ความคิดเห็นที่ 1 บอกก่อนว่าคงไมได้ส่งเขาเรียนหรอกนะคะ เพราะว่ามันแพงไป แต่อยากหาเหตุผลให้เขาทราบว่าเรียนจบแล้วได้ทำงานเมืองนอกจริงๆ หรือเปล่า ขอบคุณมากๆ ค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 52 10:08:51 จากคุณ : เนนนา เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 10:07:07

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องส่งไปเมืองนอกหรือเปล่า เราก็ไม่รู้ค่ะ อาจจะมีส่งไปฝึกงานก็ได้ แต่ถ้าน้องเขามีพรสวรรค์จริง ๆ ฝีมือเข้าตา ไหวพริบดี เรื่องของโอกาสก็มีมากขึ้น ไม่ต้องไปเมืองนอกหรอก แค่ได้ทำงานในโรงแรมเมืองไทย ก็ถือว่ามั่นคง สวัสดิการดีเช่นกัน แล้วการเรียนการสอน สังคมภายในโรงเรียนก็ถือว่าดีค่ะ ถ้าเขารักชอบการทำอาหาร ทำขนมจริงๆ และมีปัจจัยเพียงพอที่จะสนับสนุน (อย่าถึงขั้นกู้หนี้ยืมสิน) ก็ทำตามความต้องการของเขาเถอะค่ะ แต่ถ้าดูละครแล้วอิน ให้ลองไปเรียนที่โรงเรียนสอนทำอาหารของ อ.ยิ่งศักดิ์ หรือโรงเรียนสอนอาหารที่อื่นดูก่อนนะคะ สักคอร์สสองคอร์ส เขาก็น่าจะรู้แล้วว่า มันใช่ตัวเขาจริง ๆ หรือเปล่า จากคุณ : ตันหยง บูรณา เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 11:07:39

ความคิดเห็นที่ 3 อืม................ คิดว่า ได้ฝึกงานมากกว่า การที่จะได้ไปทำงานที่ไหน ไม่ว่าเมืองนอก หรือเมืองไทย ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถด้วยนะคะ การเป็นเชฟไม่ง่ายหรอกค่ะ ต้องอดทนมากมาย + พรสวรรค์ + พรแสวงด้วย ลองดูที่อื่นก่อนดีกว่าไหมคะ เท่าที่รู้มา เรียนการอาหารของโรงแรมดุสิต เขามีเรียนทฤษฎี และ ฝึกงาน อยู่ในคอร์สนะคะ ทำงานจริงที่โรงแรมในเครือเลย เป็นคอร์สระยะ 3 เดือน เรียนจริง 1 เดือน ฝึกงาน 3 เดือน ราคาก็พอสมควร น่าจะ 4 หมื่นได้ค่ะ หรือโรงเรียนของโอเรียลเตลก็มี ลองหาข้อมูลดูค่ะ และถ้าเรียนรู้แล้วทำงานจริง และชอบมาก จะต่อที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ก็คงจะไม่สายไป จากคุณ : tataay เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 11:17:29

ความคิดเห็นที่ 4 เพื่อนผมเรียนครับ จบแล้วเลือกไป สวิสฯ ต่อครับ แล้วก็ทำเหมือนเด็กฝึกงานที่โน่น จบแล้วได้ใบประกาศฯ ไม่แน่ใจข้อมูลเรื่องการทำงานต่อหลังจบ แต่ถ้าไม่ดีเหนือกว่าคนอื่นๆเค้าไม่เอาไว้หรอกครับ มันยุ่งยากทางเค้าเปล่าๆ อาจจะได้นะครับ แต่น้อย ส่วนค่าใช้จ่ายเนี่ยมีเพิ่มแน่ๆล่ะ ระหว่างเรียนที่ดุสิตก็ต้องไปเรียนภาษาด้วยนะครับ แล้วพื้นฐานการทำครัวอีก ปล. แล้วบอกเค้ารึเปล่าครับว่างานเมืองนอกไม่ได้สบายนะ อย่าคิดว่าง่ายเหมือนในหนัง งานครัวว่าไปแล้วหนักมากนะครับ คนไม่เคยอยู่ครัวร้านอาหารอาจไม่เข้าใจ แล้วมีเรื่องของการกินอยู่ ภาษา วัฒนธรรม การรวมกลุ่ม ค่าใช้จ่าย จิปาถะ จากคุณ : อะไรของคุณ เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 11:19:59

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเห่อ ละคร ...แค่ บอกให้หลานสาว ซื้อ กับข้าวสดมา ปรุงเอง ทำเอง ดูครับ ทำคนเดียว ติดๆ กัน สัก  1-2 วัน รับรอง เลิก เห่อ ละคร ครับ เอาแค่ หมักไก่ แล่ปลา ทอดหมู ต้มยำ กว่าจะครบ 1 มื้อก้อเหนื่อย ละครับ งานครัวถ้าใจไม่รักจริงๆ ทำไม่ได้อ่ะครับ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 11:36:33

ความคิดเห็นที่ 6 ใช่ครับน่าจะส่งไปเรียนถูกพวก ufm ก่อนป่าว สงสัย แล้วดุว่ามันชอบจริงไหม จากคุณ : digimarukung เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 11:48:30

ความคิดเห็นที่ 7 ฝึกงานเมืองนอกหรือเปล่าไม่ทราบนะคะ แต่รู้ว่า เครื่องเครื่องครัว และค่าชุดที่ต้องซื้อเนี่ย ราคาหลายหมื่นเลย ค่าอุปกรณ์บานปลายได้อีก แต่ถ้าจบมาแล้วคุ้มค่ะ จากคุณ : yingbiiz เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 11:52:40

ความคิดเห็นที่ 8   อันที่จิงเค้าไม่ได้ส่งไปฝึกงานเมืองนอก หรือทำงานเมืองนอกนะ แต่ว่าจะมีให้เข้าไปฝึกงานในโรงแรมในประเทศไทยนี่แหล่ะ ทางโรงเรียนจะออกเอกสารรับรองให้ มีlistโรงแรมให้เลือก แล้วให้เราเอาหนังสือไปยื่นสมัครฝึกงานเอง ถ้าโรงแรมไม่รับก็ไม่ได้ทำ เท่านั้นแหล่ะ แล้วก็ช่วงฝึกงานอย่างต่ำ 3 เดือน จะไม่ได้รับเงินใดๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ัโรงแรมที่ไปทำด้วย แล้วก็มีอีกทางเลือกนึงคือส่งน้องเค้าไปเรียนที่ต่างประเทศเลย แต่ค่าใช้จ่ายสูงมากค่ะ จากคุณ : [^0^] เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 12:14:36 A:125.24.167.112 X: TicketID:131464

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนตัวคิดว่าถ้าชอบก็เรียนไปเลยค่ะ  สมมุติว่า เรียนแล้วไม่ได้ไปทำอาชัพกุ๊ก  อย่างน้อบคนเรา ก็ต้องทานอาหารทุกมื้อ  ก็เป็นวิชาติดตัวไปจนตาย ทำให้สมาชิกในบ้านทานก็คุ้มแล้วค่ะ จากคุณ : bolton fanclub เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 12:50:20

ความคิดเห็นที่ 10 คงต้องคุยก่อนว่า... แค่อยากไปใช้ชีวิตเมืองนอก หรือ อยากมีอาชีพทำอาหารแล้วอยากทำที่เมืองนอก ผมว่ามันต่างกันเยอะนะ ถ้าแค่อยากไปอยู่เมืองนอก ไปเรียนแบบนี้คงไม่คุ้ม เพราะเท่าที่รู้ งานอาหารไม่ใช่งานสบายๆ ถ้าไม่ใช่คนที่ใจรัก คงทนได้ไม่นาน คงไม่รุ่ง อาจไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายในการเรียน (ในกรณีไม่ใช่เงินถุงเงินถังเหลือกินเหลือใช้) และแม้ได้ไปอยู่เมืองนอก ถ้าต้องทนลำบากใจกับการทำงานที่ไม่ใช่ใจรัก คงจะทุกข์มากกว่าสุขกระมัง อายุ 19 แล้ว คงสังเกตไม่ยากว่าที่ผ่านๆมามีใจรักงานด้านนี้หรือไม่ เช่น ปกติชอบทำกับข้าว ทำขนม หรือไม่ เป็นคนสู้งานหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจ อาจทำอย่างที่บางท่านแนะนำด้านบน ลองส่งให้เรียนที่อื่นซึ่งถูกๆก่อน ดูว่าเขาชอบจริงหรือไม่ เขาตั้งใจจริงหรือไม่ หรือแค่เห่อแหนไปกับภาพฝันจากละครและดารา จากคุณ : dragonite เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 12:59:04

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากๆ ค่ะ สงสัยที่หลานพูดคงเป็นการฝึกงานมากกว่า คงไม่ใช่ทำงานหรอก เข้าใจตามนั้นเหมือนกันน่ะคะแต่อยากจะให้มั่นใจจะได้พูดกับหลานได้ค่ะ เฮ้อ ก็ไม่รู้จะทำยังไงกับหลานค่ะ เพราะว่าหลานมีวุฒิแค่มอ 3 เอ เกเรมากๆ หนีเรียน จะส่งไปอินเดีย เขาก็ไม่ยอมไป พอเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ เกิดอยากเรียนแพงๆ ทางบ้านคงจ่ายให้ไม่ไหว เพราะว่าไม่มั่นใจในตัวหลานเลยน่ะคะ กลัวว่าเขาจะโดดเรียนอีกน่ะคะ ถ้าหากเรียนๆ อยู่แล้วไม่ชอบ เขาหนีเรียนทางบ้านเดือดร้อนแน่ๆ เลย ขอบคุณมากๆ ทุกท่านเลยค่ะ จากคุณ : นา (เนนนา) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 13:42:54

ความคิดเห็นที่ 12   จริงๆผมมองว่า การที่หลานมีความตั้งใจ มีเป้าหมายเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่มาดูค่าเรียนแล้ว แพงมาก อาจะเริ่มโดยการให้เค้าฝึกพื้นฐานเอง หรือไปเรียนจากโรงเรียนทั่วๆไปก่อนก็ดีครับ จะได้ดูด้วยว่า เค้าชอบจริง หรือทำได้หรือเปล่า โดยขณะเรียนหรือฝึก ก็ให้เค้าทำงานเป็นผู้ช่วยที่ร้านอาหารควบคู่ไปด้วยก็จะดีมากเลยครับ จากคุณ : Spirited Away G เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 15:37:41

ความคิดเห็นที่ 13   คืออยากจะบอกว่าเข้าใจหลานคุณนานะคะว่าอยากเรียน อาจเห็นเครื่องแบบแล้วคิดว่า เอ้ยเท่อ่ะ น่าสนุก คิดเหมือนตัวเองตอนแรกเลยอิอิ><" สิ่งเหล่านี้คิดว่าเป็นอารมชั่ววูบแบบตามกระแส อยากจะให้คุณนาลองทำแบบเรปบนๆที่บอกคือ 1.ลองมอบหมายให้เค้าทำอาหารซัก1-3วัน/สัปดาห์ 2.ลองส่งไปเรียนที่ศูนย์ฝึกอาชีพของกรุงเทพมหานครค่ะ   เรียนฟรีมีใบประกาศให้ลองดูว่าเค้าจะสนใจแค่ไหน   ศูนย์ฝึกอาชีพของกทม.มี8แห่งนะคะลองเข้าไปดูตามลิงค์ลยค่ะ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=yana&date=12-01-2006&group=5&gblog=1 ทดลองให้เค้าไปเรียนแบบนี้ก่อนถ้ามีพรสวรรค์+สนใจจริงแล้วค่อยต่อยอดค่ะ ส่วนตัวคิดว่า เลอกอ ดองเบลอ นี้แพงมากกกกกกกกกกก ถ้าเรียนทั้งคอสอาหารคาว+หวาน ร่วมๆล้านอะค่ะ T^T ไปเรียนที่โรงเรียนการอาหารนานาชาติสวนดุสิตก็ได้นะคะถูกกว่ากันเยอะค่ะ แต่เริ่มต้นขอให้ลองพิสูจน์เค้าตาม2ข้อที่ให้ไปอะคะเพราะตอนนี้คุณแม่ก็ให้ทำแบบนี้อ่ะค่ะ อิอิ ไม่หวังเรียนเลอกอดองเบลออะคะแพงมากสงสารคุณแม่ค่ะแค่เรียนที่สวนดุสิตก็พอแล้วจบแล้วมีที่ฝึกงานให้เหมือนกันตามลิงค์นี้ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=magicapple&month=06-2009&date=08&group=13&gblog=41 โดยส่วนตัวตอนนี้อยู่ในระหว่างตามความฝันมาได้2-3เดือนแล้วค่ะ ก็เริ่มจาก2ข้อนั้นเหมือนกันคุณแม่บอกถ้าทำได้ก็จะส่งเรียนจริงๆจังๆ เค้ากลัวเราไม่เรียนอ่ะคะ คอสก็เป็นหมื่นอะเน๊าะ><"ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้วคาดว่า คงได้เรียนต่อที่โรงเรียนการอาหารนานาชาติสวนดุสิต แต่คงรออีกซักระยะอ่ะเพราะเรียนที่ศูนย์ฝึกก็สนุกเหมือนกัน อิอิแถมเรียนฟรีด้วยค่ะ ที่อยากไปเรียนที่สวนดุสิตด้วยเพราะว่ามีฝึกงาน+เวลาไปทดสอบฝีมือแรงงานเพื่อไปทำงานทั้งในและต่างประเทศ อาจารย์ที่สวนดุสิตเค้าไปเป็นกรรมการการทดสอบคือว่าอยากไปรู้แนวการสอนแบบคลาสแท้จริง เพราะรู้จักกับคนที่ทำงานที่พัฒนาฝีมือแรงงานเค้าบอกการทดสอบยากมากถ้าจะไปทำงานเชฟหรือกุ๊กที่เมืองนอก รู้ซึ้งเลยค่ะว่าจะทำงานด้านนี้ทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ยังฮึดสู้ค่ะ อิอิ ก็ใจมานรักสู้ตายค๊า!!อิอิ ปล.ลองดูนะคะที่แนะนำไปหวังว่าคงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่ะ ^ ^ จากคุณ : หนมปังปิ้งแยมส้ม เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 15:43:09

ความคิดเห็นที่ 14   ผมว่า ถ้า จบ ม 6 (เกี่ยวกับอาหารก็ได้ หรือเทียบเท่า) ก่อนดีกว่าไหม จากคุณ : cathighness เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 15:53:55

ความคิดเห็นที่ 15 ขอตอบในฐานะคนเคยไปเรียนแล้วกันนะคะ ดรีมว่าความฝันที่จะไปเมืองนอก มันดูแทบจะเป็นความฝันของเด็กๆส่วนมากเลยทีเดียว ซึ่ง แน่นอนว่าดรีมก็เป็นคนนึงค่ะ แต่ชีวิตหลังครัว หรือแม้แต่การเรียน มันไม่ได้สวยหรู เหมือนอย่างที่ฝันหรอกค่ะ ซึ่งแน่นอนอีกว่า ถ้าไปบอกหลานแบบนี้ ดรีมว่า เค้าเองก็คงไม่เชื่อ หรือไม่ก็อยากจะไปอยู่ดีแหล่ะค่ะ เพราะบางอย่าง ไม่เจอกับตัว ก็ไม่รู้หรอกค่ะ เวลาเรียน ถ้าโดนตารางโหดๆก็เหนื่อยมากค่ะ ดรีมเคยไปเรียนตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า ออกจากโรงเรียนอีกที ตอนเกือบสี่ทุ่ม เพราะจะมีคลาสทฤษฎี กับปฏิบัติ วันไหนโดนไป 2คลาสก็แทบจะทั้งวันแล้ว แถมบางที โดนไป 3คลาสอีก เหนื่อยค่ะ เวลาเรียนก็ต้องดูที่เค้าทำ หูต้องฟังว่าเค้าสอนอะไร มือก็ต้องจดๆๆๆๆ ไม่งั้นเวลาไปทำ ทำผิด โดนดุ แถมโดนหักคะแนนอีก เวลาเข้าเรียน มีกำหนดไว้ว่า ขาดทฤษฎี ปฎิบัติ ก็กินศูนย์ไปเลยค่ะ เวลาสอบ ต้องท่องจำสูตร เค้ามีมาให้กี่สูตรก็ต้องจำ เพราะมีสอบข้อเขียน แล้วก็สอบปฏิบัติอีก สนุกมั๊ย สนุกค่ะ สนุกจริงๆ บางครั้งไม่อยากเข้าเรียน แต่พอเข้าไปในครัวแล้ว เหมือนอะดรีนาลีนพุ่ง คนอื่นเค้าทำๆๆๆๆ เรามายืนเฉื่อยแฉะคงจะไม่ได้ อยู่เมืองนอก นอกจากภาษาแล้ว บางครั้ง การไปใช้ชีวิตอยู่โน่น ก็ไม่ได้สบายไปซะทุกอย่างค่ะ คนที่จะได้ไปฝึกงานคือต้องเรียนจบตัวขั้นสูงแล้วค่ะ ยื่นเรื่องฝึกงานกับหัวหน้าเชฟ แล้วเค้าจะเป็นคนมาสัมภาษณ์เรา ดูว่าจะส่งเราไปที่ไหน เวลาที่ทำงานหลังครัวจิงๆ จะได้นั่งก็ตอนพักกินข้าว นอกนั้นยืนตลอด ทำงานตลอด เหนื่อยจิงๆค่ะ งานไม่เสร้จก็ไม่ได้กลับ ถ้าใจไม่รักจริงๆ ดรีมว่ายากที่จะไปได้ในระดับสูงๆค่ะ ดรีมอยากให้น้องรู้ตัวเองก่อนว่า ชอบ และรักที่จะทำจริงๆ เพราะเงินไม่ใช่น้อยๆเลยค่ะ ในแง่ของความคุ้มค่า ดรีมก็ว่ามันคุ้มค่ะ เพราะไปเรียน ได้เจออะไรใหม่ๆ เครื่องปรุง วัสดุอุปกรณ์ ส่วนผสมที่ใช้ เป็นของดี และแพงค่ะ ถ้าจ่ายไหว ไม่ลำบากก็ไม่เสียหายอะไรค่ะ แต่ถ้าคิดว่ามันแพงเกิน โรงเรียนที่เมืองนอก ดีดี มีอีกเยอะค่ะ ยืนยันว่าเยอะจริงๆค่ะ และราคาถูกกว่านี้ด้วยค่ะ เพียงแต่เค้าไม่ได้ทำการตลาดแบบทั่วโลก เหมือนที่นี่ก็เท่านั้นเองค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 52 16:06:46 จากคุณ : cookery-girl เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 15:55:41

ความคิดเห็นที่ 16   ไม่รู้นะส่วนตัวคิดว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกัน มันอยู่ที่ตัวเรามากกว่าว่าจะรับมาได้มากแค่ไหน บางทีเรียนแพงไปแต่กลับไม่ได้นำมาใช้เลย อันนี้เสียเงินเปล่าค่ะ เศรษฐกิจแบบนี้ประหยัดตามสมควรดีกว่าค่ะ กุ๊ก หรือเชฟดังๆบางคนอาจไม่ได้เรียนเมืองนอก อาจไม่ได้เรียนเสียค่าคอสเป็นแสนๆ แต่ทำไมเค้าถึงทำอาหารเก่ง เพราะเค้าใส่ใจและตั้งใจที่จะฝึกฝนตนเองมากกว่า บางทีไปเรียนมาแพงๆอาจไม่ได้เลิศแบบที่คิดนะคะแล้วแต่คนอะค่ะ จากคุณ : หนมปังปิ้งแยมส้ม เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 20:19:19

ความคิดเห็นที่ 17 ผมไม่ได้เรียน เลอ กอร์ดอง เบลอ แต่ เรียน ป.ตรี สาขาอาหารและโภชนาการ มหาลัย แห่งหนึ่ง ตารางเรียนโหดเหมือนกันนะครับ ถ้าใจไม่รัก ก็ไม่มีความสุขนะครับ อย่างผม เลือกพลาดเองแหละ แต่ตอนนี้ ปี4 เทอม 2 และ ต้องกัดฟันเรียนให้จบครับ สงสารพ่อแม่ครับ ยังไง ลองส่งหลานไปเรียน โรงเรียน สอนทำอาหาร สั้นๆๆก่อนก็ได้ครับ แล้วก็ ตอนผมไปฝึกงาน ก็ทำให้รู้เลยว่า งานโรงแรมไม่เหมาะกับผมเอามากๆๆ เพราะมันน่าเบื่อมาก ทำอะไร เดิมๆๆ ทุกๆๆวัน นานๆๆจะมีอะไรแปลกใหม่ให้ทำครับ จากคุณ : vsjmu เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 21:05:59

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าหลานรักจริงๆ ลองส่งหลานไปสมัครทำงานในครัวตามโรงแรมจริงๆเลยดีมั๊ยคะ ไต่เต้าไปเรื่อยๆ เก็บประสบการณ์ ระยะแรกๆ คงได้ยืนปอกมันปอกหอมทั้งวัน เป็นด่านทดสอบด้วยว่า ใจรักจริงหรือไม่ เงินไม่ต้องเสีย ได้ความรู้ ได้สตางค์ด้วย ถ้าไม่รู้งาน พี่ๆเค้าจะสอนเองค่ะ ขอแค่ตั้งใจจริง เป็นเด็กดี เมื่อวันนึงประสบการณ์ถึงแล้ว ไปสอบที่กรมการจัดหางาน ขอใบประกาศ คราวนี้หนทางไปทำงานเมืองนอก ก็ไม่ลำบากเกินไปแล้วค่ะ ข้อมูลเราไม่ค่อยแน่น แต่เคยอ่านเจอจากห้องไกลบ้านบ่อยๆ จะประมาณนี้อ่ะค่ะ เอาเวบศูนย์บริการการไปทำงานต่างประเทศมาฝากค่ะ ขอกรมการจัดหางาน http://www.overseas.doe.go.th/home.php จากคุณ : San Makyos เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 21:08:36

ความคิดเห็นที่ 19 ศูนย์ฝึกอาชีพของกรุงเทพมหานครเลยค่ะ ฟรี  ตามคุณ หนมปังปิ้งแยมส้ม จากคุณ : pha-sea-pha เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 21:54:50

ความคิดเห็นที่ 20 ผมมาตอบในฐานะที่กำลังเรียนอยู่และกำลังจะจบคอร์สสิ้นปีนี้นะครับ บอกได้เลยว่าถ้าจะมาเรียนที่ LCBD (Le Cordon Bleu Dusit) เนี่ยแนะนำว่าต้องเป็นคนที่อยากและชอบทำอาหารจริงๆ เพราะว่าเรียนค่อนข้างหนักอยู่ และที่สำคัญเหนื่อยมากด้วย เรื่องวุฒิการศึกษาเนี่ยจำไม่ได้จริงๆว่าถึงชั้นไหน แต่มีน้องที่เรียนด้วยกันสองสามคนที่พึ่งจบม.6 แล้วมาเรียนต่อก็มีครับ แต่ที่สำคัญที่สุดคือภาษาอังกฤษต้องฟังและพูดได้ครับ เพราะเชฟที่สอนเป็นฝรั่งหมดและสอนด้วยภาษาอังกฤษด้วย ถึงจะมีล่ามให้แต่ควรจะต้องมีพื้ฐานภาษาที่ดีครับ เรื่องการฝึกงานเนี่ย บอกก่อนเลยว่าที่ LCBD ไม่มีส่งไปฝึกงานต่างประเทศครับ มีแต่ส่งฝึกงานตามโรงแรมหรือร้านในไทย หรือฝึกงานที่โรงเรียนครับ ที่ได้ไปเมืองนอกก็อาจจะเป็นการติดต่อกันเองระหว่างนักเรียนกับสถานที่ฝึกงานต่างๆ เพราะว่ามีประกาศรับสมัครงานของหลายๆโรงแรม เรือสำราญ สายการบินของต่างประเทศติดบอร์ดอยู่เหมือนกัน แล้วไม่ใช่ว่าใครจะไปฝึกงานจากโรงเรียนก็ได้นะครับ คนที่ไปได้ต้องมีคะแนนเฉลี่ยของคอร์ส Basic และ Intermediate อยู่ที่ 75% ถึงจะลงชื่อขอฝึกงานได้ครับ ซึ่งอยากจะบอกว่าคะแนนระดับนี้คือท็อปของคลาสแล้วครับ ที่นี่ให้คะแนนโหดมาก ถ้าไม่ตั้งใจเรียนจริงๆไม่ได้ไปฝึกงานแน่ครับ เทอมที่จะจบสิ้นปีนี้จากนักเรียนขั้น Superior ของสาย Pastry 20 คน มีได้ฝึกงานคนเดียวเองครับ ถ้าน้องเค้าชอบที่จะทำอาหารหรืออยากทำจริงๆ แนะนำให้ว่าลองทำดูที่บ้านก่อนโดยลองหาซื้อตำราง่ายๆมาลองทำดู แล้วถ้าชอบจริงๆก็ลองสนับสนุนให้เรียนดูครับ แต่ไม่ได้ต้องที่ LCBD ก็ได้ครับ ลองของวิทยาลัยการโรงแรมดุสิตธานี ราชภัฎสวนดุสิต หรือไม่ก็การโรงแรมของม.กรุงเทพก็ได้ครับ หรือไม่ก็หลายๆมหาวิทยาลัยที่มีคณะคหกรรมศาสตร์ก็ได้ครับ ผมว่าหลายๆที่ก็ดีเหมือนกันนะ มีอะไรก็ยินดีให้คำปรึกษา และเชื่อว่าเดี๋ยวก็มีศิษย์เก่าที่นี่อีกหลายคนเข้ามาตอบครับ จากคุณ : Oum เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 22:08:13

ความคิดเห็นที่ 21 อ้อ ลืมบอกไปครับ ค่าเรียนคอร์สละ 150,000 มีสองสายให้เลือกคือ Cuisine หรือ Patisserie แต่ละสายมีสามระดับคือ Basic, Intermediate, Superior จะเรียนสายเดียวหรือสองสายพร้อมกันก็ได้ครับ (แต่บอกไว้ก่อนเลยว่า สาหัสและเหนื่อยมาก) จบแต่ละสายจะได้เป็น Diploma รับรอง ซึ่งเอาไปสมัครงานได้เกือบทั่วโลก แต่ไม่การันตีว่าจะได้งานมั้ย อันนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนตัวล่ะครับ แต่ละคอร์สใช้เวลาเรียนสามเดือน ถ้าเป็นคอร์สวันธรรมดา หรือห้าเดือนถ้าเป็นคอร์สวันเสาร์ เวลาเรียนก็แล้วแต่ตารางครับ แต่ละคอร์สมีสอบด้วยครับ มีทั้งข้อเขียนและภาคปฏิบัติ ถ้าไม่ผ่านก็ไปคอร์สต่อไปไม่ได้ และแต่ละคอร์สขาดเรียนได้ไม่เกิน 6 ครั้ง มากกว่านั้นก็หมดสิทธิสอบครับ การเรียนแบ่งเป็นเล็คเชอร์และปฏิบัติ คือเข้าฟังเล็คเชอร์ที่เชฟจะสอนวิธีทำและเทคนิคของเมนูที่กำหนด และก็จะต่อด้วยปฏิบัติที่เราจะต้องเข้าไปทำเองโดยที่เชฟจะคอยคุมและให้คะแนน ถ้าไม่เข้าเล็คเชอร์ก็จะไม่ได้เข้าปฏิบัติของเมนูนั้นๆ และจะนับเป็นขาดสองครั้งทันทีครับ (อันนี้ค่อนข้างซีเรียสมากๆด้วย มีหลายคนแล้วที่ไม่ได้เรียนต่อเพราะเหตุผลนี้) ส่วนค่าอุปกรณ์และชุด 45,000 จ่ายคอร์สแรกคอร์สเดียวครับ ส่วนมากอุปกรณ์ที่ให้มาก็เพียงพอแล้ว แต่อาจจะมีการต้องซื้อเพิ่มเองเป็นบางชิ้นด้วยครับ อันนี้คงช่วยไขข้อข้องใจ และมีอะไรไปคุยกับหลานมากขึ้นนะครับ จากคุณ : Oum เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 22:28:30

ความคิดเห็นที่ 22 โอโห้เข้ามาตอบเยอะเลย ขอบพระคุณมากๆ เป็นอย่างสูงน่ะคะ จะได้แนะนำหลานถูกค่ะ ถ้าเขาชอบของเขาจริงๆ ที่กลัวที่สุดคือ กลัวหลานเรียนไม่ไหวนะค่ะ เขาค่อนข้างเกเรตอนเรียนยังหนีเรียนบ่อยๆ จน....ละไว้ที่เข้าใจน่ะคะ และทำให้ที่บ้านกลุ้มใจมากๆ น่ะคะ เห็นเขามาขอเรียนแบบอยากเรียนมาก แต่เห็นราคาแล้วเฮ้อ.... ขอบคุณอีกครั้งน่ะคะ จากคุณ : เนนนา เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 02:29:04

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดีค่ะ หนูก็เป็นคนนึง ที่อยากเรียนทำอาหารเหมือนกัน หนูกำลังจะเรียนที่ Hostec Academy Sydney, Australia ค่ะ ช่วงนี้กำลังรอเปิดเทอมอยู่ค่ะ เดี๋ยวเอาไว้เปิดเทอมแล้วจะมาอัพเดทให้ฟังอีกทีว่า เป็นยังไงนะคะ จากคุณ : หนูแพรว เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 23:07:29