ความคิดเห็นที่ 1 ต้นทุนการผลิต -จะเริ่มคิดต้นทุนจากส่วนผสมแต่ละอย่างตามสัดส่วนที่จะนำมาใช้ในการทำเค้ก เช่น วัตถุดิบAราคา80บาท/kg. แต่ในสูตรใช้เพียง200g. จึงคำนวนต้นทุนของAได้=(80บาทx200g.)/1000g.=16บาท อันนี้เป็นสูตรการคำนวนต้นทุนอย่างง่ายๆในกรณีที่จขกท.ทำเองคนเดียวแล้วก็ไม่ได้ทำไว้เพื่อขายนะครับ จากคุณ : มุเมะ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 14:12:32

ความคิดเห็นที่ 2 อาจจะไม่เหมือนคนอื่นคิดนะคะ แต่ปกติจะคิดแบบนี้ค่ะ 1.  ราคาวัตถุดิบทั้งหมด 2. 35 - 50 % ของราคาวัตถุดิบเป็นค่าแรงและเชื้อเพลิง (แล้วแต่ความยากง่าย และขั้นตอนในการทำ) 3. 10% ของราคาวัตถุดิบรวมกับค่าแรงและเชื้อเพลิง เป็นค่าเสียหายอื่น ๆ (ของเหลือ ของทิ้้ง) นำ 1 + 2 + 3 ได้เท่าไหร่ คือ ต้นทุนสุทธิ สมมติ วันนี้เราทำ Creme Brulee  ซึ่งขั้นตอนไม่ยาก   ส่วนผสม เราใช้ 1. Whipping Cream 500 ml (กล่อง 1000 ml ราคา 120 บาท) = 60 บาท 2.  วานิลา 1 ฝัก (ใช้ของอินโดซื้อจากในเวป) = 45 บาท 3.  ไข่แดง 8 ฟอง (ไข่ 10 ฟอง 32 บาท) = 26 บาท 4.  น้ำตาลทราย 90 กรัม (กิโลกรัมละ 22 บาท) = 2 บาท 5.  น้ำตาลไอซิ่งสำหรับโรยหน้า อีก 100 กรัม (กิโลกรัมละ 40 บาท) = 4 บาท รวมเป็นต้นทุนวัตถุดิบทั้งสิ้น 137 บาท ค่าเชื้อเพลิงและแรงงาน คิด 35% ของต้นทุนวัตถุดิบ เพราะขั้นตอนไม่ยาก = 48 บาท ค่าเสียหายอื่น ๆ (ของเหลือ ของทิ้ง) 10% ของราคาวัตถุดิบรวมกับค่าแรงและเชื้อเพลิง = (10% ของ 137 + 48 บาท) = 19 บาท รวมเป็นต้นทุนสุทธิ = 137 + 48 + 19 = 204 บาท อัตราส่วนข้างบนทำขนมได้ 6 ถ้วย ต้นทุนต่อ 1 ถ้วย จึงเท่ากับ 34 บาท ทีนี้จะไปบวกกำไรเท่าไหร่ ก็ตามใจนะคะ แต่ส่วนมากจะบวกกัน 100 - 200 % จากราคาต้นทุนสุทธิ ค่ะ จากคุณ : Guzzie เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 14:34:39

ความคิดเห็นที่ 3 เพิ่งอ่านเจอว่ามีค่าไฟ/ค่าแรงงานด้วยนี่เนาะ:):) ระยะเวลาคืนทุน= เงินลงทุน หาร กำไรสุธิต่อเดือน                    = 3,000,000/103,354.16                    =29.02เดือนจึงจะคืนทุน อัตตาส่วนของต้นทุนในร้านอาหาร ค้าเช่า ไม่ควรเกินร้อยละ 10-15 ค่าแรง ไม่ควรเกินร้อยละ 15-25 ค่าวัตถุดิบ ไม่ควรเกินร้อยละ 28-30 คชจ.อื่นๆ(คือคชจ.ที่ไม่เกี่ยวกับการผลิตโดยตรง แต่ช่วยให้การผลิตดำเนินไปได้ สาธารณูปโภค ประกัน ค่าซ่อม) ไม่ควรเกินร้อยละ 5-10 กำไร ร้อยละ20-42 ถ้าจขกท.ขายปลาทับทิมจานละ150.- โดยที่ต้นทุนของปลาทับทิม1ตัว=40.- ค่าเครื่องปรุง 15.-ต่อจาน ต้นทุนของปลาจานนี้=36.6.- ถ้าจะควบคุมต้นทุนให้อยู่ที่35%ควรขายที่ราคา 157.- (ถ้าทำอาหารขายควรจะควบคุม food costให้อยู่ที่30-35%ถึงจะได้กำไร) ถ้าจขกท.ต้องการจะควบคุมfoodcostให้อยู่ที่ร้อยละ34 จขกท.ก็ต้อง ซื้อปลาจากตลาดในราคาตัวละ36.- หรือว่าจขกท.เปิดร้านผัดไทย ลงทุนครั้งแรก150,000.-โดยที่ ผัดไทยที่ละ40.- ผันแปร35% ค่าแรงงานรายวัน5% อื่นๆอีก5% คงที่=ค่าเช่า12,000/เดือน เงินเดือน 48,000 ประกัน 28,000 ค่าโฆษณา2,500 สาธารณูปโภค3,020 ค่าเสื่อม20%ของเงินลงทุนอุปกรณ์ ถ้าจขกท.ต้องการกำไรอย่างต่ำ50,000.-/เดือน -startup cost=150,000.- -price per unit=40.- -vc(ต้นทุนผันแปร)=35+5+5=45% -fc(คงที่)=12000+48000+2800+2500+3020+(20%*150000/12)=70820 -net porfit=50000 tax rate=30% หาจุดคุ้มทุน= fc/(p-vc)=70820/(40-18) =ต้องขายให้ได้3219.08จาน =3219.08*40=128763.6บาท โดยมากเรามักกำหนดให้ต้นทุนที่ไม่ต้องการนำมาคำนวนอย่างละเอียดว่า Q factor ซึ่งจะเอามารวมคำนวนอยู่ที่ร้อยละ2-5 เช่นน้ำปลาที่ใส่ลงไปต่อจาน ซึ่งมันเป็นหยด ถ้าจะให้เอามาคิด1หยดต่อขวดว่ามีกี่หยด 1หยดคิดเป็นกี่บาท/ขวดก็จะยุ่งยากเกินไปจึงให้เป็นค่ารวมไว้ที่Q factor มาใช้ผัดไทยยกตัวอย่างกันต่อ เส้นจัน 300g. 67.-/kg. =   67*300/1000=20.1 กุ้ง6ตัว 300.-/kg. เหนื่อยแล้ว+ขี้เกียจพิมพ์อย่าว่ากันนะ คราวหลังจะมาสอนเรื่องการจัดระ ดับรายการที่จะขาย/การซื้อสินค้าและควบคุมสต๊อคนะครับ ตอนนี้เหนื่อยมากกกกกกกก จากคุณ : มุเมะ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 15:20:33

ความคิดเห็นที่ 4   คุณ มุเมะ นี่ ประสบการณ์จริงหรือเรียนมาทางนี้คับเนี่ย ละเอียดยิบจิงๆ ขอแจมนิดนึง หลักในการคำนวณต้นทุนและผลตอบแทน เป็นไปตามที่คุณมุเมะ เขียนไว้เป๊ะๆ (ขอเดาว่าเป็นนักบัญชี ^^) แต่หลักในการกำหนดราคา ที่เรียกว่า pricing strategy นี่จะพลิกแพลง ได้หลากหลายกระบวนท่า ลองศึกษาดูคับ สนุกดี แต่อย่าไปจริงจังกับมันมาก จะปวดหัวป่าวๆ มีวิธีในการกำหนดราคา ร้อยแปด วิธี หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุด คือ ลอกร้านคู่แข่งเรามาเลยคับ แต่ให้ของเราคุณภาพดีกว่า ปริมาณมากกว่า อิอิ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 52 17:20:45 จากคุณ : beastiebkk เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 17:10:01

ความคิดเห็นที่ 5 เคยเรียนมาเมื่อนานหลายปีจนลืมไปหมดแล้วครับ ที่เหนื่อยก็คือต้องมานั่งเปิดตำราแล้วงงว่าไอ้นี่คืออะไร ที่แย่หนักเลยคืออ่านลายมือตัวเองไม่ค่อยออก พอดีเห็นกระทู้นี้เลยคิดว่า ถ้าโพสตอบไปจขกท.ก็จะเอาไปใช้ประโยชน์ได้ส่วนตัวผมเองก็จะได้ทบทวนความรู้เก่าๆหนะครับ จากคุณ : มุเมะ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 17:25:12

ความคิดเห็นที่ 6 มา ต่อๆๆ มาใช้ผัดไทยยกตัวอย่างกันต่อแบบเฉลี่ยคิดต้นทุนต่อจานจากสูตรที่ทำให้2คนทาน(portion size=2) เส้นจัน 300g. 67.-/kg. =   67*300/1000=20.1 กุ้ง6ตัว 300.-/kg.(โดยที่ 30ตัว/กิโล.) 300/30=10.-/ตัว =60.- เต้าหู้ 60กรัม. 6.-/แผ่น นน.เฉลี่ยอยู่ที่แผ่นละ100กรัม.= 6*60/100=3.6 ถั่วงอก40กรัม 15.-/กิโล. 40*15/1000=6.- ไข่ไก่2ใบ โหลละ30.- 30/12=2.5*2=5.- ถั่วลิสง20กรัม 46.-/กิโล 20*46/1000=.92.- กุ้งแห้ง30กรัม  180.-/กิโล 30*180/1000=5.4 ไชโป๊เค็ม20กรัม ถุงละ25.- ชั่งแล้วหนักถุงละครึ่งโล 20*25/500=1.- หอมแดง20ก. 30.-/กิโล 20*30/1000=.6.- มะขามเปียก 100ก. 30.-/กิโล 100*30/1000=3.- น้ำตาลปี๊ป40ก. 30.-/โล 40*30/1000=1.2.- ก.=กรัม ขี้เกียจเปลี่ยนแป้นพิพม์เป็นg. ผักเคียง กุ้ยช่าย มะนาว หัวปลี =Q fac.=3% น้ำปลา40ก. วิธีคิด 1ขวดขาย750cc ราคา23.-/ขวด 40*23/750=1.23.- น้ำ!%$@# 4ช้อนโต๊ะ 60.-/750cc 60(1ช้อนโต๊ะ=15ml 4ช้อนโต๊ะ=60ml)*60(ราคา)/750(ปริมาตรต่อขวด)=4.8.- ต้นทุนรวมของอาหารจานนี้ทั้งหมดก็เอามารวมกัน=107.45.- Q factor =107.45*5%=5.37 ราคารวม=112.82 portion cost/2=56.41 กำหนด food costไว้ที่35% ราคาขายเบื้องต้น=161.17 ราคาขายจริง=150.- ต้นทุนอาหารที่แท้จริง=37.61% ซึ่งสูงกว่า35% แสดงว่าต้นทุนสูงกว่าค่า%กลางที่ควรจะเป็น ต้นทุนที่เหมาสมจึงควร= 150*35.5%=52.50 จึงต้องบีบจาก56.41ให้เหลือ52.- สมมุติว่าร้านมีต้นทุนการผลิต=96687.- ยอดขาย276250.- ร้านจะมี%ต้นทุนค่าอาหารอยู่ที่34.99% หมายถึง รายได้ทุก1.-จะใช้ทุน35สตางค์ สมมุติว่าตอนนี้เมืองไทยเกิดภาวะเงินเฟ้ออยู่ที่10% และต้นทุนของผัดไทยจานนี้อยู่40.-/จาน ก็ต้องประมาณการว่าราคาจะสูงขึ้นครึ่งนึงของอต.เงินเฟ้ออย่างน้อย5% ต้นทุนก็จะเปลี่ยนเป็น42.-/จาน แต่หากยังต้องการให้foodcostอยู่ที่ร้อยละ30 ราคาก็จะเพิ่มจากเดิมเป็น140.-จาก133.33.- จากคุณ : มุเมะ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 18:18:47

ความคิดเห็นที่ 7 กระทู้ดีมีสาระขอบคุณ คุณมุเมะและคุณกัซซี่มากครับ มาโหวตกระทู้ให้ครับ เผื่อจะมีประโยชน์กับคนที่จะลงทุนขายอาหารสู้พิษเศรษฐกิจครับ จากคุณ : songnana เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 18:59:08

ความคิดเห็นที่ 8   ขอบคุณทุก ๆ กระทู้มาก ๆ ที่ให้ความคิดดี ๆ และแนวทางให้จะนำไปทำนะคะ  ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : chin2angel (chin2angel) เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 07:05:38

ความคิดเห็นที่ 9 มาเพิ่มเติมต้นทุนที่ส่วนใหญ่คนจะลืมกันครับ ส่วนใหญ่ชอบคิดว่าวันนึงลงทุนเท่านี้ ขายได้เท่านี้ โอ้ววววว กำไรตั้งสามร้อย แต่ลืมคิดค่าแรงตัวเองครับ นั่งขายนั่งทำรวมๆแล้วสิบชั่วโมงกำไรสามร้อยก็จริง แต่ถ้ารวมค่าแรงตัวเองเข้าไปแล้วอีกเกือบๆสามร้อย (ค่าแรงขั้นต่ำ+โอทีสองชั่วโมง) ก็แทบไม่เหลือกำไรครับ ไปทำงานโรงงานก็ได้เงินพอกันแต่ไม่ต้องเสี่ยง ดังนั้นเวลาจะตั้งราคาขายควรคิดค่าจ้างตัวเองรวมไปในราคาสินค้าด้วยครับไม่งั้นบางทีกำไรที่คุณได้อาจจะไม่คุ้มเท่าการไปทำงานกับคนอื่นก็เป็นได้ เช่นทำของกินขายทั้งเดือนกำไรสองหมื่น แต่ถ้าคุณไม่ทำขายแต่ไปทำงานบริษัทอาจจะได้เงินเดือนสองหมื่นห้าและไม่ต้องมีความเสี่ยงอะไรทำนองนี้น่ะครับ ให้เป็นข้อคิดเรื่องต้นทุนเฉยๆนะครับ เหมาะสำหรับคนที่จะทำของขายเองโดยมีเรื่องเงินและรายได้เป็นเหตุผลหลัก  แต่ใช้ไม่ได้กับคนที่ทำเพราะใจรัก เพราะความอิสระ ซึ่งตรงนี้เงินเอามาเป็นเหตุผลหลักไม่ได้ครับ จากคุณ : Spinnecker เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 08:49:28

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่งรู้ว่าการคิดต้นทุนไม่ง่ายอย่างที่เคยคิดนะเนี่ย ที่จริงแล้วการทำขนมอร่อยกับการเอาไปขายเนี่ยมันคนละเรื่องกันเลยนะ สงสัยว่าขนมอร่อย ๆ ในห้างก้นครัวของเราเนี่ยต้องขายขาดทุนแน่เลย จากคุณ : jadecut เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 17:29:12

ความคิดเห็นที่ 11 กระทู้นี้มีประโยชน์จังเลยค่ะ :) จากคุณ : Warm Vanilla เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 14:23:36