตเรียกรวมๆว่า เป็นสาวกคุณฟาบริซ คงคล้ายๆกับผมเป็นสาวกเชฟวิชิต ของศาลาริมน้ำ) สำหรับผม ประเด็นกระทู้มันมีแค่นั้นน่ะครับ โรงแรมที่ขึ้นชื่อเรื่องขนม ใครไปทานสิบคน ก็บอกอร่อยทั้งสิบคน ร้องว๊าวกันหมด หยิฐขนมมาสิบชิ้น อร่อยซะ9ชิ้น พอมารอบนี้ ผมเรียนเชิญไปดูได้ครับ เมื่อซักครู่ผมเพิ่งทานข้าวที่ร้านEspaceพารากอน ที่มีขนมที่ฟาบริซทำ ทุกอย่างเป็นไปตามกระแสรวมๆที่เราวิจารณ์กัน คือ เดอะท็อปหมด ทาร์ตมะนาวเหลือ แทบขายไม่ได้ซักชิ้น ทาร์ตช็อคโกแลตเหลือ ช็อคโกแลตกลมๆ ที่ผมเคยบ่นว่า ขมเหมือนยาพิษสวยแต่รูปจูบแล้วพะอืดพะอม เหลือตรึม ทั้งๆที่สามทุ่มกว่าๆแล้ว ดังนั้น การที่ไปพบว่าอะไรไม่อร่อย แล้วมาบอกกล่าวในห้องอาหารการกิน ว่าอันนี้ผมว่าไม่อร่อย มันเป็นความสวยงามด้านการแบ่งปันความคิดเห็น ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ทั้งต่อผู้บริโภคท่านอื่น จะได้ไปลองว่าไม่อร่อยจริงอย่างที่คนที่มาบ่นว่ามั๊ย ทั้งต่อทางโรงแรมและเชฟ จะได้มีเสียงสะท้อน เอาไว้ปรับปรุงขนมของตัวเอง ในส่วนของความคิดเห็นท่านที่เห็นต่าง เป็นเรื่องธรรมดาที่บางคนทานบอกอร่อย บางคนทานบอกไม่อร่อย แต่ผมเรียนขอร้อง ว่าเวลาแสดงความคิดเห็น กรุณาอย่าลากเอาเรื่องส่วนตัวของผู้เสวนา เอาสถาบันหรือที่ทำงานมาเล่นเช่นนี้ ดูจะเป็นการไม่เกี่ยวกับประเด็นไปซักนิด เวลาคุยกัน มานั่งคอยจับผิดด้านภาษาเล็กๆน้อยๆ แถมไปลากเอาสถาบันมาเกี่ยวข้องเช่นนี้ ผมว่าไม่เกิดประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนความเห็นเลยครับ จากคุณ : lCereBASl เซ็งเชฟขนมคนใหม่ (kruBas) - [ 4 มิ.ย. 52 22:41:01 ]

ความคิดเห็นที่ 30 28# จริงๆ ผมเองก็ไม่คิดจะมาเถียงเพื่อเอาชนะคุณnokepee ผมแสดงความเห็นตามความรู้สึกผม ก็แค่นั้นแหละครับ ผมเคยตั้งกระทู้ถึงขนมของฟาบริซ เพียงครั้งเดียว จนมีกระทู้นี้ มีประเด็นเกี่ยวกับขนมของเชฟท่านนี้อีก ผมก็เข้ามาแสดงความคิดเห็น ตามที่ทานมา อะไรทานมา ผมว่าอร่อย ผมก็บอกอร่อย อะไรทานมา แล้วผมว่ามันไม่อร่อย ทั้งๆที่ร้านนี้เคยอร่อยมาก ก็คอมเมนต์ว่าไม่อร่อย แค่นั้นแหละครับ ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเถียงกันยาวขนาดนี้เหมือนกัน ผมเองก็ไม่เข้าใจ จากคุณ : CereBAS เซ็งเชฟขนมคนใหม่ (kruBas) - [ 4 มิ.ย. 52 22:49:59 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขออภัย ดิฉันคนกรุงเทพค่ะ เอ..  ว่าแต่.. จขกท ไปไหนซะละคะเนี่ย... ทำไมปล่อยให้คุณบาส มาพูดอยุ่คนเดียวน๊า อิอิ   จากคุณ : คุณหนูเอาแต่ใจ - [ 4 มิ.ย. 52 23:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จขกท ไม่อร่อย คนอื่นอาจจะอร่อยก็ได้น่ะหะ   แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 52 05:52:41 จากคุณ : my_endlesslove - [ 5 มิ.ย. 52 05:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 33 หึ.. หึ.. ไม่เข้าใจเหมือนกัน เรื่องขนมของโอเรียนเต็ลกับเชฟคนใหม่นี้ มีคนโพสต์ทีไร ก็จะมีคนออกมาชื่นชมสองคน คือ คุณ nokepee กับคุณ patnuwa และก็จะมีคนไม่ชื่นชมอีกหนึ่งคน คือคุณ kruBas เถียงกันไปมา..... เอาเป็นว่า กาลเวลาน่าจะช่วยพิสูจน์เชฟคนนี้ได้ละค่ะ เรื่องพวกนี้มันเป็นความคิดเห็นตามประสบการณ์ ถ้า Feedback ไม่ดีมากๆ เดี๋ยวโรงแรมเขาก็ส่งเชฟกลับไปประจำที่ของเขาเองนั่นหล่ะ ... จากคุณ : Auntie AnT - [ 5 มิ.ย. 52 09:39:15 ]

ความคิดเห็นที่ 34 กลับมาตามอ่านด้วยความอยากรู้อยากเห็นแหะๆ ในความคิดเราแล้วนานาจิตตังอ่ะค่ะเป็นธรรมดาที่มีทั้งคนชอบก็เยอะและไม่ชอบก็เยอะ   คนที่ชอบก็ทานต่อไปด้วยความสุข คนที่ไม่ชอบและคิดว่าสิ่งที่เค้าทำมันไม่ดีพอก็อย่าไปทานซะก็จบไม่ต้องมานั่งเครียดหลังทานว่ามันไม่อร่อยมันไม่ดี   เชฟทั่วโลกมีมากมายแต่ละคนรสมือก็ไม่เหมือนกันตามสไตล์ของเค้า จะให้เค้าเปลี่ยนในสิ่งที่เค้าทำมานานหลายปีภายในไม่กี่วันมันก็ยากพอดู    เราเชื่อนะว่ายังมีcakeอีกหลายๆที่ที่อร่อยไม่แพ้โอเรียลเต็ลเลย และก็มีอีกหลายๆอย่างที่โอเรียลเต็ลทำอร่อยกว่าที่อื่นเช่นกัน  รอให้มันอร่อยดั่งใจแล้วกลับมาทานก็ยังไม่สาย   ดังนั้น กินในสิ่งที่ชอบและมีความสุขดีกว่าค่ะ เวลาจะพิสูจน์หลายๆอย่างเองถ้าfeedbackไม่ดีจริงเราเชื่อว่าโรงแรมคงไม่ปล่อยเฉยแน่ๆ รอดูกันต่อไปเนอะ อย่าเครียดๆทะเลาะกันเลย จากคุณ : patty babeby - [ 5 มิ.ย. 52 10:30:28 ]

ความคิดเห็นที่ 35 โดยส่วนตัวก็คิดว่าจะใช้ภาษาในการแสดงความคิดเห็นเชิงลบให้เบาลงน่ะครับ จะได้ไม่มีการแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างค่อนข้างรุนแรงแบบกระทู้นี้อีก แต่ขอเรียนเคลีย์อีกครั้งน่ะครับ ที่ตอนคุย ผมใช้คำว่า "สาวกฟาบริซ" เพราะเห็นสองสามท่านที่เสวนากับผมในกระทู้นี้ ท่านหนึ่งเป็นเชฟขนมลูกศิษย์ฟาบริซที่เชียงใหม่(จากชื่อในกระทู้ที่แล้ว) อีกท่านหนึ่ง ท่านเคยใช้ชื่อว่าแฟนคลับฟาบริซ ในขณะที่อีกท่านก็ทานขนมเชฟท่านนี้ที่เชียงใหม่ประจำ ซึ่งที่ผมคุยว่าส่วนใหญ่มาจากเชียงใหม่ ก็คงหมายถึงสามท่านนี้ครับ ผมจึงใช้คำเรียกรวมๆว่า สาวกฟาบริซ หมายรวมๆถึงลูกศิษย์ และผู้ชื่นชอบ ไม่ได้มีเจตนาเรียกเพื่อทำลายชื่อเสียงท่านแต่อย่างไร เหมือนผมเองก็เรียกตัวเองว่า สาวกศาลาริมน้ำ สาวกLord Jim's สาวกพี่เบิร์ด เนื่องจากเป็นผู้ชื่นชอบน่ะครับ จากคุณ : lZlCereBASlZl121 (kruBas) - [ 5 มิ.ย. 52 12:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ต่างคน ต่างความคิด หนะครับ ยังไงก็ขอให้เชฟ ฟาบริค ทำขนมถูกใจ คุณบาส เร็ว ๆ นะครับ :-) จากคุณ : กุมารทอง - [ 5 มิ.ย. 52 13:40:35 ]

ความคิดเห็นที่ 37 บอกว่าจะไม่โพสต์ละ แต่ก็อดไม่ได้   อยากจะมาบอกว่าส่วนตัวดิฉันกับคุณครูบาสเคลียร์กันหลังไมค์แล้วค่ะ และ ไม่ได้ว่า ว่าใครจะติเชฟคนนี้ไม่ได้นะคะ คุณ Auntie Ant แต่ขอให้ติเพื่อก่อ ไม่ใช่เพื่อทำลายค่ะ  แต่ จากการคุยกับครูบาส เจ้าตัวก็บอกว่าไม่ได้มีเจตนาแบบนัี้นแต่เป็นการใช้ภาษาที่อาจจะสุดขั้วไปแค่นั้นเองค่ะ   อีกประการหนึ่ง ไม่ใช่ว่าใครมาโพสต์ถึงขนมของคนๆ นี้แล้ว ดิฉันจะออกมาโพสต์หมดอย่างที่คุณ Auntie Ant ว่า  ดิฉันเพิ่งจะโพสต์ในสามกระทู้คือ ของครูบาสกระทู้แรกที่ไปชิมบุฟเฟต์ช็อคโกแลต ในลักษณะให้ข้ัอมูลว่าเชฟคนนี้เป็นใครมาจากไหน   กระทู้ที่สองคือ กระทู้ของครูบาสที่บอกว่าขนมของเชฟเลี่ยน  ซึ่งตอนนั้นก็เกิดจากความเข้าใจผิดในสำนวนสุดขั้วของคุณบาส   และกระทู้ที่สาม คือกระทู้นี้ จริงๆ จะไม่โพสต์หรอกค่ะ แต่เป็นเพราะเจ้าของกระทู้โพสต์โจมตีโดยที่ตัวเองยังไม่รู้จักเค้กชนิดนั้นดี ด้วยซ้ำ  ถ้าเจ้าของกระทู้วิจารณ์ในลักษณะที่ว่า เค้กไม่อร่อย เพราะเหล้าไม่ถึง ช็อคเข้มไป ไม่ได้รสเชอรี่เลย อะไรแบบนี้ ดิฉันก็คงไม่ออกมาว่าอะไรหรอกค่ะ   แต่นี่มันไม่แฟร์กันเกินไปหน่อย     เคลียร์นะคะ?     จบเรื่องนะคะ   แต่... กับเจ้าของกระทู้ อยากให้ออกมารับผิดชอบคำพูดตัวเองด้วยค่ะ ไม่ใช่ว่ามาโปรยยาพิษทิ้งไว้แล้วหายไปเลย      ยังไง ขอให้กลับมาอ่าน และเข้าใจ คคห. 2 และ 28 ด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 52 14:48:44 แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 52 14:47:00 จากคุณ : นิดา (nokepee) - [ 5 มิ.ย. 52 14:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อืม.. คุณนิดาเข้าใจไรผิดไปมากนะคะ ภาษาในอินเตอร์เน็ตมันเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจไปในแบบไหนก็ได้ตามแต่จะต้องการ เอาเป็นว่า อธิบายอีกที ขยายความซะหน่อยละกัน .. เอามาจากข้างบนเลย.. หึ.. หึ.. ไม่เข้าใจเหมือนกัน เรื่องขนมของโอเรียนเต็ลกับเชฟคนใหม่นี้ มีคนโพสต์ทีไร ก็จะมีคนออกมาชื่นชมสองคน คือ คุณ nokepee กับคุณ patnuwa และก็จะมีคนไม่ชื่นชมอีกหนึ่งคน คือคุณ kruBas เถียงกันไปมา..... อันนี้ตามที่เห็นในกระทู้ก่อนๆ ที่ครูบาสโพสต์ ไม่ได้ว่าใครทั้งสิ้น เอาเป็นว่า กาลเวลาน่าจะช่วยพิสูจน์เชฟคนนี้ได้ละค่ะ เรื่องพวกนี้มันเป็นความคิดเห็นตามประสบการณ์ อาหารก็เหมือนงานศิลปะนั่นหละ ดูง่ายๆ งาน Abstract บางคนกรี๊ดสลบ บางคนสลบไม่กรี๊ดเพราะไม่โดนใจ ถ้า Feedback ไม่ดีมากๆ เดี๋ยวโรงแรมเขาก็ส่งเชฟกลับไปประจำที่ของเขาเองนั่นหล่ะ ... แต่ถ้าเชฟทำขนมอร่อย คนชมมากๆ โรงแรมก็ต้องให้เขาสร้างสรรค์ผลงานต่อไปแน่ๆอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าจะเคลียร์รึเปล่านะ แค่อยากให้เข้าใจเฉยๆ จากคุณ : Auntie AnT - [ 5 มิ.ย. 52 17:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 39 จริงๆ จะว่าไปผมลองกลับไปอ่านที่ผมโพส ก็นึกขึ้นได้ว่า ผมวิจารณ์ขนมคุณฟาบริซด้วยภาษาที่ค่อนข้างรุนแรงเอามากๆ ออกแนวสาดเสียเทเสีย  แล้วนึกถึงท่านที่เป็นแฟนคลับหรือลูกศิษย์เชฟฟาบริซมาอ่านก็คงไม่พอใจผมเป็นธรรมดา ผมก็ต้องขอภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ แต่ก็เรียนยืนยันว่าผมไม่ได้มีเจตนาจะทำลายชื่อเสียงเชฟ แต่อย่างใด เพียงแต่ เป็นคนใช้ภาษาได้สุดขั้วมาแต่ไหนแต่ไร คือถ้าชอบชม ก็จะอ่านแล้วเคลิ้มไปเลย แต่ถ้าไม่ชอบขึ้นมา อ่านแล้วก็คงอย่างที่คุณนิดา ได้กรุณาเรียนแนะนำ ผมเองก็จะพยายามเบาๆลง ขอบคุณครับ จากคุณ : lZlCereBAS lZl 121 (kruBas) - [ 5 มิ.ย. 52 19:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อืมม์ ก็ไม่ได้เข้าใจผิดอะไรหรอกค่ะ คุณ Auntie AnT   ก็เข้าใจเจตนาคุณอยู่ แต่ว่า... อย่างที่บอกว่าในอินเตอร์เน็ตนั้น สิ่งที่พิมพ์ไปสามารถถูกนำเอาไปตีความได้หลากหลายแบบ ตอนแรกที่อ่านข้อความของคุณก็ยอมรับว่างงเหมือนกันว่าคุณต้องการสื่ออะไร แต่เพื่อไม่ให้คนอื่นนำไปเข้าใจตัวเราผิดๆ เราก็เลยต้องออกมาชี้แจง และ แจกแจงเพื่อปกป้องตัวเองไว้ก่อนค่ะ  :-) จากคุณ : นิดา (nokepee) - [ 5 มิ.ย. 52 22:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ปีก่อนไปทานชีสเค้กที่โอเรียลเต็ลดาราเทวีค่ะ อร่อยดี ยังสั่งเค้กวันเกิดเป็นเดอะทอป เพื่อนๆชมกันว่าอร่อย แต่ปีนี้ไปทานอีกที ไม่ค่อยอร่อยเลยค่ะ เป็นแบบนี้นี้เอง แต่หน้าตาขนมที่ดาราเทวียังเหมือนเดิมทุกอย่าง ที่กรุงเทพเปลี่ยนแบบไปเลยหรือคะ จากคุณ : b (b shine) - [ 6 มิ.ย. 52 19:52:15 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ติเพื่อก่อ ??? หรือ ติเพื่อดิสเครดิต ??? จากคุณ : รักหนักแน่น - [ 6 มิ.ย. 52 21:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คคห. 41  เชฟใหญ่ด้านขนมที่ดาราเทวี (Fabrice) แกย้ายไปที่โอเรียนเต็ล กทม. ได้ 2-3 เดือนแล้วมังคะ? ถ้าคุณไปกินที่ดาราเทวีช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี่ แล้วรู้สึกว่ารสชาติเปลี่ยน... ก็คงเป็นเพราะเชฟแกไม่อยู่อ่ะค่ะ รู้สึกเล็กๆ เหมือนกันว่าไม่ค่อยเหมือนเดิม จากคุณ : นิดา (nokepee) - [ 6 มิ.ย. 52 22:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 44 บุฟเฟ่ต์ขนม(ช็อค?)ที่โอเรียนเต็ลนี่วันพุธใช่แมะ? ยังมีอยู่ป่าวคะ ไว้จะไปลอง จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 7 มิ.ย. 52 15:04:32 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คุณว่านฯ เบื่อคุกกี้แล้วมาลองบุฟเฟต์ช็อคฯ ก็ได้นะค้าาา อิอิอิ จากคุณ : นิดา (nokepee) - [ 7 มิ.ย. 52 23:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ^ ^ คุณนิดาจ๋า แต่ในบุฟเฟต์ช็อคโกแลตก็มี คุ้กกี้ช็อคน๊า คิกคิก มีแอบกัดนะเนี่ย จากคุณ : kruBas - [ 8 มิ.ย. 52 01:32:13 ]