ความคิดเห็นที่ 1 กระหล่ำปลีค่ะ ข้างในยัดไส้กระหล่ำปลีซอยผัด ผสม ไก่ หมู หรือ ปลา ตามชอบ แล้วเว้นพริก กับ ขิงเสีย สีอิ้วขาวปรุงรส ใส่หม้อต้มน้ำขลุกขลิก หนูขอให้เจริญอาหารและหายป่วยเร็วๆนะคะ หายได้ค่ะ จากคุณ : อะนิตา เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 00:53:09

ความคิดเห็นที่ 3   ขอบคุณค่ะ จากคุณ : joysweet เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 01:16:09

ความคิดเห็นที่ 4 ที่บ้านเราใช้ผักทุกชนิดทำแกงจืดได้อ่ะค่ะ แค่ทำน้ำแกง ใส่หมูสับ แล้วก็เลือกผักตามชอบ เช่น ผักกวางตุ้ง กะหล่ำปลี เห็ดเข็มทอง ตำลึง ผักบ๊อกชอย ฯลฯ ตามแต่จะปรารถนาเลยค่ะ เท่านี้ก็อร่อยได้แล้ว ^^ จากคุณ : Auntie AnT เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 09:05:40

ความคิดเห็นที่ 5   โรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหาร ให้ทานอาหารที่ย่อยง่าย งดเว้นผักที่มีใยอาหารสูงมาก หรือย่อยยาก เช่น ผักกระเฉด หรือก้านคะน้า และอาหารรสจัด เค็มจัด เผ็ดจัด นอกจากอาหารประเภทต้มจืด อาจเปลี่ยนให้เป็นซุปใส หรือซุปข้น ทานอาหารอ่อนสักระยะนึง ผมว่าอาการของโรคน่าจะดีขึ้น หายไวไวนะคับ จากคุณ : กะตู๋ เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 09:21:05

ความคิดเห็นที่ 6 ต้มจืดผัดกาดขาวใส่หมูสับ ต้มจีดแตงกวายัดใส้ ต้มจืดฟัก ต้มจืดผักกวางตุ้งไต้หวันใส่หมูสับ ต้มจืดหัวใชเท้า ไข่น้ำ ต้มจืดสาหร่ายใส่วุ้นเส้น ต้มจับฉ่าย ....นึกได้เท่าเนี่ยค่ะ จากคุณ : K'Pan เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 10:22:47

ความคิดเห็นที่ 7 ต้มจืดปลาหมึกยัดใส้ ต้มจีดดอกไม้จีนกับเห็ดหอมหมูสับ ต้มจีดหน่อไม้สดไก่ ต้มจีดหัวไชโป๊กระดูกหมู ต้มจีดลูกชิ้นปลากับหนังหมู ขอให้หายเร็วๆนะคะ ^^ จากคุณ : ต้าple เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 12:41:45

ความคิดเห็นที่ 8 ต้องเลี่ยงอาหารพวกนี้ด้วยนะคะ พืชผักบางชนิด เช่น หัวหอม กระเทียม มะเขือเทศ ฟาสต์ฟู้ด ช็อกโกแลต ถั่ว ลูกอม Peppermints เนย ไข่ นม ลองรักษาด้วยสมุนไพรไทยๆทำเองดูไหมคะ มีคนได้ผลมาแล้ว เราเห็นว่าทำไม่ยาก และง่าย ไม่แพงเลย  เพียงแต่อาจจะให้ผลช้าค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร็วเหมือนยาฝรั่ง แต่ก็น่าสนใจนะคะ   เป็นน้ำใบกะเพรา สูตรนี้ได้มาจาก นพ.เปี่ยมโชค  ชลิดาพงศ์ วิธีทำน้ำกะเพรา 1. นำกะเพรา 1 กำ (ทั้งลำต้นและใบ) ประมาณ 1 ขีด มาล้างให้สะอาดด้วยน้ำจุลินทรีย์ EM (ของโยเร แช่ 1 ช.ม.) หรือน้ำยาล้างผักเพื่อล้างยาฆ่าแมลงออก 2. ใส่น้ำ 2 - 3 ลิตรลงในหม้อ นำกะเพราใส่ลงไปทั้งหมด 3. ปิดฝาหม้อ ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ต้มประมาณ 15 - 20 นาที พอน้ำเดือดปุ๊บให้ปิดแก๊สทันที 4. ดื่มหลังอาหาร 1 แก้ว 250 ml  (อ่านตรง ปล. ต่อ) 5. ถ้าน้ำกะเพราเย็นลงหรือ ดื่มไม่หมด ไม่ต้องอุ่นหรือต้มซ้ำ ให้แช่เย็นไว้ดื่ม ปล. 1. ถ้าใช้กะเพราแดงจะได้ผลดีกว่า       2. จำไว้ว่า กะเพราเป็นสมุนไพรธาตุร้อน ถ้าดื่มน้ำกะเพราไปแล้วเกิดอาการร้อนใน ให้ลดปริมาณน้ำกะเพราลง       3. อาการหนักประมาณ 6 - 7 แก้ว และหลังจากวันแรกที่ดื่ม ถ้าอาการทุเลาให้ลดปริมาณน้ำกะเพราลง  ดื่มเฉพาะหลังอาหาร มื้อละ 1 -  2  แก้ว แต่ไม่ควรเกิน 4 แก้วต่อวัน       4. ยาสมุนไพรไทย ใช้เวลารักษานานถึงจะหาย ต้องกินเป็นประจำสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องทานยาเคมีสังเคราะห์เข้าช่วยเลย จากคุณ : ใบยี่หร่า เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 12:46:53

ความคิดเห็นที่ 9 ลืมบอกว่า  ควรเว้นอาหารที่มีลมมากๆด้วย เช่น  เส้นขนมจีน  ถั่ว ขนมตาล  อาหารต้องย่อยง่ายเข้าไว้ ปลาหมึก เนื้อแห้ง เนื้อเค็ม หนังสัตว์มันๆทั้งหลาย   เรียกว่า ต้องกลับมากินอาหารวิถีธรรมชาติเลยนะคะ  เอาของพื้นๆ ทำง่ายๆ ขั้นตอนง่ายๆเข้าไว้ ดูแลถนอมกระเพาะ ให้แข็งแรงค่ะ หายไวๆนะคะ จากคุณ : ใบยี่หร่า เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 12:52:16

ความคิดเห็นที่ 10 แกงจืดก็คือมีน้ำแกงที่จะได้ความหวานจากผักหรือเนื้อสัตว์หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นจึงมีแกงจืดได้หลากหลายมากๆๆๆครับ ถ้าชอบกินเต้าหู้....ขอเสนอแกงจืดที่ไม่เคยได้เห็นหรือกินนอกบ้านดังนี้ เต้าหู้เหลืองอย่างนิ่ม แต่เดี๋ยวนี้หาอร่อยคือไม่ขื่นยากมาก จัดการตัดแบ่งสัก8ชิ้น คือแบ่งครึ่งแล้วแต่ละครึ่งแบ่ง4 แบ่งเล็กไปแตกหมด จัดการล้างกุ้งแล้วเกะเอาเปลือกจะเหลือหางหรือไม่ก็ได้ผ่าหลังชักเส้นดำทิ้งไป ต้มน้ำพรอมเปลือกกุ้งงต้มสักพักแล้วช้อนเปลือกออก จะได้น้ำซุบที่หวานพอควร จัดการเอาเต้าหู้ที่เตรียมไว้ลงไปต้มพอเดือดก็ใส่กุ้งลงไป พอเดือดก็หยิบตั๋งฉ่ายลงไปหน่อยนึง ปรุงรสเค็มมากน้อยตามใจชอบ ยกลงตักใส่ชามโรยพริกไทยกับผักชี้หรือคึ่นฉ่านแล้วแต่ชอบ เท่านี้ก็อร่อยเหาะแล้วครับ แต่..คงต้องขึ้นกับความสดของกุ้งและเต้าหู้เหลืองนิ่มที่ดีนะครับ หมายเหตุ เต้าหู้เหลืองจะมีกลิ่นหอมของกี หรือด่าง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวครับ...ถ้าหาไม่ได้เต้าหู้หลอดหรือเต้าหู้ขาวเช่นตราดาวของราชบุรีก็พอได้ครับผม จากคุณ : ลุงทอม เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 14:22:20