|
ความคิดเห็นที่ 15 |
อยากให้ไอเดียหลาย ๆ ประเด็นแบบนี้ครับว่า
จะเครื่องปั่นยี่ห้อไหน แบบไหน ล้วนแล้วแต่มีข้อดี ข้อเสียในตัวเองทั้งนั้นนะครับ แต่อยากให้ดูความจำเป็น และความเหมาะสม ดังนี้
1. ยี่ห้อ -- ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้องตลาด เช่น mulinex, philips, ยี่ห้อจีนทั้งหลาย..ทั้งถูกทั้งแพง ขอให้ดูว่า มีอะไหล่หรือไม่ ศูนย์บริการเป็นอย่างไร ในพื้นที่ที่คุณอยู่ โดยเฉพาะถ้าเป็นต่างจังหวัดต้องเช็คให้ดีครับ.... เช็คด้วยว่าอะไหล่แต่ละชิ้นสามารถถอดแยก...ซ่อม ... แพงแค่ไหน เพราะทุกยี่ห้อมีโอกาสเสียด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งเสียจากระยะอายุการใช้งาน หรือเสียจากความประมาทเลินเล่อของเราเอง
2. กำลังไฟ ... มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ต้องดูด้วยครับ ถ้าจะให้ดี ซื้อแบบกำลังไฟสูงสักหน่อย (ประมาณ 500-600 วัตต์ขึ้นไป) จะทำให้การทำงานง่ายขึ้น และคุณภาพของน้ำที่ปั่นออกมาดีขึ้น ยิ่งถ้ากำลังไฟสูง ๆ จะทำให้น้ำที่เราปั่นออกมาทั้งเนียน ทั้งฟู เซ็ตตัวสวยงาม แต่กำลังไฟสูง ๆ ก็จะทำให้ค่าไฟแพงขึ้น.. ราคาเครื่องแพงขึ้น ก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องต้นทุนของเราด้วย
3. โถแก้วหรือโถพลาสติก ... โถแก้ว -- สวย ใส ไม่เก็บคราบและกลิ่น ทำความสะอาดง่าย แต่ข้อเสียคือ หนัก และต้องล้างอย่างระมัดระวัง เพราะถ้าพลาดปุ๊บ แตกปั๊บ โถพลาสติก (ในที่นี้หมายถึงพลาสติกธรรมดา อย่างถูกๆ) ใช้นาน ๆ จะหมอง จะขุ่น เป็นคราบ และแตกได้เหมือนกัน เพราะมันเปราะ ... โถพลาสติก (แบบคุณภาพ หรือที่เรียกว่าโพลีคาบอเนต..มั้ง) .. น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง .. ไม่แตกง่าย ทนทาน ไม่เก็บกลิ่น แต่พอใช้ไปนาน ๆ อาจจะขุ่นได้เหมือนกัน
4. ใบพัด -- เป็นเรื่องที่สังเกตยากและค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่จากประสบการณ์ ควรเลือกใบพัดที่มีวัสดุคงทน มีความหนาพอสมควร .. จะใช้ได้นาน ไม่สึกหรอง่าย ส่วนเรื่องตำแหน่งของใบพัด สังเกตให้ดีนิดนึง ควรจะไม่ห่างจากก้นโถมากนัก เพราะบางครั้งใบพัดที่อยู่ตำแหน่งสูง ๆ (ดูลอย ๆ ขึ้นมา) จะมีผลเวลาปั่นส่วนผสมบางอย่างแล้วมันไม่ละเอียด เกิดการนอนก้นได้ เช่น เครื่องยี่ห้อ Buono เป็นต้น
5. ราคา -- หลายความเห็นได้บอกแล้ว อันนี้ขึ้นอยู่กับทุนทรัพย์ส่วนตัวด้วยครับ ช่วงแรก ๆ อาจใช้เครื่องธรรมดาก่อน ถ้ายังไม่มั่นใจ และต้องดูให้เหมาะกับราคาขายของเราด้วย... อย่างถ้าน้ำปั่นทั่วไป 15-25 อาจจะใช้เครื่องธรรมดาไปก่อน อย่างยี่ห้อ philips เดี๋ยวนี้ 2-3 พันก็พอใช้ได้ เครื่องสี่พันกว่าก็ดูหรูหราไฮโซ คุณภาพโอเค กำลังไฟสูงหน่อย แต่ถ้าราคาขายของเราแก้วละ 40-50 บาทขึ้นไป ..แนะนำว่าให้ใช้เครื่องหลักหมื่นเลยครับ เนื่องจากความคุ้มค่า ทนทาน และที่สำคัญ คุณภาพของเครื่องดื่มที่ปั่นออกมา จะดีกว่าเครื่องราคาถูกจริง ๆ ... ยิ่งถ้ากำลังไฟสูง ๆ จะทำให้เครื่องดื่มนั้นแยกตัวหรือแยกชั้นได้ช้ากว่าเครื่องปั่นกำลังไฟต่ำ
----- คร่าว ๆ นะครับสำหรับเรื่องเครื่องปั่น ...ถ้าสงสัยประการใดเพิ่มเติมก็หลังไมค์ได้ครับ
ส่วนเรื่องน้ำแข็ง แนะนำ น้ำแข็งหลอดเล็ก ..หรือว่าน้ำแข็งยูนิตแบบที่ทำเองจากเครื่อง (ขนาดเล็ก) ก้อนเหลี่ยม ๆ แบน ๆ ก็ใช้ได้ ไม่แนะนำน้ำแข็งหลอดใหญ่ และน้ำแข็งป่น
เทคนิคเพิ่มเติม : เวลาปั่นให้ปั่นด้วยความเร็วหรือกำลังไฟต่ำก่อน สังเกตจนส่วนผสมและน้ำแข็งละเอียดเข้ากันดี ... จากนั้นให้ปรับไปที่ความเร็วสูง อีกสักประมาณ 10 วินาที เพื่อให้เครื่องดื่มนั้นเซ็ตตัว และฟูขึ้น สังเกตว่า ถ้าหากด้วยความเร็วสูง น้ำจะเริ่มมีไอลอยขึ้นมาบนผิวหน้า ... คุณภาพเกิดจากตรงนี้แหละครับ
จากคุณ |
:
Midori_illusion
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ก.ย. 52 23:22:41
|
|
|
|
|