 |
ความคิดเห็นที่ 29 |
|
แต่ก่อนตอน เริ่มดื่มชาแรกๆ ผมก็เป็นเหมือนกันครับ เรื่อง บ้าป้านชาอะไรนี่ เซาะหาซื้อป้านกันยกใหญ่ หมดเงินไปกับมันเยอะ แต่ก็ลืมไปว่า สาระสำคัญที่จะนั่งลงละเลียดชานั้น คือรสชาติของน้ำชาต่างหาก
แต่ก่อนซื้อป้านกระบะหน้าร้านมา ราคา 80 บาท ใช้แล้วทิ้งไม่เสียดาย ต่อมามีป้านใบละ 1,300 ขนาด 10 จอก เอามาชงได้ไม่ถึงเดือน ทำฝาป้านกระแทก ฝาบิ่นไป นอนไม่หลับไปสองวัน ในทีสุดก็ได้ป้านเล็ก ขนาดเท่ากำปั้น ราคา 600 บาท ย่านแยกราชวงศ์ ซื้อมาสองป้าน ใบแรกสีดำ ใบที่สองสีอิฐ เนื้อบาง แกร่ง ทรงปากจู่หูกลับ แต่คงไม่ใช่ป้านชั้นดีอะไร
ป้านเล็กสองใบ เอามาชงได้สักพัก สังเกตุที่พวยกา มีรอยกระเทาะอยู่นิดหน่อย ซึ่งคิดว่าเป็นตำหนิมาจากร้าน เพราะว่าไม่ค่อยทำกระแทกอะไร แต่คราวนี้ผมไม่ได้รู้สึกอะไร คิดว่าเป็นอนิจจัง วันนี้มันไม่แตก พรุ่งนี้มันก็ต้องแตก , ปีนี้มันไม่แตก ปีหน้ามันก็ต้องแตก , 3 ปีไม่แตก 10ปีก็ต้องแตก เลยใช้ต่อเรื่อยมา
จนถึงตอนนี้ ป้านเล็กสองใบของผม มีคราบชาติดอยูรอบๆป้านแล้ว เป็นผลมาจากการชงดื่มเป็นประจำ เพิ่มความขลังให้กลับป้านมิใช่น้อย ป้านใบน้อย ที่มีคราบน้ำชาติดอยู่ ราคาซื้อมา 600 บาท ตอนนี้ใครมาถามซื้อ ใบละ 1,000 บาท ผมก็ไม่ขาย , จะขายทำไมล่ะ ออกจะภูมิใจ สะสมคราบน้ำชามากับมือ แฮ่ะๆๆๆ
จากคุณ |
:
น้ำค้างหยกเก้าบุปผา
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ต.ค. 52 15:09:53
|
|
|
|
 |