ระยะนี้อยู่ในช่วงฤดูร้อนของทางอเมริกาค่ะ พืชผลผักหญ้าต่างๆที่ปลูกกันในท้องถิ่น ทะยอยออกดอกผลให้ได้เก็บกินบ้างแล้ว ดิฉันรู้จักคนรอบตัวหลายคนทั้งฝรั่งและไทยที่ชอบทำสวน ปลูกต้นไม้ทั้งไม้ประดับและพืชผักสวนครัว ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ค่อนข้างมีอายุกันแล้ว แก่ทางด้านวัย แต่คุณลักษณะหนึ่งที่คล้ายกันคือ "young at heart "...
การทำสวนปลูกต้นไม้นี่ ดิฉันว่ามันทำให้คนมีความคิดและความรู้สึกที่ไม่แก่ไปตามวัยนะคะ เพราะว่าเวลาเราปลูกอะไรลงไป สิ่งที่ใส่ลงไปด้วยคือ ความหวัง,ความฝันที่อยากเห็นว่ามันจะงอกงามออกมาหรือไม่...ดังนั้นคนที่ปลูกต้นไม้จะต้องมีความเชื่อและความศรัทธา ในสิ่งที่ตัวเองทำเป็นหลักเบื้องต้น....
ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดพืชพรรณที่เราปลูกฝังลงไปมันจะไม่มีอะไรงอกงามออกมา หรือตายเสียก่อนที่จะได้ชื่นชม...แต่เชื่อว่าคนที่ชอบปลูกต้นไม้ ก็ยังมีความหวังว่าในการปลูกครั้งใหม่..ฤดูกาลใหม่ ต้นไม้ที่หว่านกล้าลงไปจะงอกงามดีกว่าครั้งที่ผ่านมา...คนเราจะ "young at heart" ได้ก็ต่อเมื่อมีความเชื่อ..มีความหวังในการดำรงชีวิต..
.ดิฉันนึกเปรียบเทียบการทำสวนปลูกต้นไม้ เช่นเดียวกับการ ผูกมิตร ปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัวในสังคมค่ะ...หลายครั้งที่เมล็ดพันธุ์แห่งความเป็นมิตรนอกจากจะไม่งอกเงยแล้ว ยังนำความเสียใจมาให้ด้วย...แต่ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะลองปลูกต่อไปเรื่อยๆ...ต้นไหนที่เติบโตหยั่งรากลึกลงไปแล้ว ก็หมั่นรดน้ำพรวนดินด้วยความรัก ความใส่ใจกันอยู่เสมอ...
ต้นไหนที่ไปไม่รอดก็ริดก้าน ตัดใบ จนถึงขั้นตัดทิ้งไปพร้อมกับคำว่า "อภัย" ทั้งกับตนเองและผู้อื่น...ที่ต้องอภัยก็เพราะว่าเมื่อลงมือปลูกมิตรภาพครั้งต่อไปจะได้เป็นการเริ่มต้นด้วยความรู้สึกดีๆ และมีความเชื่อ ความศรัทธาที่เต็มเปี่ยม..เช่นเดิม
Some love blossom from the seeds of friendship,
some come unbidden like the wind from the sea.
For me, I prefer the first one...
แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 52 04:54:07