ความคิดเห็นที่ 1 มาก่อนได้กินกุ้งก่อนเด้อ อิอิ จากคุณ : ข้าวมันไก่พิเศษสอง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:10:18

ความคิดเห็นที่ 2 มาถึงพระราชวังบางปะอินเมื่อสายๆ  แดดร้อนเปรี้ยงปร้างตามเคย   คำเตือน++กรุณานำร่ม  หมวก  แว่นกันแดดติดตัวไปให้พร้อมเพรียงค่ะ   ....และใครมีพัดลมจิ๋วส่วนตัวก็ยิ่งเจ๋ง  ....  ร้อนมากๆๆๆ  ขอบอก จอดรถไว้ที่ลานจอดก่อนถึงประตูเข้าวัง  เสียค่าจอด 20  บาทค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:12:54

ความคิดเห็นที่ 3 คุณ   : ข้าวมันไก่พิเศษสอง  ............อ๊ายยยย  จะมากินกุ้งกันตั้งแต่เนิ่นๆเลยเด้อค่ะ  รอหน่อยนะคะ  เที่ยวให้เหนื่อยและหิวซะก่อน มาค่ะ  มาซื้อตั๋วเข้าชมกันนะคะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:14:43

ความคิดเห็นที่ 4 มารอทานกุ้งค่าพี่แหม่ม จากคุณ : yayojung เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:14:46

ความคิดเห็นที่ 5 มาทีหลังแต่เอากุ้งตัวใหญ่สุด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:16:18

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อผ่านเข้าประตูจะต้องเดินขึ้นห้องอาหารก่อน  เพราะซุ้มประตูตรวจค้นจะอยู่ในนั้นค่ะ  จะได้เข้าห้องน้ำเตรียมพร้อมได้ด้วย แล้วก็เดินวนออกมา จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:17:08

ความคิดเห็นที่ 7 laser .... ตัดหน้ากันเห็นๆเลยนะคะคุณอาาาาาา จากคุณ : ข้าวมันไก่พิเศษสอง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:19:09

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีค่ะ   คุณหมี่ //   คุณlaser  มาเข้าคิวรอกุ้งกันแต่เนิ่นๆ   แต่ก็รู้ใช่ปะ  ว่าพี่แหม่มน่ะ  "โอ้เอ้-อืดอาด"ตัวแม่     เพราะจะพาไปเที่ยวก่อนค่ะ ดูแผนทีเขตพระราชวังค่ะ ..... ย้ายยยย  ใหญ่นะคะ พระราชวังบางปะอิน ตั้งอยู่ในตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ห่างจากเกาะเมืองลงมาทางทิศใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร   เป็นพระราชวังโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง   เนื่องจากเป็นที่ประสูติของพระองค์ ใช้เป็นสถานที่ที่ทรงใช้ประทับแรม ของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ด้วยเป็นพระราชวังใกล้พระนครนั่นเอง เมื่อครั้งเสียกรุงแก่พม่าครั้งที่สอง พระราชวังบางปะอินถูกปล่อยให้รกร้างมาระยะหนึ่ง   พระราชวังบางปะอินกลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งเมื่อสุนทรภู่ ซึ่งได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  ไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรี ได้ประพันธ์ถึงพระราชวังบางปะอินไว้ในนิราศพระบาท จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้เริ่มการบูรณะพระราชวังขึ้น และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้บูรณะครั้งใหญ่   โดยสร้างพระที่นั่ง พระตำหนัก และตำหนักต่าง ๆ ขึ้นมากมายเพื่อใช้เป็นที่ประทับ   รับรองพระราชอาคันตุกะ และพระราชทานเลี้ยงในโอกาสต่าง ๆ ในปัจจุบัน พระราชวังบางปะอินอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง   และยังใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์     รวมถึงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย แต่ได้เปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ โดยต้องแต่งกายให้สุภาพ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 52 19:25:09 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:19:25

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ   : ข้าวมันไก่พิเศษสอง  ไม่ต้องกังวลไปค่ะ  เราจะแบ่งให้เท่าๆกันนะคะ ...อะไรเป็นอะไรบ้างนี่ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:20:37

ความคิดเห็นที่ 10 จะพบว่า  ถ่ายมาแล้วมีขาดๆหายๆไปด้วยนะคะ  เหอๆ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:21:24

ความคิดเห็นที่ 11 แจกกิ๊ฟสาว ลิโพ ฉองขวดเลยนะนั่นอ่ะพี่แหม่มมมมมมมม อิอิ จากคุณ : สาวชาวสวน เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:21:48

ความคิดเห็นที่ 12 แว๊กกกสสสส์  คุณแหม่มขรา รูปที่กระทู้ป้าดูผ่านๆนึกว่าป๋าต๊อบง่ะ เดี๋ยวมาตามไปเที่ยวต่อนะคะ  ป้าทายว่าคุณแหม่มต้องร้อนเหลือประมาณเลยใช่มั้ยคะ จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:24:27

ความคิดเห็นที่ 13 เอ่อ  ....  สังขารไม่อำนวยค่ะ    ไม่สามารถทนแดดทนฝนได้นาน ร้อนๆอย่างนี้  อาจกลับไปแล้วมีไข้ได้ค่ะ   ขอเช่ารถมาซิ่งกันดีก่า จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:25:27

ความคิดเห็นที่ 14 โอ้ววววว..............แดดร้อนอะ กลับไปเอาร่มก่อน เดี๋ยวมาใหม่ จากคุณ : ไฮเปอร์_คลับ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:32:18

ความคิดเห็นที่ 15 ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ พี่แหม่ม จากคุณ : แพม (White Chateau) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:42:28

ความคิดเห็นที่ 16 แอบย่องเบาๆ เข้ามาฉกสายไหมฮับ จากคุณ : pikaball เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:43:10

ความคิดเห็นที่ 17 น้องมด   อ๊ะ  ใครอ่ะมายืนชู 2 นิ้ว    พี่ไม่รู้จักค่า   แว๊กกกสสสส์  คุณพี่ป้าอ้วนขรา  .... แหม่มไปเหมือนป๋าต๊อบเข้าซะแร้ว        เดี๋ยวขอไปโดดตู้ปลาทองตายก่อนนะค้า  5555 คุณ   : ไฮเปอร์_คลับ   สุดๆเลยค่ะ  นี่ขนาดเพิ่ง  10 โมงกว่าเองนะคะ ไปกันค่ะ  คุณแพม  ........อย่าลืม  หมวก ร่ม  พร้อมนะคะ น้องบอล     ฉกมาฝากพี่ซักถุงด้วยจ้า แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 52 18:52:38 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:51:59

ความคิดเห็นที่ 18 รถเบอร์ 5  พร้อมตุ๊กตาหน้ารถ   จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:53:57

ความคิดเห็นที่ 19 เจออะไรจอดดูหมดค่ะ   หอเหมมณเฑียรเทวราช จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:55:26

ความคิดเห็นที่ 20 ป้าก็เคยไปเป็นหมู่คณะค่ะ  เค้าไม่ให้เช่ารถ  เลยได้แต่กางร่ม ร้อนจริงๆเลยค่ะ จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:56:40

ความคิดเห็นที่ 21 ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ ^^ หิวกุ้งแม่น้ำจังเลย จากคุณ : coccinelle เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:58:00

ความคิดเห็นที่ 22   เกาะท้ายรถพี่แหม่ม  ตามไปติดๆ รอจกของกิน ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : 2แบ๊ว (CooKie&MaRooM) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 18:58:16

ความคิดเห็นที่ 23 ++จากคุณเพื่อนวิกิค่ะ++ หอเหมมณเฑียรเทวราช    หรือที่บางคนเรียกกันว่า "ศาลพระเจ้าปราสาททอง" เป็นปรางค์ศิลา จำลองแบบจากปรางค์ขอม ภายในประดิษฐานเทวรูปสมมุติแทนพระองค์พระเจ้าปราสาททอง ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ริมสระใต้ต้นโพธิ์ ภายในพระราชวังบางปะอิน ประวัติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างหอเหมมณเฑียรเทวราชขึ้นในระหว่างปี พ.ศ. 2415 - 2419 ต่อมา มีการสร้างในครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2423   เนื่องจากเหตุการณ์เรือพระประเทียบของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ล่ม เป็นเหตุให้พระองค์สวรรคตพร้อมพระราชธิดาและพระราชโอรส(ธิดา)ในพระครรภ์ ดังนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระราชวิตกว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ จะทรงได้รับอันตราย   จึงทรงบนว่าถ้าสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศปลอดภัยจากการเดินทางในครั้งนี้จะทรงสร้างศาลถวายใหม่ เมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศทรงปลอดภัยจากการเดินทาง   จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างศาลขึ้นมาใหม่ แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2432 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:00:49

ความคิดเห็นที่ 24 คุณพี่ป้าอ้วน     เขากลัวสบายเกินหน้าเพื่อนๆนะสิคะ  5555   แต่มันร้อนจริงๆ  ใหญ่ๆอย่างนี้  เดินเที่ยวให้หมด  แหม่มต้องแย่แน่ๆเลยค่ะ คุณ   : coccinelle   อดใจไว้ค่ะ ยังไม่เที่ยงเลย   นู๋กิ๊บ  มาโดดเกาะรถพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่  มิน่ารถมันหนักๆค่ะ  อิ  อิ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:03:30

ความคิดเห็นที่ 25 ห้องข้างในเล็กนิดเดียวค่ะ  ก็เลยเข้าไป จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:04:53

ความคิดเห็นที่ 26 มองไปฝั่งตรงข้าม......... สภาคารราชประยูร  ใช้แสดงนิทรรศการค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:06:46

ความคิดเห็นที่ 27 ++จากคุณเพื่อนวิกิค่ะ++ สภาคารราชประยูร   เป็นอาคาร 2 ชั้น ศิลปะแบบโคโลเนียล ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ริมสระน้ำตรงข้ามกับหอเหมมณเฑียรเทวราช ปัจจุบัน ใช้เป็นอาคารจัดแสดงประวัติและเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของพระราชวังบางปะอิน ประวัติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จัดสร้างสภาคารราชประยูรขึ้น เพื่อพระราชทานให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ และเจ้านายฝ่ายหน้า โดยก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2419 นอกจากนั้น สภาคารราชประยูรยังเป็นที่ทำการของ "หอทะเบียนเมืองกรุงเก่า"   ซึ่งเป็นสำนักงานที่ดินกรุงเก่าแห่งแรกของประเทศไทยด้วย จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:11:40

ความคิดเห็นที่ 28   ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ  ไม่ได้ไปพระราชวังบางประอินสิบกว่าปีแล้ว กุ้งแม่น้ำไปทานร้านอะไรคะ จากคุณ : Canon_tommy เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:12:15

ความคิดเห็นที่ 29 ตรงโน้นล่ะ  อะไร   ... จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:12:43

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ   : Canon_tommy   ร้านใกล้ๆวังนี่แหล่ะค่ะ  เดี๋ยวเฉลยนะคะ  รอหน่อยน้า   จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:17:58

ความคิดเห็นที่ 31 สะพานตุ๊กตา พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ ประตูเทวราชครรไล จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:22:09

ความคิดเห็นที่ 32   จุ้งงงงงงงง  แผล่บๆๆๆ หนูนั่งรอกินจุ้ง พี่แหม่มจองไว้ให้หนูสักสองตัวนะ แคะมันหัวจุ้งให้หนูด้วย  คิคิ อยากกินจังเลยยยยยย จากคุณ : 2แบ๊ว (CooKie&MaRooM) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:24:15

ความคิดเห็นที่ 33 นู๋กิ๊บ     เอ่อ    2  ตัวเชียวเหรอ  พี่ยังไม่ถูกล็อตเตอรี่ชุดใหญ่ๆเลยอ่ะค่า  ^ ^ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:26:55

ความคิดเห็นที่ 34 เข้าไปชมพระที่นั่งวโรภาษพิมาน ญ.  หากนุ่งกางเกงมา  ต้องไปยืมผ้าซิ่นมานุ่งทับก่อนนะคะ   และห้ามถ่ายรูปข้างในค่ะ ...ห้ามถ่ายรูปทุกที่เลยค่ะ  ยกเว้นหอจีนสูงๆ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:29:18

ความคิดเห็นที่ 35 จะเดินไปดูอะไรก็ต้องให้พร้อมทั้งร่ม และ แว่นค่ะ  ..............  ร้อนนนนนนน!!!! จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:33:39

ความคิดเห็นที่ 36 พี่แหม่มเตรียมพร้อมอย่างดีเลยนะคะ ทั้งแว่น ทั้งร่ม จากคุณ : yayojung เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:36:38

ความคิดเห็นที่ 37 พระที่นั่งวโรภาษพิมาน เป็นพระที่นั่งตึกชั้นเดียว โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว   โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นตรงบริเวณที่ประทับเดิมของพระองค์ ในพระราชวังบางปะอิน    แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2419 เมื่อแรกสร้างเป็นอาคารตึกสองชั้น ต่อมาได้ดัดแปลงรื้อลงเป็นชั้นเดียว มีท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกว่าราชการ    และใช้เป็นที่ประทับ ภายในห้องทรงพระสำราญ และห้องโถงรับรอง ประดับภาพเขียนสีน้ำมัน ภาพเขียนสีฝุ่น และพระราชพงศาวดารจากวรรณคดีไทยหลายเรื่อง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้วาดภาพเหล่านี้ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2430   นอกจากนี้ ยังมี สิ่งประดับล้ำค่าชิ้นเอกของโลกด้วย คือแจกันสลับสีเขียนลายทอง ในรัชกาลปัจจุบัน พระที่นั่งวโรภาษพิมานยังใช้เป็นที่ประทับ เมื่อมีการเสด็จแปรพระราชฐาน ณ พระราชวังบางปะอิน แต่ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้  โดยไม่สามารถถ่ายภาพภายในพระที่นั่งได้   และสุภาพสตรีต้องสวมกระโปรงเข้าชม ++จากคุณเพื่อนวิกิค่ะ++ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:37:29

ความคิดเห็นที่ 38 คุณหมี่  ไม่เตรียมอย่างนี้  เที่ยวเสร็จแล้วอาจเจ็บไข้ไปได้นะคะ เดินชมพระที่นั่งเสร็จแล้วเดินไปดูท่าน้ำข้างๆกัน   นั่นไง ............. เคเบิ้ลไทยๆ  สำหรับข้ามฟาก จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:41:05

ความคิดเห็นที่ 39 ที่ศาลานั่น  มีขายอาหารเลี้ยงปลาในสระน้ำด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 52 19:44:40 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:44:11

ความคิดเห็นที่ 40 ห้าๆๆๆ หนูไปด้วยค่ะ ไม่แย่งกุ้งนายหรอก... จากคุณ : อะนิตา เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:45:32

ความคิดเห็นที่ 41 รูป???? จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:46:34

ความคิดเห็นที่ 42 เดินเที่ยวด้วยไม่ไหวมันฮ้อน..ขอตามไปหม่ำกุ้งเผาด้วยคนก็แล้วกันนะค่ะพี่แหม่ม จากคุณ : แหม่มซัง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:47:02

ความคิดเห็นที่ 43 คุณแหม่ม  มาค่ะ  มาด้วยกัน คุณ   : อะนิตา   งั้นพี่เลี้ยงอย่างอื่นนะคะ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 52 21:26:35 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:47:20

ความคิดเห็นที่ 44 พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:51:03

ความคิดเห็นที่ 45 ...เป็นพระที่นั่งปราสาทโถงกลางน้ำ สร้างในแบบจตุรมุข พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จำลองแบบมาจาก พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2419 และพระราชทานนามว่า "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" ตามนามพระที่นั่งองค์แรก ซึ่งสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ณ พระราชวังบางปะอินแห่งนี้ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:52:26

ความคิดเห็นที่ 46 พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์  จัดได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกแห่งกรุงรัตน โกสินทร์ ซึ่งเคยได้รับเกียรติให้สร้างจำลองแบบไปแสดงในงานมหกรรมนานาชาติ ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อ พ.ศ. 2501 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:54:34

ความคิดเห็นที่ 47 ปัจจุบัน เป็นสถานที่ประดิษฐาน รูปหล่อสัมฤทธิ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉลองพระองค์เต็มยศจอมพลทหารบก ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 19:56:17

ความคิดเห็นที่ 48 ประวัติ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ   ให้สร้างขึ้นเพื่อฉลองการที่พระราชเทวีประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระนารายณ์ราชกุมาร โดยพระราชทานนามว่า "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" ซึ่งหมายความว่า   พระองค์ได้มีพระราชสมภพที่นี่ และได้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน พระที่นั่งองค์นี้ ใช้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งเสียกรุงให้แก่พม่า   เมื่อปี พ.ศ. 2310 พระที่นั่งองค์นี้จึงถูกปล่อยให้รกร้างไป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรง เสด็จพระราชดำเนินผ่านพระราชวังบางปะอิน เมื่อครั้งเสด็จฯ ประพาสพระนครศรีอยุธยา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์พระที่นั่งขึ้นใหม่ โดยใช้เครื่องไม้สร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ ณ บริเวณที่ตั้งเดิมของพระที่นั่งในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โดยยังคงใช้ชื่อ "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" ดังเดิม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้รื้อพระที่นั่งองค์เดิมลง เพื่อขยายสระน้ำให้กว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งองค์ใหม่ ซึ่งเป็นพระที่นั่งที่สร้างจากเครื่องไม้บริเวณกลางสระน้ำ โดยให้จำลองแบบพระที่นั่งมาจาก พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง   และพระราชทานนามว่า "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" ซึ่งยังคงชื่อพระที่นั่งไว้ดังเช่นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้บูรณปฏิสังขรณ์พระที่นั่งอีกครั้ง โดยได้เปลี่ยนพื้นและเสาเป็นแบบคอนกรีต  แทนเครื่องไม้ซึ่งผุง่ายเมื่ออยู่ในน้ำ พร้อมทั้งให้สร้างพระบรมรูปหล่อสัมฤทธิ์ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ขนาดเท่าพระองค์จริง ในฉลองพระองค์เต็มยศจอมพลทหารบก   มาประดิษฐาน ณ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์จนถึงปัจจุบัน จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:02:48

ความคิดเห็นที่ 49 ความรู้ทั้งหลายนั่น  และจากนี้ไป  ต้องขอบคุณ++คุณเพื่อนวิกิค่ะ++ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 52 20:05:25 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:04:57

ความคิดเห็นที่ 50 ...หนทางอีกยาว--วววว---วววว--------ไกล....ใครรอกินกุ้ง  คงหิวตาลาย  555 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:08:13

ความคิดเห็นที่ 51   พี่แหม่มมมมมมมมมมมมมมม หนุหิวมาก เดินไปซื้อกระเพาะปลาหน้าปากซอยมากินรอจุ้งพี่อะเนี่ย จุ้งงงงง!!! จุ้งจ๋าพี่มาแล้วจ๊ะ จากคุณ : 2แบ๊ว (CooKie&MaRooM) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:14:34

ความคิดเห็นที่ 52 ไปต่อค่ะ ประตูเทวราชครรไล จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:19:06

ความคิดเห็นที่ 53 ตามพี่แหม่มมาเที่ยวด้วยคนค่ะ สาวเสื้อดำดูดี น่ารักมากมายค่ะ จากคุณ : โตเหมี่ยว เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:23:11

ความคิดเห็นที่ 54 คุณแหม่ม เดา ๆๆๆ ว่าไปกินร้านในวัดเชิงเลนใช่มัยค่ะนี่ พึ่งบ่นกับน้องเองค่ะว่าอยากกินแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย กับพล่ากุ้งค่ะ จากคุณ : whilly เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:25:24

ความคิดเห็นที่ 55 ว้าว พี่แหม่ม ชีพจรลงเท้าจริงๆเลย จากคุณ : เลิฟ2ซี เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:28:19

ความคิดเห็นที่ 56 นู๋กิ๊บ     อื่มมม  พี่ก็ชักจะหิวแล้วล่ะ  จะหนีไปกินกุ้งก่อนก็จะเสียขั้นตอน  ทนๆเอาหน่อยน้า คุณหน่อย  อุ๊เหม่  ยอกันอย่างนี้  โฮะๆๆๆ คุณ   : whilly     อ๊ะๆๆ   ผิดจ้า จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:29:36

ความคิดเห็นที่ 57 น้องวิ     พี่ชอบเที่ยว  มากกกกกกกกกกก  ขอบอกค่ะ   ^O^ ประตูเทวราชครรไล   ตอนนี้ขายเครื่องดื่ม    เป็นที่นั่งพักหลบร้อนได้ดีค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:32:52

ความคิดเห็นที่ 58 หนูอยากกินกุ้งแย้ววววววววว จากคุณ : prinzessin เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:33:44

ความคิดเห็นที่ 59 ตามมากินกุ้งคร้าบ จากคุณ : ส้มตำปลาร้า เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:37:10

ความคิดเห็นที่ 60 สะพานเสาวรส  ที่เชื่อมต่อระหว่างพระที่นั่งวโรภาษพิมานและประตูเทวราชครรไล จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:39:39

ความคิดเห็นที่ 61 คุณน้ำหวาน  //  คุณส้มตำ     โอ๊ยยยย  เสียงรบเร้ามากมาย  เดี๋ยวค่า เดี๋ยว  ใจเย็นๆค่า   กำลังซิ่งรถไฟฟ้าอยู่ค่า จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:40:40

ความคิดเห็นที่ 62   พี่แหม่มๆ เมื่อวานหนูไปตัดผมมาอีกแล้ว เห็นรูปพี่แหม่มแล้วหนูตัดผมมา ทรงเหมือนกันพี่แหม่มเลย แต่ไม่เหมือนกันตรงที่ พี่แหม่มตัดแล้วน่ารักอะ หนูตัดแล้วหน้าเด๋อ 5555 ตัดผมสั้นเนี่ยสบายหัวดีเนอะพี่แหม่ม รู้งี้หนูตัดตั้งนานแล้ว จากคุณ : 2แบ๊ว (CooKie&MaRooM) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:40:42

ความคิดเห็นที่ 63 ตามเที่ยวด้วยค่ะ จากคุณ : MAE FAI เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:48:02

ความคิดเห็นที่ 64 นู๋กิ๊บ  อย่าเพิ่งยอกันมาก  อย่างพี่นี่เข้าวัยชราแล้วจะสวยๆแบบเด็กสาวๆได้ไงคะ   55555 เก๋งบุปผาประพาส    สำหรับประทับชมดอกไม้ สร้างด้วยไม้ขนาดเล็ก อยู่ในสวนริมสระต่อจากพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรออกไปทางทิศตะวันตก แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 52 20:50:00 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:48:13

ความคิดเห็นที่ 65 เชิญค่ะ  คุณตุ๊ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:49:38

ความคิดเห็นที่ 66 พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:51:35

ความคิดเห็นที่ 67 พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร เป็นพระที่นั่งองค์ประธานของพระราชวังบางปะอิน เดิมเป็นเรือนไม้ 2 ชั้น ทาสีเขียวอ่อนและเขียวแก่สลับกัน แต่เกิดไฟไหม้พระที่นั่งทั้งองค์ระหว่างการบูรณะเมื่อปี พ.ศ. 2481 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ  จึงได้ขอพระบรมราชานุญาตให้สร้างพระที่นั่งองค์นี้ขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นที่ประทับในการเสด็จแปรพระราชฐาน และรับรองพระราชอาคันตุกะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:53:19

ความคิดเห็นที่ 68 # หอวิฑูรทัศนา สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5   เพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรโขลงช้างป่า และภูมิประเทศโดยรอบพระราชวัง เป็นหอสูง 3 ชั้น ทาสีเหลืองสลับแดง # พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่งองค์สุดท้ายที่สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน   เป็นพระที่นั่งที่สร้างขึ้นโดยชาวไทยเชื้อสายจีนเพื่อถวายแด่รัชกาลที่ 5   พระที่นั่งองค์นี้ยังใช้ประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้ายจนถึงปัจจุบัน จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 20:58:00

ความคิดเห็นที่ 69 พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่งสองชั้น สถาปัตยกรรมแบบจีน ตั้งอยู่ภายในพระราชวังบางปะอิน สร้างในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2432 พระที่นั่งองค์นี้มีนามในภาษาจีนว่า เทียน เม่ง เต้ย แปลเป็นไทยว่า พระที่นั่งฟ้าสว่าง (เทียน แปลว่า เวหา , เม่ง แปลว่า จำรูญ , เต้ย แปลว่า พระที่นั่ง) ใช้เวลาในการสร้างประมาณ 10 ปี และเป็นพระที่นั่งองค์สุดท้ายที่สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นของถวายของข้าราชการกรมท่าซ้าย คือ พ่อค้าใหญ่ชาวจีน โดยมีพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ฟัก โชติกสวัสดิ์) เป็นนายงาน หลวงสาทรราชายุกต์ (ยม พิศลยบุตร)    และ หลวงโภคานุกุล (จื๋ว) เป็นผู้ควบคุมในการก่อสร้าง     และสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองแถม กรมหมื่นสรรพศาสตร์ศุภกิจ เป็นผู้ควบคุมดูแล เมื่อพระที่นั่งสร้างเสร็จ รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ จัดให้มีพระราชพิธีเฉลิมขึ้นพระที่นั่งตามแบบจีน   เมื่อวันที่ 27 - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2432 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:02:34

ความคิดเห็นที่ 70 มีเรือนเล็กๆ 2 เรือนนี้  อยู่ด้านหน้าค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:07:38

ความคิดเห็นที่ 71 เดินๆดูก็เห็นว่ามีกระถางบัวรอบๆ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:08:41

ความคิดเห็นที่ 72 ชั้นล่าง ชั้นล่างของพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญนั้น ใช้เป็นห้องพระบรรทมพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะอยู่ทางทิศตะวันออกของพระที่นั่ง และใช้เป็นท้องพระโรง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ท้องพระโรงล่าง และท้องพระโรงบน โดยบริเวณทางขึ้นท้องพระโรงบนนั้นมีแผ่นหินอ่อนเป็นตราสัญลักษณ์ลัทธิเต๋า ของจีน รูปหยินหยางประดับไว้ มีพระราชอาสน์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตั้งอยู่ตรงกลาง นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวยังโปรดเกล้าฯ ให้คัดลอกแผ่นป้ายคำโคลงสรรเสริญข้าราชการที่ทำคุณความดี 9 บท 17 แผ่นป้าย มาประดับไว้ด้วย ส่วนท้องพระโรงบนนั้น เป็นห้องประชุมเสนาบดี และใช้เป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 5 โดยมีการตั้งป้าย 8 เหลี่ยมซึ่งเขียนเป็นภาษาจีนว่า "เทียน เหมง เต้ย" และ "ว่าน ว่าน ซุย" ซึ่งแปลว่า ทรงพระเจริญหมื่น ๆ ปี และที่เพดานท้องพระโรงมีอักษรไทยที่เขียนเลียนแบบอักษรจีนเป็นคำว่า "กิม หลวน เต้ย" ซึ่งแปลว่า โอรสจากสวรรค์ ชั้นบน ห้องชั้นบนของพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ ประกอบด้วย 4 ห้องใหญ่ ได้แก่ ห้องบรรทมสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ห้องบรรทมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ห้องทรงพระอักษร และห้องพระป้าย โดยมีรายละเอียดดังนี้ ห้องทรงพระอักษร ห้องทรงพระอักษรตั้งอยู่ในทางทิศใต้ของพระที่นั่ง   ภายในห้องมีโต๊ะทรงพระอักษรของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  และพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวตั้งอยู่    ปัจจุบันใช้เป็นที่เก็บหนังสือภาษาจีนในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ห้องพระป้าย ห้องพระป้ายติดกับห้องทรงพระอักษรเป็นที่ประดิษฐานพระวิมาน 3 องค์ติดต่อกัน เรียงจากทิศตะวันตก ไปตะวันออก ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายต่าง ๆ ลงรักปิดสีทองอร่าม    * ช่องตะวันตกเป็นสถานที่ประดิษฐานพระป้ายจารึก (อักษรจีน) พระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระนามาภิไธย สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี สมเด็จพระอัครมเหสีในรัชกาลที่ 4    ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2433    * ช่องกลางเป็นสถานที่ประดิษฐาน พระพุทธรูป ในการประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย    * ช่องตะวันออกเป็นสถานที่ประดิษฐานพระป้ายจารึก(อักษรจีน) พระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระนามาภิไธย สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2470 นอกจากนี้ เสาด้านหน้าพระวิมานได้แขวนป้ายสุภาษิตจีนได้ โดยด้ายซ้ายแปลว่า "ในหมู่ชนจะหาความสามัคคีธรรมเสมอพี่น้องได้ยาก" และด้านขวา แปลได้ว่า "ในใต้หล้าจะหาความผิดในพ่อแม่ไม่มี" นอกจากนี้ ยังมีห้องอีก 2 ห้อง ได้แก่ ห้องบรรทมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และห้องบรรทมสมเด็จพระบรมราชินีนาถ โดยห้องบรรทมสมเด็จพระบรมราชินีนาถนั้น ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของพระที่นั่ง ภายในมีพระแท่นบรรทม 2 องค์ สำหรับทรงใช้ในฤดูร้อนและฤดูหนาว เพดานเหนือพระแท่นมีการแกะสลักลายมังกรดั้นเมฆ ซึ่งหมายถึง พระมหากษัตริย์ที่คอยปกป้องคุ้มครองพระมเหสี จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:14:14

ความคิดเห็นที่ 73 เดินผ่านประตูเข้าไปเขาก็ไม่ให้ถ่ายอะไรแล้วค่ะ  เรายังไม่ได้เดินเข้า เลยเลียบๆเคียงๆถ่ายมานิดหน่อย ข้างในสวยมาก  .... จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:16:48

ความคิดเห็นที่ 74 เดินออกมาแล้ว  ประตูนี้ก็สวยค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:21:26

ความคิดเห็นที่ 75 ชั้นบนค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:21:54

ความคิดเห็นที่ 76 หอวิฑูรทัศนา ตั้งอยู่ระหว่างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรและพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นภายในพระราชวังบางปะอิน แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2424 พร้อมทั้งได้พระราชทานนามหอนี้ว่า "หอวิฑูรทัศนา" ใช้สำหรับเป็นที่เสด็จขึ้นไปทอดพระเนตรภูมิประเทศโดยรอบของพระราชวัง กล่าวกันว่าเมื่อแรกสร้างนั้น ยังมองเห็นช้างป่า เป็นโขลง ๆ เดินอยู่ตามชายทุ่ง หรือถ้าขึ้นไปดูในช่วงฤดูทำนาก็จะเห็นความงามของทุ่งนาในช่วงต่าง ๆ จนมีคำกล่าวว่า "ดูนาที่ไหนเล่า ไม่เท่าที่บางปะอิน" หอวิฑูรทัศนา    มีความสูง 30 เมตร ลักษณะเป็นหอคอยสูง 3 ชั้น 12 เหลี่ยม ยอดหอคอยคลุมด้วยหลังคารูปครึ่งวงกลม มีสถาปัตยกรรมผสมผสานของยุโรป ตัวอาคารทาสีแดงสลับเหลือง ภายในมีบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นบน 112 ขั้น โดยแบ่งเป็น จากพื้นชั่นล่างขึ้นไปยังชั้นที่ 1 จำนวน 18 ขั้น    จากชั้นที่ 1 ขึ้นไปยังชั้นที่ 2 จำนวน 55 ขั้น    และจากชั้นที่ 2 ขึ้นไปยังชั้นที่ 3 จำนวน 39 ขั้น จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:29:34

ความคิดเห็นที่ 77 เดินขึ้นไปชมข้างบนได้ค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:30:29

ความคิดเห็นที่ 78 แต่ได้สูงเท่านี้   ส่วนที่เหลือเขาปิดไว้ค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:31:20

ความคิดเห็นที่ 79 บันไดเวียนอย่างนี้ล่ะค่ะ  ที่ใช้เดินขึ้นหอ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:33:00

ความคิดเห็นที่ 80 คราวนี้ก็ขับรถไปเรื่อยๆตามทาง  พระตำหนักต่างจะสร้างไว้โดยรอบ ี่นี่ก็เป็นพระตำหนักของเจ้าดารารัศมีค่ะ  เป็นเรือนไม้ พระตำหนักอื่นๆ  จะเป็นเรือนตึก จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:34:50

ความคิดเห็นที่ 81 พระตำหนักเก้าห้อง   อันนี้ใหญ่เบ้อเริ่มค่ะ ตำหนักเก้าห้อง เป็นตำหนักที่ประทับของพระบรมวงศ์ฝ่ายใน ที่ตามเสด็จฯ คราวแปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางประอิน โดยมีสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ก่ออิฐถือปูน มี 2 ชั้น มี 3 มุข ได้แก่ มุขข้าง 2 ด้าน และมุขกลาง (คล้ายรูปตัว E) ผนังระหว่างเสาชั้นล่างเป็นวงโค้ง และชั้นบนเป็นช่องสี่เหลี่ยมมีการประดับด้วยไม้ฉลุลาดขนมปังขิง มีทางขึ้นตำหนัก 5 ทาง ด้านหน้าตำหนัก 3 ทาง และระเบียงหลัง 2 ทาง ตำหนักเก้าห้อง ตั้งอยู่ระหว่างตำหนักพระราชชายา เจ้าดารารัศมีและพระตำหนักพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ปัจจุบันใช้เป็นที่พักของนายทหารของศูนย์รักษาความปลอดภัย  ตั้งแต่ยศพันตรีขึ้นไป จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:38:01

ความคิดเห็นที่ 82 รายละเอียดของพระตำหนักอื่น  ดูได้ตามนี้ค่ะ http://th.wikipedia.org/wiki/พระตำหนักฝ่ายใน_(พระราชวังบางปะอิน) ขับมาเรื่อยๆ  พบกับ อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์   เป็นอนุสาวรีย์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของพระราชวังบางปะอิน ถัดจากหอวิฑูรทัศนา   โดยมีลักษณะเป็นฐานรูปทรงสี่เหลี่ยมและยอดหกเหลี่ยมทรงสูง สร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:42:59

ความคิดเห็นที่ 83 และ อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์  เป็นอนุสาวรีย์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงพระกรุณาฯ โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระอัครชายาเธอ 1 พระองค์   พระราชโอรส 2 พระองค์   และพระราชธิดา 1 พระองค์ ที่สิ้นพระชนม์ในปีเดียวกัน ได้แก่   1. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2430   2. พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2430   3. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย กรมพระเทพนารีรัตน์ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2430   4. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2430 อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของพระราชวังบางปะอิน อยู่ใกล้กับอนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ สร้างด้วยหินอ่อน แต่ละด้านของอนุสาวรีย์ประดับด้วยพระรูปเหมือนแกะสลักด้วยหินอ่อน ของทั้ง  4 พระองค์ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:44:37

ความคิดเห็นที่ 84 ดูวังจนครบแล้วค่ะ  ไปกินกุ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง   ซะที ร้านนี้ค่า ((สงสัยตลาดจะวายซะแล้ว)) แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 52 21:49:49 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:48:42

ความคิดเห็นที่ 85 ตามมาทันกินกุ้งพอดี อิอิอิ จากคุณ : ทนายอ้วน เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:53:39

ความคิดเห็นที่ 86 ป้ายคอนเฟิร์มความอร่อย สร้างความมั่นใจ  (เพราะไม่เคยมาที่นี่ค่ะ)   ...  อ้าว  เดินเข้าไป จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:54:59

ความคิดเห็นที่ 87 ทันกินดั๊ว อิอิ จากคุณ : สเต็กเนื้อชุ่มฉ่ำ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 21:58:38

ความคิดเห็นที่ 88 คุณ   : ทนายอ้วน    ....  แหม  นึกว่าจะหนีไปกันหมดแล้วค่ะ    มัวแต่พาลูกทัวร์ไปเดินเที่ยววังซะตั้งนานค่ะ เดินเข้าไปเรื่อยๆ  จะไปให้ไกล้ริมน้ำที่สุดค่ะ  เลยเดินไปนั่งที่บนเรือ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 22:00:19

ความคิดเห็นที่ 89 คุณ   : สเต็กเนื้อชุ่มฉ่ำ   พอดีจริงๆค่ะ  นั่งเลยค่ะ  นั่ง เมาเรือกันง่ายๆหรือเปล่า  ถ้าเมาก็ไม่ควรมานั่งบนนี้ค่ะ  เพราะเรือที่ผ่านไปมา  ทำให้เกิดคลื่น  เรือที่นั่งนี้ก็โยกเยกตามไปด้วยเล็กน้อยค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 22:02:02

ความคิดเห็นที่ 90 เกริ่น จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 22:02:48

ความคิดเห็นที่ 91 อาหารแนะนำ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 22:03:22

ความคิดเห็นที่ 92 ข้าวเปล่ามาก่อนเลย คนละจานค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 22:04:01

ความคิดเห็นที่ 93 ต้มยำปลาม้า   ใส่เห็ดฟางมาด้วยค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 22:04:48

ความคิดเห็นที่ 94 รสจัด  เค็มนำ  เผ็ดซี๊ดซ๊าด แต่เนื้อปลา  ขนาดไม่ประทับใจค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 22:05:40

ความคิดเห็นที่ 95 ปลาคังลวก  เมนูประจำของคนที่บ้านค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 22:06:33

ความคิดเห็นที่ 96 สดเด้ง แต่ชิ้นไม่ประทับใจ ... อีกแระ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 52 22:07:25