|
ความคิดเห็นที่ 1 |
ดูเยอ่ะครับถ้าจะเอามาขายแบบอาชีพ งบ 4 หมื่นคงไม่เพียงพอ ^ ^
แต่ถ้าเอามาขายแบบชิวๆ ไม่ซีเรียสมาก คือ เปิดขายเสริมเท่านั้น ก็ไม่ต้องมาดุไรกันมากครับ ดูแค่
1. เครื่องชงที่มีก้านอัดมาตราฐาน 56 - 58 ม.ม ขึ้นไป ควรทำจากทองเหลืองชุบโครมไม่ใช่อลูมีเนียมชุบโครม .... เพราะจะกักเก็บความร้อนได้ดี และเป็นแบบที่เครื่องชงอาชีพใช้ ทำให้สามารถกลั่นกาแฟช๊อตมาตราฐานได้ครับเหมือนเครื่องชงอาชีพ
2. กำลังแรงดันทั้งหมดของปั๊ม ควรไม่ต่ำกว่ามาตราฐาน 15 บาร์ ( มีผลในการสตรีมนม แต่ไม่เกี่ยวกับการกลั่นกาแฟนะครับ เพราะกลั่นกาแฟเขาใช้แค่ 8-10 บาร์เท่านั้น )
3. หม้อต้มน้ำ ควรมีขนาดไม่ต่ำกว่า 250-300 ซีซี เพื่อกรณีชงกาแฟต่อเนื่อง 2-3 แก้ว อุณหภูมิน้ำไม่ควรตกมาก ถ้าให้ดีเอาเป็นแบบทองแดง หรือทองเหลืองจะต้นน้ำร้อนได้เร็วกว่าอลุมีเนียมครับ และรักษาอุณหภูมิได้นิ่งกว่า 4. เครื่องบด ควรเป็นแบบระบบ เฟืองบดครับ เพราะจะบดกาแฟได้ดีกว่าแบบใบมีด หรือกรวยบด เป็นลักษณะ เฟือง 2 ตัวหันหน้าด้านคมเข้าหากัน เรื่องขนาด จริงๆก็ เอาใหญ่เข้าไว้ครับ ตามงบประมาณ เครื่องบดนี่สำคัญมากนะครับ ควรใช้ของดีๆเข้าไว้ครับ
ราวๆนี้ครับ ส่วนว่าเครื่องไหนดีกว่ากันอันนี้แล้วแต่ความชอบครับ ถ้าหาได้ตามที่ว่า ในระดับโฮมยูสคุณภาพไม่หนีกันครับ มีให้เลือกเยอ่ะแล้วแต่ความชอบเลยว่าชอบรูปร่างหน้าตาตัวไหน ................ แต่ถ้าให้ผมเลือกนะ งบ 40000 บาท ผมจะเอา เครื่องบด M5 เป็นหลักครับ และเอางบที่เหลืออีก 20000 บาท ไปหาเครื่องชงที่พอดีงบครับ ^ ^ เพราะเครื่องบดสำคัยกว่าเครื่องชงครับ เพราะมันคือหัวใจตัวควบคุมคุณภาพการไหลของกาแฟครับ งบ 20000 บาทที่เหลือ หาซื้อเครื่องชงดีๆได้อีกตัวเลยครับ ที่แนะนำก็มี
1. Gaggia Baby Dose 18000 - 20000 บาท ( ตั้งระดับน้ำได้อัตโนมัติ ) * 2. Gaggia TEBE 18000 - 20000 บาท * 3. Elite 15000 - 18000 บาท 4. Imate , Mokita 15000 - 18000 บาท 5. Gaggia evilution 12800 บาท * 6. Ascaso ARC 14000 - 18000 บาท 7. Bezzera Hobby 22000 บาท * 8. ascaso uno 20000 บาท
พวกที่ผมทำเคตรื่องหมาย * ไว้ เป็นพวกที่เด่นๆเรื่องสตรีมนมครับ นอกนั้นสเปกเท่ากันหมดครับ หม้อน้ำ 250 - 300 ซีซี วัสดุทั้งตัวเครื่องและก้านอัด เป็นแสตนเลส และทองเหลืองครับ
ลองหาข้อมูลดูครับ
แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 52 19:11:55
จากคุณ |
:
Dek Chan
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ธ.ค. 52 16:11:40
|
|
|
|
|