ความคิดเห็นที่ 1 หลักสูตรเองบริหารจัดการดีมาก ด้วยการปิดโรงแรม เพื่อความสะดวกของการสัมมนา รวมถึงจัดให้ทุกคนนอนห้องเดี่ยวเพื่อความเป็นส่วนตัว ซึ่งฟังดูเหมือนจะดีในชั้นต้น ทว่าในความจริงแล้ว โรงแรมไม่ได้ออกแบบห้องพักมาในแบบเดียวกันทั้งหมด ดังนั้น ก็แล้วแต่บุญทำกรรมแต่งของแต่ละบุคคลที่จะได้ห้องแตกต่างกันไป ผมเองโชคดีหน่อย ที่คุณพ่อคุณแม่ ตั้งชื่อด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตัวแรก ทำให้ได้ห้องชั้นบนสุด หัวมุม มองไปเห็นตัวเมืองพีเบิ้ลส์และหุบเขาที่แสนงดงาม ตรงกันข้ามกับเพื่อนบางคนที่ได้ห้องแคบและเล็กมาก บางคนได้ห้องที่ใหญ่เท่ากับห้องน้ำในห้องของผมเท่านั้น บางคนได้ห้องแบบครอบครัว มีเตียงเต็มไปหมดจนเลือกนอนไม่ถูก อย่างไรก็ตาม เราพักที่นี่กันเพียงหนึ่งคืนและเวลาส่วนใหญ่ก็อยู่นอกห้องนอนเสียมากกว่า เลยไม่เป็นอุปสรรคอันใดมากนัก ในทุกๆ มื้อ เราจะรับประทานอาหารกันที่ main dining room ของทางโรงแรม ที่นี่จะให้บริการแบบ half-board คือพ่วงมื้อค่ำเข้าไปในค่าห้องด้วย ส่วนกลางวันนั้นตามอัธยาศัย แต่หลักสูตรของผมนั้นตกลงเหมาทุกมื้อแบบ full-board ไปเพื่อความสะดวกครับ ในราคานี้ยังรวมของว่างเช้าบ่ายเข้าไปอีก เรียกว่ารับประทานกันทุกสามชั่วโมงเลยทีเดียวครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:08:04

ความคิดเห็นที่ 2 ในส่วนของมื้อกลางวันนั้น จะเหมือนกันทั้งสองวันครับ คือมีทั้งอาหารเรียกน้ำย่อยที่จะสั่งจากเมนู แล้วบริกรจะนำมาบริการที่โต๊ะ ส่วนอาหารจานหลัก อาหารจานเย็น สลัด และของหวาน นั้นเชิญไปกลุ้มรุมเอาได้ที่ไลน์บุฟเฟ่ต์ ขณะที่ขนมปัง เนย และน้ำเปล่านั้นมีพร้อมให้บริการที่โต๊ะโดยตลอด พร่องก็นำมาเติมอยู่ไม่ขาดครับ อาหารเรียกน้ำย่อยในวันแรกนั้น มีสองชนิด อย่างแรกเป็นแตงเมลอน ราดหน้ามาด้วยแยมผลไม้ ดูอย่างไรก็เหมือนจะเป็นของหวานเสียมากกว่า รสชาตินั้นไม่ถูกจริตผมเสียเท่าไร จานที่ถ่ายมานี่เป็นของเพื่อนร่วมโต๊ะของผมครับ ความจริงอาหารแบบนี้ก็ไม่แปลกสำหรับชาวตะวันตก เพราะถ้าไปทานตามภัตตาคาร ก็จะเห็นจานเรียกน้ำย่อยที่ใช้ผลไม้เย็นแบบนี้เบียดแทรกเข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกอยู่เป็นประจำ เพียงแต่ตัวเลือกนี้ ไม่เคยเบียดแทรกเข้ามาเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของผมได้ ก็เท่านั้นครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:09:05

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับผมนั้น แน่นอนว่าจะต้องเลือกอย่างที่เหลือ ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองสกอตแท้ๆ นั่นก็คือ Scotch Broth หรือซุปแบบสกอต เป็นประดาผักรวมกับธัญพืชเคี่ยวจนอ่อนนุ่มในน้ำซุป ผมมีวิธีการทำด้วยในหนังสือที่อุตส่าห์ไปซื้อหามา เพียงแต่ตอนนี้อยู่ระหว่างการขนส่งโดยเรือมาที่กรุงเทพ เลยไม่อาจจำรายละเอียดทั้งหมดได้ครับ อย่างไรก็ตามผมชอบจานนี้นะครับ รสชาติอร่อยดีทีเดียวครับ กลมกล่อมและดูมีเนื้อมีหนังมากกว่าซุปที่หลายๆคนคุ้นเคยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:09:47

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับจานหลักในวันแรกจะมีให้เลือกสองชนิด คือจะทานแกงไก่กับข้าวสวย หรือจะทานเจ้า scampi ชุบแป้งทอดกับมันอบก็ได้ เนื่องจากไม่ได้มีข้อห้ามอันใด ผมก็เลยรับมาลองทั้งสองอย่าง โดยบอกไม่เอาแป้ง ก่อนจะไปตักพวกเนื้อเย็นและสลัดในไลน์บุฟเฟ่ต์มาเพิ่มเติม Scampi นั้นรสชาติไม่ต่างอะไรกับอาหารสำเร็จรูปที่หาซื้อได้ตามแผนกแช่แข็งของซุปเปอร์มาร์เกตชั้นนำในสหราชอาณาจักร ส่วนแกงไก่นั้นเล่า ท่านที่โหยหาแกงแดงหรือแกงเขียวหวานแบบไทย ก็เป็นอันเลิกคิดไปได้เลย เพราะแกงไก่ที่ว่านี้เป็นแกงไก่แบบอินเดีย ความจริงยังไม่เห็นหน้าตาอาหารก็พอจะเดาออก ทั้งนี้ก็เพราะเชฟที่ยืนประจำตรงซุ้มอาหารจานหลักนี้ หน้าตาบอกยี่ห้อมาแต่ไกลเชียวครับ แกงไก่นี้ออกจะรสจัดไปหน่อยสำหรับฝรั่ง แต่สำหรับผมนั้นทานได้สบายมาก ส่วนของในไลน์นั้นจะมีสลัดแบบคลุกสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ มีแซลมอนเย็น เนื้อเย็น แล้วก็ผักสลัด กับไข่ต้ม รวมไปถึงชีสอีกหลายชนิด ผมเองนั้นนิยมบริโภคบีทรูทก็เลยตักมาเป็นส่วนใหญ่ ของเย็นอื่นๆ นั้นรสชาติดีทีเดียวครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:11:06

ความคิดเห็นที่ 5 ของหวานมื้อกลางวันนั้นเป็นเค้กชิ้นเล็กชิ้นน้อย ประเภทสามชิ้นสองปอนด์อะไรเทือกๆ นั้น ผมเองตักแต่ผลไม้มาทานเลยไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ช่วงบ่ายในระหว่างพักการบรรยาย ก็ยังมีน้ำชากาแฟให้เลือกทาน พร้อมๆกับขนมปังชอร์ทเบรท รวมไปถึงน้ำผลไม้ การบรรยายเสร็จตอนหกโมงเย็น มีเวลาให้ไปทำหล่อทำสวยกันอีกราวชั่วโมงครึ่ง ก่อนที่ประตูห้องอาหารจะเปิดอีกครั้งในตอนค่ำ ซึ่งมื้อค่ำนี้จะค่อนข้างเป็นพิธีการมากกว่า มีระบุ dress code ไว้เสียพร้อมสรรพ แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่ได้เคร่งครัดอะไรมากมาย ทั้งนี้เพราะเราเป็นแขกเพียงชุดเดียวของทางโรงแรมในค่ำคืนนี้ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:12:19

ความคิดเห็นที่ 6 รายการอาหารมื้อค่ำนี้ยาวเหยียด พิมพ์ออกมาเป็นเมนูเสียสองหน้า คอร์สแรกนั้นมีให้เลือกสี่อย่าง แตงเมลอนเย็นยังคงตามมาหลอกหลอนผมในมื้อนี้อีกเช่นเคย ผมเองก็ข้ามไปเสียเหมือนเคยครับ อย่างไรก็ตามเพื่อนผมคนที่ชอบจานนี้ก็ยังคงสั่งมาเช่นเดิม แล้วก็บอกว่าอร่อยกว่าเมื่อกลางวัน เพราะหนนี้จัดจานมาเสียงดงาม โดยฝานเสิร์ฟมาถึงครึ่งลูกเลยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:12:59

ความคิดเห็นที่ 7 เนื่องจากโต๊ะอาหารนี้นั่งได้สิบสองคน ผมก็เลยบากหน้าไปขอถ่ายรูปจานอื่นๆ จากเพื่อนๆ มาด้วย จะว่าไปโต๊ะผมนี่ดูจะเป็นนานาชาติมากที่สุดแล้ว เพราะเพื่อนร่วมโต๊ะแต่ละคนถือสัญชาติที่ไม่ซ้ำกันเลย ตั้งแต่ มาเลเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน ปากีสถาน โปแลนด์ ออสเตรีย เยอรมนี อิตาเลียน อเมริกัน รวมไปถึง อังกฤษ และ สกอตติช การสนทนาปราศรัยจึงดูจะออกรสชาติเป็นพิเศษ ยิ่งได้ไวน์ที่คณบดีรับเป็นเจ้าภาพอีกโต๊ะละสองขวดแล้ว ดูเหมือนบางคนจะยิ่งคุยออกรสชาติได้มากขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณครับ ส่วนอาหารจานนี้ เข้าใจว่าเป็นเทอร์รีนไก่กับแฮม ซึ่งรสชาติดีมาก เพราะไปขอเขาชิมมาครับ ตรงกลางได้ความมันของถั่วพิสตาชิโอเข้าไปอีก ส่วนตัวผมว่าเป็นการเลือกส่วนผสมได้สร้างสรรค์มากๆครับ แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 00:14:10 จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:13:42

ความคิดเห็นที่ 8 มาถึงจานของผมครับ เป็นสลัดกุ้งกับมะม่วงในน้ำสลัดซีซ่าร์ ทุกอย่างดีหมด ทั้งตัวกุ้งและน้ำสลัด ข้อเสียอย่างเดียวคือมะม่วงที่เป็นมะม่วงสุกคนละสายพันธุ์กับที่บ้านเรารู้จัก ดังนั้นรสชาติเลยออกจะแปร่งไปหน่อยในสายตาของผมครับ สำหรับซุปนั้น ผมขอข้ามไป เพราะ ณ เวลานั้น ใจไปจดจ่ออยู่กับจานหลักเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:14:44

ความคิดเห็นที่ 9 ในส่วนของจานหลักนั้นมีหลายตัวเลือกทีเดียว ทำเอาผมรักพี่เสียดายน้อง ทั้ง แซลมอนเอย แกะ อกเป็ด หรือไก่ฟ้า สุดท้ายผมก็ตัดสินใจสั่งเป็ดไป ปัญหามาเกิดตอนที่บริกรยกมาเสิร์ฟ เพราะว่าเพื่อนผมคนหนึ่งสั่งเป็ด แต่ดันได้แกะมาแทน ความจริงจะสั่งให้ไปเปลี่ยนก็ได้ แต่จะต้องรอนานขึ้น และโต๊ะของผมนั้นก็ทานกันช้ากว่าโต๊ะอื่นซึ่งเริ่มสั่งของหวานมากพออยู่แล้ว คิดได้ดังนี้ ผมเลยตัดสินใจแลกจานเป็ดของผมกับเนื้อแกะจานนั้นเป็นที่เรียบร้อย ผลออกมาก็กลายเป็นว่า เพื่อนชาวเยอรมันของผมเป็นปลื้มกับอกเป็ดที่นุ่มอร่อย ส่วนผมเองก็ถูกอกถูกใจ กับแกะอบที่แสนจะนุ่มลิ้นไม่แพ้กัน แกะของผมนั้นเสิร์ฟมาพร้อมกับราทาทุยที่ผมดูอย่างไรก็เหมือนจับฉ่ายฝรั่งอยู่ดี จานหลักนี้ ยังมีจานเคียง ซึ่งบริกรจะยกมาให้เลือกถึงโต๊ะ ประกอบไปด้วยผักหลายชนิดอบเนย และมันฝรั่งอีกสองสามแบบ น่าเสียดายที่โดฟินัวส์ (dauphinois)ของโปรดผมนั้นหมดลงเสียก่อน เลยต้องรับมันอบธรรมดามาแทน แต่อย่างไรก็ตามรสชาติจานนี้ ผมให้เก้าเต็มสิบเลยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:15:50

ความคิดเห็นที่ 10 เสร็จจากของคาวตอนเกือบสี่ทุ่ม เวลาที่หลายโต๊ะอิ่มและลุกออกไปต่อที่บาร์กันเป็นที่เรียบร้อย ของหวานที่มีให้เลือกหลายอย่างก็ถูกอรรถาธิบายว่าหมดโดยบริกร รู้สึกจะเหลืออยู่สามอย่างให้เลือก นอกเหนือไปจากไอศกรีมที่ไม่มีใครสนใจแล้ว ก็มีทาร์ตมะนาวที่ผมสั่งมาครับ จานนี้อร่อยผิดคาดมาก หวานแหลมตัดกับเปรี้ยวจัดตรงกลางได้พอดี แก้เลี่ยนจากอาหารจานหลักได้อย่างเต็มคราบครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:16:25

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนอีกจานที่อร่อยไม่แพ้กันเป็น เยลลี่ของเบอร์รี่รวมแต่งกลิ่นเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ กลิ่นที่ผมชอบที่สุดกลิ่นหนึ่งครับ ชอบขนาดเวลาไปเดินซุปเปอร์มาร์เก็ต จะซื้อน้ำอัดก๊าซหรือน้ำผลไม้ก็ยังไม่วายที่จะเลือกประเภทที่มีแต่งกลิ่นเอลเดอร์ฟลาวเวอร์เข้าไปด้วยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:16:56

ความคิดเห็นที่ 12 งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราครับ เพียงแต่กว่าจะเลิกก็ปาเข้าไปห้าทุ่ม แถมหลายคนยังชวนผมไปดื่มต่ออีก ผมซึ่งเป็นคนไม่ดื่มเลย ก็เลยเดินไปส่งเขาแล้วกลับขึ้นห้อง แปรงฟันเปลี่ยนชุดนอน แล้วก็สู่นิทรากาลไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนเอดินเบอระครับ สำหรับมื้อเช้านั้น ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะไปนั่งร่วมโต๊ะกับอาจารย์หลายท่านซึ่งชวนคุยซักถามโดยตลอด จึงทำให้ถ่ายรูปไม่สะดวกนัก แต่อาหารที่บริการก็เป็นไปในแบบอังกฤษแท้ ทั้งบรรดาธัญพืชอบกรอบ ผลไม้สด ขนมปังหลากชนิด ไข่กวน แฮชบราวน์ มะเขือเทศและเห็ดกระดุมทอด ถั่วอบ ไส้กรอกและเบคอน อย่างไรก็ตาม ที่นี่ยังคงกลิ่นอายความเป็นสกอตแลนด์ ด้วยการเพิ่มฮักกิสและแซลมอนรมควันเข้าไปให้ได้เลือกลิ้มชิมรสกันครับ ช่วงเช้านี้มีคุยเรื่องงานวิจัยเป็นกลุ่มอีกเล็กน้อยแล้วก็ว่างถึงเที่ยง ผมเลยแวบออกไปเดินเล่นในเมืองได้ราวชั่วโมงเศษ ก่อนจะกลับมาทานอาหารเที่ยง เหมือนเดิมครับ แต่หนนี้ พอเราสั่งแฮร์ริ่งดองไป แล้วเดินไปตักบุฟเฟ่ต์ด้วยความหิว พอบริกรจะยกมาเสิร์ฟเลยงงๆ เพราะเห็นว่าข้ามไปทานจานหลักกันแล้ว เลยยกจานทั้งหมดกลับไปในครัวเสียดื้อๆ ก็เลยไม่ได้ทานอาหารเรียกน้ำย่อยครับ ในรูปก็อย่างที่เห็นครับ มีเนื้อเย็น แซลมอน สลัดสารพัดชนิด รสชาตินั้นก็เหมือนบุฟเฟ่ต์นานาชาติตามโรงแรมชั้นนำในกรุงเทพครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:18:05

ความคิดเห็นที่ 13 จานหลักวันนี้มีสองอย่างเช่นเคย นั่นก็คือ บีฟ สโตรกานอฟ ซึ่งผมว่ารสชาติเหมือนเขียวหวานเนื้อแบบไม่เผ็ด ตัวซอสเฉยๆ แต่เนื้อนุ่มอร่อยดีครับ ทานคู่กับข้าวเม็ดยาวแบบอินเดียหุงสุก ส่วนจานหลักทางเลือกอีกอย่างนั้น เหมือนเคยดังเช่นเมื่อวานครับ นั่นก็คือ fish and chips วันนี้เป็นปลาแฮดดอคทอดทั้งตัว ซึ่งผมก็รับมาทานทั้งตัว ทอดได้กรอบดี แต่พูดถึงปลาทอดนี่ ไม่ว่าร้านไหนๆ ผมก็แยกไม่ออกว่าอร่อยต่างกันอย่างไร เพราะรสชาติใกล้เคียงกันหมด ยกเว้นกรณีที่ปลาไม่สดเท่านั้น ที่จะแยกความแตกต่างได้ชัดเจน แต่ผมก็ยังสงสัยไม่หาย ว่าคนอังกฤษจะแยกออกหรือไม่ เพราะเห็นแต่ละรายพอรับ fish and chips ก็จะปรุงด้วยเกลือและน้ำส้มสายชูกันอย่างหนักมือโดยทันทีครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:18:50

ความคิดเห็นที่ 14 จบจากร้านแรก ก่อนที่จะว่ากันถึงสองร้านที่เหลือ ก็จะขอคั่นโฆษณาด้วยการพาไปเที่ยวเมืองในเขตภูมิภาค northeast หรืออิสานบ้านเฮาของอังกฤษเสียก่อนครับ นั่นก็คือ นิวคาสเซิลและซันเดอร์แลนด์ นิวคาสเซิลอยู่ห่างจากเอดินเบอระบ้านผมเพียงชั่วโมงครึ่ง ผมมาถึงนิวคาสเซิลตอนแปดโมงครึ่ง ซึ่งผมตัดสินใจที่จะทิ้งนิวคาสเซิลไว้เบื้องหลัง แล้วจับรถ metro หรือขนส่งมวลชนในเมืองมุ่งหน้าไปยังซันเดอร์แลนด์เลย ราวยี่สิบนาทีก็มาถึงซันเดอร์แลนด์ เมืองขนาดย่อมที่ไม่มีอะไรมากกับชอปปิ้งเซ็นเตอร์กลางเมืองหนึ่งแห่ง มหาวิทยาลัยขนาดกลาง เดินเล่นรอบเดียวก็ทั่ว ก่อนจะออกไปเดินเลียบริมแม่น้ำ Wear ที่ไหลผ่านกลางเมืองครับ ซึ่งมีสะพานข้ามแม่น้ำที่แสนงดงามดังปรากฏในรูปครับ สถานที่ที่น่าสนใจของซันเดอร์แลนด์นอกเหนือจากการมาชมฟุตบอลก็คงเป็นพิพิธภัณฑ์ประจำเมืองที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วน ที่นี่จัดแสดงความเจริญในฐานะเมืองศูนย์กลางการผลิตเครื่องกระเบื้อง เครื่องปั้นดินเผาและเครื่องแก้ว ผมใช้เวลาในซันเดอร์แลนด์จนกระทั่งพระอาทิตย์ฉายแสงตรงเหนือศีรษะ ก็ได้เวลาบอกลาเมืองเล็กๆ แห่งนี้ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:20:09

ความคิดเห็นที่ 15 กลับมาถึงนิวคาสเซิล ผมก็เริ่มสำรวจกลางเมือง ไปดู the monument กลางเมือง เดินเข้าออกห้างนั้นห้างนี้ ก่อนจะไปจบลงที่การเดินตลาด Grainger market ที่ยังคงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม พ่อค้าแม่ขายในตลาดสดที่สะอาดสะอ้าน ส่งเสียงเจื้อยแจ้วเชื้อเชิญให้ผมลองชิมนั่นชิมนี่อยู่โดยตลอด เอกลักษณ์หนึ่งที่ผมชอบก็คือ เพนนีมาร์เก็ต ของร้านมาร์คแอนด์สเปนเซอร์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มของห้างสรรพสินค้าชื่อก้องโลก ก่อนที่จะเป็นร้านหรูทันสมัยติดแอร์เย็นเฉียบ เมื่อ 125 ปีที่แล้วก็เริ่มต้นธุรกิจด้วยร้านเล็กๆ ในตลาดเช่นนี้ครับ เพนนีมาร์เก็ตนี่มีให้เห็นในหลายเมือง แต่ถ้าจะเอาของแท้ต้นตำรับจริงๆ จะต้องไปที่เมืองลีดส์ครับ เพราะถือเป็นจุดกำเนิดของ marks and spencer จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:21:04

ความคิดเห็นที่ 16 ผมใช้เวลาทำตัวเป็นพระยาน้อยแบบไม่มีมะเทิ่งและเม้ยเจิงเดินอยู่ในตลาดเป็นนานสองนาน แต่ก็ไม่ได้อะไรกลับมาเป็นชิ้นเป็นอัน ก่อนจะไปเดินเล่นที่ไชน่าทาวน์บนถนน Stowell มีซุ้มประตูแบบเดียวกับตรงวงเวียนโอเดี้ยนบนถนนเยาวราชในบ้านเรา แวะทานบุฟเฟ่ต์จีนที่บอกได้สั้นว่า ถูกแต่เลวมาก จากนั้น ผมก็ไปชมสนามเซนต์เจมส์ปาร์ค สนามฟุตบอลที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของอังกฤษและยังเป็นสนามเหย้าของทีมนิวคาสเซิลยูไนเต็ดที่ตกชั้นไปเป็นที่เรียบร้อย ท้ายสุด ผมจับรถใต้ดินออกไปแถบ the coast หรือชายฝั่งนอกเมืองครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:22:04

ความคิดเห็นที่ 17 ที่ย่าน the coast นี้ ผมมีโอกาสจับเรือข้ามฟากจากฝั่ง south shield ไปยัง north shield ทั้งนี้เพราะตั๋ววันที่นั่งรถไฟใต้ดินนั้น รวมค่าเรือข้ามฟากในส่วนนี้ไว้ด้วย พอข้ามฟากมาก็จะพบกับตลาดนัดวันเสาร์ที่แสนจะมีชีวิตชีวา ทั้งข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน เรื่อยไปจนถึงอาหารการกินทั้งที่เป็นอาหารสำเร็จรูปและอาหารสด ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่นานพอดู ก่อนที่จะจับรถใต้ดินกลับไปกลางเมืองอีกคำรบหนึ่งครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:22:36

ความคิดเห็นที่ 18 กลับมากลางเมือง ผมใช้เวลาสำหรับชั่วโมงสุดท้ายไปกับการดื่มด่ำสถาปัตยกรรมที่แปลกตาแต่งดงามของสถาปนิกในดวงใจผม นั่นก็คือ นอร์แมน ฟอสเตอร์ เดินลัดเลาะจากเมืองชั้นบน ผ่านโรงละครรูปร่างหน้าตาประหลาดที่ชื่อ The Sage มายังสะพานที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่ใครๆก็มาถ่ายรูปกัน อย่าง Millennium Bridge หลังจากนั้น ผมก็ใช้เวลากับการเลียบลัดไปตามริมแม่น้ำไทน์ ที่อังกฤษนี่สังเกตง่ายๆ เวลาจะตั้งชื่อเมืองถ้ามี คำว่า upon ปนเข้ามาก็จะเป็นการบอกว่าเมืองนี้ตั้งอยู่บนแม่น้ำใด เมืองที่คุ้นเคยกัน ก็อย่างเช่น Newcastle upon Tyne หรือ Berwick upon Tweed แต่ถ้าจะเอาดังสุดๆ ก็เห็นจะเป็น Stratford upon Avon บ้านเกิดของกวีชื่อก้อง อย่าง วิลเลียม เชกสเปียร์ครับ ตอนจะกลับนี่มีเรื่องที่ขำไม่ออกอยู่หนึ่ง นั่นก็คือ ผมหลงทาง หาทางกลับไปยังเมืองบนที่ตั้งสถานีรถไฟไม่เจอ กว่าจะไปถึงสถานีรถไฟได้ ก็ได้เวลาที่รถไฟเข้าเทียบชานชาลาพอดี ก็เลยต้องวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เหนื่อยที่สุด แต่ก็เป็นรสชาติชีวิตที่น่าประทับใจและน่าลิ้มรส อย่างน้อยก็รสชาติดีกว่าบุฟเฟ่ต์กลางวันที่ไปทานมาในนิวคาสเซิล ซึ่งมีดีแต่เพียงปริมาณ แต่คุณภาพหามีไม่ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:23:41

ความคิดเห็นที่ 19 พักเรื่องในนิวคาสเซิล แล้วกลับมาทานข้าวในเมืองที่ผมอยู่อย่างเอดินเบอระต่อนะครับ ร้านที่จะพาไปนี้ เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่ผมไปทานค่อนข้างบ่อย ทั้งนี้เพราะใกล้บ้าน และราคาอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ รสชาติดี ที่นี่ยังมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากกว่าที่จะเคร่งครัดตามวัฒนธรรมและพิธีรีตองที่แสนจะซับซ้อนและเปี่ยมไปด้วยศิลปะของคนฝรั่งเศสครับ ร้านที่ว่าคือ Daniel’s Bistro อยู่ตรงที่เรียกว่า คอมเมอร์เชียล คีย์ (Commercial Quay) ตรงกันข้ามกับที่ทำการรัฐบาลของสกอตแลนด์ครับ วันดีคืนร้าย ถ้าคุณมาที่ร้านก็อาจจะเจอคุณลุงแดเนียลส์ยืนยิ้มเผล่คอยต้อนรับอยู่ เหมือนที่ผมเคยเจอบ่อยๆ ลุงท่านอัธยาศัยดีมาก และก็เก่งพอตัว เพราะลุงแกเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Edinburgh Restaurateurs’ Association ด้วยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:24:40

ความคิดเห็นที่ 20 มื้อที่ถูกนำมาเสนอในวันนี้นั้น ถือเป็นมื้อสุดท้ายในเอดินเบอระของผม เพราะทานเสร็จเย็นนั้นก็ไม่ได้ทานอะไร และเช้าวันรุ่งขึ้นก็ไม่ได้ทานอีก เพราะเครื่องบินออกตั้งแต่เช้าครับ มื้อนี้เป็นการรับประทานกับเพื่อนนักเรียนไทยที่สนิทสนมกันครับ จำนวน 4-5 ท่าน ซึ่งแต่ละคนที่สนิทสนมกันจะมาเรียนสายวิทยาศาสตร์เป็นส่วนใหญ่ บางคนก็เคยเห็นหน้าค่าตามาตั้งแต่มัธยมปลาย แล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยจนกระทั่งมาเจอกันที่นี่ มื้อนี้จึงอดไม่ได้ที่จะใช้เวลาเนิ่นนานกว่าปกติครับ สำหรับเครื่องดื่มวันนี้ ขอนอกใจ Irn Bru หนึ่งวัน แล้วรับ ไดเอ็ท โค้กมาแทนครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:25:23

ความคิดเห็นที่ 21 แก้วนี้เป็นเครื่องดื่มของ flatmate ของผมครับ Irn Bru ที่ผมซื้อเข้ามาที่บ้านบ่อยจนกระทั่งทำเอาเพื่อนผมคนนี้ติดอกติดใจ และกลายเป็นสาวกของเครื่องดื่มชนิดนี้ไปอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเช่นกันครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:26:08

ความคิดเห็นที่ 22 คนอื่นๆ อีกสี่คนก็สั่งเครื่องดื่มที่แตกต่างกันออกไป แต่เราก็ยังไม่ลืมที่จะขอน้ำเปล่ามาอีกสองเหยือกใหญ่ เอาไว้ดับกระหายเพิ่มเติมครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:26:48

ความคิดเห็นที่ 23 สำหรับรายการอาหารนั้น ที่นี่ถ้าเป็นกลางวันและช่วงหัวค่ำ จะมีอาหารชุดแบบสองคอร์สไว้ให้เลือกรับประทาน ถ้าเป็นกลางวันจะถูกมากคือ 7.75 ปอนด์ แต่ถ้าเป็นหัวค่ำหรือ pre theatre จะขยับขึ้นไปที่12.75ปอนด์ และถ้าจะรับของหวานเพิ่มก็จ่ายอีกเพียง 1.95 ปอนด์ครับ วันนี้มี 4 คนที่สั่งอาหารชุด ส่วนอีกสองคนขอสั่งจากตามเมนูมาลองทาน สั่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ขนมปังในแบบฝรั่งเศสก็เขามาประจำการทันทีครับ ขนมปังร้านนี้ค่อนข้างนุ่มอร่อยในความรู้สึกของผม ถ้ามาทานเองผมก็ทานเสียเกือบหมดตะกร้า แต่วันนี้มาเยอะก็เลยขอมาเพิ่มเสียหลายตะกร้าหน่อยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:28:06

ความคิดเห็นที่ 24 เหมือนเคยครับ ทานคู่กับเนยที่สุดแสนจะธรรมดา ไม่ได้มีการปรุงรสให้หวือหวาพิสดาร เหมือนร้านหรูอื่นๆครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:28:31

ความคิดเห็นที่ 25 ตัวเลือกในแต่ละรายการจะมีมากถึงสี่หรือห้าอย่างครับ เพื่อที่จะเอาใจผู้รับประทานที่อาจจะมีข้อจำกัดต่างๆ นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมเลยชอบมาบ่อยๆ เพราะจะได้มาลองเมนูหลายๆ อย่าง นอกจากนี้ทางร้านเองก็จะมีการเปลี่ยนเมนูทุกเดือนอีกด้วยครับ ในส่วนจานเรียกน้ำย่อยนั้นจะมีให้เลือกอยู่สี่ห้าอย่าง ไล่เรียงมาตั้งแต่ เทอร์รีน สลัด ซุปแบบฝรั่งเศส ตับบด แล้วก็สลัดที่ใส่ goat cheese ครับ แต่ละคนก็พยายามจะสั่งให้หลากหลายเพื่อที่จะได้แลกกันชิมครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:29:27

ความคิดเห็นที่ 26 จานของผมนั้นเป็น เทอร์รีนทะเลที่ใช้ทั้งปลาแซลมอนและปลาแฮดดอค รวมไปถึงกุ้งบดผสมเข้าด้วยกัน เสิร์ฟมาพร้อมกับสลัด จานนี้ถ้าใครชอบรสจัดอาจจะถูกใจครับ เพราะเขาจะปรุงมาเข้มข้นกว่าปกติ หอมกลิ่นเครื่องเทศที่ช่วยลดทอนกลิ่นคาวของอาหารทะเลได้เป็นอย่างดีครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:30:13

ความคิดเห็นที่ 27 เพื่อนผมอีกคนสั่งสลัดที่ใส่เนยแข็งจากนมและไขมันของแกะหรือ goat cheese จานนี้น่าจะเป็นจานที่อร่อยที่สุดโดยมติอันเป็นเอกฉันท์ของผู้ร่วมโต๊ะ ตัวเนยแข็งย่างมากำลังดี ตัดกับน้ำสลัดบาลซามิกอีกเสียหน่อย แล้วทานคู่กับสลัดผักสดกรอบที่รองจานมา สุดแสนจะเข้ากันครับ กลิ่นของเนยแข็งเองก็ไม่แรงฉุนเฉียวอย่างที่คิดครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:30:53

ความคิดเห็นที่ 28 มาถึงจานที่อยู่นอกรายการอาหารชุดบ้างนะครับ ที่เห็นนี้เป็นหอยทากฝรั่งเศสอบ หรือ Escargots ผมไม่ทานหอยทากเลยให้คำตอบไม่ได้ครับ แต่จากคำให้การของผู้ที่สั่งมาก็เห็นว่าอร่อยดี นอกจากหอยทากอบเนยกระเทียมแล้ว เพื่อนของผมอีกคนก็ยังสั่งหอยแมลงภู่อบในลักษณะเดียวกัน ซึ่งความอร่อยก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:31:28

ความคิดเห็นที่ 29 ยังไม่หมดกับจานเรียกน้ำย่อยนะครับ เพราะเพื่อนผมอีกคนสั่งซุปมาลองชิมดู เป็นซุปส้ม แครอท และลูกผักชี ดูเหมือนว่าจะไปด้วยกันไม่ได้ แต่ปรากฏว่าถ้วยนี้ผ่านทั้งในแง่ของหน้าตาและรสชาติครับ หอมกลมกล่อมกำลังดีทีเดียว จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:32:00

ความคิดเห็นที่ 30 มาถึงจานหลักกันบ้าง รู้สึกจะมีให้เลือกอยู่ห้าอย่างเช่นกันครับ แต่สั่งมาลองกันไม่ครบ เพราะข้ามเมนูมังสวิรัติอย่าง พุดดิ้งผักรวมไปครับ จานที่เห็นด้านล่างนี้เป็น แซลมอนปรุงรสในแบบฝรั่งเศส หนักเครื่องเทศในแบบฝรั่งเศสทางตอนใต่ในแคว้นโพรวองซ์มากเกินพอดี คนที่ทานแจงผมว่ารสชาติใช้ได้ครับ แต่ยังไม่โดดเด่นมากมายอะไร จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:32:56

ความคิดเห็นที่ 31 จานถัดมาที่อยู่ในอาหารชุดมื้อกลางวันเช่นกัน ก็คือ Vol au Vent จานนี้ผมรับอาสาสั่งเผื่อคนบนโต๊ะ เพราะว่าอ่านภาษาฝรั่งเศสได้ ส่วนอีกสามทักษะที่เหลือ คือ ฟัง พูด และเขียนนั้นไม่กระดิกครับ จานนี้ถ้าจะกล่าวอรรถาธิบายง่ายๆ ก็คือพายชั้นทำเป็นรูปถ้วยใส่ไส้ไก่และครีม เพื่อนที่ทานแจ้งว่า ตัวแป้งอร่อยสอบผ่าน ส่วนไส้ด้านในรสชาติจะอ่อนไปเล็กน้อย ทานกับแป้งแล้วจะออกจืดไปเสียหน่อยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:33:39

ความคิดเห็นที่ 32 มาถึงจานหลักของผมกันบ้าง ดูแปลกตาพอควรเพราะไม่ได้แต่งจานสวยงามมาเหมือนจานอื่นๆ ให้อารมณ์อุ่นแล้วก็ตักจากหม้อยกมาบริการในทันที อย่างไรก็ตามจานนี้ได้ชื่อว่าเป็น signature dish ของที่นี่เลย ถึงขั้นที่จะยึดเป็นเมนูหลักในอาหารชุดโดยไม่มีการเปลี่ยนแปปลง แม้ว่าจานอื่นๆ จะถูกสลับสับเปลี่ยนอยู่โดยตลอด จานนี้ก็คือ lamb casserole เป็นอาหารที่ได้กลิ่นอายความเป็นฝรั่งเศสผสานเข้ากับวัฒนธรรมแอฟริกันตอนเหนือ ที่ครั้งหนึ่งเคยตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสเช่นกัน โดยเป็นเนื้อแกะตุ๋นแต่ใช้เครื่องเทศแบบโมรอกกัน กลิ่นแซฟฟรอนหรือหญ้าฝรั่นนี่ขึ้นจมูกเลย แต่อร่อยมากนะครับ กลิ่นแกะแทบจะไม่ได้รู้สึกเลยเพราะกลบด้วยเครื่องเทศหมด ทั้งแกะและผักเปื่อยนุ่มอร่อยดี ผมว่าจานนี้ดูคล้ายๆ ทาจีนที่ผมเคยลิ้มลองอยู่เหมือนกันครับ เพียงแต่รสอ่อนและละมุนลิ้นมากกว่าครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:34:59

ความคิดเห็นที่ 33 มาถึงจานที่อยู่นอกอาหารชุดกันบ้างนะครับ จานนี้คือ ไก่อบครีมแบบฝรั่งเศส ราคาราวสิบปอนด์ได้ รสชาติดีพอตัว แต่เพื่อนผมบอกว่ายังสู้ร้าน Petit Paris ที่อยู่กลางเมืองที่เคยไปรับประทานมาไม่ได้ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:35:29

ความคิดเห็นที่ 34 จานสุดท้ายที่รวมอยู่ในอาหารชุดของวันนี้ก็คือ แกะย่างรับประทานกับมันฝรั่ง จานนี้คนที่ทานชมว่าอร่อย ด้วยความนุ่มของเนื้อแกะ และกลิ่นที่ไม่แรงนัก ผนวกเข้ากับซอสที่แสนเข้มข้นลงตัวครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:35:59

ความคิดเห็นที่ 35 รูปของคาวและหลายรูปมื้อนี้ค่อนข้างถ่ายยากพอสมควร เพราะผมนั่งด้านในสุด จะถ่ายภาพทีก็ต้องทำกริยาข้ามกรายแขกร่วมโต๊ะคนอื่น  จึงต้องขอโทษเป็นการใหญ่ครับ สำหรับของหวานนี้ หากท่านใดสั่งอาหารชุดจะจ่ายเพิ่มพียง 1.95 ปอนด์ ซึ่งมีสี่คนบนโต๊ะของเราที่เข้าข่ายนี้ ส่วนสองคนที่เหลือนั้นก็จ่ายราคาเต็มไปตามปกติครับ เริ่มจากจานแรกกันก่อน เป็นเค้กโอเปร่าช็อกโกแลตและกาแฟ ราคาห้าปอนด์ได้ แต่งมาเสียงดงามราวกับประติมากรรมชิ้นเอกที่พิพิธภัณฑ์ใดสักแห่ง รสชาติก็อร่อยสมราคาครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:36:55

ความคิดเห็นที่ 36 จานนี้เป็นจานที่รวมอยู่ในชุดกลางวันคือ ไอศกรีม ปาร์เฟ่ต์ ราดหน้ามาด้วย บัตเตอร์สกอตที่แสนอร่อย รสชาติเต็มสิบเหมือนกันครับ ร้านนี้ของหวานอร่อยทุกอย่างจริงๆ ครับ ไม่แนะนำให้พลาดด้วยประการทั้งปวง จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:37:28

ความคิดเห็นที่ 37 มาถึงของหวานของผมบ้าง นั่นก็คือ แปง แปร์ดู หรือ bread and butter pudding ที่แสนจะธรรมดา หน้าตาก็ธรรมดามาก เหมือนตัดมาจากถาดใหญ่ แล้วก็ราดครีมมาเลย แม้ว่าการจัดจานจะสอบตก แต่รสชาตินี่สวนทางกันเลยครับ เพราะอร่อยมาก ผมนี่วิดจานทานหมดแม้กระทั่งครีมเลยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:38:07

ความคิดเห็นที่ 38 จานสุดท้ายในชุดครับ เป็น สับปะรดฝานบางๆ แช่เย็น หรือ ทำแบบคาร์ปาโช่ แต่งด้วยมะม่วง แล้วก็ซอสเอนกประสงค์เหมือนกับที่ราดลงบนไอศกรีมในจานก่อนหน้า อร่อยเหมือนเคยครับ ถึงตอนนี้ทุกคนดูจะมีจิตใจจดจ่อกับของหวานที่อยู่ตรงหน้า จนทำให้บทสนทนาชะงักงันลงไปเสียพักใหญ่ครับ ก่อนที่ผมจะเอ่ยปากขอบคุณในความช่วยเหลือของทุกๆ คนในช่วงปีที่ผ่านมา และหวังว่าจะได้มีโอกาสเจอกันอีกในเมืองไทยหรือไม่ก็ที่อังกฤษครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:39:05

ความคิดเห็นที่ 39 ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยน้ำชาร้อนๆ เสียหนึ่งแก้วนะครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:39:28

ความคิดเห็นที่ 40 ขออนุญาตปาดด เปิดหูเปิดตาก่อนนอนค่ะ เหมือนไปเที่ยวด้วยเลย ^^ ฝันถึงเอดินเบอระ แน่ๆคืนนี้  โอ้ว .. จากคุณ : หน่อมแน้มนิดหนมหนุกหนาน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:40:19

ความคิดเห็นที่ 41 และเพื่อความอลังการตามสไตล์ฝรั่งเศส การจะยกน้ำชามาเพียงอย่างเดียวก็ดูกระไรอยู่ อย่ากระนั้นเลย จำต้องมีขนมหวานแสนอร่อยที่ทานคู่กันมาปิดท้าย รวมไปถึงช็อกโกแลตมิ้นท์ที่ทางร้านทำเองมาให้ล้างปาก แน่นอนว่า รสชาตินั้นดีกว่า after eight ที่ผมคุ้นเคยอยู่หลายช่วงตัวครับ มื้อนี้หกคนหมดไป 115 ปอนด์ได้ ก็ไม่แพงครับ ความจริงถ้าทานอาหารชุดจะจ่ายแค่คนละสิบปอนด์เท่านั้นสำหรับสามคอร์สครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:40:20

ความคิดเห็นที่ 42 ยินดีครับ คุณ หน่อมแน้มนิดหนมหนุกหนาน หลังจากมื้อสุดท้ายในบ่ายวันนั้น ผมก็อุทิศเวลาที่เหลือในการทำความสะอาดบ้านรอบสุดท้าย ควบคู่ไปกับการจัดกระเป๋า ตื่นเช้ามาก็ไม่ได้ทานอะไร นอกจากน้ำผลไม้เพียงหนึ่งแก้ว ก่อนจะจับแท็กซี่มุ่งตรงไปยังสนามบิน ตอนนั้นผมรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก เพราะเวลาแห่งความสุขที่ผมมักจะเรียกว่า หนึ่งปีแสนสุขในเอดินเบอระนัยว่าให้ล้อกันกับหนังสือชื่อดังอีกเล่ม ช่างผ่านไปเร็วเสียเหลือเกิน ผมมาถึงสนามบินในเวลาจวนเจียนเต็มที เลยไม่ได้ทำอะไรมาก นอกจากเดินคอตกขึ้นเครื่องตามเขาไป แล้วผมก็ต้องใจหายอีกหนึ่งคำรบ เมื่อทันทีที่เครื่องบินของ bmi เชิดหัวทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า วินาทีนั้นผมทำอะไรไม่ถูก นอกจากนั่งทอดสายตา พร้อมๆ กับปล่อยความคิดให้ล่องลอย เพื่อเก็บภาพความทรงจำดีๆ เหล่านี้ไว้ให้ยาวนานที่สุดครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:41:46

ความคิดเห็นที่ 43 1 ชั่วโมงกับอีกยี่สิบห้านาที ผมพบตัวเองอยู่ท่ามกลางความกว้างใหญ่ของท่าอากาศยานฮีทโทรว์ เข็นกระเป๋าจากอาคารหนึ่งไปฝากที่อาคารสาม ก่อนที่จะจับรถใต้ดินสายพิคคาดิลลี่ไปยัง สถานีเดียวกันกับชื่อสายรถไฟ ที่ Piccadilly Circus คนยังเยอะอยู่เช่นเดิม เทพอีรอส ก็ยังคงต้อนรับนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาที่หวังจะมาถ่ายรูปคู่ ผมใช้เวลาเดินเล่นฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะจับรถไฟใต้ดินสายสีแดงจาก bond street ไปยังย่าน Mile End ในแถบตะวันออกของเมือง ค่าที่มีนัดสำคัญส่งท้ายเมืองผู้ดีแห่งนี้ครับ ทันทีที่พ้นประตูสถานี ผมก็เกิดอาการงงเล็กๆ ครับ เพราะนึกว่ามาเดินอยู่กลางเมือง จิตตะกอง โคลอมโบ เชนไน หรือราวัลปินดีมากกว่าที่จะเป็นลอนดอน ด้วยความที่ย่านนี้ประกอบไปด้วยผู้คนจากอนุทวีปเป็นส่วนใหญ่ครับ เดินต่อจากนี้อีกเล็กน้อยก็ถึงเป้าหมายของผมกับมื้อสั่งลากับพี่สาวและเพื่อนที่ร่วมหัวจมท้ายมาตลอดปีที่ The Morgan Arms ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:42:47

ความคิดเห็นที่ 44 Morgan Arms ร้านที่ได้รับรางวัลผับดีเด่นเมื่อหลายปีที่แล้ว แถมถ้ามาถูกเวลา อาจจะได้กระทบไหล่คนดัง เหมือนที่พี่สาวผมพบเจออยู่บ่อยๆ ร้านนี้ก็คือผับแบบอังกฤษล่ะครับ เพียงแต่จะเป็นผับแบบสมัยใหม่ขึ้นมาหน่อยที่เรียกว่า Gastropub นั่นก็คือ ให้ความสำคัญกับอาหารควบคู่ไปกับเครื่องดื่มที่มีให้บริการอยู่แล้ว ทั้งนี้เพราะแต่เดิม ผับแบบอังกฤษจะเสิร์ฟอาหารง่ายๆ ไม่ได้ยุ่งยากหรือพิถีพิถันในการปรุงแต่งเท่าใดนัก หากแต่ในปัจจุบัน ผับเป็นมากกว่าที่ดื่มหรือสังสรรค์ อาหารเลยเข้ามาบทบาทมากขึ้นครับ Gastropub เลยดูจะตอบโจทย์ได้ตรงจุด แม้ว่าบางคนจะมองว่าสูญเสียจิตวิญญาณของผับแบบดั้งเดิมไป ผมเองนั้นมาอยู่อังกฤษเข้าผับทั้งหมดเพียงสี่ครั้ง ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าผมไม่ดื่ม ไม่ชอบบรรยากาศคุยกันเฮฮาเสียงดังเสียเท่าใดนัก ที่เข้าก็พอให้เรียนรู้และซึมซับเท่านั้นครับ ใครจะค่อนขอดอย่างไรในเรื่องนี้ผมก็เฉยๆ เพราะอยู่ไทยผมก็ไม่ชอบวิถีชีวิตแบบนี้อยู่แล้ว บางคนนี่ถึงปรามาสผมว่าคงจะมาไม่ถึงอังกฤษ ผมเองเฉยๆ กับเรื่องนี้ เพราะแม้ว่าจะมาอยู่ที่นี่นานสองนาน แต่ก็ไม่เคยขึ้นลอนดอนอายส์ แฮร์รอดส์ก็ไม่เคยไปเดิน แม้แต่ปราสาทเอดินเบอระบ้านผมก็ไม่เคยขึ้น ตรงกันข้าม สิ่งที่ผมมองว่า “ถึง” อังกฤษ กลับเป็นอุปนิสัยเรื่องความตรงต่อเวลา ความมีระเบียบวินัยโดยเฉพาะเรื่องการต่อแถว หรือการใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติครับ เข้าทำนอง เอาเยี่ยงแต่อย่าเอาอย่างเสียมากกว่าครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:43:56

ความคิดเห็นที่ 45 กลับมาที่ผับกันต่อนะครับ วันนี้พี่สาวผมรับอาสาเป็นเจ้ามือเหมือนเคย แถมหนนี้เผื่อแผ่ไปถึงคุณเพื่อนของผมด้วย รายนั้นก็เลยฉลองศรัทธาเสียเต็มคราบ สั่งทั้งไวน์โรเซ่มานั่งทานกับพี่สาวผม ส่วนผมนั้นทานไดเอ็ท โค้กเหมือนเคยครับ ส่วนพี่สาวผมเองก็สั่งเบียร์ดำของกินเนสซึ่งมากจากดินแดนไอริชมาให้เพื่อนผมลองชิมด้วย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ชอบ เพราะรสชาติเหมือนยาขมไปหน่อย แต่ก็ทานจนหมด ส่วนไวน์นั้นอร่อย ผมยังสู้อุตส่าห์ทนแรงคะยั้นคะยอไม่ไหว เลยชิมไปหนึ่งคำก็ใช้ได้ครับ ไม่แรงมาก ทานกับจานหลักน่าจะไปด้วยกันได้ดีพอดู จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:44:40

ความคิดเห็นที่ 46 สายๆ วันอาทิตย์อย่างนี้ คนแน่นร้านทีเดียวครับ บ้างก็มาสังสรรค์กับเพื่อนฝูง บ้างก็มาเป็นครอบครัว ซึ่งถ้าทานข้าวก็จะนั่งในส่วนที่เป็นโต๊ะด้านใน พอทานเสร็จบางส่วนก็จะย้ายไปดื่มต่อกันที่บาร์ด้านหน้าครับ ที่นี่เมนูเป็นกระดาษหนึ่งแผ่น สำหรับอาหารเรียกน้ำย่อย และจานหลัก ส่วนของหวานก็มีหนึ่งแผ่น ดังรูปในความเห็นที่ 45 ครับ วันนี้เราสามคนตัดสินใจหาของมาทานเล่นเบาๆ แบ่งกันก่อนเป็น ขนมปังกับฮัมมุส รสชาติอร่อยดีพอควร พี่ผมเขาบอกให้ปาดทั้งเนยและฮัมมุสลงบนขนมปังพร้อมๆ กันแล้วก็ทาน ปรากฏว่าก็อร่อยดีไปอีกแบบหนึ่งครับ สำหรับจานนี้ราคา 4.5 ปอนด์ครับ ที่สั่งมาอย่างเดียวเพราะว่า พี่สาวผมนั้นเป็นขาประจำที่นี่แล้วแจ้งว่าจานหลักจะใหญ่มาก ถ้าสั่งของทานเล่นมาเยอะ เกรงว่าจะจอดเสียก่อนครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:45:31

ความคิดเห็นที่ 47 ในส่วนของจานหลักนั้น วันอาทิตย์เช่นนี้ Sunday roast lunch ดูจะเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุดครับ วันนี้มีให้เลือกสามอย่างคือเนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อแกะครับ เพื่อนผมสั่งแตกต่างไปอยู่คนเดียว นั่นก็คือคอหมูย่าง ซอสแอปเปิ้ล ซึ่งก็มีกลิ่นแรงเหมือนเคย ไม่ได้เหมือนคอหมูย่างบ้านเราแบบที่ผมชอบ ไม่เช่นนั้นก็คงสั่งมาทานแล้ว เพื่อนผมก็บอกว่ากลิ่นแรงตามสไตล์หมูอังกฤษแต่เนื้อนุ่มดี และซอสแอปเปิ้ลก็รสชาติอร่อยเข้ากับความมันของหมูครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:46:17

ความคิดเห็นที่ 48 ให้ดูกันอีกสีกรูปนะครับ อาหารแบบโรสต์ลันช์นั้น จะเสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียงคือ ยอร์คเชอร์พุดดิ้งรสชาติอร่อย มันฝรั่งอบชิ้นใหญ่ หัวผักกาดหรือ turnip อบรวมไปถึงหัวบรัสเซลล์สเปราท์ที่ต้มจนสุกเปื่อย ไม่งั้นจะขมปี๋และทานไม่ได้ครับ หมูนี้ราคาจานละ 13.50 ปอนด์ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:47:32

ความคิดเห็นที่ 49 มาถึงจานหลักของผมและพี่สาวกันบ้างครับ ในฐานะที่เธอชื่นชอบเนื้อก็เลยสั่ง roast beef มา ที่นี่จะทำแบบสุกกลางๆ ยังแดงอยู่หน่อยพอให้อร่อย ในจานจะแล่มาสองชิ้นใหญ่ พร้อมเครื่องเคียงดังที่กล่าวข้างต้นครับ สำหรับผมในฐานะผู้ที่เป็น omnivore หรือทานไม่เลือก จานนี้ก็อร่อยครับ ตอนแรกดูเหมือนจะน้อยแต่กว่าจะทานอิ่มก็เล่นเอาจุกเหมือนกันครับ ราคาก็แพงกว่าหมูอยู่นิดหน่อยคือ 14.50 ปอนด์ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:49:18

ความคิดเห็นที่ 50 เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายในสหราชอาณาจักรของผม หลายคนอาจจะเลือกไปเที่ยวนั่นนี่หรือซื้อของ แต่สำหรับผมผมเลือกที่จะใช้เวลานั่งทานนั่งคุยกับญาติของผมมากกว่าครับ มาถึงร้านตอนบ่ายโมง จัดการของคาวเสร็จตอนเกือบบ่ายสาม หลังจากนั้นก็ดื่มกันต่อนิดหน่อย ก่อนที่จะสั่งของหวานมานั่งทานกันต่ออีกครับ ของหวานก็มีให้เลือกอยู่ไม่กี่อย่าง พี่ผมในฐานะขาประจำของที่นี่ สั่ง sticky toffee pudding ไปเป็นที่เรียบร้อย แล้วก็ไม่ผิดหวัง เพราะอร่อยมากๆ หนักเครื่องนมเนยครบถ้วนครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:50:11

ความคิดเห็นที่ 51 ตรงกันข้ามกับผมที่น่าจะเป็นบุคคลผู้โชคร้ายที่สุดบนโต๊ะในวันนั้น เพราะแม้ผมจะสั่งของที่ผมชอบที่สุดอย่าง Eton mess มาทาน แต่กลับผิดคาด เพราะรสชาติด้อยไปพอสมควรในสายตาของผม ที่นี่แม้จะทำแบบดั้งเดิม ตั้งแต่สมัยที่มีให้ทานในการแข่งขันคริกเกตประจำปีของโรงเรียนอีตัน โรงเรียนชื่อดังของอังกฤษ ที่ครั้งหนึ่งผู้นำประเทศของเราก็เคยได้รับการศึกษาที่นั่น โดยจะประกอบไปด้วยสตรอเบอร์รี่ เมอแรงค์ทุบเป็นชิ้นเล็กๆ และครีมรวมเข้าด้วยกัน แต่ผมว่าที่นี่หนักครีมมากไป เลยกลบความหวานของเมอแรงค์และความเปรี้ยวของสตรอเบอร์รี่เสียหมดครับ ได้แต่ความมันและจืดของครีมแทนเท่านั้นครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:51:12

ความคิดเห็นที่ 52 สำหรับของเพื่อนผมสั่งของหวานที่หน้าตาแสนจะธรรมดาอย่างไอศกรีมสตรอเบอร์รี่มา แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า รายนั้นชมอยู่ไม่ขาดปาก ด้วยรสชาติที่อมหวานอมเปรี้ยวกำลังดี ผสานกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสตรอเบอร์รี่ ที่สำคัญคือ ผมรู้สึกว่า เป็นไอศกรีมที่มีลักษณะกึ่งเชอร์เบต คือรู้รสหวานมันของครีมและน้ำตาล แต่ก็ยังมีรสเปรี้ยวแหลมของผลไม้เข้ามาตัด เลยอร่อยอย่างบอกไม่ถูกครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:51:59

ความคิดเห็นที่ 53 วันนั้นเราสามคนนั่งคุยนั่งทาน สลับกับนั่งทอดหุ่ยกันอยู่ที่ร้านจนถึงห้าโมงครึ่ง และแล้วผมก็ต้องล่ำลาพี่สาวผม ซึ่งแน่นอนว่าเธอเป็นคนจ่ายเงินเช่นเดิม สามคนหย่อนร้อยไปเสียห้าปอนด์ครับ พี่ผมเดินกลับบ้านซึ่งอยู่ใกล้ๆ ในละแวกนั้น ความจริง eastend ก็ไม่น่ากลัวอย่างทิ่ดครับ เพียงแต่จะดูเป็นอีกโลกหนึ่งที่ต่างจากลอนดอนที่ผมคุ้นเคย ดูไร้ระเบียบและผ่อนคลายมากกว่าใจกลางลอนดอนอยู่มาก ผมใช้เวลาบนรถไฟใต้ดินอีกราวชั่วโมงก็มาถึงฮีทโทรว์ครับ จัดการตรวจสัมภาระ ซึ่งอยู่มาหนึ่งปีก็งอกเงยมาพอดู แต่พอดีได้บัตรพิเศษมาผมก็เลยขนกลับได้ทั้งหมดคือ ห้าสิบกิโลกรัม ก่อนจะทิ้งเงินเหรียญไปกับการซื้อของอีกเล็กน้อยและบริจาคครับ ก่อนขึ้นเครื่องผมยังอุตส่าห์ได้มีโอกาสสานมิตรภาพเล็กๆ กับคุณลุงท่านหนึ่งที่ทำงานในองค์การระหว่างประเทศ เราพูดคุยกันอย่างออกรสในหลายเรื่องเสียจนผู้โดยสารอื่นเหลียวมองขณะรอขึ้นเครื่อง เราแลกนามบัตรกันและผมคงมีโอกาสได้เจอคุณลุงอีก เพราะท่านรักเมืองไทยมาก และมาเมืองไทยปีละหลายหน เนื่องจากการมาเรียนครั้งนี้ มาตามความต้องการของรัฐบาล ดังนั้นไม่มีทางเลือกอื่นสำหรับผม นอกจาก “รักคุณเท่าฟ้า” ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:53:01

ความคิดเห็นที่ 54 สามทุ่มครึ่ง เวลาของผมกับหนึ่งปีในสหราชอาณาจักรก็หมดลงครับ ต่อแถวเครื่องติดที่สนามบินอยู่ราวเกือบชั่วโมง เครื่องบินก็ทะยานขึ้นฟ้า ความรู้สึกของผมในวันนี้กับเมื่อปีที่แล้วไม่ต่างกันเลย นั่นก็คือ หม่นเศร้า ถ้าพูดสวยๆ ก็ต้องบอกว่า ปิ้มว่าจะขาดใจ  เพราะว่ากำลังจะจากไปจากที่ที่ผมคุ้นเคยและผูกพันครับ แต่พอเครื่องไต่ระดับความสูงได้ที่ ผมก็ทำใจได้ว่ามันเป็นธรรมดาโลก ก็เลยนั่งอ่านนิตยสาร รออาหารมื้อค่ำ วันนี้การบินไทยยังคงบริการดีเหมือนเคย คุณแอร์ที่บริการน่ารักและเอาใจใส่ดีมาก พูดถึงแอร์การบินไทย ผมไม่เคยเจอปัญหาเลย บริการดีมากทุกครั้ง ยกเว้นหนเดียว ตอนไฟลท์ กาฏมาณฑุ-กรุงเทพเมื่อสามปีก่อนที่ผมไม่อยากจะพูดถึงครับ ผมเริ่มต้นโดยรับถั่วมาทานกับไดเอ็ทโค้กเหมือนเคยก่อนที่จะถึงเวลาของจานหลักครับ มื้อค่ำนี้มีสองอย่างให้เลือก และตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป ทางการบินไทยได้ปรับปรุงอาหารไทยที่ให้บริการบนเครื่องให้มีรสชาติและมาตรฐานเดียวกัน โดยส่งออกเครื่องแกงและเครื่องปรุงสำเร็จรูป ไปยังครัวการบินในแต่ละสถานีเพื่อให้ใช้ปรุงอาหารที่จะนำขึ้นเครื่องครับ เย็นนี้มีแกงเผ็ดหมู แต่คุณแอร์เธอบอกว่า เนื้อ bourguignon อร่อยกว่า ผมเลยรับอย่างหลังนี้มาแทนครับ อร่อยตามคาด รวมไปถึงแซลมอนในคอร์สแรกและมูสผลไม้ด้วยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:54:08

ความคิดเห็นที่ 55 ทานเสร็จก็ปิดไฟนอน แต่ผมเอาคอมพิวเตอร์มานั่งทำงานต่อก่อนจะหลับไปราวสองชั่วโมง ตื่นมาก็มีแซนด์วิชมื้อดึกให้ทาน ก่อนที่ ม่านหน้าต่างจะถูกเปิดออกให้เห็นพยับแดดช่วงบ่าย ก็เป็นเวลาอาหารมื้อที่สองของการบินไทยครับ อาหารมื้อนี้เป็นอาหารเช้าที่เสิร์ฟตอนบ่ายโมงเวลาไทย มีโยเกิร์ต ผลไม้ แล้วก็จานหลักระหว่างออมเลตกับเครปไก่ ซึ่งผมทานอย่างหลัง ก็อร่อยดีครับ แต่ผมยังอิ่มกับแซนด์วิชก็เลยทานไม่หมดครับ สามโมงตรง เครื่องบินก็แตะพื้นลานวิ่งเป็นที่เรียบร้อย สุวรรณภูมิ ต้อนรับผมด้วย ความร้อนที่สามสิบองศาเซลเซียส พร้อมๆกับการกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง และบ้านที่คงไม่อาจหาที่ใดมาแทนได้ครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:54:52

ความคิดเห็นที่ 56 แม้จะกลับมาแล้ว แต่ถ้ามีเวลาอาจจะเขียนและรีวิวอาหารจากแดนไกลได้อีกสักตอนถึงสองตอนครับ เหมือนเคยครับ จะพยายามมารีวิวบ่อยๆ แต่คราวนี้คงเป็นในเมืองไทย ตั้งแต่กลับมาก็ไปทานมาหลายที่พอดู แต่ยังไม่มีเวลาทำรูปเขียนเรื่อง เพราะต้องใช้เวลาค่อข้างมากพอสมควรครับ กว่าจะออกมาเป็นหนึ่งกระทู้ ขอบคุณสำหรับการเข้ามารับชม ตลอดจนทุกความเห็นที่มีเข้ามาครับ ยินดีและน้อมรับฟังทุกคำวิพากษ์วิจารณ์ และหวังใจว่าจะได้พบกันใหม่ในตอนถัดๆ ไป ขอบคุณอีกครั้งและสวัสดีครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:55:40

ความคิดเห็นที่ 57 เทอรีนทะเล กับ ไอศกรีม ปาร์เฟ่ต์ น่าทานจังเลยค่ะ ขอบพระคุณค่ะที่นำมาให้ชม.. จากคุณ : อะนิตา เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:16:47

ความคิดเห็นที่ 58 ยินดีครับ คุณ อะนิตา ผมเองก็ไปชมกระทู้ของคุณตอนเช้าๆ อยู่บ่อยครั้งเช่นกันครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:28:01

ความคิดเห็นที่ 59 ขนมน่าหม่ำทั้งน้านนนนนนเลยค่ะ จากคุณ : เกิดจากความรัก เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:29:31

ความคิดเห็นที่ 60   ผมชอบวิธีการเขียนและการนำเสนอของคุณ buenos มากๆเลยครับ เพราะได้ทั้งความรู้และเห็นภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่นู่นผ่านทางอาหาร ขอบคุณสำหรับรีวิวดีดีนี้นะครับ ^^ จากคุณ : yanglobllldinsor เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 01:38:33

ความคิดเห็นที่ 61 หลักสูตรที่เรียนสุดยอดเลยครับ ปิดโรงแรมจัดสัมมนา วิว ทิวทัศน์ สวยงามอีกแล้ว เดี๋ยวกับมาเก็บรายละเอียดเพิ่มครับ จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 05:10:53

ความคิดเห็นที่ 62 เป็นรีวิวที่เศร้าๆนะครับ อาหารน่าทานมาก การตกแต่งอาจจะไม่สวยเท่าไรแต่คิดว่ารสชาด คงดีแน่ๆ จากคุณ : man191 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 07:23:27

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณสำหรับรีวิวสวย ๆ นะคะ ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ จากคุณ : i_lllive เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:28:46

ความคิดเห็นที่ 64 ตามไปชิมไปเที่ยวด้วยคนนะคร้าบบบ จากคุณ : นมขาวเย็น เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:56:57

ความคิดเห็นที่ 65 ไม่รู้ทำไม อ่านกระทู้นี้แล้วน้ำตาคลอเลยอ่ะ ไม่เข้าใจตัวเอง จากคุณ : มะกรูดหวาน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 18:19:14

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณสำหรับรีวิวเปิดหูเปิดตาในด้านอาหารและวัฒนธรรมการกินครับ ขอให้กิฟท์คุณในประโยคที่ผมชอบนะครับ สิ่งที่ผมมองว่า “ถึง” อังกฤษ กลับเป็นอุปนิสัยเรื่องความตรงต่อเวลา ความมีระเบียบวินัยโดยเฉพาะเรื่องการต่อแถว หรือการใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติครับ เข้าทำนอง เอาเยี่ยงแต่อย่าเอาอย่างเสียมากกว่าครับ ถ้าคนไทยทุกคนคิดและทำแบบนี้ได้เป็นส่วนใหญ่ บ้านเมืองเราคงจะดีกว่านี้เยอะครับ ไม่เสียแรงที่ได้ทุนไปร่ำเรียน และซึมซับสิ่งดีๆที่นอกเหนือจากวิชาความรู้กลับมา จากคุณ : Banx เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 19:21:57

ความคิดเห็นที่ 67 คุณbuenosคะ คห.27 ควรจะเป็นแพะมากกว่ามั๊ย จากคุณ : patatine เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 22:39:37

ความคิดเห็นที่ 68 คุณ เกิดจากความรัก ขอบคุณครับ ขนมนั่นอร่อยจริงครับ พูดแล้วก็คิดถึง คุณ yanglobllldinsor ขอบคุณมากครับที่ชอบ จะพยายามหัดเขียนมาบ่อยๆครับ คุณเล็กครับ มันเป็นข้อบังคับหลักสูตร ว่าจะต้องมีสัมมนา แบบที่เรียกว่า residential weekend ครับ จัดสลับไปมาอยู่ไม่กี่รีสอร์ตหรอกครับ คุณ man191 ไม่เศร้าเสียใจมากหรอกครับ แค่ใจหายและเสียดายมากกว่าครับ ส่วนขนมก็อย่างที่เรียนไว้ อร่อยเกือบทุกอย่างครับ คุณi_lllive ขอบคุณมากๆ เช่นกันครับ คุณ นมขาวเย็น ได้ครับ อุตส่าห์ตามไปดูไปเที่ยวกระทู้ที่ไปหัวหินของคุณอยู่เหมือนกันครับ เร็วๆนี้คงมีตามไปบ้างครับ คุณ มะกรูดหวาน น้ำตาคลอคงมีอยู่สองเหตุครับ ถ้าไม่ใช่เศร้าเสียใจก็คงเป็นเพราะความปิติยินดี หรืออาจจะเป็นเพราะมีสองอย่างระคนกันก็ได้ครับ คุณ Banx ขอบคุณครับที่ชอบ ผมก็เขียนไปตามที่ผมมองเห็นและรู้สึกครับ คุณ patatine ขอบคุณมากครับ มันคือชีสนมแพะจริงๆครับ ผมขอยอมรับผิดโดยดุษณี ไม่อาจมีข้อโต้แย้งหรือข้อแก้ตัวใดๆลยครับ จากคุณ : buenos เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 11:53:08