ความคิดเห็นที่ 1   คิดว่าน่าจะมาถามในห้องนี้ที่สุดค่ะ  เพราะว่าห้องแป้งไม่อนุญาตให้สมาชิกเบอร์โทร.โพสตค่ะ จากคุณ : หลังเขาเล่าถาม เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 16:48:22

ความคิดเห็นที่ 2 โดนแหกเนตรซะแล้ว ซื้อจากเมืองจีนรึป่าวครับ.. จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 17:18:57

ความคิดเห็นที่ 3 บัวหิมะ เป็น singel origin นะค่ะ จะขึ้นในในแถบหิมะเท่านั้น หายากสุด ๆ ขาย กก ละ 6-8 หมื่นค่ะ จากคุณ : ajstar เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 18:54:28

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นแบบนั้นถูกแล้วค่ะ แต่ทำไมมันเล็กขนาดนั้นอ่ะค่ะ ของขิงขนาดประมาณไข่ปลาริวกิวอ่ะค่ะ ปล.เวลาขิงแบ่งแจกขิงก็ให้เยอะนะคะ ประมาณนิ้วโป้งได้อ่ะ แอบคิดเหมือนกันว่าถ้าให้อันแค่นั้นมันเล็กเกินไปค่ะ จากคุณ : kirill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 18:58:33

ความคิดเห็นที่ 5   นั้นซิค่ะคุณขิง  ใจก็คิดว่าน่าจะแบ่งให้ใหญ่ ๆ หน่อย  เทใส่ตระแกรง  เป็นเหมือนคราบราติดตะแกรงไงงั้นเลยค่ะ จากคุณ : หลังเขาเล่าถาม (หลังเขาเล่าถาม) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 19:11:38

ความคิดเห็นที่ 6 ขิงก็เจอปัญหานี้เวลากรองอ่ะค่ะ ตอนแรกขิงกรองใส่ตะแกรงอลูมิเนียม มันเลยต้องคนๆให้นมมันไหลลงข้างล่าง ปรากฏว่าตอนจะตักน้องบัวเม็ดเล็กๆที่ติดตะแกรงอยู่ โดนชนบี้ละลายไปซะงั้น ยังไงก็สู้ๆนะคะ เลี้ยงไม่นานเดี๋ยวก็โตค่ะ ^^ จากคุณ : kirill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 19:37:19

ความคิดเห็นที่ 7 เอิ่ม คุณขิงคะ ได้ข่าวมาว่า บัวหิมะ นี้ห้ามใช้ตะแกรงโลหะกรองไม่ใช่หรอค่ะ ^^" เราก็สนใจน้องบัวอยู่เหมือนกัน จะได้รับเร็วๆนี้(คนในพันทิปนี่แหล่ะแจก) เลยศึกษาข้อมูลเอาไว้ค่ะ ตอนนี้เลยหากระชอนพลาสติกกับผ้าขาวบางมาเตรียมรอรับน้องแล้ว คุณหลังเขาเล่าถาม ก็อขอให้เลี้ยงน้องบัวโตไวไวนะคะ จากคุณ : WhiTe_WinG เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 20:04:26

ความคิดเห็นที่ 8 โดนโลหะกับอลูมิเนียมได้ค่ะ แต่ควรจะแปปเดียว มันเป็นการป้องกันไม่ให้กรดในนมไปกัดโลหะ เราเอามาทานมันจะอันตรายน่ะค่ะ จริงๆไม่ได้มีอะไรมากเลย แต่แนะนำให้ใช้กระชอนช้อนปลาดีที่สุด เพราะว่ากรองง่าย ไม่ต้องคนบัวหิมะ ก็เลยจะโตเร็วน่ะค่ะ จากคุณ : kirill เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 20:38:13

ความคิดเห็นที่ 9   ขอบคุณทั้งสองคนนะค่ะ  อยากให้มันโตขึ้นซักขนาดเม็ดแมงลักก็ยังดี  อันนี้ล้างเฉย ๆ ไม่กล้าเขี่ยเลยหล่ะ จากคุณ : หลังเขาเล่าถาม (หลังเขาเล่าถาม) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 21:42:11

ความคิดเห็นที่ 10   เด๋วจะลองไปหาเลี้ยงดูค่ะ อิอิ จากคุณ : ReshaValentine เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 22:16:33

ความคิดเห็นที่ 11 คุณหลังเขาเล่าถามพยายามเข้านะคะ เอาใจใส่แบบนี้น้องบัวไม่ตายหรอกค่ะ คุณขิงคะ ขอบคุณค่ะที่ทำให้ทราบว่าทำไมไม่ค่อยนิยมใช้กระชอนโลหะ เราก็นึกว่าน้องบัวไม่ถูกด้วย โดนแล้วจะไม่โตหรือตาย(คิดไปนู้น) ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง จากคุณ : WhiTe_WinG เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 52 23:51:52

ความคิดเห็นที่ 12 ความรู้เกี่ยวกับ kefir 1.บัวหิมะคืออะไร บัวหิมะ ฟรั่งเรียก kefir (ตั้งแต่นี้ผมจะเรียก kifir นะครับ เพราะเรียกบัวหิมะแล้วรู้สึกมันเวอร์ๆ โฆษณาเกินจริงยังไงก็ไม่รู้) มีต้นกำเนิดแถวๆตุรกี เป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายๆชนิดอยู่ร่วมกัน ประกอบด้วย Lactococcus lactis subsp. lactis lactococcus lactis subsp. cremoris Lactococcus lactis subsp. diacetylactis, Leuconostoc mesenteroides subsp. cremoris Lactobacillus Kefyr (thermophilic) Klyveromyces marxianus var. marxianus Saccaromyces unisporus ตกใจ ! นึกว่าบัวหิมะที่เค้าเอามาทำเครื่องสำอางกับยา แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 52 11:31:24 จากคุณ : ajstar เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 52 11:29:34

ความคิดเห็นที่ 13 นี่ค่ะบัวหิมะของแท้  จริง ๆที่เจ้าของกระทู้โพส มันเรียกว่า kifer เฉย ๆ นะค่ะ คนไทยเข้าใจผิดกันเยอะ จากคุณ : ajstar เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 52 11:35:05

ความคิดเห็นที่ 14 เลี้ยงไปซักพักเดี๋ยวก็โตแล้วค่ะ สำคัญคือ ขยันจับน้องบัวอาบน้ำเปลี่ยนนมทุกวัน ก็จะยิ่งโตเร็ว   ใช้กระชอนช้อนปลาหรือถุงผ้าแก้วแบบที่ใส่ของชำร่วยกรองจะดีกว่า เพราะเนื้อผ้าตาถี่มาก  น้องบัวจะได้ไม่ไหลหายไปกับน้ำเวลากรอง ของเราเองได้มาแรกๆ ก็เล็กขนาดหัวไม้ขีด เลี้ยงไปซักพัก  โตจนเลี้ยงไม่ทันต้องแบ่งให้กับญาติกับเพื่อนไปเยอะเชียวค่ะ จากคุณ : peijing เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 52 13:57:24

ความคิดเห็นที่ 15 คีเฟอร์ถ้าทานได้ก็ดีครับ ผมไม่ชอบแต่น้องชอบ เพื่อนหลายคนบอกว่าทานแล้วดี ส่วนตัวเบื่อตอนล้างนี่ล่ะ ไม่มีคนทำให้ ที่ว่าเม็ดเล็กๆ ก็อย่างนั้นล่ะครับ ต่อไปมันก็มากขึ้นมากขึ้น ที่ว่าใหญ่ๆน่ะ ก็เม็ดเล็กๆรวมกันนั่นล่ะ เลี้ยงไปเลี้ยงมาเยอะมาก ความขึ้เกียจกัดกิน ก็เลยจัดการหม่ำซะ อร่อยหนึบหนับ ช่วยลดโลกร้อน เอ๊ย ลดปริมาณ บัวหิมะ ของจริงไม่เคยเห็น ไปเมืองจีนหลายรอบ ถามกี่คนก็แล้ว ไม่ได้ความซักกะที ศูนย์ที่เซียงไฮ้บอกเป็นไม้ใหญ่สูงหลายเมตร ไปตลาดแม่สายต้นปี เจอบัวหิมะขายโลละ 80 บาท ซื้อมาด้วย เป็นหัวเหมือนมันเทศ ปอกเปลือกคล้ายหัวไชเท้า รสหวานเหมือนทานสาลี่หรือมันแกวหวาน...พม่าหลอกอีกแน่เลย นึกย้อนไป(ไม่อยากเล่าเลยมันนานมาก) ตอนฟักแม้วออกมาใหม่ๆ ตื่นเต้นมาก แพงด้วย แม้วขายเอง บอกว่า "มะระหวาน" กินเป็นผลไม้ ใครได้กินมีบุญ เฮ้อ แม้วหลอกอีกละ ทำไมซื่ออย่างนี้นะ จากคุณ : ขอเป็นสะพานเชื่อมดาว เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 52 20:21:39

ความคิดเห็นที่ 16   เอามาจากที่เดียวกับคุณหลังเขาเล่าถามแน่เลย เค้าส่งมาให้ทางไปรษณีย์ ที่บอกว่าแจกที่ห้องโต๊ะแป้งป่ะคะ เสียค่าส่ง 150 บาทเหมือนกันค่ะ ประกาศเลขส่งของที่บล๊อกใช่ป่ะคะ ^^ ตอนได้มา เม็ดเล็กๆ แตกๆ เหมือนกันค่ะ ตอนนี้เลี้ยงมาได้ เกือบจะเดือน โตขึ้นเยอะค่ะ เราไม่ล้างนะคะ เพราะเคยล้างอยู่ช่วงวันสองวัน เหมือนจะไม่ค่อยโต โตช้ากว่าปกติ ก็เลยกะว่าพอมันหนืดๆ ก็ค่อยล้างทีค่ะ เราใช้กระชอนอะลูมิเนียม กรองเลยค่ะ ฝาปิดได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องให้อากาศเข้าไปก็โตได้ค่ะ ^^ เลี้ยงสักพัก เดี๋ยวจะโตขึ้นเยอะเลยค่ะ สู้ๆน้าคะ แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 52 07:46:20 จากคุณ : ~SpiZySalami~ เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 52 07:45:33

ความคิดเห็นที่ 17 ไปตลาดแม่สายต้นปี เจอบัวหิมะขายโลละ 80 บาท ซื้อมาด้วย เป็นหัวเหมือนมันเทศ ปอกเปลือกคล้ายหัวไชเท้า รสหวานเหมือนทานสาลี่หรือมันแกวหวาน...พม่าหลอกอีกแน่เลย                                                            - ขอเป็นสะพานเชื่อมดาว -  อันนั้นเป็น หัวมันหิมะ รึเปล่าครับ? เสวี่ยเหลียนกว่อ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Smallanthus sonchifolius หรือที่เรียกขานกันในภาษาอังกฤษว่า Yacon (ผลไม้แห่งพระเจ้า) เป็นพืชในตระกูล ทานตะวัน เป็นพืชพื้นเมืองที่มีอยู่ทั่ว ไปตามแถบเขา แอนเดส อเมริกาใต้ ที่ชาวอินเดียแดงใช้เป็นอาหารดั้งเดิม นานมาแล้ว ความสูงของต้นประมาณ 2 ~ 3 เมตร เมื่อโตเต็มที่จะแทงดอกสี เหลืองประมาณ 4 – 5 ดอกก่อนที่จะลงหัวที่มีลักษณะภายนอกคล้ายหัวมัน เทศมาก ผิดกันที่ว่ามีความหนาแน่นของแป้งน้อยกว่า มีปริมาณของน้ำ มากกว่า มีรสหวานเฉพาะตัวที่แตกต่างจากพืชชนิดอื่นๆ   เสวี่ยเหลียนกว่อ พืชหัวชนิดนี้เริ่มปลูกกันมากขึ้นในมณฑลยูอิ๋นหนาน ของประเทศจีน เนื่องจากความต้องการของตลาดได้ขยายออกไปกว้างขวางทั่วประเทศ จากการรณรงค์ด้านการตลาดในโครงการ ซานหนง ที่ทางการสนับสนุนส่งเสริมจนกลายเป็นอุตสาหกรรมเกษตรไปเสียแล้ว ด้วยมีการนำมาแปรรูปในลักษณะต่างๆ เพราะหัวของมันมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยกรดอะมิโน แร่ธาตุหลักและจุลธาตุอีกหลายชนิด โดยเฉพาะ  แคลเซี่ยม แม๊กนีเซียม เหล็ก สังกะสี และซีลีเนียมที่มีอยู่ในสัดส่วนสูงเป็นพิเศษ นอกจากนี้ เสวี่ยเหลียนกว่อ ยังมีสรรพคุณทางยาสมุนไพรในการควบคุมปรับปรุงของเหลวในเลือด ลดน้ำตาล ไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด เป็นการป้องกันและเยี่ยวยาอาการของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานที่ได้ผลชัดเจน เสวี่ยเหลียนกว่อ ยังมีส่วนประกอบของน้ำตาล สูงสุดในบรรดาพืชทั้งหมด ช่วยการทำงานของระบบขับถ่ายในกระเพาะลำไส้และทางเดินปัสสาวะได้ดี ช่วยย่อยอาหาร ช่วยระบายท้อง ป้องกันท้องเสีย ป้องกันการเกิดผลึกก้อนนิ่ว และป้องกันการเกิดมะเร็งจากสารพิษ สารก่อมะเร็งร้าย ป้องกันการเกิดสิวฝ้าบนใบหน้า เป็นอาหารบำรุงสุขภาพความงามของร่างกายที่ดี รสชาติของ เสวี่ยเหลียนกว่อ คล้ายคลึงกับผลสาลี่ ที่มีเปลือกบาง กรอบ รสออกหวาน ฉ่ำน้ำ นอกเหนือจากการกินสดแล้ว ยังสามารถนำไปปรุงให้สุกในรูปแบบของน้ำซุป ตุ๋นกับเนื้อ นำไปผัดก็ให้รสชาติอร่อยที่แตกต่างเฉพาะตัว และยังมีการนำไปแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม เติมผสมกับไอสครีม เครื่องดื่มและชา แปรรูปบรรจุเป็นอาหารกระป๋อง จากคุณ : 100 ปีแห่งความโดดเดี่ยว เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 14:24:21

ความคิดเห็นที่ 18 แบบ คห.17 นี่แหละผมซื้อมาจาก ตลาดบนดอยแม่สลอง ถามเค้าเค้าก็ว่าบัวหิมะ ลองปอกเปลือกทานสดๆดู เหมือน กึ่งๆทานมันแกวบวกกับสาลี่ แปลกดี ครับ มาถึงบ้าน กท. เอามาต้มซีกกับโครงหมู  ทานต้มสุกก็ก็แปลกๆดี ครับ เที่ยวหน้าถ้าไปเจออีก คิดว่าจะซื้อมาแต่พักโปยเล้งขาวแล้วครับ จากคุณ : กา...คาบพริก เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 52 15:18:05

ความคิดเห็นที่ 19 เพิ่งได้รับมา คิดเห็นและเป็นเหมือนเจ้าของกระทู้เลยง่ะ ได้มาหาแทบไม่เจอ เราก้อคิดว่าจะเห็นตัวเป็นๆ ลองบี้ก้อไม่เห็นอันไหนเป็นก้อนเลย บี้เละหมดเลย ปัจจุบันก้อหาไม่เจอเลี้ยงมาสามวันแระ แต่ได้ฟรีคะ รอคิวเป็นเดือนเหมือนกัน มีพี่ใจดีให้มา  จะลองสู้ๆต่อไป เพราะยังแอบปรึกษากะคนที่ให้อยู่ตลอด(เค้าใจดีจิงๆคะ) และนมก้อทำตัวเป็นโยเกิต แสดงว่าเรายังมีคีเฟอร์เหลืออยู่บ้างแระ อิอิ จากคุณ : noknannew เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 52 13:40:39