 |
ความคิดเห็นที่ 10 |
|
-..-
========================
ทำร้านแบบนี้มันจะมีทั้งงานที่อยากทำ และงานที่ไม่อยากจะทำ นึกไว้เสมอว่าอะไรที่ต้องทำ ก็ต้องทำ ..รวมทั้งการเลิกกิจการด้วย -ขายแรกๆบางวันรู้สึกเหมือนนั่งขายอยู่ในห้องนอนตัวเอง คือมันไม่ได้เป็นที่สนใจของใครซักคน ก็ให้รู้ว่าอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา -ขายไปเป็นเดือนยังไม่คืบหน้า ก็อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาอีกเหมือนกัน อยู่ที่วิธีโฆษณา กับทำเลที่ตั้ง ไอ้โน่นไอ้นี่ มีเรื่องให้โทษได้สารพัด -ไม่เคยมีสูตรสำเร็จสำหรับร้านเล็กๆ ทุนน้อยๆ ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะขายได้ ไม่ได้ ทำได้เพียงทำในส่วนที่เรารับผิดชอบให้ดีเกินกว่าที่เราจะทำได้ -ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้าแต่ให้ดูแลดีๆเหมือนเพื่อน เวลาขอโน่นแถมนี่จะได้ไม่ต้องคิดมาก -เริ่มอย่างมีสติ ล้มอย่างมีสไตล์ คิดแผนเผื่อเจ๊งไว้ด้วย สมมติว่ามันเจ๊งขึ้นมาจริงๆ เราต้องจัดการกับอะไรบ้าง วิธีนี้จะช่วยให้เราเลือกซื้อของมาใช้ ได้เหมาะสมขึ้น -เดินออกไปดูหน้าร้านบ่อยๆ สมมติตัวเองเป็นลูกค้า แล้วเดินเข้ามาดูว่าลูกค้าเห็นอะไรบ้าง ให้ลูกค้าได้มองเห็นแต่ส่วนดีๆของร้าน -แผนการตลาด ,cash flow ,กลยุทธ์เทพๆ ,4P ,32C ที่อาจารย์มหาลัยท่านสอนๆกัน ไม่รู้ว่ามันเหมาะกับอะไรนะครับ ที่แน่ๆไม่ใช่ร้านเล็กๆแบบนี้แน่นอน คนที่ไปเรียนการตลาดจบมาเยอะแยะ ไม่เคยมีใครลงมือทำกันจริงๆจังๆกันซักที อย่าเสียเวลากับแผนการตลาด วางปากกาแล้วไปลงมือ
========================
เล่าเรื่อง การเพิ่มคุณค่า (Value add)นิดนึง การเพิ่มคุณค่า หรือ เพิ่มมูลค่าให้สินค้า คือการดูว่า"สิ่งที่" "ลูกค้า" "ต้องการ" จากสินค้าของเรา"จริงๆ" คืออะไรบ้าง
น่ากิน อร่อย อิ่ม ไม่อยากรอ ราคาเหมาะสม นอกนั้นก็อาจจะมีเรื่องภาพลักษณ์ลูกค้า
แล้วค่อยมาคิดว่าจะทำยังไงกับมัน น่ากิน -ใช้ผักสดๆ ดูสะอาด ทำกันใหม่ๆ ร้อนๆ กล่องต่อกล่องให้ลูกค้าเห็น (คนขายน่ารักๆก็มีส่วนให้สินค้าหน้ากินนะเออ) อร่อย -ส่วนไหนที่ไม่มั่นใจก็ซื้อของสำเร็จจากแม็คโครได้ อย่างเช่น น้ำสลัดครีม ซอสเทอริยากิ ซอสปรุงรสต่างๆ อิ่ม -ใส่ให้มั่นใจว่าลูกค้าอิ่มพอดี (สินค้าบางชนิดอาจต้องการแค่กินเล่นๆก็ได้ ..ก็ว่ากันไป) ไม่อยากรอ-เมนูไหนที่ทำยากๆนานๆเราก็ไม่เลือกมาขาย ราคาเหมาะสม-เวลาตั้งราคาให้พยายามมองในมุมลูกค้า ไม่ใช่มองที่ต้นทุนแบบคนขายอย่างเดียว เราบอก "ต้นทุนเราเท่าบ้าน ยังไงก็จะขายราคานี้" ..ปรึกษาลูกค้าบ้างรึยังว่าเค้าจะซื้อที่ราคาไหน
ลูกค้าเค้าไม่รู้ว่าสินค้าตัวนี้ผลิตมายากลำบากยังไง สูตรลับราคาแพงแค่ไหน แต่เค้าจะประมาณราคาสมมติของเค้าเองไว้ในใจค่านึง จากมุมมองที่เค้าเห็น ถ้าสินค้าเราถูกกว่าที่ลูกค้าคิดไว้ โอกาสที่จะถูกตัดสินใจซื้อก็มีสูงครับ เรื่องภาพลักษณ์-ถ้าขายสินค้าตลาดบนๆหน่อยเรื่องภาพลักษณ์ค่อนข้างจำเป็น ลูกค้าถือสินค้าเราออกไปแล้วมันดูไม่ดีรึเปล่า อย่างที่ร้านใช้ถุงพลาสติกใสที่มีราคาสูงกว่า แต่โชว์ตัวสินค้าที่มีภาพลักษณ์ดี ลูกค้าก็จะชอบกัน เราต้องหาวิธีสื่อออกไปให้ได้ว่าสินค้ามีภาพลักษณ์ที่พิเศษอย่างไร อย่างข้าวหมูทอด ที่ร้าน เรียก "ข้าวญี่ปุ่นหน้าหมูทอดกรอบ"แทน"ข้าวหน้าหมูทอด"ทั้งที่มันเป็นข้าวหน้าหมูทอด
อะไรที่ไม่ใช่คุณค่าของสินค้า(non value add) ก็ไม่ต้องไปเสียเงินเสียเวลากับมันตัดทิ้งไปให้หมด โป๊สเตอร์ดารา ดอกไม้พลาสติก แมวกวักนางกวัก กระถางธูปกับขวดน้ำแดง(เชื่อเถอะครับว่ามันไม่มีผล) ป้ายยินดีต้อนรับ ป้ายขอบคุณทุกท่านที่มาอุดหนุน อะไรที่ลูกค้าไม่ต้องการอย่าไปเสียเงินซื้อมาเด็ดขาดถึงจะเป็นเงินแค่เล็กน้อย
========================
จากคุณ |
:
jesda_b
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ก.ย. 52 14:23:55
|
|
|
|
 |