ความคิดเห็นที่ 1 เราใช้คู่มือเดินทางแค่ 2 เล่มขนาดฝ่ามือนี้ ส่วนใหญ่มีลิสต์แหล่งประจำที่อยากไปอยู่ ไม่มากเท่าไหร่ เพราะไปไม่นาน เล่ม independent store guide เป็นไกด์บุ๊ครวบรวมร้าน local ต่างๆ ที่น่าสนใจไปเยี่ยมชม ตั้งแต่ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ร้านข้าวของงานฝีมืออาร์ต ของมือสอง ที่มีอยู่กระจายทั่วลอนดอน ส่วนใหญ่เป็นร้านเล็กๆ   เจ้าของดำเนินกิจการร้านเอง จึงมีบรรยากาศเป็นกันเองมากๆ เราไปเยี่ยมชมร้านเหล่านี้มาด้วย จะมีรีวิวบางร้านในตอนต่อๆไป จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 00:03:56

ความคิดเห็นที่ 2 หวัดดีค่าพี่แก้ววว ตามพี่แก้วไปหมดตัวด้วยคน :D จากคุณ : puppadoowab เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 00:14:50

ความคิดเห็นที่ 3 เพื่อนร่วมสายการเดินทาง ลากกระเป๋ากันมากมาย ลากกันได้ นน. ไม่อั้น ... ใครอยากขนกี่กิโล ขนไป ห้ามเกินสองใบละกัน จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 00:14:57

ความคิดเห็นที่ 4 หนุ่มที่บ้านศึกษาคู่มือการเดินทางหน่อย ดูจริงจัง : ) จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 00:16:58

ความคิดเห็นที่ 5 หกโมง ตามเวลานัดหมายบนตั๋ว เราจะเริ่มออกเดินทางกันล่ะ ... จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 00:19:04

ความคิดเห็นที่ 6 พาหนะที่พาเรามุดทะเลจากบรัสเซลส์สู่ลอนดอน ภายในเวลา 2 ชั่วโมงนิดๆ ... eurostar อีโค่ เฟรนด์หลี จะพาเราไปโผล่สถานีกลางกรุงลอนดอนเลย หมดปัญหาเรื่องรถติด ... หากไปเครื่องโลว์ เทค เอ๊บ โลว์ คอสท์ ทั่นอาจจะต้องติดแหง็กอีกนาน กว่าจะหลงเข้ากรุง  ฮึๆ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 00:21:26

ความคิดเห็นที่ 7 จริงๆ การเดินทางสู่ยุโรปบางประเทศทั้งใกล้และไกล ขึ้นเขา มุดทะเล ไปทางรถไฟสะดวกดีไม่น้อย ราคาพอๆ กับเครื่องบิน ใช้เวลาสรุปรวมพอกัน ดีตรงไม่ต้องเผื่อเวลาเช็คอินล่วงหน้า ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักกระเป๋าเกินพิกัด ได้นั่งติดริมหน้าต่าง เลียบพื้นดิน ดูวิวข้างทางเพลินดีกว่านั่งเครื่องลำเล็กๆ หากจ่ายแบบตั๋วราคาถูก ส่วนใหญ่ต้องวิ่งแย่งที่นั่งกันยังกับขึ้นรถเมล์ (เราไม่เคยใช้บริการหรอกนะ เราแก่แย้ว ขี้เกียจแย่ง) ถ้าเรามีเวลาเหลือเฟือ จะเลือกเดินทางทางภาคพื้นก่อน ทางอากาศเสมอโดยเฉพาะทางรถไฟนี่ เป็นพาหนะที่เราชอบที่สุด เพราะลุกเดินได้ ได้อ่านหนังสือ - ดูหนัง - ฟังเพลง before sunrise - before sunset ฮึๆ มีเวลาเตรียมตัวไปถึงที่หมายสบายๆ ไม่ใช่พรวดพราดถึง แล้วไปงงๆ เอาดาบหน้า จะหอบขนม-น้ำอะไรขึ้นไปกินก็ได้ทั้งนั้น เขาไม่ห้ามมากแบบเครื่องบินด้วย จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 00:47:16

ความคิดเห็นที่ 8 ตามไปเที่ยว ลอนดอน ด้วยค่ะ กำลังหาเวลา ไปอังกฤษอยู่ค่ะ อยากไปเยี่ยมเยียน เพื่อน ๆ แถวนั้นค่ะ ปล.พอมีเวลา ก็ไปประเทศอื่นเสียนี่ 555 จากคุณ : หมู (ตัว) อ้วน เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 00:53:33

ความคิดเห็นที่ 9 แอบตามมาเที่ยว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 01:10:06

ความคิดเห็นที่ 10 รถไฟสายยูโรสตาร์ตั้งต้นที่ลอนดอน วิ่งไปที่สถานีปารีสกับสถานีบรัสเซลล์ คนลอนดอน คนปารีสเดินทางด้วยรถไฟกันเยอะมาก โดยเฉพาะคนที่ต้องการขนของมากๆ หรือไปประชุมแบบเช้าไป-เย็นกลับ เครื่องบินภายในยุโรปไม่ค่อยเอื้อราคากับ นน ของเท่าไหร่ บางทีก็เสียดายต้องเดินทางไปเช็คอิน ต่อเข้า-ต่อออกไปสนามบินนอกเมือง รถไฟสายระหว่างประเทศที่เข้ามาที่ลอนดอน จะมาโผล่ที่สถานี st. pancras ที่อยู่ติดกับ king's cross นั่นหมายความว่า คุณจะใช้เวลาเบ็ดเสร็จแค่ 2 ชม. จากบรัสเซลล์ถึงกลางลอนดอน หากนั่งเครื่อง เราจะไปปล่อยที่สนามบินนอกเมืองไกลโพ้น ต้องต่อรถไฟ รถบัสเข้ามาในเมืองอีก เราอาจจะจ่ายค่าตั๋วแค่ 5 ยูโรบินไปลอนดอนจากหอนแลนด์ แต่ค่าพาหนะต่อเข้าเมืองลอนดอนนั้นแพงถึง 30-40 ปอนด์ต่อเที่ยว จากที่คิดว่าค่าตั๋วถูก ใช้เวลาไม่มาก อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดเสมอไป คราวก่อนที่เราไปลอนดอนด้วยเครื่อง easyjet เครื่องไปลงที่สนามบินลูตัน รถไฟเข้าเมืองมาทุกครึ่งชั่วโมง (แถมดีเลย์) กว่ากระเซิงมาถึง king's cross เพื่อได้ค้นพบว่า tube เส้นทางกลางลอนดอนหลายสายเป็นอัมพาต  : ( ไปไหนต่อไม่ได้ เหลียวหน้าไปถามทางเลือกอื่นกับลอนดอนเหน่อทั้งหลาย หลายคนก็ส่ายหน้าตอบมาว่า ... ตรูก็ไม่รู้เหมือนกันนิ ได้ร่วมยืนงงหมู่กันไป 55 ชะตากรรมครั้งก่อนทำให้เข็ดหลาบการจราจรลอนดอนมาก เลยไม่คิดจะไปต่อพาหนะอะไรอีกละ อีโค่ เฟรนด์หลี-มีทีนเป็นพาหนะ เราจองโรงแรมแบบเดินลากกระเป๋าไปจากสถานี st. pancras ได้เลย โรงแรมดีๆ ที่จองไว้อยู่ใกล้ๆ สถานี euston ใช้เวลาเดินแค่ 15 นาที อนึ่ง เวลาเดินทางไปจากหอนแลนด์ไปลอนดอน เราเดินทางย้อนเวลา เลยได้กำไรเวลามาอีก 1 ชม. เหมือนใช้เวลาเดินทางมาแค่ ชม. เดียว จึงไปถึงลอนดอนตอน 1 ทุ่ม จองที่กินข้าวเย็นไว้สามทุ่ม ... เดินไปได้อีก ชีวิตการเดินทางราบรื่น เมื่อไม่ต้องพึ่งพาพาหนะติดเครื่องให้ปวดหัว ; ) จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 01:11:37

ความคิดเห็นที่ 11 ปุ้ย -- อ้าว พี่ เพิ่งเห็น 55 หมดตัวแน่จ้ะ คนอย่างปุ้ย ใครชอบหนังสืออย่าไปลอนดอนบ่อย เพราะหนังสือมันเยอะและถูก หมู (ตัว) อ้วน -- เราก็อยู่ไม่ไกลนะ แต่ก็ไม่ได้ไปลอนดอนบ่อยนัก เพราะลอนดอนค่าครองชีพแพงนิ ตอนที่เราไปโชคดีเงินปอนด์สูสียูโรเลย อะไรๆ ก็ถูกลงมาก เลยต้องรีบไปขนหนังสือซะให้สะใจ 55 laser -- ยังนอนดึกเหมือนเดิมนะคะ การหาโรงแรมดีๆ ราคาพอจ่ายไหว กลางกรุงลอนดอนกับกรุงปารีสนี่ ถือเป็นศิลปะในการเลือกมากๆ ยิ่งจองทางอินเตอร์เน็ตด้วยล่ะนะ รูปหน้าตาห้องพัก เขาจะถ่ายด้วยเลนส์ ไวด์ทำให้ห้องดูกว้างเสมอ ห้องพักจะดูสะอาด หน้าตาดี แต่ไปเจอเน่าๆ ก็บ่อย เราเพิ่งจองโรงแรมในลอนดอนครั้งแรก นั่งเลือก+เสิร์ชอยู่เป็นอาทิตย์ สมัยก่อนไม่เคยต้องพึ่ง รร. เพราะไปคนเดียว ไปอาศัยเพื่อนพ้องได้ แต่เพื่อนเรียนจบ ย้ายกลับประเทศกันไปหมดแล้ว เราเลยไม่มีที่สิงอีก โรงแรมที่เราเลือกคราวนี้ -- ดีมากๆ อยากแน่ะนำต่อ นอกจากอยู่กลางเมือง สะดวก ราคากำลังดี (80-100 ปอนด์ต่อคืน) สำหรับสองคน + อาหารเช้า ห้องน้ำในตัว บางแห่ง เจอห้องน้ำรวมนะคะ เช็คดีๆ ราคาอาจเท่ากัน แต่ไม่มีห้องน้ำในห้อง Travellodge เป็นโรงแรมเฟรนไชส์ชื่อดังของอังกฤษ มาตรฐานที่พัก อยู่ในระดับนักเดินทางที่ไม่ได้ต้องการที่พักหรูมาก แต่เน้นว่าสะอาด ขนาดห้องกว้าง พอๆกับโรงแรมเครือ mercure ในยุโรป ในลอนดอนมีโรงแรม Travellodge อยู่หลายแห่ง บางแห่งก็เก่ามากๆ   ตรงย่าน king's cross มีอยู่ 3 แห่ง แต่ที่ใกล้สถานียูสตันนี่ - ตึกใหม่สุด แถมยังเป็นโรงแรมที่ออกแบบ low carbon buildings แห่งหนึ่งในลอนดอนด้วย http://www.camden.gov.uk/ccm/content/environment/energy/low-carbon-buildings.en?page=5 ใครจะไปลอนดอน อยากหาที่พักกลางเมืองดีๆ สะอาด ราคาถูกใจ ขอแนะนำที่นี่เลย ... จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 01:26:03

ความคิดเห็นที่ 12 สาธยายการเดินทางจนคนหลับสนิทกันหมดแล้ว เราค่อยไปต่อที่ร้านหนังสือ จริงแล้วเราเล่ากระโดดข้ามวันเล็กน้อย อยากรีวิวร้านหนังสือก่อน ซึ่งเป็นโปรแกรมวันรุ่งขึ้น คืนแรกเราจองที่กินข้าวเย็นไว้ที่ร้านอาหารเชพชื่อดังคนหนึ่ง จองไปล่วงหน้าสองเดือน เพราะร้านเขาเล็กๆ เราสนใจสไตล์การทำอาหารของเชฟคนนี้เป็นพิเศษ เพราะเขาเลือกทำเมนูโลคัลที่ (เราเชื่อว่า) ดีที่สุดในลอนดอนละ แต่เดี๋ยวค่อยมารีวิวรวมๆ ต่ออีกทีกระทู้หน้า กระทู้คืนนี้ไปชอปหนังสือกันก่อน ร้านนี้เราเล็งไว้ตั้งแต่เมื่อหกปีก่อน อุตส่าห์ไปถึงหน้าร้านแล้ว - ร้านเขาปิด ฮื่อ เศร้า วันนั้นเขาปิดเป็นกรณีพิเศษ เราไม่มีเวลาย้อนกลับไปแถวนั้นอีก คราวนี้พยายามเช็คว่าร้านเขาเปิดแน่ๆ เพราะตั้งใจไปเยือนโดยเฉพาะเลยนะ ร้านหนังสือร้านนี้-พิเศษ เพราะเป็นร้านที่ขายแต่ตำราอาหารทั้งร้าน ใครที่รักการทำขนมทำอาหาร เข้าร้านนี้แล้วระวังอาการตะกรุมตะกราม เพราะจำนวนหนังสือทั้งร้านที่เห็น อาจทำให้นึกอยากขอเขานอนค้างสักคืน เพื่อจะได้แง้มดูได้หมดครบทุกเล่ม ในร้านมีหนังสืออาหารที่น่าสนใจมากๆ ไม่ทำลิสต์ไปก่อนล่วงหน้า อาจจะเกิดอาการซื้อไม่อั้น เพราะยั้งใจไม่อยู่ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 01:40:30

ความคิดเห็นที่ 13 ร้านตั้งอยู่ท้ายถนนสาย portobello เหมือนจะหาไม่ยาก ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง noting hills แวะไปถ่ายรูปร้านหนังสือเดินทางของหนุ่มฮิวจ์ มองไปฝั่งตรงข้ามเลย จะเห็นร้านโทนแดงๆ books4cooks นี้ นี่คือ ชื่อถนนสายที่ตั้งร้านหนังสือแห่งนี้ -- จำง่ายเนอะ : ) จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 01:50:35

ความคิดเห็นที่ 14 หน้าร้าน books4cooks ช่วงที่เราไป จัดดีสเพลย์หนังสือไว้แบบนี้ เน้นตำราอาหารฝั่งเอเซีย wok wok ทั้งหลาย จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 01:51:58

ความคิดเห็นที่ 15 แต่เราเสียดายคนนี้ ... Maggies Beer ไม้รู้มาก่อนเลยว่าเธอจะมาที่ร้านนี้ เราสั่งหนังสือเธอไว้ แต่มันหมด ตำราเล่มก่อนเธอเล่มหนาเท่าสมุดโทรศัพท์ได้ เป็นนักเขียนตำราอาหารชาวออสซี่ ร้านนี้เป็นผู้สั่งซื้อหนังสือเธอมาขายในลอนดอน พอดีแม็กกี้ออกหนังสือเล่มใหม่ เลยบินจากออสเตรเลียมาเปิดตัวหนังสือ อูย เราเห็นโปรแกรมเขาแล้ว ... เสียดายชะมัด จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 01:54:35

ความคิดเห็นที่ 16 ปล่อยรูปภายในร้านไว้ให้ดูเล่น 1 รูปก่อน เดี๋ยวมาต่อ ผนังทุกผนังในร้าน จะเต็มไปด้วยหนังสือตำราอาหาร ใครอยากไปเยี่ยมร้านนี้ เผื่อเวลาไปสัก 2-3 ชั่วโมงอย่างน้อย ไม่งั้นจะไม่สะใจนะ : ) พักแป๊บนึง ... เดี๋ยวมาต่อ (รูปมันเยอะ) จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 01:56:47

ความคิดเห็นที่ 17 2 ชั่วโมงก็ไม่พอล่ะมังครับพี่แก้ว... จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 02:38:06

ความคิดเห็นที่ 18 อะ นับสองชั่วโมงอย่างน้อยสิ น้อง L-Nets : ) เราแวะไปร้านวันเสาร์ -- คนค่อนข้างเยอะ พนักงานในร้านคนหนึ่ง เดินมาบอกเราว่า ถ้ามาวันธรรมดา จะเดินหยิบดูหนังสือได้สบายกว่านี้ แต่ร้านหนังสือบรรยากาศเล็กๆ เบียดๆ กันดูแบบนี้ เริ่มหายไปจากเมืองใหญ่เยอะแล้ว นานๆ ได้เข้าร้านหนังสือขนาดคูหาเดียว ให้ความรู้สึกกันเองดีเหมือนกัน ถ้ายังจำหนังเรื่อง you've got mail กันได้ อารมณ์เดินดูหนังสือในร้าน books for cooks ให้อารมณ์แบบนั้นเลย และพนักงานในร้าน -- น่ารักมากกกกถึงมากที่สุด เดี๋ยวจะเล่าตอนท้ายให้อ่านถึงสาเหตุว่า ทำไมเธอน่ารักขนาดนั้น จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 03:39:39

ความคิดเห็นที่ 19 มองลึกเข้าไปสุดชั้น แต่ยังไม่ถึงหลังร้าน ร้านนี้แคบแต่ลึก อบอุ่นกำลังดี ถ่ายรูปกำลังเหมาะ พนักงานในร้านใจดี จะถ่ายรูปมากมายแค่ไหนไม่ว่าเลย แถมหลบมุมให้ด้วย ... ไม่ซื้อทุกเล่ม แต่ถ่ายมาดูเล่นก็ยังดีนิ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 03:49:08

ความคิดเห็นที่ 20 ชั้นนี้สำหรับสาวกขนมอบ เบเกอรี่ ... มีหลายตู้นะ ตำราขนมหวานเนี่ย แล้วรูปในหนังสือนี่ยั่วน้ำลายมาก คนที่รักการทำเบเกอรี่ มาร้านนี้แล้ว ต้องแย่แน่ๆ ถูกหนังสือกิเลส การเข้าร้านหนังสือที่จับได้ทุกเล่ม มีข้อดีและข้อเสีย ข้อดี คือ มันเปิดดูเนื้อใน สัมผัสได้จริง มากมายละลานตา แต่ข้อเสียยิ่งใหญ่ คือ เข้าร้านหนังสือเล่มตั้งใจมาซื้อ-หมด หรือคิดแค่จะซื้อแค่เล่ม 2-3 เล่ม แต่ดันซื้อไป 10 เล่ม ... อันนี้ระวังหมดตัวนะฮะ (เราน่ะ ห้ามใจตัวเองไม่ได้บ่อยๆ) จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 03:55:51

ความคิดเห็นที่ 21 เรานั้นเป็นพวกบ้าตำราอาหารแบบเน้นเนื้อหาพล่ามเยอะๆ เป็นพวกชอบอ่านเอาเรื่อง บางเล่มไม่มีรูปเลย ไม่รู้ซื้อมาทำไม 55 เป็นโรคจิตรักหนังสือที่บรรยายทางตัวอักษรแบบเห็นภาพ อ่านแล้วทำให้เราได้ใช้จินตนาการ แปลงสูตรเขาออกมาเป็นอาหาร ท้าทายดีออกเนอะ ทำออกมาอาจจะเพี้ยนไปจากสูตรเขาสิ้น แต่สนุกดี อ่านตำราแบบไม่มีรูปประกอบเลย - เดาๆ เอาเนี่ย หนังสือบนชั้นนี้ เราเปิดดูเกือบทุกเล่มเลย -- แหม สะใจ ไม่ซื้อแต่ยืนอ่านได้แบบเขาไม่ไล่เนี่ย รักร้านหนังสือแบบนี้ที่สุดเลย ฮี่ๆ แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 52 04:03:07 จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 04:00:56

ความคิดเห็นที่ 22 เวลาเดินร้านหนังสือ นอกจากเนื้อหาหนังสือแล้ว เราชอบดูเลย์ เอ้าท์ ดูการจัดวางหน้าปก ดูการเลือกใช้ฟอนต์ การโปรยชื่อ การเลือกสีของหนังสือแต่ละเล่ม หน้าปกหนังสือสมัยนี้ ... เน้นขายเหมือนสินค้า แม้เนื้อในจะไม่ค่อยได้เรื่อง แต่ออกแบบดีๆ บางทีก็หลอกเงินในกระเป๋าเราได้ โดยเฉพาะพวกหนังสืออาหารนี่ เราโดนหลอกกันมานักต่อนัก หลายๆ เล่ม เนื้อหาไม่ต่างกันเลย เพียงแต่เน้นขายความสวยของหนังสือ สูตรไม่ได้ดีเด่อะไร ซื้อมาแล้ว อาจจะแค่มองๆ แล้วก็ไม่ต้องลองสักสูตร หนังสือแนวสวยๆ นี่ เราชอบไปยืมจากห้องสมุด มาดูเอาไอเดียเลย์ เอ้าท์ หรือไม่ก็เปิดดูตามร้านหนังสือ แต่หนังสือที่จะซื้อเก็บจริงๆ เราจะเน้นที่คุณภาพเนื้อหามาก่อนส่วนใหญ่ เพราะมันได้ประโยชน์คุ้มราคา จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 04:07:45

ความคิดเห็นที่ 23 แต่หนังสือหลายเล่ม มันสวยจริงๆ นะ สวยล่อ จนทำให้อยากได้ไม่รู้จบ ไม่เชื่อดูสิ ... ปกเน้นแค่ขาว -ดำ ยังออกแบบได้เก๋ขนาดนี้ เนื้อหาทั้งเล่มว่าแต่เรื่องนม-อาหารแรกเกิดของพวกเราล้วนๆ ล่อเข้าไป 120 เมนูสูตรทำกิน-นมๆ  เหอะๆ ... กะขายไหมเนี่ย? จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 04:11:28

ความคิดเห็นที่ 24 มุมนี้สำหรับผู้รักสะสมตำราอาหารปรมาจารย์ จริงๆ มีเยอะกว่านี้ ถ่ายเจาะมาแค่เป็นน้ำจิ้ม เดี๋ยวถูกเชิญออกจากร้าน เพราะซื้อหนังสือเขาออกมาแค่ 3 เล่มบางๆ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 04:14:04

ความคิดเห็นที่ 25 บนโต๊ะกลางร้าน จะวางพวกหนังสือเล่มใหม่ๆ หรือหนังสือของนักเขียนตำราชื่อดังที่ออกซ้ำ เล่มสีขาวหนาๆ นั่น เป็นตำราของดีเลีย สมิธ - how to cook เรียกว่าเป็นซี่รี่ส์ไบเบิ้ลของคุณแม่บ้านอังกฤษสมัยก่อน ตอนนี้เราว่าไนเจลล่า ลอว์สันเริ่มตีโค้งแซงดีเลียมาแล้วเล็กน้อย เพราะสไตล์ของไนเจลล่า เหมาะกับหญิงยุคใหม่ แบบเร็วๆ ง่ายๆ สมัยก่อนตำราของดีเลียไม่ได้หนาขนาดนี้ เพราะมันแบ่งออก 3 เล่ม เราว่าหยิบมาใช้ง่ายกว่า เราก็มีชุด 3 เล่มนั้น ซื้อตรงจากสนพ. BBC สมัยนั้นเพื่อนยังทำงานที่บีบีซี ซื้อลดราคาได้ตั้ง 30 เปอร์เซนต์แน่ะ : ) เมื่อราวอาทิตย์ก่อน คุณดีเลียมานำเสนอเมนูคริสต์มาส ถ่ายทำจากบ้านคอตเทจในชนบทของเธอ ... ยังเป็นดีเลี๊ย ดีเลีย สูตรอาหารเธอจะเน้นแนวเทรดิชั่นอังกฤษแท้ๆ ตอนนี้หนังสือสูตรคริสต์มาสเธอ อเมซอนลดราคากระหน่ำนะ ใครอยากได้สั่งซื้อตอนนี้จะถูกมาก ลดลงมากว่า 70 เปอร์เซนต์แน่ะ (เปล่าได้เปอร์เซนต์นะ เขาส่งข่าวมาบอกอีกที เลยมาบอกต่อ) จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 04:29:12

ความคิดเห็นที่ 26 มีหนังสือ maggies kitchen เป็นเล่มใหม่ เรามีเล่ม maggies harvest เป็นตำราอาหารตามฤดูกาล หนังสือเธอสูตรดีมาก เขียนดีมาก และหนามาก เอาไว้จะถ่ายตัวหนังสือของแม็กกี้ส์มาให้ดูจะๆ เป็นเล่มที่เราตั้งใจไปซื้อมาก แต่แบกกลับมาไม่ไหว ต้องให้ส่งกลับมา ... เพราะมันหนักราว 3 กิโลได้ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 04:32:32

ความคิดเห็นที่ 27 เราซื้อหนังสือร้านนี้ออกมาแค่ 3 เล่มเอง เป็นชนิดเล่มบางๆ ด้วย เพราะก่อนหน้าเราไปถึงลอนดอน เราสั่งหนังสือจากร้านอเมซอนส่งไปรอที่บ้านเพื่อนแล้ว เหตุผลเพราะนอกจากราคาถูกกว่าซื้อตามร้าน ไม่ต้องหอบหิ้ว ยังคุมงบอยู่ เราแวะไปร้านนี้เพื่อไปดูหนังสือที่ไม่ได้หมายตา หนังสือที่ไม่รู้จัก หนังสือที่อยากซื้อกลับมาเพื่อระลึกถึงร้านหนังสือร้านนี้เท่านั้น ทายซิ ... สองเล่มนี้ เราซื้อเล่มไหน? จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 04:35:58

ความคิดเห็นที่ 28 สมัยนี้มีตำราอาหารเน้นรูปบอกวิธีการทำเช่นนี้ออกมาเยอะมาก เราเรียกตำราชนิดนี้ว่า cooking for dummies เหมาะสำหรับคนชอบดูภาพขั้นตอน เราไม่ค่อยชอบซื้อหนังสือแนวนี้เก็บเท่าไหร่ ฉะนั้นสองเล่มข้างบน เราเลือกซื้อเล่มสีเขียว ซึ่งมีแต่รูปวาดประกอบนิดๆ หน่อยๆ เหตุผลที่อยากซื้อเพราะดีไซน์หนังสือล้วนๆ สูตรอาหารและขนมมีส่วนร่วมนิดหน่อย จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 04:40:57

ความคิดเห็นที่ 29 หนังสือตรึมจริงๆ ครับ... ปล. เดาไม่ถูกเลยเพราะชอบทั้งสองเล่ม จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 04:41:22

ความคิดเห็นที่ 30 น้อง L-Nets -- ที่โน่นกี่โมงแล้วจ๊ะ ร้านเล็กๆ แต่หนังสืออาหารล้วนๆ สวรรค์ในการเยี่ยมชมของเราล่ะ : ) สิ่งที่พิเศษของร้านนี้ คือ เหล่าหนังสือเล่มเล็กๆ อินดี้พวกนี้ ร้าน books for cooks มีตำราอาหารซี่รี่ส์ของตัวเองด้วย ใช้ชื่อเดียวกับชื่อร้าน เราไม่แน่ใจว่าออกรายสะดวกถี่แค่ไหน เขาพยายามรวบรวมสูตรอาหารที่น่าสนใจ รวมเล่มออกมา เราซื้อตำราบางเล่มของร้านนี้มาด้วย เอาไว้จะรีวิวให้อ่านอีกที แต่คนที่ชอบตำราแบบมีรูป คงไม่ถูกใจนัก เพราะมันไม่มีรูปเลย จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 04:51:48

ความคิดเห็นที่ 31 อย่าว่าแต่ตำราทำอาหารให้คน ตำราทำอาหารให้หมา ก็มีนะจ๊ะ แล้วก็มีตำราสารพัดขวัญใจ ... เชิญหมดตังค์กันตามถนัด : ) แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 52 05:20:26 จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 04:53:33

ความคิดเห็นที่ 32 ตำราอาหารแบบฟาร์มเฮ้าส์นี่ เราชอบมาก ยิ่งเก่าๆ หลายร้อยปี อย่าให้เจอเชียวนะ ชอบสะสม เพราะมันจะมีสูตรอาหารลูกทุ่งๆ มหัศจรรย์เยอะ อ่านแล้วได้รู้จักภูมิปัญญาที่ถูกลืม จะสูตรชนิดอาหารที่ไม่ค่อยมีขาย ต้องทำกินเอง จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 04:59:37

ความคิดเห็นที่ 33 ใครมีโอกาสแวะไปร้านนี้ ถ้าเจอคุณ Rosie เข้าไปถามเธอได้ทุกเรื่อง เป็นพนักงานในร้านที่ใจดีมาก เราเข้าไปถามเรื่องหนังสือของ Maggies Beer เลยยืนคุยกันอยู่สักพัก เธอก็แนะนำหนังสือในร้านหลายเล่ม พอเราบอกว่า เล่มนั้นเรามีแล้ว เล่มนี้เรารู้จัก เล่มนั้นเคยผ่านตา เธอก็เลยทำหน้าสงสัย  เอ๊ะ แล้วมาทำไม 55 เราก็บอกเธอว่า เรามาเมื่อหกปีก่อนแต่ร้านปิด วันนี้เลยกลับมาเยี่ยมใหม่ ตอนเราจะออกจากร้าน เธอเดินมาหาเราอีกทีถามว่า "ตกลงเธอซื้อเล่มไหนนะ ขอดูหน่อยสิ อยากรู้" คงสงสัยนักหนาว่าเราจมอยู่ในร้านนานพอสมควร แล้วสุดท้ายเลือกซื้อเล่มใดจากร้านเธอไป เราก็สารภาพเธอไปตรงๆว่าเราสั่งหนังสือออนไลน์ไปล่วงหน้าเยอะแล้ว นี่มาตามเก็บสแปร์เล่มที่เผอิญถูกใจ แต่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ ซื้อมากเล่มไปกว่านี้ไม่ได้จะหมดตัว และไม่มีปัญญาแบก เพราะหลังและไหล่จะชำรุดเอา ; ) จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 05:06:33

ความคิดเห็นที่ 34 หลังร้านนี้เป็นร้านกาแฟ ขายขนมด้วย แล้วก๊มีจัดเวิร์คชอป จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 05:08:11

ความคิดเห็นที่ 35 สำหรับคนที่ชอบตำราอาหารอิตาเลี่ยนและสแปนิช ช่วงที่ร้านยุ่งๆ จะไปยืนดูหนังสือลำบากหน่อย เพราะเซคชั่นตำราของสองประเทศนี้อยู่ส่วนหลังร้าน คนที่นั่งกินกาแฟตามโต๊ะ จะทำให้เราเดินเข้าไปหยิบหนังสือลำบาก เพราะต้องปีนๆ เอื้อมข้ามหัวผู้คนที่ซดกาแฟอยู่ คุณโรซี่บอกว่า ใครอยากดูหนังสือเต็มอิ่มทั้งร้าน ให้ไปช่วงกลางสัปดาห์ ... จะปีนดูหนังสือได้ทั่วทั้งร้านเลย จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 05:11:18

ความคิดเห็นที่ 36 ใครรู้จักชื่อ ottolenghi และมีตำราเล่มนี้บ้าง นี่เป็นหนึ่งในตำราที่เราซื้อกลับมา เดี๋ยวตอนหน้าออกจากร้านหนังสือ ไปเยี่ยมชมและชิมขนมร้านนี้กัน เดินเลาะๆ ไปอีกสองสามถนนก็ถึงร้าน ottolenghi แล้วล่ะ ขนมเขาอร่อยไม่เหมือนใคร ได้ตำราเขามาแล้ว ได้มาลองทำกินเอง แต่ขอเดินไปชมรสชาติแท้ๆ ของร้านเขาหน่อยละกัน -- แพงดีจริงๆ ; ) ขนมร้านอร่อยจะมาต่อตอนที่ 2 ... เร็วๆนี้ ยังมีนานาตลาดนัดอาหารกลางกรุงลอนดอนอีก 2-3 แห่งด้วย จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 05:16:58

ความคิดเห็นที่ 37 :-)ีใจจังค่ะ ที่เห็นกระทู้คุณแก้ว จากคุณ : marcie เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 07:22:07

ความคิดเห็นที่ 38   เข้ามาชมตามประสาคนรักหนังสือเหมือนกันค่ะ จากคุณ : pumpkin&blackbeauty เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 07:32:27

ความคิดเห็นที่ 39 ป้าขอติดตามอย่างใกล้ชิดนะคะ จะยาวแค่ไหนไม่ว่ากัน เพราะถูกใจค่ะ อ่านกระทู้แล้วทำให้ป้าคิดถึงหนังเรื่อง Notting Hill เลยค่ะ ร้านนั้นพระเอกขายหนังสือท่องเที่ยว จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 07:46:46

ความคิดเห็นที่ 40 มาลงชื่ออ่านครับพี่ รอชมตอนต่อไป คงไม่ถึง 4 เดิอนนะครับ 55555 จากคุณ : เต๋อ 00 เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 09:37:29

ความคิดเห็นที่ 41 ดีใจที่เห็นคุณแก้วกลับมาโพสต์อีกครั้งหลังจากหายไปนาน และอยากจะกรี๊ดดังๆกับกระทู้นี้  ชอบกระทู้แบบนี้จังเลยค่ะ อยากไปเดินดูและเลือกซื้อหนังสือแบบคุณแก้วบ้าง  ถ้า ได้ไปจริงๆคงต้องล้มละลายหมดตัวแน่ๆ อยากจะบอกว่าสนุกและใจเต้นตูมตามเหมือนได้เข้าไปเลือก   หนังสือกับคุณแก้วเลยจริงๆ  ภาพก็สวยมากกกกกก อย่าหายไปนานนะคะ  จะคอยตามตอนต่อไปค่ะ จากคุณ : กระทะเหล็ก เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 09:38:04

ความคิดเห็นที่ 42 กิ๊ดดดดดดดดดด คิดถึงพี่แก้วนะคะ... ทู้พี่แก้วทู้นี้ทำมดน้ำลายหกไปหมดเลย อยากไปร้านหนังสือร้านนี้บ้างจัง จริงๆ ร้านเค้าน่าจะทำเป็นB&B ด้วยนะคะ คนไปจะได้นั่งอ่าน นอนอ่านหนังสือเขาให้สะใจ จากคุณ : มนุษย์ไฟฟ้า@สีชมพู เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 09:54:33

ความคิดเห็นที่ 43 ชอบไปเดินดูร้านหนังสือเหมือนกันคะ แม้จะอ่านไม่ค่อยออกก็ตาม หนูว่าร้านหนังสือที่ตปท.  มันก็บอกอะไรๆได้เยอะเหมือนกัน เข้าไปดูรูป  ก็อิ่มแล้ว จากคุณ : sherryone เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 10:26:02

ความคิดเห็นที่ 44 พี่แก้วขา... สวัสดีค่า... บอกได้คำเดียวว่าร้านนี้เนี่ยะ.. กรี๊ดมากกก.... ^^ เข้าไปแล้วคงได้ความรู้สึกน่ารักๆ ดีเนอะคะ... แพรอยากเข้าร้านหนังสือแบบนี้มานานแล้ว เมืองไทยไม่เห็นค่อยมีให้เห็นเท่าไหร่เลย... พี่แก้วสบายดีนะคะ ^^ หางเครื่องโตเป็นสาวแล้วแน่เลย =D จากคุณ : +~%Chocolate Republic%~+ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 11:55:21

ความคิดเห็นที่ 45 ดีใจที่เห็นกระทู้คุณแก้ว แถมมาแบบของชอบอีกค่ะ หนังสือนี่ชอบมากเลย พอดีทำงานอื่นๆก่อนมาทำขนมค่ะ หนังสือเลยยิ่งมากเข้าไปใหญ่เลย ตอนนี้ตำราขนม อาหารแซงอย่างอื่นไปแล้ว ขอบคุณค่ะ จากคุณ : MAE FAI เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 13:17:44

ความคิดเห็นที่ 46 กรี๊ดดด กรี๊ดทั้งกระทู้ กรี๊ดทั้งพี่แก้ว^^ ตอนแรกนึกว่าพลาดกระทู้ ซี่รี่ส์ Green Me London ที่พี่แก้วเคยมาเกริ่นๆ ไปซะแล้ว ... ดีใจ ดีใจ เจอร้านแหนังสือแบบนี้ไป ตายค่ะตาย อยู่ได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น ^.- เหอ เหอ หนูมีหนังสือเล่มซ้าย(คห.27)ด้วยนา อิ อิ เกาะกระทู้ซีรีส์พี่แก้วต่อไป^^ จากคุณ : ฉันไม่ได้เอาอะไรมาเลย เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 13:49:16

ความคิดเห็นที่ 47 พี่แก้วขา จ๋ามาทักไม่ทันเลย คิดถึงมากๆ ค่า :D จากคุณ : Bean Sprout เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 14:26:09

ความคิดเห็นที่ 48 ชอบกระทู้ นี้จังเลยครับ..... จากคุณ : GreenMelon เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 15:56:04

ความคิดเห็นที่ 49 ชอบกระทู้นี้มากเลยค่ะ ยิ่งดูแล้วก็อยากไปเที่ยวยุโรปแฮะ :) จากคุณ : *~ ไอติมเชอร์เบท ^^" ~* เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 21:51:15

ความคิดเห็นที่ 50 เข้ามาสารภาพอย่างเชย ๆ ว่าไม่รู้จักร้านนี้ แต่อ่านแล้วอยากไปขึ้นมาทันทีเลยครับ จากคุณ : amenochikara เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 21:53:58

ความคิดเห็นที่ 51 โอ๊ยตาย ตาย ตายแน่ๆค่ะพี่แก้ว หมดตัวแน่ ^^" จากคุณ : puppadoowab เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 22:52:50

ความคิดเห็นที่ 52 นานๆจะแวะมาก้นครัว ดีใจได้เจอกระทู้พี่แก้วพาเที่ยวค่ะ จากคุณ : พริกน้ำส้ม เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 02:12:24

ความคิดเห็นที่ 53 ทักรวมหมู่ทุกคนนะ ขอไม่ตอบรายคน เพราะจะได้มีเวลาแปะกระทู้ต่อไป ดีใจเห็นชื่อคุ้นๆ เข้ามากรี๊ดดดด เดี๋ยวยกเอาชั้นหนังสือที่บ้านมาแปะด้วยเลยดีไหม? อยากได้ยินเสียงเชียร์ลีดเดอร์ลั่นๆ วี้ดๆ อีก 55 ตามไปดูกระทู้ถัดไปกันต่อน้า ... ไม่รู้จะคึกแปะได้ติดกันกี่วัน ฮึๆ http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D8638664/D8638664.html จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:08:47