ความคิดเห็นที่ 1 หลักทั่วไปมีดังนี้คือ -ไม่แสดงความสนิทสนมต่อแขกจนเกินไป -ไม่ยืนฟังแขกคุยกัน เพราะบางครั้งแขกอาจจะปรึกษาธุรกิจการงานที่เป็น-ความลับหรือเรื่องส่วนตัว -ไม่ควนนำเรื่องภายในสถานที่ทำงานของตนไปเล่าให้แขกฟัง -ไม่วิจารณ์แขก -เมื่อแขกตำหนิ ไม่ควรแสดงกิริยาโต้ตอบแขก -จงจำไว้ว่า "แขกเป็นผู้ถูกเสมอ" -การใช้อารมณ์เพื่อต้องการเอาชนะแขกจะมีผลเสียหายต่อรายได้ของสถานีนั้นๆ -ต้องซื่อสัตย์ สุจริต ต่อหน้าที่ การส่งเสริมการขายในภัตตาคาร พนักงานบริการทุกคนมีหน้าที่ในการส่งเสริมการขาย และเป็นผู้ที่สร้างชื่อเสียงมาสู่สถานที่นั้น ๆโดยตรง รวมทั้งกิริยามารยาท การวางตัว ของพนักงานบริการ แม้กระทั่งวิธีการเสริฟ์ การเอาอกเอาใจ ฯลฯ จากคุณ : styx เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 10:52:50

ความคิดเห็นที่ 2 สิ่งเล็กๆน้อยๆที่สร้างความรำคาญให้กับแขก -ที่เขี่ยบุหรี่มีก้นบุหรี่มากกว่า 2 ชิ้นขึ้นไป -สลัดที่เสริฟไม่เย็นและจืดชืด -แก้วน้ำพร่อง แต่ไม่มีใครเติมให้ -อาหารร้อนเสริฟ์มาในจานที่เย็น -อาหารร้อนกลับไม่ร้อนในขณะที่อาหารเย็นกลับไม่เย็นเท่าที่ควร -โทรศัพท์ส่งเสียงดังถึง 3 ครั้ง โดยไม่มีผู้รับสาย -เมื่อปล่อยให้แขกถือหูโทรศัพท์คอยนานเกินกว่า 30 วินาที -จานหรือแก้วมีรอยแตก บิ่น -เครื่องเงินเป็นจุด หรือมีรอยด่าง -แก้วมีรอยร้าว -เมนูหรือที่รองจานฉีกขาด หรือมีรอยด่าง -ขนมปังหรือโรลที่เสริฟ์เริ่มขึ้นรา -เมนูไม่พอสำหรับแขก -เมื่อเคาน์เตอร์สลัดและโต๊ะบุฟเฟต์ไม่มีการตกแต่งให้สวยงามสะดุดตา -แขกนั่งโต๊ะนานเกินกว่า 3 นาที โดยไม่มีใครมารับออเดอร์ -เมื่อมีจานอาหารที่ทานเสร็จเรียบร้อยแล้วกองอยู่บนโต๊ะและไม่มีใครมาเก็บ -เมื่อถ้วยชาม แก้ว หรือเครื่องใช้ขาดมือ -เมื่อเครื่องมือเครื่องใช้วางกองอยู่บนโต๊ะอาหาร ไม่มีการจัดให้เป็นระเบียบ -โต๊ะจัดไม่เรียบร้อย -โถใส่น้ำตาลสกปรก -ขวดเกลือพริกไทยสกปรก ขวดซ้อสมีคราบเกรอะกรัง -เมื่อบาร์หรือหรืออาหารนั้น ๆ ขาดของใช้ที่จำเป็น -เมื่อพนักงานไม่เอาใจใส่บริการแขก -เมื่องานเลี้ยง หรือคอฟฟี่เบรคเริ่มช้ากว่ากำหนด -เมื่อเครื่องดื่มที่เสริฟ์จืดชืดเพราะผสมหรือเปิดทิ้งไว้นานแล้ว -เมื่อมีเศษอาหาร เศษอิฐหรือปูน กระดาษ หล่นบนพื้นแล้วไม่มีใครใส่ใจเก็บ -เมื่อบาร์หรือห้องอาหารเปิดหรือปิดก่อนเวลา -ถาดหรือโต๊ะอาหารวางทิ้งอยู่บนฟลอร์ห้องพักแขกนานเกินกว่า 3 ชั่วโมง -เมื่อแขกจ่ายเงินแพง ๆ แต่ได้อาหารที่มีคุณภาพและรสชาดไม่สมราคา -อาหารที่เสริฟ์แขกไม่ตรงกับที่ระบุไว้ในเมนู -แขกไม่ได้รับการบริการอาหารเช้าที่รวดเร็วและสะดวก ทั้ง ๆ ยอมจ่ายค่าห้องที่แพงแสนแพงแล้ว -เมื่อแขกเหน็ดเหนื่อยจาการเดินทางแล้วมาพบกับการบริการที่อืดอาดไม่ได้มาตรฐานแม้แต่กับอาหารง่ายๆ อย่างแซนวิซ หรือไข่ -เมื่อแขกถูกปล่อยให้ยืนมองหาที่นั่ง และไม่มีใครสนใจเข้ามาไต่ถามในระหว่างที่ยืนรอและมองเห็นโต๊ะว่าง -โต๊ะเก้าอี้สกปรก มีรอยดำด่างและยู่ยี่ -เมื่อแขกต้องยืนรอนานกว่า 3 นาที แล้วยังไม่มีโต๊ะนั่งแล้วแต่ไม่มีพนักงานมาเสริฟน้ำหรือกาแฟ -เมื่อบอกแขกว่า อาหารจะเรียบร้อยภายในเวลา 30 นาที แต่แขกกลับต้องรอนานถึง 45 นาที -เมื่อหม้อกาแฟไม่ได้อุ่น และกาแฟที่เสริฟ์ไม่ร้อนพอ -เมื่อผลไม้ที่ใช้ตกแต่งห้องอาหารไม่สด ดูเหี่ยวเฉา -อาหารบนโต๊ะบุฟเฟต์หมด และไม่มีการนำมาเพิ่มเติมในทันที -เสริฟ์อาหารไม่ครบตามที่สั่ง และไม่ทราบว่าอาหารจานไหนของใคร -ถ้วยชา กาแฟเป็นคราบสกปรก -เมื่อน้ำในแจกันมีสีดำสกปรกและดอกไม้เหี่ยวเฉา -เมื่อผ้าปูโต๊ะมีจุดไหม้ดำ เป็นรอยโหว่และฉีกลุ่ย -โต๊ะหรือเก้าอี้โยกเยก -ผ้าเช็ดโต๊ะสกปรก -เมื่อแขกเดินผ่านประตูแล้วไม่ได้รับการต้อนรับ หรือยิ้มทักทายตามที่ควรจะเป็นสำหรับห้องอาหารทุกแห่ง -เมื่อของหวานที่เสริฟ์แข็งเป็นน้ำแข็งจนแขกไม่สามารถตักทานได้ -เมื่อแขกมีเวลาทานอาหารจำกัดและต้องรออาหารเสริฟ์เกินกว่า 25 นาที -เมื่อบิลค่าอาหารที่ส่งให้แขกเปียกชื้นเป็นรอยด่าง หรือยับยู่ยี่ -แขกสั่งเครื่องดื่มแล้วไม่มีกับแกล้มหรือของขบเคี้ยวให้ จากคุณ : styx เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 10:56:01

ความคิดเห็นที่ 3 หน้าที่ความรับผิดชอบและคุณสมบัติของพนักงานบริการ  พนักงานบริการมีหน้าที่ให้บริการแก่แขกเพื่อให้เกิดความประทับใจนอกเหนือจากนี้ยัง ต้องดูแลความเรียบร้อยของห้องอาหารและเครื่องมือ เครื่องใช้ในเขตที่ตนรับผิดชอบอีกด้วย งานของพนักงานบริการจึงเริ่มตั้งแต่ก่อนห้องอาหาร ดังรายละเอียดโดยย่อต่อไปนี้ ก่อนเปิดห้องอาหาร -ตระเตรียมภาชนะและเครื่อมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ให้พร้อม รวมทั้งความสะอาดของห้องอาหาร -จัดโต๊ะให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยพร้อมจะให้บริการได้ทันที -ตรวจตราความสะอาดของร่างกาย เช่น ผม เล็บ ปากและฟัน ความสะอาดเรียบร้อยของเครื่องแต่งกาย รองเท้าและถุงเท้าเป็นต้น -ต้องจำเมนูให้ได้ และสามารถตอบแขกได้ทันทีถึงอาหารตามเมนูหรืออาหารพิเศษในวันนั้น ขณะที่เปิดบริการ -ไม่ตีตนเสมอแขก ให้ถือว่าแขกคือผู้บังคับบัญชา ไม่พูดจาล้อเลียนหรือทำกิริยาสนิทสนมกับแขกจนเกินไป -เมื่อแขกต้องการจะติดต่อหรือธุระเกี่ยวกับสิ่งอื่น ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของตน ให้แจ้งแก่ผู้มีหน้าที่นั้น ๆ มาจัดการจะทิ้งหน้าที่ไปไม่ได้ ต้องไม่แบ่งแยกเกี่ยงงอนในหน้าที่ เมื่อแขกต้องการให้ทำสิ่งใด ถึงแม้ไม่ใช่หน้าที่รับผิดชอบของตน ควรจะรับคำสั่งและแจ้งแก่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบให้ปฏิบัติทันที -การรับคำติเตียนต่าง ๆ ต้องแจ้งให้หัวหน้าทราบ และต้องตอบด้วยกริยาสุภาพ ขอโอกาสแก้ตัวคราวต่อไป -ขณะที่แขกรับประทานอาหาร จะต้องคอยระมัดระวัง ใช้สายตาคอยสังเกตว่า แขกจะต้องการอะไรเพิ่มเติม แต่ไม่ใช่ยืนจ้องจนเป็นที่น่าเกลียด -การรับคำสั่ง จะต้องจดลงให้แน่นอนตรงกับเมนู และเรียงลำดับอาหารให้ถูกต้อง อย่าให้แขกคอยนานจนเกินไป จะทำให้แขกเกิดความเบื่อหน่ายไม่พอใจ -ควรเลื่อนเก้าอี้ให้แขกเมื่อแขกลุกหรือจะนั่ง เพื่อความสะดวกของแขก แม้เมื่อไม่สามารถจะทำได้ ก็ควรแสดงให้เห็นว่าตั้งใจจะทำ เมื่อแขกลุกไปแล้ว รีบทำความสะอาดโต๊ะให้พร้อมที่จะใช้ได้ทันที -การรับเงินรางวัล (ทิป) ไม่ว่ามากหรือน้อย หรือไม่ได้รับเลย พนักงานจะต้องแสดงความขอบคุณเท่า ๆกัน อย่าให้แขกเกิดความรู้สึกว่าเราขอบคุณเพราะอยากได้เงินรางวัล จากคุณ : styx เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 10:59:31

ความคิดเห็นที่ 4 ลำดับการปฏิบัติงานของพนักงานบริการ การจัดโต๊ะ -ผ้าปูโต๊ะ การปูผ้าต้องให้มุมผ้าปิดขาโต๊ะเสมอ ชายผ้าควรจะยาวระหว่าง 8" - 10" และควรให้มีรอยพับเฉพาะที่กึ่งกลางของโต๊ะเท่านั้น -ผ้าเช็ดมือ วางตรงกลางระหว่างมีดกับส้อม หรือวางทางด้านซ้ายของส้อม โดยพับเป็นรูปหมวกจีน หรือหน่อไม้ -จานอาหาร วางตรงหน้าของผู้นั่งเก้าอี้ ให้ขอบจาห่างจากขอบโต๊ะประมาณครึ่งนิ้ว -เครื่องเงิน วางข้างจานอาหาร อย่าให้ชิดเกินไปจนเข้าไปใต้จาน ส้อมวางด้านซ้ายของจานโดยหงายขึ้น -มีดวางด้านขวาของจาน หันคมเข้าหาจานเสมอ ช้อนซุปวางด้านขวาถัดจากมีดและวางหงายเสมอ -ปลายของด้ามมีด ด้านซ้อม และด้ามช้อนซุป วางเสมอกับขอบโต๊ะ หรือห่างจากขอบโต๊ะประมาฯ 1 นิ้ว แต่ต้องไม่เกิน 2 นิ้ว -จานขนมปัง วางด้านซ้ายของจานอาหาร ถัดจากส้อมและห่างจากขอบโต๊ะประมาณ 1 นิ้วไม่เกิน 2 นิ้ว -มีดเนย วางบนขอบจานขนมปังด้านขวา หันคมมีดไปทางด้านซ้าย -เครื่องเงินสำหรับของหวาน วางเหนือจานอาหารโดยหันหัวสวนทางกันอยู่ระหว่างกึ่งกลางมีดกับส้อม -แก้วน้ำ วางด้านขวาเหนือปลายมีด ให้ห่างจากปลายมีดประมาณ 1 นิ้ว หันตราข้างแก้วให้ตรงกับปลายมีด การรับคำสั่ง  พนักงาน เมื่อนำเมนูให้แขกแล้ว จะต้องให้เวลาแขกสักเล็กน้อยในการตรึกตรองก่อนจะสั่งอาหาร อย่าแสดงกิริยาเร่งรัดการคอยรับคำสั่ง ให้ยืนอยู่ทางด้านขวาของแขกในระยะใกล้เคียงพอที่จะได้ยินชัดเจน แนะนำอาหารต่อแขกได้เมื่อถูกสอบถาม แต่อย่าแนะนำอาหารเป็นอันขาดหากไม่ได้รับการขอร้อง เพราะจะเป็นการเสียมารยาท ตั้งใจฟังคำสั่งอย่าให้ขาดตกบกพร่อง ถ้าไม่แน่ใจให้ทวนคำสั่งให้แขกฟังได้ ขณะรับคำสั่ง ควรถามแขกถึงความต้องการที่จะทำให้แขกพอใจในรสชาติของอาหาร ต้องการให้ปิ้งขนมปังหรือไม่ (ถ้าแขกสั่งขนมปังหรือแซนวิส) เนื้อต้องการสุกขนาดไหน, ต้องการน้ำสลัดชนิดใด, ต้องการชาหรือกาแฟร้อนหรือเย็น เป็นต้น การเสิร์ฟ ให้เสิร์ฟอาหารตามลำดับต่อไปนี้ -เมื่อเสิร์ฟอาหารประเภทเรียกน้ำย่อย (Appetizers) แล้ว แขกบางคนอาจจะรับประทานซุปต่อบางคนไม่รับประทาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของแขก -เมื่อเสิร์ฟซุปแล้ว จึงเสิร์ฟอาหารประเภทปลา หลังจากนั้นเสิร์ฟอาหารหลัก (อาจะเป็น เนื้อ หมู ไก่หรือเป็ด) -เมื่อแขกรับประทานเสร็จ ให้เก็บจานทุกชนิดรวมทั้งเครื่องเงินที่ไม่ใช้ออกจากโต๊ะให้หมดระวังอย่าให้เปรอะเปื้อนแขก -ถ้าแขกต้องการของหวาน ให้ตระเตรียมภาชนะและเครื่องเงินสำหรับของหวาน -เสิร์ฟชาหรือกาแฟหลังจากถอนจานและเครื่องเงินของหวาน -หลังชาหรือกาแฟ แขกอาจจะสั่งเครื่องดื่มหลังอาหาร (Liqueur) ให้เสิร์ฟตามความประสงค์ -น้ำ เนย ขนมปัง ต้องหมั่นคอยเติมอยู่เสมอ จากคุณ : styx เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 11:07:13

ความคิดเห็นที่ 5 หลักในการเสิร์ฟ การเสิร์ฟอาหาร 1.มารยาททั่วไปในการบริการแขกควรกล่าวคำทักทายต่อแขกก่อน 2.ขอทราบจำนวนแขกว่ามีกี่ท่านแล้วเชิญแขกไปที่โต๊ะเลื่อนเก้าอี้ให้แขกนั่งโดยสะดวก 3.เสิร์ฟน้ำเย็น 4.กล่าวคำชักชวนให้แขกดื่มก่อนอาหาร 5.เสนอรายการอาหารและรอรับคำสั่งจากแขกในท่วงทีที่สุภาพ 6.เครื่องดื่มทุกชนิดเสิร์ฟทางขวามือของแขก 7.อาหารที่ต้องเสิร์ฟเป็นถาดใหญ่เข้าทางซ้าย 8.อาหารที่แบ่งใส่ถ้วยหรือจานเรียบร้อยแล้วให้เสิร์ฟทางขวา ยกเว้นขนมปัง เนยและสลัดให้เสิร์ฟทางซ้าย 9.จานและเครื่องดื่มที่ใช้แล้วให้ถอนทางขวา ยกเว้นจานขนมปัง จานเนยและถ้วยสลัดให้เสิร์ฟทางซ้าย 10.การถอนแก้วทุกชนิดให้ถอนทางขวา 11.อย่าวางหรือถอนเครื่องมือที่ใช้แล้วผ่านหน้าแขก 12.ก่อนเสิร์ฟอาหารทุกชนิดให้ตรวจตราความสะอาดใต้ภาชนะนั้น เมื่อถอนจากที่ใช้แล้วจะได้ไม่เปื้อนผ้าปูโต๊ะ 13.ระมัดระวังเครื่องมือทุกชนิดอย่าให้ตกหล่น ถ้าพลาดพลั้งให้รีบเก็บทันที 14.ขณะที่เสิร์ฟอย่าให้เกิดเสียงดังโดยไม่จำเป็น 15.อย่าใช้มือจับอาหารเป็นอันขาด 16.การถือจานเสิร์ฟแขก อย่าใช้นิ้วมือจับจานด้านบน ให้ใช้หัวแม่มือแตะที่ขอบจานเล็กน้อยและใช้อุ้งมือพยุงจานให้มั่นขณะเสิร์ฟแขก 17.การเสิร์ฟจานร้อนให้ใช้ช้อนส้อมไปเสิร์ฟแขก 18.ขณะที่จะเข้าไปเสิร์ฟ ควรให้แขกรู้ตัวก่อน 19.ให้เติมน้ำตลอดเวลา และไม่เก็บแก้วน้ำจนกว่าแขกจะออกจากโต๊ะอาหาร 20.ในช่วงที่ว่างจากการเสิร์ฟ ให้ตรวจดูความเรียบร้อยบนโต๊ะของแขกเสมอๆ 21.พนักงานบริการจะต้องยืนอยู่ในตำแหน่งซึ่งสามารถมองเห็นแขกได้ทั่วถึง และเตรียมพร้อมที่จะบริการให้ทันท่วงที 22.ทุกครั้งที่แขกขอบิล ให้ถามแขกว่าต้องการสิ่งใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่ 23.นำบิลเสนอสุภาพบุรุษเสมอ ยกเว้นสภาพสตรีเป็นผู้สั่ง 24.หลังจากแขกจ่ายบิลแล้ว ให้กล่าวคำขอบคุณที่แขกมาใช้บริการ และเชื้อเชิญให้แขกกลับมาใช้บริการอีก 25.ต้องไม่แสดงกิริยาเป็นเชิงต้องการเงินรางวัล (ทิป) จากแขก 26.ต้องยิ้มแย้มแจ่มใส มีกิริยามารยาทอ่อนโยนตลอดเวลา จากคุณ : styx เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 11:10:01

ความคิดเห็นที่ 6 โหวตกระทู้ค่ะ จากคุณ : กะลาสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 11:13:24

ความคิดเห็นที่ 7 การเสิร์ฟเครื่องดื่ม วิธีการเสิร์ฟไวน์และแชมเปญ 1.เมื่อแขกสั่งให้ยืมยี่ห้อที่แขกระบุจากบาร์ก่อน แล้วนำไปโชว์แขก ถ้าเป็นไวน์แดงให้ใส่ตะกร้าโชว์ และโชว์ในลักษณะที่นิ่มนวล อย่าถือแกว่งไปแกว่งมาเด็ดขาด 2.เมื่อแขกพอใจ ให้จัดแก้วให้ถูกกับไวน์และแชมเปญ ตามที่แขกสั่งให้ครบจำนวนที่นั่งอยู่หาโต๊ะเล็กๆมาตั้งไว้ข้างโต๊ะแขก เพื่อวางตระกร้าไวน์หรือวางถังไวน์หรือแชมเปญ 3.ทำการเปิดขวดต่อหน้าแขกทุกครั้ง และอย่าเปิดให้เกิดเสียงดังเกินไป เปิดแล้วเช็ดปากขวดให้สะอาดก่อนจะรินให้แขก เพราะปากขวดอาจจะสกปรกจาการเก็บไว้นานๆ 4.ทำการรินให้เจ้าภาพหรือผู้ที่สั่งชิมก่อนทุกครั้งที่มีการเปิดรอให้เขาชิมสักครู่หนึ่งก่อนจนแขกบอกตกลง(ไวน์หรือแชมเปญอาจเสื่อมคุณภาพแล้วก็ได้ต้องให้เป็นไปตามความต้องการของแขกถ้าแขกบอกว่าเสียให้นำขวดใหม่มาให้แขกดูก่อนแล้วจึงทำการเปิด และนำขวดที่เสียไปคืนบาร์เพื่อที่จะทำรายงานให้ฝ่ายควบคุมอาหารและเครื่องดื่มตัดยอดเสีย) เมื่อแขกพอใจแล้วจึงทำการรินให้แขก ที่นั่งด้านขวามือของเจ้าภาพก่อนและเสิร์ฟเรื่อยๆ ไปจนถึงแขกที่นั่ง ด้านซ้ายมือของเจ้าภาพเป็นคนสุดท้าย แต่ถ้ามีสุภาพสตรี ให้เริ่มเสิร์ฟที่สุภาพสตรีก่อน 5.พยายามดูแลเติมให้แขกเสมอ เมื่อเห็นว่าแก้วของแขกคนหนึ่งคนใดเหลือน้อย แต่อย่ารินจนหมดหยดสุดท้าย เพราะไวน์ทุกขวดมีตะกอนตกค้างอยู่ถ้ารินหมดอาจจะทำให้เสียรสและถูกแขกตำหนิว่าบริการไม่เป็น หรือแขกอาจจะไม่จ่ายเงินซึ่งต้องเสียเวลาอธิบายหรือขอโทษแขก 6.เมื่อหมดแล้วก่อนจะเก็บ ถ้าเป็นไวน์แดงให้ถอนออกจากตะกร้า ถ้าเป็นไวน์ขาวหรือแชมเปญให้ยกออกจากถังแช่ ตั้งโชว์ให้แขกเห็น สัก2-3 นาที แล้วจึงเก็บ พร้อมกับถามแขกว่าจะสั่งต่ออีกไหม ถ้าแขกสั่งต่อก็ให้ปฏิบัติตามวิธีดังกล่าวข้างต้นตามลำดับ             การเก็บแก้วทุกครั้งอย่าทำโดยพละการ เพราะการที่แขกเหลือติดแก้วไว้นั้น อาจจะเก็บไว้ดื่มหลังอาหารก็ได้ (ส่วนมากแขกจะเหลือไว้ล้างกลิ่นควรอาหาร) ข้อควรทราบเกี่ยวกับไวน์ ไวน์ขาว, ไวน์โรเช่ และแชมเปญ oเสิร์ฟในอุณภูมิประมาณ 12 องศาเซนติเกรด oขวดไวน์นั้นจะต้องแช่ในถังสำหรับแช่ไวน์และคลุมด้วยผ้าแนบกิ้นส์สีขาว oถังไวน์นั้นนำไปวางไว้ทางด้านซ้ายของแขก oก่อนที่จะเปิดไวน์ต้องให้แขกดูป้ายยี่ห้อไวน์เสียก่อนเพื่อป้องกันการเสิร์ฟไวน์ผิดยี่ห้อ ไวน์แดง oไวน์แดงให้เสิร์ฟในอุณหภูมิประมาณ 22 องศาเซนติเกรด oไวน์แดงส่วนมากจะมีตะกอน เวลาจับขวดต้องระมัดระวัง oแก้วเสิร์ฟไวน์แดง ใหญ่กว่าไวน์ขาว เวลารินประมาณ 2/3 ของแก้ว จากคุณ : styx เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 11:14:37

ความคิดเห็นที่ 8 วิธีการเสิร์ฟเบียร์  เบียร์ทุกชนิดยกเว้นเบียร์อังกฤษหรือเรียกว่า English Beer นั้นต้องเสิร์ฟเย็นอุณหภูมิประมาณ 12 องศาเซนติเกรด การรินเบียร์มี 2 วิธีคือ oแบบฟอง ให้ถือแก้วตรง ๆ แล้วรินเบียร์ใส่แก้ว oแบบไม่มีฟอง ให้เอียงแก้วแล้วค่อย ๆ ริน เบียร์ทุกชนิด ให้เสิร์ฟในแก้วทรงสูง นอกจากเบียร์สด Draft Beer เสิร์ฟในแก้วที่มีหูจับ วิธีการเสิร์ฟเครื่องดื่มอื่น ๆ  ให้ใช้แก้วตามชนิดของเครื่องดื่มนั้น ๆ เช่น oบรั่นดีใข้แก้วบอลลูนหรือก๊อบเลท oเชอรี่ ใช้แก้วเชอรี่ oค๊อกเทลชนิดต่าง ๆ ใช้แก้วตามชื่อของค๊อกเทลชนิดนั้น ๆ oลองดริ๊งค์ใช้แก้วคอลลินส์ oเหล้าที่มีส่วนผสมโซดาหรือน้ำ ใช้แก้ว ไฮบอล oเหล้าที่ผสมน้ำแข็งเปล่า ๆ ใช้แก้วโอลด์แฟชั่น การจับแก้วควรจับอย่างระมัดระวัง อย่าจับปากแก้วหรือเอานิ้วใส่ไปในแก้ว และการเสิร์ฟเครื่องดื่มทุกชนิดจะต้องมีถาดรองอีกที ห้ามถือแก้วไปเปล่า ๆ จากคุณ : styx เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 11:16:02

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อควรจำขณะทำงาน •เสื้อผ้า / เครื่องแต่งกาย / ร่างกาย โดยเฉพาะมือและเล็บต้องสะอาดอยู่เสมอ •หลีกเลี่ยงการแตะต้องผมหรือใบหน้า ขณะอยู่ในหน้าที่ (ห้ามล้วง แคะ แกะ เกา ไอ หรือ จาม ถ้าสุดวิสัย ให้ใช้ผ้าปิดปากและจมูก •หลีกเลี่ยงการใช้นิ้วมือแตะบนขอบจาน และนิ้วต้องไม่แตะต้องอาหารเลย •ให้จับแก้วที่ฐานหรือขาแก้ว และจับถ้วยที่หูเสมอ •การจัดวางเครื่องเงิน ต้องจับที่ด้ามเสมอ ห้ามแตะต้องใบมีด ปลายหรือส้อม •ห้ามใช้ผ้าพาดบ่า หรือหนีบรักแร้ •ใช้ผ้าสะอาดเช็คขอบจานเสมอ การเก็บโต๊ะ  หลังจากแขกรับประทานอาหารแต่ละชุดเสร็จแล้ว จะจ้องถอนจานอาหารออกทุกครั้ง ยกเว้นเครื่องดื่ม จานอาหารกลางจานเสิร์ฟต่าง ๆ จะต้องเก็บ โดยอาจจะรอจนกระทั่งผู้อื่นเสร็จหรือส่วนมาเสร็จแล้ว จึงค่อยเก็บพร้อมกัน การเก็บต้องจานอาหารก่อน แล้วจึงเก็บจานสลัด จานขนมปัง ถ้วยเนย รวมทั้งของใช้บนโต๊ะ ต้องเก็บเมื่อหมดความจำเป็นแล้ว ถ้วยกาแฟควรปล่อยให้อยู่บนโต๊ะจนกว่าแขกจะลุกออก จากที่นั่งทุกคน ให้หมั่นเติมน้ำเสมอและพยายามหลีกเลี่ยงการเสิร์ฟหรือถอนจานผ่านหรือข้ามหน้าแขก การยื่นบิล  ไม่ควรให้แขกคอยบิล หลังจากเสิร์ฟอาหารแล้ว ต้องพร้อมที่จะส่งบิลให้ทันที การส่งบิลให้แขกต้องใส่ในสมุดเก็บเงิน หรือใส่ถาดให้เรียบร้อย และควรยื่นทางด้านขวาของแขก ก่อนยื่นต้องแน่ใจเสียก่อนว่าแขกต้องการบิลและไม่ต้องการสิ่งใดอีก มิฉะนั้นจะเป็นการเสียมารยาทอย่างยิ่ง การทอนเงิน ควรวางเงินทอนไว้บนโต๊ะ อย่ายื่นให้แขกหยิบเองจะเป็นการน่าเกลียด แขกให้ทิปหรือไม่ก็ตาม ต้องแสดงกิริยาสุภาพเรียบร้อยเสมอ ไม่ยินดียินร้ายเกินไปก่อนแขกลุกออกจากโต๊ะ ต้องคอยเลื่อน เก้าอี้ให้แขกลุกได้โดยสะดวก อย่าลืมกล่าวคำขอบคุณและสวัสดี การปฏิบัติตนกับเพื่อนร่วมงาน •ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อได้รับการขอร้อง •รับคำสั่งแทนเมื่อเพื่อนร่วมงานไม่วาง และแจ้งให้เขาทราบภายหลัง •เมื่อทำงานของตนเสร็จแล้ว ควรช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานให้ทำงานรวดเร็วขึ้น จากคุณ : styx เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 11:19:49

ความคิดเห็นที่ 10 การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า  ดังที่ทราบกัน ในห้องอาหารแต่ละห้อง ย่อมมีลูกค้าหลายประเภทใช้บริการอยู่เป็นประจำ พนักงานจึงต้องเผชิญกับอารมณ์ต่าง ๆ ของแขกเสมอ พึงจดจำไว้ว่าเมื่อเกิดปัญหา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ความอดกลั้น ความสุภาพนิ่มนวลในการพูดจา ความฉลาดและไหวพริบ รวมทั้งการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพื่อให้แนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดปัญหาเฉพาะหน้า จึงขอชี้แจงวิธีปฏิบัติดังนี้ 1. การตำหนิเกี่ยวกับอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการตำหนิที่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง หรือเป็นการตำหนิทีปราศจากเหตุผล พนักงานบริการจะต้องฟังด้วยสุภาพ หากสุดวิสัยที่พนักงานจะแก้ไขได้แล้ว ให้รีบแจ้งต่อหัวหน้างานหรือผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มทราบทันที จงระลึกเสมอว่า “พนักงานบริการจะโต้แย้ง เอาชนะลุกค้าหรือแขกที่มาใช้บริการไม่ได้เลย” เพราะหากเป็นความผิดพลาดของพนักงาน การโต้เถียงก็เปล่าประโยชน์ แต่ถ้าเป็นความผิดพลาดของแขกแล้ว การให้แขกยอมรับความผิดของตนเป็นเรื่องที่เป็นไม่ได้ และโรงแรมอาจจะเสียแขกผู้นั้น รวมทั้งแขกอื่น ๆ ที่เห็นการณ์ไป ดังนั้น หากมีการตำหนิขึ้น และพิจารณาดูเราเป็นฝ่ายผิด ก็ควรกล่าวคำ ขอโทษและดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องทันที ถ้าแขกมีโทสะ ต้องไม่แสดงอาการโต้ตอบพนักงานบริการต้องคงความ สุภาพอ่อนน้อมรับฟังอย่างอารมณ์เย็น พูดเสียงเบาอ่อนไม่ขึ้นเสียง อย่าพยายามโต้แย้งหรือพูดแทรกระหว่างแขกตำหนิ รับฟังไปจนกว่าแขกจะพูดจบ แล้วแสดงความเห็นใจต่อแขก ยอมรับคำตินั้นด้วยตัวท่านเอง ซึ่งเมื่อถึงขั้นนี้ แขกจะคลายโทสะ หากแขกยังไม่คลายโทสะ ให้แจ้ง ผู้บังคับบัญชาต่อไป 2. การตำหนิเกี่ยวกับการบริการ วิธีป้องกันมิให้เกิดการตำหนิเกี่ยวกับการบริการก็คือพยายามบริการต่อแขกให้ดีที่สุด ในกรณีฉุกเฉินและฉุกละหุกซึ่งคาดว่าจะกระทบกระเทือนต่อการบริการ ให้พยายามอธิบายชี้แจงให้แขกเข้าใจล่วงหน้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท่าน หากท่านให้ความนอบน้อม มีไหวพริบ รู้จักใช้ถ้อยคำก็จะไม่เสียลูกค้า และถ้าหากลูกค้านั้นกลับมาใหม่ จงอย่าพยายามให้ บริการอย่างดีเช่นเคยปฏิบัติ 3. แขกชมเชย เมื่อแขกกล่าวคำชมเชย จงกล่าวคำตอบอย่างนอบน้อม ถ้าแขกชมผู้อื่นต่อท่าน ยกตัวอย่างเช่น ชมเชยรสอาการ จงกล่าวตอบขอบคุณและบอกว่า จะนำคำชมไปแจ้งพ่อครัวทราบเป็นอันดับแรก 4. แขกป่วย เจ็บ หรือได้รับอุบัติเหตุ เหตุการณ์เช่นนี้อาจลุกลามไปกรณีร้ายแรงได้ฉะนั้นให้นำความแจ้งผู้บังคับบัญชาโดยฉับพลัน พยายามให้ความช่วยเหลือแขกเท่าที่สามารถจะทำได้ แต่ถ้าเห็นว่าอาการร้ายแรง จงอย่าขยับเขยื้อนร่างกายของแขกเป็นอันขาด ต้องรอให้แพทย์มาทำการรักษาเอา และอย่าให้กล่าวทำนองวิพากษ์วิจารณ์ถึง ต้นเหตุแห่งการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุนั้นเป็นอันขาด 5. อาการและเครื่องดื่มหก พนักงานบริการจะต้องเช็คทำความสะอาดโดยทันที ถ้าผ้าคลุมโต๊ะเปื้อน เพียงเล็กน้อย ให้ใช้ผ้าเช็คมือปูทับรอยเปื้อนไว้จนกว่าแขกจะรับประทานเสร็จ ถ้าผ้าปูโต๊ะเปื้อนมากและเป็นความยินยอมของแขกที่จะย้ายโต๊ะ ก็ให้ย้ายได้ตามความประสงค์ ถ้าแขกทำอาหารหกรดเสื้อผ้าแขกเอง พนักงานบริการจะต้องนำผ้าชุบน้ำพอ หมาดมาให้แขกเช็คทำความสะอาดเสื้อผ้าทันที ถ้าพนักงานบริการทำเสื้อผ้าแขกเลอะเทอะ จงรีบกล่าวคำขออภัยและอาจ จะต้องยอมรับทำความสะอาดซักรีดเสื้อผ้าที่เปื้อนให้ จากคุณ : styx เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 11:25:47

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นพนักงานบริการ แล้วต้องทำให้ได้ตามนี้เคร่งครัดขนาดไหน ส่วนตัวแล้ว ผมก็ไม่ทราบได้ เพราะไม่ได้ทำงานด้านนี้ แต่เนื่องจากมีคนข้างตัว เรียน และอยู่ในสายงานนี้ จึงต้องศึกษาเอาไว้บ้าง และเธอคนนั้นกล่าวไว้เสมอๆ ว่า "คนที่เรียนและทำงานทางสายงานนี้ เมื่อไปรับบริการจากที่อื่น มักจะจู้จี้จุกจิกเรื่องนี้เป็นธรรมดา" ซึ่งก็จริงอย่างที่เธอพูด คนเรายิ่งรู้มาก ยิ่งมีเรื่องให้ขัดใจมาก ในสิ่งที่ไม่ถูกตามหลักเกณฑ์ แต่หากว่า การบริการของพนักงานทั้งหลายที่เราไปใช้บริการนั้น ไม่ได้ละเมิดจากสิ่งที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น ผมว่าเค้าทำหน้าที่ของเค้าได้ดีแล้วครับ เพราะมาตรฐานของลูกค้าแต่ละคนตั้งเอาไว้ไม่เท่ากัน จึงอาจทำให้เกิดความไม่พึงใจอยู่บ้าง แต่หากเราเข้าใจในหลักการเหล่านี้ จะช่วยให้การไปรับประทานอาหารในที่ต่างๆ มีความสุขขึ้นนะ ผมว่า จากคุณ : styx เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 11:36:49

ความคิดเห็นที่ 12 สำหรับส่วนตัวผมนะครับ ทำได้ทั้งหมดแบบข้างบนนี่ถือว่าเป็นพนักงานชั้นเยี่ยมเลยครับ แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้ต้องการมากขนาดนั้น ถ้าทำทั้งหมดที่กล่าวมาบางทีผมอาจรู้สึกอึดอัดเกรงใจด้วยนะ แห่ะๆๆ จากคุณ : Spinnecker เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 12:59:33

ความคิดเห็นที่ 13 Vote ให้คะ จากคุณ : ปิ่นพิมุก (ปิ่นพิมุก) เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 14:46:45

ความคิดเห็นที่ 14   ถ้าบริการด้วยใจทุกอย่างจะออกมาดีได้  อันนี้ก็ต้องคนที่รักงานบริการจริงๆ คนที่ไม่รักงานบริการ ต่อให้สอนให้ยัดความรู้เข้าไปยังไงก็ไม่สนใจที่จะเรียนรู้ และปฏิบัติ ที่เจอมาขนาดเรียนด้านนี้มา  แต่ยังทำงานด้านนี้ได้ห่วยกว่าคนที่ไม่ได้เรียนมีเยอะมาก จากคุณ : JinHyun เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 18:45:37

ความคิดเห็นที่ 15 มาตรฐานของผมเองเวลารับบริการไม่ค่อยสูงครับ แค่ - แต่งกายเรียบร้อย ไม่ต้องมากครับขอแค่สะอาดไม่รุงรัง - พูดจาสุภาพ (กันเองก็ได้ เพราะผมอายุน้อย แต่ขอว่าไม่ลาม เพราะบางอย่างผมเคืองครับ) - ไม่ชักช้า หรือลืมนั่นลืมนี่ - ถ้าพลาดพลั้งทำอะผิดแล้วน่าจะขอโทษ จริงๆ ผมก็ไม่คิดจะเอาเรื่องใหญ่โต แต่ถ้าขอโทษจะทำให้ประทับใจมากขึ้นครับ (ไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบใดๆ อีกนอกจากที่เสียหายจริง) แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วครับ เพราะส่วนใหญ่มันขึ้นกับตัวอาหาร ราคา และคนที่ไปกินด้วยกันด้วย จากคุณ : LunaticNeko เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 52 22:05:40