ความคิดเห็นที่ 1 ไขมัน - กรดไขมัน Fat - Fatty Acid จำไว้ก่อนนะครับ ทุกๆไขมัน 1 โมเลกุล = กรดไขมัน 3 โมเลกุล โดยมันจะเป็นแบบอิ่มตัว หรือ ไม่อิ่มตัวก็ได้ กรดไขมันคืออะไร กรดไขมัน คือ กรดที่เป็นส่วนประกอบของไขมัน กรดก็คือกรดครับ กรดนี้เป็นแบบเดียวกับที่มันเอามาสาดหน้าแล้วหน้าแหกเฟะกันนั่นหละ แต่ กรดไขมัน มันมีฤทธิ์อ่อนกว่ามากๆ ซึ่งชื่อของกรดไขมันที่เราเจอบ่อยๆในโฆษณาแล้วเราไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็เช่น สตีริก แอซิด(Stearic Acid) โอเลอิก แอซิด(Oleic Acid) ไลโนเลอิก แอซิด(Linoleic Acid) และโดยทั่วไป ถ้าแยกสารประกอบออกมา กรดไขมัน มีรสแย่มากกกกกก แต่เคราะห์ดีครับ เราไม่ได้กินมันเพียวๆนี่นา แต่มันจะไปผูกติดกับสารเคมีอีกตัวที่ชื่อ กลีเซอรอล(Glycerol) ในสัดส่วน กรดไขมัน3โมเลกุล : กลีเซอรอล1โมเลกุล ซึ่งเราเรียกมันว่า "ไตรกลีเซอไรด์" เพราะมันประกอบด้วย กรดไขมันสามตัวนั่นไงล่ะ ไขมันอิ่มตัว-ไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว-ไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง แซททูเรต - โมโนอันแซตทูเรต - โพลีอันแซตทูเรต Saturated - Monoumsaturated - Polyunsaturated เวลาหยิบดูข้างขวด เรามักเจอไอ้ฉลากชื่อประหลากเหล่านี้ มันคืออะไรวะ? มันคือ เปอร์เซนต์ของกรดไขมันทั้ง3ชนิด ที่อยู่ใน น้ำมันนั้นๆนั่นหละครับ ส่วน กลีเซอรอล ก็มีฐานะแค่เป็นตัวละลายไขมันเท่านั้นหละ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:12:19

ความคิดเห็นที่ 2 นักเคมีจะวาดรูปโครงสร้างโมเลกุลไขมันออกมาได้คล้ายสายโซ่กับเสาธงสั้นๆที่มีธงยาวสามแฉก ซึ่งถ้าวาดออกมาแล้ว สายโซ่สั้นๆ เพราะมี กรดไขมันอิ่มตัวน้อย จะเป็นไขมันที่อ่อนนุ่ม จนถึง หนืดเหลว แต่ถ้าวาดออกมาแล้ว สายโซ่ยาว เพราะมี กรดไขมันอิ่มตัวมาก จะเป็นไขมันที่แข็ง ซึ่ง กรดไขมันไม่อิ่มตัว เป็นเพราะ อะตอมของไฮโดรเจน คู่หนึ่งหายไป(ทางเทคนิต บอกว่าเป็น Double Bond หรือไม่อิ่มตัว) หายไปหนึ่งคู่ = ไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว หายไปหลายคู่ = ไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง ทำให้ที่จุดนั้น โมเลกุลกรดไขมันจะโค้งงอ ผลที่ได้ก็คือ โมเลกุลของไขมัน ไม่สามารถ ผนึกกันได้อย่างแน่นแฟ้นให้เป็นโครงสร้างที่แข็งแรง มันเลยกลายเป็นของเหลว ดังนั้น "กรดไขมันอิ่มตัวโดยมากจึงเป็นของแข็ง ซึ่งจะเห็นได้ในไขมันสัตว์" และ "กรดไขมันไม่อิ่มตัวมักเป็นของเหลว ซึ่งจะเห็นได้ในไขมันพืช"   ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่ โครงสร้างทางเคมีด้วย เพราะบางที ไขมันจากพืช อาจเป็นกรดไขมันอิ่มตัวบ้างก็ได้ ไม่เสมอไป "จึงควรอ่านฉลากบริโภค ด้วยนะครับ" จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:12:55

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วในเมื่อไขมัน = ไตรกลีเซอไรด์ แล้ว โมโนกลีเซอไรด์ กับ ไดกลีเซอไรด์ มีไหม? มีครับ แต่มันมักไปอยู่ในรูปของ อิมัลซิไฟเออร์(สารที่ช่วยให้น้ำกับน้ำมันผสมกัน) และบางส่วนก็ปนๆ ในน้ำมันทั่วไปนั่นหละ   ลิปิด - Lipid คือ? มาจากภาษากรีก แปลว่า Lipos ครับ ซึ่งก็แปลว่า ไขมัน นั่นหละ แต่มันไม่ได้เจาะจงว่าคือน้ำมัน มันจะรวมไปถึง ของที่เป็นมัน ชอบน้ำมัน และสารเคมี เช่น ฟอสฟะไทด์ สเตอโรล และวิตามินที่ละลายในน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่เราจะเจอคำนี้ เวลาตรวจเลือด มันอาจมีคำว่า Lipid Panel ซึ่งมีรายการต่างๆอย่าง ไตรกลีเซอไรด์ รวมไปถึง คอเลสเตอรอลในรูปแบบต่างๆ ด้วย ดังนั้น ถ้าจะถามว่า "กรดไขมัน" กับ "ไขมัน" ต่างกันอย่างไร? อย่าไปใส่ใจมันมากนักครับ และเลี่ยงใช้คำว่ากรดไขมันจะดีกว่าถ้าไม่ใช่นักโภชนาการ ตอบสั้นๆไปเลยครับ ไขมัน ก็คือ "ไขมัน" กรดไขมัน ก็คือ "องค์ประกอบที่ทำให้เกิดไขมัน" จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:13:45

ความคิดเห็นที่ 4 TRAN FattyAcid กรดไขมันทรานส์ เป็นตัวร้ายที่สุดที่ออกมาหลอกหลอนพวกกลัวไขมันทั้งหลาย ซึ่งมันถูกกล่าวว่า เป็นตัวที่เพิ่ม LDL(คอเลสเตอรอลร้ายในเลือด) ได้พอๆกับ กรดไขมันอิ่มตัว ปกติแล้ว ทรานส์แฟต(ขอย่อแบบนี้นะ) ไม่ได้เกิดเองตามธรรมชาติในน้ำมันพืช แต่ มันเกิดเมื่อมันถูกไฮโดรจีเนต ไฮโดรเจน2อะตอม ที่เติมเข้าไป ไปจับตัวที่ด้านตรงข้ามของสายโซ่คาร์บอน(ทางเทคนิคเรียก ทรานคอนฟิกูเรชั่น trans configuration) ซึ่งปกติจะไปจับตัวที่ข้างเดียวกันกับสายโซ่คาร์บอน(ทางเทคนิคเรียก ซิสคอนฟิกูเรชั่น sis configuration) มันทำให้ โมเลกุลของกรดไขมันที่เคยคดงอ กลับมาเหยียดตรง จึงทำให้คล้ายกับ กรดไขมันอิ่มตัว นั่นเอง จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:14:05

ความคิดเห็นที่ 5 "สเปรย์น้ำมันคืออะไร?" มันคือ น้ำมันพืช ที่มี เลซิตินและแอลกอฮอลล์ ผสมลงไปครับ เลซิติน(Lecithin) เป็นสารคล้ายไขมัน (ฟอสโฟลิปิด phospholipid) พบได้ในไข่แดงและถั่วเหลือง ซึ่งช่วยให้อาหารไม่ติดกระทะ แต่โดยรวมในกระป๋องนั่นมันก็เป็นน้ำมันนั่นหละ ซึ่งการทำงานนั้น แอลกอฮอลล์จะเป็นตัวช่วยให้ฉีดง่ายขึ้น พอฉีดลงไป มันก็จะไปเคลือบกระทะ แล้วแอลกอฮอลล์ก็จะระเหยไป เหลือแต่ชั้นไขมันบางๆ ก็เท่านั้นหละ "ไฮโดรจีเนต" น้ำมันพืชไฮโดรจีเนต คืออะไรล่ะ? มันคือการเติม อะตอมของไฮโดรเจนลงไปในโมเลกุลด้วยแรงดัน เพื่อให้มันอิ่มตัวมากขึ้น แล้วมันจะเติมทำไมล่ะ? ก็เพื่อให้มันเป็นก้อนๆไง ไม่เลอะเทอะ ว่าง่ายๆ ก็ มาการีน นั่นหละ น้ำมันพืชไฮโดรจีเนต   เช่นเดียวกัน การทำแบบนี้มันก็เลยหืนง่ายกว่าปกตินะ "ทอดน้ำมันแล้ว ทิ้งยังไงดีล่ะ?" ครับ ไขมันมันย่อยยากนะ มองดูในแง่เคมี เพลาสติกก็เป็นผลผลิตจากน้ำมัน ดังนั้น กว่าที่มันจะถูกดูดซึม มันจะกองหมักหมมหลายปีเลยหละ ถ้าเหลือน้อย ก็เอาประดาษทิชชู่แบบหนาๆ เช็ดแล้วทิ้งซะ ถ้าเยอะ ก็เอาเทใส่กระป๋องเปล่า เข้าตู้เย็ยจนแข็งแล้สเอาไปทิ้ง หรือเอาไปขายทำ ไบโอดีเซล ก็ยังได้ จริงเราเอาผสมน้ำยาล้างจาน จนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทลงท่อ โดยเปิดน้ำตามลงไปมากๆได้ครับ แต่ท่อใครตัน อย่าโทษผมนะ แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 52 01:21:15 จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:15:10

ความคิดเห็นที่ 6 จุดเกิดควัน - Smoke Point เราเจอคำนี้บ่อยครับ และมักใช้ผิด "น้ำมันไม่มีจุดเดือด" จึงใช้คำว่า"จุดเดือด/น้ำมันเดือด"ไม่ได้ น้ำมัน จะสลายตัวไปก่อนที่เราคิดว่ามันเดือดปุดๆ โดยมันจะกลายเป็นสารเคมี กับ เศษคาร์บอน (ที่เราบอกว่ามัน ไหม้ นั่นหละ) จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:17:02

ความคิดเห็นที่ 7 ซึ่งน้ำมันทั้งหลายมีจุดเกิดควันต่างกันไป โดยมักอยู่ที่ 130-300 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับ -ชนิดของน้ำมัน -ความต่างของเมล็ดที่ใช้ทำน้ำมัน -อุณหภูมิในการกลั่น -วิธีหีบน้ำมัน -ภูมิอากาศในการปลูกพืชนั้นๆ โดยอาจบอกได้ไม่ชัดเจน แต่มันมักจะอยู่ที่ค่าเฉลี่ยครับ น้ำมันพืชที่กลั่นและกรองแล้ว มักมีจุดเกิดควันสูงกว่า แบบ หีบเย็น(cold press) ดังจะเห็นได้ชัดใน น้ำมันมะกอก ไขมันสัตว์ก็มักมีจุดเกิดควันต่ำ เพราะ กรดไขมันอิ่มตัว แตกตัวง่ายกว่า ส่วนอุณหภูมิที่อันตรายต่อการใช้น้ำมันนั้น  อยู่ที่ ประมาณ 300 องศาเซลเซียส มันจะเป็นจุดต่ำสุดของการติดไฟ และถ้าถึง 350 องศาเซลเซียส ขึ้นไป มันจะลุกท่วม ถึงขั้นระเบิดพรึ่บ แน่นอนครับ ไฟแก๊สทั่วไป มันเกิน 300 องศาเซลเซียส อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าไม่อยากบ้านบึ้ม "ห้ามเทน้ำมันลงเตาแก๊ส" นะครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:18:41

ความคิดเห็นที่ 8 น้ำมันใช้ซ้ำ น้ำมันที่เคยได้รับความร้อนมาจะเกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่าการ ออกซิไดซ์ ทำให้ มันแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระ ซึ่งจุดเกิดควันจะต่ำลง และ มีรสฉุน การใช้น้ำมันซ้ำ จะไหม้ง่าย และ รสชาติแย่ ยิ่งไปกว่านั้น น้ำมันร้อนๆยังมีแนวโน้มที่มันจะรวมเอาโมเลกุลของพวกมันเองเข้าด้วยกัน(ทางเทคนิคเรียกว่า โพลีเมอร์ไรซ์) จนกลายเป็นโมเลกุลใหญ่ขึ้น ทำให้ เหนียว ข้น หนืด คล้ำ และสุดท้ายก็จะกลายเป็น สารที่อันตรายต่อสุขภสพ เรียกว่า อนุมูลอิสระ(Free Redicals) ดังนั้น เราจึงไม่ควรใช้น้ำมันซ้ำ อย่างมากสุด ก็ใช้ไม่เกินสองครั้ง ก็เหลือแหล่แล้ว จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:19:19

ความคิดเห็นที่ 9 น้ำมันเหม็นหืน เกิดเพราะ? กล่าวถึง กรดไขมันอิสระ ก่อน เมื่อ โมเลกุลของไขมัน ถูกแยกออกจากโมเลกุลที่มันจับอยู่ มันจะทำให้เกิด กรดไขมันอิสระ คือ ไม่จับกับอะไรเลย แน่นอนครับ อย่างที่เคยกล่าวไว้ ในเรื่องกรดไขมัน ว่ากรดไขมันเพียวๆรสแย่มากกกก ซึ่งถ้ามีพวกมันไม่กี่ตัวในน้ำมันนี่ทำเอาเสียรสไปหมดทั้งจานเลย กรดไขมัน จะถูกทำให้แยกตัว มีอยู่ 2 กรณีครับ -ทำปฏิกิริยากับน้ำ (ไฮโดรไลซิส Hydrolysis) -ทำปฏิกิริยากับออกซิเจน (ออกซิเดชั่น Oxidation) ทำปฏิกิริยากับน้ำ (ไฮโดรไลซิส Hydrolysis) อาจงง ว่าเมื่อมันไม่จับตัวกับน้ำ แล้วมันเกิดปฏิกิริยากับน้ำได้ไง เพราะมันไม่ผสมกัน ได้ครับ แต่ต้องใช้เวลา เหมือนเราเอา กากหมู เข้าตู้เย็นนั่นหละ นานๆเข้ามันก็หืน ก็เพราะเอนไซม์ในอาหารทำให้เกิดปฏิกิริยานี้ จึงต้องทำให้แห้ง แล้วแพ็คๆดีๆ พอช่วยได้บ้างครับ ยิ่งเนยยิ่งง่ายใหญ่ เพราะ โมเลกุลเล็กๆของมันระเหยสู่อากาศง่าย(เรียกว่า วอลาไทด์ Volatile) และทำให้มีกลิ่นเหม็น ส่วนตัวการที่ทำให้มีกลิ่นเหม็นหืนคือ บิวทิริกแอซิด (Butyric Acid) จึงไม่ควรเก็บเนยไว้นานๆถ้าจะทำขนมแบบเริ่ดๆ เพราะกลิ่นมันเพี้ยนง่าย และที่ชัดเจนคือ การเอาอาหารเปียกลงทอดน้ำมัน จึงไม่ควรใช้น้ำมันทอดของเปียกๆมาใช้ซ้ำนะ ทำปฏิกิริยากับออกซิเจน (ออกซิเดชั่น Oxidation) ไอ้กรณีนี้ มักเกิดกับพวกกรดไขมันไม่อิ่มตัว โดยเฉพาะพวก โพลีอันแซตทูเรต เยอะๆ และมันยังมีตัวเร่งอื่นๆอีก เช่น แสงแดด ความร้อนแสง เศษโลหะจากอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งมีการใช้ สารถนอมอาหารอย่าง เอทิลีนไดอะมีนเตตราอะซิติกแอซิด(Ethylenediaminetetaacitic Acid) ช่วยป้องกันให้เกิดการออกซิเดชั่นโดยการที่มีโลหะเป็นตัวเร่ง(Catalyzed) ด้วยการแยกอะตอมของโลหะไว้ ดังนั้น เราจึงควรเก็บน้ำมันประกอบอาหารไว้ในที่มืด แห้ง และเย็น เข้าใจแล้วนะว่าทำไมฉลากเขาแปะแบบนั้น จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:20:02

ความคิดเห็นที่ 10 คราวนี้เราพักสายตา มาดู คุณสมบัติ ของน้ำมันแต่ละชนิดกัน จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:23:29

ความคิดเห็นที่ 11 จะว่าไปการใช้ น้ำมัน นั้นมักแยกกันด้วย"จุดเกิดควัน"ครับ ลองมองคร่าวๆ ก็จะแบ่งได้3แบบ -กลิ่นดี รสดี เป็นน้ำมันที่มันไม่ผ่านกรรมวิธ๊ หรือ ไขมันธรรมชาติ แน่นอนครับ รสชาติดีมาก และหอมมากเช่นกัน แต่มักมี จุดเกิดควัน ต่ำมาก จึงไม่ควรใช้ทำอาหารด้วยความร้อนสูง ไม่งั้นจะได้อาหารไหม้ๆแทน *ซึ่งสามารถ เพิ่มจุดเกิดควันด้วยการผสมน้ำมันที่มีจุดเกิดควันสูงลงไปช่วยได้ครับ -กลิ่นและรสกลางๆ เอนกประสงค์ เป็นน้ำมันที่กรอง และผ่านกรรมวิธีทำให้ใสมาแล้ว น้ำมันจำพวกนี้ ไม่มีตะกอน บางชนิดจะหลงเหลือรส และกลิ่นอยู่บ้าง และมักมีกลิ่นหอมขึ้นเมื่อได้รับความร้อน จุดเกิดควันสูงพอสมควร ใช้ได้ทั้งผัด ไปจนถึง ทอด(ไม่กรอบ) -กลิ่นไม่มี รสไม่มี เป็นน้ำมันที่กรอง และผ่านกรรมวิธีทำให้ใสมาแล้ว ไม่มีตะกอน แทบไม่มีกลิ่นและรสเหลืออยู่ จุดเกิดควันสูง มักใช้ในการทอดกรอบ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:30:12

ความคิดเห็นที่ 12 หวัดดีค่ะจารย์ ... อิอิ มาเรียนค่ะ จากคุณ : อะนิตา เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:33:02

ความคิดเห็นที่ 13 เนย เป็นไขมันที่ได้จาการเขย่า/เหวี่ยงน้ำนม เพื่อให้ไขมันแยกชั้นออกจากน้ำ เด่นที่ มีกลิ่นหอม นิยมใช้ทั่วไปในการแต่งกลิ่นอาหารทั้งหลาย ข้อด้อยคือ มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง และจุดเกิดควันต่ำมาก ถ้าจะใช้ในการผัด ควรผสมน้ำมันปรุงอาหารเพื่อเพิ่มจุดเกิดควันให้สูงขึ้น จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:34:51

ความคิดเห็นที่ 14 ก้อนไขมัน เป็นไขมันที่ได้จากสัตว์ ที่เราๆรู้จักกันก็น้ำมันหมูนั่นเอง เด่นที่ มีกลิ่นหอม นิยมใช้เพราะราคาถูก และช่วยแต่งกลิ่นอาหารได้มาก ปัจจุบันเนื่องจากการโฆษณาเรื่อง กรดไขมันอิ่มตัว ทำให้ไขมันชนิดนี้ไม่นิยมในบ้านเรา ทั้งที่มีคุณสมบัติช่วยชูรสอาหารได้มาก และซึ่งถ้าเทียบกับเนยแล้ว กรดไขมันอิ่มตัว กลับน้อยกว่าเสียอีก จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:38:20

ความคิดเห็นที่ 15 ห้องเรียนเปิดดึกจัง จากคุณ : ladystrawberry เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:39:53

ความคิดเห็นที่ 16 กี / เนยใส คือ เนย ที่เอามาเคี่ยว แล้วช้องฟองด้านบน กับตะกอนด้านล่างทิ้งไป เหลือแต่ ไขมันล้วนๆตรงกลาง ข้อดีคือ เก็บได้นาน และยังคงความหอมอยู่ มีจุดเกิดควันสูงขึ้น บ้านเราไม่ค่อยนิยม แต่นิยมมากในครัวมุสลิม แต่งกลิ่นอาหาร หรือ แกงได้ดีมากๆ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:41:25

ความคิดเห็นที่ 17 น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมาตรฐานของบ้านเรา ที่มักโดนโฆษณาเกินจริงว่าดีต่อสุขภาพ แน่นอนครับ มองในแง่ กรดไขมันอิ่มตัว มันดีกว่า น้ำมันปาล์มแน่ แต่ที่คนมองข้ามคือ มันใช้ได้ไม่ทุกอย่าง เพราะมีจุดเกิดควันปานกลาง จึงไม่เหมาะกับการทอด ซึ่งถ้าเร่งไฟจนควันโขมง ก็จะได้รับผลเสียไม่ต่างจากน้ำมันไหม้ เผลอๆเลวร้ายกว่า กรดไขมันอิ่มตัวอีก รสชาติมันไม่ค่อยดีนักหรอกครับ สำหรับ เกรดทำอาหาร แต่ถ้าเป็น เกรดน้ำมันสลัด(กรอง-กลั่นซ้ำ เพื่อลดกลิ่น) ก็จะแทบไม่มีรส อ่อ ข้อเสียอีกอย่างคือ มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหนงเยอะ เลย หืนง่ายชะมัด จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:46:41

ความคิดเห็นที่ 18 น้ำมันปาล์ม น้ำมันคนยาก ราคาถูก ผัดได้ ทอดกรอบก็ได้ นิยมใช้มากในบ้านเรา แต่ รสแย่มากกกกกกก ซึ่งคงไม่มีใครคิดเอาน้ำมันปาล์มมาทำเค้ก ทำสลัดแน่ๆ เพราะรสมันแย่กว่าที่คิดเยอะครับ(ไม่เชื่อลองซดดูสิ) มีจุดเกิดควันสูง ทำให้ทอดอาหารได้กรอบครับ แต่ก็ไม่ใช่น้ำมันที่เหมาะกับการทอดที่สุด เพราะ มีกลิ่นตกค้างมาก ทำให้ไปกวนกลิ่นของอาหารได้ แต่ถ้าไม่พิถีพิถันมากๆ ก็ถือว่าใช้ได้ดีครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:49:43

ความคิดเห็นที่ 19 น้ำมันรำข้าว ดูตามคุณสมบัติแล้ว เหมาะกับเป็นน้ำมันเพื่อสุขภาพครับ ใช้ได้เอนกประสงค์ มีกลิ่นหอมอ่อนๆซึ่งจะหอมขึ้นเมื่อโดนความร้อน เหมาะกับการใช้ทำอาหารที่มีน้ำมันมากๆ เช่นพวกอาหารจีนแถบเสฉวน เพราะน้ำมันมีกลิ่นดี แต่ราคาโดยเฉลี่ยแล้วค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่ได้มากจนแตะไม่ลงครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:53:51

ความคิดเห็นที่ 20 โพสแล้วๆ   ตามมาดู  อิอิ จากคุณ : =^dose^= เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:54:00

ความคิดเห็นที่ 21 น้ำมันถั่วลิสง เอนกประสงค์ กลิ่นโดยรวมดีมาก ใช้ทอดได้ดีมาก ผัดได้ดีมาก แต่กลับไม่เหมาะทำน้ำสลัดเพราะมีกลิ่นถั่วเจือพอสมควร หาซื้อยากเพราะไม่มีตามห้าง ต้องซื้อในร้านคนจีนเท่านั้น ในบ้นเรานิยมใช้แค่ช่วงเทศกาลกินเจ เพราะต้องใช้น้ำมันทำอาหารในปริมาณมาก และน้ำมันชนิดนี้มีกลิ่นหอม จึงทำให้ไม่รู้สึกเลี่ยนน้ำมันเท่าไหร่ เป็นน้ำมันอีกชนิดที่ราคาไม่สูงมาก ที่ผมแนะนำครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:56:59

ความคิดเห็นที่ 22 ไฟมาแร้ว 555 พี่ฮ๊อทอ้ะ วันนี้อากาศร้อนมากเลย จดๆๆ อ่านทีหลัง ขอบคุณเด้อก้องเด้อ น้องเบนซ์   โหลๆ จุ๊บๆ จากคุณ : Rudmilla เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 01:58:12

ความคิดเห็นที่ 23 น้ำมันคาโนลา/เรปซีด เป็นน้ำมันที่แทบไม่มี กรดไขมันอิ่มตัวเลย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่กลิ่นจะหายไปเมื่อโดนความร้อน ใช้ได้เอนกประสงค์เช่นกัน แต่ราคาโดยเฉลี่ยยังสูงอยู่ หืนช้าพอสมควร ตัวนี้แนะนำให้ติดบ้านไว้ก็ดีครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:00:07

ความคิดเห็นที่ 24 น้ำมันดอกทานตะวัน นิยมใช้ทำเค้ก อะไรเทือกนี้เพราะกลิ่นบางมาก ไม่กวนกลิ่นขนม คุณสมบัติโดยรวมดี แต่หืนง่ายมากครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:02:00

ความคิดเห็นที่ 25 อะนิตา - มาก่อนนั่งหน้าครับ สาวสตอเบอรี่ - กลางวันหลับครับ เบนซ์ - ทำละๆ พี่รุด - ข้อมูลเยอะ ตาลายอยู่ ค่อยๆอ่านเน้อ แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 52 02:06:56 จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:03:56

ความคิดเห็นที่ 26 น้ำมันข้าวโพด เอนกประสงค์เช่นกัน แต่กลิ่นโดยรวมยังถือว่าแรง ถ้าเอาไปทำสลัด ใช้ได้ตั้งกะผัดยันทอด ราคาถือว่าไม่แพงนัก มองในแง่สุขภาพแล้ว ดีทีเดียว แต่ เป็นน้ำมันอีกชนิดที่ หินง่าย ครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:04:39

ความคิดเห็นที่ 27 จุ๊บๆ  พี่รุดด้วยยยยย เด๋วแวะไปหาที่ทู้อ้อมนะคะ บังบ้าสู้ๆ เน้อ...โหวตให้ๆ จากคุณ : =^dose^= เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:07:21

ความคิดเห็นที่ 28 น้ำมันเมล็ดฝ้าย เป็นอีกชนิดที่ คุณสมบัติโดยรวมทีเลย แต่ปัจจุบันหายไปจากท้องตลาดบ้านเราแล้วครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:08:42

ความคิดเห็นที่ 29 น้ำมันดอกคำฝอย คุณสมบัติดีมาก เอนกประสงค์มาก จุดเกิดควันสูงมาก แพงมาก หืนง่ายมาก ทุกอย่างรวมอยู่ในน้ำมันชนิดนี้ครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:11:11

ความคิดเห็นที่ 30 น้ำมันเมล็ดองุ่น คุณสมบัติดีครับ บางข้อมูลว่าทนจุดเกิดควันสูง บางข้อมูลบอกจุดเกิดควันต่ำ เอาเป็นว่า ใช้คล้ายๆน้ำมันสลัดทั่วไปจะดีกว่า ราคาแพงโหดเลือดสาดครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:13:40

ความคิดเห็นที่ 31 รออ่านอยู่ค่ะ ได้ความรู้มากเลย ขอบคุณนะคะ จากคุณ : Mukinha (Mukinha) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:16:19

ความคิดเห็นที่ 32 น้ำมันมะพร้าว กรดไขมันอิ่มตัวทะลึ่งสูงมาก เมื่อเทียบกับ น้ำมันพืช แถมสูงกว่าไขมันสัตว์เสียอีก มีกลิ่นหอม แต่จุดเกิดควันไม่สูงมาก ยัง งงๆอยู่ว่า ไอ้น้ำมันมะพร้วที่โปรโมทกันอยู่ ถ้ามีคุณสมบัติแบบนี้ มันจะดีต่อสุขภาจริงหรือ เพราะ ต่อให้ไม่มี กรดไขมันทรานส์ แต่ กรดไขมันอิ่มตัว ก็มีคุณสมบัติเหมือน กรดไขมันทรานส์ นะ ถ้าในแง่สุขภาพ และเลี่ยงกรดไขมันอิ่มตัว ผมว่าอย่าเพิ่งเลือกใช้ครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:20:10

ความคิดเห็นที่ 33 มาการีน(ชนิดแข็ง) ทำจากไขมันพืช ที่ผ่านการไฮโดรจีเนต เพื่อให้จับตัวเป็นก้อน เกรดดีมีกลิ่นหอม แต่มีจุดเกิดควันต่ำ และ กรดไขมันอิ่มตัวสูงครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:25:58

ความคิดเห็นที่ 34 มาการีน(ชนิดอ่อน) เป็นเกรดที่ดีกว่า แต่กลิ่นอาจจะอ่อนกว่า ทำจากน้ำมันพืชชนิดอ่อน คุณสมบัติโดยรวมคล้ายน้ำมันพืชครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:27:17

ความคิดเห็นที่ 35 น้ำมันงา กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ มีจุดเกิดควันต่ำ จึงนิยมใช้เล็กน้อยเพื่อแต่งกลิ่นอาหาร เป็นชนิดที่ใช้ทั่วไปในบ้านเรา จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:29:00

ความคิดเห็นที่ 36 ล่ายๆๆ ไว้อ่านพรุ่งนี้เด้อ ม่วนๆเด้อ ป.ล.น้ำมันเมล็ดองุ่นน่าสนใจมาก 55 เห็นคำว่า เลือดสาด มักหลาย น้องเบนซ์    เราจะ....ตามไปดู จุ๊บๆค่า จากคุณ : Rudmilla เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:29:37

ความคิดเห็นที่ 37 น้ำมันงา(ผ่านกรรมวิธี) เป็ดเกรดที่ใช้ทอด ยังไม่เจอขายในบ้านเรา แน่นอนว่ายังต้องคงเหลือกลิ่นงาอยู่แน่นอน แต่ใสกว่าและจุดเกิดควันสูงกส่าจนสามารถทอดกรอบได้ครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:30:17

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาหาความรู้ด้วยคนคับผม จากคุณ : นมขาวเย็น เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:33:14

ความคิดเห็นที่ 39 น้ำมันมะกอก เอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน โคตรบิดามารดรบริสุทธิ์ เป็นน้ำมันมะกอกที่ผลิตโดยการหีบเย็น-หีบครั้งแรก มีกลิ่นต่างกันไปแล้วแต่ผลผลิตของแต่ละที่ บางอันมีกลิ่นถั่ว กลิ่นดอกไม้ แล้วแต่ยี่ห้อ กลิ่นแรง เหมาะกับการทำน้ำสลัด ไม่เหมาะกับการถูกความร้อน และจุดเกิดควันต่ำเ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:34:16

ความคิดเห็นที่ 40 น้ำมันมะกอก เวอร์จิ้น เป็นแบบหีบครั้งแรกเหมือนกัน แต่อาจไม่ได้ใช้วิธีหีบเย็น หรือทำด้วยการผ่านกรรมวิธี กลิ่นอ่อนกว่าแบบ EV แต่ทนความร้อนได้มากขึ้น เหมาะกับการทำสลัดไปจนถึงผัด คือใช้การได้มากกว่า EV นั่นหละ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:36:02

ความคิดเห็นที่ 41 น้ำมันมะกอก ผ่านกรรมวิธี เป็นน้ำมันมะกอก ผ่านกรรมวิธ๊ ซึ่งส่วนมากก็เป็นการหีบครั้งที่สอง เป็นน้ำมันมะกอกมาตรฐาน ทำให้มีคุณสมบัติแบบเอนกประสงค์ แต่กลิ่นก็ยังด้วยกว่าแบบ เวอร์จิ้น จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:37:20

ความคิดเห็นที่ 42 น้ำมันมะกอก เอ็กซ์ตร้าไลท์ ทำจากจากหีบครั้งหลังๆ และผ่านกรรมวิธี ตรงข้ามกับ EV โดยสิ้นเชิง จุดเกิดควันสูง ทำให้ใช้ทอดกรอบได้เลยทีเดียว แต่ก็แทบไม่มีกลิ่นแล้ว จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:38:49

ความคิดเห็นที่ 43 กลิ่น ผมแบ่งกลิ่นของน้ำมันออกเป็น 4 ชนิด -กลิ่นถั่ว -กลิ่นดอกไม้ -ไม่มีกลิ่น -กลิ่นเอกลักษณ์ ซึ่งในส่วนของกลิ่นเอกลักษณ์ จะมีน้ำมันบางชนิด เช่น น้ำมันเมล็กมัสตาร์ด จะมีกลิ่นฉุนและรสเผ็ดตามไป ส่วนตัวผม อยากลองน้ำมันกัญชา(Hemp seed)เหลือเกิน จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:41:42

ความคิดเห็นที่ 44 จุดเกิดควัน แยกเป็น 3 ประเภทเช่นกันครับ -อ่อน - ไม่ควรใช้ความร้อนสูง -กลาง - ผัด-ทอด -สูง - ทอดกรอบ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:43:02

ความคิดเห็นที่ 45 การเก็บ เนื่องจาก น้ำมันมีปฏิกิริยา กับ อากาศ แสง และ น้ำ จึงควรเก็บห่างจากความชื้น แสงแดด ให้ดีที่สุด เก็บใส่ตู้เย็นครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:44:56

ความคิดเห็นที่ 46 ระยะเวลาในการใช้ ดูที่ กรดไขมันไม่อิ่มตัวคู่เดียว กับ กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายคู่ จะเห็นได้ว่า แบบหลายคู่ จะเก็บได้สั้นกว่า แบบคู่เดียว ส่วน การผ่านกรรมวิธีก็มีผลในการเก็บเช่นกัน ยิ่งกรองจนใส ยิ่งเก็บได้นานกว่าแบบสด แน่นอน จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:47:53

ความคิดเห็นที่ 47 อุณหภูมิในการทอด อุณหภูมิของการทอด จะเริ่มที่ ประมาณ 160 องศาเซลเซียสขึ้นไป และจะกรอบท่ 180 องศาขึ้นไป ส่วนความเหมาะสมของอุณหภูมิน้ำมัน ต่อ สิ่งที่จะทอด ผัก - 160 องศา เนื้อสัตว์ - 170-180 องศา ทอดกรอบ - 200 องศา ส่วนวิธีการเช็คความร้อนของน้ำมันในกรณีไม่มีเทอร์โมมิเตอร์ ทำได้โดยการหยอดแป้งชุบทอด/ไข่ ลงไป 160 - จม 2 วินาทีขึ้นไป แล้วค่อยลอยขึ้นมา 180 - จม/เกือบจม แล้วลอยขึ้นมา 200 - วิ่งบนผิวน้ำมัน จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 02:56:33

ความคิดเห็นที่ 48 การทอด หลักของการทอด อยู่ที่การใช้น้ำมันเป็นตัวส่งความร้อนผ่านเข้าไปในตัววัตถุดิบ ซึ่งน้ำมันที่ร้อน จะทำให้น้ำภายในตัววัตถุดิบ เหมือนการเดือดภายใน แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 52 03:02:30 จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 03:02:06

ความคิดเห็นที่ 49 การทอดกรอบ นั้นกล่าวคือ น้ำมันเข้าไปแทนที่น้ำ ในตัววัตถุดิบ ซึ่งถ้าของที่จะทอด แห้งเท่าไหร่ ยิ่งกรอบมากเท่านั้น   การชุบแป้งทอด จะเป็นการทำให้แป้งที่ชุบภายนอกกรอบ เพราะน้ำมันเข้าไปแทนที่ ส่วนด้านในความร้อนจากภายนอกเข้าไประอุเหมือนนึ่งวัตถุดิบอยู่ภายใน ทำให้เกิดสภาพ กรอบนอก นุ่มใน จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 03:02:51

ความคิดเห็นที่ 50 เทคนิคเล็กๆ การไล่น้ำมัน หลังจากทอดอาหารแล้ว ให้เอาปลายอาหารชิ้นนั้นจุ่มลงไปในน้ำมันร้อนนิดหน่อย ความร้อนจากภายในอาหาร กับ อากาศเย็นจากภายนอก เมื่อได้รับความร้อนจากส่วนที่จุ่มลงในน้ำมันที่ร้อนกว่า จะทำให้เกิดแรงดันภายใน และน้ำมันส่วนเกินจะถูกดูดซึมกลับลงไปในน้ำมันร้อน เทคนิคนี้ทำให้อาหารไม่อมน้ำมัน และได้ผลดีกว่าการวางบนกระดาษซับน้ำมันครับ จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 03:06:34

ความคิดเห็นที่ 51 หมดกบาล แล้วครับ เรื่องน้ำมันในหัวผม รอบหน้าเรื่องอะไร ผมก็ไม่รู้ แต่รอบนี้เห็นคนถามเรื่องน้ำมันมาเยอะเหลือเกิน เอาว่า ลองเอาตาราง ไปวิเคราะห์ดูนะครับ ว่าควรเลือกใช้น้ำมันแบบไหน กับการทำอาหารแบบไหน จุดหลักๆก็มีเพียง -จุดเกิดควัน -กลิ่นของน้ำมัน ที่เหลือ ก็แล้วแต่เลือกครับ ไอ้เรื่องของกรดไขมัน ก็แล้วแต่ครับ ผมเองก็จะสังเกตุเฉพาะ ไอ้ไม่อิ่มตัวหลายคู่ เพราะมันมีผลกับ เวลาการหืนของน้ำมัน ขอบคุณที่ติดตามนะครัย จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 03:10:42

ความคิดเห็นที่ 52 เบนซ์ - ยาวไปๆ Mukinha - ยินดีครับ พี่รุด - มาแบ่งด้วยมา   นมขาวเย็น - เชิญครับ แถวหน้าว่าง จากคุณ : SchwedaKong เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 03:12:28

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ รบกวนถามนิ๊สนึงค่ะ น้ำมันถั่วลิสง กับน้ำมันปาล์ม และน้ำมันรำข้าว ทอดปลาดุกฟูแล้วดีที่สุดคะ จากคุณ : ปู่ อิ น ท ร์ ข อ ง ฉั น เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 04:04:45

ความคิดเห็นที่ 54 น้ำมันรอนสันยังไม่รีวิวเลยนะครับ :P ขอบคุณน้าบังสำหรับกระทู้ลับมีดนะครับ บ้านผมตอนนี้มีดคมกริบทุกเล่มเลย แหะๆ จากคุณ : จาน ชาม ช้อน ส้อม เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 05:00:30

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณมากนะคะ ได้ความรู้เยอะเลย ที่บ้านใช้คาโนล่า กับ EV ค่ะ  คาโนล่านี่ใช้ทำกับข้าวเกือบทุกชนิดเลย ส่วน EV จะเอาไว้ใช้เวลาหมักเนื้อ หรือบางทีก็ใช้สำหรับเวลาจะจี่ พวกผักหรือเนื้อ ทำให้หอมอร่อยมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : prinzessin เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 06:23:54

ความคิดเห็นที่ 56 กระทู้นี้ต้องโหวตและเก็บเข้าคลังค่ะ จากคุณ : Regenbogen ^_^ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 06:29:43

ความคิดเห็นที่ 57 ตามมาเรียนหนังสือกับน้าบังแต่เช้าเรยยย จากคุณ : กั้งกระดาน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 06:57:59

ความคิดเห็นที่ 58 ในฐานะนักเรียนอินทรีย์เคมี ขอชื่นชมเด็กศิสป์ที่สามารถอธิบาย เคมีได้มาก (แม้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์) แต่บังก้อง สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : RadoN เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 07:08:40

ความคิดเห็นที่ 59 บังๆๆยังขาดน้ำมันจิ้งเหลน น้ำมันพรายนะ.. จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 07:39:18

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบพระคุณครับอาจาร์ยบัง...อิอิ... จากคุณ : e_plin เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 08:06:02

ความคิดเห็นที่ 61 ตกใจ นึกว่าจะสอนทำน้ำมัน....................คริคริ จากคุณ : pikaball เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 08:13:31

ความคิดเห็นที่ 62 สุดยอดเลยน้องก้อง จากคุณ : mai-mee เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 08:45:24

ความคิดเห็นที่ 63 สุดยอดดดดด ละเอียดสุดๆเลยครับบัง ไม่บอกนี่นึกว่านักเคมีอาหารมาตั้งกระทู้เองเลยนะเนี่ย จากคุณ : Spinnecker เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 09:10:30

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณกระทู้ดี ๆ ค่ะ  รีบเก็บเข้าคลังเลย จากคุณ : CoffeeBake เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 09:39:33

ความคิดเห็นที่ 65 อ่านง่าย รูปสวย เคลียร์คัท สุดยอดครับ จากคุณ : หมอจุ๊บ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 09:46:02

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณมากๆจ้า กำลังรออยู่เลยว่าเมื่อไหร่จะเปิดคอร์สเรื่องน้ำมัน ข้อมูลแน่นปึ๊ก ได้ความรู้เต็มเปี่ยม เยี่ยมยอด(ทำไมตอนเรียนเคมีอาจารย์ไม่ทำรูปน่ารักๆอย่างนี้บ้างน๊า เด็กๆจะได้เข้าใจเน้อ) แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 52 10:17:22 จากคุณ : ฟันคุดน้อยซี่ที่7 เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 09:54:21

ความคิดเห็นที่ 67 ก้องน้องรักสุดยอดมากนอกจากจะมีประโยชน์กับคนทำอาหารแล้วน้อง ๆ ที่เรียนไม่ว่าจะเป็น gen-chem , or - chem , bio - chem ก็ใช้ประโยชน์ได้สรุปได้ดีพร้อมมีภาพประกอบถ้าใครเรียนวิชานี้ไม่รู้เรื่องอ่านของก้องรับรอง get แจ๋วมากน้องรักพี่ละชื่นชมตัวน้องพี่จริง ๆๆๆ จากคุณ : นางมารร้ายแต่น่ารัก เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 09:59:01

ความคิดเห็นที่ 68 very good very good very good excellent excellent excellent ครบถ้วนกระบวนความ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 10:32:23

ความคิดเห็นที่ 69 สั้นๆ เลยนะ เจ๋ง!!!!! จากคุณ : NooNok [MiChiYo] เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 11:08:56

ความคิดเห็นที่ 70 มาตบมือให้บัง จากคุณ : มนุษย์ไฟฟ้า@สีชมพู เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 11:15:10

ความคิดเห็นที่ 71 มาเก็บข้อมูลเอาไปใช้ประโยชน์...และก็ต้องขอบอกว่า...ก้องสุดยอดอ่ะ...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายละเอียด หรือการนำเสนอ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ นะครับ ....^.^.... จากคุณ : ม่ายรำพึง เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 11:27:36

ความคิดเห็นที่ 72 ขอยาดมหน่อยครับ มึน.... จากคุณ : skunk เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 11:40:44

ความคิดเห็นที่ 73   ว๊ายๆๆๆๆ  สาระ!!!.............ฟริ้ววววววววววว((รีบวิ่งออกจากที่นี่ไปอย่างรวดเร็ว 555+++)) มะคืนหลับเร็วอ่ะเฮีย แบตคนหมดด้วย มาปาดไม่ทัน เอิ๊กๆๆ แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 52 12:04:38 จากคุณ : PlaTonGzaA เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 12:04:14

ความคิดเห็นที่ 74 โอย ..... ไหนบอกจบศิลปฯไม่ค่อยรู้เรื่องวิชาการเคมี แล้วที่เอามาลงเนี้ยะ ....มึนตึ๊บ...เลยอ่ะ ขอบคุณนะคร๊าบ.....สุดยอดเลย.. มึน มึน มึน จากคุณ : คนไม่มีดี เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 12:11:55

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านแล้วเข้าใจพอสมควรเลยทีเดียวครับ ทำไมเวลานั่งเรียนในห้องไม่เป็นแบบนี้มั่งหว่า ;3 จากคุณ : Gaungch!nn เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 12:25:34

ความคิดเห็นที่ 76 พลาดเอาน้ำมันมะกอก extra virgin ไปผัดซะหมดขวดแล้วอ้ะ T_T จะเป็นไรป่าวคะน้าบัง ถึงว่า...น้ำมันเราฮ้อมหอม จากคุณ : แมวบอส เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 12:35:02

ความคิดเห็นที่ 77 สุดยอดดดดดดดดค่ะ   แต่พี่อ่านนานไม่ได้  สมองไม่ค่อยรับ  แล้วจะค่อยๆ อ่านนะ จากคุณ : majolica เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 13:08:13

ความคิดเห็นที่ 78 สุดยอดค่ะ ได้ความรู้ดีมาก อ่านเข้าใจง่ายค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : =U_U= PoRpLe เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 13:25:23

ความคิดเห็นที่ 79 ขอเข้าห้องเรียนด้วยคนค่ะ ฆีที่เราเคยกินอยู่หนนึง พี่ที่เค้าเคยทำฆีเอง เค้าบอกว่านมบ้านเราเอามาทำไม่ได้ ไขมันนมน้อย ตอนนั้นเค้าเอามาทอดแป้งนานให้กินค่ะ เอาแป้งไปปิ้งให้พอง ๆแล้วก็ลงจี่ฆีในกระทะ กินกันไปหลายชิ้นเลย ขอบคุณน้าบังมากค่ะ ได้ความรู้เรื่องน้ำมันมากเลย เพราะเดี๋ยวนี้เห็นมีขายกันเยอะแยะมากมาย ไม่รู้ว่ามีคุณสมบัติยังไงบ้าง ทีบ้านเอาน้ำมันมะกอกแบบ EV มาผัดผัก แหะๆๆ จากคุณ : แบ๊น แบน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 13:46:20

ความคิดเห็นที่ 80 thank you หลาย ๆ เด้อ น้าบังก้อง ที่มาให้ความรู้ดีๆ แบบนี้ จากคุณ : The eye of love เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 14:58:00

ความคิดเห็นที่ 81 รอมานานแล้วครับ อขบคุณสำหับความรู้ จากคุณ : pheebar เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 15:27:36

ความคิดเห็นที่ 82 สุดยอดมากๆ ครับ น้าบัง ได้ความรู้ดีจริงๆ ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ยุทธ (PY-JM) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 15:50:40

ความคิดเห็นที่ 83 เก่งจริงๆ นับถึอค่ะ จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 16:37:58

ความคิดเห็นที่ 84 ความรู้ดีๆขอบคุณค่ะ จากคุณ : lalinphat เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 16:45:48

ความคิดเห็นที่ 85 ตั้งกระทู้ ผิด กลุ่มนะครับ น้าบัง.... อันนี้ต้องไปอยู่ที่ หวากาม นะครับ /me หนีก่อนเดียวโดนรุม ฮา ฮา จากคุณ : ไก่ย่างคุง เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 18:18:17

ความคิดเห็นที่ 86 กริ๊ดดดดดดดดดดดดด การ์ตูนน่าร๊ากกกกกก  ^^ เย็นนี้ปั่นไอติมถั่วเขียวหล่ะ มากินบ่? จากคุณ : iTiMiTi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 18:28:55

ความคิดเห็นที่ 87 การ์ตูนน่ารักจริงๆ จากคุณ : YUKIss เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 20:27:33

ความคิดเห็นที่ 88 เริ่ดมากบัง เข้ามาโหวตตตตตตตตตต จากคุณ : อาโฮเฮะ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 22:38:00

ความคิดเห็นที่ 89 สุดยอดมากเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : ben_benz เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 02:38:56

ความคิดเห็นที่ 90 ^_^ ... จากคุณ : i_teep เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 05:27:52

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณมากๆ ค่ะ คุณบังย่อยเรื่องยากให้เข้าใจได้ง่ายมาก แถมภาพประกอบน่ารักเสียด้วย จากคุณ : fire mod-X เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 06:08:31

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล จากคุณ : ระเบิดทราย เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 08:34:08

ความคิดเห็นที่ 93   ตามมาเก็บความรู้ค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : หนูเมเปิล เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 09:14:06

ความคิดเห็นที่ 94 ขอบคุณหลายๆค่ะ จากคุณ : beam_beaw เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 11:17:00

ความคิดเห็นที่ 95 โอยยย ชอบตัวบังง่ะ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้ จากคุณ : crushiie เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 11:23:58

ความคิดเห็นที่ 96 อ่านไม่รุเรื่อง แต่ชื่นชมคับ จากคุณ : lARtZnolASt เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 11:59:52

ความคิดเห็นที่ 97 สุดยอดเลย ภาพน่ารักด้วย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : sweet_enough เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 16:18:24

ความคิดเห็นที่ 98 เยี่ยมมากๆ  เพิ่งได้จักน้ำมันหลายอย่างก็ครั้งนี้แหละ โหวตค่ะ จากคุณ : saimai77 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:51:31

ความคิดเห็นที่ 99 ที่บ้านใช้น้ำมันเรปซีดกับEV พอดีที่นี่ไม่แพงค่ะ ได้เรียนอะไรเยอะเลยค่ะ จากคุณ : พริกน้ำส้ม เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 19:29:39