ความคิดเห็นที่ 1 จ่ายห้าปอนด์ไปซึมซับความงามภายในที่ประดับประดาไปด้วยกระจกเขียนสี แท่นบูชาขนาดใหญ่ และงานประติมากรรมอันงดงาม ผมปล่อยอารมณ์ที่ฟุ้งซ่านให้สงบเย็นอยู่ราวชั่วโมงเศษก็ออกมา เพื่อไปยังเป้าหมายสำคัญของผมในยอร์คครับ นั่นก็คือร้านน้ำชาและขนมเลื่อชื่อของ เบ็ตตี้ (Bettys) ซึ่งโด่งดังขจรขจายไปในหมู่นักชิม ในพันทิปเองก็มีกระทู้ที่เคยกล่าวถึงและรีวิวอยู่เช่นกันครับ ทั้ง สัมปันนี (2551) และ party madness (2552) ได้ให้ความเห็นไปในทางเดียวกัน นอกจากนี้คำแนะนำของเพื่อนผมทั้งไทยและเทศหลายๆคน ก็เป็นเหตุให้กระผมต้องกระเสือกกระสนมาถึงที่นี่ครับ เดินตัดตรอกเล็กๆ หน้าวิหารมาจะพบกับร้านนี้ก่อนเลยครับ Little Bettys Café เครือเดียวกัน ขายของเหมือนกัน ถ้าร้านใหญ่คนแน่นมาก มานั่งร้านนี้แทนก็พอชดเชยกันไปได้ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:09:05

ความคิดเห็นที่ 2 หากแต่เป้าหมายของผมวันนี้ต้องไปให้ถึงร้านหลัก เพื่อไปดูให้เป็นประจักษ์แก่สายตาเสียก่อนว่า ที่แถวยาวเพราะรอโต๊ะในร้านนั้นเป็นอย่างไร เดินต่อตามถนนเส้นเดิมจนถึงจัตุรัสเซนต์เฮเลน ร้านดูใหญ่โตโอ่อ่า กว้างขวางและยาวกินพื้นที่หัวมุม ความยาวของร้านก็ไม่ต่างจากความยาวของแฟนานุแฟนที่แหแหนมารอของอร่อยเช่นกัน แม้ขณะนั้นจะสิบโมงครึ่ง เพียงชั่วโมงครึ่งให้หลังจากที่ร้านเปิดทำการ แต่แถวก็ยาวแล้ว ก่อนหน้าผมมีคนรอโต๊ะอยู่ประมาณห้ากลุ่ม แต่ผมก็ไม่ย่อท้อ ไปยืนรอกับเขาด้วย สักพักก็มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อีกเพียบ นักท่องเที่ยวที่อาจไม่รู้จักร้าน พอเดินผ่านไปมาก็คงงงว่าร้านนี้มีอะไร คนแน่นราวกับมีมหกรรมทานฟรีเชียวครับ ระหว่างรอ พนักงานก็จะนำเมนูมาให้นั่งชมนั่งเลือกไปพลาง สำหรับผมเองศึกษามาแล้วว่าจะทานอะไร เพราะทางร้านมีเมนูอยู่ในเว็บไซต์ให้เข้าไปชมกันได้ ผมเลยชมบรรยากาศร้านไปพลางๆ แทน และสิบห้านาทีผ่านไป เวลาของผมก็มาถึงครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:10:41

ความคิดเห็นที่ 3 เนื่องจากมาคนเดียวก็เลยได้โต๊ะมุมสุดตรงทางเข้าร้าน ไม่ใช่โต๊ะที่เห็นในรูปนะครับ เป็นโต๊ะตรงข้ามกัน เรียกว่าใครที่กำลังต่อแถวรออยู่ก็อดจะมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ระคนอิจฉาไม่ได้เลยครับ บางครั้งผมก็หันไปยิ้มให้บ้างเป็นที่สนุกสนาน หรือไม่ก็ส่งคำพูดผ่านกระจกไปว่า รอหน่อยประเดี๋ยวก็จะได้มานั่งแบบผม จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:14:00

ความคิดเห็นที่ 4 พอนั่งเรียบร้อย พนักงานจะรู้งานหยิบเมนูบนโต๊ะมาวางให้ลูกค้าทันที พร้อมทั้งบอกว่าอีกสักครู่จะมารับรายการ บริกรที่ดูแลโต๊ะผมนั้น เป็นหนุ่มสาวที่ต่างกันสุดขั้ว ฟากสาวนั้นสวยมากเป็นอังกฤษแท้ๆ ยืนยันได้จากสำเนียงและสำนวนการพูด แวะเวียนมาคุยกับผมบ่อยพอดู ส่วนบริกรชายนั้นน่าจะเป็นหนุ่มจีน ดูยังประหม่าอยู่พอควร คุยไปคุยมาทราบว่าเพิ่งมาทำงานได้เพียงสองวัน แต่เขาก็บอกผมว่าเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามากกับการได้มีโอกสมาทำงานในร้านที่มีชื่อเสียงระดับนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 52 06:15:25 จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:14:46

ความคิดเห็นที่ 5 ตัวเมนูนั้นจะมีทั้งรายการอาหารเช้า รายการอาหารจานหลักที่บริการตลอดวัน รายการของหวานและน้ำชายามบ่ายที่ให้บริการตลอดวันเช่นกัน แล้วก็มีเมนูพิเศษสำหรับฤดูคิมหันต์นี้ด้วย อาหารของที่นี่จะผสานกลิ่นอายความเป็นสวิส-ยอร์คเชอร์ เข้าไว้ด้วยกัน เพราะผู้ก่อตั้งร้านเป็นชาวสวิสที่เข้ามาในอังกฤษในช่วงต้นศตวรรษที่ยี่สิบ ตอนแรกตั้งใจจะเปิดร้านอาหารทางใต้ของอังกฤษ แต่เกิดจับพัดจับผลูนั่งรถไฟมาโผล่ที่แฮร์โรเกตในยอร์คเชอร์ ก็เลยได้มาตั้งร้านที่นี่แทนครับ นอกจากเมนูหลักแล้ว ก็ยังมีเมนูของฝากจำพวกขนมอบอีกมากมายให้เลือกสรร หรือหากจะสั่งเป็นกระเช้าใหญ่ก็สามารถกระทำได้ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:16:16

ความคิดเห็นที่ 6 วันนี้สั่งอาหารไปหนึ่งจาน ขนมหนึ่งอย่าง และชาอีกหนึ่งกา   บริกรรู้งานมากสั่งเสร็จจะถามความประสงค์ของลูกค้าทันที ว่าจะรับชาก่อนเลยหรือไม่หรือจะรับพร้อมอาหาร ซึ่งผมขอรับก่อน เพราะกระหายน้ำเต็มที จากการเดินมินิฮาล์ฟมาราธอนในเมืองนอกเสียรอบใหญ่ครับ สำหรับจานหลักและของหวานนั้น ผมขอให้มาพร้อมกัน เอามาชื่นชมกันให้เต็มโต๊ะ พนักงานจะได้ไม่ต้องเทียวบริการเสียหลายรอบครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:17:01

ความคิดเห็นที่ 7 รอเพียงอึดใจ ชาของผมก็มา วันนี้สั่งชาที่เป็น signature tea ของทางร้านนั่นก็คือ Bettys tea blended  ซึ่งเป็นชาอัสสัมในแบบที่ผมชอบ พูดถึงการดื่มชาของคนอังกฤษก็แปลก ผมเองเป็นคนเหนือที่ใจฝักใฝ่ทางใต้ เพราะจะรินนมก่อนการรินชา เหมือนแถบเดวอนเชอร์อะไรทำนองนั้นนะครับ ส่วนคนเหนือนี่เขาจะรินชาก่อนรินนม แล้วทั้งสองฝ่ายก็มั่นใจว่าตนเองถูกเสียเต็มประดา ส่วนผมนั้นรินนมก่อน ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือความสะดวกครับ จะได้รู้ว่าตนเองต้องการนมเท่าไรในถ้วย จะได้กะสัดส่วนได้ถูก มิได้มีลูกเล่นพิสดารอะไรเกินเลยไปกว่านั้นจริงๆครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:17:43

ความคิดเห็นที่ 8 กาน้ำชามาแล้วครับ ตามมาตรฐาน กาชาหนึ่งกา กาน้ำร้อนหนึ่งกาสำหรับเติม มาสองคนจะสั่งกาเดียวก็ได้ไม่เสียหายอะไร หรือมาคนเดียวจะสั่งสองชุดร้านก็คงไม่ขัดศรัทธาอะไรเช่นกันครับ เหยือกนมและที่กรองใบชาก็มาอย่างพร้อมสรรพตามมาตรฐานโดยไม่บกพร่องครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:18:23

ความคิดเห็นที่ 9 ดื่มชาไปด้วยกันกับผมนะครับ ระหว่างดื่มไปก็มองไปรอบๆร้าน คิวยังคงยาวเช่นเดิม ราวกับว่าจะไม่มีวันพร่อง เมื่อมีคนเข้าไปในร้านเพราะได้โต๊ะ ก็จะมีคนมาต่อแถวมากขึ้นเรื่อยๆ ไปไม่สิ้นสุด อาหารของผมมาช้าเสียหน่อย เพราะเตรียมนานครับ บริการทั้งชายและหญิงจึงแวะเวียนมาขอโทษถึงสองครั้ง พร้องแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้า นี่คือความน่ารักและใส่ใจที่ออกจะหายากหน่อยในร้านตามประเทศแถบตะวันตกครับ ผมเองฆ่าเวลาโดยการเอาเมนูมาทัศนาเล่น อย่างที่บอกครับ ว่าจะเห็นอาหารสวิสอยู่หลายอย่าง ทั้งมันโรสติ สวิสอัลไพน์มักกะโรนี รวมถึงอาหารท้องถิ่นของมณฑลยอร์กเชอร์อย่างไส้กรอกอันเลื่องชื่อ ดูไปแล้วกิเลสก็เกิดอยากจะสั่งโน่นนี่เพิ่ม แต่ก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้ก่อน เพราะยังต้องเที่ยวต่ออีกหลายที่ในวันนี้ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:19:10

ความคิดเห็นที่ 10 มาแล้วครับอาหารมื้อสายของผม poached egg and smoked haddock หรือไข่ดาวน้ำกับปลาแฮดดอกรมควัน ตัวปลานั้นเฉยๆ ผมเองนิยมปลาแฮดดอกน้อยที่สุดในบรรดาปลาของคนอังกฤษ เพราะว่าเนื้อมันจะยุ่ยและเละง่ายไปหน่อยในสายตาผมครับ ทางร้านทำในส่วนของปลาได้มาตรฐานครับ ตอนที่ยกมาบริการ บริกรเองก็จะถามว่า จะรับซอสอะไรเพิ่มเติมไหม ซึ่งผมเองก็ตอบไปว่าไม่เอาหรอก เกลือกับพริกไทยบนโต๊ะก็เพียงพอแล้ว ความจริงอยากจะตอบเหลือเกินว่าขอน้ำปลาพริกขี้หนู แต่กลัวว่าจะโดนเชิญออกนอกร้าน เลยต้องสงบเสงี่ยมไว้ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:19:59

ความคิดเห็นที่ 11 ในส่วนของไข่นั้น ถ้ามีคะแนนสักสิบก็คงให้เต็ม เพราะทำมาสุกในแบบที่ผมชอบนั่นก็คือ ไข่แดงจับตัวเป็นก้อน แต่ไม่สุก ยังมันๆ คาวๆ อร่อยอยู่ ถ้าเป็นบ้านเราก็ต้องบอกว่าเป็นยางมะตูมพอดีครับ สำหรับนักจับผิด รูปนี้ต่างจากรูปที่แล้วตรงที่มีเกลือและพริกไทย ด้วยผลงานการรังสรรค์ของผมเองครับ แต่ออกจะเป็นศิลเปรอะมากกว่าที่จะเป็นศิลปะ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:20:44

ความคิดเห็นที่ 12 ในชุดนี้นอกจากไข่กับปลา ในปริมาณที่พอเหมาะแก่การไหว้เจ้า แล้ว ก็ยังมีขนมปังมาให้ทานคู่กัน ขนมปังนี่ไม่รู้อบมาอย่างไร ข้านนอกกรอบข้างในนุ่ม ชุ่มน้ำมันเสียหน่อย เค็มๆ อร่อยกำลังดี (กรุณาอ่านแบบมีสัมผัสใน) เป็น malted grain toast ทานคู่กับไข่แสนจะเข้ากัน ผมเองนั้นลืมอ้วน ทานหมดทั้งหกชิ้นที่เขาให้มาเชียวครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:21:28

ความคิดเห็นที่ 13 อิ่มจากของคาวก็มาถึงของหวานกันบ้างนะครับ วันนี้สั่งของหวานประจำถิ่น คือ Yorkshire curd tart หรือถ้าพูดง่ายๆ ก็คือทาร์ตนมข้นตำรับยอร์คเชอร์ ตัวcurd ด้านในทาร์ตอร่อยมาก หวานหอมมันกลมกล่อมครับ มีกลื่นเครื่องเทศกับลูกจันทน์เจืออยู่หน่อยๆ แล้วไส้ในนั้นใช้ลูกเกดตัดความหวานของครีมข้นได้เป็นอย่างดี จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:22:07

ความคิดเห็นที่ 14 อีกสักรูปนะครับ ทาร์ตนี่ถ้าจะให้ดี ต้องทานเข้าคู่กับวิปครีม บริกรจะยกมาตักให้ที่โต๊ะ มองตาก็รู้ใจกันทันทีว่าอย่างผมช้อนเดียวไม่พอแน่ ก็เลยทำตัวเป็นน้องพลับเสียหน่อย เลยได้มาเพิ่มอีกหนึ่งช้อนครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:22:41

ความคิดเห็นที่ 15 ตามไปทานด้วยคนนะครับ poached egg น่ากินสุดๆเลยครับ จากคุณ : นมขาวเย็น เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:23:01

ความคิดเห็นที่ 16 อิ่มเสร็จถึงเวลาจ่ายเงินแล้วครับ จะบอกว่าร้านนี้ต้องยอมรับว่าแพงกว่ามาตรฐานเสียหน่อยครับ จานไข่เล็กๆกับปลานั่น 6.95 ปอนด์ ส่วนขนมหนึ่งชิ้นเล็กอยู่ที่ 3.50 ปอนด์ และน้ำชาหนึ่งกาอยู่ที่ 2.95 ปอนด์ เบ็ดเสร็จอาหารเบาๆ วันนี้จ่ายไป 13.4 ปอนด์ ราวๆ 750 บาท ราคานี้ปกติผมอยู่ได้สี่วันเลยนะครับ แต่นานๆ ทีไม่เป็นไร บ่อยๆ คงจะไม่ได้ เข้าใจครับว่าความแพงมาจากความเป็นเอกลักษณ์และคุณภาพของวัตถุดิบ ไปจนถึงสถานที่และการบริการ ที่ผมว่าเยี่ยมมาก ร้านเองพยายามคุมคุณภาพมากๆ โดยมีเพียงหกสาขาเท่านั้น และยังถือเป็นปณิธานของผู้บริหารที่จะไม่ขยายร้านออกไปนอกมณฑลยอร์คเชอร์เลย เพื่อรักษามาตรฐานการปรุงและการผลิตไว้ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:23:46

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามารอดูอาหารค่ะ จากคุณ : prinzessin เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:24:48

ความคิดเห็นที่ 18 ยินดีครับ คุณ นมขาวเย็น ถ้ามีโอกาสก็เชิญครับ ผมเองกลับไปอาทิตย์หน้า ก็คงจะไปตามรอยคุณหลายที่เช่นกันครับ อิ่มเสร็จก็เดินลงไปเข้าห้องน้ำ ข้างล่างเองก็ยังมีส่วนของห้องอาหารอยู่ แต่คงเปิดเป็นบางครั้งบางคราวครับ ชั้นล่างนี้สมัยสงครามโลกครั้งที่สองเคยเป็นบาร์และที่สังสรรค์ของบรรดาทหารอเมริกันและแคนาเดียนด้วย ก่อนออกจากร้าน แวะไปดูมุมที่ขายของ ได้คุกกี้แบบสวิสมาอีกหนึ่งกระป๋อง ซึ่งหมดตั้งแต่กลับมาวันแรกเพราะอร่อยจริงๆ ครับ ปิดท้ายกันด้วยชื่อเบ็ตตี้ที่หลายคนสงสัย ว่ามาจากไหน แม้ปัจจุบันผมเองก็ยังไม่ได้คำตอบ เพราะมีหลายทฤษฎีและข้อมูลที่นำมาอ้างเหตุผล ราวกับคำถามว่าคนไทยมาจากไหน อย่างไรอย่างนั้นเลยครับ แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งสลักสำคัญอะไร สาระสำคัญจริงๆ อยู่ที่คุณภาพและบริการของทางร้านเสียมากกว่าที่คงรักษาชื่อเสียงที่สั่งสมมาเก้าสิบปีของร้านไว้ได้นานต่อไปเพียงใดครับ สำหรับผม Bettys คือร้านที่เป็นทางเลือกแรกในยอร์คอย่างแน่นอนครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:25:39

ความคิดเห็นที่ 19 ยังเหลืออีกร้านครับคุณ prinzessin เป็นร้านยอดเยี่ยมของสกอตแลนด์ด้วยครับ อิ่มมื้อสายก็มีแรงเดินเที่ยวต่อแล้วครับ เมืองนี้ผสานความเก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว กำแพงและป้อมปราการยังปรากฏเป็นเขตเมือง ขณะเดียวกันร้านรวงอันทันสมัย โรงพยาบาลขนาดใหญ่ มหาวิทยาลัย สถานีรถไฟเองก็มีครบครัน นอกจากนี้ยังมีตลาดเล็กๆ ตรงนิวเกท ขายของสารพัดสารพัน เดินดูได้ไม่เบื่อ ตึกสวยๆ ก็เยอะ ร้านรวงเองก็ตกแต่งแบบเก่าตามไปด้วย ไม่แปลกใจเลยครับ ที่เมืองนี้จะมีชีวิตชีวาและลมหายใจ แฝงอยู่ทั่วทุกถนนและตรอกที่รุ่มรวยไปด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:27:09

ความคิดเห็นที่ 20 เดินตลาด ไปแวะร้านหนังสือที่กำลังเลหลัง จนได้หนังสือมาหลายเล่ม ก็ได้เวลามาหย่อนใจริมแม่น้ำ Ouse ถ้าเวลาเยอะก็อาจจับเรือล่องแม่น้ำอูซนี้เล่นก็ได้นะครับ เพลินตาเพลินใจดีครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:27:52

ความคิดเห็นที่ 21 เวลาที่เหลือในช่วงเที่ยงถึงบ่าย ผมใช้เวลาไปกับพิพิธภัณฑ์รถไฟ ที่เขาว่าใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ด้วยความเป็นชุมทางรถไฟของยอร์คนั่นเองครับ ได้เห็นทั้งยูโรสตาร์ ชิงคันเซน ฟลายอิง สกอตแมน รวมไปถึงโทมัสและผองเพื่อนด้วย หมดเวลากับที่นี่ไปราวสามชั่วโมงครับ จากนั้นก็ไปซื้อของต่อเสียหน่อย ได้ของมาพอสมควร ก่อนที่จะโดยสารรถไฟเที่ยวหกโมงเย็น ถึงเอดินเบอระตอนสองทุ่มครึ่งครับ ในรูปที่เห็นนี่เป็นโถงกลางของพิพิธภัณฑ์ซึ่งจัดแสดง รถไฟพระที่นั่ง ทั้งของควีนมัม หรือแม้กระทั่งของสมเด็จพระราชินีนารถวิคตอเรีย แล้วก็จะมีโถงที่ว่างเป็นร้านอาหาร ตอนบ่ายมีบุฟเฟ่ต์น้ำชาด้วยนะครับ เห็นเขาจัดไลน์อยู่แต่ผมไม่ได้สนใจเท่าไรครับ เพราะเวลาไม่เอื้ออำนวย เป็นอันจบหนึ่งวันกับยอร์ค ที่ผมไม่อาจพูดอะไรไปมากกว่าการขอยืมสโลแกนจากการท่องเที่ยวยอร์คมาใช้ที่ว่า “York, The UK’s Favourite City” ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:28:51

ความคิดเห็นที่ 22 จบไปหนึ่งเมืองครับ มาถึงเมืองที่สอง นั่นก็คือบ้านที่สองของผม นั่นก็คือเอดินเบอระ ก่อนหน้านี้บ้านที่สองของผมจะหมายถึงสิงคโปร์และซิดนีย์ ค่าที่เมืองแรกนั้นไปมาหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน หลับตาเดินได้ แถมรู้ดีกว่าคนท้องถิ่นในบางเรื่องเสียอีก ส่วนเมืองหลังนั้นได้มีโอกาสไปร่ำเรียนในหลักสูตรพิเศษเป็นระยะเวลาสั้นๆ รวมทั้งมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นมากมายที่นั่นครับ แต่อย่างว่าครับ เวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน วันนี้เอดินเบอระ ทำเอาสองเมืองนั้นชิดซ้าย ไม่ได้แซงขวา เอดินเบอระนั้นถูกโหวตว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในสหราชอาณาจักรมาหลายปีดีดักจากหลายๆสำนัก เหตุผลหลักๆ ก็เพราะ ความสอดผสานวัฒรธรรมเก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว มีเทศกาลศิลปะที่ใหญ่ที่สุด สะอาดสะอ้าน อัตราอาชญากรรมต่ำมาก ใกล้แหล่งธรรมชาติทั้งการเดินป่า สกี ชายหาด ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงจากกลางเมือง มีห้างและร้านค้าดีๆมากมาย แต่เหตุผลข้อหนึ่งที่น่าจะเหมาะกับห้องก้นครัวที่สุดก็คือ มีร้านอาหารเด็ดๆมากมาย และผับบาร์ที่เปิดกันยันเช้า ครึกครื้นและไม่มีวันเงียบเหงาครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:30:01

ความคิดเห็นที่ 23 ร้านที่ผมจะไปทานวันนี้ เป็นร้านที่เขาว่า และตอนนี้ผมก็ว่า ว่าเป็นร้านที่ดีที่สุดในเมือง ด้วยหนึ่งดาวมิชลิน 4 AA Rosettes รางวัลเชฟประจำปี และอื่นๆ อีกมากมาย ร้านนี้ชื่อ Martin Wishart ครับ มาร์ติน วิชาร์ด เป็นร้านเล็กๆ ไม่น่าเกินหกสิบที่นั่งอยู่ตรง The shore ย่านที่ผมว่าเก๋ที่สุดในแง่ของการมาหาอะไรรับประทาน เพราะมีร้านดีๆ มากมาย และสามในสี่ร้านดาวมิชลินของเมืองก็ตั้งอยู่ในย่านนี้ นั่นก็คือ The Kitchin by Tom Kitchin Plumedhorse ซึ่งแต่เดิมอยู่นอกเมือง แต่เพิ่งย้ายมาเปิดใหม่ได้สักไม่กี่เดือนครับ แล้วก็สุดท้ายก็คือ มาร์ติน วิชาร์ด ส่วนอีกร้านนั้น คือร้าน The Number One อยู่ที่โรงแรมบัลมอรัลกลางเมือง โรงแรมสุดหรูที่ครั้งหนึ่ง เจ เค โรว์ลิ่ง เคยปิดห้องสวีทเพื่อเขียนภาคสุดท้ายของวรรณกรรมชื่อดังอย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ (แม้ว่าภาคแรกเธอจะเขียนในร้านน้ำชาเล็กๆ ครับ) จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:31:36

ความคิดเห็นที่ 24 การจะไปทานที่ร้านมาร์ติน วิชาร์ดนั้น ก็เหมือนร้านหรูทั่วไปคือต้องโทรไปจองก่อน จะบุ่มบ่ามเข้าไปไม่ได้ ไม่เช่นนั้นบริกรจะตอบมาหน้าตาเฉยเอาว่าที่เต็ม ผมเองนั้นนั่งรถผ่านบ่อย แต่ไม่เคยมีโอกาสสักที ด้วยความที่เป็นนักเรียนธรรมดาเบี้ยน้อยหอยน้อย จนกระทั่งตัดสินใจเจียดเงินขอลองสักครั้งก็แล้วกัน เมื่อคิดได้ก็ตัดสินใจจองผ่านเว็บ ต้องกรอกรายละเอียดพอควร รอวันรุ่งขึ้นทางร้านก็จะอีเมล์ยืนยันกลับ แต่ช้าก่อน เพราะยังไม่เรียบร้อยครับ เราจะต้องโทรไปยืนยันกับทางร้านอีกรอบ จากนั้นก็ไปให้ตรงเวลานัดก็เป็นอันเรียบร้อยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:32:42

ความคิดเห็นที่ 25 ตัวร้านนั้น ห่างจากบ้านของผมเพียงชั่วลัดนิ้วมือเดียวหรือราวเจ็ดป้ายรถประจำทาง เดินเอาก็ได้ แต่ประเดี๋ยวจะหมดหล่อ นั่งรถราวสิบนาทีก็ถึง ลงหน้าร้านแล้วก็ผลักประตูเข้าไป ร้านหรูเฉียบมาก ผมเองก็เลยเกร็งตามไปด้วย บริกรมาต้อนรับอย่างดี ถามชื่อเสียงเรียงนามแล้วก็พาไปนั่งยังโต๊ะที่จองไว้ครับ ตอนเที่ยงสิบห้าที่ผมไปนั้นมีอยู่สองโต๊ะ แต่ตอนบ่ายสองที่ผมเดินออกมานั้นคนเต็ม ใครบอกว่าเศรษฐกิจอังกฤษไม่ดีนี่ผมถียงสุดใจขาดดิ้นเลยทีเดียวเชียว จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:33:27

ความคิดเห็นที่ 26 นั่งเสร็จ บริกรจะเริ่มมาทักทายก่อน ถามไถ่ประดุจญาติสนิท แต่ก็แฝงไปด้วยพิธีรีตองที่ต้องบอกว่า เนี๊ยบและเป๊ะตามมาตรฐานมิชลิน ฟังดูดังนี้แล้วเหมือนทั้งบริกรและคนทานอย่างผมจะเกร็ง แต่เปล่าเลยครับ ผมกลับรู้สึกผ่อนคลายพอสมควร ด้วยความเป็นมืออาชีพของบริกร อ้อ ลืมบอกไป ร้านแบบนี้ไม่มีบริกรสาวมาให้ผมตื่นตาตื่นใจ มีแต่บริกรหนุ่มแต่งตัวหรูเฉียบและหน้าตาดีแบบไปแสดงละครแถบเวสต์เอนด์ได้สบายๆครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:34:20

ความคิดเห็นที่ 27 สิ่งแรกที่บริกรถามคือเครื่องดื่ม ผมเองก็ดื่มเหมือนเคย น้ำแร่อัดก๊าซครับ ง่ายดี ไม่ต้องคิดมาก เสิร์ฟมาขวดลิตรเห็นจะได้ เรื่องเทน้ำนี่ไม่ต้องบอก รู้จังหวะมากพร่องในระดับหนึ่งจะมีคนมาเติมเต็มทันที ไม่มีทางหมดแก้ว แล้วต้องหยิบมาเติมเองเป็นอันขาดครับ เครื่องดื่มมาเสร็จ จะถึงเวลาของเมนูครับ มาหนึ่งเล่มใหญ่ มีเมนูสามแบบ คือแบบชุดกลางวันสามคอร์ส อาลาคาร์ทเมนูสามคอร์ส หรือเทสติ้งเมนูหกคอร์ส บริกรก็จะแนะนำว่าแต่ละแบบเป็นอย่างไร ซึ่งผมว่าเขาฝึกพนักงานตรงนี้ดีมาก เข้าขั้นบริกรสัพพัญญู รู้มันไปเสียทุกเรื่อง ถามอะไรก็ตอบได้หมด อธิบายเสร็จ เขาจะไม่กวนเรา แต่จะยกอาหารจานอภินันทนาการมารอท่า พอสั่งเสร็จขนมปังก็จะมาทันทีครับ วันนี้ผมสั่งชุดกลางวันซึ่งดูย่อมเยาสุดสำหรับคนเงินไม่หนาอย่างผมครับ พูดถึงเมนู ยังมีไวน์ลิสต์อีกหนึ่งเล่มใหญ่ ทั้งหนาและหนักกว่าตำราเศรษฐศาสตร์จุลภาคที่ผมใช้เรียนเสียอีก ผมเองเป็นคนไม่ดื่ม ดื่มเป็นแต่แชมเปญ แต่ก็ไม่มียี่ห้อที่ถูกใจและถูกเงินในกระเป๋าเลยขอข้ามไป แต่รู้สึกว่าทุกโต๊ะจะเปิดไวน์กันหมดเลยครับ เหมือนเป็นธรรมเนียมทั่วไปที่ดื่มกันอยู่แล้ว จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:35:13

ความคิดเห็นที่ 28 กลับมาเรื่องของอภินันทนาการดีกว่าครับ มีสองอย่าง พนักงานนพูดเร็วมากจนผมจำไม่ได้ว่ามันคืออะไร อย่างแรกจำได้ เป็นฮักกิส (haggis ball) ทำมาแบบลูกชิ้น แล้วเอาไปชุบแป้งทอด ไม่อยากจะบอกว่านี่เป็นฮักกิสที่อร่อยสุดตั้งแต่ทานมา ฮักกิสเองเป็นไส้กรอกพื้นเมืองแบบสกอต เป็นเครื่องในวัวหรือแกะ ทั้งตับ หัวใจ ปอด บด รวมกัน ยัดในกระเพาะแกะ ผมว่าเป็นสิ่งที่ควรลอง แม้ไม่ชอบแต่สักครั้งหนึ่งก็ยังดีครับ ผมว่าทางร้านเข้าใจคิดมาก ทำออกมาได้อร่อยและไม่เหลือเค้าเดิม คนไม่รู้อย่างไรเสียก็ทานได้ครับ แต่อย่าให้รู้เชียว เหมือนเพื่อนผมบางคนที่ถึงขั้นบอกศาลาไปเลยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:36:02

ความคิดเห็นที่ 29 จานอภินันทนาการจานที่สอง จานนี้ผมจนด้วยเกล้าจริงๆ ไม่รู้คืออะไร ถ้ามีผู้อนุเคราะห์บอกกล่าว จะเป็นพระคุณยิ่งครับ ผมเข้าใจว่ามันคือมะกอกดอง เพราะรสชาติและรสสัมผัสผมบอกว่าเป็นเช่นนั้น ร้านนี้ใส่ใจมากจะมีการเตรียมถ้วยมาให้คายเปลือกเป็นการต่างหากด้วยครับ พอจัดการเสร็จ บริกรจะรู้งานมาเก็บทุกอย่างไปเป็นที่เรียบร้อย จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:36:42

ความคิดเห็นที่ 30 รูปนี้ไม่มีอะไรเพียงแต่ให้เห็นว่าร้านเล็กจริง ติดถนน เพียงแต่จะมีมู่ลี่ที่คนข้างนอกมองเราไม่เห็น แต่เราจะเห็นความเป็นไปด้านนอกครับ ขวดที่เห็นคือน้ำแร่อัดก๊าซ ราคา 4.95 ปอนด์ ขาดตัวครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:37:29

ความคิดเห็นที่ 31 มาถึงสิ่งที่ยกมาเป็นลำดับถัดมา นั่นก็คือขนมปัง ที่นี่จะใช้เชฟแยก คือมีมาร์ติน วิชาร์ดเป็นเหมือนผู้ควบคุมดูแลมาตรฐานทั้งหมด มีเชฟใหญ่อีกท่านดูแลในส่วนอาหารคาว และอีกท่านเป็นเพสทรีเชฟ ดูแลในส่วนของหวานและขนมอบครับ ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่า ขนมปังเปล่ายังอร่อยมาก กรอบนอกนุ่มใน และอุ่นๆ พอดี เรียกว่าทานขนมปังแล้วอร่อย จนเพ้ออยากเห็นอาหารที่สั่งไปวันนี้ทีเดียวครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:38:13

ความคิดเห็นที่ 32 แน่นอนครับมีขนมปังก็ต้องมีเนย ไม่ต้องกลัวว่าจะพร่อง เพราะแค่ใกล้หมด บริกรจะปรี่มาถามเลยว่าจะรับเพิ่มไหม บริการนี่กินขาดสุดๆครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:38:44

ความคิดเห็นที่ 33 ยังไม่เข้าจานเรียกน้ำย่อยนะครับ เพราะที่นี่เสิร์ฟแบบมาตรฐานฝรั่งเศส ต้องเริ่มต้นด้วย amuse bouche กันก่อน วันนี้อะมุซ บุชมีสามอย่าง บริกรมาเร็วเคลมเร็วอีกแล้ว ฟังไม่ทัน แต่ก็เก็บรายละเอียดมาได้บางส่วน ถ้าผิดพลาดไปอย่างไร ก้ขอน้อมรับเอาไว้ด้วยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:39:28

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้วยแรกครับ เป็นซุปหน่อไม้ฝรั่งแบบเย็น ข้างล่างรองด้วยแมงโกชัทนี่ย์ คล้ายๆ แยมมะม่วงครับ บริกรบอกจะยกดื่มหรือตักก็ได้ ผมว่ารสชาติดี ข้างบนเค็มมันข้างล่างเปรี้ยวหวาน ผสานกันลงตัวครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:40:09

ความคิดเห็นที่ 35 อันที่สองนี่แหละครับที่ผมจำไม่ได้ว่าคืออะไร ฟังไม่ทันด้วย บริกรท่านไม่ทวนซ้ำหรือบอกให้โปรดฟังอีกครั้งหนึ่งเสียด้วย ผมจับความได้ว่าคือโพเลนตา แต่ไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ เพราะรู้สึกมันไม่เหมือน  แต่ไม่ว่ามันจะคืออะไร ก็ตกไปอยู่ในกระเพาะผมเป็นที่เรียบร้อยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:40:42

ความคิดเห็นที่ 36 จานสุดท้าย อันนี้เริ่มมีทักษะที่ดีขึ้น ปรับหูได้แล้ว และโต้ตอบกับบริกรได้ เลยรู้ว่า เป็นบีทรูทผสมกับแบลกพุดดิ้งหรือไส้กรอกเลือดแบบสีดำ  ไม่ได้แดงแบบโชริโซของสเปนนะครับ ก็อร่อยดี แต่ที่เด็ดสุดคือที่โรยหน้ามาเป็นข้าวทอด ทานแล้วอยากจะร้องไห้คิดถึงข้าวแต๋นที่บ้านขึ้นมาจับใจครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:41:22

ความคิดเห็นที่ 37 จัดการอะมุซบุชเรียบร้อย บริกรจะมีเว้นช่วงนิดหน่อยแบบพอดี ก่อนที่อาหารเรียกน้ำย่อยของจริงจะมาเสิร์ฟ ในอาหารชุดกลางวันจะมีให้เลือกได้สองรายการ และเมนูจะเปลี่ยนทุกอาทิตย์ เผื่ออยากจะมาทานบ่อยๆ จะได้ไม่เจอซ้ำเดิมครับ เท่าที่สังเกต ถ้าใครมาเป็นคู่ บริกรจะแนะนำให้สั่งทั้งสองจาน เพื่อจะได้แบ่งกันชิมได้ครับ ผมมาคนเดียวเลยแย่ไป สำหรับจานเรียกน้ำย่อยอีกจานที่ผมไม่ได้เลือกคือ ริซอตตโต้มากับ girolles ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นเห็ดอย่างหนึ่ง แล้วก็ทรัฟเฟิลครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:42:07

ความคิดเห็นที่ 38 ส่วนจานที่ผมเลือกนั้น ต้องมีเนื้อมีหนังเสียหน่อย แซลมอนรมควันจากเขตเช็ทแลนด์ เป็นเกาะทางตอนเหนือของสกอตแลนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องแซลมอนครับ แซลมอนนั้นหมักมาใน ceviche หรือน้ำส้มซิตรัส แล้วก็ยังมี razor clam น่าจะเป็นหอยหลอดฝรั่ง แล้วก็หอยเชลล์มาในจานเดียวกันด้วย รวมๆ แล้วผมชอบมาก เปรี้ยวนำหอมกลิ่นส้มมะนาวนิดๆ  ตัวหอยและปลาก็สดมาก ทานแล้วนึกถึงพล่าอาหารทะเลขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก รสชาติจัดจ้านเหมือนกัน แต่ของมาร์ติน วิชาร์ดจะไม่ออกรสเผ็ดก็เท่านั้นครับ สรุปจานนี้ก็เต็มสิบครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:43:14

ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อจานเรียกน้ำย่อยผ่านไป บริกรจะเว้นช่วงในระยะเวลาเดียวกับที่รอจานเรียกน้ำย่อยในตอนแรกครับ ระหว่างนี้บริกรนำขนมปังมะกอกที่เพิ่งอบใหม่มาเสนอ ผมเองก็สนองเสียเต็มที่ ถึงตอนนี้ลองเชิงขออย่างอื่นที่ไม่ใช่เนย แล้วก็ผิดคาด หรือจะเป็นไปตามคาดดีก็ไม่รู้ครับ เพราะบริกรท่านก็สาธยายว่ามีทั้งเนยธรรมดา เนยปรุงรส เนยเทียม แต่ผมเองก็ไม่ย่อท้อลองของต่อ ขอน้ำมันมะกอก ซึ่งบริกรท่านก็ยังจาระไนได้ต่อไปอีกว่าจะเอาแบบใด สุดท้ายเลยยอมแพ้ ขอ extra virgin olive oil มาเป็นที่เรียบร้อยครับ อย่างที่บอกครับ ขนมปังก็ไม่ทำให้ผิดหวังเหมือนเคยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:44:11

ความคิดเห็นที่ 40 จานหลักมีให้เลือกสองแบบเหมือนเคยครับ จานที่ผมไม่ได้เลือกนั้นเป็นปลา monkfish แต่เอามาทำอะไรนี่จำไม่ได้จริงๆ เพราะลืมถ่ายตัวเมนูมา แต่เห็นรองจานมาด้วยผักโขมเทือกๆ นั้นครับ ส่วนของผมเป็นไก่ครับ ตอนที่ยกมานั้นจานเล็กมาก จนนึกปรามาสเอาไว้ในใจว่า จะทานอิ่มหรือ หารู้ไม่ ว่าทานครบทุกคอร์สวันนั้น กลับบ้านไปยังจุกแทบแย่เลยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:44:42

ความคิดเห็นที่ 41 จานหลักนี้เป็นไก่อบครับ ไก่จะต้องใช้ส่วนอก มาจาก เครกฟาร์มเท่านั้น อบมากำลังดี ส่วนที่รองจานมาเป็นอะไรนั้นผมก็ลืมไปจริงๆ ครับ แต่ข้างบนนี่จำได้แม่นว่าเป็น turnip หรือหัวผักกาด ราดมากับซอสตับห่านครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:45:22

ความคิดเห็นที่ 42 ซูมกันให้ดูอีกทีครับ ไก่นั้นนุ่มมากๆ ฉ่ำด้วยความหวานของเนื้อและซอส อร่อยสุดๆ ครับ ผมเองไม่ชอบไก่เท่าไร ยังอดเทใจให้จานนี้ไม่ได้ครับ ส่วนหัวผักกาดนั้นขมนิดๆ ตัดกับซอสตับห่านที่เค็มๆ มันๆ ได้เป็นอย่างดีครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:46:00

ความคิดเห็นที่ 43 หมดไปปสองคอร์สแล้ว ตอนนี้ก้จะเว้นระยะนานเล็กน้อย ก่อนจะเข้าสู่ของหวาน ถึงเวลานี้บริกรก็จะมาชวนพูดคุยอีกเล็กน้อย สอบถามถึงรสชาติอาหาร มาเคลียร์โต๊ะ รวมทั้งสอบถามว่าจะรับชีสเพิ่มอีกหนึ่งคอร์สหรือไม่ หากรับเพิ่มก็จะเข็นรถไปให้เลือก รู้สึกจะเลือกได้สี่อย่างครับ ในรถชีสเองก็จะมีเครื่องเคียงครบถ้วน ทั้งผลไม้สด ผลไม้แห้ง ประดาถั่ว รวมไปถึงขนมปังกรอบครับ ถ้าอยากทานพิ่มก็จ่ายสิบห้าปอนด์ครับ และหากอยากเอาชีสไปแทนที่ของหวานก็จะต้องจ่ายเพิ่มสิบปอนด์ครับ ซึ่งผมบอกผ่านเพราะเริ่มรู้สึกอิ่มครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:46:55

ความคิดเห็นที่ 44 ของหวานนี้จะเว้นช่วงราวสิบนาที มีให้เลือกสองอย่างเหมือนเคย พูดถึงของหวานนี่พลาดไปหน่อย เพราะอีกตัวเลือกหนึ่งดูน่าทานกว่า สังเกตจากตอนที่ยกมาบริการโต๊ะอื่นๆ เป็น ราสเบอร์รี่ซูเฟล มาพร้อมกับราสเบอร์รี่เยลลี่และเชอร์เบต ดูฟูจากถ้วยน่าทานมาก แต่ของผมเองก็น่าทานไม่แพ้กันครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:47:36

ความคิดเห็นที่ 45 ไก่ท่าทางจะนุ่มากๆเลยนะครับเนี่ย หิวแต่เช้าเลยครับ แหะ แหะ จากคุณ : นมขาวเย็น เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:47:47

ความคิดเห็นที่ 46 ของผมนั้นเป็น pineapple cannelloni หรือสับปะรดอบยัดไส้ ผมเคยทานคาเนลโลนี่ที่เป็นของคาว พอมาเป็นขนมอบก็เลยอยากลอง อร่อยไม่แพ้กันครับ เชฟเลือกที่จะให้ความหวานและเปรี้ยวตัดกันได้ลงตัว มีครีมแต่งมาในจาน แล้วก็ไม่ลืมทำฟองตามสมัยนิยมกับเขาด้วย จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:48:11

ความคิดเห็นที่ 47 ของผมจะตีหนึ่งแล้วครับ คุณ นมขาวเย็น พรุ่งนี้ต้องไปธุระที่นิวคาสเซิลตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าด้วย อาจจะมีมื้อดึกเหมือนกันครับ สรุปรสชาติก็ผ่านเหมือนเคยครับ อ้อ ลืมไปว่าจะมีน้ำสับปะรดมาให้ราดเพิ่มเติมด้วย เผื่อชีวิตใครยังขาดรสชาติหรือยังเปรี้ยวเข็ดฟันไม่พอครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:50:06

ความคิดเห็นที่ 48 แม้จะหมดคอร์สของหวาน แต่ตามธรรมเนียมครับ ต้องยก petit fours มาปิดท้าย ผมเลถือโอกาสนี้สั่งกาแฟไปด้วยเลยในตัวครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:50:35

ความคิดเห็นที่ 49 เมื่อสักครู่ ให้ชมรูปภาพรวมของเพตติ เฟอ ไปแล้ว คุณบริกรท่านก็เข้าสูโหมดเลกเชอร์กับผมทันที หนนี้มีถามตอบด้วย นักเรียนที่ดีอย่างผมตอบคำถามถูกหมด เริ่มจากมาการงผสมมะพร้าวและมะนาว แบบเดียวกับที่ใส่มาในของหวานของผมครับ รสชาติอร่อยลืมโลกเลยทีเดียว จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:51:20

ความคิดเห็นที่ 50 อย่างถัดมา คือช็อกโกแลต สามสีหกก้อน ผมทำแฮตทริกตอบไส้ในถูกทั้งหมด แหม ตอบถูกสามข้อน่าจะให้ทานฟรีสามคอร์สนะครับ ไล่จากซ้ายไปขวา สีแดงคือ ราสเบอร์รี่ สีเหลืองคือเสาวรส และสีดำแน่นอนว่าต้องเป็นสกอตวิสกี้ อร่อยหมดทุกไส้ครับ โดยเฉพาะเสาวรส คนเกลียดเสาวรสเข้ากระดูกดำอย่างผมฟาดเรียบวุธไปเป็นอย่างแรกครับ ส่วนไส้วิสกี้ ผมทานพอให้รู้รสก็ใช้ได้ เพราะโดยส่วนตัวผมไม่ถูกโรคกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสียเท่าไรครับ ปิดท้ายที่นูกัตอันนี้ของโปรดผมเลย อร่อยสุดๆ ครับ ลืมร้านโปรดที่เจนีวาไปได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียวครับ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 52 06:52:26 จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:51:56

ความคิดเห็นที่ 51 ปิดท้ายด้วยกาแฟ ครับ ที่นี่มาแปลกคือมีน้ำตาลให้อย่างดียว ส่วนนมจะยกเหยือกมารินให้เอง จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ใจคุณบริกร แต่ของผมเขารินมาในระดับที่ผมชอบพอดี เลยไม่ได้ทักท้วงอะไรครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:53:11

ความคิดเห็นที่ 52 โอ้ว ไปนิวคาสเซิล เมืองนี้อยู่ไปทางอีสานๆของอังกฤษหน่อยป่ะคับ เคยรู้มาจากฟุตบอลอ่ะคับ อิอิ จากคุณ : นมขาวเย็น เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:53:47

ความคิดเห็นที่ 53 กาแฟของผมครับ หรือจะเลือกชาก็ได้ ราคาเท่ากันคือ 4.95 ปอนด์ครับ พอเลือกกาแฟ บริกรก็จะถามว่ารับแบบไหนครับ ผมเองไม่ใช่คอกาแฟ ทั้งชีวิตรู้จักก็แค่ เอสเปรซโซ่ คาปูชชิโน่ อ้อ รู้จักลองแบล็คกับแฟลตไวท์ด้วย แต่หนนี้เลือกแบบปลอดภัยสุด เลยสั่งดีคาฟ (Decaffeinated) มาแทนครับ ก็ดีครับเดือนละแก้ว ไม่มากเกินไป จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:54:14

ความคิดเห็นที่ 54 ใช่ครับ แต่รู้สึกตกชั้นไปแล้วครับ น่าจะเหลือซันเดอร์แลนด์ที่ยังอยู่ครับ หมดแล้วครับ สองชั่วโมงในร้าน กับสามคอร์ส แล้วก็มีคอร์สย่อยๆ อีก สิริรวมก็หกคอร์ส ค่าอาหาร 24.50 ส่วนค่าน้ำอัดก๊าซและกาแฟรวมกัน 9.90 เบ็ดเสร็จ 34.40 ปอนด์ครับ ตามปกติแล้ว ร้านต่างจังหวัดจะไม่คิดค่าบริการ แต่ถ้าโต๊ะใหญ่เช่นเกินหกคนถึงจะคิดที่ร้อยละสิบ แต่ถ้าเป็นในนครหลวงอย่างลอนดอน ร้านหรูนี่คิดค่าบริการร้อยละสิบสองจุดห้าทันทีไม่ว่าจะมากี่คนครับ แน่นอนว่าบริการถึงอกถึงใจพระเดชพระคุณ มีประสิทธิภาพแต่เป็นกันเองขนาดนี้ ผมก็ต้องทิปแน่นอน ก็ทำให้มันเป็นเลขกลมจ่ายไป 39 ปอนด์ถ้วนครับ อิ่มเสร็จบริกรยังอุตส่าห์ถามว่าจะให้เรียกแท็กซี่หรือไม่ ซึ่งก็ปฏิเสธไป เพราะต้องเดินไปทำธุระที่ธนาคารใกล้ๆ กันต่อครับ ถ้าถามใจผม ก็ต้องบอกว่านี่คือร้านที่ดีที่สุดจริงๆ ในเมืองนี้ ด้วยรางวัลมากมายที่เป็นเครื่องยืนยัน และการมาได้มาสัมผัสจริงๆ ด้วยตัวของผมเองก็ถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าครับ แต่คงมาได้ไม่บ่อยนัก ด้วยข้อจำกัดอันมากมาย ยินดีรับฟังทุกความเห็น และขอบคุณที่เข้ามาชมด้วยใจจริงครับ ถ้ามีเวลาตอนหน้าจะพาไปชิม ที่ไอร์แลนด์เหนือ (ซึ่งไปมาสองรอบแล้ว) ข้ามมาสกอตแลนด์และยาวลงไปถึงนิวคาสเซิลในอังกฤษครับ  และคงจะมีตอนเอดินเบอระเฉพาะอีกสักตอนก่อนกลับ ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งและสวัสดีครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 06:55:59

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆนะครับ ปีหน้าไปอังกฤษจะขอตามไปซ้ำบ้างนะคับ จากคุณ : นมขาวเย็น เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 07:00:55

ความคิดเห็นที่ 56   อาหารน่าทานมากๆ เลยครับ อิจฉาๆ เอิ้กๆ จากคุณ : Call_me_HerO เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 07:14:31

ความคิดเห็นที่ 57 น่าทานทุกจานเลยค่า ขอบคุณนะคะ จากคุณ : breadaholic เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 08:09:48

ความคิดเห็นที่ 58   ขอบคุณ จขกท.ที่พาเที่ยว พาไปรู้จักในสิ่งที่ยังไม่เคยรู้เคยเห็น และถูกใจที่สุดสำหรับภาษาไทยที่ถูกต้องสละสลวยชวนอ่านค่ะ จากคุณ : บุษบา เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 08:19:40 A:117.47.40.226 X: TicketID:151159

ความคิดเห็นที่ 59 ชวนอ่านเพลินอีกแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : miracle_rainyteddy เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 09:43:59

ความคิดเห็นที่ 60 รูปเทพมากกก... และบรรยายได้ยอดเยี่ยมเหมือนเคยนะครับ ปล. พึ่งไปเที่ยวเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้จังหวะลงรูป :) จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 09:55:14

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ ค่ะ ได้ทั้งความรู้แปลกใหม่ และการใช้ภาษาสละสลวยถูกต้องน่าอ่าน จากคุณ : Metaphore เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 10:22:02

ความคิดเห็นที่ 62 สุดยอดรีวิวเลยครับ ประทับใจทั้งสองร้านเลยครับ ขอบคุณมากๆครับผม จากคุณ : Spinnecker เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 10:59:09

ความคิดเห็นที่ 63 ร้านแรกขนมก้น่ากิน ร้านที่สองก็บรรยายซะจนอยากไปลองรับบริการ แอบสงสัยอายุครับ "ชั่วลัดนิ้วมือเดียว" เนี่ย ยงเห้นมีใช้อีก อิอิ ขอบคุณสำหรับกระทู้สนุกๆครับ จากคุณ : BhakSook เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 12:03:54

ความคิดเห็นที่ 64 กลับมาเก็บข้อมูลใหม่อีกรอบ ร้านหลังนี่อาหารขนาดนี้ ราคาเท่านี้ถือว่าถูกเลยนะครับ ถ้ามาอยู่ที่อเมริกา อยากไปยุโรปบ้างจัง ปล. กลับไทยนี่กลับชั่วคราวหรือถาวรครับเนี่ย จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 13:10:59

ความคิดเห็นที่ 65 เล่าให้ฟังได้สนุกมากเลยค่ะ ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลย .. ร้านแรก tart แบบนั้นไม่เคยเห็นค่ะ ส่วนร้านที่ 2 ไก่ดูชุ่มมากๆ จริงๆ ด้วย... petit four เยอะมาก :D จากคุณ : Bean Sprout เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 15:13:12

ความคิดเห็นที่ 66 อาหารน่าทาน บรรยากาศน่าดู ถ่ายรูปได้น่าชม บรรยายได้เห็นภาพ ขอบคุณครับผม จากคุณ : Bbubble เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 16:00:00

ความคิดเห็นที่ 67 สนุกจังเลยค่ะเหมือนได้ไปด้วย  แต่เสียดายที่ไม่ได้ลิ้มรสชาติของอาหารเท่านั้น  จะรอริวิวครั้งต่อไปนะคะ จากคุณ : กระทะเหล็ก เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 16:18:06

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณที่พาไปเที่ยว และไปชิมนะคะ ชอบสำนวนบรรยายของคุณจริง ๆ เลยค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะ จากคุณ : i_lllive เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 17:18:24

ความคิดเห็นที่ 69 เพลิดเพลินมากๆค่ะ...รอชมกระทู้หน้าด้วยใจจดจ่อ^^ จากคุณ : ฟ้าคงสั่งมา เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 17:54:10

ความคิดเห็นที่ 70 รีวิวได้สวยสดงดงานมาก เล่นเอาอยากไปเยือนอีกรอบเลยเชียวครับ จากคุณ : Party madness เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 18:23:40

ความคิดเห็นที่ 71 เป็น michelin ที่ราคาไม่แพงดี นะครับ 30 ปอนด์ กับ lunch ถือว่าราคาโอเคเลยครับ ถ้าเข้ามาลอนดอน อย่าลืม la gavroche กับ hakkasan นะครับ อร่อยมาก จากคุณ : น้ำเงินและขาว เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 21:14:07

ความคิดเห็นที่ 72 รีวิว ได้น่าชมมากค่ะ จากคุณ : หมู (ตัว) อ้วน เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 00:37:04

ความคิดเห็นที่ 73 แวะมาดูอีกครั้งครับ ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นนะครับ คุณนมขาวเย็น : ยินดีครับ  ถ้าจะตามรอยก็ยิ่งดีใหญ่ แต่ถ้ามีร้านใหม่ๆก็ดีครับ จะได้เป็นวิทยาทานแก่ผู้ชมกระทู้ท่านอื่นๆ ด้วยครับ คุณ Call_me_HerO : ไม่ต้องอิจฉาหรอกครับ ในเมืองไทยก็มีหลายๆที่ที่น่าทานไม่แพ้กัน แม้แต่ผมเองยังอยากจะกลับไปทานโดยไวเลยครับ คุณbreadaholic: ขอบคุณเช่นกันที่แวะเข้ามาชมครับ คุณบุษบาครับ : ขอบคุณครับ ความจริงผมก็ยังไม่ค่อยจะแม่นในเรื่องการใช้ภาษาเท่าไร โดยเฉพาะคำทับศัพท์ ถ้าไม่คุ้นเคยนี่ บางทีอ่านมาอย่างไรก็เขียนไปอย่างนั้นเลยครับ คุณเล็กครับ : อยากดูรูปเหมือนกันครับ ผมจะกลับสัปดาห์หน้า กลับถาวรครับ เพราะพอใจกับสิ่งที่ได้รับแล้วครับ ถ้าวันหน้าจะมีโอกาสได้ศึกษาต่ออีก ก็ปล่อยให้เป็นไปตามจังหวะและเวลาครับ ส่วนเรื่องราคาที่ถูกเพราะว่าไม่ได้อยู่ในลอนดอน และทุกร้านที่ได้ดาวมิชลินก็ตั้งราคาเท่าๆกัน สำหรับชุดกลางวันคือราว 23-24 ปอนด์ เป็นไปตามหลักการตลาดผู้ขายน้อยรายครับ คุณ miracle_rainyteddy : ขอบคุณเช่นกันครับ คุณ Metaphore: ภาษาของคุณก็สวยไม่แพ้กันครับ คุณ Spinnecker : ดีใจเช่นกันครับที่คุณประทับใจ คุณ BhakSook : ถ้าเช่นนั้นแล้ว วัยผมกับคุณก็คงใกล้เคียงกัน เพราะดันรู้จักคำนี้เหมือนกันครับ ความจริงแล้ว เจ้าของกระทู้ อยู่ในช่วงอายุที่ไม่สามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายใหม่ของประเทศนี้ได้ด้วยซ้ำไป เพราะอายุหย่อนกว่าอายุขั้นต่ำของเขาอยู่หนึ่งปีครับ คุณ beansprout : เรื่องทาร์ตนี่ผมก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน พอดีดูว่ามันแตกต่างจากขนมอย่างอื่นในเมนูที่รู้จักเลยสั่งมาครับ แล้วก็ไม่ผิดหวังครับ คุณ Bbubble : ขอบคุณเช่นกันครับ คุณ กระทะเหล็ก : ขอบคุณครับ แต่ครั้งต่อไปของผมคงเป็นรายสะดวกครับ ว่างเมื่อไร หรือมีวัตถุดิบพร้อมเขียนก้มา หาอะไรแน่นอนได้ยากอยู่ครับ คุณ i_lllive : ชอบสำนวนหรือครับ มีหลายคนบอกผมว่าเหมือนสำนวนผู้สูงอายุที่ชอบรำลึกความหลังอย่างไรชอบกล บางคนก็ว่าอ่านยากครับ เรื่องนี้นานาจิตตัง แต่ถ้าคุณชอบก็ดีใจครับ คุณ ฟ้าคงสั่งมา : กระทู้หน้า คงต้องรอฟ้าสั่งมาเหมือนกันครับ เพราะดูเหมือนจะยุ่งอยู่ครับ แต่ถ้าว่างก็คงจะเอามาลงสัปดาห์หน้าครับ คุณ Party madness : ขอบคุณมากๆครับที่เข้ามาชม กระทู้ของคุณถือเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการตามรอย แล้วก็นำเรื่องของร้านที่น่าประทับใจร้านนี้มาถ่ายทอดในมุมของผมเช่นกันครับ คุณ น้ำเงินและขาว: ราคามาตรฐานของเมืองครับ พอรับไหว แต่สำหรับนักเรียนงบน้อยอย่างผมก็ถือว่าแพงอยู่ดีครับ สองร้านที่ว่ามาเคยเข้าไปดูในเว็บไซต์ แต่ยังไม่เคยไปครับ หนก่อนไปร้าน Maze ก็ใช้ได้ แต่ยังไม่ถึงที่สุด ความจริงในลอนดอนก็มีร้านมิชลินราคาย่อมเยาอยู่เหมือนกันนะครับ คือร้าน Arbutus ตรงโซโห กลางวันถ้าทานเป็นชุดจะอยู่ที่ 15.50 ปอนด์ครับ น่าจะถูกที่สุดแล้ว ผมเองจะไปเปลี่ยนเครื่องที่นั่นสัปดาห์หน้า กำลังเล็งร้านสำหรับตอนเที่ยงอยู่เหมือนกันครับ เพราะมีคนเลี้ยง แล้วคงจะนำมาให้ชมกันครับ คุณ หมู (ตัว) อ้วน : ขอบคุณเช่นกันครับ ขอบคุณท่านอื่นๆ ที่เข้ามาชมด้วยนะครับ แม้ว่าจะไม่ได้เขียนอะไรตอบกลับมา ผมยังยินดีครับที่จะรับฟังทุกความคิดเห็น จะได้ปรับปรุงต่อไปครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 02:41:27

ความคิดเห็นที่ 74 เห็นรีวิวแล้วทำให้พรุ่งนี้ต้องไปเที่ยวยอร์คซะเลย ไหน ๆ ก็เป็น Bank holiday ซะทีแถมไปครั้งแรกก็โน่นเลยเมื่อสี่ปีที่แล้ว ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ จากคุณ : PinManchester เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 52 06:39:47