Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เที่ยวไปกินไป @ สิงคโปร์-มาเลเซีย 2 : 2.1 Singapore Flyer ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก{แตกประเด็นจาก D8537523}  

คำนำ :

บทความนี้ไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อเป็นคัมภีร์การท่องเที่ยวสิงคโปร์และมาเลเซีย

เนื่องจากผู้เขียนมิได้อาศัยหรือทำงานอยู่ในทั้ง 2 ประเทศนี้ เพียงแต่ไป 2 ประเทศนี้ค่อนข้างบ่อย

โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์ ที่ตั้งแต่ปี 1973 คุณพ่อพาขึ้นรถไฟพร้อมกับน้องสาวไปลงที่หาดใหญ่

แล้วว่าจ้างรถขับไปเรื่อยๆจนถึงประเทสสิงคโปร์ ก่อนที่ตัวเองจะขึ้นเครื่องบินกลับมาดูผลเอ็นทรานซ์ก่อน

ปี 1975 ที่ขึ้นรถไฟไปกลับกับเพื่อนผู้หญิงอีก 5 คน ปี 1976 จัดทัวร์ร่วมกับเพื่อนนิสิตอีก 4 คนไปสิงคโปร์ 2 ครั้ง

หลังจากนั้นไปสิงค์โปร์เฉลี่ยทุก 2 ปี ปี 1987 เป็นเนวิเกเตอร์พาแฟนและเพื่อนอีก 2 คนขับรถไปกลับกรุงเทพ-สิงคโปร์

ไปบ่อยจนมีเพื่อนที่สิงคโปร์ ที่สนิทกันจนไปนอนที่บ้านเกือบทุกครั้งตั้งแต่ปี 1982  ตั้งแต่หล่อนยังโสดจนแต่งงานแล้ว

การเดินทางครั้งนี้วางแผนว่าจะไปทานอาหารอร่อยหลายแห่ง แต่สุดท้ายบางแห่งก็ไม่ได้ไปเนื่องจากเวลาไม่อำนวย

การไปเที่ยวครั้งนี้ใช้เวลา 9 วัน อยู่ในมาเลเซีย 4 วัน ภาพที่ถ่ายมีเกือบ 12,000 ภาพ จึงต้องตัดออกเป็น 9 ภาค

และบางภาคอาจต้องตัดเป็น 2 ตอน ท่านที่หวังว่าจะได้พบกับอาหารฝรั่ง เบเกอรี่ร้านดัง และเชนฟาสท์ฟู้ด

ขอบอกว่าต้องผิดหวัง เพราะคติพจน์ประจำใจเวลาท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยหรือต่างประเทศก็คือ"Eat Local"

หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยนในการเดินทางครั้งนี้คือ S$1.00=24 บาท และ RM ( Malasia Ringgit) 1.00=9.90 บาท

คำเตือน : สงวนสิทธิ์ในภาพและบทความ ไม่อนุญาตให้ใช้ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของภาพและบทความทุกตอน

ไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่าจะในรูปแบบใดๆ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เขียน

ผู้ใดละเมิดจะถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุดโดยไม่มีการยอมความ

.......................................................................................

ก่อนนอนเมื่อคืนตั้งนาฬิกาปลุกของโทรศัพท์มือถือให้ปลุกเวลา 05.30 น.

แต่ลืมเปลี่ยนเวลาบนมือถือให้เป็นเวลาสิงคโปร์ ผลก็คือตื่นมาเมื่อเวลา 06.30 น.

จึงไปบ้าน Christine ไม่ทัน เนื่องจากเมื่อคืน Christine  โทรฯมาบอกว่าไม่ได้ให้กุญแจกระเป๋าไปด้วย

จึงทำให้นึกขึ้นได้ว่าลืมขาตั้งกล้องและร่มไว้ในกระเป๋าใบนั้นด้วย ถ้าจะนั่งรถไปเอาก็ใช้เวลาไปกลับเกือบ 2 ชั่วโมง

ซึ่งจะทำให้รายการเที่ยวไปกินไปวันนี้ต้องล่าช้าออกไป จึงโทรฯไปนัดให้ออกมารับกุญแจ

พร้อมทั้งขอยืมขาตั้งกล้องของ Antoni สามีของ Christine ก่อน Antoni ใช้กล้องรุ่นเดียวกันจึงขอยืมที่ชาร์จแบตฯมาด้วย

07.13 น.เช้าวันนี้ยังครึ้มฟ้าครึ้มฝน ชะโงกออกไปดู Orchard Road ท้องถนนว่าง

 
 

จากคุณ : laser
เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 52 14:37:01




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com