ความคิดเห็นที่ 1 อย่างแรกคือ “เป็ด” แต่ก่อนจะต้มเอง ตอนนี้ซื้อเอา เลือกเป็ดพะโล้ หมูกรอบ และปลากระบอกจีนนึ่งสุกแล้ว เกร็ดในการไหว้นั้น...อาม่าบอกว่าปลาที่ใช้ไหว้จะใช้เพียง 2 ชนิดคือ “โอวฮื่อ” (ปลากระบอกจีน) และ “โหงวฮื่อ” (ปลากุเลา) โดย “โอวฮื่อ” ที่ไหว้จะหิ้วมาจาก “ซัวเถา” ซึ่งแทบทุกปีจะต้องไปไหว้พระที่นั่นอยู่แล้ว คราวนี้ก็ขนมา 40 ตัวพอดิบพอดี ไหว้ได้ทั้งปี ปลาที่ไหว้...มีข้อจำกัดว่าต้องไม่ขอดเกร็ด ให้ทำได้อย่างมากสุดคือ “ควักไส้ล้างท้อง” เท่านั้น ถ้าหากเป็นสมัยก่อน “เป็ด-ไก่” จะต้มล่วงหน้า 1 วัน โดยสมัยที่อาม่าเป็นผู้ทำกับข้าวไหว้เจ้าก็ต้มทีละ 6 ตัว เป็ด 6 ตัว ไก่ 6 ตัว เพราะอย่างวันนี้จะไหว้เจ้าที่ (ตี้จู่เอี้ย) และ ทีกงด้วย ถ้า “ไหว้ใหญ่” มากๆ จะจัดอย่างละ 2 ถาด นับไปนับมาไหว้ทั้งหมด 3 ที่ก็อย่างละ 6 ตัวจริงๆ เป็ดไก่นี้...อาม่าเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนนั้น อาม่าจะรับผิดชอบการทำเองทั้งหมด ซึ่งฟังแล้วนึกทึ่งและไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ตั้งแต่ต้มเป็ดต้มไก่ นึ่งปลา เตรียมของไหว้ พอไหว้เสร็จ ก็หน้าที่ของอากงจัดการสับเป็ดไก่ หนึ่งตัวจะแบ่ง 6-8 ชิ้น เอาลงทอดให้กรอบแล้วทาเกลือ จำได้ว่า “สมัยเด็ก” เคยกินเหมือนกัน แต่ปัจจุบันนี้ไหว้เสร็จแล้วก็จะเก็บเข้าตู้แช่ ไว้กับ “ข้าวมันไก่” หรือ “ก๋วยเตี๋ยวเป็ด” เป็นหลัก ที่บ้านของเพื่อนคนหนึ่ง...ไม่ได้ไหว้ไก่ทั้งตัวหรือเป็ดทั้งตัว ไก่จะใช้ไก่ทอด KFC สั่งมาหนึ่งกล่องใหญ่ เป็ดก็คือเป็ดย่าง MK ที่สับเสร็จแล้ว เราก็งงว่าทำไมไม่ไหว้ทั้งตัว เพราะได้รับการสอนมาไหว้ต้องไหว้ทั้งตัว แม้แต่เครื่องในยังต้องมีครบ เพื่อนก็เลยบอกว่าถึงห้างจะมีขายทั้งชุด แต่ซื้อมาไหว้แล้วไม่มีใครสับเป็ดสับไก่เป็น ก็เลยสั่งแบบนี้มาสะดวกดี ^_^ ผู้เขียนเล่าให้อาม่าฟัง อาม่าก็บอกว่าสมัยนี้ทำอะไรมั่วๆซั่วๆ ก็คงจริง... อันที่จริง...คนรุ่นใหม่อย่างเราคงคิดว่าผู้ใหญ่นี้ช่างจู้จี้เรื่องมากเหลือเกิน หัวโบราญซะจริง! แต่จะบอกว่าคนสมัยก่อนมีกุโศบายในการสอนลูกหลานทางอ้อม อย่างเช่นการไหว้เป็ดไก่แบบทั้งตัวนี้ ถือว่าเวลาทำอะไรให้ครบถ้วนบริบูรณ์ อย่างขาดๆเกินๆ เป็นต้น... จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:36:31

ความคิดเห็นที่ 2 ผลไม้... เวลาไหว้ทุกครั้งจะขาดไม่ได้คือ “ส้มกับแอ๊ปเปิ้ล” เพราะความหมายดี ส่วนใหญ่ของไหว้ไม่ว่าจะเป็นผลไม้หรือกับข้าว ความหมายมักหนีไม่พ้นคือ “ร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง อายุยืนยาว” นอกจากผลไม้หลักๆนี้แล้ว ก็จะมีกล้วย/องุ่น/ลิ้นจี่ที่นิยมกัน เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับผลไม้...คือ “กล้วย” เวลาไหว้บรรพบุรุษ จะวางกล้วยคว่ำลง แต่ถ้าไหว้ “ตี้จู่เอี้ย” จะหงายขึ้น ห้ามวางผิดเด็ดขาดเลยเชียว ส่วน “สัปปะรด” ที่เรียกว่า “อั่งไล้” จะไหว้เฉพาะ “ตี้จู่เอี้ย” ไม่ไหว้บรรพบุรุษเด็ดขาดอีกเช่นกัน ส่วนเหตุผลว่าทำไมนั้นก็ไม่ทราบได้ นอกจากนี้อาม่าบอกว่าผลไม้ที่ไม่นำมาไหว้ก็มี เงาะกับมังคุด เพราะปีก่อนๆเคยอุตริเอามาไหว้เหมือนกัน อาม่าบอกว่าไม่เหมาะ เราก็โอเค งั้นไหว้แบบเดิม ^_^ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:36:56

ความคิดเห็นที่ 3 ข้าวสวย... ข้าวต้องหุงใหม่แล้วตักมาไหว้เลย อย่าไปตักกินก่อน เมื่อก่อนนั้นด้วยความที่อยากให้ข้าวดูสวยๆ จะใช้วิธีตักใส่ชามที่จะใช้ไหว้ให้เต็ม แล้วตักใส่อีกชามหนึ่งกดให้แน่น เอามาประกบกัน ทำแบบนี้อยู่หลายปีดีดัก ตอนหลังอาม่าบอกว่าไม่เหมาะ ตักให้พูนก็พอ ก็อย่างที่เห็นในภาพค่ะ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:37:12

ความคิดเห็นที่ 4 ชาจีนและเหล้าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้... นอกนั้นยังมีตะเกียบ แต่ไม่มีช้อน เมื่อก่อนเคยวาง แต่อาม่าบอกว่าให้เอาออก ปีหลังๆเลยไม่ได้วาง ส่วนที่ว่าจะต้องจัดกี่ชุดก็ขึ้นอยู่กับจำนวนของบรรพบุรุษที่เราไหว้นั่นแหละค่ะ อย่างที่บ้านนั้นจะวางรูปเหล่าม่าเพียงรูปเดียว แต่ก็รู้กันว่าเราไหว้เหล่ากงและตั่วแป๊ะ (ลุง) ด้วย จึงจัดรวม 3 ที่ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:37:32

ความคิดเห็นที่ 5 กับข้าวไหว้...(1) ปอเปี๊ยะทอด ที่บ้านจะยึดว่าต้องไหว้กับข้าว 12 อย่าง โดยแบ่งเป็นของคาว 11 อย่างและของหวาน 1 อย่าง ซึ่งทุกปีเหมือนกัน คือของหวานจะเป็นผลไม้กระป๋อง จะมีพิเศษบางทีที่ทำ “แป๊ะก้วย” ต้มน้ำตาล แต่ก็นานมาแล้ว และไม่มีใครกินก็เลยยกเลิกไป ที่เห็นในภาพคือ “ปอเปี๊ยะ” เดี๋ยวนี้เอาง่ายคือซื้อจาก “สุรพล” หรือบางปีจะทำเองก็ทำง่ายๆ ห่อเสร็จใส่ช่องแข็ง ตอนเช้าเอาออกมาทอดได้เลย อย่าถามว่าทำไมไหว้ 12 อย่าง เพราะผู้เขียนเคยถามอาม่าแล้ว อาม่าบอกว่าโบราณก็ทำแบบนี้ เราก็เลยยึดแบบนี้ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:43:11

ความคิดเห็นที่ 6 กับข้าวไหว้...(2) เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด คราวนี้ทอดเกรียมไปหน่อย ทอดไว้ก่อนวันไหว้หนึ่งวัน ทอดเสร็จโรยเกลือเล็กน้อย ใส่ถุงเก็บไหว้ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:43:31

ความคิดเห็นที่ 7 กับข้าวไหว้...(3) กระเพาะปลา กระเพาะปลาเป็นกับข้าวไหว้ “หลัก” มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งเวลาไหว้บรรพบุรุษ จะไม่ใส่ “หน่อไม้” ก็แล้วแต่ว่าจะใส่ ไข่/น่องไก่เล็ก/เนื้อปู แล้วแต่สะดวกของแต่ละบ้าน กระเพาะปลาก่อนจะทำต้องต้มเอาน้ำมันทิ้งก่อน เวลาต้มใส่ขิงเพื่อดับคาว และน้ำซุปที่ใช้ทำก็คือน้ำที่ต้มเป็ดต้มไก่นั่นแหละ แต่อย่างตอนนี้ใช้เป็ดไก่ต้มสุกแล้วมาไหว้ ก็เลยต้องซื้อน่องสะโพกมาต้มเอาน้ำซุปแล้วเอาเนื้อฉีกใส่กระเพาะปลา ใส่น่องไก่เล็ก (ปีกไก่บน) ด้วย หรือหากต้องการน้ำหวานมากๆ แนะนำว่าให้ใส่ “คาตัง” ลงไปต้มด้วยก็ดีเหมือนกันค่ะ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:43:46

ความคิดเห็นที่ 8 กับข้าวไหว้...(4) ลูกชิ้นกุ้งทอด ที่บ้านจะต้องมี “ลูกชิ้น” เสมอ จะกุ้ง/หมู/ปลา อะไรก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง ไหว้เสร็จแล้วก็เก็บไว้ทำก๋วยเตี๋ยวอีก ^_^ ทีนี้จะได้กินก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้ใส่ลูกชิ้นกุ้ง 555 จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:44:02

ความคิดเห็นที่ 9 กับข้าวไหว้...(5) ปลาทอด อันนี้ไม่ได้ทำเอง ซื้อจากสุรพลมาทอด ถุงหนึ่งจะทอดได้จานพูนๆ หรือว่าจะเปลี่ยนเป็น “กุ้งระเบิด” “กุ้งชุบแป้งทอด” ก็ได้ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:44:20

ความคิดเห็นที่ 10 กับข้าวไหว้...(6) ชุงไฉ่ เป็นกับข้าวที่ “ไม่มีไม่ได้” คือต้องมีนั่นเอง ^_^ เพราะคนจีนถือว่าชื่อเป็นมงคล ขอย้ำว่า “ชุงไฉ่” ไม่ใช่ “จับฉ่าย” คนละอย่างกันเลย เวลาทำจะต้องผัดผักให้มันสักหน่อย แล้วต้มต่อในน้ำซุปกระดูกหมู ใส่หมูสามชั้น และเวลาไหว้นั้นต้องมีเต้าหู้เหลืองทอดวางด้านบนอย่างในภาพด้วย นอกจากไหว้บรรพบรุษ คนจีนเราจะต้องทำ “ชุงไฉ่” ไหว้อีกครั้งใน “วันเกิดของอาพั้ว” ซึ่งเพิ่งผ่านไปหมาดๆ อาพั้วคือเทพคุ้มครองเด็ก ในวัน “ไหว้ใหญ่” คือ “วันเกิดของอาพั้ว” นอกจากชุงไฉ่จะต้องมี ขนมสามเหลี่ยมที่ข้างในเป็นไส้ผักกับขนมจุกที่ข้างในเป็นไส้ถั่ว โดย “ขนมสามเหลี่ยม” แทนเด็กผู้หญิง “ขนมจุก” แทนเด็กผู้ชาย ฉะนั้นหากบ้านไหนมีลูกสาว 1 คน ลูกชาย 3 คน ก็จะไหว้ “ขนมสามเหลี่ยม 1 ชิ้น ขนมจุก 3 ชิ้น” ชื่อจีนเรียกว่าอะไรนั้นจำไม่ได้ แต่แน่ๆว่าซื้อได้ที่เยาวราชในช่วงเทศกาลไหว้ รับรองว่ามีแน่นอน ไหนๆก็ออกนอกเรื่องแล้ว...แถมอีกอย่างว่า “ชุงไฉ่” ที่ไหว้ “อาพั้ว” ต่างกับที่ไหว้บรรพบุรุษคือจะ “ไม่มี” เต้าหู้ทอดวางด้านบนค่ะ อีกอย่างหนึ่ง...บางครั้งก็จะใส่กะหล่ำปลีหั่นเป็นเสี้ยวด้วย แต่ปีนี้ไม่ได้ใส่ ซึ่งถ้าจะใส่ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด... จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:44:38

ความคิดเห็นที่ 11 กับข้าวไหว้...(7) เจไฉ่ ที่บ้านของผู้เขียน...จะต้องมี “เจไฉ่” ทุกครั้งในกับข้าวไหว้ เพราะเมื่อสมัยเหล่าม่ายังมีชีวิตอยู่ ท่านจะ “กินเจ” ฉะนั้นเลยต้องทำไว้อย่างหนึ่ง ซึ่งแล้วแต่ว่าเราจะทำอะไรก็ได้ คราวนี้ทำคือใช้ผักกาดดอง (ซึงไฉ่) ต้มกับมะเขือเทศใส่เห็ดฟางค่ะ เกร็ดเล็กน้อย 2 อย่างเกี่ยวกับ “เจไฉ่” ที่รู้มาก็คือ...หากว่าบรรพบุรุษเสียชีวิตในช่วงเทศกาลกินเจ ในทุกปีที่ครบรอบวันเสีย กับข้าวทุกอย่างต้องเป็นเจทั้งสิ้น ไม่มีการไหว้เป็ดไก่ แต่เราจะใช้ของเทียมที่แทน ไม่แน่ใจว่าทำจากอะไรแต่จะทำเหมือนมาก เป็นเป็ดไก่ตัวๆนี่เลย โรยงาทั้งตัว ซึ่งจะไหว้ “เจครบชุด” แบบนี้ในวันครบรอบวันเสียเท่านั้น ในช่วงอื่นก็ไหว้ตามปกติ แต่ขอให้ทำ “กับข้าวเจ” เพิ่มมาสักอย่างก็พอ อีกอย่างหนึ่งคือ...ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ตอนเช้าของวันตรุษคือ “ชิวอิก” ในมื้อเช้าต้อง “กินเจ” เพื่อความเป็นมงคลตลอดทั้งปี ซึ่งเราก็จะกิน “เจไฉ่” ที่ไหว้ในวันไหว้นั่นแหละค่ะ พ้นจาก 11 โมงเช้าแล้วก็กินเนื้อสัตว์ได้ตามปกติ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:44:57

ความคิดเห็นที่ 12 กับข้าวไหว้...(8) กระเพาะหมู กระเพาะหมูนั้น บางบ้านอาจจะหั่นแล้วต้มไหว้ หรืออย่างที่บ้านไหว้ทั้งชิ้น ซึ่งแต่ก่อน อากงจะทำเอง โดยต้องล้างให้สะอาด และพลิกกลับด้านขูดเอาเมือกด้านในออก แต่ตอนนี้พอดีว่ามีร้านเจ้าประจำที่ทำสะอาดและไว้ใจได้เลยซื้อเอาสะดวกกว่า พอไหว้เสร็จก็บรรจุถุงใส่ตู้แช่ อีกไม่นานก็เอามาหั่นต้ม ใส่พริกไทยเยอะๆ ทำเป็น “ข้าวต้มตือโต้ว” ต่อไป เวลาต้มใส่เกี๊ยมไฉ่ด้วยจะอร่อยเด็ดเลย... จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:45:15

ความคิดเห็นที่ 13 กับข้าวไหว้...(9) หน่อไม้กระป๋องผัดกุ้ง เป็นกับข้าวที่ทำง่ายๆ คือใช้หน่อไม้กระป๋องผัดกับเห็ดหอมและกุ้ง ใส่น้ำมันหอย ทำแป๊บเดียวเสร็จ อร่อยด้วย...เมนูนี้หม่าม๊าเป็นผู้ทำ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:45:30

ความคิดเห็นที่ 14 กับข้าวไหว้...(10) กุ้งผัดซอสพริกเซี่ยงไฮ้ เมนูนี้ผู้เขียนทำเอง จะใช้กุ้งคลุกแป้งทอดกรอบ ทอดให้เกือบสุก แล้วตักขึ้น ทีนี้เตรียมซอสโดยใช้ ก้านผักชีสับละเอียด กระเทียม ซอสพริกเซี่ยงไฮ้ น้ำมันหอย น้ำตาล ซอสปรุงรส น้ำมันงา ผสมด้วยกันแล้วผัดให้ร้อน เอากุ้งที่ทอดไว้ลงคลุกให้เข้ากัน เท่านี้เองก็ตักขึ้นตั้งโต๊ะได้แล้ว จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:45:48

ความคิดเห็นที่ 15 กับข้าวไหว้...(11) ทอดมันกุ้ง เมนูนี้ก็ทำเองอีกเช่นกัน โดยทำตั้งแต่เมื่อวาน ทอดให้เสร็จเลย ทอดมันกุ้งนี้นวดแล้วต้องทอดเลยทันที เนื้อจะเด้งดี ตอนเช้าให้อุ่นโดยการทอดเร็วๆในน้ำมันร้อนจัดอีกรอบก็ใช้ได้แล้วค่ะ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:46:05

ความคิดเห็นที่ 16 เก็บภาพมาฝากหลายๆมุม... จะบอกว่ากับข้าวสมัยนี้ง่ายกว่าสมัยก่อนมาก สังเกตว่าของทอดจะมีเยอะและใช้ของสำเร็จ สมัยก่อนนั้น กับข้าวหลักนอกจาก ชุงไฉ่ กระเพาะปลา ลูกชิ้น จะยังมีปลิงทะเลอีกด้วย อากงจะทำเอง ตุ๋นแล้วตุ๋นอีกจนนิ่ม เป็นอะไรที่ทำยากและจุกจิกมาก นอกนั้นก็จะมี “บ๊ะเต็ง” คือหมูสันนอกหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าผัดกับเห็ด ใส่กุ้งแห้งและปลาหมึกแห้ง ซึ่งเมนูนี้จะทำใส่ปิ่นโตไปไหว้ตอนเชงเม็งค่ะ นอกจากนั้นก็มีหมูอบ แกงจืดฟักกับกระดูกหมู วันนีก็มีแต่ไม่ได้ถ่ายมา ตั้งไหว้ทั้งหม้อไม่ได้ตักใส่ชาม... จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:46:23

ความคิดเห็นที่ 17 เกร็ดเรื่องเล่า... อันที่จริงแล้วการไหว้บรรพบุรุษจะตั้งโต๊ะไหว้ที่หน้ารูป ไม่ใช่ตั้งโต๊ะที่หน้าบ้าน บางคนเข้าใจผิด ซึ่งการไหว้หน้าบ้านคือการไหว้สัมเวสี ซึ่งหนึ่งปีจะไหว้ 2 หนคือวันตรุษและวันสารท ยิ่งคนที่ค้าขายจะไหว้กันเพื่อให้การค้าเจริญรุ่งเรือง หากว่าวันนี้ใครผ่านไปมาเยาวราชจะเห็นว่าหลายร้านตั้งกับข้าวไหว้หน้าร้าน ก็อย่าเข้าใจว่าเขาไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งกับข้าวที่ไหว้ “หน้าร้าน” นี้จะตั้งไหว้เป็นหม้อๆ ข้าว/เหล้า/น้ำชา ทั้งหมด 10 ชุด กับข้าว 10 อย่าง ผู้เขียนก็เพิ่งรู้วันนี้เอง ป๊าป๋าบอกว่าเป็นกุศโลบายของคนสมัยก่อน เพื่อสอนคนค้าคนขายว่ามีอะไรต้องแบ่งปัน อย่าลืมว่าถ้าค้าขายต้องมีลูกน้อง ลูกจ้าง บริวารมากมาย กับข้าวไหว้เสร็จก็จะตักแบ่งกันไป เป็นการสอนที่ดี ไม่ให้เห็นแก่ตัวและเอาเปรียบลูกจ้าง ถ้าเจ้าของคิดได้แบบนี้ก็เจริญรุ่งเรืองแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย กับข้าวที่เราไหว้หน้าร้านนี้ มี “กฏเหล็ก” ว่า “ห้ามชิม” ไม่ว่ายังไงก็ห้ามชิมในทุกขั้นตอนการทำ ไม่เหมือนกับข้าวที่ไหว้เหล่ากงเหล่ามาของเราเอง ที่จะชิมได้ อันที่จริงพอตักใส่ชามตั้งไหว้ไปได้พักหนึ่ง เราก็ตักจากหม้อกินได้ด้วยซ้ำ เราถือว่า “คนกันเอง” 555 อันนีเรื่องจริงไม่ได้ล้อเล่นนะคะ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:46:45

ความคิดเห็นที่ 18 เกร็ดเรื่องเล่า... อีกอย่างหนึ่ง...เวลาไหว้บรรพบุรุษ ก่อนหน้าวันไหว้ 1 วัน ในช่วงหัวค่ำของเมื่อวานนี้ อากงของผู้เขียนจะจุดธูปบอกกล่าวเหล่ากงเหล่าม่าว่าพรุ่งนี้จะไหว้ “เหมือนเชิญให้มากินข้าว” นั่นแหละค่ะ ส่วนตอนเช้า เราไม่ต้องรอกับข้าวเสร็จจนครบ พอเสร็จสัก 2 อย่างก็จุดรูปไหว้แล้วเชิญกระถางรูปลงมาได้เลย จุดเทียนแดงอันใหญ่เตรียมไว้ แล้วให้ “ลูกหลาน” ที่ใหญ่สุด (หมายถึงอาวุโสสูงสุด) ในที่นี้คืออากงหรือป๊าก็ได้จุดรูป 5 ดอกแล้วไหว้ก่อน โดยปักกระถางเพียง 3 ดอก อีก 2ดอกปักที่ประตูใหญ่เพื่อบอก “เจ้าที่” ว่าเราได้เชิญบรรพบุรุษมากินข้าวนะ (ทำนองนี้) เวลาไหว้นั้นจะไหว้ทั้งหมด 3 รอบ ห่างกันราวๆ 1 ชั่วโมง ตั้งโต๊ะไหว้ 8 โมงเช้า เสร็จก็ 11 โมงพอดี บางบ้านอาจจะจุดประทัดหลังจากเผากระดาษเสร็จก็ได้ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:47:06

ความคิดเห็นที่ 19 เกร็ดเรื่องเล่า... อาจจะมีคนสงสัยว่า “บรรพบุรุษ” ที่ไหว้นี้เป็นอะไรกับเรา เพราะเรียก “เหล่ากงเหล่ามา” ชักไม่แน่ใจว่าพ่อของปู่หรือของย่ากันแน่ จะบอกว่าคนจีนนั้น การไหว้บรรพบุรุษจะไหว้ของ “บ้านฝ่ายชาย” เป็นหลักเพราะผู้หญิงจะแต่งเข้าบ้าน ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยว่าหน้าที่ทำกับข้าวไหว้ต้องเป็นของสะใภ้แน่นอน อย่างแต่ก่อน อาม่าจะทำ ตอนนี้ก็หม่าม๊าทำ เป็นต้น...ลูกหลานผู้หญิงก็คอยช่วย สิ่งที่เปลี่ยนไปจากสมัยก่อนคือ...งานเหล่านี้ผู้หญิงตระเตรียมเป็นหลัก นอกจากว่าบางอย่างที่ผู้ชายถนัดว่าอย่างที่บอกว่าการเตรียมปลิงทะเล อากงจะทำ เพราะอากงทำเป็นนั่นเอง แต่สมัยนี้...ลูกหลานจะหญิงหรือชายก็ช่วยกันหมด ไม่ได้แบ่งแยกอีกแล้ว ซึ่งผู้เขียนถือว่าเป็นกุศโลบายยุคใหม่...คือสอนให้ลูกหลานผู้ชายรู้ว่าอนาคตต้องช่วยภรรยาทำงานบ้านบ้าง 555 ไม่ใช่ว่า ตัวเองทำงานนอกบ้าน เมียทำงานบ้าน เลี้ยงลูก ต้องช่วยๆกัน อย่างผู้หญิงสมัยใหม่ยังทำงานนอกบ้านช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเลย...จริงไหม? จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:47:57

ความคิดเห็นที่ 20 เกร็ดเรื่องเล่า... เพื่อนหลายคนของผู้เขียนเคยบอกว่าไม่ชอบพิธีไหว้แบบนี้ และไม่เห็นความสำคัญใดๆเลย เขาว่ากันว่าไม่รู้ว่าญาติผู้ใหญ่เราจะได้กินจริงไหม ไม่เหมือนตักบาตรที่อุทิศส่วนกุศลไปให้ แต่เราไม่คิดแบบนั้น เพราะว่าบรรพบุรุษจะได้กินของที่เราทำจริงไหม อันนี้ไม่มีใครตอบได้...แต่ไม่สังเกตหรือว่าทุกครั้งที่ไหว้ วันไหว้...ลูกหลานต้องมาครบ นอกจากติดธุระจริงๆ ไหว้เสร็จแล้วจะอยู่กินข้าวกัน ก็กินกับข้าวที่ทำนั่นแหละ การไหว้เหล่ากงเหล่ามาไม่ใช่สอนแต่เรื่องกตัญญู ซึ่งคนจีนหรือคนไทยเราถือมากในเรื่องนี้ แต่ยังเป็นการรวมญาติ ให้รู้จักกันไว้ ติดต่อกันไว้ บางบ้านนั้น...ถ้าไม่ไหว้ก็อย่าหวังเลยจะเห็นหน้า อาจจะไม่ได้ไปมาหาสู่กัน ฉะนั้นวันไหว้จะถือเป็นวันรวมญาติอีกวันหนึ่งก็ว่าได้ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:48:20

ความคิดเห็นที่ 21 เกร็ดเรื่องเล่า... วันนี้ถามอาม่า...เลยได้รู้อีกอย่างหนึ่งคือว่า ถ้าบ้านไหนมีญาติผู้ใหญ่เพิ่งเสีย ในทุกครั้งๆที่ไหว้ไม่ว่าเทศกาลตรุษหรือสารท จะต้องไหว้ญาติผู้ใหญ่ท่านนั้นก่อน 1 วัน คือ ไหว้เมื่อวานนี้ โดยทำกับข้าวไหว้ตามปกติเหมือนกัน และต้องไหว้แบบนี้ให้ครบ 3 ปี จึงสามารถตั้งโต๊ะพร้อมกันได้ ผู้เขียนเลยถามอาม่าว่าทำไม...อาม่าบอกว่าเป็นธรรมเนียม ที่ไหว้ก่อน 1 วันจะตั้งข้าวชุดเดียว เก้าอี้ตัวเดียว ก็เลยได้ความรู้ใหม่มาอีกหนึ่งอย่าง... จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:51:35

ความคิดเห็นที่ 22 เกร็ดเรื่องเล่า... อย่างที่บอกไปว่าการทำกับข้าวไหว้ มักเป็นหน้าที่ของสะใภ้ แต่สมัยนี้ ผู้หญิงทำงานนอกบ้าน ไม่ว่างจะทำกับข้าว และส่วนมากทำได้น้อยอย่าง จะใช้วิธีซื้อเอา อย่างที่บ้านเพื่อนก็สั่ง S&P เป็นต้น ซึ่งถามว่าผิดไหม ก็ต้องบอกว่าไม่ผิด เพราะว่าไม่ว่าง แต่ยังมีกตัญญูอุตส่าห์ไหว้ คิดว่าญาติผู้ใหญ่ที่ล่วงลับไปคงเข้าใจและช่วยอวยพรให้เจริญรุ่งเรือง ส่วนตัวผู้เขียนเอง...คิดว่าก็คงทำกับข้าวไหว้ครบชุดแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะอาม่าบอกว่าถ้าเราตั้งใจทำก็ดีกับเราเอง...อันนี้เป็นความจริง เราคิดว่าการสืบทอดธรรมเนียมปฏิบัติที่ดีงามแบบนี้ ทำไว้ไม่เสียหลาย   และหวังว่าคนรุ่นใหม่ก็คิดแบบนี้เช่นกัน จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:52:16

ความคิดเห็นที่ 23 สุดท้ายนี้... เป็นการสังเกตส่วนตัวของผู้เขียนเอง...เพราะว่าที่บ้าน เวลาไหว้บรรพบุรุษจะพูดกันว่า “ไหว้เหล่าม่า” ทั้งที่จริงๆเราไหว้ เหล่ากง เหล่าม่า ตั่วแป๊ะ แม้แต่วันครบรอบวันเสีย เรายังไหว้เฉพาะวันครบรอบวันเสียของเหล่าม่าเพียงผู้เดียว แต่ไหว้ครบทั้ง 3 ท่านโดยรวมเป็น 1 วันเพื่อไม่ให้ยุ่งยากแก่ลูกหลานในภายหลัง มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยถามเพื่อนเหมือนกัน เพื่อนบอกว่าที่บ้านเขาจะเรียกว่า “ไหว้เหล่ากงหรืออากง” เพราะคนจีน ยังไงก็นับผู้ชายเป็นหลัก (เป็นใหญ่) แปลกมากที่บ้านจะเรียกว่า “ไหว้เหล่าม่า” ไม่เคยพูดเลยว่า “ไหว้เหล่ากง” แต่เวลาจุดธูปก็จะบอกกล่าวครบทั้ง 3 ท่านเสมอ ทีนี้...ผู้เขียนเพิ่งถึงบางอ้อ...หลังจากขบคิดอยู่นาน เลยรู้ว่าเป็น “กุศโลบาย” ของที่บ้าน เพื่อเป็นการสอนลูกหลานว่า “บ้านนี้ผู้หญิงเป็นใหญ่” นั่นเอง...^_^ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 18:53:40

ความคิดเห็นที่ 24 รูปสวยจังเลยค่ะ แถมได้ความรู้เพิ่มอีกต่างหาก จากคุณ : sweet_enough เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 19:01:04

ความคิดเห็นที่ 25 วันนี้ป้าก็ไหว้  แต่ไม่ครบชุดขนาดนี้ อายจังเลยค่ะ จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 19:04:04

ความคิดเห็นที่ 26 ตามมาเก็บความรู้ค่ะ  ขอบคุณนะคะ  อ่านเพลินเลย จากคุณ : หน่อมแน้มนิดหนมหนุกหนาน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 19:18:59

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้เพิ่มมา 1 กระบุง จากคุณ : อย่าพยายามจีบผมเลย เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 19:26:23

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบตรงเกล็ดเรื่องเล่านี่ล่ะครับ โหวต จากคุณ : ดาวคนอง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 19:31:32

ความคิดเห็นที่ 29 ตอบความเห็นค่ะ คุณ sweet_enough :: ขอบคุณที่ชมค่ะ ^_^ บางรูปอาจจะเอียงๆหน่อยค่ะ รีบถ่ายสุดๆเลย คุณ ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) :: ขอบคุณที่ป้าอ้วนแวะมาค่ะ เห็นความเห็นของป้าอ้วนตลอด อันที่จริงการไหว้นี้อยู่ที่ "เจตนา" และ "ความตั้งใจ" ของลูกๆหลานๆอย่างเราค่ะ พอดีที่บ้านสะดวกแล้วก็ว่างทำเลยทำครบชุดค่ะ แล้วเดี๋ยวจะแวะไปดูของป้าอ้วนนะคะ คุณ หน่อมแน้มนิดหนมหนุกหนาน :: ไม่เป็นไรค่ะ ดีใจที่ชอบค่ะ คุณ อย่าพยายามจีบผมเลย :: ขอบคุณเช่นกันที่แวะมาค่ะ คุณ ดาวคนอง :: ขอบคุณที่แวะมาและขอบคุณสำหรับโหวตค่ะ ดีใจจัง... ป.ล. เกร็ดเรื่องเล่าทุกอย่างนี้ได้มาจาก "อาม่า" ของผู้เขียนเองค่ะ ความดีความชอบทั้งหมดขอยกให้ "อาม่า" นะคะ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 19:37:19

ความคิดเห็นที่ 30 เข้ามาอีกรอบ"เหล่าม่าจ๊อขี่"นี่รู้สึกจะไม่นับครับ ที่นึกออกตอนนี้ที่ขาดไปก็"ง่วงเซียว"(วันพระจีนแรกของปี)ครับ จากคุณ : ดาวคนอง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 19:41:46

ความคิดเห็นที่ 31   ตามมารับส่วนแบ่งก๊าบ จากคุณ : 2แบ๊ว (CooKie&MaRooM) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 19:42:31

ความคิดเห็นที่ 32 มาเพิ่มเกร็ดเล็กๆได้มั้ยคะ ว่าถ้ามีญาติผู้ใหญ่เพิ่งเสีย ภายใน 3 ปี หม่าม๊าเราบอกว่าจะไม่มีการห่อและไหว้บ๊ะจ่าง และต้องไหว้แยกตลอด พอหลัง 3 ปี ก็รวมโต๊ะแล้วไหว้รวมได้แล้วจ้า อิอิ ปล.ขอบคุณจขกท.มากค่ะ ได้ความรู้เยอะเลย เราไม่ค่อยได้ถามหม่าม๊าเท่าไรเลยอ่ะ อิอิ ประมาณหม่าม๊าให้ัจัด เราก็จัดตาม ไม่คิดว่าเกร็ดจะเยอะขนาดนี้เดี๋ยวไหว้คราวหน้าจะลองถามดูบ้าง จากคุณ : smile_yimchan เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 19:42:44

ความคิดเห็นที่ 33 ตอบความเห็นครั้งที่ 2 คุณ ดาวคนอง :: ขอบคุณมากๆค่ะ ไปถามอาม่าตะกี้นี้ อาม่าบอกว่า "ง่วงเซียว" เหมือนกัน แล้วอีกวันคือวันอะไรคะ ถ้า "จ๊อขี่" ไม่นับ อยากรู้ค่ะ...ช่วยแวะมาบอกหน่อยนะคะ ^_^ คุณ 2แบ๊ว (CooKie&MaRooM) :: สวัสดีค่ะ เลือกได้ตามใจชอบเลยค่า 555 คุณ smile_yimchan :: ขอบคุณสำหรับความรู้เช่นกันค่ะ อันนี้ไม่เคยรู้มาก่อน วิ่งไปถามมา อาม่าก็บอกเช่นนั้น คือเราเป็นคนขี้สงสัยค่ะ ถ้าใครสั่งอะไรต้องถาม อันที่จริงผู้ใหญ่บางคนไม่ชอบนะคะ หาว่าจุกจิก ประมาณว่าสั่งอะไรก็ทำไปเถอะ แต่ที่บ้านไม่เป็นแบบนั้น ก็เลยได้ความรู้ติดตัวมาค่ะ ป.ล.อีกเล็กน้อย...อาม่าของผู้เขียนเคยเล่าให้ฟังว่า "สมัยสาวๆ" ท่านไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอกค่ะ เพราะไม่รู้หนังสือ ผู้หญิงจีนสมัยก่อนไม่รู้หนังสือแทบทั้งนั้น สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็ถ่ายทอดจากอาม่าของอาม่าหรือจากหม่าม๊าของอาม่า (เราเรียกว่า "หวั่เหล่าม่า) และนำมาถ่ายทอดต่อไป รุ่นต่อรุ่นค่ะ จริงๆยังมีอีกมาก ไว้โอกาสหน้าจะเล่าสู่กันฟังค่ะ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 19:53:21

ความคิดเห็นที่ 34 กับข้าวบ้านนี้ เยอะดีจังงง จากคุณ : vsjmu เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 20:18:00

ความคิดเห็นที่ 35 ได้ความรู้เยอะเลยคะ ขอบคุณมากคะ บ้านเรา ซาแซ ไม่เหมือน  คุณkeethaya จะมีไก่ต้ม(มีกึ๋นด้วย )และหมูสามชั้นและปลาหมึกแห้ง ใส่ไว้ในถาดเดียวกันคะ ส่วนกับข้าวก็มีปลิงทะเล หูฉลามน้ำแดง หอยจ๊อ ผัดเห็ดกระป๋อง ต้มหน่อไม้จีน ผัดหน่อไม้กระป๋อง ยังมีอย่างอื่นอีกแต่เราจำไม่ได้แล้ว แม่เราทำเองหมดเลย ผลไม้  5 อย่างเหมือนกัน ปุยฝ้าย ขนมเทียน ขนมเข่ง แถมตอนบ่ายยังมีไหว้เหล่าเจ็ก เหล่าแปะ อีกแหนะ กับข้าวก็เหมือนที่ไหว้บรรพบุรุษคะ แต่จะเยอะกว่า ใส่หม้อมาเลย เพราะเค้าทำกันมาตั้งแต่อาม่าก็เลยทำต่อไปคะ จากคุณ : unpaopao เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 21:01:51

ความคิดเห็นที่ 36 ว๊าวววว สาระดีๆเพียบเลย ขอบคุณนะค๊า  (^/\^) จากคุณ : iTiMiTi เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 21:57:01

ความคิดเห็นที่ 37 สาระดี ๆ ไหว้เจ้ามาตั้งนาน แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก แม่เรียกให้ตื่นมา ไหว้ ก็ตื่นมา กับข้าวไหว้เจ้า น่ากินมากค่ะ บ้านเราไหว้แบบโบราณ กับข้าวก็โบราณมากกกกก จากคุณ : หมู (ตัว) อ้วน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 22:11:48

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้ดีๆ ทำให้เข้าใจประเพณีไหว้เจ้า เยอะขึ้นมากเลยค่ะ จากคุณ : bolton fanclub เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 22:33:38

ความคิดเห็นที่ 39   ข้าน้อยขอคารวะ QQ(_ _i) จากคุณ : abstract เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 22:39:52 A:124.122.181.56 X: TicketID:071021

ความคิดเห็นที่ 40   ขอบคุณมากค่ะ ได้สาระเยอะเลย เผื่อต่อไปได้เป็นสะใภ้คนจีนจะได้ปฎิบัติถูกต้อง อิอิอิ จากคุณ : คุณนายตื่นเช้า เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 22:51:24

ความคิดเห็นที่ 41 ตอบความเห็นครั้งที่ 3 :: แวะมาตอนดึึกๆ เห็นขึ้นกระทู้แนะนำแล้ว ดีใจจัง ตั้งแต่เล่นมาเพิ่งได้ครั้งแรก 555 ขอบคุณทุกคนที่ช่วยโหวตและแวะมาเยี่ยมชมกันนะคะ คุณ vsjmu :: ตอนหลังนี้ลดลงเยอะมากแล้วค่ะ แต่ก่อนเยอะกว่านี้ พอดีว่าวันนี้ไม่ใช่วันหยุดด้วย ไม่งั้นต้องมีขนมจีบ ฮะเก๋า ซาละเปา อย่างละถาดโตๆ ชนิดที่กินกันจนจุกเลยค่ะ แล้วกับข้าวตั้งโต๊ะไม่พอต้องตั้งโต๊ะอีกตัวต่างหาก ไว้วันไหว้ครั้งหน้าติดวันหยุดจะเอามารีวิวอีกรอบค่ะ ^_^ คุณ unpaopao :: โอ้โห...คุณแม่เก่งจังค่ะ ทำคนเดียวตั้งหลายอย่าง ของเราช่วยแม่ทำค่ะ แล้วก็ช่วยๆกันหลายคนยังเหนื่อยเลย แต่ก็คุ้ม ได้กินของอร่อย 555 เห็นรายชื่อกับข้าวแล้วอยากกินเหมือนกัน ขนาดวันนี้กินจนจุกแล้วนะเนี่ย ^_^ คุณ iTiMiTi :: ไม่เป็นไรค่า มีโอกาสจะนำมาฝากกันอีก คุณ หมู (ตัว) อ้วน :: ที่บ้าน "กับข้าว" ยังโบราณเหมือนกันค่ะ ชุงไฉ่ เจไฉ่ กระเพาะปลา ของโบราณทั้งนั้น เป็ดไก่หมู ถ้าต้มอย่างเดียวอาจจะเบื่อ ลองเปลี่ยนเป็น เป็ดพะโล้ เป็ดย่าง เป็ดปักกิ่ง หรือหมูกรอบ หมูย่างเมืองตรัง ก็ดีนะคะ ^_^ คุณ bolton fanclub :: ไม่เป็นไรค่ะ  เอาความรู้มาแบ่งปันแลกเปลี่ยนกัน ^_^ คุณ abstract :: ขอบคุณค่า...^_^ จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 22:55:38

ความคิดเห็นที่ 42   ชอบมากเลยค่ะ เรื่องเกี่ยวกับประเพณีจีนแบบนี้ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ^__^ จากคุณ : Olive-ay เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 23:39:16

ความคิดเห็นที่ 43 ได้ความรู้ดีๆและซึมซับความกตัญญูของคนจีนด้วยค่ะ จากคุณ : lalinphat เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 23:46:42

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ได้สาระเยอะมากๆ แถมรูปสวยด้วยนะคะ จากคุณ : กระบี่ในใจ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 03:38:43

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้ค่ะ ของที่บ้านเป็นแบบประยุกต์แล้วค่ะ สมัยก่อนปีนึงไหว้ครั้งเดียว เฉพาะตรุษจีน พอคุณพ่อเสีย จึงมีเทศกาลไหว้เพิ่มขึ้นมา เป็นตรุษจีน เช็งเม้ง สารทจีน และวันครบรอบ แต่ปีนี้ไม่ได้กลับไปไหว้สารทจีน พอดีงานเยอะ อุตส่าห์จองตั๋วล่วงหน้าตั้งห้าเดือนเลยต้ิองทิ้งตั๋วไปเลย จากคุณ : หมวย (potmetha) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 04:40:05

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณสำหรับสาระดีๆและรูปสวยๆนะคะ ^^ จากคุณ : :::moka sidamo::: เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 04:46:45

ความคิดเห็นที่ 47   ขอบคุณครับ สำหรับที่มาที่ไปของประเพณีดีๆ แบบนี้ อาหารก็น่าทานครับ จากคุณ : เนียงเพาะ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 07:40:12

ความคิดเห็นที่ 48 ที่บ้านก็ไหว้ครับ...แต่ไม่ครบแบบเนี่ย... แค่นี้ก็ไม่รุ้ จะกินหมดวันไหน..แจกข้างบ้านไปก็แล้ว...เฮ้อ... จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 07:41:32

ความคิดเห็นที่ 49 555 ไหว้ไม่ครบสูตร เพราะไหว้หลายบ้าน แม่บอกว่า อาม่า กับ อากง ไม่ถือ อยากกินอะไร ก็ไหว้แบบนั้น อาม่าบอก (ตอนยังอยู่) "ง่าย ง่าย เอาง่าย ง่าย" ^_^ จากคุณ : ออย-โอ๊ด เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 08:50:33

ความคิดเห็นที่ 50 ของบ้านผมไหว้ทุกอย่างเลยครับ บ้านผมไหว้ครบรอบวันตายบรรพบุรุษแบบเจ้าของกระทู้นะ 4 รอบแบบเจ้าของกระทู้ แล้วก็เพิ่ม ไหว้ฟ้า ไหว้ไฉ่สิ่งเอี๊ย ไหว้บะจ่าง ไหว้พระจันทร์ ไหว้บัวลอย ไหว้อะไรอีกเยอะแยะเลย ไหว้อี๊ด้วยครับแต่ไม่รู้ไหว้ตอนเทศกาลไหน อี๊ คือ ขนมที่เป็นเม็ดสาคูใหญ่ๆ หรือเล็กๆแล้วแต่แต่ละบ้านทำ ที่บ้านผมทำเม็ดใหญ่ใส่เฮลล์บลูบอย เม็ดเล็กต้มกับน้ำตาลทรายแดง เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเขาบอกว่า จริงๆแล้วมันมีมากกว่า 10 ครั้งต่อปีอีก แม้แต่เทพเจ้าเตา เค้าก็ไหว้กันนะครับ ถ้าผมจำไม่ผิด.. ---------- อ้อ ผมจำได้แล้ว หนังสือที่ว่า คือหนังสือของคุณ จิตรา ก่อนันทเกียรติ ครับผม ไม่แน่ใจว่าเล่มไหน แต่ในชุดของตึ่งหนังเกี้ย , บ่วงสื่อยู่อี่ , เหล่าอากง อะไรพวกนี้แหละครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 52 09:25:14 จากคุณ : น้องหนูเอวตัน เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 09:22:21

ความคิดเห็นที่ 51 มาเสริมเกล็ดเรื่องเล่าคุณ keethaya ความคิดเห็นที่4 ที่ว่าวางแต่ตะเกียบไม่ว่างช้อน เป็นความเชื่อที่ว่า ถ้าวางช้อนด้วยบรรพบุรุษที่เราเซ่นไห้วจะกินจนหมด ไม่เหลือให้ลูกหลานประมาณว่าลูกหลานจะทำมาหากินลำบากครับ .. อ่านเอาเป็นความรู้นะครับอย่าไปจริงจัง ที่บ้านผม เวลาไห้วก็วางช้อนตลอดถือคติว่าจะเซ่นไห้วทั้งทีก็ให้กินให้เต็มที่ครับ จากคุณ : ดาวคนอง เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 09:32:32

ความคิดเห็นที่ 52 บ้านผมก็วางช้อนนะครับ แบบพี่ดาวคนองเลย เพราะจริงๆแล้วที่กินจนหมดก็คือลูกหลานนี่แหละ...ฮา... จากคุณ : น้องหนูเอวตัน เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 09:41:24

ความคิดเห็นที่ 53 มาดีใจที่ จขกท จะร่วมสืบสานประเพณี  แต่สำหรับตัวเองถ้าหมดแม่แล้วคงไม่ทำต่อค่ะ  เพราะเหนื่อยมากๆ ไหว้ทีแม่เหนื่อยไปหลายวันเลยค่ะ   แล้วอีกอย่างก็ไม่มีใครมาเล่าให้ฟังถึงความสำคัญแบบอาม่า จขกท  เลยไม่รู้สึกถึงความจำเป็น    แต่กลับกลายเป็นภาระที่น่าเบื่อและหนัก  พี่ชายที่เป็นญาติเขาเคยเล่าว่า  เขาเคยไหว้อยู่ครั้งนึงจัดของไม่เยอะ  เพราะทำไว้เยอะๆ  ก็ต้องมาไล่แจกคนนั้นคนนี้  บางทีอาหารบางอย่างก็ไม่มีคนกิน  จะทิ้งก็เสียดายเพราะซื้อมาเยอะ  โดนแม่ต่อว่าโมโหใหญ่เลยจะให้จัดยิ่งใหญ่แบบเดิม จากคุณ : เจซอง เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 09:53:02

ความคิดเห็นที่ 54   เข้ามาเสริมความรู้ให้แล้วกันนะครับ ข้อแรกว่าด้วยเรื่องของการไหว้ของคนจีน หลักๆจะมี 8 ครั้งตลอดปีอ่ะครับ (ไม่นับรวมพระจีนและพระใหญ่นะ) แต่ในสมัยนี้ข้าวของแพงที่เห็นไหว้กันหลักๆก็จะมี 1.ตรุษจีน 2.เช็งเม้ง 3. สารทจีน 4. ไหว้พระจันทร์ 5.ไหว้อี๊ และสุดท้ายคือ จอขี่หรือครบรอบวันตายคนสำคัญในบ้าน ของแต่ละบ้านที่ทุกวันนี้นิยมเอารวมไหว้กัน แต่มีข้อยกเว้นว่า คนที่จะเอาจอขี่มาไหว้รวมกันต้องเป็นสามีหรือภรรยากันเท่านั้น ถึงจะเอามาไหว้คู่่กันได้นะครับไม่ใช่จับรวมรวบกันหมด อย่างบ้านผม กงและม่าเสียหมดแล้วและเกิน 3 ปี ก็จะไหว้กง ม่าพร้ิอมกันในวันเดียว ส่วนแป๊ะก็จะไหว้แยกอีกวันอย่างนี้เป็นต้น ต่อมาเรื่องการไหว้กลางแจ้ง เรียกภาษาจีนว่าไหว้ "ฮ่อเฮียตี๋ " บ้านๆเราจะเรียกว่าไหว้ผีไร้ญาติครับ หรือว่าไหว้ต้นตระกูลจีนนั่นเอง ซึ่งในการไหว้จะไม่มีการจัดเรียงใดๆทั้งนั้นครับ ข้าวก็หุงแล้วยกออกมาทั้งหม้อ ชามตะเกียบล้างแล้ว " คว่ำ ใส่ตะกร้าแล้ววางทั้งตะกร้า " กับข้าวทุกอย่างยกออกมาทั้งหม้อทั้งหมดเลยครับ สิ่งเดียวที่จะวางจัดเรียงให้คือ " เต๊ หรือน้ำชา " และ " จิ้ว หรือเหล้า " นั่นเองครับ แบะที่พิเศษกว่าการไหว้ บรรพบุรุษเราก็คือ จะมีการตักน้ำเป็นถัง และ วางถ่าน วางเกลือเอาไว้ด้วย (กระถางธูปที่ใช้ก็ต้องใส่เป็นเกลือนะครับ) หลังจากนั้นให้คนในบ้านออกมา "เหี่ยง" หรือไหว้กันทุกคนครับโดยมรลูกชายคนโต หรือหลานชายคนโตนำธูปไปเหี่ยงตามมุม ตามซอกรอบๆบ้านด้วย หลังจากต่อธูปได้สองครั้ง(ทุกครั้งที่ปักธูปเพิ่มอย่าลืมเทเหล้าและน้ำชา เติมลงจอกด้วยนะครับ) ก็จะมาลากระดาษเงินกระดาษทองและประทัดออกมา หลังจากเผากระดาษเงินกระดาษทองใกล้มอด ให้น้ำ " ธูปที่ใช้ไหว้ เทียน และธูปเทียนที่เหลือจากการไหว้ เผาทิ้งทั้งหมดห้ามเก็บเอาไว้ " เมื่อใกล้มอดก็จุดประทัดเลยครับเป็นอันเสร็จพิธี หลังจากนั้นก็ลาของไหว้ขึ้นบ้านเลยครับ ( เต๊และจิ้วเททิ้งลงดินตรงนั้นเลยนะครับอย่าเก็บขึ้นบ้าน) ในขณะที่ลาของไหว้ขึ้นบ้านนั้น หลานชายคนโต (ที่ปักธูปนั่นละ) ก็ต้องเอาเกลือที่ใช้ปักธูปนั่นละสาดรอบบ้านไล่สิ่งไม่ดีออกไป เป็นจบพิธี ต่อมาว่าด้วยเรื่องของประทัด ประทัดใช้ไหว้ในยามมงคลครับ จะสังเกตุว่าทุกคราวที่มีการมงคล จะต้องมีประทัดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ เพื่อใช้เสียงอันดังของมันไล่สิ่งไม่ดีออกไปให้พ้นพิธี แต่ในกรณีการไหว้นี้ก็มีข้อต้องยกเว้นเหมือนกัน ในวันไหว้ตรุษแจีนและสารทจีน จะจุดประทัดแค่สองรอบเท่านั้นครับคือ "จุดหลังไหว้เจ้าตอนเช้าเสร็จ " เพื่อบอกเจ้าให้รู้ว่าตอนนี้ถึงวัน เวลามงคลแล้ว ขอเชิญให้เจ้าอวยพรให้กับพวกเราและคนในบ้าน และ " จุดหลังไหว้ฮ่อเฮียตี๋ หรือ ผีไร้ญาติ " ไหว้บรรพบุรุษเราในบ้าน " ห้ามจุดประทัดเด็ดขาดครับ " เพราะจะเหมือนกับเราเชิญท่านมาทานข้าวแล้วไล่ส่งปู่ ย่า เราเองครับ ไม่ดีครับผมอากงผมสอนเอาไว้ ว้และบ้านเราไม่เคยทำเลยครับผม /บ้านผมเป็นคนแต้จิ๋วนะครับบางบ้านอาจจะไหว้ไม่เหมือนกันเน้อ มาบอกไว้เป็ฯความร้เฉยๆ /เห็นด้านบนเมื่อกี๊คุณจขกท.. บอกว่าเพื่อนซื้อไก่ทอด เคเอฟซีกับเป็ดเอ็มเคมาไหว้ ถ้าไหว้เป็นกับข้าวพออนุโลมนะครับ แต่เอามาไหว้เป็นโหงวแซ หรือซาแซ ผิดธรรมเนียมอย่างแรงเลยล่ะครับ ถ้าจะเอาง่ายขนาดนี้อย่าไหว้เลยดีกว่าครับ ระวังถึงคราวตัวเองลูกหลานเอามาไหว้แบบนี้ น้ำตาจะตกในนะครับ ^^ จากคุณ : alohaboyz เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 10:31:41 A:124.120.74.7 X: TicketID:228368

ความคิดเห็นที่ 55   กำลังหิว ๆ ก็เลยแวะมาห้องนี้ .. ของกินเพียบเลยค่ะ .. แถมได้ความรู้ด้วย .. ความคิดเห็นที่ 20 เกล็ดความรู้ .. เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ .. จากคุณ : แสงสว่างที่ปลายทาง เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 10:49:14

ความคิดเห็นที่ 56 เข้ามาอ่าน ได้ความรู้มากมาย เลยค่ะ จากคุณ : หนิง/เชียงใหม่ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 11:14:42

ความคิดเห็นที่ 57 ของไหว้อลังการมากค่ะ ภาพสวยจริง ๆ ได้ความรู้ติดตัวเีพียบ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : i_lllive เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 13:07:05

ความคิดเห็นที่ 58 จำได้ตอนนึงคนแก่ ๆ คนจีนเล่าว่า ที่ไหว้ขนมเหนียว (ขนมเข่ง ขนมเทียน) เพราะเอาไว้ปิดปากเจ้าที่ไม่ให้พูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับที่บ้าน เมื่อไปเฝ้าเง็กเซียนบนสวรรค์ จากคุณ : ying-athens เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 15:19:57

ความคิดเห็นที่ 59 เรามัน ตึ่งหนั่งเกี้ย เนอะๆๆ เป๊ะๆ ทุกอย่าง ไหว้ทั้งปี ไหว้ไปแล้ว จะได้ เผ่งอันสูงสู่ง ค้าขายไรก็ เซงลี่ฮ่อ การไหว้บรรพบุรุษก็เพื่อ เหล่ากง เหล่าม่า  กลับมาเยี่ยมลูกหลาน และท่านจะบันดาลให้เราโชคดี และคอยคุ้มครองเรา ตลอดไป จากคุณ : ลิ้มฮุ่ยย่ง (อาหมวยน้อย) (youngyee_122) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 15:28:44

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณสำหรับความรู้และความตั้งใจพิมพ์ ขนาดอ่านยังนานคงจะพิมพ์นานเลย เอากิฟท์ไปเรย ^_^ จากคุณ : Winnie_The_Pooh เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 16:32:57

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณ ที่นำข้อมูลดีๆมาให้นะคะ  ชุดใหญ่มากๆๆๆๆเลยค่ะ   สุดยอดดดดด บ้านเราไม่ครบเครื่องอย่างนี้น่ะค่ะ แต่มีซาแซ โหงวแซ กระเพาะปลา ผัดวุ้นเส้น หรือผัดหมี่เป็นพื้นฐาน แม่บอกว่าไม่ซีเรียสเรื่องไหว้ แต่อยากให้ลูกรู้ธรรมเนียม รู้ความหมาย ส้มคืออะไร ตับคืออะไร สำคัญมาก และที่สำคัญที่สุด แม่บอกว่าสมัยก่อนเมืองจีนแร้นแค้นไม่ค่อยได้กินของดีๆ   ญาติพี่น้องก็กระจายไปอยู่ห่างกันคนละเมือง มีประเพณีแบบนี้ เพื่อที่ว่าปีหนึ่งๆลูกหลานคนในบ้านจะได้กินอาหารดีๆอร่อยๆ และได้มาพบปะกันมาทำความรู้จักกัน  อาหารที่ปรกติไม่ได้กินก็จำเป็นจะต้องซื้อหามาไหว้  แล้วในที่สุดก็คืนกำไรสู่ลูกหลานนั่นแหละ ทุกวันนี้อาหารการกินเราก็ดีแล้ว  โทรศัพท์ก็มี อีเมล์ก็มี แต่อยากให้ลูกหลานได้รู้วิถีชีวิตขนบธรรมเนียมของคนรุ่นก่อนเท่านั่นเอง อยากน้อยก็คุยกับบ้านอื่นๆรู้เรื่อง  ได้ภูมิใจว่าอากงอาม่าก็สอนมา  แต่ก็ยังตกหายตามทาง หุหุ จากคุณ : fm@co เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 18:43:54

ความคิดเห็นที่ 62 ผมก็ไม่สนับสนุนเอาง่ายๆมาไหว้ครับ ก็อย่างว่านะครับ ประเพณีมาแต่โบราณย่อมต้องมีคำสอนดีๆ แอบแฝงไว้เสมอ ที่บ้านผมไหว้เสร็จ ส่วนมาก ทำข้าวมันไก่,กับก๋วยเตี๋ยวเป็ด ผมยังไม่เบื่อถ้าเบื่อก็ทำอาหารได้อีกตั้งหลายอย่าง แต่ที่ยกตัวอย่างผมอร่อยทุกปีเลยแฮะ...555+ จากคุณ : someplace เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 18:54:14

ความคิดเห็นที่ 63 ตอบความเห็นครั้งที่ 4...ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นค่ะ เยอะมากๆเลย และบางความเห็นที่มีเกร็ดความรู้และสาระ ขออนุญาตโพสบอกที่ด้านบนนะคะ คุณ คุณนายตื่นเช้า :: ขอบคุณที่แวะมาชมค่ะ ถ้าเป็นสะใภ้คนจีนก็ต้องปฏิบัติครบสูตรอย่างนี้แน่นอนค่ะ ^_^ คุณ Olive-ay :: ไม่เป็นไรค่ะ ยินดีที่ได้แบ่งปันกันค่ะ คุณ lalinphat :: ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมค่ะ ดีใจที่ชอบค่ะ คุณ กระบี่ในใจ :: ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ ^_^ คุณ หมวย (potmetha) :: ไม่เป็นไรนะคะ ไว้เทศกาลหน้าก็ได้ค่ะ ของไหว้ที่บ้านก็เริ่มประยุกต์แล้วเหมือนกันค่ะ ไม่อย่างนั้นถ้าทำแต่ผัดๆต้มๆ คงเก็บไม่ได้นานนัก และเบื่อเสียก่อนด้วยค่ะ เด็กๆจะชอบของทอดๆกันมากกว่า คุณ :::moka sidamo::: :: ขอบคุณที่ชมค่ะ ^_^ คุณ เนียงเพาะ :: ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ ^_^ คุณ​ ถนนสายนี้เปรี้ยว :: ค่อยๆทยอยกินค่ะ ตอนนี้ที่บ้านยังไม่หมดเหมือนกัน อย่างเป็ดไก่ก็ลองทำ ก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวมันก็ได้ค่ะ อร่อยดีเหมือนกัน คุณ ออย-โอ๊ด :: อันนี้เห็นด้วยว่าไม่จำเป็นต้องไหว้ครบนะคะ หากว่าไม่ว่างหรือไม่สะดวก เอาตามสะดวกดีกว่าค่ะ ญาติผู้ใหญ่ที่ล่วงลับคงต้องการแบบนี้เช่นกันค่ะ ^_^ คุณ  น้องหนูเอวตัน :: อ่านหนังสือเล่มเดียวกันเลยค่ะ ส่วนตัวอ่านของคุณจิตราตั้งแต่เด็ก อายุสัก 14-15 มั้งคะแล้ว อ่านตั้งแต่เล่มแรกๆโน่นเลยค่ะ ส่วนสาคูที่บอกมา ชอบแบบเม็ดเล็กมากค่ะ ต้มใส่น้ำตาลทรายแดง อร่อยมาก อย่างที่บ้านจะไหว้เยอะเหมือนกัน ตามเทศกาลที่บอกมาเหมือนกันค่ะ ใกล้ๆนี้คง "ไหว้พระจันทร์" และ "ทีกงแซ" ตามมาติดๆค่ะ คุณ ดาวคนอง :: ขอบคุณมากค่าที่แวะมาอีก ทีนี้เลยได้รู้แล้วว่าทำไมไม่ให้วางช้อน แต่ก็จะถือคติทั้งสองแบบก็ได้นะคะ ^_^ แบบไหนก็ดีทั้งนั้น ที่ดีสุดคือ ลูกหลานอย่างเราได้กินของอร่อยนี่แหละค่ะ ทั้งที่จริงๆก็กินทุกวันอยู่แล้ว แต่จะรู้สึกว่ากับข้าวไหว้นี่อร่อยเป็นพิเศษ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ^_^ คุณ น้องหนูเอวตัน :: อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ^_^ คุณ เจซอง :: อันที่จริงแล้วเรื่องแบบนี้พูดยากค่ะ ต้องขึ้นอยู่กับความสะดวกของลูกหลานเป็นหลัก หลายบ้านนั้น "รุ่นลูก" จะให้ความสำคัญ และ "รุ่นหลาน" จะลดความสำคัญในเรื่องนี้ลงมา เห็นว่าไม่จำเป็น ยุ่งยาก และอะไรก็ตามแต่ค่ะ อันที่จริงแล้ว...ถ้าผู้ใหญ่อธิบายดีๆ คิดว่าคนรุ่นใหม่คงเข้าใจและพร้อมปฏิบัติตาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น...ขอให้ยึดเอาความสะดวกและเต็มใจทำเป็นหลักดีกว่าค่ะ ญาติผู้ใหญ่ที่ล่วงลับคงรับรู้และเข้าใจค่ะ ^_^ คุณ alohaboyz :: ขอบคุณมากค่ะ ทีนี้เลยได้ความรู้เพิ่มอีกมากเลย ที่บอกไปนั้น...เพื่อนเอามาใช้ไหว้แทนซาแซนั่นแหละค่ะ ^_^ คุณ แสงสว่างที่ปลายทาง :: ยินดีมากค่ะ และขอบคุณที่แวะมาค่ะ คุณ หนิง/เชียงใหม่ :: ขอบคุณที่แวะมาค่ะ ^_^ คุณ i_lllive :: ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ ^_^ คุณ ying-athens :: ขอบคุณมากค่ะ อันนี้ไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะ ขอบคุณที่นำมาฝากกันค่ะ คุณ ลิ้มฮุ่ยย่ง (อาหมวยน้อย) (youngyee_122) :: อันนี้เห็นด้วยมากๆ ไม่ต้องดูไกลค่ะ ที่บ้านจะไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษตลอด สังเกตดู ชีวิตลูกหลานก็พบเจอแต่สิ่งดีๆจริงๆ ไม่ได้ร่ำรวยมากอะไร แต่ทุกวันนี้ก็อยู่แบบสบายกายสบายใจดีค่ะ คุณ Winnie_The_Pooh :: พิมพ์ไม่นานหรอกค่ะ ดีใจที่ได้มอบความรู้แบ่งปันกันค่ะ คุณ fm@co :: อาม่าเคยพูดเหมือนกันว่า...รู้ธรรมเนียมไว้ พอไปไหนก็ทำได้ถูกต้อง ใครเห็นจะได้รู้ว่าเราได้รับการอบรมสั่งสอนมา คงเหมือนคนไทยสมัยก่อนที่ผู้หญิงต้องร้อยมาลัย ปักผ้า งานพวกนี้ต้องเรียนรู้ได้รับการถ่ายทอดมา เป็นวิชาติดตัว คิดว่าคงไม่ผิดกันนักค่ะ... คุณ someplace :: เอามาทำก๋วยเตี๋ยวกับข้าวมันไก่เหมือนกันเลยค่ะ ยังไงก็ได้กินแน่ และไม่เบื่อด้วย แม้ว่าปีหนึ่งจะไหว้ 4 หน แต่ก็ชอบนะคะ ได้กินของอร่อยตลอดเลย 555 จากคุณ : keethaya เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 19:37:22

ความคิดเห็นที่ 64   ก่อนแต่งงาน  ไ่ม่เคยไหว้เลย  ที่บ้านเรา ก็พ่อกะแม่  ช่วยกันเตรียมของ  และ ไหว้ ส่วนเรา  ในฐานะลูกสาว   นอนหลับอุตุ  ไม่เคยมาช่วย  ไม่เคยแตะ  ไม่เคยหม่ำ  สมัยก่อนแหวะๆ  ของพวกจีนๆ เวลาเปลี่ยนไป  กลายเป็นสะใภ้   โอ้โห   เพิ่งจะรู้ว่าไหว้เจ้าก็สนุกดีนี่เอง เอาเจ้าตัวแสบสองตัว  มาช่วยกันจัด  มาช่วยกันเรียง  ยุ่งก็ยุ่ง  สนุกก็สนุกดี เด็ํกๆ ก็ชอบมาก  ขนาดยังเตาะแตะก็มาช่วยแบบตั้งใจ   เราเลยรู้่ว่าการไหว้เจ้าดีอย่างนี้นี่เอง เป็นการฝึกเด็กๆ ให้รู้จักช่วยทำงาน  ช่วยเหลือผู้ใหญ่  กตัญญู   และมีกิจกรรมให้มีส่วนร่วม จากที่ไม่เคยไหว้  ตอนนี้เลยสนุกเลยค่ะ จากคุณ : Mont (Montparnasse) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 52 21:26:03

ความคิดเห็นที่ 65 ผมขอออกความเห็นส่วนตัวน่ะครับ  ด้วยความที่ ที่บ้านเป็นคนจีน   มีไหว้เยอะมากๆในปีหนึ่ง (ไหว้ถึงสองที่ในหนี่งเทศกาล)   ทำให้เป็ด ไก่ หมู ต้มเอง (พี่ชายกับพ่อทำ ผมทำไม่เป็น แหะๆ)  อยากจะบอกว่า โครตเบื่อ กับของเหล่านี้เลย เช่นสารทจีนที่เพิ่งจะผ่านมา  เป็ด6 ไก่8 หมู6 ปลา2 น่ะครับ   มันเยอะมากๆ แล้วยังมีตรุษจีนอีก ที่บ้านเจ้าเยอะ จนจะกลายเป็นสำนักทรงไปแล้ว (ชอบแซวพ่อกับแม่)   บอกตรงๆว่า เบื่อ และ เอียดกับเป็ดต้ม ไก่ต้ม หมูต้มมากๆ จนเดี๋ยวนี้ผมไม่กินเลย สับให้คนอื่นกิน แต่ผมไม่กิน คือที่พูดมา อยากจะบอกว่ายุคสมัยเปลี่ยนไป เป็ด ไก่ หมู (ที่ต้ม) ไม่ใช่ของหายากเหมือนสมัยก่อนนู้น  แล้วไหว้แล้วก็เหลือเยอะแยะ ต้องไล่แจก ผมละอยากจะเปลี่ยนเหมือนเพื่อนจขกท.มากๆ คือ ไก่ทอด เป็ดย่าง หมูย่าง อะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่แบบปัจจุบันนี้   ไม่งั้นก็ไหว้ไปงั้นๆ ไม่มีคนกิน บางที ก็ให้หมา ฉะนั้นผมก็คงรอยุคผมก่อน ผมเปลี่ยนแน่นอน ทุกวันนี้ก็เปลี่ยนไม่ได้ เพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่ชอบ เห้อ ต้องทนไปอีกนาน เหอๆ ปล. ผมบอกกับพ่อแม่ว่า ถ้าสมมติผมต้องไปก่อน หรืออีกหน่อยผมมีลูกหลาน ผมจะบอกเลยว่า ห้ามไหว้ผมด้วย ไก่ต้ม เป็ดพะโล้ หมูต้ม  ใครไหว้จะมาด่าในฝัน จากคุณ : Future is on my hand เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 52 11:51:27

ความคิดเห็นที่ 66 ของที่บ้านข้าวไหว้อากง  อาม่าจะไม่ให้ข้าวพูนถ้วยค่ะ   ต้องปาดให้เรียบไม่เกินขอบ    อันนี้ไม่ได้ถามแม่ว่าเพราะอะไร   ส่วนไก่ที่บ้านไหว้7ตัวเหลือทิ้งประจำขนาดใส่ช่องแข็งยังกินไม่ไหว  ที่บ้านคนน้อยแค่3คนเอง    ส่วนกับข้าวไหว้น้อยอย่างเพราะทำไม่ไหวและคนที่บ้านก็น้อยกินไม่ไหวอีกเหมือนกันT-T     ยิ่งที่บ้านเป็นร้านขายของไหว้ยิ่งไม่ว่างทำกับข้าวเข้าไปใหญ่เพราะวันจ่ายคนอื่นเป็นวันขายของ   ของบ้านเรา - -"   ขนาดวันไหว้ยังมีคนมาวิ่งหาของเป็นระยะๆ   เวลาเริ่มไหว้เลยช้ากว่าบ้านอื่นๆมาก   อย่างปกติไหว้อากงอาม่าจะไหว้ช่วงเช้าไม่เกินเที่ยงแต่บ้านเรากว่าจะได้ไหว้ก็ช้าไปมาก    ยิ่งเทศกาลตรุษจีนยิ่งช้าเพราะต้องขายของ  บางปีกว่าจะได้ไหว้ก็ปาไปตั้งบ่าย3โมง  T-T    กว่าจะไหว้ผีไม่มีญาติเสร็จก็ปาไปทุ่มกว่าๆ + +   แถมสภาพแต่ละคนเมื่อยไปทั้งตัว     พอวันตรุษจีนบ้านอื่นไปไหว้เจ้า   ไปเที่ยว  บ้านเราพร้อมใจกันนอน    แล้วค่อยไปไหว้พระวันอื่น    นึกถึงสมัยเด็กๆจังไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องของไหว้  อย่างมากแค่พับกระดาษเงินกระดาษทอง แล้วก็กิน    ตรุษจีนก็เที่ยว ^ ^ จากคุณ : kjung เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 52 12:08:31

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้มาก ๆ เลย อาหารน่ากินมากด้วย * แต่คุณ คคห 54  ทำไมต้องทำให้ความคิดเห็นมันยาวโดยใช่เหตุด้วยครับเนี่ย ? * แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 52 12:47:15 จากคุณ : คนอย่างเรา...ใครเขาจะเอา เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 52 12:45:32

ความคิดเห็นที่ 68 คคห 54 ยาวมาก ๆ  จัดเรียงไม่ดีเลยครับ ไม่น่าอ่าน จากคุณ : แมลงปอร่อแร่ เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 52 23:08:30

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณมากๆ ค่ะ ได้ความรู้มากๆ จะเอาไปเล่าให้พ่อฟังเ้วย เราเป็นลูกหลานจีนแท้ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย พ่อแม่เป็นคนจัดการหมด แล้วก็ไล่เราไปจุดธูป แค่นั้นเอง จุดมั่งไม่จุดมั่ง วันสาร์ทที่ผ่านมา อุตส่าห์หนีงานกลับมาจุดธูป แต่ว่าเวลาจำกัด เลยจุดสามครั้ง ในครึ่ง ชม. แต่ตอนเย็นพี่น้องกลับมากินข้าวรวมกันเกือบครบ ​(บ้านเราคนเยอะ ไม่เคยรวมกันได้ซักที) ตอนนีได้รู้อะไรอีกเยอะ ขอบคุณมากๆ นะคะ จากคุณ : Rurujung เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 00:47:24

ความคิดเห็นที่ 70 ตอนเจ๊หลีไปอยู่ในบ้านเป็นสะใภ้ใหญ่ ถึงแม้จะเหนื่อยหนัก รับหน้าที่ทั้งหมด แต่ก็แลกมากับการได้วิชาทำขนมในเทศกาลจีน ๆ มาทั้งหมดจากแม่สามีค่ะ ทุกวันนี้แยกบ้านเป็นของตัวเอง อิสระ ก็เลยนำความรู้ที่ได้มแบ่งปันเช่นกัน ตอนนี้จะขาดขนมเทียนได้อย่างไรใช่ไม๊คะ ทำเองกับมือค่ะ แม้ไม่ค่อยมีเวลา แต่ความชอบมันห้ามกันไม่ได้ จากคุณ : กิน ๆ เที่ยว ๆ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 09:01:42

ความคิดเห็นที่ 71 ก่อนนึ่งกับการห่อ จากคุณ : กิน ๆ เที่ยว ๆ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 09:02:55

ความคิดเห็นที่ 72 ออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ จากคุณ : กิน ๆ เที่ยว ๆ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 09:04:34

ความคิดเห็นที่ 73 นาน ๆ จะมีคนตั้งกระทู้แบบนี้ เจ๊หลีขอร่วมด้วยค่ะ นี่เลยขนมเทียน คู่ขนมเข่ง เพราะเราคู่กันค่ะ จากคุณ : กิน ๆ เที่ยว ๆ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 09:06:48

ความคิดเห็นที่ 74 ทำไมไม่ไหว้หมูทั้งตัว เหมือนปลากระบอก หรือเป็ด หรือไก่หนอ...... ไม่ได้ไม่ขาดๆ เกินๆ อิอิอิ จากคุณ : bluegamete เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 15:27:07

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ จากคุณ : HandsomeManThailandpost เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 18:58:46

ความคิดเห็นที่ 76   โห~ อลังการมากๆเลยค่ะ... ไอ่เรามันก็ลูกไทยแท้ 100% เลยไม่เคยไหว้เข้าไหว้บรรพบุรุษกับชาวบ้านชาวช่องเค้า แต่เคยอาศัยส่วนบุญข้างบ้านไปกินของเหลือไหว้เจ้าบ้าง- -" เพิ่งจะรู้ว่าเวลาไหว้ทีนึงต้องจัดกันอลังการล้านแปดแบบนี้ เห็นแล้วรู้สึกทึ่งมากๆเลยอ่ะ คุณแม่เคยบอกว่าคนจีนเป็นชนชาติที่กตัญญูที่สุดในโลก... พอมาเห็นกระทู้นี้ รู้ซึ้งเลยค่ะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่เอาความรู้มาแบ่งปันกันนะคะ^---^ จากคุณ : คุณนุ้งมิ้ง เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 20:57:04 A:118.173.206.171 X: TicketID:231800

ความคิดเห็นที่ 77   เข้าใจความรู้สึกของคุณ kjung คห. ที่ 66 เลยค่ะ เพราะบ้านเราก็เป็นร้านขายของเหมือนกัน และเป็นขายของที่มีอยู่เจ้าเดียวในซอย พอใกล้ๆวันตรุษ วันสารทคนจะแห่กันมาซื้อของเยอะมากกกกกกกก จากที่วันปกติจะไม่ได้ออกมาช่วยขายของ ก็ต้องออกมาช่วย ไม่งั้นหม่าม๊าทำไม่ไหวแน่ๆเลยค่ะ กว่าจะได้ไหว้ก็เกือบๆเที่ยงอ่ะค่ะ ขายไปด้วย ทำกับข้าวไปด้วย หลังจากวันไหว้ก็สลบไสลไปตามระเบียบ เพราะเหนื่อยมากจริงๆค่ะ แล้วก็ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ ที่เอาเรื่องดีดีว่าแบ่งปันกันฟังค่ะ @_@ จากคุณ : อ้วนได้ผอมไม่ได้ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 11:37:13